“รเร็วกว่านี้” เดนีสยันแขนแต่เอวก็เคลื่อนไหวเนิบช้าแต่ออกสุดตอกจนสุดเช่นกันวินตราแหงนหน้าเมื่อส่วนล่างถูกบดขยี้บี้ซ้ำๆจนสุดโคนจนรู้สึกถึงเส้นขนหยาบแข็งๆกระทบแก้มก้น
“เรียกที่รักก่อนสิ” เดนีสซุกที่ซอกคอวินตราพร้อมกับขมเม้มเบาๆก่อนจะงับติ่งหูขาวนั้นดูดดึงจนวินตราครางไม่เป็นภาษาจะหนีไปไหนก็ไม่ได้เดนีสยกยิ้มมุมปาก ‘ติ่งหู’ เป็นอีกจุดที่ไวต่อสัมผัสของคุณเลขาคนสวย
วินตราเม้มปากแน่นจนเอื้อมมือไปกำผมของไอ้ประธานเฮงซวยที่ทำตัวขบถแม้กระทั่งจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้
“อึก” เดนีสหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระชาก
“แม่งนี่นายเล่นกระชากหัวผัวตัวเองเลยเหรอฉันก็ปรนเปรออยู่นี่ไงที่รัก…อย่าใจร้อน” แถมยังแลบเลียริมฝีปากอย่างมาดร้ายเขาสะบัดหัวจากการกอบกุมจัดท่าขาสองข้างพาดบ่าวินตราตอนนี้ตัวจะม้วนกลับหลังอยู่แล้ว
“เอาล่ะทำใจดีๆฉันจะแทงไปจนถึงแกนโลกเลยล่ะ”
“อะไอ้!” เดนีสเหมือนนั่งยองแทงซ้ำๆดั่งปากว่าจุดกระสันถูกแทงซ้ำๆอย่างนั้นวินตรากัดปากตัวเองอย่างแรงความเสียวตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก
“มะไม่ไหว” วินตราส่ายหน้าสะบัดไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด
จังหวะที่เร็วและแรงขึ้นส่งทั้งตัวเองและวินตราไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็ว
“ซี้ด” เดนีสครางเครือด้วยความพอใจเมื่อฉีดพ่นเมล็ดพันธุ์ในช่องทางที่ตอดตุ๊บๆแถมยังอุ่นสุดๆน้ำคาวกามฉีดพ่นไม่หยุดจนวินตรารับรู้ถึงของเหลวนั้นท่านี้ตัวเขาเองเหมือนตัวอะไรสักอย่างที่แทบจะม้วนตัวไปข้างหลังอยู่แล้วไอ้บ้านี่ก็ช่างสรรหาท่าทางเสียจริง
เขารู้ว่าเดนีสเป็นคาสโนว่ามาก่อนแต่ไม่คิดว่าจะช่ำชองขนาดนี้อีกอย่างถ้าเจ้าตัวไม่ตรวจสุขภาพพร้อมกันกับเขาวินตราคงไม่มีทางนอนอ้าขาอยู่บนเตียงแบบนี้แน่
คนหนึ่งสะอาดปลอดภัยไร้โรค
คนหนึ่งมดลูดฟอร์มตัวไม่สมบูรณ์พวกเขาเลยไม่ต้องกังวลเรื่องท้องไส้อีกอย่างปีนี้วินตราก็ย่าง 39 ปีแล้วไม่คิดจะมีลูกด้วยซ้ำ
เดนีสปล่อยขาคนสวยลงมาก่อนจะตระกองกอดไม่ยอมถอดออกมาให้มันแห้งเหี่ยวคารูไปเลย
“อื้อ” วินตรากระเถิบตัวหนี
“เอาออกไป”
“อุดไว้ก่อนน่า…ทำไมกลัวท้องหรือไง”
วินตราหยิกหัวนมคนปากพล่อยเข้าให้ “อูยนายกล้าลงไม้ลงมือกับสามีตัวเองได้ยังไงฮะต้องทะนุถนอมฉันสิถึงจะถูก” พูดเสร็จก็ก้มลงไปหอมแก้มแดงๆนั้นจนบู้บี้หอมไม่พอยังชอบอมไว้ในปากอีก
“สกปรก” แก้มวินตรามีแต่น้ำลายเดนีสหัวเราะชอบใจก่อนจะถอดถอนตัวตนออกมาตะแคงตัวโอบกอดวินตราที่หว่างขาเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำรัก
“ฉันอยากอาบน้ำ”
“พักสักหน่อยค่อยอาบ” เดนีสจุมพิตที่หน้าผากชื้นเหงื่อของวินตรา
“วินวินของฉันสวยที่สุด”
“นายโกหก”
“อะไรนายน่ะสวยจริงกระจกก็มี”
“ไม่ใช่”
“งั้นตรงไหนที่ฉันโกหก”
“ไหนบอกเจ็บเหมือนมดกัด” ตอนนี้ร่างกายวินตราโดยเฉพาะส่วนล่างลงไปเหมือนถูกบดด้วยรถสิบล้อขาทั้งสองข้างสั่นระริกไหนจะช่องทางที่แสบขัดอยู่หน่อยๆมันเจ็บเหมือนมดกัดที่ไหนกันแถมไอ้บ้านี่ยังแทงเอาๆด้วยท่าประหลาดอีกตั้งหลายท่า
“ฮ่าๆ” เดนีสหัวเราะท้องคัดท้องแข็งด้วยประโยคที่ไม่ประสีประสาของคนในอ้อมแขนวินตราหน้าบึ้ง
“แล้วนายคิดว่าเป็นมดอะไรล่ะ” นิ้วโป้งลูบไล้วนตรงมุมปากเดี๋ยวนี้คุณเลขาหน้าตึงมีพัฒนาการรู้จักทำหน้างอนใส่ด้วยวินตราปัดมือนั้นให้พ้นหน้า
“เอาล่ะๆครั้งแรกก็แบบนี้แหละเดี๋ยวครั้งต่อๆไปก็ไม่เจ็บแล้ว”
“ฝัน” เดนีสยกหลังมือแมวน้อยของเขาที่กำลังขู่ทาสฟ่อๆมาจุมพิตอย่างเอาใจ
“ก็ฝันอยู่…ว่าจะเอานายท่าไหนดี”
“…!…” และเป็นครั้งแรกที่ท่านประธานอย่างเขาชนะน็อกคุณเลขาแถมยังจัดการเสียจนอยู่หมัดปิดปากที่คมเหมือนกรรไกรด้วยริมฝีปากของเขาก่อนจะยัดเยียดปรนเปรอความสุขให้คุณเลขาจนล้นปรี่อยู่หลายท่าหลายยกจนสลบคาอกไปทั้งอย่างนั้น
มีผัวเด็กก็อย่างนี้แหละแรงดีไม่มีตก
หยุดตั้งหนึ่งสัปดาห์เจ้านายหัวขบถอย่างเขาต้องจัดการปราบคุณเลขาให้อยู่ในโอวาทให้จงได้ภารกิจลับได้เริ่มขึ้นแล้ว!!
