พีรกันต์ขับรถไปรับรัญรวีที่หน้าหอพักในเวลาบ่ายสองโมงตรงจากนั้นก็ขับรถมาตามทางถนนพระราม 2 เพื่อมุ่งสู่ชายหาดชะอำ ระหว่างทางทั้งสองก็พูดคุยกันไปเรื่อยแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่พูดเรื่องสำคัญสักทีหญิงสาวเลยอดไม่ได้ที่จะถาม
“คุณกันต์บอกจะคุยเรื่องสำคัญกับเนย”
“ใช่ครับ แต่ไม่ใช่เรื่องด่วนเราไปถึงแล้วหาอะไรกินแล้วค่อยคุยก็ได้”
“ใบ้ได้ไหมว่าเกี่ยวกับอะไร นะคะคุณกันต์”
เสียงอ้อนหวานจนคนฟังใจอ่อนยวบเพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่เขาก็ต้องใจแข็ง
“เกี่ยวกับงานของผมครับ”
“งานของคุณเหรอคะ”
“ครับ” เขาตอบสั้นๆ สีหน้าเครียดจนเธอสังเกตเห็น
“คุณเคยบอกว่าทำธุรกิจกับที่บ้าน หรือกิจการมีปัญหาคะ เนยพอจะช่วยอะไรได้ไหม” หญิงสาวไม่เคยเห็นเขาทำหน้าเครียดแบบนี้มาก่อน เธอถามออกไปด้วยความห่วงใย
“ผมดีใจนะที่คุณอยากจะช่วย ผมว่าคุณช่วยผมได้แน่ๆ”
“บอกมาสิคะว่าจะให้ช่วยอะไร”
“คุณกำลังหลอกให้ผมพูด”
“เปล่านะคะก็แค่อยากรู้ว่าจะช่วยได้ยังไงบ้าง” รัญรวียิ้มเมื่อเขารู้ทัน
“สัญญาได้ไหมว่าจะช่วยผมถ้ามันไม่กระทบกับงานหลักของคุณ”
“ค่ะ เนยยินดีช่วย”
“ขอบคุณครับเนย คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ”
“คุณก็เป็นเพื่อนที่ดีของเนยค่ะ” หญิงสาวยิ้มอย่างจริงใจเพราะตั้งแต่คบกันเป็นเพื่อนเขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและยังเป็นผู้รับฟังที่ดีในเวลาที่เธอบ่นเรื่องงาน
ถ้าเป็นเมื่อก่อนพีรกันต์ต้องถามเธอไปแล้วว่าเมื่อไหร่จะเปลี่ยนจากเพื่อนเป็นแฟนแต่เพราะคุยกับหมอจิดาภาเมื่อวานก็ซึ่งเธอแนะนำให้เขาขอเธอเป็นแฟนอย่าจริงจังในบรรยากาศดีๆ ไม่ใช่ขอในร้านอาหารตามสั่งที่คนพลุกพล่านอย่างที่เคยทำ
“คุณง่วงไหม นอนก่อนก็ได้นะถึงแล้วผมจะปลุกเอง”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันนอนมาเยอะแล้ว”
“ขึ้นเวรรอบนี้เหนื่อยไหมครับ”
“เหนื่อยเป็นบางวันสลับกันไปค่ะ บางวันคนไข้ก็เหลือน้อย บางวันก็รับใหม่เยอะจนไม่ค่อยเวลากินข้าวเลยล่ะคะ”
“ผมว่าอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เสียสละมากๆ เลยนะ”
ตอนที่เป็นนักเรียนแพทย์เขาก็คลุกคลีกับพยาบาลอยู่ตลอดจึงรู้ว่าอาชีพนี้ต้องเสียสละมากทั้งร่างกายและเวลาโดยเฉพาะการขึ้นเวรดึกซึ่งเป็นเวลานอนของคนอื่น
“ค่ะ เวลาหยุดงานและเวลานอนของพวกเราจะไม่ค่อยเหมือนคนอื่น แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนหรอกนะคะ อย่างแผนกผู้ป่วยนอกก็จะได้หยุดเหมือนคนอื่น”
“แล้วทำไม่เนยถึงไม่ทำที่แผนกผู้ป่วยนอกล่ะ”
“ไม่ใช่ว่าไม่อยากทำนะคะแต่เขาไม่ค่อยรับพยาบาลจบใหม่หรอกค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นพี่ๆ ที่จบมานานแล้วหรือคนที่มีครอบครัวต้องดูแล แต่ทำงานที่วอร์ดผู้ป่วยในก็ดีไปอย่างค่ะ”
“ดียังไงครับ”
“ก็ดีตรงได้ค่าเวรบ่ายกับเวรดึกไงคะ ถ้าขยันมากก็ได้มาก”
“แล้วเนยขยันมากไหม”
“ช่วงจบใหม่ขยันมากค่ะ พี่คนไหนจะขายเวรเนยรับซื้อหมดจนแทบไม่มีวันหยุดเลยแต่ตอนนี้รับซื้อเท่าที่จำเป็นค่ะ เงินที่ได้มันไม่คุ้มกับสุขภาพที่เสียไป”
“ผมว่าเนยคิดถูกแล้ว คนเราทำงานหนักก็ต้องมีเวลาหยุดพักผ่อนบ้าง แค่ผมชวนเนยมาแบบนี้ไม่รบกวนเวลานอนใช่ไหม”
“ไม่หรอกค่ะ เนยไม่ได้นอนทั้งวันสักหน่อย”
“หยุดครั้งหน้าเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันไหมครับ”
“ขอดูก่อนนะคะว่าช่วงนั้นเหนื่อยมากไหม”
“ได้ครับ”
ทั้งสองมาถึงชายหาดชะอำในเวลาเกือบห้าโมงเย็นเพราะแวะทานกาแฟและเค้กระหว่างทาง
หลังทานอาหารอิ่มแล้วก็พากันมาเดินเล่นซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยจะมีแดดแล้ว
“คุณชอบทะเลไหมครับเนย”
