ผิดความคาดหมายของเซอร์เวย์มาก ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยรู้จักมา เธอมีเหตุผลและยอมฟังเหตุผลของคนอื่นด้านนอก.."จะไปไหนของคุณอีก""ก็กลับบ้านไงคะ""กลับบ้านตอนนี้เนี่ยนะ""ทำไมคะ กลับตอนนี้ไม่ได้เหรอ""ได้..แต่คุณจะไม่รอบอกลูกหน่อยเหรอ""เดี๋ยวฉันทิ้งข้อความบอกลูกไว้ก็ได้" นางอยากจะปล่อยให้ลูกชายมีเวลาเป็นส่วนตัวมากกว่านี้"อืออ เสียงโทรศัพท์ของคุณหมอค่ะ" หญิงสาวที่เพิ่งถูกเขาจูบไป เตือนสติเมื่อได้ยินเสียงข้อความไลน์"คุณแม่คงส่งข้อความมา..ไม่ต้องสนใจ" เพราะเขาได้ยินเสียงรถขับออกจากบ้านไป คงเป็นรถของพ่อและแม่ โชคดีที่พวกท่านเข้าใจสิ่งที่เขากำลังเป็นอยู่ และพ่อคงจะเปิดใจรับเธอได้มากกว่าเดิม"ถ้างั้นก็ต่อเถอะค่ะ" ใบหน้าสวยหวานเงยขึ้นเพื่อให้เขาจูบต่อคนที่ตัวสูงกว่าโน้มลงมาแนบริมฝีปากของอีกฝ่าย เขาทำแค่จูบภายนอกโดยไม่ได้ส่งลิ้นเข้ามา เธอก็เริ่มผิดสังเกต เหมือนเขาจะหยุดอีกแล้ว มือเรียวเอื้อมขึ้นไปโอบต้นคอใช้แรงดึงลงมาแล้วเผยอปากออกพองามเพื่อเชิญชวน"??" จากที่กำลังเครียดอยู่เพราะภาพแทรกเข้ามา มุมปากหนาก็ยกยิ้มขึ้นก่อนที่จะส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากเพื่อดื่มด่ำความหอมละมุน
เซอร์เวย์รีบขึ้นมาดูห้องทำงานชั้นบน..ห้องที่เธอเคยอยู่"??" พอมาถึงเขาก็เห็นเธอนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง "ทำไมไม่โทรหาผมก่อน""คุณหมอคะ" คนที่รับตำแหน่งเป็นเลขานุการ ยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลนี้ขึ้นมาบนห้องทำงาน"อายรอคุณหมออยู่ค่ะ" ขณะที่พูดกับเขา..สายตาเธอเหลือบมองไปดูผู้หญิงที่ไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้อง"คนนี้คุณวิชุดา มาทำงานแทนคุณแจน" เซอร์เวย์ก็เลยแนะนำเลขาคนใหม่ให้เธอได้รู้จัก"คุณหมอห้ามไว้ไม่ให้ใครเข้าไปในห้อง วิก็เลยไม่ให้เข้าค่ะ" สีหน้าวิชุดาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะสำคัญกับเจ้านายพอสมควร"คนนี้ภรรยาผมเอง ถ้าเธอมาก็ให้เข้าไปได้เลย" เขาเพิ่งปรับเปลี่ยนตำแหน่งก็เลยยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเลขาคนใหม่ เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาแบบไม่ได้บอกกล่าว "เข้าไปข้างในดีกว่าครับ" ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูเพื่อให้เธอได้เข้าไป"เมียเลยเหรอ?" วิชุดาถึงกับสตั้นไปหลายวิ จนเจ้านายพาภรรยาเข้าไปในห้องแล้วถึงตั้งสติได้ "..หัวเราจะขาดไหมวะเนี่ย โอ๊ยตายแล้ว"ตอนที่นั่งรอเขาอยู่หน้าห้อง วิชุดาแอบโทรเม้าท์กับเพื่อน..ว่าคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลหล่อมาก เพื่อนยังยุให้จีบอยู่เลย"คุณ