วินตราสำรวจตัวเองอยู่หน้ากระจกในช่วงบ่ายของเช้าวันใหม่ ป้านหัวนมเขามีแต่รอยฟัน ถูกดูดจนแสบขัดไปหมด ต้นคอ ไหนจะตรงกระดูกไหปลาร้า ลามไปถึงช่วงท้อง เมื่อกี้มีรอยจูบที่ต้นขาด้วย ไอ้หมอนี่มัน…แถมตอนนี้ยังมาคลอเคลียกอดหอมไม่ห่าง
“ถอยไปเลยไป” “ด่าฉันด้วยสายตาอีกแล้ว” วินตรารีบคลุมสาบเสื้อชุดคลุมของตัวเองรัดสายคาดเอวอย่างแน่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองในกระจกเดนีสก็หอมกระหม่อมคุณเขาซ้ำๆอยู่นั่นไม่สนใจสายตาที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆของคุณเลขาในกระจกสักนิดวินตราหวานไปทั้งตัวเหมือนช็อกโกแลตที่ข้างนอกแข็งขึ้นเป็นรูปต่างๆได้แต่พอวางอยู่ในอุ้งมือหรือในโพรงปากก็ละลายออกมาหวานละมุนกลิ่นโกโก้ชั้นดีตีขึ้นในโพรงจมูกจนอยากจะอมไว้ในปากทั้งวันไม่อยากให้ใครได้เห็นได้กลิ่นวินตราเป็นของเขาของเขาคนเดียวเท่านั้นสภาพท่านประธานในตอนนี้เหมือนอยากจะอมหัวเขาเหมือนหมาโกลเด้นที่ออดอ้อนออเซาะเจ้าของไม่รู้จักเบื่อนี่นะเหรอ…ข้าวใหม่ปลามันที่หลายคนพูดถึงแต่วินตราก็ยังเป็นวินตราคนเดิมเขาเป็นคนแสดงออกไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายคนในกระจกเป็นคนแรกและคนเดียวที่วินตราค่อยๆแง้มประตูที่ปิดตายเอาไว้ให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงความไม่สมประดีของตัวเองแผลใจไหนจะขยะที่ซุกซ่อนไว้ในใจรวมไปถึงในห้องคอนโดของตัวเองผู้ชายคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวจนมันแผ่มาถึงคนนอกอย่างเขาได้ง่ายๆวินตราคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่เพราะเขากลัวว่า
“เพียงวูบเดียวที่เดนีสตัดสินใจยกเลิกสัญญาคู่ค้ากะทันหันเพราะอีกฝ่ายพูดถึงน้องชายสุดที่รักในทางเสียหาย กลับทำให้บริษัทเกิดวิกฤติขนาดใหญ่ตามมา นอกจากคุณเลขาคนเก่งจะมาช่วยกอบกู้บริษัทแล้ว ยังมาช่วยแก้ปัญหาวิกฤติทางใจของเขาอีกด้วย”คำเตือน-Black mail มีการข่มขู่ให้ทำตาม-Child abuse ทารุณกรรมเด็กโดยการทำร้าย ทอดทิ้ง หรือการค้ามนุษย์-Pedophilia การใคร่เด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปี จัดเป็นอาการทางจิตประเภทหนึ่ง-Suicidal thought มีความคิดจะฆ่าตัวตาย-Sexism การดูถูกเหยียดหยามหรือมีอคติทางเพศ การเหยียดเพศ-Sexual harassment การล่วงละเมิดทางเพศ-Trafficking การค้ามนุษย์-Violence การใช้ความรุนแรง-Underage sex มีความสัมพันธ์กับคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์ -เหมาะสำหรับอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป “ไอ้นีส…แกไปทำอีท่าไหนหุ้นบริษัทถึงร่วงขนาดนี้”“ไอ้นีส…แกพูดอย่างนั้นได้ยังไงการทำการค้าการสวมหัวโขนนั้นสำคัญแกแกอยากจะเห็นฉันอกแตกตายใช่ไหม”ท่านเจ้าสัวก่นด่าลูกชายแทบจะทุกวี่ทุกวันก็ไอ้ลูกชายคนโตตัวดีตั้งแต่เรียนจบโทมานอกจากจะทำล่องลอยไปวันๆแล้วพอนั่งเก้าอี้บริหารไม่ทันไรก็สร้างเรื่องสร้างราวให้ปวดหัวและตามเช็