“ชอบค่ะ แต่ไม่ค่อยได้มา ครั้งสุดท้ายก็น่าจะสองปีที่แล้วตอนนั้นมากับที่โรงพยาบาลค่ะ”
“ถ้าคุณชอบผมจะพาคุณมาบ่อยๆ”
“ฉันไม่รบกวนคุณขนาดนั้นหรอกค่ะ”
“ไม่รบกวนเลยผมเต็มใจนะ ผมอยากดูแลคุณอยากพาไปไหนมาไหนกับคุณแบบนี้ตลอด”
“ไม่เบื่อเหรอคะ”
“เบื่ออะไร”
“ก็เบื่อที่ต้องเป็นเพื่อนกับเนย”
“ทำไม่คิดว่าผมจะเบื่อล่ะ”
“ไม่รู้สิคะ บางครั้งเนยก็คิดว่าชีวิตตัวเองมันน่าเบื่อ วันๆ ก็เอาแต่ทำงานไม่วันหยุดก็นอนไม่มีกิจกรรมอย่างอื่นเลย”
“ที่ไม่ทำอย่างอื่นเพราะอยู่คนเดียวด้วยหรือเปล่าครับ เพื่อนของเนยก็มีแต่พยาบาลเวลาหยุดก็ไม่ตรงกัน”
“ก็ส่วนหนึ่งคะ”
“อยากหายเบื่อไหมครับผมมีวิธีนะ”
“ยังไงคะ”
“มาเป็นแฟนผมสิผมรับรองว่าวันหยุดของคุณจะไม่เบื่ออีกต่อไป” พีรกันต์หยุดเดินแล้วหันหน้ามองรัญรวี เขาอยากเธอเห็นว่าเขาจริงจังกับสิ่งที่พูดมากแค่ไหน
“เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแบบนี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ”
“เป็นเพื่อนกันก็มันก็ดี แต่ผมอยากเป็นแฟนคุณด้วยนะครับเนย”
“ถ้าเป็นแฟนมันจะมีอะไรเปลี่ยนจากนี้ไหมคะ”
“ทำไมครับ คุณกลัวอะไร” พีรกันต์มองหน้าหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ
“กลัวระหว่างเรามันไม่เหมือนเดิมค่ะ ตอนนี้ระหว่างเรามันดีอยู่แล้ว ถ้าเป็นแฟนกันเราต้องเจอกันมากขึ้นไหม ต้องรับโทรศัพท์ทุกครั้งหรือเปล่าคะ” รัญรวีเคยมีแฟนที่ไม่เข้าใจการทำงานจึงกลัวว่าการคบกับพีรกันต์จะจบลงเหมือนเดิมอีก เธอไม่อยากเสียเวลาจึงต้องคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
“ผมอยากเจอคุณมากขึ้นแต่นั้นต้องเป็นตอนที่คุณว่างและไม่เหนื่อยจากงานจนเกินไป ส่วนเรื่องโทรศัพท์ผมไม่ซีเรียสผมรู้ว่าคุณทำงานแต่ขออย่างเดียวอย่าหายไปนานแค่นั้นก็พอ นะครับเนยเป็นแฟนผมนะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง เขามั่นใจว่ารัญรวีคือผู้หญิงที่ตนเองตามหามานาน ครั้งแรกอาจจะสะดุดตาเพราะความสวยแต่พอได้คุยก็ยิ่งชอบเธอมากขึ้น จนตอนนี้เขาคิดว่ามันกลายเป็นความรักไปแล้ว
รัญรวีเป็นผู้หญิงที่ขยันทำงาน ฉลาดและจิตใจดีเธอทำให้คนเจ้าชู้อย่างเขายอมหยุดที่เธอโดยที่ไม่ได้เอ่ยขอเลยแต่พีรกันต์กลับเต็มใจ
“คุณกันต์ค่ะถ้าจะเป็นแฟนกับเนยจริงๆ เนยขออะไรอย่างหนึ่งได้ไหมคะ”
“ได้สิขอมาเลย” นาทีนี้ไม่ว่ารัญรวีจะขออะไรเขาก็ยินยอมทุกอย่างขอเพียงแค่เธอยอมตกลงเป็นแฟนเท่านั้น
“เนยไม่ชอบคนโกหกเพราะฉะนั้นอย่าโกหกเนย ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ มีอะไรก็ต้องบอกกันตรงๆ”
“ได้สิสบายมาก ตกลงเราเป็นแฟนกันแล้วนะ”
“ก็ได้ค่ะ เนยจะลองให้โอกาสคุณ”
“ขอบคุณครับเนยผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณเสียใจ”
“นี่ใช่ไหมคะเรื่องสำคัญที่คุณบอกจะคุย เนยคิดว่าเรื่องงานของคุณเสียอีก”
“เรื่องนี้สำคัญที่สุด แต่ยังมีอีกเรื่องที่ผมจะบอกคุณและขอให้คุณช่วย”
“เรื่องอะไรคะ”
“ผมเคยบอกคุณว่าผมทำธุรกิจของที่บ้าน”
“ค่ะ เนยรู้แล้วธุรกิจมีปัญหาเหรอคะ”
“ครับเรามีปัญหาเรื่องคนทำงานไม่ค่อยพอเลยอยากให้เนยช่วยไปทำงานกับที่บ้านของผมได้ไหม ชวนเพื่อนมาด้วยก็ได้นะคะ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ วันไหนที่เนยหยุดเนยไปช่วยคุณก็ได้ ว่าแต่ที่บ้านคุณทำธุรกิจอะไรคะ เนยเป็นพยาบาลไม่รู้ว่าจะช่วยคุณได้มากแค่ไหน” รัญรวีรีบรับปากทั้งที่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าที่บ้านของเขาทำธุรกิจอะไร ที่เธอช่วยเพราะตลอดเวลาสองเดือนกว่าที่รู้จักกันเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอมากและตอนนี้เธอก็เพิ่งยอมเป็นแฟนกับเขาเรื่องช่วยเหลือเขาได้หญิงสาวก็ยินดีจะทำ
“ได้สิ เนยช่วยผมได้มากเลยทีเดียว” พีรกันต์บอกด้วยความมั่นใจ
