แชร์

บทที่ 59  

ผู้เขียน: เทียนธีรา
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-06 14:10:39

บทที่ 59

“มันชื่ออะไร”

“หมีพู”

“หมีพู!”

“อุทานทำเหี้ยอะไรวะ”

“แม่งก็ชื่อมันคิกขุฉิบหายดิ เฮ้ย...เสียชื่อว่ะ เป็นหมาอดีตนักเลงหัวไม้เบอร์หนึ่งของเชียงใหม่ทั้งทีเสือกชื่อหมีพู”

“มึงจะอะไรนักหนากับหมากู ทีมึงยังเลี้ยงแมวยังกะผู้หญิง” คราวนี้ปรัชญ์ขึ้นมึงกู นั่นบ่งบอกว่าอารมณ์ชักจะขึ้นแล้ว

“ถึงกูจะเลี้ยงแมว แต่แมวกูชื่อเมสซี่ ชื่อของนักฟุตบอลผู้โด่งดัง แต่นี่อะไรหมามึงเสือกชื่อหมีพู”

“จะชื่ออะไรก็ช่างหมากูเถอะ ไม่เสือกสักเรื่อง กูขอ”

“เออๆ ไม่เสือกก็ไม่เสือก แค่สงสัยเท่านั้นแหละ ช่วงนี้แกแม่งทำตัวแปลกๆ นี่หว่า แล้วนี่หายหัวไปไหนมาวะปรัชญ์ ไม่เห็นหน้ามาสองอาทิตย์แล้ว เห็นอีกทีก็โผล่มาพร้อมกับหมาตัวนี้ อย่าบอกนะว่าไปกรุงเทพฯ มาอีก” รังสิมันต์ยังไม่วายดักคอ ทั้งๆ ที่เขาอยู่เชียงใหม่และแทบไม่ได้ไปไหนนอกจากออฟฟิศในตัวเมือง เขายังสามารถคาดเดาความเคลื่อนไหวของเพื่อนสนิทอย่างปรัชญ์ได้อย่างแม่นยำ ราวกับเป็นฝาแฝดที่พออีกคนหนึ่งทำอะไรอีกคนก็จะรู้สึกไปด้วยราวกับสื่อถึงกันได้ก็ไม่ปาน

“ถ้าไปแล้วไง เขาไม่ได้มีติดประกาศว่าห้ามไม่ให้ฉันเข้ากรุงเทพฯ นี่”

“เออ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 60

    บทที่ 60“แต่แกมันไม่แค่เลวในระดับธรรมดา แกมันโคตรเลวมาก แถมยังเป็นพ่อหม้ายอีกต่างหาก” ปรัชญ์ยัดเยียดและตอกย้ำตำหนิทุกอย่างที่มีในตัวรังสิมันต์เพื่อจะให้อีกฝ่ายเลิกล้มความตั้งใจของตัวเอง“ก็แล้วยังไง ระดับความเลวของฉันกับแกมันก็ไม่ต่างกันหรอกน่า แล้วเรื่องความเป็นพ่อหม้ายของฉันก็คงไม่มีปัญหาเพราะยังไงตอนนี้ฉันก็ตัวคนเดียว ไม่มีพันธะใดๆ กับใครทั้งสิ้น” รังสิมันต์ถามกลับอย่างยอกย้อน“ใช่แกกับฉันเลวไม่ต่างกัน แต่แกเสือกมีเมียเก็บด้วยน่ะสิวะ!”“ไม่ใช่เมีย แค่นางบำเรอ ที่ระบายอารมณ์ ทาสในเรือนเบี้ย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่แกอยากจะเรียก แต่อย่าเรียกว่า ‘เมีย’ เพราะผู้หญิงเลวๆ บางคนก็ไม่เหมาะกับคำนั้น” น้ำเสียงนั้นซีเรียสจริงจังอีกครั้ง บ่งบอกถึงความเกลียดชังรังเกียจต่อคนที่ตัวเองกำลังพูดถึง“แกแม่งทั้งชั่วทั้งเลวว่ะ” ปรัชญ์อดด่าไม่ได้เพราะเวทนาผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนั้นที่ตกเป็นทาสอารมณ์และเครื่องมือระบายความแค้นของรังสิมันต์“ก็ชั่วไม่มากไปกว่าแกเท่าไหร่หรอก อย่านึกว่าฉันไม่รู้ว่าแกทำอะไรอยู่” รังสิมันต์ดักคอปรัชญ์บ้าง ทั้งคู่จึงไม่ต่างอะไรกับไก่เห็นตีนงูงูเห็นนมไก่“รู้แล้วไง” ปรัชญ์ยักไหล่อย่างไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 61

