ถ้าไม่รับรู้จากเขาหล่อนก็ไม่ทราบความจริง.. อาจจะเป็นเพราะใบฟางคิดว่าเขาจะให้ร้ายและกล่าวหยันเยาะเย้ยให้หล่อนเจ็บปวดเหมือนอย่างที่เขาเคยกระทำมานั่นสินะพฤติกรรมของหล่อนหลายอย่างที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีส่วนไหนที่ดูผิดปกติ รวมทั้งเมนส์ของหล่อนก็มาครบตามกำหนด หล่อนลืมเฉลียวใจข้อนี้ไป แต่ไม่เป็นไรหรอก เขาทำให้หล่อนมึนและเหมือนตัวเองลอยคว้างอยู่กลางอากาศอยู่ตลอดไป ถ้าไม่มารับรู้ความจริง อดตื่นเต้นไม่ได้ จริงหรือที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับหล่อน ปางภูเป็นสุภาพบุรุษถึงขั้นไม่ได้แตะต้องตัวของหล่อน พนักงานประชาสัมพันธ์สาวไม่อยากจะเชื่อ มีแววตื่นเต้นระริกในดวงตาแต่ยังไม่กล้าเอ่ยบอกเขา ปางภูเอ่ยแล้วก็เงียบตามเคย หนุ่มหล่อหรี่ดวงตาคมจ้องไปที่หล่อน เห็นท่าทีไม่พอใจและขัดใจของหล่อนปรากฏคล้ายต่อว่าต่อขาน พลางทำหน้าเง้างอน มียิ้มเจืออยู่ในดวงตา แค่นี้ก็ทำให้ปางภูรู้สึกว่าเขาหายใจโล่งอก ไม่อาจจะคาดเดาอารมณ์ของใบฟางได้ ว่าหล่อนจะโกรธเขาหัวฟัดหัวเหวี่ยงอีกหรือเปล่า“แค่นี้ละ คุณอาจจะสบายใจมากขึ้น” เขาไม่อยากให้หล่อนทุกข์ทรมานไปกว่านี้ และลึกลงไปไม่อยากให้หล่อนตั้งป้อมเกลียดชังเขา ด้วยรู้ใ
แต่คราวโชคของหล่อนยังมีอยู่ เพราะใบฟางคุมสติ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นจากการที่ปางภูพาหล่อนเข้าโรงแรมนี่สิ ใบฟางยังตงิดๆโกรธเขาไม่หาย แม้ว่าจะคุยกันด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นมากกว่าเดิมก็ตามานทั้งสองทราบด้วยว่า ในเวลานี้และต่อไปผู้ชายที่ชื่อธีรคามจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหล่อนสักนิดน"เครียดารดาของหล “ว่าไง แกพอจะบอก จาระไนเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้มาทั้งหมดได้ไหม ยัยฟาง..พ่อมีความรู้สึกว่า พวกแก นี่ถ้าจะมีลับลมคมในซ่อนปิดไว้เหลือเกิน.. ว่าแต่พวกแกมีลับลมคมในอะไรซ่อนไว้ล่ะ” ใบฟางอึ้ง หายใจเต้นแรงไม่คาดเดามาก่อนว่าบิดาจะทะลุกลางปล้องได้ถูกเผงอย่างนี้ แต่เธอก็ย่อมไม่ให้ท่านรู้ไปมากกว่านี้โดยเฉพาะเรื่องอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นกับลูกสาว แต่เบาใจเมื่อปางภูบอกกล่าวว่าเขาไม่ได้ล่วงล้ำเธอเกินขอบเขตแค่ภายนอก เรื่องนี้อับอายเกินไปถ้าจะให้เธอพูดกับบิดาคุณบวรไม่ใคร่ที่จะอยู่ซักและพบปะพูดคุยกับลูกสาวคนโตอย่างเป็นงานเป็นการเช่นนี้ เรียกว่าเธอกับพ่อพบกันน้อยที่สุดพ่อก็มีธุระของท่าน เธอก็มีของเธอ แม้จะอยู่บ้านเดียวกัน ปกติท่านเองไม่ค่อยอยู่ติดบ้าง เงยหน้าสบตาบิดาพยายามปั้นหน้ายิ้ม และพูดออกไปด้วยสติและไม่วอกแ