“คุณกันต์จะให้เนยช่วยยังไงคะ”“ผมอยากให้คุณไปทำงานที่โรงพยาบาลของผม”“ทำงานที่โรงพยาบาลของคุณ”“ใช่ครับ โรงพยาบาล XX คือกิจการของครอบครัวที่ผมดูแลอยู่”“คุณต้องล้อเนยเล่นแน่ๆ ใช่ไหมคะ”“เปล่านะผมพูดจริงนะเนย ผมขอโทษที่ไม่บอกตั้งแต่แรกว่าครอบครัวของผมทำธุรกิจอะไร”“เพราะกลัวว่าเนยจะหวังผลประโยชน์จากคุณใช่ไหมคะ” หญิงสาวมองหน้าเขาอย่างผิดหวัง“เปล่าเลยนะ ผมไม่เคยคิดแบบนั้น”“แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกตั้งแต่แรกล่ะคะ”“ผมกลัวว่าพอคุณรู้แล้วคุณจะไม่คุยกับผมเหมือนเดิม”“ทำไมต้องไม่คุยด้วยล่ะคะ”“บางคนมองว่าผมต่างจากเขา”“ต่างยังคะ”“ก็เรื่องฐานะและสังคม ถ้าคุณรู้คุณจะยอมรับผมเป็นแฟนไหมล่ะครับ บางที่คุณอาจไม่ให้ผมเป็นเพื่อนเลย”“คุณมองโลกในแง่ร้ายเกินไปหรือเปล่าคะ”“ไม่หรอกครับ”“ตอนผมเรียนหมอพอเพื่อนรู้ว่าผมเป็นลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลพวกเขาก็เปลี่ยนไป พวกเขาเกรงใจผมมากขึ้น ความสนิทก็หายไป”“อะไรนะคะ คุณเรียนหมอ เนยไม่รู้ว่าจะตกใจเรื่องไหนก่อนดีระหว่างครอบครัวคุณเป็นเจ้าของโรงพยาบาลกับเรื่องที่คุณเรียนหมอ”“ผมรู้ว่าเรื่องที่บอกมันน่าตกใจแต่เนยจะไม่โกรธใช่ไหม”“มันก็น่าโกรธนะคะ คุณหลอกให้เนยหลงกลยอม
รัญรวีลงจากรถแล้วก็รีบเดินเข้าหอพักในเวลาเกือบจะสี่ทุ่มหญิงสาวอาบน้ำสระผมและเก็บชุดทำงานที่ร้านซักรีดเอามาแขวนไว้หน้าห้องใส่ตู้จากนั้นก็ตรวจดูว่ามีของใช้อะไรที่จะต้องซื้อไหมเพราะคิดว่าพรุ่งนี้สายๆ จะไปหาซื้อให้ครบก่อนจะทำงานยาวอีกหลายวันแต่ยังตรวจไม่ครบพีรกันต์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าเขาถึงบ้านแล้ว เธอคุยกับเขาอีกไม่นานเพราะอยากให้เขาได้พักผ่อนเนื่องจากขับรถไปกลับวันนี้รวมแล้วก็หลายชั่วโมงหญิงสาวก็อยากจะช่วยเขาขับอยู่หรอกแต่มันติดตรงที่เธอนั้นขับรถไม่เป็น เธอเคยคิดที่จะซื้อรถมือสองมาใช้แต่เพราะหออยู่ในโรงพยาบาลก็เลยไม่คิดจะซื้อ รัญรวีจึงเปลี่ยนใจมาเก็บเงินเพื่อซื้อคอนโดมิเนียมห้องเล็กๆ แทนเพราะถ้าจะออกไปทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลเอกชนก็รู้สึกว่าตนเองจะเอาเปรียบโรงพยาบาลมากเกินไปเมื่อวางสายแล้วก็เปิดตู้เย็นดูว่ามีอาหารกึ่งสำเร็จรูปอะไรที่ต้องซื้อมาเพิ่มไหมเพราะที่หอไม่อนุญาตให้ทำอาหาร ในห้องของเธอจึงมีแค่ไมโครเวฟ กระติกน้ำร้อนและหม้อชาบูใบเล็กที่เอาไว้ทำกินเองคนเดียวเสียงเคาะประตูทำให้เธอรีบปิดตู้เย็นแล้วเดินไปเปิดเพราะดึกแบบนี้คนที่มาเคาะน่าจะมีเรื่องด่วน“อ้าว จุ๋มวันนี้ไม่ขึ้นเวรบ่ายเ
โครงการคอนโดมิเนียมที่รัญรวีและจริญญามาดูนั้นเป็นโครงการขนาดกลาง มีซึ่งมีอยู่หลายตึกแต่ละตึกก็มีลักษณะห้องที่แตกต่างกันไปเมื่อหญิงสาวบอกว่าอยากจะดูห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากเพราะอยู่คนเดียวพนักงานขายจึงพาเธอมาดูห้องตัวอย่าง“เชิญตามสบายนะคะ ถ้าสงสัยตรงไหนสอบถามได้ตลอด ฉันจะรออยู่นอกห้องค่ะ”“ขอบคุณค่ะ”“ห้องน่าอยู่ดีนะเนยขนาดไม่กว้างมาก แต่ก็มีเฟอร์นิเจอร์ครบทุกอย่าง”“เนยก็ชอบนะ ราคาก็พอรับได้”“แต่ถ้าซื้อที่นี่เวลาไปทำงานก็คงต้องนั่งรถเมล์ไป ถ้าเวรเช้าก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าเวรบ่ายกับดึกล่ะ”“เราก็กำลังคิดเรื่องนี้ แต่ถ้าให้ซื้อคอนโดด้วยซื้อรถด้วยก็คงผ่อนไม่ไหวหรอก”“หรือเราจะอยู่ที่เดิมไปก่อนละเนยคนอื่นเขาก็ทำงานพาร์ทไทม์กันนะไม่เห็นมีใครจะย้ายออก”“ที่เนยอยากย้ายออกไม่ใช่เพราะเรื่องทำงานพาร์ทไทม์อย่างเดียวหรอกนะจุ๋ม”“แล้วเพราะอะไร” จริญญาไม่เคยรู้เหตุผลของเพื่อนมาก่อนว่าทำไมถึงอยากจะย้ายออก“เนยไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่ที่ไหนเลย เนยก็อยากมีพื้นที่ที่เป็นของเนยจริงๆ บ้าง อย่างจุ๋มยังมีบ้านให้กลับแต่เนยมีแค่หอพัก”“เนยอึดอัดเหรอที่อยู่หอ”“มันก็ไม่ถึงกับอึดอัดหรอกนะ แต่มันเล็กแล
