คำว่า ‘ก้องกิจ’ สะกิดใจของวินตราอย่างแรงตอนนั้นเขากับก้องกิจคบหากันก็จริงแต่อีกฝ่ายไม่เคยรู้จักวินตราอีกคนที่เขาได้ซุกซ่อนเอาไว้ในใจวินตราที่แปดเปื้อนและโสมมไม่เคยได้เปิดเปลือยแผลทางใจให้ก้องกิจรับรู้มาก่อนเดนีสเป็นคนแรกแต่กลับไม่รู้ความสำคัญของตัวเองเลยสักนิดวินตราเป็นคนพูดไม่เก่งและเขาก็ยังคงหวาดกลัวการสร้างครอบครัวเขาเกิดมาในครอบครัวที่ไม่พร้อมแม่ที่ต้องรอคอยเงินจุนเจือจากผู้ชายขี้เมาที่ไม่เอาเอางานคนหนึ่งสุดท้ายก็ขายลูกกินวินตราเลยพยายามอย่างหนักที่จะไม่พึ่งพาคนอื่นมากจนเกินไปนักเขาเร่งสร้างตัวอย่างน้อยในอนาคตหากไปกันไม่ได้จะไม่ได้เหลือเพียงแต่ตัวเขามีความรู้ความสามารถที่พอจะหาเลี้ยงตัวเองได้ อีกฝ่ายร่ำรวยมีเงินให้เขาใช้ไม่มีวันหมดก็จริงแต่เขาก็ยังคงเป็นวินตราที่หยิ่งทระนงและรักในศักดิ์ศรีเขาไม่ได้แคร์คำคนอื่นแต่กลัวว่าครอบครัวของคนรักจะยอมรับเขาด้วยใจจริงไม่ได้ทุกวันนี้ก็พยายามเคี่ยวเข็ญตัวเองอย่างหนักแต่คำพูดที่คนรักพ่นออกมามันทำให้เขาต้องหวนกลับมาคิดทบทวนวินตราไม่ชอบทะเลาะเรื่องเก่าๆผ่านมาแล้วผ่านไปอีกฝ่ายเคยคบใครเคยนอนกับใครเขาไม่เคยไถ่ถามบางครั้งความรักที่มอบให้อีกฝ่ายก็เห
“ตานีสยุ่งไหมลูก”“ไม่ครับแม่มีอะไรหรือเปล่า”“ตานีสจำชาที่แม่แบ่งให้เราได้ไหม”“มีอะไรหรือครับ” “ชานั้นน่ะแม่หยิบผิดพอเอาไปฝากคุณหญิงภคินีถึงได้รู้”“ผิดยังไงครับ” เดนีสหัวคิ้วเริ่มขมวดเข้าหากันก็แค่ชาหรือว่าจะถูกหลอกขายเป็นชาปลอมหัวสมองของเดนีสขบคิดเรื่องราวมากมายแต่ที่แม่เขาตอบกลับมาทำเอาไปไม่ถูกเหมือนกัน“วินตราดื่มหรือเปล่า”“ใกล้หมดละครับแถมยังชอบสุดๆพกไปดื่มที่ทำงานทุกวันเลย” เดนีสรีบโอ้อวดแฟนตัวเอง“ตายจริง!” พอได้ยินเสียงอุทานก็เริ่มชักสังหรณ์ใจไม่ดี“ดื่มเยอะหรือเปล่าดื่มมานานแค่ไหนแล้ว”“คงไม่ได้ใส่ยาอันตรายพวกไซยาไนด์อะไรพวกนั้นหรอกนะครับ”“จะบ้าหรือไงเราก็…” ลลดาถอนหายใจก่อนจะพูดต่อเพราะเธอก็รู้ว่าวินตราเหมือนลูกชายคนเล็ก (New Male)“ก็ชานี้ช่วยปรับสภาพมดลูกสำหรับกลุ่มคนที่มีบุตรยากน่ะสิคนขายกำชับแม่มาว่าวันละแก้วก็เพียงพอแต่แม่ดันลืมมานึกออกได้ตอนไปหาคุณหญิงภคินีนี้เองแม่ว่าแม่แยกดีแล้วแต่แม่บ้านดันเก็บรวมกันตอนฝากไปให้วินตราเลยไม่ทันได้สังเกตว่าแต่วินตรา…เขาโอเคใช่ไหมลูก”“ผมไม่รู้ว่าโอเคของแม่หมายถึงอะไร”“สรรพคุณนอกนั้นล่ะครับ”เดนีสเลียบเคียงถาม “ก็บำรุงเลือดทั่วๆไ