พอหายตะลึงแล้วผู้เป็นแม่ก็เลยหันมามองดูลูกสาวบ้าง"แล้วเราล่ะลูก..รักคุณหมอไหม"หญิงสาวตอบออกไปโดยการพยักหน้า แต่สายตาของเธอก็ยังคงมองเขาอยู่"ตอบผู้ใหญ่ทำไมถึงพยักหน้าล่ะ พูดมา" แม่ตำหนิลูกไปเบาๆ เพราะเห็นสีหน้าของนายแพทย์หนุ่มแล้วคงอยากได้ยินมากกว่าพยักหน้าตอบ"รักค่ะ อายรักคุณหมอค่ะ" คำนี้มันอัดแน่นอยู่ในอกมานานแล้ว ดีใจที่ได้พูดมันออกมาสักที"ผมยังมีอีกเรื่องที่ยังไม่ได้บอกคุณแม่ครับ""ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไร แม่ก็อภัยให้คุณหมอค่ะ" ได้ยินแค่ลูกสาวบอกว่าอาศัยอยู่กับผู้ชายคนนี้ นางก็พอจะเดาได้แล้วว่าทั้งสองคงจะเกินเลยกันไปมากแล้ว"ขอบพระคุณมากครับ ถ้าคุณแม่หายดีเมื่อไร ผมสัญญาว่าจะจัดงานแต่งให้กับอายไม่ให้น้อยหน้าใคร""แม่ต้องขอบใจคุณหมอมากนะคะ" ผู้เป็นแม่ยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอก ถึงนางจะตายก็คงไม่เสียดายชีวิตแล้ว เพราะมีคนดูแลลูกสาวที่รักต่อจากนาง"ผมต่างหากครับที่ต้องขอบคุณคุณแม่ ที่คุณแม่เลี้ยงดูเธอมาได้ดีขนาดนี้" คำพูดแต่ละคำของเขากลั่นกรองออกมาดีแล้ว เพราะวุฒิภาวะของเขาก็ไม่ใช่น้อยๆ"แม่อายจะหายดีเมื่อไรคะคุณหมอ" มันคือสิ่งที่เธออยากจะรู้มากที่สุด"ให้ท่านรักษาตัวที่นี่
เขาปล่อยให้เธอใช้ปากอยู่ไม่นาน เพราะดูท่าแล้วคงต้องได้สอนกันอีกยาว ชายหนุ่มก็เลยพาคนตัวเล็กขึ้นมานอนหงายบนเตียง เพราะเธอกำจัดสิ่งกีดขวางไปแบบนั้นคงต้องการอะไรบางอย่างแน่ และเรื่องนี้เขาก็พอจะรู้"อือ" พอลิ้นหนาสะกิดเม็ดเสียว ทำให้เจ้าของเรือนร่างระหงถึงกับสยิว "อ๊อยคุณหมอคะ" จังหวะที่เขาดูด ไม่รู้ว่าจะบรรยายยังไงแต่ก็มีเจ็บบ้างเพราะแรงที่เขาใช้"ก็มันมันเขี้ยวนี่" แต่เซอร์เวย์ก็รู้แหละ ว่าตัวเองดูดแรงไป มันเกลี้ยงเกลาขนาดนั้นใครจะอดใจไหวล่ะ"??" พอใช้ลิ้นไปสักครู่เขาก็หยุดแล้วก็เดินไปเปิดไฟที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงาน ..หญิงสาวที่ถูกกระตุ้นอารมณ์มองตามไปแบบสงสัยว่าเขาหมดอารมณ์อีกแล้วเหรอ "???" แต่พอเห็นอีกฝ่ายหยิบอะไรมาสวมใส่ที่มือมันยิ่งทำให้เธอสงสัยไปกันใหญ่"นิ้วของเรามีเชื้อโรค ยิ่งตรงซอกเล็บ" พูดแค่นี้เธอคงจะเข้าใจ สิ่งที่เขาหยิบมาใส่ก็คือถุงมือแพทย์ไอยวริญอายแทบจะไม่กล้ามองอีกเมื่อรู้ว่าเขาสวมถุงมือมาเพื่ออะไร"อื้อ" นิ้วที่สวมใส่ถุงมือกันเชื้อโรค ค่อยๆ แทรกเข้ามาในร่อง พร้อมสายตาคมที่มองใบหน้าหวานของอีกฝ่าย เพราะตอนนี้ในห้องเริ่มมีแสงสว่างจากโต๊ะทำงานแล้วเสียงมือที่ขยับเข้าออก ค่อย