เมื่อมาถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่กำลังก่อสร้างพวกเขาทั้งสามก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี ขนาดห้องที่นี่ไม่ได้กว้างเท่าแห่งแรกที่ไปดูและราคาต่ำสุดก็ห้องละ 2.9 ล้านบาทซึ่งแพงมากเมื่อเทียบกับเงินเดือนของรัญรวี“อีกนานไหมคะกว่าคอนโดจะสร้างเสร็จ” จริญญาเป็นคนเริ่มต้นถาม“ถ้าเสร็จพร้อมเข้าอยู่ก็คงอีก 2 เดือนค่ะ ตอนนี้ห้องเหลือให้เลือกไม่มากเท่าไหร่ทางเรามีส่วนลดให้ 5 เปอร์เซ็นต์สำหรับคนที่มาจองทีหลังเพราะถือว่าไม่ได้สิทธิ์เลือก และมีส่วนลดของคุณกันต์อีก 25 เปอร์เซ็นต์รวมเป็น 30 เปอร์เซ็นต์ค่ะ”“เหลือเท่าไหร่คะ”“เหลือสองล้านเก้าหมื่นสามพันค่ะ แต่ถ้าจองภายใน 7 วันที่มาดูเราลดให้เหลือสองล้านค่ะ” พนักงานบอกตามที่เจ้านายโทรศัพท์มาสั่ง“น่าสนใจดีนะเนย”“เราลดให้ทั้งสองห้องเลยนะคะ สนใจจองเลยไหม”“ถ้าห้องเดียวลดไหมคะ”“ลดค่ะ จะกี่ห้องก็ลดตามนี้เลยค่ะ”“ขอกลับไปคิดดูก่อนได้ไหมคะ” แม้จะถูกใจกับราคาและห้องมากแต่รัญรวีก็อยากขอเวลาคิดดูก่อน“ทำไมล่ะเนย ผมว่าราคานี่โอเคเลยนะ มันถูกมาก”“ค่ะ มันถูกมากแค่เนยก็อยากขอเวลาคิดอีกนิดค่ะ”“ฉันขอเบอร์โทรศัพท์คุณไว้หน่อยไหมคะ เผื่อมีโปรโมชันอะไรเพิ่มเติมจะได้โทรไปแจ้ง
ผ่านมาเกือบสี่เดือนแล้วที่รัญรวีกับพีรกันต์รู้จักกัน หญิงสาวอุ่นใจขึ้นมากเพราะมันเกินสามเดือนอย่างที่เคยได้ยินมาตอนนี้รัญรวีไปทำงานพาร์ทไทม์ที่โรงพยาบาลของเขาค่อนข้างบ่อยเพราะได้เงินดีกว่ารับขึ้นเวรที่โรงพยาบาลเดิม เวลาที่ได้เจอกับพีรกันต์ก็ลดน้อยลงไปบ้างแต่เขาก็เข้าใจเธอดีแม้ว่าจะได้ทำงานที่เดียวกันแต่เธอและเขาก็ไม่เคยเจอกันที่โรงพยาบาลเลยและที่นั่นก็ไม่มีใครรู้ว่าเธอกับพีรกันต์กำลังคบหากันอยู่นอกจากจริญญาแต่เธอก็ไม่เคยบอกคนอื่น“ต่ายมาทำงานที่นี่นานหรือยัง” รัญรวีถามเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันหลังจากทั้งสองทำงานในส่วนที่รับผิดชอบเสร็จในเวลาสามทุ่มพรชนกหรือต่ายเล่าให้ฟังว่าแต่ก่อนก็ทำงานที่โรงพยาบาลเดียวกับรัญรวีแต่คนละแผนก แต่ตนเองนั้นลาออกจากโรงพยาบาลของรัฐบาลเพื่อไปดูแลมารดาที่ป่วยพอมารดาเสียชีวิตก็เลยกลับมาทำงานที่กรุงเทพอีกครั้ง“เข้าปีที่สองแล้วล่ะ”“มันดีไหม ถ้าเทียบกับที่เดิม”“ในมุมมองของเรา เราก็ว่าดีนะ ถึงแม้ไม่ใช่ข้าราชการแต่ก็มีกองทุนประกันสังคมให้ ค่ารักษาพยาบาลก็ฟรีเพียงแต่พ่อแม่เบิกไม่ได้แต่เราไม่เดือดร้อนเพราะไม่มีพ่อแม่แล้ว สิ้นปีก็มีโบนัส วันหยุดวันลาพักร้อนก็มีเ
พีรกันต์มองหน้าคนรักที่อยู่ใกล้จนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นผสมไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ“ตอนนี้เราเป็นอะไรกันคะ”“เป็นแฟน”“แล้วผู้หญิงที่คุณพาไปโรงพยาบาลล่ะคะ”“ก็บอกแล้วว่าเป็นน้องสาวข้างบ้าน”“แต่เนยไม่เคยได้ยินคุณพูดถึงเธอเลย”“เอวาเพิ่งกลับมาจากอังกฤษ”“แน่เหรอ ไม่ได้หลอกกันใช่ไหม”“ผมจะหลอกคนที่ผมรักทำไม”“คุณกันต์ น่ารัก ปากหวาน”“เคยชิมเหรอถึงได้รู้ว่าหวาน”“ถ้าอย่างนั้นขอชิมได้ไหม”หญิงสาวไม่รอให้เขาตอบเธอโน้มใบหน้าลงมาใกล้แล้วแตะริมฝีปากลงบนริมฝีปากของชายหนุ่มเบาๆ แต่คนที่รอจังหวะอยู่ก่อนแล้วก็ไม่ปล่อยเธอทำเพียงแค่นั้นเขาใช้มือดันท้ายทอยของเธอไว้แล้วจูบแผ่วเบาไปบนเรียวสีสวย ปลายลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากที่เผยอรับเขาเมื่อถูกเขาปลุกเร้า ด้วยความชำนาญ ฝ่ามือหนาเคลื่อนไปตามผิวเนียนนุ่ม“อื้อ...”เธอครางประท้วงเมื่อรู้สึกจูบของเขามันมากกว่าที่ตนเองคิดไว้“หวานไหม” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู จมูกโด่งคลอเคลียอยู่อยู่ที่ซอกคอระหง“พอได้”“แค่พอได้เองเหรอ”“แล้วจะให้ตอบยังไง”“ก็ตอบว่าชอบอยากให้จูบอีก”“ถ้าตอบแบบนั้นเนยจะได้อะไร”“อยากได้อะไรล่ะ”“อยากให้คุณกันต์มองแค่เนยคนเดียว ห้ามมีคนอื่น”“