ใบฟางยืนอยู่ริมหน้าต่าง กลับครุ่นคิดและยังไม่หลับนอนนึกเห็นภาพใบหน้าใสของชายหนุ่มถ้อยคำที่อ่อนโยนของเขาเหมือนแทรกประทับอยู่กลางใจแต่หล่อนไม่ได้เอ่ยให้เขาทราบ เพราะเหตุใดนะหรือ เหตุผลซ่อนอยู่ในใจของหล่อนแค่เขาช่วยคลี่คลายเรื่องของหล่อน เกี่ยวกับตัวหล่อน ก็ทำให้หล่อนรู้สึกสบายใจที่เขาไม่ได้แตะต้องหล่อน ให้หล่อนมัวหมองราคี อย่างที่คิดมาแต่ต้น ความอ่อนโยนของเขากระมังถึงสยบทุกอย่างในใจของหล่อน ใบฟางรำพึงคิดคำนึงอยู่คนเดียว นอกหน้าต่างดวงดาวสาดแสงสุกสกาวไล้กับแสงจันทร์ทาบทาบริเวณกว้างให้โลกใบนี้ดูเรืองนวลแสงกระจ่างไปทั่วยังไม่หลับนอน คิดว่าเขาเองคงถึงที่พักแล้ว ระลึกถึงดวงตาอ่อนโยนรูปหน้าที่คมคายค่อนข้างหล่อเหลาขอบคุณความห่วงใยของเขาทีมีต่อหล่อนแม้ว่าช่วงที่ผ่านมาจะเถียงทะเลาะกันไปบ้างแต่หล่อนคิดว่าแค่หอมปากหอมคอ ทั้งที่เขาและหล่อนรู้ดี แค่อารมณ์เถียงเพราะอยากเอาชนะ สุดท้ายไม่มีใครสักคนที่เป็นฝ่ายชนะ แต่อยู่กึ่งกลางระหว่างแพ้ราบคาบปางภูโทร.เข้ามาหาหล่อน”ผมกลับถึงบ้านแล้ว” เป็นจังหวะนั้นพอดี ที่หล่อนอยากรู้เรื่องราว ว่าเขากลับถึงแล้วหรือยัง หญิงสาวเลยเอ่ยออกมาจากความรู้สึ
ชายหนุ่มหล่อรวยด้วยทรัพย์ขุมเสน่ห์ทางกายก็เหลือหลาย เขาไม่อยากเอาตัวเองไปเทียบ มันไม่ติดฝุ่น จึงได้ครุ่นคิดอย่างเงียบในห้องสี่เหลี่ยมที่อุดอู้คับแคบแต่ทว่ายังดีกว่าสถานที่จากมาตั้งมากมายมุ้งสายบัว ไม่เอาแล้วเขาเข็ด ไม่ยอมกลับไปหามันอีกครั้ง แค่วันเดียวเขาแทบจะทนไม่ได้ แล้ววันต่อไปล่ะ นี่มันนรกชัดๆ“ต่อไปคุณจะเอายังไงคะ” หล่อนหันมาพูดดีกับเขาด้วยขมวดคิ้วถามลดน้ำเสียงที่ดูจัดจ้านของสาวกร้านโลกอย่างที่เขาพบพานมาเช่นทุกวันเพราะหล่อนรู้ตัวว่าหล่อนผู้หญิงระดับนั้น ง่ายๆไม่ถือตัวและหล่อนเองก็เป็นผู้หญิงที่เขาสามารถจะยอมรับได้ ในเมื่อตัวเขาเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าหล่อน แต่หล่อนก็ไม่แน่ใจว่าธีรคามจะยอมรับหล่อนสักครั้งไหม..คำถามนี้เป็นเรื่องที่หล่อนไม่อยากคิดเพราะคิดแล้วมันไม่เป็นผล ความสุขสมหวังของหล่อนอยู่กับการที่หล่อนรักเขาแม้เขาจะไม่สนองตอบหล่อนก็ดูมีความสุขมีค่าสำหรับตัวเองถ้าคิดแล้วมันไม่เป็นประโยชน์รังจะทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายเจ็บฝ่ายเดียวสวรรค์สีคิดว่าเลิกคิดเสียดีกว่า เขาเงยหน้ามาตอบหล่อน มองเห็นแววตาที่หล่อนเปี่ยมด้วยรักและใส่ใจ“ก็คิดดูก่อน ผมอาจจะเลือกหางานทำ ที่พอจะเลี