"อะไรนะ?" ได้ยินแบบนั้นพยาบาลยิ่งให้เข้าไปไม่ได้ พูดมาได้ยังไงว่าจะเข้าไปขอเงินจากคุณหมอ"ฉันเข้าไปได้ไหมคะ""ขอโทษค่ะ ฉันคงให้คุณเข้าไปไม่ได้"เอ้าา..บอกความจริงแล้วก็ไม่ได้เข้าไปอีก "ถ้างั้นฉันรอคุณหมอได้ตรงไหนคะ""เชิญนั่งรอตรงที่รอญาติด้านนอกเลยค่ะ"โห่..ไกลเลย แต่จะทำยังไงได้ ถ้าจะบอกว่าเธอเป็นอะไรกับเขา ก็กลัวว่าพยาบาลจะไม่เชื่อเดี๋ยวหาว่าเธอตู่อีก ต้องรอให้เขาเป็นคนยืนยันเองไอยวริญก็เลยต้องได้เดินไปรอตรงที่พยาบาลบอกขณะที่นั่งรอ..แน่นอนว่าต้องมีคนซุบซิบนินทากันแน่ แต่เธอก็ไม่แคร์ไม่สนใจ ใครจะพูดอะไรก็เชิญพูดไปเลย ถ้ารู้ความจริงแล้วกลับลำให้ทันแล้วกัน แอบตำหนิสามีในใจเล็กน้อยทำไมไม่แนะนำเธอให้กับลูกน้องได้รู้จัก"ฮัดเช้ย!""คุณหมอไม่สบายหรือเปล่าคะ" คนที่ถามก็คือพยาบาลที่อยู่ในห้องตรวจ"เปล่าหรอกครับ รู้สึกคันจมูกยังไงไม่รู้""คุณหมอพักผ่อนบ้างนะคะ คนไข้เหลืออีกไม่กี่คนแล้วค่ะ" พอคนไข้คนนี้ออกไปพยาบาลก็ตามคิวต่อไปเข้ามาจนถึงเวลาพักเที่ยง..คนไข้ที่รอตรวจในรอบบ่ายออกไปหาอะไรทานกันก่อน คุณหมอก็เช่นกัน พอเขาทำเอกสารเสร็จก็ออกมาจากห้องตรวจชายหนุ่มไม่ได้แวะคุยกับใคร เพราะคิดว่าจะข
"เออ.. มาหาคุณหมอเหรอคะ" ตอนนี้ข่าวของเธอคนรู้ทั่วทั้งโรงพยาบาล และคนที่ถามก็คือพยาบาลกะดึกที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์กับเพื่อนเลย แต่ก็ยังรู้..เพราะมีไลน์กลุ่มกัน"ค่ะ""คุณหมออยู่ในห้องนั่นแหละค่ะ""เขายังมีคนไข้เหรอคะ""เปล่าค่ะ""ถ้างั้นฉันขอไปพบเขาหน่อยนะคะ"พยาบาลยังบอกไม่หมดเลยว่าไม่ใช่คนไข้แต่เป็นญาติคนไข้ แต่ถึงยังไงก็ต้องได้อนุญาตให้เธอเข้าไปอยู่แล้ว เพราะเป็นคำสั่งของคุณหมอแกร็ก..ไอยวริญมาถึงหน้าห้องก็ถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไป เพราะพยาบาลบอกว่าเขาไม่มีคนไข้ "??"พอมีคนเปิดประตูเข้ามา เซอร์เวย์รีบชักมือออกจากที่วางอยู่ตรงไหล่ของผู้หญิงที่นั่งอยู่ในห้อง"ขอโทษค่ะไม่คิดว่าคุณหมอจะมี.." ไหนพยาบาลบอกว่าเขาไม่มีคนไข้ไง ดวงตาของเธอไม่ได้มองดูสามีเลย แต่มองดูผู้หญิงที่นั่งทำหน้าเศร้า คนที่สามีเธอปลอบอยู่เมื่อสักครู่"ผมติดคนไข้อยู่ ก็เลยยังไม่ขึ้นไป""เธอเป็นใครเหรอ" เธอคนที่นั่งทำหน้าเศร้า ถามนายแพทย์หนุ่มตรงหน้า"เมียเราเอง""เมีย?"ผู้หญิงคนนั้นดูหน้าซีดลงเล็กน้อยเมื่อรู้ว่าเธอเป็นอะไรกับเขา แต่ก็ปรับสีหน้าได้เร็วมาก"สวัสดีค่ะ""สวัสดีค่ะ ถ้าคุณติดงานอยู่ ฉันไม่กวนแล้วค่ะ" ผิดคาด
"ผมขอดูอาการคนป่วยแป๊บหนึ่งนะ นั่งรออยู่ตรงนี้" เซอร์เวย์พาเธอเดินไปนั่งลงที่โซฟาสำหรับรับแขกในห้องวีไอพีแห่งนี้นาตาลีมองไปด้วยสายตาที่บ่งบอกได้ชัดเลยว่าไม่ชอบใจ แต่พอเซอร์เวย์หันกลับมาสายตานั้นก็เปลี่ยนไป"ตอนตื่นมาเหมือนท่านจะคันแผล""คันแผลเหรอ หรือว่าแผลติดเชื้อ" ชายหนุ่มก็เลยเรียกพยาบาลให้นำที่ล้างแผลเข้ามาขณะที่นายแพทย์เซอร์เวย์กำลังตรวจเช็คแผลที่เพิ่งจะผ่าตัดไป พยาบาลแอบมองนาตาลีแบบไม่ปลื้มเลย เพราะถ้าแค่ทำแผลไม่ต้องถึงมือคุณหมอก็ได้"เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าเราจะมาดูใหม่" ทำแผลเสร็จเขาก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพยาบาลต่อ"เราจะรอนะ" พอประโยคนี้ออกจากปากของนาตาลี เซอร์เวย์ไม่ได้มองหน้าคนที่พูดเลย เขาหันมองไปดูภรรยาที่นั่งอยู่ในห้องนั้นด้วย"กลับกันได้แล้วครับ" ได้ยินเขาชวนไอยวริญก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาพอทั้งสองออกไปแล้วพยาบาลที่กำลังเก็บของอยู่ ก็คุยกันเหมือนอยากให้คนที่อยู่ในห้องนี้ได้ยินเรื่องที่ความรักของคุณหมอกำลังเบ่งบาน"ฉันได้ยินจากคุณหมอว่าเขายังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอคะ""ถึงยังไม่แต่งงาน..แต่คุณหมอก็แนะนำให้รู้จักในฐานะภรรยาแล้วนี่คะ" ที่จริงพยาบาลไม่ค่อยรู้อะไรมากมาย แต่เพร
"นั่งสิคะเรย์" นาตาลีขยับเก้าอี้ที่อยู่ฝั่งติดกับแม่ของเขาให้..ซึ่งมันเป็นคนละฝั่งที่ไอยวริญนั่งอยู่"ไม่เป็นไรหรอก" เขาไม่ได้หยุดนั่งเก้าอี้ตัวที่นาตาลีขยับให้ เซอร์เวย์เดินผ่านไปขยับเก้าอี้ข้างๆ ภรรยาแล้วนั่งลง "ไปช้อปปิ้งมาได้อะไรบ้าง""ได้..""ได้หลายอย่างเลย คุณแม่ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย" ไอยวริญยังไม่ทันได้ตอบเลยด้วยซ้ำ นาตาลีก็ชินตอบเสียก่อน "อุ้ย..ขอโทษเราพูดมากไปหรือเปล่า""แม่ว่าทานข้าวดีกว่า" พออาหารมาวางลง นางก็สั่งให้เพิ่มข้าวอีกที่หนึ่ง"เรย์ทานนี้ดูสิ อร่อยนะ" นาตาลีชิมอาหารดูแล้ว ก็รีบตักส่งมาให้เซอร์เวย์ได้ชิมดูบ้างไอยวริญหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ว่าจะไม่โกรธไม่งี่เง่า แต่มันใช่เรื่องไหม ที่จะมาทำต่อหน้าเธอแบบนี้"อืม..อร่อยจริงด้วย คุณลองทานสิ" ว่าแล้วชายหนุ่มก็เอื้อมไปตักอาหารที่เขาเพิ่งชิมวางลงใส่จานข้าวให้กับภรรยา ที่จริงเขาไม่ได้กินช้อนที่นาตาลีตักมาให้ แต่เขาตักใหม่"คุณแม่ก็ลองทานดูนะคะ ขนาดเรย์ยังชอบเลย" นาตาลีแก้เสียหน้าโดยการตักอาหารถ้วยนั้นส่งให้กับแม่ของเขา "แม่ไม่ชอบทานของแบบนี้ ขอบใจนะ""เหรอคะ" รู้สึกเสียหน้ากว่าเดิมอีก แต่ที่ตรงนั้นมันเคยเป็นของเธอมาก่
"วันนี้เดี๋ยวแม่จะพาเข้าโรงพยาบาลนะ""ไปทำไมครับ" ที่จริงคนเป็นแม่ไม่ได้คุยกับลูกชายหรอก นางคุยกับลูกสะใภ้ แต่คนที่ถามก็คือลูกชายที่ร่วมรับประทานอาหารกันอยู่"แม่ให้เมียเราฝากท้องกับแม่ ต้องได้เข้าไปทำเอกสารที่โรงพยาบาลด้วย" ที่นางต้องดูแลเองเพราะเป็นห่วงหลาน เรื่องอย่างว่าของลูกชายคนเล็กยิ่งเหลือเฟืออยู่"แล้วผมล่ะ""เราก็อยู่บ้านเป็นเพื่อนพ่อ""ไม่เอาผมจะไปด้วย""ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนพ่อหรอกไปด้วยกันนั่นแหละ" คนเป็นพ่อก็เลยช่วยพูดกับให้ลูกชายอีกแรง[โรงพยาบาล]"รันเวย์" ขณะที่ทั้งสามกำลังเดินเข้าไปในโรงพยาบาลก็ได้ยินเสียงนี้ดังมาจากประตูฝั่งทางออกที่อยู่ใกล้กัน"มาทำอะไรที่โรงพยาบาล" พอเห็นว่าเป็นใครรันเวย์ก็เลยหยุดคุยด้วย"คุณแม่ไม่สบาย" ขณะที่พูดสายตาของเธอมองดูหญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆ รันเวย์"แม่เราเอง""สวัสดีค่ะคุณแม่""สวัสดีจ้า หนูเป็นใครเหรอ" แพทย์หญิงอมรรัตน์อดไม่ได้ที่จะถาม เพราะเรื่องผู้หญิงลูกชายไม่ใช่ย่อย"คนนี้สโรชาครับแม่ เป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อครับ""เรียกโรสก็ได้ค่ะ โรสเคยรู้จักกับรันเวย์ตั้งแต่สมัยเด็กแล้วค่ะ""อ้าวเหรอจ๊ะ เป็นเพื่อนกันนี่เอง ส่วนคนนี้เมียเจ้าร
หลายนาทีแล้วที่แพทย์หญิงอมรรัตน์กอดปลอบลูกสะใภ้คนเล็ก ตั้งแต่ได้ยินที่ท่านพูด รัญณาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนสามีเป็นห่วงที่เธอร้องไห้เพราะสงสารลูกที่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กคงจะได้ยินความคิดของแม่ ที่คิดว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็ไม่ได้ หนีออกมาแบบนี้ถ้ากลับไปต้องถูกพ่อตีแน่ แต่ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปที่ไหนได้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี"ไม่ร้องนะลูก เราจะกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน""ค่ะ" ความคิดที่อยากจะหนีไปให้ไกล มันได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะถ้าแม่ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่ลูกก็ต้องรับรู้ได้หลายวันต่อมา.."หาปู่" ยิ่งเห็นว่าคุณปู่ไม่สบาย ปลาบปลื้มก็ยิ่งอยากเข้าไปหา ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขารู้ และเป็นห่วงคนที่พวกเขาผูกพันด้วย"ไม่ได้ครับ" ปิ่นมุกตำหนิลูกชาย เพราะปลาบปลื้มเล่นไม่รู้เรื่องกลัวไปถูกแผลของคุณปู่เข้า"ไม่เป็นไรหรอก มาให้ปู่ชื่นใจหน่อยเร็ว" ถึงวันนี้อาการของท่านก็ดีขึ้นมาก จนลุกมาทำกายภาพบำบัดได้แล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล"ปู่"ถึงแม้ท่านจะอุ้มหลานยังไม่ได้แต่ก็กอดและหอมแก้มได้ หลายคนที่อยู่ในห้องนั้น
"ที่พ่อพูดมาหมายความว่ายังไงครับ" รันเวย์ถามแม่และพี่ชาย เพราะตอนนี้พ่อหลับไปแล้ว"แม่ก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน" สายตาของผู้เป็นแม่มองไปดูลูกชายคนโต เพราะตอนนั้นเซอร์เวย์อยู่กับพ่อ"ก็เรื่องเด็กผู้หญิง ที่ท่านพูดก่อนหน้านั้นล่ะครับ""พ่อเราก็เลยคิดเป็นตุเป็นตะงั้นเหรอ""แต่ผมว่าไปตรวจไว้ก็ไม่เสียหายอะไรนี่ครับแม่" ถ้าคนที่พูดไม่ใช่พ่อหรือไม่ใช่คนในครอบครัว เขาคงจะบอกว่างมงาย แต่นี่พ่อซึ่งเป็นระดับอาจารย์หมอที่ทุกคนนับถือ ท่านคงรู้อะไรมาแน่"คงไม่ใช่หรอกค่ะ เพราะคุณรันให้ฉันกินยาคุม" หญิงสาวแค่อยากจะยืนยัน ว่ามันเป็นไปได้ยาก"เราให้เมียกินยาคุมเหรอ""จะรีบมีไปทำไมล่ะครับ ผมก็อายุแค่นี้เอง" เขาพูดตามสิ่งที่ตัวเองคิดเธอต้องทำสีหน้ายังไงเหรอ น้อยใจ ไม่พอใจ แต่เธอมีสิทธิ์อะไรไปทำกิริยาแบบนั้น หญิงสาวก็เลยทำได้แค่ยืนอยู่เฉยๆ เพื่อรอเวลา..