คำพูดที่ได้ยินทำให้รัญรวีรู้ว่าจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นเธอ แต่ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันก็ยากที่จะปฏิเสธ เขาทำให้เธอได้พบกับความสุขแบบนี้ไม่เคยได้รับแต่เธอก็รู้ว่ามันไม่จบเพียงแค่นี้เธอครางสะท้านและสั่นไปทั้งตัวอีกครั้งเมื่อนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปยังกลางกายทีละนิด มันคับแน่นจนพีรกันต์แปลกใจอยู่ไม่น้อยเธอบอกเขาว่าไม่ใช่ผู้ชายคนแรกแต่ช่องทางรักยังคับแน่น“อ๊ะ! เนยเจ็บ”“ไหนว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคนแรก”ชายหนุ่มคิดว่าครั้งสุดท้ายที่รัญรวีนอนกับผู้ชายน่าจะนานมาแล้ว เขาไม่ใช่คนหัวโบราณที่จะรับเรื่องนี้ไม่ได้ พีรกันต์ไม่สนใจอดีตเขาขอแค่ระหว่างที่คบกับเธอมีเขาเพียงคนเดียวก็พอแล้ว หญิงสาวสะดุ้งเมื่อนิ้วยาวของเขาเข้ามาจนลึก เธอรู้สึกเจ็บแต่พอเขาขยับความเจ็บก็เปลี่ยนมาเป็นความเสียวซ่านได้อย่างประหลาดและมันมากกว่าเมื่อครู่อยู่มากพีรกันต์รู้ขนาดของตัวเองดีเขาเลยต้องเตรียมความพร้อมกับเธอให้มากขึ้นอีกนิด ปากร้อนก้มไปสัมผัสกลีบทิวลิปสีสวยอีกครั้ง พร้อมขยับนิ้วเข้าออกปลายลิ้นตวัดเลียจุดกระสันจนร่างที่อยู่บนที่นอนดิ้นพล่านเนื้อตัวแดงระเรื่อผิวกายร้อนผ่าวราวกับเปลวไฟที่แผดเผา“อื้อ....คุณกันต์”เสียงหวานครางอีกครั
รัญรวีนอนเล่นมือถือและเผลอหลับอยู่บนโซฟากลางห้องรับแขกรู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็ตอนที่โซฟามีคนมานั่ง“คุณกันต์”“ผมเองหิวไหม ผมซื้อข้าวมาให้นะ”“ยังไม่หิวค่ะ คุณเอากระเป๋ามาทำไมคะ”“ผมจะย้ายมาอยู่ที่นี่ไง”“ใครชวนกัน หรือเมื่อคืนตอนเมาเนยชวน”“ก็ใช่น่ะสิ” เขาเอาเรื่องเมามาอ้างทั้งที่ตัวเองเป็นคนอยากจะย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะรู้ว่าถ้าชวนเธอไปอยู่ด้วยหญิงสาวคงไม่ยอมแน่ๆ“อย่าจริงจังกับคำพูดของคนเมาเลยนะคะ”“รังเกียจผมเหรอ” เขาถามพลางทำหน้าเศร้า“ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ เนยแค่กลัวคนอื่นจะรู้”“กลัวทำไม หรือคุณไม่คิดจะบอกคนอื่นว่าเราเป็นอะไรกัน"“มันเร็วไปหรือเปล่าคะ”“ไม่นะเนย เราสองคนไม่ใช่เด็กแล้วนะ”“แต่คุณกับเนยต่างกันมากนะคะ คุณเป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลแต่เนยเป็นแค่พยาบาลในโรงพยาบาลของคุณเท่านั้นนะคะ เขาคงมองว่าที่เนยคบกับคุณก็เพื่อเงิน” รัญรวีไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อนเลยแต่เธอเริ่มกังวลเมื่อความสัมพันธ์มันเกินกว่าแค่แฟนธรรมดา“ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยเรารักกันด้วยใจ คุณเป็นแฟนผมก่อนที่จะรู้ว่าผมคือใคร”“คนอื่นคงไม่คิดแบบนั้นหรอกค่ะ”“ผมไม่สนใจคนอื่น ครอบครัวผมก็คงคิดแบบเดียวกัน ถ้าคุณพร้อมเมื่อไห
เกินจะทน (ตอบจบ)พีรกันต์เครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเพราะเขาเองก็เคยคิดเรื่องนี้แต่เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เจอลูกอีกจึงยอมปล่อยเลยตามเลย“ถ้าเขาไม่ยอมให้ตรวจมึงก็แอบตรวจสิ เป็นถึงเจ้าของโรงพยาบาลเรื่องแค่นิคิดไม่ได้”“แต่มันผิดกฎหมายนะ” นุกูลทนายหนุ่มพูดขึ้น“กูถามมึงหน่อยนะไอ้นุถ้ามึงเป็นไอ้กันต์มึงอยากจะรู้ไหมว่าเด็กที่เรียกว่าลูกน่ะเป็นลูกของมึงจริงๆ หรือเปล่า”“เป็นใครก็ต้องอยากรู้”“งั้นมึงก็เงียบไปเลยนะ” ธนวินท์หันมาทำตาดุใส่เพื่อน“ถ้ายังไม่อยากตรวจDNAก็ตรวจแค่กรุ๊ปเลือดก่อนก็ได้ มึงรู้ไหมน้องข้าวหอมกรุ๊ปเลือดอะไร”“กูไม่รู้แต่น่าจะมีในผลตรวจเลือด” เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูอีเมลที่ทางโรงพยาบาลส่งให้เมื่อครั้งก่อนพอเห็นกรุ๊ปเลือดของลูกสาวแล้วก็หน้าซีด“ไหนกูขอดูหน่อย” เมฆาคว้าโทรศัพท์ในมือเพื่อนไปดูจากนั้นก็เงยหน้ามองพีรกันต์แล้วนิ่ง“มึงเลือดกรุ๊ปอะไร”“AB” เขาตอบเหมือนคนไร้วิญญาณเพราะถ้าเขาเลือดกรุ๊ปABก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ข้าวหอมจะมีเลือดกรุ๊ปO“นั่นมึงจะไปไหนกันต์” อธิษถามเห็นพีรกันต์ลุกขึ้น“กูจะไปถามหลินให้รู้เรื่อง”“ใจเย็นก่อน” เมฆาที่นั่งอยู่ใกล้ฉุดมือของพีรกันต์ให้นั
การอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวไม่ง่ายเลยสำหรับพีรกันต์เพราะนอกจากเขาจะคอยดูแลข้าวหอมแล้วยังต้องคอยหลบหลีกลินรดาที่มักจะเข้าใกล้และยุ่งกับการใช้ชีวิตของเขามากกว่าที่คุยกันไว้“นี่มันดึกแล้วนะกันต์จะออกไปไหนอีก”“หน้าที่ของผมคือเล่านิทานและพาลูกเข้านอนตอนนี้ผมก็ทำหน้าที่ของผมเสร็จแล้วผมจะไปไหนมันก็เรื่องของผม” พีรกันต์ตอบอย่างหัวเสีย“หลินอยากคุยกับคุณ ขอเวลาหลินได้ไหมเราไปคุยกันที่ห้องนะคะ”“เรามีเรื่องอะไรต้องคุยกันอีก”“ก็เรื่องของเรา”“ระหว่างผมกับคุณมีแค่เรื่องของลูก ไม่มีเรื่องของเราหรอกนะ”“คุณชวนหลินมาอยู่ที่บ้านแต่คุณไม่เคยสนใจหลินเลยนะคะ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ คุณไม่มีใครหลินก็ไม่มีใครทำไมเราไม่ลองคุยกันอีกสักครั้ง”“ผมว่าผมชัดเจนแล้วนะว่าจะเป็นแค่พ่อของข้าวหอมที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อลูก ผมไม่เคยคิดอะไรกับคุณเลย”“คุณจะกลับไปหาผู้หญิงที่ชื่อเนยเหรอคะ คุณคิดว่าเธอจะรอคุณเหรอ”“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเนยเพราะถึงไม่มีเนยผมก็คิดจะกลับไปคบกับคุณ อะไรที่มันผ่านไปแล้วปล่อยให้มันผ่านไปเถอะ ผมอยากทำหน้าที่พ่อที่ดีของข้าวหอมเรื่องอื่นผมไม่อยากคิด”“หลินทำผิดอะไรคุณถึงไม่คิดจะกลับมาเป
“พี่กานต์มีเบอร์อาจารย์หมอศาสตราไหมขอผมหน่อยสิ”“มีสิ นายจะเอาไปทำอะไรหรือจะจ้างอาจารย์มาตรวจพี่ว่าอย่าเสียเวลาเลยพี่เคยชวนท่านหลายครั้งแล้ว”“เปล่าครับ”“แล้วจะเอาเบอร์ไปทำไมหรือมีใครป่วย”“ผมอยากปรึกษาท่าน”“กันต์มีอะไรหรือเปล่า หรือลูกไม่สบาย” เมื่อเห็นลูกชายคนเล็กมีสีหน้าเครียดคนเป็นมารดาก็ร้อนใจ“เปล่าครับแม่ คนที่ใม่สบายคือข้าวหอม”“อะไรนะ หลานแม่ป่วยเป็นอะไร”“เนยบอกผมว่าข้ามหอมเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวครับแม่”“ป่วยถึงขั้นไหนแล้วตรวจเจอนานหรือยังรักษาไปถึงขั้นไหนแล้ว ต้องให้คีโมหรือเปล่า”“ผมยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากครับวันนี้ว่าจะพาข้าวหอมไปหาอาจารย์หมอ”“น่าสงสารจังตัวแค่นั้นก็ป่วยแล้ว กันต์ต้องดูแลลูกดีๆ”“ครับแม่”“คนที่บอกนายว่าข้าวหอมป่วยคือเนยเหรอ”“ครับพี่ เนยบอกผมเมื่อคืน”“แปลกดีนะทำไมคนที่บอกไม่ใช่แม่ของข้าวหอมล่ะ แล้วเนยไปรู้มาได้ยังไง”“ผมมัวแต่ตกใจเลยลืมถามเรื่องนี้ไปเลย แต่ก็ช่างมันเถอะจะรู้จากใครความจริงก็คือความจริง”“ถ้าต้องไปดูแลข้าวหอมบ่อยๆ กันต์ก็คุยกับหนูเนยให้เข้าใจนะลูก แบ่งเวลาให้ดี” เพราะคนหนึ่งก็หลานสาวอีกคนก็ว่าที่ลูกสะใภ้“คงไม่ต้องแล้วล่ะครับแม่”“ก