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ” วินตราตอบพลางค้อมหัวให้แต่เดนีนกลับเท้าแขนกับโต๊ะมองหน้าเขาพลางอมยิ้มอย่างมีเลศนัย“มีอะไรหรือเปล่าครับ” วินตราถาม“ก็ดูว่าคุณมีอะไรดีถึงทำให้พี่ชายของผมต้องถูไถหน้าแข้งของผมอยู่อย่างนี้” เดนีสชะงักกึกรวมไปถึงทุกคนในห้องอาหารนี้เช่นกัน“พูดอะไรน่ะ” ท่านเจ้าสัวแทบสำลักซุปฝืนกลืนลงคออย่างยากลำบากลลดาเองก็อดที่จะเอ็ดลูกชายตัวเองไม่ได้“ตานีนพูดอะไรน่ะ”“ก็จริงนี่ครับลูกชายแม่เอาแต่ถูฝ่าเท้ากับหน้าแข็งผมอยู่นานสองนาน”“ไอ้นีน…” เดนีสกัดฟันกระซิบกระซาบเสียงลอดไรฟัน“ไม่ใช่ทำไมไม่บอกแต่แรกว่ะ”“บอกให้โง่น่ะสิ”“แม่ง!” เดนีสโกรธปนอายหัวฟัดหัวเหวี่ยงเดนิมหัวเราะพร้อมกับใบหน้าแดงเถือกแตกต่างจากวินตราที่ตีหน้าตายไม่หือไม่อือแถมยังหดเท้าวางไว้ใต้เก้าอี้ของตัวเองอย่างระมัดระวังอีกต่างหาก เดนีสแทบอยากจะกระโจนเข้าไปบีบคอไอ้น้องเวรที่ขายเขาได้อย่างเลือดเย็น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”“รีบมาเอาไปล่ะ” เดนีนยักคิ้วกวนๆให้แฝดพี่ก่อนจะเหลือบไปมองอดีตเลขาที่แม้ใบหน้าจะราบเรียบแต่ใบหูกลับเป็นสีชมพูอ่อนเขายกเชมเปญขึ้นจิบอย่างผู้ชนะ อาหารมื้อค่ำจบลงด้วยความเกษมสันต์วินตราได้รับการต้อนรับอย่างด
ลมหายใจที่ต่างหอบครางอยู่ภายในห้องนอนกว้างเป็นรังรักของพวกเขาสองคนผ้าปูที่นอนที่ยับย่นและเปียกชื้นเป็นวงกว้างบ่งบอกว่ากิจกรรมเข้าจังหวะนี้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน“อะอื้อ” วินตราแอ่นหน้าอกอย่างลืมอายแถมยังสั่นสะท้านไปทั้งตัวเมื่อถูกเล่นงานทั้งช่วงบนและช่วงล่างอย่างนี้อีกทั้งตอนนี้เขาไปผู้ควบขี่และคุมเกมฝ่ามือยันที่หน้าท้องที่เต็มเป็นด้วยมัดกล้ามบดเบียดให้แกนกายนั้นให้โบยตีจุดกระสันอย่างเป็นจังหวะเมื่อใกล้จะถึงปลายทางกลับถูกฝ่ามือใหญ่นั้นกอบกุมหัวบานหยักของตัวเองด้วยรอยยิ้มร้าย“งอนเก่งอุดแม่ง” วินตรากัดฟันแน่นก่อนจะกดขย่มอย่างแรง“บเบาเดี๋ยวแตก” เดนีสพูดเสียงกระเส่าวินตรายกยิ้มที่มุมปากก่อนจะกดตัวขึ้นสุดลงสุดจนแก้มก้นกระแทกกับพวงไข่คิดว่าทรมานคนอื่นเป็นฝ่ายเดียวหรือไงสองมือก็กอบกุมหัวนมตัวเองบีบบี้อย่างยั่วยวนสีหน้าและท่าทางของวินตราตอนนี้มันช่างยั่วเยส่งผลให้เดนีสปล่อยมือที่กอบกุมหัวบากก่อนจะโอบสองเต้านั้นคลึงอย่างมันมือน้ำสีใสเปรอะเปื้อนไปทั่วอกทั้งสองข้างบี้สองจุกนั้นที่เด้งสู้มือเซ็กซ์หลังจากคืนดีจากการทะเลาะกันเล็กๆน้อยๆมันจะอ่อนโยนเหมือนปุยนุ่นได้ยังไงต่างก็หาวิธีมาบีบเค้นให้อีกฝ่
ก้าวเข้ามาในห้อง VIP ไม่ทันไรก็ถูกเพื่อนฝูงรุมแซว อินทราเอ่ยเย้าแหย่เป็นคนแรก“ไงคุณชายแม่ให้มาแล้ว?”