คนตัวเล็กก็เลื่อนเก้าอี้ออก ก่อนที่ชายหนุ่มผมบลอนด์เงินจะเคลื่อนเก้าอี้อีกตัวมาด้านหลัง มันเป็นเก้าอี้แบบมีพนักพิงและมีเท้ามือสำหรับสองข้าง ดังนั้นการนั่งซ้อนกันมันจึงเป็นอยู่อย่างเดียวคือ เธอจะต้องนั่งบนตักของเขา
หญิงสาวทำท่าทางอึกอักเลิกลักก่อนจะส่งสายตาแทนคำถาม “อื้มมม …” เสียงเขาตอบ ก่อนจะพูดต่ออีกว่า “ก็นั่งบนตักพี่ จะเป็นอะไร อย่าบอกนะว่าแอบคิดน่ะ” คนหน้าหล่อพูดทีเล่นทีจริง “ปล่ะ เปล่านะ หนูไม่ได้คิดซะหน่อย” “รีบตอบแบบนี้ ฮันแน่… แอบคิดกับพี่แน่ๆ เลย” “คิดได้ไง พี่เป็นเกย์นะคะ” “งั้นถ้าพี่ไม่ใช่เกย์ หนูก็คงคิดว่างั้นเถอะ” คนตัวสูงกว่า 185 ยังคงเย้าแหย่ร่างบางตรงหน้า “ก็พี่ทั้งหล่อ ดูดี ใครไม่คิดก็บ้าแล้ว” “อยากจะลองกับเกย์ดูบ้างมั้ยล่ะ?” “มันจะดีนะคะ” คำตอบอย่างคนไม่คิดอะไร คนที่เผลอใจปากไวกว่าสมอง มันทำให้ชายหนุ่มถึงกับอึ้งไปเกือบนาที เมื่อเธอเห็นว่าทุกอย่างเริ่มจะแปลกๆ เหมือนตัวเองต้องพูดอะไรผิดไปแน่ๆ หญิงสาวก็เริ่มจะขยับตัวและทำท่าว่าจะลุกออก แต่แล้วมือหนาของเขาก็จับรั้งที่เอวคอดของเธอเอาไว้ “จะลุกไปไหน พี่ไม่แกล้งแล้ว ช่วยงานพี่ให้เสร็จเลยนะ พี่จะได้รีบส่งให้ทางบริษัท” ก่อนจะพูดกำกวมอีกว่า “พี่อยากเสร็จจะแย่” หญิงสาวถึงกับเสียวสันหลังวาบกับคำพูดของเขา อ้อมกอดอุ่นๆ ที่เอื้อมมาจิ้มแป้นพิมพ์ตรงหน้า คางของเขาเกือบจะเกยเข้าที่ไหล่ของเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนของชายหนุ่มทำเอาใจของหญิงสาวเต้นดังโครมคราม ‘บ้าเอ๊ย!! มาเต้นแรงอะไรตอนนี้เนี่ย เดี๋ยวเขาได้รู้กันพอดี’ หญิงสาวบ่นอุปให้ตัวเอง ทว่ากลับรู้สึกบางอย่างแปลกๆ นี่อากาศมันร้อนหรือยังไงกันนะ ทำไมจู่ๆ เธอจึงร้อนแบบนี้ล่ะ คนที่เริ่มรู้สึกตัวเย็นชาสลับกับร้อนวูบวาบกลับเป็นเขา ร่างบางที่นั่งอยู่บนตัก กับกลิ่นหอมๆ ของเธอ พลางสมองก็คิดไปว่า ถ้าเขาได้ร่วมรักในท่านี้กับหญิงสาวมันคงจะแปลกพิลึก แต่หารู้ไม่ว่าแก่นกายที่มันต่อต้านสตรีมาโดยตลอด ตอนนี้กลับเร่าร้อนระอุเดือดปุดอยู่ด้านใน เขาพยายามขบกรามไว้แน่น พยายามอย่างมากที่จะข่มใจ แต่ยิ่งหญิงสาวกระดุกกระดิกจิ้มแป้นพิมพ์ ก้นน้อยๆ ของเธอมันก็ยิ่งสั่นไหว นั่นยิ่งทำให้เขาต่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ ร่างบางที่นั่งทับตักอยู่ด้านบนทำไมเธอจะไม่รู้สึก ก็ตอนนี้ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่รินรดมายังซอกคอของเธอ มันดูติดๆ ขัดๆ ขาดหายเป็นช่วงๆ ไหนจะเจ้าอะไรนุ่มนิ่มที่ทิ่มก้นของเธอ ทว่าตอนนี้มันเริ่มแข็งหนาขึ้นเป็นลำ “ไอรีน” เขาเอ่ยเรียกร่างบางอย่างแหบพร่า มือหนาก็ทิ้งค้างไว้บนแป้นคีย์บอร์ดและไม่จิ้มทำงานต่อ เขาเม้มริมฝีปากอย่างคนอดกลั้นอย่างถึงที่สุด ก่อนจะกดริมฝีปากลงมายังซอกคอ และเกยคางอยู่ใกล้ๆ “หนูตัวหอมจัง” จู่ๆ เขาก็พูดน้ำเสียงแบบนี้ และมีอาการแบบนี้ อย่าบอกนะว่า!!! “คะ? ” เธอเอ่ยตอบเขาน้ำเสียงตะกุกตะกักและไม่กล้าขยับตัวมากสักเท่าไหร่ ก็ตอนนี้แก่นกายของเขา ขนาดน่าจะใหญ่พอๆ กันกับใครอีกคน พอคิดมาถึงตรงนี้ ร่างบอบบางก็กระตุกวาบขึ้นมาทันใด “พี่รู้นะว่าหนูรู้สึก” เขาทิ้งคำถามปลายเปิดเอาไว้ ก่อนจะเอ่ยต่อ “พี่รู้ว่าหนูรู้ว่าข้างในของพี่มันแทบจะแตก บอกตรงๆ ว่าพี่ก็ไม่เคยรู้สึกอยากมีอะไรกับผู้หญิง แต่หนูทำให้พี่รู้สึกอยากลองมีอะไรกับผู้หญิงบ้างแล้วสิ” คนร่างบอบบางถึงกับเด้งตัวขึ้นโหยง ก่อนจะหันมามองเขา แต่แล้วร่างสูงกว่า 185 ก็ลุกขึ้นตาม การที่อยู่ห้อง มันทำให้เขาใส่ชุดลำลองสบายๆ และเนื้อผ้าที่บางหวิวของคนทั้งคู่ มันทำให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งของกันและกัน เธอก็อดเผลอมองไปยังเป้าตุงของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ช่วยไม่ได้นี่นา ก็เธอมองไปแล้ว “ไอรีนครับ …” เอาล่ะหว่า พูดจาหวานหูแบบนี้ เธอชักจะกลัวเขาแปลกๆ แต่มันกลับเปล่าเลย เธอยังรู้สึกคั่งค้างจากเมื่อคืนอยู่ไม่หายกับอารมณ์ที่ยังไปไม่สุดของเธอ เขาจับหญิงสาวให้มานั่งในท่าเดิม และก็เริ่มลงมือทำงานต่อ ทว่าตอนนี้อารมณ์ของคนทั้งคู่ต่างคุกรุ่นถึงไหนต่อไหน เขาค่อยๆ แทรกมือหนาเข้าด้านในของเธอ ก่อนจะค่อยๆ ถกบราเซียของเธอเลิกขึ้นไปกองไว้ที่บนเนินอกอวบ มือหนาเคล้นคลึงในขณะที่ริมฝีปากก็ซอกไซร้ลำคอหอมกรุ่น คนที่ถูกกระตุ้นก็ปล่อยตัวเองอย่างหวามไหว เขาจับใบหน้าของหญิงสาวให้หันมารับเอาสัมผัสจากริมฝีปาก เขาตวัดลิ้นหนาดูดปลายลิ้นเรียวเขาทำลายความเจ็บจากการบีบเคล้นทรวงอกและการดูดดื่มกับเรียวปากของเธอ เขานุ่มนวล