เพราะมีข้าวหอมมาอยู่ด้วยที่บ้านพีรกันต์เลยไม่คิดมากเรื่องรัญรวีเท่าไหร่จนกระทั่งผ่านไปสามวันหญิงสาวก็ยังไม่ติดต่อกลับมาพีรกันต์ไม่อยากรออีกต่อไปแล้ววันนี้เขาจึงมาดักรอหญิงสาวตรงทางเดินระหว่างโรงพยาบาลกับคอนโดมิเนียม“เนย”“พี่กันต์” รัญรวีตกใจเพราะจู่ๆ เขาก็โผล่ออกมาจากมุมถนน“พี่ขอคุยด้วยหน่อย”“เอาไว้คุยวันหลังดีไหมคะ ตอนนี้มันดึกแล้ว”“พี่ไม่อยากรอแล้วนะ สามวันมานี้เนยไม่ติดต่อพี่มาเลย”“เนยงานยุ่งค่ะ”“ไปนั่งคุยกันในรถก่อน”“แต่เนยจะกลับไปพักแล้ว”“จะไปดีๆ หรือจะให้พี่อุ้มไปละเนย"เพราะคำขู่ของเขารัญรวีเลยยอมเดินตามมาที่รถ เธอขึ้นไปนั่งยังตำแหน่งเดิมที่เคยนั่งแต่ความรู้สึกแปลกออกไปเพราะตอนนี้คนข้างกายของเธอไม่ใช่คนที่เธอจะใช้ชีวิตด้วยอีกต่อไปแล้ว“พี่กันต์จะคุยอะไรคะ”“เนยเป็นอะไร โกรธอะไรพี่หรือเปล่า พี่ทำอะไรผิดเหรอเนยถึงไม่ติดต่อพี่เลยแล้วยังเก็บของพี่ออกจากคอนโด”“พี่กันต์ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยค่ะ เนยเองที่ผิด ผิดที่ไปรักคนมีเจ้าของอย่างพี่”“กำลังพูดเรื่องอะไรพี่ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”“ก็พี่กับครอบครัวของพี่”“ครอบครัวของพี่ก็คือเนย เราจะแต่งงานและร่วมสร้างมันด้วยกัน”“พี่กันต์ค่ะ
รัญรวีตื่นขึ้นมาในตอนสายเธอในขณะที่พีรกันต์ออกไปทำงานแล้ว หญิงสาวมองสภาพห้องนอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ความสุขที่เขามอบให้เมื่อคืนมันยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ คำบอกรักที่เขากระซิบข้างหูเธอจำมันได้อย่างดีและจะจดจำมันไปตลอดว่าตนเองเคยมีความสุขมากแค่ไหนหญิงสาวเข้าห้องน้ำมองตัวเองในกระจกร่างกายเต็มไปด้วยรอยรักที่เขาฝากไว้ มันตอกย้ำว่าเธอและเขาผ่านเรื่องบนเตียงมาแล้วอย่างเร่าร้อนแต่มันก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีกเพราะรัญรวีไม่คิดจะนอนกับใครอีกแล้ว การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเหงาแต่ที่ผ่านมาเธอก็เคยอยู่คนเดียวมาตลอดหลังจากอาบน้ำเสร็จแล้วหญิงสาวก็เก็บของใช้ของพีรกันต์ลงกระเป๋าก่อนะจะเอาไปฝากไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ด้านล่างและสั่งไว้แล้วว่าห้ามเขาขึ้นมาบนห้องเธออีก รหัสที่ประตูหน้าห้องถูกเปลี่ยน รัญรวีตัดการติดต่อทุกช่องทางเพราะกลัวว่าถ้าได้ยินเสียงของเขาเธอจะตัดเขาออกไปจากชีวิตไม่ได้หญิงสาวใช้เวลาว่างตลอดวันจัดห้องใหม่เพราะถ้าอยู่ในบรรยากาศเดิมๆ ก็จะคิดถึงเขา กว่าทุกอย่างจะเข้าที่ก็เป็นเวลาเย็น เธอทำอาหารจากของสดที่เหลืออยู่ในตู้จากนั้นก็นั่งทานคนเดียวเงียบๆโทรศัพท์ที่อยู่ตรงหน้าดังขึ้นรีญ
พีรกันต์กอดกระชับร่างที่หอบเหนื่อยรอจนเธอหายใจเป็นปกติจากนั้นก็รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้เธอก่อนจะอุ้มมาวางบนเตียง“เนยจ๋า พี่ไม่ไหวขออีกคืนนี้ขอแรงหน่อยไหม” เพราะท่าทางยั่วยวนและลีลารักเมื่อครู่มันปลุกความดิบเถื่อนในกายเขาจนต้องเอ่ยขอ“เนยตามใจพี่กันต์ทุกอย่าง” เพราะนี่จะเป็นคืนสุดท้ายเธอก็อยากให้เขาทำทุกอย่างไปตามใจปรารถนา รัญรวีอยากเก็บทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเขาขึ้นไว้เป็นความทรงจำเมื่อเธอพูดออกมาแบบนั้นพีรกันต์ก็เริ่มบทรักอีกครั้ง ปากร้อนจูบไปทั่วใบหน้าซอกคอดูดแรงจนขึ้นรอย รัญรวีทั้งเจ็บทั้งเสียวจนได้แต่ครางหวาน“อื้อ...พี่กันต์ขาจูบเนยหน่อยได้ไหม”ลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากนุ่มตวัดรัดลิ้นเล็กอย่างเร่าร้อน เธอเองก็จูบกลับไปอย่างถึงพริกถึงขิงทำให้เขาครางอย่างพอใจหญิงสาวหูอื้อตาลายไปกับปากร้อนที่จูบเบียดแนบชิด เธอปล่อยกายปล่อยใจไปตามแรงปรารถนาพีรกันต์จูบจนพอใจก็ยอมให้ปากเล็กเป็นอิสระ เขาลากไล้ความเปียกชื้นมาตามผิวนุ่มขบเม้มแทะเล็ม ฝากรอยประทับไว้ทั่วเนินอกอิ่ม ตาคมมองยอดถันที่ชูชัน ลิ้นร้อนลากวนอย่างปลุกเร้าก่อนจะครอบครองเข้าอุ้งปากร้อน ดูดแรงอย่างคนกระหาย ยิ่งเธอแอ่นโค้งเข้าหาเ