“แม่บ้านมึง” “อ้อเมีย” เดนีสทิ้งตัวลงบนโซฟาพลางไขว่ห้างวางมาดคุณชายเต็มที่“ช่วงนี้หล่อเหลาขึ้นนี่หว่า” สานิชเสริม“กูหล่อมาตั้งแต่เกิด” เรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกภายในห้องมีเพียงกิตติกรที่หัวเราะแผ่วเบาในลำคออีกฝ่ายกอดอกลอบสำรวจเดนีสไม่เจอกันนานตั้งแต่เกิดเรื่องราวพวกนั้นขึ้นโชคดีที่จบด้วยดีไม่เกิดการนองเลือด“มาขอบคุณพวกมึงๆนั่นแหละหากไม่มีพวกมึงกูก็ไม่รู้ว่าจะลงเอยยังไงแม่งตอใหญ่มาก” ทุกคนพยักหน้าเบาๆก่อนจะถอนหายใจเดนีสเปิดประเด็นเรื่องสำคัญขึ้นมาทันที“ชายกรพวกที่เลี้ยงไว้ในมือจัดการหรือยัง” ปรปักษ์ถามขึ้นพวกลอบบี้ลิสต์เหมือนงูเห่าที่ไม่รู้ว่าจะกลับมาฉกผู้ว่าจ้างเมื่อไหร่ “อืม” “ดีที่มึงดึงพ่อเลี้ยงดนัยมาเป็นพวกได้ฝั่งอีสานมีแต่พวกอิทธิพลเถื่อน”“โชคดีจริงๆนั่นแหละเพราะวินตรา” พอพูดถึงคนรักเดนีสน้ำเสียงอ่อนลงอย่างไม่รู้ตัวจนโดนเพื่อนๆโห่แซวกิตติกรเองยังร่วมผสมโรง“อะไรวะก็เรื่องจริงพวกมึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบเข้าสังคมจอมปลอมพวกนั้น”“แม่งตอใหญ่จริงไปๆมาพัวพันระดับใหญ่ๆทั้งนั้นไปไงมา
“มึงจะว่ามันโง่ว่างั้น” เวคินว่า“อย่ามัวแต่หาเครื่องประดับควรจะหาเพื่อนร่วมคิดร่วมทางที่เห็นอนาคตข้างหน้าในทางเดียวกัน” กิตติกรที่แทบไม่พูดอะไรเลยเมื่อครู่กลับพูดเสริมขึ้นมาเสียยืดยาวทั้งสามคนที่เหลือต่างหันมาพนมมือเหมือนเจ้าอาวาสให้พร“สาธุ!” “กูไม่เคยอยากเห็นเมียใครเท่าเมียชายกรมาก่อนเลยว่ะกูว่าต้องเปรี้ยวเยี่ยวราดแน่” เวคินพูดกับรอยยิ้มมีเลศนัย“คุณหญิงย่าเอาตาย” อินทราเสริม“ตามพลอตน้ำเน่าไงลุยไฟพิสูจน์รักแท้” ปรปักษ์พูดพลางปรายตามองกิตติกรที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงไม่ปริปากพูดอะไร“ตลก!” พูดตัดบทกิตติกรก็เดินหนีไปอีกทางปรปักษ์ตะโกนไล่หลัง“เออกูจะรอดูพ่อพระอย่างมึงร้อนรน” กิตติกรยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจร้อนรนเหรอคนที่ร้อนรนต้องไม่ใช่กิตติกรสลาลินแน่…“วินตราวินตรา” วินตราเดินสับมาที่ลานจอดรถโดยที่ไม่ชะลอฝีเท้าเลยสักนิดจนเดนีสต้องวิ่งไล่ตามขาแทบขวิด“ฟังฉันก่อนฉันไม่ได้รู้เห็นเรื่องเด็กพวกนั้น”“…” พอเห็นสีหน้าที่ไม่บ่งบอกอารมณ์ของวินตราเดนีสก็เริ่มทำตัวไม่ถูกร้อนรนเหมือนมีไฟสุมในอก“ฉันสาบานฉันไม่ได้แตะต้องเด็กพวกนั้นเลยแม้แต่น้อยมองก็ไม่ได้มองจริงๆนะ” แถมยังยกมือสามนิ้วขึ้นมาสาบานโง่
วินตรานั่งรวมกลุ่มด้านล่างกับบรรดานักอ่านของเดนิม เยื้องด้านหลังของครอบครัวศศิภักดี เดนิมเป็นทั้งเพื่อนร่วมงาน น้องชายของคนรัก และในอนาคตพวกเราอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกัน วินตราเลยเลือกซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดมือมาให้คุณนักเขียนคนเก่ง ถึงแม้ว่าตอนเริ่มทำ ONLY U ใหม่ ๆ อีกฝ่ายยังคงเหลือร่องรอยของความเสียใจหลังจากที่เลิกรากับอดีตสามีอย่างพิพัฒน์ กิ่งอมร แม้ใบหน้าจะยิ้มแย้ม แต่ภายใต้หน้ากากนั้นกลับซ่อนแววตาแห่งความเสียใจเอาไว้ไม่มิด