    บทที่ 61“เล็กดูคล่องแคล่วเนอะ คงมาวัดบ่อยมาก” ชนิศาเอ่ยขึ้นหลังจากทั้งคู่ทำบุญเสร็จเรียบร้อยแล้ว“เราไปวัดกับแม่ใหญ่บ่อยๆ น่ะ ไปตั้งแต่เด็กจนโตเลยละ แม่ใหญ่ชอบพาไปทำบุญใส่บาตรในวันพระ บางทีก็ชวนไปปฏิบัติธรรมบ้าง ถือศีลบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะพาสวดมนต์นั่งสมาธิในห้องพระ”“ถึงว่าเล็กดูเป็นคนใจเย็น อยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกเย็นตาเย็นใจ” “แต่ก็มีคนชอบว่าเรา ว่าทำตัวไม่สมวัย ไม่มีชีวิตชีวา บางครั้งก็ไล่เราไปบวชชีให้มันจบๆ ไปซะ” ธรินดาเผลอพูดในสิ่งที่ตัวเองโดนใครบางคนค่อนแขวะอยู่บ่อยๆ “ใครนะปากร้ายชะมัด เป็นเราจะตบสักฉาดสองฉาด” “เชื่อเถอะว่าศาไม่กล้าตบหรอก เขาร้ายจะตาย” “อย่าบอกนะว่าคนคนนั้นก็คือ...พี่ปรัชญ์!” ชนิศาอุทานออกมาเสียงดังในตอนท้าย ก่อนจะต่อด้วยอาการหลุดขำ เมื่อนึกถึงเจ้าของใบหน้าหล่อเหลา แต่ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะปากร้ายเช่นนั้นกับน้องสาวที่ออกจะน่ารักอย่างธรินดา ธรินดาไม่ตอบแต่พยักหน้านิดๆ เป็นเชิงยอมรับว่าชนิศาเดาถูก “เราชินแล้วละ” “พี่ปรัชญ์พูดเล่นหรอกเราว่า” “คน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 62

    บทที่ 62 แสงสีและเสียงดนตรีซึ่งทั้งเล่นสดสลับกับเสียงเพลงเร้าใจที่ถูกรีมิกซ์จากดีเจยิ่งกระตุ้นเร้าให้ผู้คนที่เข้ามาใช้บริการในผับแห่งนี้ อดไม่ได้ที่จะลุกขึ้นเต้นตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน บ้างก็กำลังยกแก้วขึ้นชน บ้างก็กำลังยกเครื่องดื่มที่ส่วนใหญ่จะมีแอลกอฮอล์ผสมขึ้นดื่ม แม้ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่ย่างกรายเข้ามาในสถานที่แบบนี้อีก แต่ธรินดาก็ไม่สามารถปฏิเสธเพื่อนได้ ด้วยเพราะวันนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนสนิทอย่างชนิศา อีกทั้งเพื่อนๆ ในภาควิชาที่รู้จักมักจี่กันเป็นอย่างดีก็มาร่วมงานกันหลายคน ทำให้เธอต้องมาในที่สุด ธรินดานั่งดูเพื่อนๆ เต้นรำและดื่มอย่างสนุกสนานพร้อมกับยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้เมื่อได้เห็นความสนุกสนานแบบบ้าๆ บอๆ ที่เพื่อนๆ แสดงออกกัน คืนนี้เธอไม่ยอมแตะแอลกอฮอล์ ชนิศาเองก็ปรามเอาไว้ก่อนแล้วว่าห้ามไม่ให้ใครผสมเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ให้กับเธอซึ่งเพื่อนๆ ก็เข้าใจดีทุกคน เครื่องดื่มของธรินดาจึงเป็นแค่น้ำเปล่าที่ไม่เติมแม้แต่น้ำแข็งเท่านั้น เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงห้าทุ่ม ระดับความสนุกก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนเริ่มแน่นขน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 63

    บทที่ 63ผลัวะ!เมื่อถูกต่อยจิระก็เลือดขึ้นหน้า เขาจะเอาคืนบ้าง ร่างผอมสูงถลาเข้าไปเพื่อจะปล่อยหมัดใส่หน้าหล่อๆ ของปรัชญ์ แต่ปรัชญ์เบี่ยงตัวหลบแถมยังสวนกลับไปด้วยหมัดลุ่นๆ เต็มปากเต็มจมูกของจิระเข้าอีกหมัดร่างกำยำที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามขยับย่างสามขุมตามไปกระชากคอเสื้อของหนุ่มรุ่นน้องด้วยสีหน้าถมึงทึง จิระที่โดนเข้าไปสองหมัดก็มีอาการบ้าเลือด เพราะทั้งเจ็บทั้งอาย เขาสะบัดตัวเต็มแรงสวนหมัดเข้าใส่หน้าปรัชญ์คืนได้หมัดหนึ่ง แต่โดนตอบโต้ด้วยการรัวหมัดเข้าใส่กลับมาเป็นชุด“คุณปรัชญ์! อย่าค่ะ!”ธรินดาร้องห้ามอย่างตกใจ เพราะสภาพของจิระเริ่มจะสะบักสะบอม แต่ปรัชญ์ไม่ฟังเสียง ความจริงเขาราล้างจากเรื่องชกต่อยมานานหลายปีแล้ว แต่ยามที่จำเป็นต้องทำมันเขาก็ไม่เป็นสองรองใครเหมือนกันจิระแม้จะเจ็บปานใดทว่าก็ไม่ยอมสิ้นฤทธิ์ง่ายๆ ยังสะบัดตัวจนหลุดและเหวี่ยงหมัดเพื่อเอาคืนปรัชญ์ให้ได้ แต่ทว่าก็วืดโดนแต่ลม มิหนำซ้ำยังจะโดนปรัชญ์เล่นงานเข้าให้อีก ทว่าก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปกว่านั้นก็มีคนมาล็อกตัวของปรัชญ์เอาไว้ เช่นเดียวกับที่เพื่อนของจิระที่มาดึงจิระไว้ ส่วนเพื่อนๆ ของธรินดาก็กรูกันมาดูเหตุการณ์พร้อมกับกา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 64