พบความเลวร้ายเจ็บปวด และหล่อนอยากได้รักแท้จากผู้ชายที่คิดว่าจะรักหล่อนจริง.. หลังจากที่รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงงามเมือง หรือนางงามเมือง ใครจะแล แม้แต่ธีรคามก็ตามทีเถอะ หล่อนไม่ได้วาดหวังไปไกลถึงขนาดให้เขารักหล่อนแต่แค่เพียงแค่ว่าให้เขาเหลือบแลไม่ทอดทิ้ง หล่อนยังมีประโยชน์ต่อเขาปลดเปลื้องไปวันๆหนึ่งก็ตาม หล่อนก็ประจักษ์ค่า อานุภาพของความรักถึงแม้วันนี้สวรรค์สีก็ไม่ได้หนีหายหน้าไปจากเขา หล่อนอยากให้ชีวิตของหล่อนเป็นอย่างนี้แม้จะมีสุขทุกข์ปนคละเคล้ากันก็ตาม หล่อนค่อยๆปลอบโยนเขา เมื่อธีรคามเสียงแข็งกระด้าง เพราะมีเรื่องราวค้างคาใจแต่หนหลังระหว่างพี่น้องที่ไม่มีความยุติธรรมต่อเขา เป็นปมด้อยในใจที่เขาเป็นเพียงแค่เด็กในบ้านไม่ใช่ลูกที่แท้จริง ที่จะมีสิทธิ์ทุกอย่าง แต่หล่อนพอจะทราบมาบ้างว่าสามีของหล่อนถูกระบุให้ได้รับทรัพย์สิน หลังจากที่เจ้าของบ้านตายด้วยเหมือนกัน แม้จะเป็นเพียงที่ดิน ผืนหนึ่ง สักสิบห้าไร่ ก็ไม่ใช่น้อยๆ ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลยนับว่าท่านเจ้าของบ้านก็ไม่ได้ใจไม้ไส้ระกำสักเท่าใดนักแต่หล่อนรู้ว่า สามีของหล่อนอยากได้มากกว่านั้น แต่สวรรค์สีรู้ว่าหล่อนคงคิดได้แค
แล้วหล่อนหันมาทางเขาก่อนจะเอ่ย “ค่ะ เมล ไม่ใช่ผู้ชายเต็มร้อย เขาเป็นเกย์ค่ะ..ที่น่าเกลียดว่านั้น เขาเป็นและรับได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง..”หล่อนสะอึกสะอื้นแต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงเอ่ยต่อ ทั้งที่น้ำตานองหน้า ปางภูอึ้ง เบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำรับสารภาพของหล่อน อดีตแฟนสาว จนเกิดความรู้สึกสงสารอย่างจับใจอีกครั้ง เข้าใจสาเหตุที่หล่อนไม่กล้าตัดสินใจบอกเขาตั้งแต่ทีแรก อ้าปากค้าง แล้วก็ลดแววตาต่ำลงมามองหล่อนอย่างเห็นใจ“ผมเสียใจด้วย ไม่นึกว่าเพิร์ลจะพบอะไรที่ร้ายแรงอย่างนี้” หล่อนยิ้มให้เขาทั้งน้ำตาปางภูเดินเข้าไปใกล้ เช็ดน้ำตาของหล่อนด้วยหลังมือของเขาเอง แล้วเอ่ยบอกหล่อนว่า “หยุดร้องไห้เสียเถอะ ค่อยๆแก้ไขกัน” ภามิญาหยุดสะอื้นแล้วหันมาทางเขา “แต่เขามาแล้วค่ะ ถึงสุวรรณภูมิ เขาต้องเอาตัวเพิร์ลกลับไปด้วยแน่คะ เขามากับลูกน้อง” หล่อนเอ่ยด้วยเสียงสั่นและยังตะกุกตะกักด้วยความหวาดกลัว “ ไม่หรอก ตราบใดที่ผมยังอยู่ ผมจะปกป้องคุณเองเพิร์ล ไม่ต้องกลัว ตำรวจไทยช่วยคุณได้” ปางภูเอ่ยคำให้สัญญากับอดีตคนรักด้วยน้ำเสียงที่จริงจังหนักแน่นแม้เขาเพิ่งรู้ก็ตามและหล่อนเพิ่งมาบอกด้วย “แต่อยากจะตำห