เดนิมก็เหมือนเขาลากสังขารกายเนื้อมาทำงานทั้งๆที่ภายในใจแตกร้าวยับเยินเพราะเหตุนี้วินตราเลยเอ็นดูอีกฝ่ายเป็นพิเศษชวนลุยทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้ลืมเรื่องราวร้ายๆพวกนั้นแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆต่อให้ไม่ใช่ทางออกที่ดีในระยะยาวแต่ก็ช่วยเรียกคืนความมั่นใจและตัวตนของตัวเองที่ทำหล่นหายไประหว่างการเติบโตกลับคืนมากลายมาเป็นเดนิมที่สดใสอีกครั้งวินตราสอนงานให้น้องแฟนโดยใช้วิธีที่แตกต่างจากเดนีสลิบลับเขาเรียนรู้ที่จะวิเคราะห์แต่ละคนเลือกใช้คนให้เหมาะกับงานมาแต่ไหนแต่ไรด้วยเหตุนี้จึงสามารถดึงศักยภาพของเจ้าตัวออกมาได้จนหมดวินตรากวาดสายตามองไปรอบๆงานสะดุดกับชายหนุ่มท
เจ้าสัวเดรโกและตำรวจน้ำดีหลายคน หลายฝ่ายช่วยทำให้เกิดระลอกคลื่นที่ทำให้ผู้คนตระหนักถึงปัญหาพวกนี้ และเปิดโปงกระบวนการค้ามนุษย์ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า รวมไปถึงทุนต่าง ๆ เด็กทุกคนคือทรัพยากรของชาติ หากไม่มีเด็ก ๆ รุ่นใหม่คอยป้อนเข้าระบบทำงาน สังคม ฟันเฟืองนี้คงพังลงสักวัน มีประชากรถึงมีชาติ เพราะฉะนั้นเด็กทุกคนไม่ว่าจะเกิดด้วยสภาพแวดล้อมแบบใดควรจะได้รับการปกป้องดูแลในนามเยาวชนของชาติมีคำเปรียบเปรยที่ว่า “เด็กหนึ่งคนกว่าจะโตต้องช่วยกันเลี้ยงทั้งหมู่บ้าน” ครอบครัวเป็นจุดเล็กๆที่อาจทำให้เด็กคนหนึ่งกลายเป็นเด็กมีปัญหาของสังคมเพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันสอดส่องดูแลไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยากต่อให้พื้นที่ที่อยู่อาศัยจะราคาแพงและปลอดภัยมากแค่ไหนเมื่อก้าวออกไปเจอสังคมที่เสื่อมโทรมยังไงสักวันก็หนีไม่พ้นความเสื่อมถอยของสังคมที่เต็มไปด้วยอาชญากรรมโจรผู้ร้ายเมล็ดพันธ์ุกว่าจะเติบโตเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงากับคนรุ่นหลังต้องใช้เวลาและความใส่ใจและนี่คือปณิธานอันยังใหญ่ของท่านเจ้าสัวเดรโกศศิภักดีเมื่อได้ฟังถ้อยคำแถลงนี้ใครบ้างจะไม่อยากทำงานภายใต้องค์กรที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตนแห่งนี้กันเล่าภายในงา
“พ่อครับแม่ครับอยู่ไหนครับ” ก่อนจะได้ยินเสียงแทรกเข้ามา“อย่าให้พ่ออยู่กับแม่ไม่งั้นแม่จะไม่สบาย”“หา” เดนีสหน้าตื่นก่อนจะแง้มประตูแอบฟังต่อ สามพี่น้องพยักหน้าให้กัน“จริงแม่จะเสียงแหบและบ่นปวดเอวแล้วก็มีรอยยุงกัดเยอะด้วย” สามพี่น้องปรึกษาหารือกันเหมือนกำลังคุยเรื่องโลกแตกวินตราหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะมองพ่อหมาที่เงี่ยหูฟังลูกๆคุยกันสมน้ำหน้า! “พ่อชอบเล่นกับแม่แรงๆสงสารแม่พวกเราต้องปกป้องแม่ให้พ้นจากเงื้อมมือพ่อ” สามพี่น้องชูกำปั้นใส่กันสักพักแม่บ้านและพี่เลี้ยงก็มาตามเพราะปู่ย่ามารับไปเล่นบ้านใหญ่สามคนดีใจใหญ่เพราะว่าจะได้เจอลูกพี่ลูกน้องอีกหลายคนก่อนจะเฮโลลงบันไดไปข้างล่างเดนีสหัวคิ้วกระตุกโพล่งด่าในใจ ‘ไอ้ลูกเวร’ ส่วนวินตราหัวเราะท้องแข็งอยู่ข้างหลังเขาเมื่อเดนีสปิดประตูห้องสนิทพร้อมกับสีหน้าไม่สู้ดี “มิน่าพักหลังถึงทำตัวเป็นปรปักษ์กับฉันขนาดนั้นที่ไหนได้!” เดนีสโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงแต่ภรรยาสุดที่รักกลับขำจนตัวงอสองตาแดงเรื่อเพราะว่าหัวเราะมากจนเกินไป“ขำมากหรือไง”“ฮ่าๆฮ่า” วินตรายังขำไม่หยุดก่อนจะอุ้มภรรยาทุ่มลงบนเตียงกว้างด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์“อย่าหวังว่าคราวนี้จะรอด” “มะ
ส่วนวินตรากับเดนีสเองก็ถอนหายใจเช่นกันยังดีที่เดนอนอยู่อนุบาลสามส่วนแฝดพี่อีกคนอยู่คนละห้องไม่งั้นเรื่องราวคงวุ่นวายมากกว่านี้เป็นแน่พี่ชายทั้งสองหวงน้องสาวยังกะอะไรดีไม่น้อยไปกว่าพ่อหมาเลยนั่นคือเรื่องแรกแล้วก็มีเรื่องราวมากมายตามมาเป็นพรวนวีรกรรมสุดแสบที่ทำเอาวินตราหัวหมุนเป็นประจำโดยเฉพาะลูกชายคนโตที่ถอดแบบเขาออกมามากที่สุดวันนี้นัดกันว่าจะทานมื้อค่ำด้วยกันแต่เดนีสแวะไปเอาเค้กร้านโปรดที่เจ้าสามแสบชอบเลยช้ากว่ากำหนดการที่บอกเอาไว้ว่าจะตั้งโต๊ะอาหารหนึ่งทุ่มตรงแต่ตอนนี้ทุ่มครึ่งพ่อหมายังไม่เห็นแม้แต่เงาเดนอนวัยห้าขวบกอดอกรออยู่บนเก้าอี้ก่อนจะใช้นาฬิกาดิจิตอลของตัวเองต่อสายหาปลายทางวินตราเองก็นั่งรออย่างใจเย็นเช่นกัน“พ่อฮะจะกลับกี่โมงครับ” “อีกสิบนาทีถึงน่าไอ้ลูกชาย” “ระยะทางจากบริษัทถึงบ้านสามสิบห้าไฟแดงแต่ละแยกสองถึงสามนาทีถ้าขับด้วยความเร็วคงที่น่าจะกลับมาก่อนเวลาหนึ่งทุ่มตรงด้วยซ้ำ”“เฮ้! ไอ้ลูกหมาพ่อมีธุระนิดหน่อยตอนนี้จะถึงบ้านแล้วครับ” แม้น้ำเสียงตอนต้นจะติดโวยวายนิดหน่อยตามนิสัยของเจ้าตัวแต่พอเจอวินตราดุไปก่อนหน้าเลยอ่อนลงแต่ไอ้ลูกชายตัวดีเหมือนกำลังซักฟอกเขาเดนีสขุ่นเคือง
พอคลอดสองแฝดปุ๊ปคุณแม่ลูกสามอย่างวินตราก็ปิดอู่ทันทีอีกทั้งเดนีสเองก็ยินยอมพร้อมใจทำหมันเพื่อเป็นการให้คำมั่นสัญญาไปในตัวว่าเขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทางจะรักแม่หมาเพียงคนเดียวไม่มีลูกนอกสมรสที่ไหนอีก!เดนอนวัยสองขวบเป็นพี่คนโตของสองแฝดชาย-หญิงซึ่งผู้ชายเป็น (New Male) เหมือนวินตราชื่อเดโนส่วนน้องเล็กเป็นเพศหญิงชื่อเดเลเนเป็นรุ่นหลานสามเดอ้อ…ห้าเดถ้านับลูกสาวของเดนิมที่ชื่อเดล่าและลูกชายชื่อเดโลเข้าไปด้วยเมื่อเด็กห้าคนมารวมตัวกันเมื่อไหร่ผู้ใหญ่ก็มักจะปวดหัวทุกทีคุณปู่คุณย่าก็พลอยหมั่นดูแลสุขภาพเพราะลูกชายคนสุดท้องอย่างเดนีนก็แว่วๆว่ากำลังจะมีหลานตัวน้อยให้ศศิภักดีเองเช่นกัน