เวลาผ่านไป..ตอนนี้ทุกคนออกมารออยู่ด้านนอก แต่ก็หาอะไรทานรองท้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว"แม่จะให้พี่เราย้ายพ่อไปไว้ในห้องพักฟื้นเย็นนี้" นางเห็นว่าลูกชายและลูกสะใภ้แถมยังมีหลานเล็ก ไม่ยอมไปพักในห้องที่เตรียมไว้ให้ เพราะทุกคนยังคงเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียู ก็เลยคิดว่าย้
"คุณพี่คะ คุณพี่"เซอร์เวย์ที่นั่งเอนหลับพักเอาแรง พอได้ยินแม่ส่งเสียงเรียกพ่อก็รีบตื่นขึ้นมา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วหรือครับ" ตั้งแต่พ่อประสบอุบัติเหตุ เขาก็ปล่อยมือจากงานทุกอย่างให้ลูกน้องเป็นคนทำ เพื่อที่จะได้ดูแลพ่อแบบใกล้ชิด จนไม่มีเวลาพักผ่อน แต่โชคดีที่ยังมีแม่ช่วยอีกแรง"เมื่อสักครู่แม่เห็นนิ้วของพ่อขยับ" ชายหนุ่มก็เลยรีบเข้าไปเช็คชีพจรของพ่อดู"คุณพ่อครับ คุณพ่อ" ชีพจรของท่านปกติมาก เหมือนว่าท่านแค่ไม่อยากจะลืมตา"หนู.." เสียงนี้ดังออกมาจากปากของท่านเบามาก แทบจะไม่ได้ยิน แต่ก็พอจับใจความได้ "หนู""หนูไหนคะคุณพี่ คุณพี่ตื่นสิ" สามียิ่งออกไปแต่สนามไดร์ฟกอล์ฟ ..หรือว่าจะมีอีหนูที่นั่น"คุณพ่อตื่นสิครับ" พอทั้งสองปลุกยังไงท่านไม่ยอมตื่น ก็เลยให้พยาบาลไปเรียกคนที่อยู่ด้านหน้าเข้ามา"คุณพ่อรู้สึกตัวแล้วเหรอครับ" นอร์เวย์รีบตรงเข้าไปหาพ่อ"เมื่อสักครู่ท่านละเมอ" ขณะที่เซอร์เวย์พูดก็แอบมองไปดูหน้าแม่ เพราะประโยคที่พ่อละเมอล่อแหลมมาก"ถ้างั้นแสดงว่าคุณพ่อฟื้นแล้วใช่ไหมครับ""หนู" ประโยคนี้ออกจากปากคนที่นอนไม่ได้สติอยู่บนเตียงอีกครั้ง ทุกคนแปลกใจยิ่งนักแทนที่จะละเมอชื่อลูกไม่งั้นก็ชื่อเมี
พอรู้ว่าลูกชายคนกลางไม่ได้พาลูกสะใภ้และหลานมาด้วย คุณย่าก็เลยให้คนขับรถไปรับมาจากสระบุรี"ปลื้มครับ" ผู้เป็นย่าเอื้อมมือไปเมื่อเห็นว่าหลานชายวิ่งเข้ามาหา"ปลาบปลื้มเบาๆ หน่อยสิลูก เดี๋ยวคุณย่าก็ล้มหรอก" ปิ่นมุกตำหนิลูกชายเบาๆ แต่ก็ไม่ทันหรอกเพราะตอนนี้วิ่งเข้าไปในอ้อมกอดของคุณย่าแล้ว "คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" เธอก็เลยเดินเข้าไปหาสามีที่ยืนอยู่หน้าห้องไอซียู"ยังไม่รู้สึกตัวเลย""ท่านพ้นขีดอันตรายแล้วไม่ใช่เหรอ" ปิ่นมุกเอื้อมไปกุมมือสามีไว้เพื่อให้กำลังใจทางโรงพยาบาลได้จัดหาโซฟามาให้ทุกคนได้นั่งรออยู่หน้าห้องแบบสบายหน่อยจนถึงช่วงเย็นของอีกวัน.."กลับบ้านกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมา" แพทย์หญิงบอกลูกชายให้พาเมียกลับบ้าน เพราะนั่งเฝ้ากันมาข้ามวันข้ามคืนแล้ว"รัญจะอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่ค่ะ""พวกเราก็จะอยู่รอจนกว่าคุณพ่อจะฟื้นค่ะ" ท่านดีกับพวกเธอขนาดนี้จะทิ้งท่านไว้แบบนี้ได้ยังไง"ขอบใจทุกคนมากนะ" เราใช้อะไรซื้อเราก็ได้อย่างนั้นกลับมา เหมือนดังแพทย์หญิงอมรรัตน์ ใช้ใจซื้อก็ได้ใจจากลูกสะใภ้กลับมา21 : 09 น."เดี๋ยวผมพาขึ้นไปนอน" นายแพทย์หนุ่มออกมาจากห้องของพ่อ ก็เห็นว่าภรรยาเอนตัวพิงกับโซฟา"ฉันอยากจ
"พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับพี่" ดูจากสภาพรถแล้วมันทำให้เขาใจไม่ดีเอามากๆ"ไม่ต้องเป็นห่วงนะ พี่จะช่วยพ่อให้ได้""พี่พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง""ตอนนี้พ่อยังไม่พ้นขีดอันตราย พี่กำลังจะโทรไปหาแม่" ที่เขาออกมาจากห้องผ่าตัดเพราะอยากโทรไปบอกแม่และน้องๆ ให้มาที่โรงพยาบาล"ผมอุตส่าห์เชื่อใจพี่ รอพี่อยู่ตรงนี้ ทำไมพี่พูดแบบนี้ รีบกลับเข้าไปช่วยพ่อสิ!" รันเวย์เริ่มใช้อารมณ์คุยกับพี่ชาย"แต่พี่.." นายแพทย์หนุ่มไม่เคยกดดันในการผ่าตัดมากขนาดนี้มาก่อน เพราะคนที่เขากำลังผ่าตัดอยู่คือบุพการี"เรื่องแม่กับพี่เวย์ เดี๋ยวผมจะจัดการเอง พี่กลับเข้าไปในห้องผ่าตัดช่วยพ่อให้ได้"เซอร์เวย์ไม่เคยเห็นน้ำตาน้องชาย มาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว แต่วันนี้รันเวย์ถึงกับมีน้ำตา เป็นใครก็ต้องมีอาการแบบนี้กันทั้งนั้น แต่เขาเป็นหมอจะอ่อนแอไม่ได้ ผู้เป็นพี่ชายก็เลยรีบกลับเข้าไปในห้องผ่าตัดเพล้ง!! โทรศัพท์ในมือแพทย์หญิงอมรรัตน์ร่วงกระทบพื้นอย่างแรงเมื่อได้รับข่าวร้ายจากลูกชาย"เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่" รัญณาก็ยืนอยู่ตรงนั้นด้วย เพราะเห็นว่าเป็นเบอร์สามีที่โทรมา ก็เลยอยากรู้ว่าเขาโทรมาทำไม"เราไปโรงพยาบาลกัน""ใครเป็นอะไรคะ" ดูจากอากา
"อื้อ คุณรัน" ถ้าถามต้องรอคำตอบสิว่าเธออยากจะขึ้นไหม แต่นี้ถามยังไม่จบเลยด้วยซ้ำก็ดันตัวเธอให้ขึ้นมาอยู่ด้านบนแล้ว "โอ๊ย เจ็บนะคะ เบาๆ หน่อยสิ""ถ้างั้นคุณก็ใส่เข้าไปเองสิ" คนที่นอนอยู่ด้านล่างพยายามจับของตัวเองเพื่อส่งเข้าไปในร่างกายอีกฝ่ายหญิงสาวรอบกลืนน้ำลายก่อนที่จะทำตาม ไม่ใช่แค่เขาหรอกที่ต้องการ เธอก็ต้องการไม่ต่างกัน"ซี๊ดด อ้าา ไม่ต้องกลัวผมเจ็บ นั่งทับลงมาเลย" เห็นว่าเธอพยุงร่างของตัวเองไว้ไม่กล้านั่งลงมาเต็มแรงหญิงสาวก็เลยค่อยๆ ให้มันกลืนหายเข้าไปในร่างกาย ถึงแม้เธอจะไม่เคยมาก่อน แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้ เพราะเพื่อนหลายคนมีแต่เกเรทั้งนั้น ยังจำได้เลยครั้งหนึ่ง เพื่อนยังหลอกให้เธอไปเพื่อจะมีเซ็กส์กับแฟนของตัวเอง โชคดีที่เธอหนีออกมาได้ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมารัญณาก็เลิกคบกับเพื่อนกลุ่มนี้ไปเลย"เคยเห็นคนขี่ม้าไหม ทำแบบนั้นแหละ" มือหนาเอื้อมไปจับสะโพกงามเพื่อช่วยเธออีกแรง"อ๊อยย จุก" จังหวะที่ทิ้งน้ำหนักลงมา เจ้าของท่อนเอ็นนั้นเด้งสะโพกขึ้นมารับ มันก็เลยเข้าไปเกือบจะสุดลำ"เดี๋ยวก็เสียว นั่งทับลงมาเต็มแรงเลย" ชายหนุ่มเห็นว่าเธอเก็บแรงไว้ไม่ทิ้งตัวลงมาทั้งหมดอีก ตอนที่
