: เพียงขวัญฉันยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องเพื่อรอฟังข่าวจากพี่ฟางมือทั้งสองข้างก็ยังคงกุมเอาไว้ด้วยความหวั่นใจ สายตาของคุณธามก่อนเดินออกจากห้องไปมันทำให้ฉันหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก หรือฉันควรจะหนีไปเลยดี...ก็อกๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันสะดุ้งตกใจ ก่อนจะเดินออกไปเปิดมันเพราะหวังว่าคนด้านนอกจะเป็นพี่ฟาง แต่เมื่อประตูบานใหญ่เปิดออกกลับทำให้ฉันต้องเดินถอยหลังออกมาห่างอีกหลายก้าว เพราะคนที่อยู่ตรงหน้าฉันตอนนี้คือคุณธาม...เขาไม่พูดอะไรเพียงแค่เดินเข้ามาในห้องก่อนจะนั่งลงปลายเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่นราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้แต่คำพูดขอโทษก็ไม่มี! และเมื่อฉันมองออกไปสำรวจด้านนอกห้องก็ไม่เห็นมีใครอยู่แล้ว นั้นหมายความว่าตอนนี้ฉันอยู่กับคุณธามเพียงแค่สองคน ไม่ได้! ...นี่มันอันตราย ฉันรีบคว้ากระเป๋าแล้วตั้งท่าจะวิ่งออกไปแต่กลับช้ากว่าเจ้าของร่างสูงที่เอื้อมมือมาจับเข้าที่ข้อมือฉันไว้ได้เสียก่อน เขาบีบมันแรงๆ ก่อนจะกระชากแขนฉันจนร่างฉันเซล้มไปนอนพาดอยู่บนตักหนาเจ้าตัวยังไม่วายใช้แขนทั้งสองข้างโอบล็อกเอวเพื่อป้องกันการหนีของฉันไว้ด้วย"ปล่อย!""จะไปไหน นี่จะมืดแล้ว""เรื่
: กองถ่ายเมื่อคืนหญิงสาวต้องสลับห้องพักกับไนท์เนื่องด้วยเธอเผลอหลับไป ทำให้วันนี้เพียงขวัญที่ยังรู้สึกผิดจึงลงมือทำแซนต์วิชมาเผื่อไนท์เป็นการขอโทษ การทำงานเริ่มต้นไปด้วยดีทุกคนมืออาชีพกันมากและสภาพอากาศก็เป็นใจจนทำให้เซตภาพพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จไปอย่างรวดเร็ว จะเหลือก็แค่ถ่ายแก้ของเมื่อวานเผื่อไว้อีกเล็กน้อยงานวันนี้ก็เป็นอันเสร็จ"เธอมาคุยกับฉันหน่อย"เสียงหวานดังขึ้นใกล้ตัวทำให้เพียงขวัญละการสนใจจากบรรยากาศในกองถ่ายมามองหญิงสาวที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นเจ้านายแทน"ค่ะคุณโรส..."เพียงขวัญเดินตามโรสมายังจุดอับสายตาติดๆ ก่อนที่โรสจะหยุดเดินแล้วหันมาฟาดมือเรียวสวยนั้นลงบนใบหน้าหวานอย่างไม่ทันให้เพียงขวัญตั้งตัว มันแรงจนเกิดเสียงดัง เพี้ย!เพียงขวัญมองเธอด้วยความรู้สึกอึ้ง ที่อยู่ๆ คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนก็มาตบเธอแบบนี้ จริงอยู่ว่าเหตุการณ์เมื่อวานที่หญิงสาวตรงหน้าเห็นอาจจะทำให้เธอไม่พอใจแต่อย่างน้อยเธอก็ควรจะสอบถามความจริงก่อนสิ!"คุณโรส คุณไม่มีสิทธิ์ทำร้ายร่างกายฉันนะคะ!""แกก็ไม่มีสิทธิ์ยุ่งกับคู่หมั้นฉัน!""อย่างน้อยถ้าจะหึงก็ควรถามความเป็นมาก่อนหรือเปล่า ไม่ใช่มาโทษว่าฉันผิด""เห
ธามเดินหาผู้ช่วยสาวมาสักพักจนสายตาเขาหันไปเห็นเธอกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารริมทะเลกับเพื่อนรักอย่างสนิทสนม ธามพ่นลมหายใจขุ่นที่ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรออกมาหนักๆ ก่อนจะสาวเท้าตรงเข้าไปในร้านทันทีเมื่อเพียงขวัญเห็นเจ้านายกำลังเดินตรงมาที่เธอราวกับไม่พอใจจึงนึกขึ้นได้ว่านี่คงเลยเวลาเสร็จงานมาแล้วแน่นอน ทำเอาเธอต้องรีบกินข้าวในจานให้หมดและจะรีบกลับไปทำงานเธอเร่งรีบจนไนท์ที่มองอยู่ถึงกับต้องหยิบแก้วน้ำของตัวเองยื่นให้หญิงสาวเพราะแก้วของเพียงขวัญนั้นดื่มน้ำหมดแล้ว และเธอก็จัดการดื่มมันจนหมดอย่างลืมคิดไปว่าหลอดอันนั้นมันผ่านการดูดจากปากของไนท์มาแล้ว"โอ๊...ขอโทษค่ะ""ขอโทษอะไรพี่กลัวเราสำลักข้าวตายจะแย่""ทำอะไรกัน..."ยังไม่ทันที่เพียงขวัญจะตอบคำถามของเจ้านายมือหนานั้นก็คว้าเข้าที่ข้อมือเธออย่างแรงแถมยังกระชากให้เธอลุกขึ้นจนร่างของเธอชนเข้ากับไหล่ของเขาเต็มแรง"กินข้าวไง กินยังละ"ไนท์ตอบพลางตักข้าวเข้าปากอย่างไม่สนใจคนที่กำลังมีท่าทีโมโหเลยแม้แต่น้อย"...จะกลับแล้วไม่กิน"พูดจบร่างสูงก็คว้าเข้าที่แขนเพียงขวัญแล้วออกแรงกระชากให้เธอตามออกมาโดยที่เธอยังไม่ทันได้เอ่ยลาเจ้ามือมื้อนี้เลยด้วยซ้ำ ทำให
ก็อกๆ ก๊อกๆ"รู้แล้วค่าาา"หญิงสาวลากเสียงยาวเอ่ยบอกคนนอกประตูที่เอาแต่เคาะรั่วจนกลัวว่าคนข้างห้องจะด่าเอา เธอจำต้องละทิ้งเสื้อผ้าที่กำลังพับตรงมาเปิดประตูในทันทีใจก็คิดไปว่านี่คงจะเลยเวลาคืนห้องแล้วพนักงานจึงมาตาม แต่เมื่อเธอประตูเปิดออกเพียงขวัญก็ต้องแปลกใจ เพราะคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือเจ้านายของเธอแทนที่จะเป็นพนักงานตามที่คิด เขากำลังยืนเท้าเอวรอพร้อมกับถุงอะไรบางอย่างในมือ"ฉันเก็บของของคุณไปไว้ที่รถแล้วค่ะ ของฉันเหลือแค่พับเสื้อลงกระเป๋า คุณกลับก่อนก็ได้ค่ะ ถ้ารีบ"เพียงขวัญแจ้งรายละเอียดงานที่เธอจัดการไปแล้วพร้อมกับกำลังจะปิดประตู แต่ธามใช้มือของเขาดันบานประตูเอาไว้ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาในห้องด้วยความเร็วแสงแถมยังตรงไปนั่งลงที่โซฟานุ่มอย่างถือวิสาสะ"นอกจากจะแลกห้องกันนอน กินข้าวด้วยกันยังรอกลับกรุงเทพพร้อมกันอีก"น้ำเสียงประชดเอ่ยขึ้นทำเอาเพียงขวัญรับรู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้ตั้งใจมาหาเรื่องเธออีกแล้ว เธอจึงเลือกที่จะไม่พูดอะไรตอบโต้ก่อนจะเดินเลี่ยงไปพับเสื้อผ้าในห้องนอนต่อ ธามที่เห็นเพียงขวัญไม่ตอบหนำช้ำยังเดินหนีราวกับว่าเขาเป็นเพียงธาตุอากาศทำให้เขาเริ่มมีอาการไม่พอใจขึ้นมา ชายหน
: คอนโดทั้งสามคนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของธาม ธามพักอยู่ที่ห้อง 24/1 และเพียงขวัญพักที่ห้องของฟาง 24/2 ซึ่งไนท์ไม่ได้พักอยู่ที่ชั้นนี้เขาเพียงแต่อยากจะมาสุ่มไฟหวงเพื่อแกล้งเพื่อนรักเล่นเท่านั้น "ยังยืนอยู่อีก ทำไมไม่กลับห้องสักทีละ""มาส่งเพียงก่อนไง จะได้ไม่โดยคนแถวนี้แกล้งเอา"ไนท์พูดพร้อมกับหันไปยิ้มให้เพียงขวัญ ธามได้แต่ถอนหายใจทิ้งแล้วจัดการปิดประตูห้องตัวเองอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง ทำเอาไนท์และเพียงขวัญสะดุ้งไปตามกัน ตลอดทางกลับกรุงเทพเพียงขวัญที่นั่งเบาะหลังรับรู้ได้ว่าถูกสายตาคนขับจ้องมองตลอดทางแถมสายตานั้นจะเปลี่ยนเป็นดุดันทุกครั้งที่เธอคุยกับไนท์ จนเธอต้องแก้ปัญหาด้วยการนอนมาตลอดทั้งทางเสียเลย"ขอบคุณมากนะคะพี่ไนท์ที่เป็นห่วง""พี่แค่อยากดูคนบ้าเท่านั้น เราเข้าไปพักเถอะ...""โอเคค่ะ""ไปนะ ถ้ามีอะไรห้องพี่อยู่ชั้นบน 25/2 ตรงกับห้องเราพอดี"ไนท์พูดก่อนจะขยี้เขาที่ผมของเพียงขวัญอย่างเอ็นดู จนเจ้าตัวรีบโวยวายเพราะกลัวว่าผมจะเสียทรงแต่ยิ่งเธอทำหน้างอมากเท่าไรเขาก็ยิ่งแกล้งเธอโดยการขยี้มันให้ยุ่งกว่าเดิม "พี่ไนท์ผมเพียงยุ่งหมด""งั้นพี่ไปนะ"ชายหนุ่มยิ้มอบอุ่นก่อนจะเดินกลับห้องตัว
"มานี่ถือให้"ระหว่างเดินเข้าคอนโดอยู่ๆ ธามก็เอ่ยขึ้นมาก่อนจะคว้าเอากระเป๋าในมือของเพียงขวัญไปถือแล้วเดินจ้ำอ้าวตรงไปยังหน้าประตูลิฟต์...อารมณ์ดีอะไรของเขา?...เพียงขวัญเผลอนึกในใจเพราะเขาไม่เคยคิดจะช่วยเธอถือของแบบนี้มาก่อน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่ว่าเธอจะแบกช้างม้าวัวตัวใหญ่แค่ไหนเขาก็ไม่เคยถาม ทำให้เธอแปลกใจไม่น้อยที่เขาใจดีกับเธอขึ้นมาเสียอย่างนั้น"เอ้า ถึงพร้อมกันเลยนะ"ระหว่างที่ทั้งสองกำลังยืนรอลิฟต์อยู่ด้วยกัน ร่างสูงของไนท์ก็เดินมายืนหยุดอยู่ข้างเพียงขวัญเธอที่ได้เห็นชายหนุ่มก็ส่งยิ้มให้ตามปกติผิดกับชายหนุ่มข้างกายที่เมื่อครู่ยังอารมณ์ดีแต่ตอนนี้กลับมีสีหน้าบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด"ทำไมมาเร็วจังคะพี่ไนท์ ไหนว่าเลิกงานดึก""เสร็จเร็วน่ะ ว่าแต่เราทำไมกลับช้าจัง"ไนท์คุยกับเพียงขวัญราวกับไม่มีธามอยู่ตรงนี้"อ่อ คุณธามพาไปกินข้าวมาค่ะ""หืม? ไอ้ธามน่ะเหรอ"ไนท์ถามซ้ำอย่างไม่เชื่อหู เพราะตามนิสัยของเพื่อนตัวเองแล้วเขาไม่เคยเห็นเพื่อนไปกินข้าวตามร้านอาหารถ้าไม่จำเป็น เพราะทุกครั้งที่ไปก็มันจะถูกถ่ายรูปไปทำข่าวหรือไม่ก็ถูกผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายจนรำคาญ แต่วันนี้เพื่อนรักตัวดีกลับพาผู้ช่ว
!!!!"ฉัน...""ลองดื้อดูเพียงขวัญ"มือหนาเอื้อมมาจับเข้าที่แก้มเนียนของเพียงขวัญก่อนที่ใบหน้าคมหล่อจะเลื่อนเข้ามาใกล้จนริมฝีปากนุ่มนั้นแนบชิดกับริมฝีปากของหญิงสาวมือทั้งสองข้างของเธอถูกมือเพียงข้างเดียวของชายหนุ่มรวบไว้ได้ด้วยมือเดียว แถมร่างสูงยังโน้มตัวเข้ามาเบียดเสียดจนเพียงขวัญต้องขยับตัวพยายามหนีแต่โชคร้ายหลังของเธอชนเข้ากับที่วางแขนของโซฟานุ่มจนต้องจำยอมลองรับอารมณ์โทสะ"อือ อือ"ริมฝีปากอวบนวดคลึงริมฝีบางเล็กไปมาราวกับกำลังนวดแป้งทำขนม เขาทั้งดูดแล้วบดมันลงมาอย่างเชี่ยวชาญแฉะ !เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นทำเอาเพียงขวัญรีบหันไปมองตามเสียง ภาพตรงหน้าคือมือข้างที่เคยจับแก้มของเธอกำลังถือโทรศัพท์ถ่ายรูปการจูบของทั้งสองคนอยู่! นั้นยิ่งทำให้เพียงขวัญสติแตกตีเข้าที่แผงอกล่ำอย่างแรงรัวๆ"ทำไม..."ชายหนุ่มละริมฝีปากออกห่างก่อนจะค่อยๆ แสยะยิ้มออกมาด้วยความพอใจเมื่อได้เห็นใบหน้าตื่นตระหนกของเพียงขวัญ"ทำอย่างนั้นทำไม ลบเลยนะ""เพื่อแบล็กเมล์เธอยังไงละ เด็กดื้ออวดดีแบบเธอถ้าไม่มีข้อผูกมัดคงไม่ยอมฉันง่ายๆ""คุณต้องการอะไร"ใบหน้าสาวน้อยเริ่มมีท่าทีบึ้งตึงมากขึ้นไปอีก"เลี้ยงเธอ....""หมายความว่า
เช้าวันรุ่งขึ้นชายหนุ่มยังคงนอนมองใบหน้าหวานหลับตาพริ้มในสภาพไม่เหลือสิ่งปกปิดร่างกาย เมื่อคืนนี้เธอคงเมามากถึงได้นอนหลับจนไม่รู้เรื่องว่าเขาเกือบจะขืนใจเธอแล้ว ผิดกับเขาที่นอกจะนอนไม่หลับแล้วยังรู้สึกหงุดหงิดทั้งคืนอีกด้วยพอนึกถึงคำพูดที่เอ่ยเป็นชื่อชายอื่นแบบนั้นมันก็ทำให้ชายหนุ่มอยากจะปลุกคนตัวเล็กนี่ขึ้นมาสอบถามให้รู้เรื่อง เขาแกล้งดีดเบาๆ ที่หน้าผากมนก่อนจะนั่งจ้องรอดูปฏิกิริยาของหญิงสาว"อือ อะ"ร่างเล็กบิดขี้เกียจทั้งที่ยังไม่ลืมตาแต่อยู่เธอก็ต้องนิ่งไปเมื่อรู้สึกเจ็บแปลกๆ ที่หว่างขาจนต้องบิดตัวลุกขึ้นมาช้าๆเมื่อนั่งตัวตรงได้ที่ร่างกายที่เปลือยเปล่าก็รับรู้ได้ถึงความเย็นของอุณหภูมิห้องที่มันแปลกไป ดูแล้วเหมือนว่าเมื่อคืนเธออาจจะเมาจนถอดเสื้อผ้าเองแต่ทำไมเธอกลับรู้สึกว่ามันไม่ปกติ เมื่อลองมองไปรอบกายสายตาก็หันไปพบเข้ากับดวงตาคมกริบที่นอนถอดเสื้อผ้ามองเธอนิ่งอยู่บนเตียงเดียวกันแถมเขายังมีท่าทีไม่สบอารมณ์มากเสียด้วย เท่านั้นใจของเพียงขวัญก็หล่นวูบ แสดงว่าเมื่อคืนที่เธอเจ็บช่องทางรักคงเพราะเธอกับเขามีความสัมพันธ์เกินเลยกันแน่นอนคิดได้แค่นั้นเธอก็รีบลุกขึ้นจะเดินไปสงบสติอารมณ์
: ร้านนะโมเพื่อนทั้งสองเรียกตัวเพียงขวัญมาที่ร้านทันทีที่ได้เห็นข่าวการคบหาต่างวัยของนายแบบหนุ่มอันดับหนึ่งและผู้ช่วยสาวที่ดังไปทั่วอินเทอร์เน็ต แต่เพื่อนสนิทอย่างเขาสองคนกับไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองคนกอดอกนั่งมองตัวการที่กำลังยิ้มแห้งๆ โดยไม่ยอมพูดอะไรจนนะโมต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน"ยังไม่อธิบายมาอีก ในข่าวนั้นมันหมายความว่ายังไง""ก็ตามนั่นแหละ ก็คบกันสักพักแล้ว""แล้วไม่คิดจะบอกเพื่อนอย่างพวกเราเลยหรือไง?"นกยูงโวยขึ้นอีกคน"ก็ไม่รู้ว่าจะคบกันนานไหมเลยไม่บอก กลัวหน้าแตกที่มีแฟนฮอตขนาดนั้นอีกอย่างฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าเขาจะให้ข่าวด้วยตัวเองแบบนั้น"เพียงขวัญพูดแล้วทำท่าทีเขินอายจนเพื่อนสองคนต้องกลอกตามองบน ไอ้ประโยคที่พูดมาเมื่อครู่นั้นไม่ต่างจากการอวดเลยสักนิด ทำให้นกยูงถึงขั้นหมั่นไส้ทำท่าทางล้อเลียนเธอจนเจ้าตัวต้องตีเข้าที่ไหล่ของเพื่อนสาวเป็นการแก้เขิน"แล้วนี่บอกแม่กับพ่อยัง? เขาจะตกใจไหมเนี่ยอยู่ๆ ก็มีแฟนแถมเป็นคนดัง อีกอย่างอายุพวกเธอก็ห่างกันด้วย"นะโมพูดพร้อมกับมองเพื่อนสาวที่มีสีหน้ากังวลขึ้นมาเพียงเท่านั้นเขาก็รู้ได้ทันทีว่าเธอยังไม่ได้บอกครอบครัว"ยัยบ้าแล้วอย่างนี้พ
ธามยังคงนั่งมองรูปของน้องสาวอยู่ในห้องด้วยความรู้สึกคิดถึงจนเพียงขวัญต้องเดินเข้ามาสวมกอดเขาเข้าที่ด้านหลังเบาๆ หลังจากที่เรื่องทุกอย่างผ่านไปธามก็ขอให้เพียงขวัญเขามาอยู่ที่บ้านเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ของเขาที่สภาวะอารมณ์ยังไม่คงที่ อย่างน้อยถ้าพวกท่านได้เห็นหญิงสาวที่สดใสอย่างเพียงขวัญอาจจะรู้สึกดีขึ้น "พี่ดีขึ้นหรือยังคะ?""พี่อ่อนแอได้ที่ไหนล่ะ""พี่อ่อนแอได้ตลอดนะ มีหนูอยู่ข้างๆ ทั้งคนจะร้องไห้ก็ได้หนูไม่ว่าหรอกไม่ล้อด้วย"เพียงขวัญพูดพร้อมกับโยกตัวไปมาเพื่อเอาใจคนตัวสูง ธามเองก็รู้สึกดีขึ้นจนต้องหันมากอดขอบคุณเพียงขวัญที่คอยอยู่ข้างๆ เขามาจนถึงวันนี้ แถมยังคอยดูแลพ่อและแม่ของเขาให้อีกด้วย"ขอบคุณนะ...หนูน่ารักที่สุดเลย""แน่นอนอยู่แล้ว""ถ่อมตัวบ้างก็ได้นะหนูเพียง"ธามพูดพร้อมขยี้ผมเพียงขวัญเบาๆ ด้วยความเอ็นดูจนคนถูกแกล้งโวยวายใหญ่ที่เขาทำทรงผมเธอเสียทรง ช่วงนี้ธามยังอยู่ในช่วงลาพักร้อนทำให้พวกเขามีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นและฟางก็เข้าใจเพราะตอนที่ทางบริษัทรู้ข่าวทุกคนก็ต่างตกใจจนต้องเคลียร์a dตารางงานให้ธามทั้งหมดทั้งคู่ตกลงจะคบหากันต่อไป และจะบอกทุกคนหลังจากที่สภาพจิตของครอบครัวธามดี
:ธามหลังจากที่จัดการเรื่องในงานเสร็จผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวเพื่อดูอาการพ่อกับแม่ที่นั่งรออยู่ด้านใน ผมถอนหายใจทิ้งด้วยหัวใจที่หวาดหวั่นเพราะไม่อยากจะเห็นภาพของพ่อและแม่ที่กำลังทุกข์ใจจนไม่กล้าที่จะเปิดประตูเข้าไป...จนมือเล็กๆ ของคนที่ยืนอยู่ข้างๆ จับเข้าที่แขนผมเบาๆ เป็นการให้กำลังใจก่อนที่เธอจะส่งยิ้มให้ผมเป็นการปลอบโยนแล้วส่งสัญญาณให้ผมเข้าไปดูพวกท่าน "เธอรอฉันอยู่ตรงนี้ก่อนนะ...""ฉันจะรอคุณตรงนี้ค่ะไม่ต้องกังวล"ผมสวมกอดเพียงขวัญครั้งหนึ่งเป็นการขอกำลังใจก่อนจะเปิดประตูเข้าไปหาคนเป็นพ่อแม่ ซึ่งตอนนี้ตรงหน้าผมก็คือภาพพ่อที่กำลังกอดแม่ไว้ในอ้อมกอดแน่นและท่านทั้งสองคนกำลังร้องไห้... ผมจึงคลานเข้าไปนั่งตรงหน้าทั้งสองคนแล้วกอดท่านไว้เช่นกัน"ผมขอโทษที่ทำให้ต้องรู้เรื่องนี้""มันถูกต้องแล้วลูก ลูกช่วยท้วงความยุติธรรมให้น้องมันถูกต้องแล้ว"พ่อลูบเข้าที่ไหล่ผมเบาๆ ก่อนที่แม่จะค่อยๆ เอื้อมมือมาปาดน้ำตาที่ไหลออกมาให้ผม"ลูกรู้มานานขนาดนั้น แถมยังต้องปิดบังเพราะกลัวพ่อแม่เป็นทุกข์...ลูกต้องทุกข์ใจคนเดียวขนาดนั้นแม่ขอโทษนะ""แม่อย่าร้อง..."ผมโผล่เข้ากอดคนเป็นแม่แน่น"ถึงธันย่
: เพียงขวัญงานหมั้นเริ่มขึ้นด้วยบรรยากาศที่ดูครึกครื้นแขกในงานเต็มไปด้วยนายแบบและนางแบบชื่อดังแถมยังมีบรรดาไฮโซเต็มงานไปหมด ทุกคนดูยิ้มแย้มแจ่มใสและดีใจกับคู่รักในวันนี้จะเว้นก็แต่ชายหนุ่มที่ต้องยืนต้อนรับแขกอยู่หน้างานที่ตั้งแต่เช้ายังไม่มีใครได้เห็นรอยยิ้มของเขาเลย นอกจากเขาจะมีสีหน้าเรียบเฉยแล้วดวงตายังเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัดจนฉันเป็นกังวล"หนู...ใช่ผู้ช่วยเจ้าธามไหม"ฉันหันไปมองตามเสียงเรียกจากด้านหลัง หญิงสาววัยกลางคนที่มีท่าทางสง่าและสูงศักดิ์กำลังยืนยิ้มให้ฉันอยู่ด้วยรอยยิ้มที่สดใสถ้าให้เดาจากโครงหน้าที่เด่นชัดนี่คนคนนี้คงจะเป็นแม่ของคุณธาม"ใช่ค่ะ"ฉันรีบยกมือไหว้ท่านทันทีก่อนจะยิ้มตอบอย่างนอบน้อมก่อนที่จะชายวัยกลางคนจะเดินเข้ามาร่วมวงสนทนา เขาคงจะเป็นคุณพ่อของคุณธามฉันเลยแนะนำตัวไปคร่าวๆ ว่าฉันเป็นเพียงผู้ช่วยของเขาทำให้ทั้งคู่ชื่นชมฉันยกใหญ่ที่สามารถดูแลคนเรื่องมากอย่างเขาได้"ตอนเด็กน่ะนะ ตาธามนี่กินยากอยู่ยากชอบอยู่คนเดียวไม่ค่อยพูดจากับใคร ไม่คิดว่าโตมาจะได้เป็นนายแบบเบอร์หนึ่งดังขนาดนี้"คนเป็นแม่พูดพร้อมกับมองคนที่ถูกพูดถึงด้วยสายตาภูมิใจ"ตอนนี้เขาดังมากเลยค่ะคุณน้า"ฉั
: งานหมั้นธามยืนจ้องเมียสาวที่กำลังแต่งตัวให้เขาด้วยใบหน้าที่เศร้าหมอง เขาไม่สามารถเก็บความเจ็บปวดนี้ไว้ได้เลย เพียงขวัญเองก็ไม่ต่างกันเธอกำลังสวมสูทให้คนรักอย่างอ่อนโยนแม้ในใจมันช่างทรมานสุดแสนจะบรรยายได้ ฟืบร่างสูงของธามสวมกอดเพียงขวัญแน่นจนได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน เพียงขวัญเองก็ได้แต่เอื้อมมือไปลูบหลังคนรักอย่างปลอบโยนด้วยความเข้าใจ สุดท้ายแล้วไม่ว่าเขาจะเลือกหมั้นเพราะอะไรเธอก็พร้อมจะปล่อยเขาไป"เวลามันผ่านไปเร็วมากเลย...""เวลาเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ค่ะ""เธอทรมานเหมือนฉันไหม?""ฉันเลือกอะไรไม่ได้ค่ะ สุดท้ายคุณก็ไม่ใช่ของฉัน"เพียงขวัญพูดอย่างพยายามอดกลั้นความเสียใจที่มันปนออกมาพร้อมกับน้ำเสียงสั่น แต่เหมือนธามจะรับรู้ได้ว่าเธอเสียใจมากจึงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอย่างหวงแหน"หลังจากหมั้น ฉันจะถอนหมั้นทันทีถึงตอนนั้นเธอจะยังไม่กลับมาก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะพยายามจีบเธอใหม่""อย่าเลยค่ะ คุณคิดจะหมั้นแล้วคุณก็ต้องอยู่กับเธอให้นานๆ สิ""มันไม่ใช่ความต้องการของฉันแล้วเพียงขวัญ เธอคือคนที่ฉันต้องการไม่ใช่โรส แต่ฉันไม่บังคับเธอนะเธอรอดูพฤติกรรมฉันก่อนก็ได้""คุณพูดอะไรของคุณ"เพ
: เพียงขวัญหลังจากที่คุณธามออกไปหาพี่ไนท์ที่ร้านอาหาร ฉันก็แอบมาพบกับพี่มอสอีกครั้งโดยที่ไม่ได้บอกใครเขาส่งข้อความมานัดฉันตั้งแต่เช้าโชคดีที่คุณธามไม่รู้ไม่อยากนั้นเขาคงไม่ให้ฉันมาแน่ ที่มาวันนี้ไม่ใช่เพราะฉันยังเหลือเยื่อใยอะไร แต่ฉันคิดว่าการที่ฉันไม่พูดหรือตัดความสัมพันธ์อย่างตรงไปตรงมาจะยังทำให้เขาคิดว่ายังมีโอกาสกลับไปคบกันได้อีก เพราะหลายวันที่ผ่านมาพี่มอสยังคงส่งข้อความราวกับว่าเรายังเป็นคนรักกันอยู่มันเหมือนกับว่าเขาคิดจะรอฉัน"พี่มอสมานานหรือยังคะ?"ฉันถามขึ้นก่อนจะนั่งลงตรงเก้าอี้ตรงข้ามเขาและพบว่าบนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารที่ฉันชอบหลายเมนู และนั้นทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขากำลังพยายามเอาใจฉันอยู่ "ไม่นานหรอก ทานเลยสิเดี๋ยววันนี้ต้องไปทำงานไม่ใช่เหรอ?""อาทิตย์นี้เพียงพักค่ะ พอดีคุณธามเขาต้องเตรียมตัวหมั้นตารางงานเลยว่างค่ะ"ฉันพูดออกไปด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบราวกับไม่รู้สึกอะไร แต่อันที่จริงแล้วในใจของฉันมันยังเจ็บไม่น้อยเลยที่ต้องยอมเห็นคนที่ตัวเองรักไปเป็นของคนอื่น แต่จะทำยังไงได้ละนอกจากทำมันให้ดีที่สุดก่อนจะจากกัน"หลังจากนั้น...เพียงจะทำยังไงต่อละ?""หมายถึงอะไรคะ?""หลังจากค
เพียงขวัญถูกบังคับให้กลับมาอยู่รวมห้องกับธามจนได้ โดยที่เธอบอกกับเขาว่าถ้าเขาล่วงเกินเธอทุกอย่างจะจบทันที และต่อจากนั้นเขาจะทำอะไรเธอก็จะไม่สนใจแต่ความจริงที่เธอต้องตั้งกฎแบบนี้เป็นเพราะกำลังกลัวใจตัวเองเสียมากกว่า ทำให้ธามไม่มีทางเลือกยอมตกลงทันทีตอนนี้ขอแค่เขาได้อยู่กับเมียสาวทั้งวันก็พอแล้ว "ทำอะไรอยู่..."ร่างสูงโผล่กอดเพียงขวัญจากด้านหลังที่กำลังจัดเสื้อผ้าสำหรับหนึ่งอาทิตย์เข้าตู้ เธอยังคงยืนนิ่งปล่อยให้เขากอดได้ตามใจด้วยความรู้สึกที่พยายามจะปกปิดความเจ็บปวดและความหวั่นไหว ธามเมื่อเห็นท่าทางของเพียงขวัญที่ดูเฉยชาก็จับเข้าที่มือทั้งสองข้างของเธอก่อนจะบังคับให้ร่างเล็กหันมาเผชิญหน้ากับตัวเองตรงๆ"คุณจะทำอะไร?""ขอได้ไหม? อย่าเฉยชากับฉัน ขอร้องนะ"เสียงอ้อนวอนจากชายหนุ่มทำให้เพียงขวัญแทบจะคลุมหัวใจตัวเองไว้ไม่ไหว"คะ?""อีกอาทิตย์เดียวเองเพียงขวัญ ฉันขอให้เธอรักฉันแค่อาทิตย์เดียว"ธามส่งสายตาอ้อนวอนให้เมียสาวเห็นใจ"แต่มันจะมีประโยชน์อะไรคะ ในเมื่อคุณก็ยังเป็นคนมีเจ้าของอยู่ดี""มีสิ อย่างน้อยเธอก็ยังคิดถึงช่วงเวลานี้และมันก็จะเป็นช่วงเวลาที่ฉันจะเก็บไว้ตลอดไป ฉันอยากให้เธอเข้าใจสิ่