วินตราทำหน้าที่ของผู้บริหารและแม่ที่ดีได้อย่างไม่มีบกพร่องและสร้างสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานสำหรับแม่ลูกอ่อนด้วยกลายเป็นว่าบริษัทในเครือศศิภักดีต่างเป็นบริษัทที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ต้องก็อยากจะตบเท้าเข้าทำงานและฝากชีวิตไว้ที่นี่กันทั้งนั้นเพราะผู้บริหารคำนึงถึงพนักงานเป็นหลักจึงทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อทุกเพศสภาพและทุกสถานะ ตอนนี้พวกเขาย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ที่ไม่ไกลจากบ้านใหญ่คุณปู่คุณย่าไปหาได้สะดวกและฝากหลานได้สะดวกเช่น
“อื้อ” ความจริงเดนีสอยากจะถ่ายภาพนี้ของวินตราเอาไว้ แต่เขาก็กลัวว่าจะหลุดออกไป จึงทำได้เพียงบันทึกภาพสุดแสนอีโรติกนี้เข้าสู่สมองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อวินตรากระตุกเขาก็อมยิ้มดึงหางแมวออกดังเปาะ ก่อนกิจกรรมจะเริ่มวินตราได้ปูเตียงด้วยผ้าที่สั่งซื้อพิเศษ กันน้ำ พวกเขาเลยสามารถทำกิจกรรมเข้าจังหวะอย่างว่าได้สนุกสุดเหวี่ยง เมื่อช่องทางหลังขยายได้ที่แล้ว เดนีสก็ส่งลิ้นร้อนเข้าไปแหย่รูนั้นที่หุบอ้า ๆ อย่างเชื้อเชิญ แลบเลียช่องทางเหมือนเลียไอศกรีมรสโปรด ตวัดลิ้นเร็วช้าสลับกันตามแต่ใจจะนำพา วินตรากระเถิบตัวหนี ไม่ไหว! เขาเสียวแทบขาดใจ แถมเสียงครวญครางก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับอารมณ์วาบหวามที่กำลังพุ่งขึ้นสูงทุกวินาที แถมพ่อหมายังยกซดน้ำหวานจากช่องทางเหมือนตายอดตายอยาก วินตราเขยิบหนีครางเสียงกระเส่า“มะไม่ไหวอะ” ร่างกายเกร็งกระตุกส่วนหน้าหลั่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปทั่วหน้าขาและผ้าปูที่นอนแถมพ่อหมายังไม่หยุดระรัวลิ้นอีกวินตราหันไปกระชากผมที่เอาแต่ซุกก้นของเขาอย่างหื่นกระหายให้เงยหน้าขึ้นมา“เข้ามาได้แล้ว” เดนีสยันเข่าข้างนึงกับเตียงจับบั้นเอวนั้นที่แอ่นเชื้อเชิญเขาอย่างน่ารักค่อยๆสอดใส
ทางด้านเดนีสหลังจากทานมื้อเย็นกับพวกห้าสิงห์เขาก็แวะไปเอาของเล่นที่สั่งไว้เพื่อมาเล่นกับภรรยาโดยเฉพาะแต่รถดันติดเสียนี่…มาช้าเป็นชั่วโมงทั้งๆที่นัดกันดิบดีพอมาถึงห้องก็ต้องแปลกใจที่ข้างในมืดสนิทเดนีสเปิดไฟก่อนจะหอบกล่องอย่างทุลักทุเลเข้าไปในห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเตรียมจะจ๊ะเอ๋แม่หมากลับกลายเป็นว่าแม่หมาหลับไปแล้วซะงั้น…เพราะแบบนี้เลยเปลี่ยนแพลนกะทันหันย่องเบาเหมือนแมวหนีไปอาบน้ำยังไงก็ต้องได้กินของหวานแหละน่าเดนีสผิวปากอาบน้ำขัดตัวอย่างสบายใจเฉิบพอเขาออกจากห้องนำ้มาเท่านั้นแหละ…เรนเดียร์ตัวน้อยที่แกล้งหลับกำลังหันมามองเขาด้วยสายตาทรงเสน่ห์อย่างล้นเหลือเรียวปากยังชุ่มฉ่ำไปด้วยลิปกลอสนั่งขาแบะเป็นตัวเอ็มหันหลังให้เขานั้น…เดี๋ยวก่อนนะก็ว่าละทำไมภาพนี้มันคุ้นๆโปสเตอร์นั้นรูปเมียรักเขานี่เองให้ตายจะบอกไอ้พวกนั้นไม่ได้เด็ดขาดจะได้ลืมๆไป “วินตรา!” เดนีสตะโกนเสียงเข้ม“อย่าบอกว่านายแบบคือนาย”“ใช่” เดนีสอ้าปากค้างก่อนจะสาวเท้าไปหาคุณภรรยากระโดดทับด้วยความหึงหวง “อะไอ้บ้าเจ็บ” “เจ็บสิจะได้จำ” เดนีสขบย้ำๆที่หัวไหล่มนอย่างมันเขี้ยวตอนนี้แม่หมาสวมเพียงเกาะอกแดงตัวจิ๋วที่กระชากนิดเดียวก็คงจะ
“ทำได้ทำได้แน่นอนฉันจะไม่สปอยลูกอีก” มือขวายกสามนิ้วแต่มือซ้ายกลับไขว้กากบาทอยู่ด้านหลังพอเห็นเมียรักไม่พูดอะไรก็ปรี่เข้าไปคลอเคลียขอความเห็นใจทันที“ฉันรู้ฉันผิดเอาเป็นว่าวันหลังจะไม่แอบให้ขนมอีกถ้าลูกหิวต้องหิ้วท้องรอเพราะไม่ทำตามกติกากลุ่มโอเคไหม?” วินตรากอดอกเหลือบตามองอย่างคาดโทษก่อนจะถอนหายใจออกมาแรงๆ “เด็กคนหนึ่งกว่าจะโตต้องเลี้ยงทั้งหมู่บ้านต้องเคารพกติกากลุ่มลูกเรามักน่ารักสำหรับเราเสมอแต่ใช่ว่าจะน่ารักสำหรับคนอื่นที่สำคัญหากไม่สอนให้เขาเคารพกฎหมู่กฎระเบียบเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะสอนเขาเมื่อไหร่?”“ฉันรู้ๆฉันผิดไปแล้ว” พ่อหมาแทบจะกราบกรานเขย่าแขนเมียตัวเองขอความเมตตา “วันหลังฉันจะให้ตายตัดสินจะถามนายก่อนโอเคไหม” วินตราถอนหายใจก่อนจะสงบสติอารมณ์“วันหลังห้ามทำอีก” “ฉันจะจำไว้และจะไม่ทำอีก” ก่อนจะเข้าไปจุมพิตกระหม่อมภรรยาโอบกอดหลวมๆแม้ปากจะบอกว่าเข้าใจแต่สุดท้ายพ่อหมาก็คือพ่อหมาต่างก็ขบคิดหาวิธีที่ไม่ให้แม่หมาจับได้กลยุทธ์แพรวพราวมากขึ้นกลายเป็นถือหางลูกชายสุดๆในอีกยี่สิบกว่าปีให้หลังมีเพียงใบหน้าและแววตาที่เหมือนผู้เป็นแม่แต่นิสัยใจคอเหมือนรวมเอายีนด้อยและเด่นของพ่อแม่เข้าด้วยกั
ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมาจวบจนแต่งงานมีพยานรักงานวันเกิดของเดนีสอีกฝ่ายไม่เคยเรียกร้องอะไรจากวินตราเลยมีแต่วันเกิดของเขาที่พ่อหมาตั้งใจรังสรรค์ออกมาอย่างใจป้ำโดยให้เหตุผลว่า“ฉันมีวันเกิดที่ดีมาเสมอทุกปีต่อแต่นี้ขอให้นายมีความสุขมีวันเกิดที่ดีในทุกๆปี” แม้ว่าภายในงานจะเรียบง่ายแต่ตราตรึงในใจของวินตราทุกครั้งกลับจากทำบุญสถานสงเคราะห์ต่างๆก็ไปวัดทำบุญถวายเพลอุทิศกรวดน้ำให้กับพ่อแม่ผู้ล่วงลับแต่ในปีนี้วันเกิดสามีของเขาวินตราก็อยากจะเซอร์ไพรส์และให้ของขวัญที่ดีที่สุดเพื่อตอบแทนความรักดีๆที่สามีมอบให้เสมอมา วินตราเคลียร์ตารางตัวเองอีกทั้งเจ้าลูกหมาตัวน้อยก็อายุสิบเดือนกำลังตั้งไข่ฝึกเดินเกาะไปทั่วคอกกั้นเด็กที่สั่งทำพิเศษดูท่าจะได้ความแสบซนจากพ่อหมามาไม่น้อยแถมยังฉีกยิ้มหวานสองซี่ให้อีกต่างหาก “มาม่า”“ครับ” วินตราอุ้มลูกชายที่ร้องเรียกตอนนี้เดนอนกำลังฝึกออกเสียงสองพยางค์และรู้ความหมายของศัพท์มากขึ้นแล้ววินตราจะไม่ใช้ภาษาเด็กคุยแต่จะพูดคุยเหมือนกับว่าเดนอนเป็นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่งเพียงแต่ว่าพูดช้าๆชัดๆเพื่อให้เด็กน้อยเข้าใจภาษาที่สื่อและสอดคล้องกับภาษากายที่กำลังแสดงอีกทั้งเจ้าหมาน้อยยังเลี้ยงง่