    บทที่ 64“เล็กไม่หิวค่ะ...” เสียงหวานที่ตอบนั้นค่อนข้างอู้อี้เพราะเพิ่งผ่านการร้องไห้มาหมาดๆ “งั้นเดี๋ยวพี่จอดแถวๆ ริมแม่น้ำให้นะ ไปยืนมองน้ำรับลม เผื่อน้องเล็กจะสบายใจขึ้น”รังสิมันต์บอกด้วยความหวังดี ก่อนจะตีไฟเลี้ยวจอดรถบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา จากนั้นก็เดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้ธรินดาลงจากรถ เดินไปหยุดอยู่ริมแม่น้ำที่มีแผงเหล็กกั้นเอาไว้ แขนเล็กเท้ากับราวเหล็ก ตามองไปยังสายน้ำที่ถูกไฟจากหลายทิศทางส่องสะท้อน ลมเย็นๆ ของอากาศยามดึกพัดโชยมาปะทะใบหน้า ทำให้ความร้อนรุ่มหนักอึ้งในใจค่อยๆ เบาบางลงร่างสูงของรังสิมันต์ขยับมายืนข้างๆ เขาวางมือบนราวเหล็กแบบเดียวกับที่ธรินดาทำ เพื่อให้หญิงสาวรู้สึกว่าตอนนี้เธอไม่ได้อยู่คนเดียว“กำลังคิดอะไรอยู่ เล่าให้พี่ฟังได้มั้ย” รังสิมันต์ถามเสียงนุ่มหลังจากที่ไม่ได้ใช้น้ำเสียงเช่นนี้กับใครมานานจนแทบจะจำมันไม่ได้ว่าตัวเองพูดแบบนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่“เล็กไม่มีอะไรจะเล่าค่ะพี่ตะวัน แค่อยากขอร้องไม่ให้พี่ตะวันบอกเรื่องนี้กับแม่ใหญ่และพี่ปราณต์”“ทำไมล่ะ”“คุณปรัชญ์กำลังจะแต่งงาน เล็กไม่อยากให้มีปัญหาอะไรที่เกิดจากเล็กเป็นต้นเหตุค่ะ” หญ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 65

    บทที่ 65ร่างบางผละออกห่างเงียบๆ เดินไปหยิบเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก เปิดตู้เย็นหยิบน้ำแข็งมาใส่ในผ้าขนหนูผืนนั้น จากนั้นก็ขยับมายืนตรงหน้าร่างสูงอีกครั้ง แตะผ้าห่อน้ำแข็งบนปากเขาเบาๆ โดยที่สายตาคมจับจ้องมองตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่สนใจยังคงค่อยๆ ประคบน้ำแข็งให้ที่รอยแผลบนใบหน้านั้น ก่อนจะละมือลงจับมือใหญ่ขึ้น แล้วทำเช่นเดียวกับแผลที่ใบหน้าของเขาเมื่อครู่นี้“เธอจะใส่ใจกับคนเลวๆ อย่างฉันทำไม”“เล็กเป็นคนทำให้คุณเจ็บนี่คะ”ธรินดาพูดออกมาเป็นประโยคแรก หลังจากใช้เพียงการเคลื่อนไหวของร่างกายแทนคำพูดทั้งหมดอยู่นาน“ก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ”“เล็กไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร”“แต่ฉันเต็มใจให้เธอทำร้าย” ปรัชญ์พูดพลางวางมือลงบนมือเล็กที่กำลังประคบน้ำแข็งบนมือของเขา ขณะที่ธรินดาเอาแต่ก้มหน้านิ่ง“เล็ก...”เขาเรียกชื่อเล่นเธอเป็นครั้งแรกอย่างอ่อนโยน จนธรินดาต้องเงยหน้าขึ้นสบตาสีสนิมเหล็กของเขาอย่างไม่รู้ตัวปรัชญ์จ้องลึกลงไปในดวงตาเรียวหวานแน่วนิ่ง ส่วนคนถูกจ้องเต็มไปด้วยอาการหวั่นไหวหวาดหวั่นอยากจะหลบสายตานั้น แต่ก็เหมือนถูกตอกตรึงเอาไว้จนลืมขยับเขยื้อนไปชั่วขณะ กระทั่งใบหน้าคมคร้ามค่อยๆ เคลื่อนต่ำลงมาหาพร้อมกับลมหา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 66