เป็นปางภูที่หล่อเหลาน่ารักและไกลเกินอาจเอื้อมสำหรับหล่อนหล่อนรู้แล้วว่า เขาผูกพันความรักอยู่ที่หญิงสาวคนหนึ่ง “แล้วพี่สาวของคุณล่ะ”“พี่ตั๊กเองก็ไม่ทราบเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เพราะเพิร์ลเองก็ไม่กล้าบอก”“แต่ถึงอย่างไรในเมื่อเขามาถึงแล้ว คุณก็ควรจะบอกเรื่องนี้ให้พี่สาวของคุณกับพี่เขยทราบเอาไว้ก่อน เขาจะได้รู้ตัว และช่วยกันแก้ไข ยังดีกว่าคุณเก็บเอาไว้คนเดียว..ซึ่งมันไม่ช่วยอะไรดีขึ้นมาเลยนะเพิร์ล ทางที่ดีคุณควรบอกทุกคนให้ทราบ”เขาให้คำแนะนำหล่อนซึ่งหล่อนพยักหน้าใบฟางไม่ได้เจอหน้าปางภูมาแล้วสี่วัน แปลกใจที่เขาหายเงียบไป และไม่ได้ส่งข่าวคราวมาเหมือนทุกครั้งหล่อนเป็นอะไรของหล่อนความห่วงใยเขาจนเป็นกังวลรุมเร้าใจมากถึงเพียงนี้ หญิงสาวยิ้มกับตัวเอง ช่วงเวลาอยู่ใกล้เขา สัมผัสกับตัวตนของเขา ก็มีความสุขอีกแบบ สิ่งที่ปางภูไม่เคยแสดงออกมาคือ สิ่งที่เขาพูดไปนั้น เขารับผิดชอบและยอมรับมากแค่ไหนหญิงสาวยังรู้สึกตะขิดตะขวงใจในความเป็นเมียขายฝากของเขา นี่เขายังมีอารมณ์คะนองเล่นอีกหรือคนที่หล่อนจะสามารถสอบถามและเค้นเอาความจริง แม้จะไม่สารภาพออกมาทั้งหมดหล่อนก็อยากจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แต่ก็รู้ว่าปางภูเล่าให้หล่อนฟังสองสามครั้งแล้ว ถึงหญิงสาวสวยที่เขาสนใจอยู่ “ผู้หญิงที่ผมกำลังสนใจเป็นพิเศษในเวลานี้ เธองอนผมนิดหน่อย”แค่มองตาเขา หล่อนก็รู้แล้วละ ว่าปางภูคิดกับหญิงสาวคนพิเศษนี้อย่างไร สำหรับหล่อนตัดความกังวลออกไปเพราะหล่อนไม่หวนที่จะยึดเขาอีกแล้ว มันรู้สึกเจ็บ บัดนี้รู้ว่าหัวใจทั้งดวง ทั้งหมดของป้าง ไม่มีสักห้องที่เหลือถ่ายเทให้หล่อน และคงจะทุ่มทั้งหมดไปทีสาวน้อย ชื่อน่ารักซึ่งหล่อนไม่เคยได้พบเห็นหน้ามาก่อน “อีกสักประเดี่ยวผมจะขอตัว แวะไปรับเธอมาที่นี่ จะได้ทำความรู้จักกันหน่อยครับเพิร์ล”ภามิญาชะงักกับคำที่เขาเอ่ย แต่หล่อนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่คิดว่า ปางภูตัดสินใจฉับพลันรวดเร็วปุบปับนัก แล้วคิดว่า สาวสวยยินยอมมากับเขาง่ายดายอย่างนั้นหรือ “เธอจะยอมมากับป้างหรือเปล่าคะ”เขาหันมายิ้มให้กับอดีตคนรักเอ่ยว่า“ต้องมาสิครับ ในเมื่อเขาเองอยากจะรู้เรื่องบางอย่าง..ผมเองก็อยากจะให้รู้เรื่องนี้ด้วย” เรื่องนี้คือเรื่องอะไรปางภูยังไม่เฉลย จนเมื่อเขาเอ่ยต่อ จึงยิ้ม “เรื่องเกี่ยวกับคุณและผม” แค่นี้หล่อนก็เข้าใจ เขาเข้าใจเคลียร์หนทางรักครั้งใหม่ของตัวเองให้สวยสด
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม