แต่ก็รู้ว่าปางภูเล่าให้หล่อนฟังสองสามครั้งแล้ว ถึงหญิงสาวสวยที่เขาสนใจอยู่ “ผู้หญิงที่ผมกำลังสนใจเป็นพิเศษในเวลานี้ เธองอนผมนิดหน่อย”แค่มองตาเขา หล่อนก็รู้แล้วละ ว่าปางภูคิดกับหญิงสาวคนพิเศษนี้อย่างไร สำหรับหล่อนตัดความกังวลออกไปเพราะหล่อนไม่หวนที่จะยึดเขาอีกแล้ว มันรู้สึกเจ็บ บัดนี้รู้ว่าหัวใจทั้งดวง ทั้งหมดของป้าง ไม่มีสักห้องที่เหลือถ่ายเทให้หล่อน และคงจะทุ่มทั้งหมดไปทีสาวน้อย ชื่อน่ารักซึ่งหล่อนไม่เคยได้พบเห็นหน้ามาก่อน “อีกสักประเดี่ยวผมจะขอตัว แวะไปรับเธอมาที่นี่ จะได้ทำความรู้จักกันหน่อยครับเพิร์ล”ภามิญาชะงักกับคำที่เขาเอ่ย แต่หล่อนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแต่คิดว่า ปางภูตัดสินใจฉับพลันรวดเร็วปุบปับนัก แล้วคิดว่า สาวสวยยินยอมมากับเขาง่ายดายอย่างนั้นหรือ “เธอจะยอมมากับป้างหรือเปล่าคะ”เขาหันมายิ้มให้กับอดีตคนรักเอ่ยว่า“ต้องมาสิครับ ในเมื่อเขาเองอยากจะรู้เรื่องบางอย่าง..ผมเองก็อยากจะให้รู้เรื่องนี้ด้วย” เรื่องนี้คือเรื่องอะไรปางภูยังไม่เฉลย จนเมื่อเขาเอ่ยต่อ จึงยิ้ม “เรื่องเกี่ยวกับคุณและผม” แค่นี้หล่อนก็เข้าใจ เขาเข้าใจเคลียร์หนทางรักครั้งใหม่ของตัวเองให้สวยสด
ปางภูจะให้หล่อนช่วยอะไร ใบฟางรับรู้เรื่องตรงหน้าแม้หญิงสาวผู้นี้คะเนวัยแล้วคงสามสิบต้นๆ ที่ปางภูแนะนำให้ทราบว่าเป็นเพื่อนเขา ทีแรกเธอมองใบฟางเหมือนเคลือบแคลงใจ หรือคิดอะไรบางอย่าง แล้วอมยิ้ม ก็นับว่าเธอมีมารยาท ไม่ได้แสดงว่ามีท่าทีดูหมิ่นไม่พอใจ “เธอมีปัญหากับสามีของเธอ ที่จะตามตัวเธอกลับอเมริกาด้วยกันหรือคะ” หญิงสาวรับคำที่ถ่ายทอดจากปางภูแล้ว นำมาครุ่นคิดถามเขาอีกครั้งทำไมต้องให้เธอมายุ่งเรื่องคนอื้นด้วยล่ะ แบบนี้น่ายุ่งเสียที่ไหน ลำพังเรื่องของใบฟางก็ปวดหัวเสียแย่ เอาเถอะเมื่อเขาขอร้อง ใบฟางพอทำได้ ไม่ขัดเขาหรอก หล่อนทรุดนั่งอยู่กับเขาตามลำพังขณะที่หญิงสาวซึ่งเป็นเจ้าของบ้านลับหายเข้าไปในห้อง “เอ เธอพักอยู่กับใครคะ คุณปางภู ทำไมบ้านดูเงียบ”อดถามไม่ได้หลังจากชะเลืองสายตามองสำรวจรายรอบแล้ว บ้านเต็มไปด้วยดงไม้ครื้มสงบน่าอาศัย แต่ทว่าเงียบเกินควร และคิดว่า คงไม่ได้ อยู่อาศัยแค่คนเดียวหรือสองคนเท่านั้น หล่อนยังเห็นห้องชั้นบนเปิดหน้าต่าง ชายหนุ่มขมวดคิ้วตอบ “น่าจะมีด้วยกัน ประมาณห้าคนครับ รวมทั้งคนใช้ด้วย แล้ว ก็เพิร์ล”ตอบเท่าที่ภามิญาเล่าให้ฟัง ใบฟางพยักหน้ายิ
“ขอบคุณนะ ใบฟางที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ คุณอยากทราบคำตอบ”“อ๋อ แน่นอนค่ะ” เขานิ่งเงียบก่อนหลุดคำพูดออกมาด้วยแววตาเศร้าครู่หนึ่งแต่มันเปลี่ยนแปลงเป็นสดชื่นร่าเริงในที่สุดในคราวเดียวกันหลังจากเอ่ยจบ เรียกว่าเขามีวาทศิลป์ในการคุยพูดที่ทำให้หล่อนคล้อยตามเขาได้ง่ายดาย และใบฟางก็รู้สึกทึ่งในใจเช่นกัน ที่คิดกับเขาอย่างนี้ “ความรักนั่นนะ มันเกิดขึ้นกับเราแล้ว ต้องกำและประคองให้อยู่ในอุ้งมือตัวเราตลอด แม้แต่หัวใจ ก็อยากได้ทั้งหมดเต็มสี่ห้อง..” เขาหัวเราะ “แต่ความเปลี่ยนแปลงมันมี ความห่างเหินไง สิ่งที่ผมไม่อยากจะพูดมาก และเวลานี้ผมเองทำใจได้แล้ว มันผ่านไปเนิ่นนานจนว่า ผมลืมไปแล้ว กว่าจะนึกคิดได้อีกที ..ผมก็มีคุณไงล่ะ” เขาหันมาทางหล่อน ใบฟางตวัดสีหน้าค้อนใส่ “บ้า”เอ่ยต่อ “วิธีการที่คุณไม่ให้เกียรติฉัน นี่นะ เป็นความรัก ทุเรศ ทุเรศที่สุด คุณปางภู”หล่อนกระแทกใส่เขาเสียงเข้มรู้สึกไม่พอใจแต่ชายหนุ่มกลับกลายหัวเราะชอบใจเสียนี่ เขาชอบฤทธิ์เดชของหล่อน ในยามที่ใบฟางเผอเรออกมาแบบไม่รู้สติตัวเอง..เขาคิดและบอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนเป็นคนที่น่าค้นหาไม่น้อย.. ตรงที่การกระทำเป็นธร
เมล.. ควอเนอร์ เป็นผู้ชายที่ร้ายกาจ ทุกคนคาดการประมาทผู้ชายคนนี้เกินไปแล้ว และอาจจะผิดพลาดถ้าคิดว่าเขาเป็นคนดี โดยผ่านสีหน้าที่หล่อใสซื่อดวงตาคมระยับเฉกผู้ชายแสนเสน่ห์แบบชาวตะวันตกทั่วไป แต่หล่อนรับรู้มาแล้ว ทราบความจริง..ว่าเขายิ่งกว่าสิ่งปฏิกูลที่น่ารังเกียจเสียอีก.. ช่องว่างสิ่งที่ดีๆเกิดขึ้นในใจของหล่อน สำหรับเมล นั้นจึงไม่มี.. เพราะชีวิตที่ผ่านมาของหล่อน เหมือนตกนรกแล้วทั้งเป็น หล่อนเจ็บแล้วก็จำ มันจนชั่วลมหายใจเข้าออกไม่มีทางที่หล่อนจะลืมความร้ายกาจครั้งนี้ของผู้ชายสถุลอย่างเขา หล่อนพอจะอุ่นใจได้บ้างที่มีปางภู กับเพื่อนสาวของเขาอยู่ด้วย อย่างน้อยไม่ได้อยู่คนเดียวและขาดที่พึ่งพิง.. การมีคนร่วมหลายๆคน ทำให้หล่อนสามารถต่อกรเขาได้.. ไม่ให้เมล ควอเนอร์ คิดหลงลำพองและย่ามใจ ว่าเขาจะเดินทางมาจัดการกับหล่อน เรียบร้อยโดยไม่มีปัญหา ใบฟางชำเลืองมองดูอาคันตุกะชาวตะวันตกที่ก้าวเข้ามาเป็นแขกบ้านหลังนี้ด้วยสายตาเงียบพบเห็นแววตาที่ไม่น่าไว้ใจจากผู้ชายนัยน์ตาสีฟ้า คมกริบ แววตายิ้มมาทางหล่อนแฝงความกรุ้มกริ่มจนน่าสะอิดสะเอียนและขยับถอยหนี ใบฟางเบ้ปากไปทางอื่น ยังดีที่มีปางภู
“เรื่องที่คุณมาเป็นเพื่อนผมไง” สาวสวยเงียบไปครู่ก่อนตอบ“โถ นึกว่าเรื่องอะไร อย่าคิดมากเลยค่ะ ฉันเองก็อยากจะช่วยเหลือคนอื่นเหมือนกัน ถ้าเขามีความทุกข์และเดือดร้อน”“นับว่าจิตใจของคุณ ก็มีเนื้อในค่อนข้างดี” เขาชมหรือว่าประชดกันแน่หญิงสาวเพียงแต่ยิ้ม หล่อนขำมากกว่ากับคำเอ่ยของเขาที่ไม่พูดจาคลุมเครือ หรือชัดเจนในความหมาย “เนื้อในของฉันเป็นยังไงคะ คุณทะลุปรุโปร่งแล้วหรือ ถึงกล้าพูดออกมาแบบนั้น”“ผมแน่ใจครับ ว่าผมคิดแบบที่ตัวเองพูดขึ้นมา” เขาตอบก่อนจะขยิบตาให้แก่หล่อน “ลาเจ้าของบ้านกันแล้ว เรารีบกลับกันเถอะ” ดีเหมือนกัน หล่อนไม่อยากทุ่มเถียงกับเขาหรอก บอกตามตรง เหนื่อยเพลียและรู้สึกอยากจะนอน ถึงบ้านแล้วปางภูกลับได้รับโทรศัพท์จากคนที่เขาไม่คิดว่า จะโทร.มา ไม่ใช่โทชินาดะเพื่อนรักที่ทำงานจนหัวหมุนจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อต จากการทุ่มโถมเอาใจใส่ อยู่ที่ชลบุรีศรีราชา แต่กลับเป็นสวรรค์สี สีหน้าของหล่อนที่โทร.มาเหมือนรู้สึกรื่นเริงและอารมณ์ดี สังเกตจากน้ำเสียงที่กระเซ้าเย้าแหย่ของหล่อนและหัวเราะ “ไม่คิดว่า ฉันจะโทร.มาใช่ไหมคะ คุณป้าง” น้ำเสียงของหล่อนนำขึ้นก่อนเขาจดจำได้
แค่นี้เหนื่อยจะแย่ หาเรื่องเบาๆคุยกับหล่อนดีกว่า“แล้วนี่คุณอาบน้ำแล้วหรือยังฟาง” รู้สึกดีใจที่เขาเป็นห่วง และห่วงใย“อาบเสร็จแล้วค่ะ พอดีคุณโทร.เข้ามา”“งั้น ไม่เป็นไร ถือว่าผมไม่ได้กวนคุณ”“ค่ะ ไม่ได้กวนหรอก อีกอย่างฟางเองคงจะเข้านอนในเวลานี้”“งั้นตามสบายเถอะครับ อรุณสวัสดิ์” เสียงทุ้มนุ่มของเขาเอ่ยตอบมา หลังจากที่คิดว่าจะขอนั่งพักอีกสักชั่วโมงกว่าๆ พออารมณ์เย็นดีแล้ว จินตนาการเกิด เขาต้องลงมือทำงานเขียนนิยายที่ตัวเองรักชอบต่อ เพราะเป็นความรับผิดชอบตัวเอง และเป็นความเคยชิน ตั้งใจว่าจะเก็บเงินไว้สักก้อน ก้อนที่ค่อนข้างมากทีเดียว อาจจะเพื่อใครบางคน ที่เขาเพิ่งคุยด้วยที่ผ่านมานี้สาวสวยยังมีท่าทีสงสัยหล่อนขมวดคิ้ว เขาขยันทำงานจัง แต่ว่า งานอะไรของเขากัน ไม่เห็นจะเสร็จสรรพสักที บางครั้งหล่อนเคยโทร.เข้าไป เขาบอกว่า ติดงาน งานยังไม่เสร็จ ต้องนำกลับมาทำที่บ้าน“งานของคุณนี่ ทำตาปีตาชาติก็ไม่เห็นเสร็จเลยนะคะ ปางภู” ชายหนุ่มอมยิ้ม ที่เห็นหล่อนยังต่อความกับเขาต่อ“ครับ งานเสร็จแล้วก็เริ่มใหม่ มันต้องเริ่มทุกครั้ง ที่รู้ว่าใกล้จะจบ” หล่อนเดาเอาว่าเขาเป็นคนที่ขยันเกินมนุษย์ม
สักพักชายหนุ่มจึงลงมาข้างล่าง เชื้อเชิญให้หล่อนเข้าไปนั่งข้างใน ซึ่งมีโซฟาสำหรับให้แขกหรือลูกค้ามาติดต่อหรือสมัครงานนั่งได้ และเป็นมุมที่คนในคอนโดมักจะแวะเข้ามานั่งเล่นอ่านหนังสือ ใบฟางส่ายหน้า“คงไม่ต้องหรอกค่ะพี่ธี ฟางแค่มีธุระมาหา อยากจะถาม สิ่งที่อยากจะรู้ให้มากที่สุด..รบกวนทธีตอบตามตรงอีกครั้ง..แล้วก็คงจะกลับ”“ถ้างั้นที่สวนด้านหน้าคอนโด คงเหมาะ เธอคงจะชอบลมเย็นๆ ไม่ดูอึดอัด..