เดนีส ศศิภักดีลูกชายคนโตของท่านเจ้าสัวเดรโก ศศิภักดีเข้ารับตำแหน่งท่านประธานที่ดูแลธุรกิจเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ เป็นพลาสติกและแปรรูปแบบครบวงจรไม่ว่าจะเป็นกระสอบพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม พลาสติกแข็งและเคลือบ ท่อพีวีซีและข้อต่อ แกนกระดาษ ผ้าใยสังเคราะห์ ความจริงเขาไม่อยากทำบริษัทพวกนี้ ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจในเครือของครอบครัวมีทั้งหมด 8 สายธุรกิจหลัก ครอบคลุม 14 กลุ่มธุรกิจ แต่ไหงเขาถึงได้มาทำพวกบรรจุภัณฑ์ ไอ้พัดเพื่อนที่เติบโตแทบจะเป็นครอบครัวเดียวกันตอนนี้เป็นทั้งน้องเขยตกกระไดพลอยโจนที่สำคัญยังได้นั่งเก้าอี้บริหารธุรกิจสำคัญอย่างธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำกำไรเป็นกอบเป็นกำ ไอ้น้องชายฝาแฝดอย่างเดนีนก็รับตำแหน่งดูแลธุรกิจยานยนต์และอุตสาหกรรม ส่วนลูกชายคนโตอย่างเขาได้รับหน้าที่มาขายพวกกล่องพลาสติกพวกนี้เนี่ยนะ! แม้จะเคยประท้วงไปหลายรอบแต่ก็ไม่ได้รับความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อได้! งั้นเขาก็จะบริหารในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่บริหารในแบบฉบับของเดนีสศศิภักดีงั้นก็เปลี่ยนเครื่องใช้เฟอร์นิเจอร์ในห้องทำงานส่วนตัวเขาก่อนก็แล้วกัน…เดนีสนั่งเก้าอี้ประธานบริษัทได้เพียงสามเดือนบอร์ดบริหารก็ลุกเป็นไฟเ
ทางด้านวินตราเช้านี้ตาขวากระตุกแปลก ๆ ไหนจะจามติดกันถึงสองครั้ง เขาเลยแก้เคล็ดด้วยการเดินถอยหลังออกจากประตูห้องคอนโดยื่นเท้าขวาไปทางข้างหลังก่อนจะตามด้วยเท้าซ้าย อีกอย่างประวัติ รายละเอียดส่วนตัวของเจ้านายคนใหม่ของเขาก็ตั้งแง่ติดลบตั้งแต่ได้อ่านประโยคแรกจนถึงประโยคสุดท้าย และตั้งธงแดงในใจเอาไว้แล้ว จัดการกับคนไม่ได้ง่ายเหมือนจัดการเหมือนหมาแมว วินตราไม่ชอบการจัดการกับคนมากที่สุด รับมือได้ยาก อีกอย่างจิตใจมนุษย์ยากแท้หยั่งถึง ขนาดเจ้านายคนเก่าที่ว่าดี สื่อยกย่องว่าเป็นพ่อตัวอย่างแต่พออยู่หลังกล้องเท่านั้นแหละ…สันดานที่แท้จริงโผล่มาให้เห็น ทั้ง ๆ ที่มีลูกสาวแท้ ๆ เฮ้อ!แค่คิดว่าแต่ละวันต้องคอยรับมือกับพวกคนประเภทนี้ก็เหนื่อยแย่ละพักใจไม่ทันหายต้องตื่นมาสู้กับรบปรบมือกับความอยู่รอดปากท้องต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเขาจัดการกับความคิดของตัวเองก่อนจะเตรียมตัวออกไปทำงานด้วยสภาพหัวใจที่ห่อเหี่ยวเมื่อวินตรามาถึงบริษัทก็เข้ามารายงานตัวแผนกประชาสัมพันธ์ก่อนจะเดินไปรายงานตัวกับแผนกบุคคลและเดินหายเข้าไปในห้องประธานบริษัทเป็นลำดับสุดท้ายไม่ต้องสัมภาษณ์อะไรทั้งนั้นมาถึงทำบัตรเริ่มงานได้เลยเรียกได้ว่าอ
ประโยคนี้เหมือนตบหน้าเขาอย่างจัง ละไอ้สรุปที่ว่า เดนีสเดินกลับไปนั่งเก้าอี้ของตัวเองพร้อมกับใช้แฟ้มเขี่ยเปลือกถั่วลิสงอย่างลวก ๆ ก่อนจะเปิดอ่านด้วยความโมโหแต่ละเรื่องมีสรุปไว้ให้จริง ๆ เหมือนหลอกด่าว่าโง่ อ่านหนังสือไม่เกินปีละ 7 บรรทัด! เขาฮึดฮัดนั่งอ่านแต่ละเรื่องพลางส่งสายตาเชือดเฉือนไปยังคนตรงหน้าที่ยืนมองดูพลางกุมมือตรงเป้า กวาดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว ไม่ทันไรอีกฝ่ายก็เอ่ยเตือน“ใกล้จะถึงเวลานัดแล้วนะครับ” เดนีสปิดแฟ้มดังพรึ่บลุกเดินตัวปลิวออกไปวินตราถอนหายใจรอบที่ไม่รู้เท่าไหร่ของวันก่อนจะเดินไปรวบแฟ้มข้อมูลยัดใส่ถุงผ้าที่เตรียมไว้เดินตามออกไปไอเทมที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือไอแพดคนขาดลาได้แต่ไอแพดเครื่องนี้เสมือนกุมความลับแผนงานของบริษัทวาระการประชุมต่างๆเอาไว้มากมายก่อนทำเรื่องลาออกคุณนิติพลเองก็จะต้องเซ็นสัญญา ‘หากความลับธุรกิจแพร่งพรายออกไปจะต้องชดใช้ค่าเสียหายคิดตามมูลค่าของบริษัท’ แล้วในตลาดหุ้นมูลค่าบริษัทเกือบหมื่นล้าน! แล้วใครจะกล้าอีกอย่างเหมือนทุบหม้อข้าวตัวเองในวงการทำงานมีวลีที่ว่า‘อย่าทุบสะพานที่เราคิดว่าไม่ได้ข้าม’โลกมันไม่ได้กว้างสักวันก็ต้องเหวี่ยงคนที่เราไม่ชอบขี้หน้
เมื่อไปถึงภัตตาคารโรงแรมที่จองไว้ มาดของอีกฝ่ายที่สวมเสื้อลายสก็อต สวมหมวกคาวบอย กางเกงยีน รองเท้าหนังมันปลาบทำให้เดนีสฉุกคิดถึงเรื่องก่อนหน้าที่วินตราเอ่ยเตือนเขาขึ้นมาได้หากเอารถสปอร์ตคู่ใจมาเหมือนเป็นการข่มอีกฝ่ายมากกว่าจะมาพูดคุยเจรจาเรื่องธุรกิจ ฝ่ายคู่ค้ากลับมานั่งรอก่อนถึง 30 นาทีด้วยซ้ำหากกรณีนี้ในความคิดของวินตราการมาถึงตรงเวลานัดเป็นเรื่องที่ดีแต่ควรจะเผื่อเหลือเผื่อขาดอย่างน้อย 15 นาทีจึงจะเป็นการดีทำธุระส่วนตัวอะไรให้เรียบร้อยจะได้นั่งเจรจาพูดคุยกันได้สะดวกคุณดนัยหรือพ่อเลี้ยงดนัยยืนขึ้นทันทีที่เห็น ‘เดนีสศศิภักดี’ ปรากฏตัวต่อหน้าเขาทั้งๆที่ก่อนหน้าฝ่ายการตลาดจัดการมาตลอดพ่อเลี้ยงดนัยมีธุระที่กรุงเทพฯพอดีเลยถือโอกาสเข้ามาเจรจาล็อตต่อไปด้วยตัวเองโดยมีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยืนนอบน้อมอยู่ด้านหลังน่าจะเป็นเลขาส่วนตัวเช่นกันทั้งสองพูดคุยกันอย่างหอมปากหอมคอ เมื่อบริกรนำน้ำเปล่ามาเสิร์ฟเดนีสเลยเกริ่น “สั่งอาหารก่อนดีไหมครับค่อยเจรจา” พ่อเลี้ยงดนัยมีสีหน้าลังเลเพราะคนตรงหน้าเป็นคนใหญ่คนโตลูกเจ้าสัวเวลาคงเป็นเงินเป็นทองในความคิดเขาการมาเจอครั้งนี้คงกินเวลาไม่มากแต่กลับผิดคาดตั้งแต
หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปด้วยสถานการณ์มึนตึงระหว่างท่านประธานกับคุณเลขาคนใหม่ที่เหมือนจะไม่กินเส้นกันสุดๆแม้แต่ปรียานุชยังรู้สึกได้สีหน้าของเลขาคนใหม่แม้จะราบเรียบไม่แสดงความรู้สึกใดๆแต่สายตาที่ตวัดมองมาแต่ละทีทำเอาหล่อนสะดุ้งหลายครั้งแถมรอยยิ้มที่ส่งมาให้ส่งไปไม่ถึงแววตาขีดเส้นแบ่งระหว่างขอบเขตของเพื่อนร่วมงานอย่างชัดเจนเวลาพักไม่สุงสิงกับใครไม่จับกลุ่มเม้ามอยโฟกัสในหน้าที่การงานของตัวเองและปรียานุชเองก็ได้อิทธิพลการทำงานจากวินตรามาไม่น้อยแม้ว่าอีกฝ่ายจะดูซับซ้อนเลือดเย็นไม่น่าเข้าหาแต่ก็รับมือกับท่านประธานได้อย่างอยู่หมัดทำงานเก่งไม่มีตกบกพร่องไม่รู้ว่าท่านเจ้าสัวไปสรรหามาจากไหนนอกจากสีหน้าและแววตาแล้ววินตราก็ไม่มีอะไรให้ต้องติเตียนเลยจริงๆมีแต่ก็ท่านประธานที่สีหน้าบอกบุญไม่รับทั้งอาทิตย์และแล้ววันปล่อยผีที่เดนีสรอคอยก็มาถึงเขาไม่เคยรอคอยวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้มาก่อนในชีวิตตั้งแต่รับคุณเลขาคนใหม่เข้ามาทำงานชีวิตอันปกติสุขของเขามีอันต้องเปลี่ยนแปลงไปไหนจะต้องหลังขดหลังแข็งอ่านรายงานทั้งกองแทบทุกวันอีกฝ่ายแม่งถามจี้ยังกะเขาอยู่ชั้นประถม! เดนีสหลังเลิกงานก็มางานเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ่นอ