พีรกันต์กลับขึ้นมาบนห้องแต่เขาไม่เห็นรัญรวีชายหนุ่มจึงเดินเข้าไปตามเพราะดูจากเวลาเธอน่าจะอาบน้ำเสร็จแล้ว เมื่อเดินเข้ามาถึงห้องนอนก็ได้เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องดังออกมาจากห้องน้ำชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะรีบถอดชุดของตัวเองออกอย่างรวดเร็วแล้วเดินเข้าไปหาเธอในห้องน้ำ เสียงเปิดประตูทำให้รัญรวีหันมามอง“พี่กันต์ รอก่อนได้ไหมเนยอาบใกล้เสร็จแล้ว” เธอพูดแล้วยกมือปิดร่างกายเป็นพัลวัน“ไม่ต้องอายพี่หรอก พี่เห็นเนยไปทั้งตัวแล้ว”เขาแล้วเดินเข้ามาใกล้จนเธอรู้สึกถึงความอุ่นจากร่างกาย“ให้พี่ช่วยอาบนะ จะได้เสร็จเร็วๆ”เสียงนั้นแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์จนขนฟังขนลุกเพราะเขาไม่น่าจะช่วยอาบน้ำอย่างที่พูดจริงๆพีรกันต์กดครีมอาบน้ำแล้วลงมือลูบไล้ไปตามผิวของเธออย่างแผ่วเบาปลายนิ้วเลื่อนผ่านช้าๆ จนเธอรู้สึกร้อนไปกับสัมผัสที่มือใหญ่เลือนผ่าน“เนยจ๋า”“ขาพี่กันต์”“หิวเนยอยากกินตรงนี้”“อยากกินก็กินสิคะ”รัญรวีตอบเขาไปตามความรู้สึกเธอตัดสินใจแล้วว่าจะคืนเขาให้กับคุณลินรดาและน้องข้าวหอมแต่ก่อนที่จะคืนเธอก็ขอตักตวงความสุขให้กับตัวเองอย่างเต็มที่เสียก่อนชายหนุ่มขยับเข้าใกล้จนกายแกร่งเบียดกับผิวเนียนนุ่มปาก
รัญรวีเดินมายังลานจอดรถเหมือนทุกครั้งเธอมองหารถคันที่คันที่คุ้นเคยแต่มองจนทั่วก็ไม่เห็นเลยสักคัน หญิงสาวเดินลัดเลาะไปยังถนนด้านหลังโรงพยาบาล แม้จะดึกแล้วแต่ไฟก็ยังส่องสว่างเธอใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโดมิเนียมของตนหญิงสาวเปิดประตูห้องอย่างเบาที่สุดในใจแอบคิดว่าจะเจอพีรกันต์นอนหลับอยู่แต่ทุกอย่างก็เงียบเหมือนก่อนหน้าที่เธอจะออกไปทำงาน เขายังไม่กลับมาและไม่รู้ว่าจะกลับมาอีกหรือเปล่าสองคืนแล้วที่พีรกันต์หายไปโดยไม่มีการติดต่อกลับ ไม่มีทั้งสายโทรเข้าหรือไลน์หา เธออยากโทรไปถามว่าเขาเป็นอะไรหรือเปล่าแต่ก็กลัวว่าจะเป็นการรบกวนเวลาของเขาและครอบครัวเพราะมีเขาอยู่ตลอดจนเกิดความเคยชิน พอเขาไม่อยู่ก็รู้สึกเหงาทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็อยู่คนเดียวมาได้ตลอด เธอนอนคิดและกำลังทำใจให้กลับมาชินกับการอยู่คนเดียวอีกครั้งในเมื่อเคยอยู่ได้มันก็ไม่ยากถ้าจะอยู่คนเดียวอีกครั้งเมื่อคิดแล้วยิ่งเครียดรัญรวีเลยเปิดเพลงฟังเพื่อให้บทเพลงกล่อมให้ตนเองหลับ แต่การนอนคนเดียวมันก็เหงามากเธอได้แต่กอดผ้าห่มดมกลิ่นกายของเขาที่ยังพอมีเหลืออยู่เช้าวันใหม่ไม่ค่อยสดใสอย่างที่ควรแต่รัญรวีก็ยังไปทำงานตามปกติ วันนี้หญิงสาวทำงานแค่เวรเ
ความสุขเวลาที่ได้อยู่กับคนรักมันเป็นสิ่งที่วิเศษที่สุดมันสุขจนรัญรวีนึกไม่ออกว่าถ้าไม่มีเขาอยู่ข้างๆ ชีวิตของเธอจะเป็นยังไง“หนูเนยทั้งสวยทั้งฉลาดแบบนี้นี่เองลูกชายแม่ถึงได้ยอมหยุดความเจ้าชู้” มารดาของพีรกันต์เอ่ยชมเมื่อเขาพาเธอมาแนะนำให้กับครอบครัวรู้จัก“แบบนี้พ่อว่าเราจัดงานแต่งพร้อมกันเลยดีไหม พ่อแม่ของหนูอยู่ที่ไหนล่ะ พ่อจะได้รีบไปจัดการทุกอย่างให้มันถูกต้อง” คุณเอกวิทย์บอกว่าที่สะใภ้เล็กที่เขาเห็นครั้งแรกก็รู้สึกถูกชะตา“เนยไม่มีญาติที่ไหนหรอกค่ะ”“ตายจริงพ่อกับแม่ขอโทษนะลูกที่ถามไปอย่างนั้น”“ไม่เป็นไรค่ะ”“ถึงไม่มีใครเหลือแล้วก็ต้องทำให้มันถูกต้อง”“เนยว่ารออีกหน่อยก็ได้ค่ะ เนยยังไม่พร้อมเท่าไหร่”“นี่ลูกชายแม่ทำอะไรให้เนยไม่มั่นใจหรือเปล่า”“เปล่าค่ะ พี่กันต์ดีกับเนยมาก”“เหลือเวลาอีกหลายเดือนแม่ว่าระหว่างนี้กันต์ต้องหาทางพูดให้หนูเนยยอมแต่งงาน แม่อยากจะอุ้มหลานเต็มแก่แล้ว”“ผมจะพยายามเต็มที่ครับแม่” พีรกันต์รับปากมารดาการได้มาเจอกับครอบครัวของพีรกันต์ทำให้รัญรวีมีความสุขมาก เธอดีใจที่ครอบครัวของเขาไม่รังเกียจถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่คนธรรมาคนหนึ่งเท่านั้น“แวะมาหาแม่บ่อยๆ นะ หร