    บทที่ 66สายมากแล้ว…หากเป็นวันอื่นธรินดาคงจะตื่นมาอาบน้ำ แต่งตัว ลงไปกินข้าว หรือไม่ก็เดินทางไปมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว หากทว่าวันนี้ร่างเล็กยังคงนอนหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียงขนาดห้าฟุตที่เคยนอนสบายๆ แต่ตอนนี้มันดูแคบลงถนัดตาเมื่อมีร่างใหญ่ของใครอีกคนมานอนอยู่แนบข้างร่างบางสะดุ้งเบาๆ และตื่นขึ้นมาเพราะเสียงเตือนที่ดังรัวๆ จากโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่หัวเตียง คิ้วเรียวได้รูปขมวดเข้าหากันเล็กน้อย จำได้ว่าตัวเองไม่ได้เอาโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า เพราะเมื่อคืนนี้หลังจากมาถึง เธอก็มีเรื่องทะเลาะกับปรัชญ์ หลังจากนั้นเธอก็ทำประคบแผลให้เขาจนกลายเป็นเลยเถิดตาคู่สวยมองไปข้างๆ ก็เห็นว่าตอนนี้ปรัชญ์ยังคงหลับสนิท ลำแขนแข็งแรงพาดอยู่บนเอวของเธออย่างประกาศความเป็นเจ้าของ มือเล็กยื่นไปจับแขนข้างนั้นออกจากเอวตัวเองเบาๆ อย่างพยายามระวังไม่ได้เขาตื่น เพราะตอนนี้เธอยังไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับเขาธรินดาขยับลุกขึ้นนั่งพิงพนักเตียง ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเอาโทรศัพท์ที่ตอนนี้ก็ยังดังเตือนอยู่รัวๆ เธอปลดล็อกหน้าจอด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ แล้วก็ต้องมุ่นคิ้วราวกับผูกโบอีกครา เมื่อเห็นว่าตัวเลขแจ้งเตือนในแอพเฟซบุ๊กและไลน์

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • เมียคืนแรม   บทที่ 67

    บทที่ 67“งั้นก็หันมาสบตากับฉันสิ แล้วคุยกันดีๆ” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนและนุ่มหูลงในตอนท้าย พร้อมกับปล่อยมือเธอข้างหนึ่งแล้วขยับมาจับปลายคางมน บังคับให้หันมาสบตากันเช่นเดิม“เมื่อคืนนี้คุณเข้าไปอยู่ในห้องตรงข้ามกับห้องเล็กได้ยังไงคะ” ธรินดาคร้านจะเอาความกับเขา เพราะรู้ว่าทำไปก็ไม่มีประโยชน์ ปรัชญ์ไม่มีทางจะรู้สึกผิดอะไรอยู่แล้ว“คนอื่นเขาอยู่ห้องในหอพักนี้ได้ยังไงล่ะ” เขาตอบแบบเล่นลิ้น ไม่ยอมบอกตรงๆ ว่าตัวเองลงทุนมาเช่าห้องพักไว้ที่นี่ ก็เพื่อจะได้คีย์การ์ดเข้ามาในหอพักแห่งนี้ได้ตลอดเวลา และที่สำคัญห้องที่เขาเช่านั้นมันอยู่ตรงข้ามกับห้องของธรินดา ส่วนเรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นย้ายออกมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เขาเสนองานในบริษัทยักษ์ใหญ่ของกวินภพให้ แถมยังออกค่าเช่าหอพักที่ใหม่ให้อีกสามเดือนต่างหากธรินดานึกถึงวันที่เธอคุยกับวิชญานีซึ่งเป็นคนดูแลหอพักในเช้าวันนั้นที่เธอเห็นว่าคนตรงข้ามห้องย้ายออก วิชญานีบอกว่ามีคนมาเช่าต่อแล้ว แต่เธอไม่คิดว่าคนคนนั้นจะเป็นปรัชญ์“คุณลงทุนทำขนาดนี้เพื่ออะไร”“เพื่อเธอ…”เป็นคำตอบที่แสนจะสั้น ทว่ากลับเป็นคำคำเดียวที่ทำให้ธรินดาหยุดชะงักและลืมคำถามอื่นๆ ไปหมดสิ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06