แล้วผู้คนก็ไม่พลุกพล่านเหมือนในคอนโด” หล่อนเห็นว่าดี สถานที่นั้นหล่อนเห็นมาแล้ว ตั้งแต่เดินผ่านคอนโดสูงสิบชั้นแห่งนี้ดูสะอาดจัดสวนสวยดูแล้วสบายตา ประกอบไปด้วยต้นหมากแดง ต้นเฟิร์น และหน้าวัวกับบัวสวรรค์แซมปลูก ยี่เข่ง จึงพยักหน้า “ก็ได้ค่ะ” เขาเป็นฝ่ายเดินนำหญิงสาวออกไป อากาศตรงนั้นบริสุทธิ์จริง มีเก้าอี้หินอ่อนตั้งวางอยู่ สายลมยามเย็นพัดพาราบเรียบอย่างสงบ หญิงสาวเป็นฝ่ายที่ยืนกอดอกหันหลังให้เขาซึ่งธีรคามทรุดนั่งลงก่อนแล้ว..คล้ายหญิงสาวมีความอึดอัดใจ อยากจะถามเขาหนักหน่วง จึงค่อยๆหันหน้ามาช้า เอ่ยถามในสิ่งที่หล่อนต้องการรู้“ตรงเข้าเรื่องเลยนะ พี่ธี.. และต้องสัญญากับฟางอีกครั้งด้วยว่า
ขอบคุณโชคชะตาที่ดึงตัวเขาพ้นไปจากชีวิตหล่อนเร็ววัน และให้ทราบว่าเขาคิดคดทรยศต่อหล่อน..โดยให้เขาเป็นฝ่ายเลือกสวรรค์สีผู้หญิงเกลือกลั้วมากรักคนนั้นแทน.. หล่อนคิดว่า สมควรแล้วที่ฟ้าดินลงโทษเขาแบบนั้น ใบฟางเงียบอีกครั้ง ยังอยู่ในระหว่างทำอะไร เศร้าใจ..และหล่อนสะเทือนใจจนกระทั่งกล้าที่จะสาดคำพูดแรงๆกราดตอกย้ำในหัวสมองและหูของเขาได้รับรู้เพื่อให้เขาได้รู้ว่าใบฟางเจ็บแค่ไหนกับการกระทำของเขา “พี่ขอบอกกับฟางอีกครั้งว่า.. พี่ขอโทษนะฟาง”“ไม่ต้องพูดคำนี้อีกแล้วค่ะ ฟางไม่อยากรับรู้ได้ยินอีกแล้ว” ใบฟางเกรี้ยวกราดใส่ สติปัญญาเขาคิดได้แค่นี้หรือ“แต่เมื่อรู้แล้ว ฟางก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ขอบใจพี่ธีด้วยซ้ำที่กล้าหาญพูดความจริงแบบลูกผู้ชาย”เขารู้สึกดีขึ้นบ้างที่ใบฟางมองเขาในแง่ดีในสายตาของหล่อนบ้างยามนี้ “ถึงแม้ฟางจะอภัยให้พี่ธี แต่ก็ไม่ใช่ว่า ฟางจะไม่โกรธพี่ธีนะคะ”“พี่เข้าใจ”เขาเอ่ยตอบสีหน้าสลดวูบ หล่อนเลยสรุปเรื่องราวทั้งหมด“งั้นฟางทราบแล้วล่ะ ทั้งหมดมันเกิดขึ้นเพราะกิเลสกามารมณ์ของมนุษย์..ปางภู คอยดูเถอะ ฟางจะกลับไปเฉ่งเขา เอาเรื่อง. ที่เขาทำมักง่าย คิดมักง่ายกับฟาง.. ผู้ชายนี่เลวๆเ
ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบฟาง”หล่อนเข้าใจเขาพูดถูก หล่อนก็ตอบแทนความรักของเขาด้วย“ต่อไปไม่มีแล้วล่ะ เมียขายฝาก สมญาที่ใช้เป็นคำพูดเล่นๆขำๆเพื่อล้อเลียนคุณ มีแต่ตำแหน่งเดียวคือเมียแต่งนายปางภู คุณจะสนใจตำแหน่งนี้ชั่วชีวิตหรือเปล่าล่ะ”คารมของพ่อหนุ่มนักเขียนทำเอาหล่อนต้องยอมรับล่ะ มิน่าถึงร้อยเรียงเขียนหนังสือได้หลากหลายยาวนาน “สนใจสิคะ”หล่อนพยักหน้า “ไม่งั้นฉันคงไม่ตัดสินใจยอมคุณหรอก” เขากลั้วยิ้มดวงตาพราวอีกครั้งกับคำตอบนี้ พึงพอใจเช่นเดิม เพราะขุมสมองมีแต่ความเพริดแพร้วทางปัญญา ชายหนุ่มเห็นหล่อนตื่นกลัว จึงคว้าตัวรวบเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พร่ำเอ่ยที่ริมกกหูเบาว่า“คุณอย่าคิดอะไรมากเลยน่า ลืมซะ ลืมเสียเถอะ มันผ่านไปแล้ว ฟางจ๋า อย่างไรเสีย ชีวิตก็ถูกจัดการไปตามทางชีวิตของแต่ละคน ..ผมนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะรักคุณมากมาย คงไม่กล้ายอมขนาดนี้หรอกนะใบ
คารมของนักเขียนหนุ่มผู้เป็นสามีเอ่ยขึ้น หญิงสาวยิ้มพราวระยับที่ดวงตาของหล่อนขึ้นบ้าง หวงนี่อาจจะแปลกว่าหึง หล่อนยิ้ม“นั่นยิ้มอะไร ขำหรือว่าไม่พอใจ”“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฟางรู้สึกว่า พอได้สามีมาหนึ่งคน เขาก็บ่นเสียเก่ง” เขาหันมาทางสาวสวยผู้เป็นภรรยา ขยับใบหน้ามาใกล้ “นี่มาหาว่าเราบ่น ประเดี๋ยวเหอะ จะจูบให้ตายตาอ้อมกอดเลย”ชายหนุ่มบ่นเสียงไม่จริงจังนัก หมั่นไส้ผู้เป็นภรรยามากกว่า “แนะ ไม่กลัว ใช่ไหม? เดี๋ยวเอาจริงนะ”เขาขู่หล่อน พลอยทำให้ใบฟางต้องหลับตาปี๋ลง ก่อนที่ใบหน้าขาวๆของดวงหน้าคมคายจะโน้นแตะชิดใกล้ริมฝีปากประกบบดขยี้ลงไปแทรกความหวานเจือปนละลายอยู่ในช่องปาก จนสาวสวยรับรู้ถึงสัมผัสที่หวานซ่านลิ้น “นี่เริ่มบทลงโทษแล้ว โทษฐานที่มีเมียขี้บ่น แถมปากเก่งอีกต่างหาก เอ้อ เป็นเมียขายฝากเสียด้วย”หญิงสาวยังข้องใจในคำนี้ ความหมายแบบเขานี่คืออะไร จึงส่งสายตาอึดอัด หงุดหงิดทวงถามเมื่อเขาละถอนจากริมฝีปาก เงยหน้าขึ้นจ้องหล่อน เพราะรู้ว่าหล่อนจะถาม หล่อนไม่ชอบใจสักนิดกับคำทีเขาใช่เรียกหล่อน“อีกแล้ว เมียขายฝาก ฉันไม่รู้ว่าความหมายมันคืออะไรกันแน่ มันเริ่มต้นมาตั้งแต่พี่ธีรคา
“ยังไม่แน่ใจค่ะ เมล ตอนนี้ฉันอยากอยู่เมืองไทยไปก่อน คงทำงานไปสักพัก ถ้าลืมเรื่องราวทุกสิ่งทุกอย่างได้ ฉันก็อาจจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ กับใครก็ได้ ที่เขารักจริง และรักความเป็นตัวฉัน รวมทั้งเขาไม่แคร์อดีตต่างๆของฉันด้วย”“ขอให้คุณโชคดีนะฮันนี่”“ขอบคุณคะ เมล คุณก็เช่นกัน รักษาเนื้อรักษาตัวด้วย”หล่อนโบกมือให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เขาและคณะจะเดินจากไปในช่องผู้โดยสารขาออก แล้วหล่อนหันมายิ้มให้กับตัวเอง นี่คืออิสรเสรีที่หล่อนต้องการ จึงถอนใจออกมายาวนานด้วยมีความสุข หล่อนต้องการตัด และเยื่อใยอาวรณ์จากเขา หล่อนจะต้องทำให้ได้ เมลมีดีอยู่หลายสิ่งหลายอย่างเช่นกัน แต่สิ่งที่หล่อนยอมรับไม่ได้คือ เขาจะเอาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย อย่างที่เรียกว่า เสือไบ โฮโมเซกช่วล แบบนี้หล่อนไม่ต้องการ ไม่ต้องการเสียน้ำตาทนอยู่กับผู้ชายประเภทนี้ เพราะนั่นหมายความว่า เขาทำให้ชีวิตของหล่อน เหมือนตกนรกทั้งเป็นนึกว่าจะยืดเยื้อ หรือคาราคาซังเสียอีก ขอบคุณที่เขาเลือกให้ของขวัญนี้ให้แก่หล่อน ตามที่หล่อนร้องขอปรารถนามานานต่อไป ชั่วชีวิตนี้ หล่อนจะไม่สนใจ ผู้ชายที่ชื่อเมล นี้อย่างเด็ดขาด ว่าเขาจะเป็นตายร้าย
จะไม่ช๊อคใจไปใหญ่หรือ ที่ตลอดมานั้น อ่านหนังสือของคนกันเองทั้งนั้น คนกันเองที่ขยับเข้ามาเป็นคนในบ้านและเป็นคนในเรือนใจของหล่อนเข้าทุกขณะ“นี่สิของแท้ของชัวร์ นิยายที่ผ่านการรวมเล่มแล้วของผม มีประมาณ เกือบสิบเรื่องด้วยกัน ซ่อนอยู่อีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะ และถ้าอยากจะไปร่วมงานวันสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเมษาที่จะถึงเร็วๆนี้ ไปกับผมสิ คุณจะได้รู้ว่าแฟนคลับผมตรึมแค่ไหน ที่เรียกร้องอยากจะให้ผมมา..แล้วก็ต้องแจกลายเซ็นต์ด้วย”เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังจริงๆ ไม่น่าเชื่อ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยนและสุภาพปนกับอารมณ์ร้ายเกรี้ยวกราด ไม่นึกว่าเขาจะมีอีกภาคหนึ่ง ของผู้ชายที่เขียนหนังสือขาย เป็นนักเขียนที่ถือว่า ได้รับความนิยมมากคนหนึ่งในปัจจุบัน ในยุคที่นักเขียนไทย ผุดตัวเองขึ้นมาราวกับดอกเห็นกลางฤดูฝน“ไม่เชื่อ คงต้องเชื่อแล้วละคะ นี่ถ้ายัยเงิน น้องสาวของฟางรู้เรื่อง ตายเลยล่ะคงทั้งอึ้งทั้งทึ่ง ไม่งั้นก็เกือบช๊อคไปหลายสิบตลบแน่นอน”“ถึงขนาดนั้นเลยหรือ”“ใช่ค่ะ ถึงขนาดนั้นแน่นอน เพราะน้องสาวของฉัน ติดงานของคุณมาก”เขาเพิ่งทราบ“นี่คุณทำอย่างนี้ทุกวัน หลังขดหลังแข็งมากไหมคะ”เขายิ้มอีกครั้ง“งา
เขาเอ่ยคำนี้ จนหล่อนหน้าแดงไปเลย สีระเรื่ออ่อนที่พวงแก้ม แต่ก็เข้าใจความหมายเมื่อเขาพร้อมที่จะให้สัญญาปากแบบสุภาพบุรุษอีกครั้ง “งั้น ฟางจะยอมไว้เนื้อเชื่อใจอีกสักครั้ง ทั้งที่ไม่อยากจะเชื่อสักเท่าไหร่”“อ้าวทำไมล่ะ กลัวผมจะเปลี่ยนใจ ทำมิดีมิร้ายกับคุณหรือไง นี่ฟังนะจ้ะคนเดียว เรื่องทำมิดีมิร้าย ผมก็คิดเหมือนกัน แต่มันไม่ใช่เวลานี้ แต่ต่อไปล่ะ ผมคงมีเวลาทำมิดีมิร้ายกับคุณอย่างสุดสวาทอย่างว่า ได้นานครั้งล่ะ ตอนที่เราแต่งงานกันเสร็จแล้ว นั่นล่ะ มีเวลาทั้งชีวิตของผมเลย”ฟังคำพูดที่เขาเอ่ย หล่อนก็รู้สึกเบาใจ ปางภูหัวเราะเสียงใส“แล้วฉายาเจ้าพ่อบ่อนหรือเสี่ยที่พี่ธีรคามเรียกใช้ ให้สมญาชื่อคุณล่ะคะ”“นั่นผมลืมแล้ว ผมจะไม่เข้าแล้ว ตัดขาดจากมันตลอดชีวิต ในเมื่อผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวแล้วนี่ ผมมีคุณ ผมมีครอบครัว มีคนที่เอาใจใส่น่ารักอย่างนี้ ผมจะเตลิดหนีหายไปไหนได้อีกล่ะฟางจ๋า”ในเมื่อเขาจะมีครอบครัวแล้ว นั่นมันคือภาพอดีต เมื่อครั้งที่ยังใช้ชีวิตโสดอิสระได้เต็มที่ และเมื่อพ้นจากวัยนั้นพ้นผ่านแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็คิดว่ามันเป็นเกมชั่วครั้งชั่วคราวที่ผ่านทางชีวิตของเขาเขาไม่ได้ติดหนึบติดหน