“ถ้ามี…มึงโดนหลายตีนกระทืบแน่ไอ้นิช มึงนับดูเลยกี่ตีน” สานิชไม่หยี่ระ“กว่าจะรวมตัวกันง่ายๆเสียเมื่อไหร่มา…ชน! อย่าไปคิดมากกินเหล้าไม่เคล้านารีจะไปสนุกอะไร”“กูขอบายใครจะนัวใครก็รีบไปเปิดห้องเลยอย่ามาทำลามกจกเปรตให้เสียลูกตา” กิตติกรเอ่ยเตือนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์“ให้มาชงเหล้าเช็ดปากซับเหงื่อให้แค่นั้น” สานิชไม่ยอมแพ้“มึงเป็นง่อย?”“ก็ดีเหมือนกันเจอของสวยๆงามๆไอ้นีสจะได้อารมณ์ดีขึ้นมามั่ง” อินทราเสริมขึ้นมา“ขอคนไม่เรื่องมากไม่งุ้งงิ้งจีบปากจีบคอพูดเป็นนกหงส์หยกพวกนั้นก็พอ” เดนีสเอ่ยปากในที่สุด “นึกว่าจะต่อต้านที่แท้ก็เข้าร่วม” “หุบปากไอ้กรทำตัวยังกะบวชพระ”“มึงก็รู้บ้านมันเป็นไง” อินทราพูดพลางหัวเราะในลำคอเห็นไอ้กรอย่างนั้นร้อยมาลัยเก่งอย่าบอกใครคุณหญิงย่าท่านสอนเอาไว้เวลาไปเที่ยวบ้านคุณชายกิตติกรไอ้พวกลิงทโมนพวกนี้เหมือนถูกดัดแข้งดัดขาเวลาเดินเวลานั่งต้องเรียบร้อยของว่างก็เป็นสูตรลับชาววังแม้จะเจ้าระเบียบแต่เพราะของคาวหวานสูตรต้นตำรับชาววังแท้ๆไม่ได้หากินง่ายๆพวกเขาที่เห็นแก่กินจึงไปบ่อยๆบางครั้งเห็นไอ้เพื่อนรักนั่งพับเพียบร้อยมาลัยกับคุณหญิงย่าที่ศาลาข้างบึงแม้อยากจะขำแต่ก็กลัวจะถ
“ถอยไปเลยไป” “ด่าฉันด้วยสายตาอีกแล้ว” วินตรารีบคลุมสาบเสื้อชุดคลุมของตัวเองรัดสายคาดเอวอย่างแน่นมองอีกฝ่ายด้วยสายตาขุ่นเคืองในกระจกเดนีสก็หอมกระหม่อมคุณเขาซ้ำๆอยู่นั่นไม่สนใจสายตาที่อยากจะสับเขาเป็นชิ้นๆของคุณเลขาในกระจกสักนิดวินตราหวานไปทั้งตัวเหมือนช็อกโกแลตที่ข้างนอกแข็งขึ้นเป็นรูปต่างๆได้แต่พอวางอยู่ในอุ้งมือหรือในโพรงปากก็ละลายออกมาหวานละมุนกลิ่นโกโก้ชั้นดีตีขึ้นในโพรงจมูกจนอยากจะอมไว้ในปากทั้งวันไม่อยากให้ใครได้เห็นได้กลิ่นวินตราเป็นของเขาของเขาคนเดียวเท่านั้นสภาพท่านประธานในตอนนี้เหมือนอยากจะอมหัวเขาเหมือนหมาโกลเด้นที่ออดอ้อนออเซาะเจ้าของไม่รู้จักเบื่อนี่นะเหรอ…ข้าวใหม่ปลามันที่หลายคนพูดถึงแต่วินตราก็ยังเป็นวินตราคนเดิมเขาเป็นคนแสดงออกไม่เก่งแต่ก็ไม่ได้รังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายคนในกระจกเป็นคนแรกและคนเดียวที่วินตราค่อยๆแง้มประตูที่ปิดตายเอาไว้ให้รู้จักตัวตนที่แท้จริงความไม่สมประดีของตัวเองแผลใจไหนจะขยะที่ซุกซ่อนไว้ในใจรวมไปถึงในห้องคอนโดของตัวเองผู้ชายคนนี้ได้รับความรักความอบอุ่นจากครอบครัวจนมันแผ่มาถึงคนนอกอย่างเขาได้ง่ายๆวินตราคิดว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้แย่เพราะเขากลัวว่า
“รเร็วกว่านี้” เดนีสยันแขนแต่เอวก็เคลื่อนไหวเนิบช้าแต่ออกสุดตอกจนสุดเช่นกันวินตราแหงนหน้าเมื่อส่วนล่างถูกบดขยี้บี้ซ้ำๆจนสุดโคนจนรู้สึกถึงเส้นขนหยาบแข็งๆกระทบแก้มก้น“เรียกที่รักก่อนสิ” เดนีสซุกที่ซอกคอวินตราพร้อมกับขมเม้มเบาๆก่อนจะงับติ่งหูขาวนั้นดูดดึงจนวินตราครางไม่เป็นภาษาจะหนีไปไหนก็ไม่ได้เดนีสยกยิ้มมุมปาก ‘ติ่งหู’ เป็นอีกจุดที่ไวต่อสัมผัสของคุณเลขาคนสวยวินตราเม้มปากแน่นจนเอื้อมมือไปกำผมของไอ้ประธานเฮงซวยที่ทำตัวขบถแม้กระทั่งจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็มอย่างนี้“อึก” เดนีสหัวสั่นหัวคลอนไปตามแรงกระชาก“แม่งนี่นายเล่นกระชากหัวผัวตัวเองเลยเหรอฉันก็ปรนเปรออยู่นี่ไงที่รัก…อย่าใจร้อน” แถมยังแลบเลียริมฝีปากอย่างมาดร้ายเขาสะบัดหัวจากการกอบกุมจัดท่าขาสองข้างพาดบ่าวินตราตอนนี้ตัวจะม้วนกลับหลังอยู่แล้ว “เอาล่ะทำใจดีๆฉันจะแทงไปจนถึงแกนโลกเลยล่ะ” “อะไอ้!” เดนีสเหมือนนั่งยองแทงซ้ำๆดั่งปากว่าจุดกระสันถูกแทงซ้ำๆอย่างนั้นวินตรากัดปากตัวเองอย่างแรงความเสียวตีรื้นขึ้นมาอีกระลอก “มะไม่ไหว” วินตราส่ายหน้าสะบัดไปมาจนผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมดจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นส่งทั้งตัวเองและวินตราไปถึงฝั่งฝันอย่างรวดเร็
หรือไม่…อาจไม่เคยเดินสวนทางกันด้วยซ้ำไปเมื่อเห็นวินตราไม่ตอบเดนีสเลยพูดต่ออีกอย่างเขาไม่เชื่อคำสัญญาของวินตราสักเท่าไหร่คุณเลขาของเขาน่ะใจร้ายได้เสมอ“สัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างกันไปจนกว่าจะแก่เฒ่า”“นายเอาจริง?” วินตราถามด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยเชื่อถืออีกฝ่ายสักเท่าไหร่ตลอดกาลมีจริงๆเหรอแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาให้คิดมากนัก “อือฉันเอาจริงและจริงจังถ้านายกล้าทิ้งฉัน…ฉันจะออกตามหานายสุดล่าฟ้าเขียวจะทิ้งทุกสิ่งไปตามหานายไหนๆฉันก็เป็นคุณชายหัวขบถอยู่แล้ว” วินตราดึงแก้มเขาอย่างแรง“ท่านประธานเอาแต่ใจเกินไปแล้ว”“แล้วรักหรือเปล่าล่ะ” วินตราไม่ตอบได้แต่จ้องมองไปยังนัยน์ตานั้นมองภาพใบหน้าตัวเองที่ฉายชัดอยู่ในนัยน์ตาสองคู่นี้“ต้องคิดด้วยเหรอ” เดนีสเย้าแหย่ วินตรายกหัวจุมพิตข้างริมฝีปากนั้นเบาๆก่อนจะเอ่ยเสียงเบา “ฉันไม่รู้ว่าความรักเป็นยังไงแต่…กับนายมันพิเศษกว่าคนอื่นและสองมือนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดมันทั้งอบอุ่นและปลอดภัยอ้อมอกนี้ก็เช่นกัน” เดนีสมองวินตราอึ้งๆก่อนจะยิ้มโค้งจนตาหยี“นายรักฉันแหละฉันดูออกมาตั้งนานแล้ว” ริมฝีปากประกบกันอีกครั้งครั้งนี้วินตราโอนอ่อนผ่อนตามเปิดเปลือยให้อีกฝ่ายได้ชักนำแ
“ฉันปวดไหล่” “นายจ่ายไหวเหรอฉันคิดค่าบริการแพงนะ”“จะเท่าไหร่กันเชียวอย่าลืมฉันถือแบล็กการ์ด”“ฮ่าๆ” เดนีสหัวเราะออกมาเสียงดังพร้อมจุมพิตที่แผ่นหลังขาวเนียนนั้นหนึ่งทีเบาๆ “แสบจริงๆใครไม่รู้คงคิดว่านายเป็นเมียฉัน” “ฝันไปเถอะ” “ใจร้าย” นิ้วมือลงน้ำหนักนวดโดยผ่อนแรงลากขึ้นลงเดนีสชอบนวดสปาน้ำมันเขาจึงรู้วิธีการนวดมาบ้าง วินตรานอนใบหน้าข้างหนึ่งแนบที่ท่อนแขนจ้องมองเงาในกระจกที่คุณชายหัวขบถตั้งใจนวดแผ่นหลังให้เขาอย่างมุ่งมั่นวินตรายกยิ้มที่มุมปากบางครั้งท่านประธานของเขาก็ซื่อบื้อของแท้…“สบายหรือเปล่า”“อือ” “ฉันจะบอกให้ไม่มีใครกล้าใช้ฉันนอกจากนาย…วินตราเพราะฉะนั้นเป็นแฟนฉันได้แล้ว”“ไม่”“นี่ฉันจริงจังนะ”“ไม่” เดนีสพลิกร่างวินตราให้นอนหงายโดยที่เขาคร่อมทับเค้นเอาคำตอบอย่างเอาเป็นเอาตายหัวคิ้วขมวดจนเป็นปม“ทำไมเป็นแฟนฉันไม่ดีตรงไหน”“ทุกตรง” “หา…อย่างฉันเนี่ยนะไม่ดีฉันดีมากเลยขอบอก” โอ้อวดตัวเองเก่งเป็นที่หนึ่ง“แล้ว” เดนีสก้มหน้าต่ำกระซิบเสียงแหบต่ำข้างหูคุณเลขา“ฉันก็รักนายอย่างสุดหัวใจ” พร้อมจุมพิตไหล่เปลือยเปล่านั้นแผ่วเบา เดนีสพยายามจ้องหน้าคุณเลขาไม่หลุบตามองต่ำไปมากกว่าน