บทล่าสุด

  • เมียคืนแรม   บทที่ 98

    บทที่ 98“ฉันไม่อยากดื่มนมอย่างอื่น ฉันเก็บปากของฉันไว้ดื่มนมอร่อยๆ จากเต้าของเธอก็พอแล้ว ว่าแล้วก็หิว เล็กจ๋า...ให้ฉันกินนะ” แววตาของคนที่ประท้วงอยู่เมื่อครู่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นวิบวับและเปล่งประกายความปรารถนาที่มีต่อเธอออกมาอย่างเปิดเผย “ไม่เอาค่ะคุณปรัชญ์” ธรินดาปฏิเสธเสียงเบา เพราะกลัวลูกสาวจะตื่นมาเห็น “แต่ฉันจะ ‘เอา’ นะเล็กจ๋า ตามใจผัวนะครับหนูเล็กคนดี” “โธ่...คุณปรัชญ์” “ไม่โธ่จ้ะที่รัก...ฉันหิว อยากดื่มนม” ปรัชญ์กระซิบบอกความต้องการของตัวเอง พร้อมกับที่ธรินดารับรู้ถึงความตื่นตัวของเขาที่ตอนนี้บดเบียดเธออยู่ไม่ห่าง “ถ้าอย่างนั้นเล็กไปดับไฟก่อนนะคะ” ธรินดาบอกอย่างอายๆ แต่คำตอบนั้นบ่งบอกชัดว่าเธอยอมตามใจเขาแล้ว ปรัชญ์จึงยอมปล่อยให้ร่างเล็กลุกจากตักไปปิดไฟ ส่วนตัวเองขยับขึ้นไปนอนรออยู่บนเตียง ห้องทั้งห้องมืดสนิทเมื่อธรินดายื่นมือไปกดสวิตช์ไฟให้ดับลง เธออาศัยความเคยชินเดินกลับมายังเตียง และค่อยๆ เอนกายลงนอนเคียงข้างสามี ปรัชญ์รีบขยับเข้ามาแนบชิดพร้อมกับกระซิบเรียกเสียงพร่า ท

  • เมียคืนแรม   บทที่ 97

    บทที่ 97“ป๋าก็คิดถึงนิล คิดถึงแม่เล็กของนิลใจแทบขาด” ปรัชญ์ตอบลูกสาวและถือโอกาสอ้อนไปถึงแม่ของลูกด้วย เพราะเขารู้ดีว่าตอนนี้โทรศัพท์น่าจะเปิดลำโพงอยู่ “งั้นก็รีบกลับบ้านสิคะป๋า หมีพูกับแม่เล็กก็รอป๋าเหมือนกันค่ะ” ปรัชญ์ยิ้มออกมาอีกคราเมื่อลูกบอกว่าธรินดาเองก็รอเขาอยู่ ใบหน้าอันหวานซึ้งนั้นลอยเข้ามาในห้วงความคิด ทำให้เขาจำต้องพับหน้าจอแล็ปท็อปลงพร้อมกับปิดแฟ้มเอกสารที่กางอยู่หลายอันบนโต๊ะ“โอเคครับคนดีของป๋า ป๋าจะกลับเดี๋ยวนี้ละ” “งั้นนิลจะรอจนกว่าป๋าจะมานะคะ นิลถึงจะนอน” “ครับ อีกยี่สิบนาทีเจอกันนะครับ” “ค่ะป๋า เย้ๆ” หลังจากวางสายจากลูกสาว ปรัชญ์ก็ไม่รอช้า รีบขับรถตรงดิ่งกลับบ้านอย่างปราศจากความลังเลใดๆ ทันที งานเอาไว้ก่อนตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลูก เมีย แม่ และหมีพู ซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่บ้านทันทีที่ร่างสูงเดินเข้าบ้าน หมีพูกับเด็กหญิงตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูก็วิ่งมาหาพร้อมกับเรียกผู้เป็นพ่อด้วยความดีใจ โดยมีหมีพูวิ่งตามมาไม่ห่างพร้อมกับกระดิกหางไปมาอย่างดีใจเช่นกัน