หญิงสาวยิ้มให้พยักหน้าและเพิ่งเข้าใจ “คุณคงไม่โกรธผมนะ ที่ตอนนั้นทำอะไรก็คิดจะปิดบังคุณ”เสียงนุ่มทุ้มดังอีก เป็นกังวาน แต่ก็รู้สึกชุ่มชโลมในหัวใจของหล่อนอย่างประหลาด“เคยคิดจะโกรธเหมือนกันคะ แต่ก็ดีที่คุณเพิ่งอธิบายออกมา ฉันเลยนึกโกรธคุณไม่ลงแล้ว”เขาหันมายิ้มอ่อนๆสบตาของหล่อน“ก็ต้องบอก เพราะเราก็เหมือนคนคนเดียวกันแล้ว จากนี้มีอะไรก็ต้องร่วมรับผิดชอบกัน”หล่อนนิ่งฟังคำพูด ชอบฟังคำพูดที่มีหลักการในการวางแผน และให้กำลังใจ สร้างความปลาบปลื้ม แก่ใจของหล่อนอีกครั้งโดยไม่รู้ตัวยอมรับว่าหล่อนเริ่มจะหลงรักผู้ชายคนนี้เสียแล้ว ไม่รักก็คงไม่ได้หรอก ลึกแต่ไม่ลับในความรู้สึกของหล่อน ขอเก็บเอาไว้รู้เพียงคนเดียว จึงหันทางเขาอีกครั้งยิ้มและสบตาให้ หล่อนนึกถึงเรื่องอื่นได้ อย่างเพิร์ล หรือภามิญาที่ไม่รู้ว่า ทั้งคู่คืบหน้าไปมากแค่ไหน จวบกับมีเรื่องราวอื่นที่เป็นเรื่องสะเทือนใจ ประดังเข้ามาระลอกแล้วระลอกเล่าไม่ขาด จากสึนามิ ฝนก็ท่วมถล่มทางภาคใต้ แผ่นดินไหวทางประเทศพม่าหรือเมียนมาร์กับทางภาคเหนือของไทย วิบากกรรมของประเทศและชาวโลกถูกซัดมาอย่างไม่หยุดหย่อน คงต้องพึ่งพาความดีงาม ศีลธรรม บุญกุศลท
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงระส่ำขวัญเช่นนี้ เรื่องทั้งหมดจึงถูกพับแปลนงานอย่างน่าเสียดาย ไว้รอเหตุการณ์ทุกอย่างสงบอีกครั้ง เขาถึงจะเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอน คงต้องเป็นหลังจากที่งานแต่งของเพื่อนรักที่เมืองไทยเสร็จสิ้น“ขอบใจนายมากที่เป็นห่วง ฉันเป็นตัวแทนของประเทศที่รับความหวังดีนี้จากนาย”“ไม่เป็นไร ฉันเป็นคนไทย เมืองที่ได้ชื่อว่าใจบุญ และสยามเมืองยิ้ม ที่ไหนเกิดความทุกข์เดือดร้อนสาหัส พวกเราทนดูดายไม่ได้หรอก ยิ่งญี่ปุ่นก็ให้ความพึ่งพิงพึ่งพาช่วยเหลือประเทศไทยเรามาก่อน ไม่ว่าทางด้านอุตสาหกรรม เทคโนโลยีต่างๆ สายสัมพันธ์เรายาวนาน เราจึงเห็นใจกันและกัน ถือว่าประเทศไทยตอบแทนน้ำใจประเทศญี่ปุ่น มันเป็นการกตัญญูรู้คุณที่สองประเทศมีไว้ให้กัน”คนฟังรู้สึกตื่นตันใจ และนึกในใจเขาเองก็ถือว่าโชคดีที่มีเพื่อนสนิทเป็นคนไทยอย่างปางภู“ทำใจให้ดีเถอะนะ เข้มแข็งเอาไว้ คิดเสียว่า เบื้องหลังฝันร้าย จะกลายเป็นดี ในอนาคต”โทชินาดะพยักหน้ารับกับเพื่อน ใบฟางรับรู้เรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกับคนไทยทั่วประเทศ เพราะหล่อนติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เกิดอย่างรุนแรงของประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อนึกถึงเพ
แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศราณัฐกลับพูดเรื่องนี้ไม่ออก เหมือนปากของเขาถูกอุดเอาไว้นิ่งเช่นกัน ไม่รู้เป็นเพราะอะไร หรืออาจเพราะว่า เขากับหล่อนนั้น ห่างหายจากกันไปนาน แทบไม่ได้รับการติดต่อจนกระทั่งได้กลับมาพบกันอีกครั้งแต่เขามีความรู้สึกว่า ใบฟางห่างเหินเมินเฉยต่อเขาเป็นอย่างมาก เอ หรือจะเป็นเช่นที่มารดาเอ่ยกล่าวว่าเปรยๆบอกเขาไว้ว่า ใบฟางมีแฟนแล้วที่มาเทียวรับเทียวส่งหล่อนบ่อย เรื่องนี้เป็นการยืนยันด้วยสายตาของมารดา ทีแรกเขาก็ไม่ได้เชื่อหรอก แต่มาเห็นสายตาและปฏิกิริยาของใบฟางที่มีต่อเขาแล้ว ชายหนุ่มต้องแอบบอกกับตัวเอง เขาคงมิแคล้วต้องซดน้ำใบบัวบกแทนข้าวมื้อนี้เสียแล้วและนี่คือความอึดอัด เมื่อถึงที่หมายใบฟางขอลง เขาเองก็จอดให้หล่อนลงอย่างง่ายดาย พร้อมกับยิ้มให้ และโบกมือเมื่อหล่อนเอ่ย “ฟางขอบใจพี่ศรามากนะคะ รบกวนเท่านี้ล่ะ ขอให้โชคดีค่ะ”ชายหนุ่มโทร.หาโทชินาดะแต่เช้าหลุดประโยคออกมา “โทชิ ฉันจะแต่งงานกับใบฟาง”ทำเอาเพื่อนอึ้งกับคำนี้ เงียบไปครู่จึงย้อนกลับไปถามทวน “นายว่าอะไรนะป้าง จะแต่งงานแล้วหรือ”“ใช่ ว่าที่เจ้าสาวของฉัน ใบฟางไงล่ะ คนที่เราได้พบเจอเป็นครั้งแรกพร้อมกับ
คุณสนมนาถเงยหน้าขึ้นสบตาสามีอย่างเข้าใจ ท่านเอ่ยอีกครั้งเบือนหน้าหันกลับมาเสียงเคร่ง“แล้วต่อไปจะเอาอย่างไร”“ผมจะจัดการสู่ขอน้องฟางให้ถูกต้องตามประเพณีครับ ส่วนฤกษ์ คุณแม่ของผมท่านกำลังหาอยู่ถึงเรื่องนี้.งมา แล้วคุยกันถึงเรื่องนี้.ง เอ้อ ฟางจะแต่งงานกับ คุณปางภูค่ะ"ตอบล่ะเงมาอย่างไร เพราะช่วงเวลาที่ผ่านมานั้น หล่อนอึ้งตลอด แต่อย่างทีบอกลึกนั้นในใจภูมิใจอย่างมาก ที่คำสารภาพของเขาแบบลุมอเลือกอย่างน้องชายแกเอก่อนนะครับ.. น่าจะไม่เกินสิ้นเดือนนี้ครับ”ปางภูชี้แจงเสียงนุ่มคมชัดฉะฉานและทุ้มเรียบ คุณสนมนาถยื่นผ้าเช็ดหน้าให้บุตรสาว ยิ้มชื่นมื่นนั้นบ่งบอกว่าลูกสาวรับรู้และเห็นดีเห็นงามด้วย“ในเมื่อจะมาเอ่ยขอลูกสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็เห็นดีเห็นงามด้วย ประเพณีของไทยเราสุภาพบุรุษไม่ควรทำอะไรลับๆล่อๆ กินในที่ลับแล้วมาไขในที่แจ้งสาว ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไร ก้่ได้ว่าอะไร ก้เห็นดีเห็นงามด้วยน้าให้บุตรสาวมื่อเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มและลูกสาวสลับกัน ถ้าทำถูกต้องตามประเพณีทางนี้ก็ยอมรับ.. เพราะลูกสาวของฉัน เห็นว่าเขาคงจะเข้าข้างเธอ และเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างมาก เอาล่ะ เมื่อเข้าใจกันแล้ว ฉันก็ยอม