"ใครเป็นอะไร" แพทย์หญิงผู้เป็นแม่ ยังไม่ได้ยินเสียงเลยด้วยซ้ำ แต่เห็นลูกชายคนเล็กวิ่งเข้าไปก็เลยเดินตามมาดู"เปล่าค่ะไม่ได้เป็นอะไร" หญิงสาวรีบซ่อนมือไว้ด้านหลัง ที่จริงเธอร้องโอ๊ยออกมาเพียงแค่เบาๆ เพราะตกใจ แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีใครได้ยิน"เอามือมาดู""ก็บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรไง""แล้วจะซ่อนมือทำไม" คนที่วิ่งเข้ามาก่อนเพื่อน เอื้อมมือไปคว้ามือของเธอที่ซ่อนอยู่ออกมา "แดงเลย""ฉันว่าจะยกหม้อลงมาวาง แต่ไม่คิดว่ามันจะร้อนขนาดนี้นี่""แม่เพิ่งปิดแก๊สเอง" ขนาดคนทำยังไม่แตะเลย เพราะคิดว่ามันต้องร้อนแน่"แล้วอีกข้างล่ะ" ถ้าเธอยกมันต้องใช้มือสองข้างแน่ เขาก็เลยยื่นไปจับอีกข้างหนึ่งมาดู "ตามออกมา""คุณโกรธให้ฉันทำไม""ทำอะไรซุ่มซ่าม""มีอะไรเหรอ""ก็มือไปโดนหม้อร้อนๆ น่ะสิครับ" รันเวย์ตอบพี่ชายไป"ที่รถมีที่ทำแผลเดี๋ยวพี่ไปเอามาทำให้""ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ" เธอจะตกใจอะไรก่อนดี เกิดมาไม่เคยมีใครเป็นห่วงขนาดนี้ ตกบันไดบ้านแท้ๆ พ่อยังไม่ถามเลยว่าเจ็บไหม"เดี๋ยวผมทำเองครับ"เซอร์เวย์ก็เลยปล่อยให้น้องชายเป็นคนทำแผลเอง แต่เขาก็ยืนบอกอยู่ว่าต้องใช้ยาตัวไหนทาก่อนจากที่นึกอิจฉาพี่สะใภ้ ตอนนี้ไม่แล้ว เพราะดูเขา
"บ้านใครครับแม่""บ้านแม่เช่าไว้เอง" ดีนะที่ยังไม่คืนบ้านหลังนี้ไป สองครั้งแล้วสินะที่ออกจากบ้านมาเพราะสามี ครั้งนี้หวังว่าเขาคงจะคิดได้นะ นางก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ที่ไม่อยากจะให้ครอบครัวแตกแยก แต่ถ้าเจอสามีที่เอาแต่ใจแบบนั้นใครจะทนฝืนอยู่ต่อไปล่ะ"รัญขอโทษนะคะ" นอกจากคำนี้เธอไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว"แม่บอกแล้วไงว่าหนูไม่ผิด พ่อเจ้ารันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่พี่ชายทั้งสองแล้ว""คะ?""เจอทุกคน" รันเวย์พูดเสริมแม่ขึ้นมารัญณาก็เลยคิดว่าสองคนนั้นเจออะไร เพราะดูพี่สะใภ้ของเขาเป็นผู้ดีมาก แต่มองดูตัวเองสิ สมควรแล้วที่ท่านจะไม่ชอบ"อย่าคิดมากเลยลูก อยู่แบบนี้ก็อบอุ่นดีนะ" บั้นปลายชีวิตนางอยากจะอยู่แบบสงบเลี้ยงหลานๆ แต่เพราะสามีหน้าใหญ่ถือยศถือศักดิ์ ก็เลยไม่มีความสุขกันสักที"เข้าบ้านกัน" ว่าแล้วมือหนาก็เอื้อมไปจูงมือเธอให้เดินตามหญิงสาวมองมือนั้นแบบอบอุ่น ทำไมเขากล้าพาเธอออกจากบ้านหลังใหญ่ ในเมื่อเขาไม่ได้คิดพิศวาสอะไรในตัวเธอเลย ..ความคิดที่อยากจะไปให้ไกล ตอนนี้มันหายไปไหนไม่รู้ เพราะเธอเริ่มรู้สึกดีกับเขามากขึ้นเดินเข้ามายังไม่ได้นั่งเลยด้วยซ้ำก็ได้ยินเสียงรถวิ่งเข้ามาจอด"เดี๋ยวแม่ออกไปด