  • เมียคืนแรม   บทที่ 96

    บทที่ 96นัสรินเดินเข้าบ้านด้วยอาการของคนที่มีเรื่องครุ่นคิดอยู่ในใจ ทำให้ไม่เห็นว่าพ่อกับแม่นั่งรออยู่ที่โซฟาในห้องโถงชั้นล่าง พลตรีชยุตกับคุณนิภาหันไปมองหน้ากันครู่หนึ่ง จากนั้นคุณนิภาก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักลูกสาว“ไงยัยนัส ไปบ้านพี่ปรัชญ์มาโอเคหรือเปล่าลูก”“อ้าว...คุณพ่อคุณแม่ อยู่นี่เองเหรอคะ” นัสรินเพิ่งจะรู้สึกตัวว่าบิดามารดาของตนนั่งอยู่ตรงนั้น เธอมัวแต่คิดเรื่องที่ปรัชญ์เพิ่งคุยด้วย ทำให้ประสาทการรับรู้ต่างๆ รวนไปเสียหมด“เป็นอะไรไปลูก ทำไมดูหน้าเครียดๆ แบบนั้น ทะเลาะกับตาปรัชญ์มาเหรอ”“เปล่าค่ะคุณแม่ นัสแค่มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะค่ะ” นัสรินตอบมารดาเสียงนุ่ม ก่อนจะขยับไปนั่งลงข้างๆ“มีอะไรเล่าให้พ่อกับแม่ฟังได้หรือเปล่า” พลตรีชยุตพูดขึ้นอย่างเป็นห่วงลูกสาวคนเดียว เพราะปกตินัสรินไม่ค่อยมีท่าทีเหม่อลอยให้เห็นบ่อยนักนัสรินมองหน้าบุพการีทั้งสองอย่างชั่งใจ ก่อนจะตัดสินใจขอคำปรึกษาเพราะเรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอคนเดียว มันเกี่ยวข้องกับบิดามารดาของเธอด้วย“เมื่อกี้นี้พี่ปรัชญ์เพิ่งจะบอกว่าพี่ปรัชญ์มีคนรักอยู่แล้ว และอยากให้นัสแต่งงานกับคุณปราณต์แทนค่ะ”“ว่าไงนะลูก!” คุณนิภาอุทา

  • เมียคืนแรม   บทที่ 95

    บทที่ 95“แต่คุณปราณต์ไม่ได้ชอบนัสนะคะ อีกอย่างคุณปราณต์อาจจะมีคนรักอยู่แล้วเหมือนที่พี่ปรัชญ์มี” น่าแปลกที่คราวนี้เธอกลับแคร์ความรู้สึกของปราณต์ขึ้นมาเสียมากมาย เดือดเนื้อร้อนใจไปหมดกับความจริงที่ว่าเขาอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ทั้งๆ ที่ตอนถูกพ่อแม่บังคับให้หมั้นกับปรัชญ์เธอกลับไม่ตระหนักเลยว่าปรัชญ์อาจจะมีคนรักอยู่แล้ว คิดแต่ว่าหากปรัชญ์ยอมหมั้นเธอก็ยอมหมั้นตามที่ผู้ใหญ่ต้องการเท่านั้นก็พอ“พี่ปราณต์ยังไม่มีใครหรอก ถ้านัสอยากแต่งกับพี่ปราณต์พี่จัดการให้ได้” “แต่ถ้าทำแบบนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับมัดมือชกคุณปราณต์เลยนะคะพี่ปรัชญ์” “ก็เหมือนกับที่แม่บังคับพี่ให้แต่งงานกับนัสนั่นละ แม่ก็คิดแค่ว่าพี่ยังไม่มีใครเป็นตัวเป็นตน ที่พี่พูดอย่างนี้นัสอย่าคิดว่าตัวเองไม่มีค่าหรือถูกโยนให้คนนั้นทีคนนี้ทีนะ แต่พี่ไม่อยากทรยศหัวใจตัวเองและไม่อยากให้ธรินดาต้องเจ็บปวดกับเรื่องนี้” “นัสเข้าใจค่ะและขอบคุณที่พี่ปรัชญ์บอกนัสตรงๆ แต่นัสขอถามอะไรตรงๆ บ้างได้มั้ยคะ” นัสรินยังหนักอึ้งในเรื่องที่ปรัชญ์เสนอมา แต่เธอก็ยังอยากจะรู้ความจริงจากใจเขาให้หมดเปลือกเสียก่อน“ได้ส

  • เมียคืนแรม   บทที่ 94

    บทที่ 94 สี่เดือนก่อน... รถซีดานแบรนด์ยุโรปราคาสองล้านกว่าๆ แล่นออกจากอาณาเขตของบ้านหลังใหญ่ หลังจากที่ปรัชญ์บอกว่าจะพาคู่หมั้นสาวไปส่ง นัสรินหันไปมองเสี้ยวหน้าของคนขับที่เมื่อครู่นี้ยังพูดจากวนประสาทแม่ของเขาอย่างมีสีสันอยู่เลย ทว่าบัดนี้เขาอยู่ในอิริยาบถที่เงียบขรึมราวกับเป็นคนละคน แม้จะไม่ถึงกับทำให้อึดอัด แต่คนคุยไม่เก่งแบบเธอก็ไม่กล้าชวนคุย นี่เป็นครั้งที่สองที่เขากับเธอได้พบกัน หลังจากหมั้นเสร็จปรัชญ์ก็ไม่เคยติดต่อหรือมาเยี่ยมเยือนในฐานะคู่หมั้นเลยสักครั้ง นัสรินรู้ดีว่าปรัชญ์เองก็คงจะถูกบังคับให้หมั้นเช่นเดียวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่แปลกใจหากเขาจะไม่ใส่ใจหรือทำตัวไม่เหมือนกับคู่หมั้นคู่อื่นๆ “นัสรีบกลับบ้านหรือเปล่า” ปรัชญ์หันมาถามเป็นประโยคแรกหลังจากที่รถแล่นออกมาพ้นอาณาเขตบ้านได้พักใหญ่ “เปล่าค่ะ นัสว่างทั้งวันค่ะพี่ปรัชญ์” “งั้นแวะดื่มกาแฟกับพี่ก่อนนะ ข้างหน้ามีร้านบรรยากาศดี กาแฟก็อร่อย” ปรัชญ์ชวนด้วยท่าทีเป็นกันเองทำให้นัสรินรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น “ได้ค่ะ” หญิงสาวรับคำและยิ้มบางๆ