“นี่ลองชิมดูเป็นไวน์ตัวใหม่ของ ONLY U แอลฯเพียง 6% น้องชายฉันคิดค้นและปรับปรุงมาตลอดจนได้ไวน์รสชาตินี้ออกมาดื่มง่ายลองสิ” วินตรารับไวน์มาจิบอย่างว่าง่ายตอนนี้เขาไม่ได้กินยารักษาสภาพจิตใจแล้วพร้อมกับเข้าตรวจร่างกายชุดใหญ่ตามคำสั่งของท่านประธานวินตราเป็น (New Male) ที่สามารถตั้งครรภ์ได้ก็จริงแต่เพราะปัญหาทางใจที่รุมเร้ามาตลอดเขาเลยมีปัญหาเรื่องฮอร์โมนเรียกได้ว่าฮอร์โมนทำงานได้ไม่เต็มที่มดลูกเลยไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่เหมือนคนเป็นหมันแต่ในอนาคตก็ไม่แน่เรื่องราวภายในของคนเรานั้นซับซ้อนวินตราและเดนีสต่างก็นั่งฟังหมออธิบายรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเดนีสเองก็เข้าตรวจสุขภาพร่างกายประจำปีด้วยเช่นกัน แม้จะมีแอลกอฮอล์ผสมเพียง 6% แต่ดื่มเองไปเกือบขวดวินตราเองก็มึนๆเหมือนกันนานเท่าไหร่แล้วที่เขาทำตัวอยู่ในกรอบไม่ได้ปล่อยตัวปล่อยใจให้แตะต้องของพวกนี้อีกทั้งยังกินยาต่อเนื่องมาหลายปีทำให้ไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พวกนี้ได้บางครั้งชีวิตคนเราก็ต้องการรสชาติที่หลากหลายการพบเจอผู้คนเดิมๆงานเดิมๆก็ทำให้ชีวิตซ้ำซากจำเจอยู่เหมือนกัน โลกของเขาที่คับแคบก็เริ่มเปิดกว้างขึ้นมาเมื่อได้เจอกับเดนีสเด
“นายโกหก” น้ำเสียงแผ่วเบาจนสัมผัสถึงของเหลวอุ่นๆที่หยดตรงลาดไหล่ของตัวเองเพราะเดนีสรู้จักวินตราเกินไปต่างหากหากเขายอมปล่อยมือตอนนี้อีกฝ่ายคงหลุดลอยไปไกลอาจไกลเสียจนเขาไม่มีทางตามอีกฝ่ายพบวินตรายังคงเป็นวินตราที่เข้มแข็งโดดเดี่ยวจนถึงขั้นใจดำที่จะหันหลังให้เขาอย่างเลือดเย็นแต่ทว่าเดนีสเองไม่สามารถปล่อยวินตราไปได้ แล้วเขาก็เป็นลูกคนรวยหัวกรวยหัวขบถที่อยากได้อะไรต้องได้ยังไงต้องมีคุณเลขามือทองคนนี้คอยกำราบ! สองแขนของวินตรายกโอบกอดกลับไปเช่นกัน ต่างคนต่างร้องไห้เงียบ ๆ ลูบหลังปลอบประโลมกันอยู่อย่างนั้น“ไปกับฉันที่หนึ่งสิ” เดนีสพูดพลางสูดจมูกไปด้วยเขาไม่อายเลยสักนิดที่จะร้องไห้ออดอ้อนต่อหน้าวินตราวินตราไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นอันว่าตกลงเดนีสยกยิ้มมาดร้ายที่มุมปากคิดจะหนีไปจากเขางั้นเหรอ…ไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกวินตรา!เดนีนสบถอย่างหัวเสียเมื่อคุณนิติพลรายงานเรื่องประธานตัวจริงที่ยังมีชีวิตอยู่ขอลาต่ออีกหนึ่งสัปดาห์ตอนนี้ที่บริษัทก็ผ่านช่วงวิกฤตมาได้พร้อมกับกำจัดเห็บไรไปได้หลายตัวแถมยังดำเนินการภายใต้แฝดน้องอย่างเดนีนที่แสร้งตีหน้าขรึมเป็นเดนีสแฝดพี่เพราะความเป็นแฝดที่เหมือนกันจนแทบจะโคลนกัน
“ผมว่าจะขอลาออกครับ” ท่านเจ้าสัวเอนพนักพิงเก้าอี้จ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ก้มหน้าเอ่ยบอกความต้องการ“แล้วเดนีสล่ะ” วินตราเม้มปากแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรออกไป “วินตราฉันเห็นเธอเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่งอดีตก็คืออดีตฉันยอมรับที่ความสามารถของเธอมากกว่าเรื่องอื่นเป็นรอง” “ผมทราบครับ”“วันไหนที่เธอเปลี่ยนใจกลับมาที่นี่ได้เสมอ” “ครับ” วินตรายกมือไหว้ท่านเจ้าสัวอย่างนอบน้อมตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็เก็บตัวอยู่ที่บ้านท่านเจ้าสัวตลอดตอนนี้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายแล้วเขาเองก็ควรจะมีชีวิตของตัวเองสักที