: ร้านนะโม : เพียงขวัญ หลังจากลางานไปสงบสติอารมณ์วันนี้ก็เป็นวันที่ฉันจะต้องยอมรับความจริง นั้นคือฉันยังต้องกลับมาเป็นผู้ช่วยของเขาต่อและแน่นอนฉันใช้เวลาร้องไห้ส่งท้ายไปทั้งวัน ตอนนี้เรียกว่าพร้อมที่จะเผชิญกับทุกอย่าง! นับไปนับมามันก็เหลืออีกแค่เดือนเดียวที่ฉันจะฝึกงานเสร็จฉันตั้งใจไว้ว่าหลังจากนั้นจะลาออกไปหางานสายอื่นทำเพราะไม่อยากจะเจอหน้าเขาอีกแค่ต้องเห็นรูปตามโฆษณาก็เจ็บปวดจะแย่ "ได้แล้วครับ ลาเต้หวานๆ ของเพื่อนรัก แล้วก็นี่กาแฟดำของพี่มอสครับ" ฉันรับลาเต้มาจากนะโมแล้วรีบดื่มเพื่อเพิ่มพลัง จนทั้งนะโมและพี่มอสมองกันเป็นตาเดียว "ค่อยๆ ดื่มสิ เหลืออีกตั้งครึ่งชั่วโมงจะเข้างานนะไม่ต้องรีบ" พี่มอสบอกพร้อมกับมือที่ยืนมาดึงแก้วลาเต้ออกไป นะโมเมื่อเห็นแบบนั้นก็เอาแต่ยิ้มมีเลศนัยแซวฉันใหญ่ก่อนจะรีบปลีกตัวออกไป แต่มันกลับไม่ใช่อย่างที่เขาคิดหรอก... ตลอดหลายวันที่ฉันลางานไปอยู่คนเดียวฉันได้ทบทวนอะไรมากมายจนฉันได้คำตอบหลายอย่างและหนึ่งในคำตอบของฉันมันก็มีเรื่องของพี่มอสและฉันเชื่อว่าเขาก็รู้คำตอบของฉันดี "มันช่วยให้รู้สึกดีนี่หน่า" "...แล้วแน่ใจเหรอว่าพร้อมกลับไปทำงาน" "ค่ะ ..."
'เธอลืมโน๊ตบุ๊ค มาเอาที่ห้องได้เลยฉันกลับไปอยู่ห้องฉันแล้วไม่ต้องห่วง'...คุณธาม...เพียงขวัญอ่านข้อความด้วยความแปลกใจ เป็นเพราะเธอรีบเก็บห้องย้ายออกมาแท้ๆ ทำให้ลืมนึกถึงของสำคัญขนาดนั้นได้เขาคงกลับไปหาเธอที่ห้องนั้นแล้วเห็นมันเข้า..."เป็นอะไรไปเพียง ข้าวไม่อร่อยเหรอ""เปล่าค่ะ"มอสที่นั่งอยู่ตรงข้ามเอ่ยขึ้น ในใจเขารู้สึกกังวลไม่น้อยที่อดีตคนรักมีอาการราวกับว่าไม่ได้ดีใจที่เขากลับมา ยิ่งไปกว่านั้นอาการของธามที่แสดงออกมาในห้องประชุมมันเหมือนกับว่าทั้งสองคนรักกัน... มันทำให้เขาร้อนใจอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะรู้ดีว่าเป็นความผิดของตัวเองทั้งนั้นที่เลือกทิ้งคนรักไปแต่ใจหนึ่งก็อยากจะแย่งเพียงขวัญกลับมาเพราะเขาเองก็ไม่สามารถลืมผู้หญิงคนนี้ได้จริงๆ "ไม่สบายใจที่พี่กลับมาหรือเปล่า?...""เปล่าค่ะ พี่มอสคือว่าเพียงลืมของจะต้องกลับไปเอาที่ห้องก่อน""ให้พี่ไปด้วยสิ""ไม่เป็นไรค่ะ"ยังไม่ทันที่มอสจะได้ถามอะไรต่อร่างเล็กก็ลุกขึ้นและเดินออกจากร้านอาหารไปอย่างกับว่าเรื่องที่เธอต้องไปทำมันสำคัญกว่าเขาที่เพิ่งกลับมา มือหนานั้นค่อยๆ กำเข้าหากันด้วยความเจ็บปวดที่หัวใจเพราะเขารู้ดีว่าที่เพียงขวัญกระตือรือร้น