  • เมียคืนแรม   บทที่ 93

    บทที่ 93“เปิดดูสิ เปิดตอนนี้เลยนะเล็ก” ปรัชญ์เชียร์ทั้งปาก ทั้งสายตา ทั้งสีหน้าที่เหมือนอยากจะให้เธอได้เห็นเหลือเกินว่าของที่อยู่ในกล่องคืออะไร ซึ่งตอนแรกธรินดากะว่าจะเก็บไว้เปิดพรุ่งนี้เช้า แต่เมื่อสามีคะยั้นคะยอเช่นนั้น เธอจึงต้องค่อยๆ แกะโบที่ผูกอย่างสวยงามนั้นออก ก่อนจะเปิดฝากล่องเป็นลำดับสุดท้าย และแล้วสิ่งที่อยู่ในกล่องนั้นก็ทำให้แก้มนวลแดงซ่าน เธอหยิบมันขึ้นมาดูสลับกับมองคนให้อย่างเขินอายสุดกำลัง“นี่มันอะไรกันคะคุณปรัชญ์”“ก็ชุดนอนไง มีหลายชุดด้วย ผ้าดีๆ ทั้งนั้นเลยนะ” ปรัชญ์ตอบอย่างรื่นรมย์“แล้วทำไมมันโป๊แบบนี้ล่ะคะ” ธรินดาถามเพราะถึงแม้ว่าชุดนอนแต่ละชุดที่อยู่ในกล่องนั้นมันสวยและผ้านิ่มมากก็จริง แต่มันกลับเซ็กซี่สุดๆ ทุกตัวล้วนแต่คอเว้าลึกอย่างไม่ต้องสงสัยว่าเวลาใส่จะต้องโชว์เนินอกแน่ๆ แถมยังสั้นเต่อจนเกือบถึงโคนขา บางชุดก็เป็นแบบสองชิ้น ชิ้นบนเป็นเสื้อสายเดี่ยวในลักษณะอวดโชว์เนินเนื้อ ชิ้นล่างเป็นแค่กางเกงชิ้นน้อย เหมือนกับออกแบบมาเพื่อขยี้ใจชายโดยเฉพาะ แล้วเธอจะกล้าใส่ได้อย่างไร“โป๊ที่ไหน เขาเรียกว่าเซ็กซี่ต่างหาก ฉันอยากเห็นเมียเซ็กซี่บ้างไม่ได้เหรอ”“ถ้าชอบผู้หญิงเซ็ก

  • เมียคืนแรม   บทที่ 92

    บทที่ 92แม่เลี้ยงลักษิกายื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้กับธรินดาหญิงสาวที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กและรักเหมือนลูก ซึ่งบัดนี้ได้กลายมาเป็นลูกสะใภ้ของตนอย่างที่หวังไว้จริงๆ แล้ว แม้จะไม่ใช่กับลูกชายคนที่ตัวเองตั้งใจจะให้คู่ด้วยแต่แรกก็ตามที แต่ธรินดาก็ได้แต่งงานกับคนที่เธอรักซึ่งก็เป็นลูกชายของตนเหมือนกัน“แม่ให้เป็นของขวัญแต่งงานนะหนูเล็ก” ธรินดายกมือขึ้นไหว้และรับมาโดยที่ไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นคืออะไร“แล้วของผมล่ะครับ” ปรัชญ์ทวงอย่างไม่จริงจัง เขาไม่ได้ต้องการอะไรอยู่แล้ว เพราะเขาได้ของขวัญที่ดีและมีค่ามากที่สุดในชีวิตซึ่งก็คือผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ตอนนี้นั่นเอง เขาจึงไม่ต้องการอะไรอีก อีกทั้งนับจากนี้ของสิ่งใดที่เป็นของเขาก็จะเป็นของธรินดาด้วยอยู่แล้ว “ไม่มีย่ะ ฉันยกให้ลูกสะใภ้ฉันหมดแล้ว”“เอ...ชักอยากรู้แล้วสิว่าแม่ยกอะไรให้เมียผม”“ก็มรดกทุกอย่างที่เป็นส่วนของแกน่ะสิ”“โหแม่...นี่รักลูกสะใภ้มากกว่าลูกชายตัวเองอีกนะ” ปรัชญ์แกล้งโวยวายเล่นพอเป็นสีสัน“ย่ะ ฉันรักมากกว่ามาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว”“แล้วอย่างนี้ผมจะมีสมบัติอะไรเหลือไว้ให้เมียน้อยบ้างล่ะ” ปรัชญ์ยังมิวายกวนประสาทคนเป็นแม่แม้แต่ในช่วง