ตอนนั้นที่เขาหนีกบดานเอาชีวิตรอดจากสาสินก็นึกถึงท่านเจ้าสัวเป็นคนแรกตอนแรกก็กล้าๆกลัวเพราะหลักฐานที่มีนอกจากจะไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้แล้วหลักฐานพวกนี้อาจจะเป็นเถ้าถ่านในกองไฟก็เป็นได้แต่แล้ววินตราก็ไม่ผิดหวังนึกถึงคำถามนั้นที่ท่านเจ้าสัวได้ให้ไว้กับตัวเอง“ฉันรู้ว่าเธอเองก็ลำบากใจแต่วันไหนที่เธอเข้มแข็งและสามารถหยัดยืนเผชิญหน้ากับเรื่องพวกนี้ได้เมื่อไหร่ขอเพียงเธอเอ่ยปากฉันจะช่วยเธออย่างสุดความสามารถ” ตอนนั้นวินตรายังคิดไม่ตกอย่างที่เคยบอกเหตุการณ์เหล่านั้นกัดกินใจเขาจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนวินตราเด็
การออกมาปรากฏตัวและให้สัมภาษณ์สื่อของวินตราในฐานะเหยื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้กับสังคมอย่างมหาศาลเด็กทุนที่ลังเลที่เคยตกเป็นเหยื่อไม่กล้าเปิดเผยตัวและผู้คนที่ถูกคุกคามทางเพศไม่ว่าจะเป็นบ้านที่ทำงานสถานศึกษาต่างก็ตบเท้าเข้ามาให้ปากคำอย่างไม่ขาดสาย ต่างก็แชร์เรื่องราวของตัวเองผ่านโลกออนไลน์สร้างความตื่นตัวและตระหนักรู้ในสังคมเป็นอย่างมากอย่าอายจนลืมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองไม่ว่าจะอยู่ในฐานะไหนก็ไม่มีใครควรถูกคุกคามทางเพศ!วินตรายืนอยู่ตรงหน้าช่องบรรจุอัฐของวัดแห่งหนึ่งย่านปริมณฑลก่อนตายจินตะได้พูดว่าอยากจะบวชสักครั้งก่อนตายแต่ก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจนึกวินตราจึงตัดสินใจควักเงินเก็บตัวเองก้อนใหญ่ออกมาซื้อสถานที่จัดเก็บอิฐเอาไว้ตามปรารถนาสุดท้ายของจินตะตอนนั้นวินตราเป็นเพียงนักศึกษาปริญญาตรีปีหนึ่งคนหนึ่งไม่รู้เลยว่าในโลกนี้มีการจัดเก็บอัฐิไว้ 4 รูปแบบด้วยกันคือ1.) ช่องจัดเก็บอิฐตามกำแพงวัด2.) จัดเก็บตามเสาไฟของวัด3.) จัดเก็บตามอาคารศาลาหรือกุฏิซึ่งจะเตรียมช่องจัดเก็บอัฐิไว้บนขื่อหรือหน้าประตูตามความเหมาะสมของสถานที่4.) ห้องไว้สำหรับจัดเก็บอัฐิโดยเฉพาะซึ่งสถานที่จะเป็นที่จัดเก
ก้องการุณย์ลั่นไกโดยที่ไม่ต้องคิดเมื่อเจนจัดหันปลายกระบอกปืนมายังผู้บริสุทธิ์ที่ด้านล่างแม้จะเล็งที่ข้อมือข้างที่ถือปืนแต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าเจนจัดจะถนัดยิงปืนทั้งสองข้างอีกฝ่ายตะเกียกตะกายพลิกร่างกายอย่างรวดเร็วจ่อปากกระบอกปืนที่ขมับของตัวเองคนอย่างเจนจัดไม่มีทางจนตรอกหากจะตายก็ต้องตายด้วยน้ำมือตัวเองเท่านั้น…ปัง! แต่ทว่าสวรรค์คงมีตาไม่อยากให้คนชั่วได้ตายง่ายๆแม้ว่าจะเล็งที่ขมับของตัวเองแต่ก็พลาดเฉียดไปเท่านั้นงานนี้เจนจัดได้นอนทรมานติดเตียงยาวนานพอที่จะลิ้มรสความทุกข์และบาปกรรมที่ได้ทำลงไปอย่างเต็มที่แม้อยากจะตายก็ตายไม่ได้อยู่ฟังเสียงผู้คนก่นด่าสาปแช่งและประณามจนกว่าจะตายจากกันไปข้างหนึ่ง ศิราณีเองก็ร่ำไห้ปานจะขาดใจเธอไม่ได้ร้องไห้ให้กับไอ้สามีเฮงซวยนั้นแต่ร้องไห้ให้กับความขี้ขลาดของตัวเองหากเธอกล้ายืนหยัดและเชื่อในคำพูดของลูกชายตั้งแต่เนิ่นๆเรื่องราวคงไม่บานปลายจนมาถึงขั้นนี้ไอ้เจนจัดทำลูกคนอื่นไม่พอยังทำลูกตัวเองด้วยสารเลว! แม้จะไม่ใช่การล่วงละเมิดทางเพศแต่การลูบคลำก็ทำให้ลูกชายและลูกสาวมีแผลใจและรังเกียจพ่อตัวเองหมามันยังไม่คิดอกุศลกับลูกตัวเองศิราณีปิดหน้าร่ำไห้กับพื้นอย่าง