“อื้อ อะ” เสียง ตับ ๆ ของแก้มก้นที่ถูกหน้าขาโบยตี เสียงเฉอะแฉะของน้ำลายที่สองปากกำลังจูบกันอย่างดูดดื่ม ก่อนจะพากันไปแตะฝั่งฝัน สองร่างเกร็งกระตุกก่อนจะพากันทะยานไปถึงฝั่งพร้อมกัน วินตราหอบหายใจเหนื่อย สองขาสั่นเทา เดนีสเองก็เช่นกัน ก่อนจะวางขาลงแต่ช่วงล่างที่สอดประสานกลับคาเอาไว้เพื่อรอให้เมล็ดพันธ์ุหลั่งออกมาทุกหยาดหยด เขาฟุบหน้าลงบนซอกคอขาวที่ทั้งหอมและน่าขย้ำให้เลือดกระฉูด ได้แต่เพียงดอมดมสูดกลิ่นอายของภรรยาเข้าไป แม้ในใจอยากจะฝากร่องรอยสีกุหลาบเอาไว้แค่ไหนก็ตาม เพราะวินตราหน้าบาง เดนีสเลยเลือกที่จะแต่งแต้มร่างกายที่ขาวเหมือนน้ำนมแพะตามร่มผ้า โดยเฉพาะป้านนมที่มีรอยฟันของเขาประทับเอาไว้เป็นวงกว้าง ต่อให้พรุ่งนี้จะโดนเมียรักเฉ่งจนหูดับก็คุ้มค่า“เอาออกไปได้แล้ว” วินตราว่าพลางดันตัวหมายักษ์ที่นอนทับเขาแทบหายใจไม่ออก“อุ่นขนาดนี้ขอต่อเวลาอีกหน่อย”“หมดเวลาแล้ว”“ใจร้ายกินฉันแล้วถีบหัวส่งเลยนะ” ฝ่าเท้ากำลังจะทำท่าถีบเอวสอบที่เริ่มขยับเบาๆ “เดี๋ยวถุงก็แตกหรอก”“ถ้าแตกฉันจะตั้งทนายฟ้องเลยเอ้า” “ไอ้บ้า” วินตราเอ็ดเบาๆ “นี่ฉันถามไอ้หมอหัสดินมาแล้วหลังคลอดช่วงที่ให้นมยังไม่มีประจำเดือนไม
วินตราไม่รู้ว่าความรักของเราจะมีวันหมดอายุหรือเปล่า แต่ผู้ชายคนนี้ขยันเติมหยอดความหวาน ความรักให้เขาไม่รู้จักเบื่อ การมีเพื่อนคู่คิด มีคนนอนเป็นเพื่อนมันดีกว่าอยู่คนเดียวจริง ๆ ผู้ชายคนนี้เป็นแสงสว่างนำทางเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แม้ว่าบางครั้งจะบ้า ๆ บอ ๆ ก็เถอะ แต่สำหรับวินตราตั้งแต่เขาได้มาเจอกับผู้ชายคนนี้ชีวิตก็มีสีสันขึ้นมาทันตา และความสุขที่คิดว่าไม่มีอยู่จริงก็อยู่ตรงหน้าในทุก ๆ วัน พร้อมกับลูกน้อยที่เขารักที่สุด และสัญญากับตัวเองว่าจะเป็นแม่ที่ดี ไม่ทำให้ลูกน้อยต้องมีแผลใจเหมือนอย่างตน สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์พูนสุขไปด้วยกันตราบนานเท่านานพ่อหมาทำตัวดีขนาดนี้จะไม่ให้รางวัลได้ยังไง!รถยนต์มาจอดบนเขาลานจอดรถโล่งกว้างแต่กลับไม่มีรถคันอื่นสักคันเบื้องล่างเป็นภาพวิวของชานเมืองแสงสว่างเหลืองอร่ามของบ้านเรือนรถราแสงเหลืองส้มไหลติดกันเป็นเส้นเดียววินตราจอดรถเดนีสเองก็ถามด้วยความสงสัยปกติแม่หมาเลิกงานแทบจะเหยียบมิดไมล์เพื่อรีบกลับไปหาเจ้าก้อนแต่ไหงวันนี้มาแปลก“มีอะไรหรือเปล่า” เดนีสเลียบเคียงถามวินตราปลดเนกไทตัวเองช้าๆเดนีสลอบกลืนน้ำลาย“ชวนมาดูดาว” เดนีสหูตั้งแต่ยังคงรักษาท่าทีร