  • เมียคืนแรม   บทที่ 91

    บทที่ 91ปรัชญ์พาธรินดาลงมาจากเวที หญิงสาวขอตัวกับเจ้าบ่าวเมื่อเหลือบไปเห็นสาวน้อยรุ่นน้องผู้ทำหน้าที่เล่นเปียโนให้ปรัชญ์ร้องเพลงเป็นของขวัญวันแต่งงานให้เธอเมื่อครู่นี้ ตอนนั้นจันทริกายืนอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวอยู่คนเดียวที่มุมห้องคล้ายกับว่ากำลังรอใคร ธรินดาจึงตรงดิ่งเข้าไปหาทันที“จันทร์...”“พี่เล็ก...”“ทำไมมายืนอยู่คนเดียวตรงนี้ล่ะ”“จันทร์ไม่รู้จะคุยกับใครน่ะค่ะ จันทร์ไม่รู้จักใครเลย” สาวรุ่นน้องยิ้มแหยๆ แววตาดูอ้างว้างและตื่นๆ จนคนมองนึกสงสาร“อยากกลับบ้านเหรอ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปส่งมั้ย” ธรินดาบอกด้วยน้ำเสียงอบอุ่นใจดีแต่ก็ได้รับการปฏิเสธด้วยการส่ายหน้า“ไม่เป็นไรค่ะ จันทร์ยังกลับตอนนี้ไม่ได้ คุณตะวันสั่งไว้ว่าให้จันทร์รอ”“อ๋อ...จะกลับพร้อมพี่ตะวันใช่มั้ย”“ค่ะพี่เล็ก พี่เล็กไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จันทร์อยู่ได้ค่ะ”“งั้นพี่ค่อยสบายใจหน่อย พี่ขอบใจจันทร์มากนะสำหรับทุกๆ อย่างในวันนี้”“จันทร์ยินดีค่ะ เสียดายนะคะพี่ขิมมาไม่ได้ ไม่งั้นจันทร์จะบอกให้พี่ขิมสีไวโอลินให้ด้วย เพลงของคุณปรัชญ์คงเพราะกว่านี้” จันทริกาเอ่ยถึงภัคธีมารุ่นพี่ที่เคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันซึ่งเป็นคนที่มีทักษะทางด้

  • เมียคืนแรม   บทที่ 90

    บทที่ 90“ก็แล้วทำไมคุณปรัชญ์จะต้องล้อเล็กด้วยล่ะคะว่าเสียงครางเล็กเป็นยังไง” เสียงหวานเอ่ยต่อว่าเขาทั้งที่แก้มนวลแดงก่ำ แต่ก็แปลกใจตัวเองที่กล้าตอบโต้เขาแบบนั้น หรือว่าเธอจะซึมซับความเป็นเขาจนเคยชินเข้าแล้วจริงๆ“ล้อที่ไหน ฉันพูดความจริงต่างหาก นะเล็กจ๋านะ ฉันอยากได้ยินเสียงแบบนั้นอีก นี่กี่วันแล้วที่ฉันไม่ได้ยิน จะลงแดงตายอยู่แล้วนะที่รัก” ปรัชญ์ยังทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขี้อ้อนที่เรียกร้องมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ธรินดาแทบไปไม่เป็นเหมือนกัน จึงได้แต่ตอบเขาไปด้วยกลอนของวรรณคดีในเรื่องขุนช้างขุนแผน“อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา”“ฉันขอเถียงว่าไม่จริง”“อย่ามัวแต่เถียงกับเล็กอยู่เลยค่ะ มาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำพักผ่อนได้แล้ว” หญิงสาวเอ่ยตัดบท เพราะยิ่งคุยกันนานก็ยิ่งดูเหมือนว่าเธอจะต้านทานลูกล่อลูกชนของเขาไม่ไหว“นี่ฉันกำลังถูกเมียสั่งอยู่ใช่มั้ย” ปรัชญ์เอ่ยสัพยอกอีกพลางลอบถอนหายใจเบาๆ“ไม่ได้สั่งค่ะ แค่เป็นห่วงอยากให้สบายตัว”“จริงเหรอ”“ค่ะ”“ถ้าอยากให้ฉันสบายตัวจริงๆ เธอก็ต้องไปด้วยกัน”ว่าแล้วปรัชญ์ก็ย่อตัวลงช้อนเอาร่างเล็กขึ้นอุ้มทันที“ปล่อยเล็กลงนะคะคุณปรัชญ์...ทำไมจ้องจะเอาเปรี

DMCA.com Protection Status