อ่อนโยนจนน่าเคลิ้มเผลอไผล มือหนาค่อยๆ ปลดตะขอบราเซียออก จากนั้นก็เลื่อนสายเดี่ยวของหญิงสาวลงจากไหล่หนึ่งข้าง มือหนาร้อนค่อยๆ ลูบไล้ที่เนินสะโพก เขาเด้งแอ่นก้นขึ้นก่อนจะควงเบาๆ คลึงกดกับก้นของหญิงงาม มือหนาค่อยๆ ถ่างอ้าขาของเธอออก เขายกขาขวาของเธอขึ้นพาดกับโต๊ะทำงาน ก่อนที่นิ้วอุ่นร้อนจะเริ่มจ้วงเขามาสัมผัสด้านใน “อื้มม .. ของหนูมันแฉะจัง น้ำเยอะน่าเลียสุดๆ” ยิ่งเขาพูดเธอก็ยิ่งกระตุกสันเสียว “พี่อยากลองสอดใส่ …” อะไรนะ เขาพูดมาแบบนั้น!!! “ยังไงคะ? ” เธอพยายามถามแบบใจดีสู้เสือ “พี่บอกว่าพี่อยากลองสอดใส่ เพราะปกติแล้วพี่เป็นแค่คนที่ถูกกระทำ พี่ยังไม่เคยสอดใส่กับใครเลย อยากสอดใส่กับหนู ได้มั้ยคนดี” คำพูดของเขาทำให้เธอถึงกับนิ่วหน้าแต่แววตาเคลิบเคลิ้ม “พี่ไม่เคยกับพี่เอริคหรอกหรือคะ? ” แม้คำถามนี้จะดูงงๆ สักหน่อย แต่เขาก็ตอบอย่างใจเย็น “ครับ พี่เสร็จด้วยมือและปากมาโดยตลอด พอจะสอดใส่ทีไร เอริคก็เกร็ง ผลคือพี่ก็เจ็บ เขาก็เจ็บ พี่เลยเสร็จแบบนั้นมาโดยตลอด” เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ “พี่ก็อยากรู้สึกแบบ ความรู้สึกในการสอดใส่ พี่มีอารมณ์แปลกๆ กับหนูจริงๆ นะ อยากลองคบกันแบบสามคนดูมั้ย?” “พี่ไคล์น!!” เธอเอ่ยออกมาเพียงเท่านั้น ในใจก็คิดไปว่าปกติแล้วเกย์เขาชอบผู้หญิงด้วยมั้ยนะ “ดื่มกันมั้ย?” คนร่างสูงกว่า 185 เอ่ยถาม ฮันแน่ กะจะมอมหนูล่ะสิ เธอคิด “พี่จะไม่เมาก่อนหรอคะ? ” เขามองหน้าหญิงสาวด้วยสายตาที่หวานเยิ้ม ก่อนเอ่ย “นี่กลัวพี่เมาก่อนหรอ” จากนั้นเขาก็หัวเราะหึหึในลำคอ ไม่นานแก้วไวน์ทรงสูงกับไวน์ขาวก็ถูกนำมาวางตรงหน้า “หมดแก้วนะครับ” คนชวนหมดแก้ว ทว่าปล่อยให้หญิงสาวดื่มจนหมด ทั้งที่ตัวเองยังคงจิบนิดเดียว “พี่ไคล์น พี่ขี้โกง” เธอเอ่ยว่าเขา “พี่เปล่าขี้โกงนะครับ” ไม่นานนักหญิงสาวก็มีอาการร้อนรุ่มแปลกๆ ความต้องการของเธอพุ่งแทบจะ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อคนขี้โกงเห็นว่าหญิงสาวน่าจะมีอารมณ์คุกรุ่นอย่างได้ที่ ก็ไม่รอช้า ‘ขอโทษนะที่เล่นขี้โกง พี่กลัวว่าหนูจะไม่ยอม’ เขาเดินต้อนคนร่างบางจนมาสุดเตียง แต่แล้วเธอเองกลับร้อนรุ่มกว่า อาการทุรนทุรายของเธอทำให้เจ้าหล่อนแทบจะกลายร่าง จากแมวน้อยกลายเป็นแม่เสือสาว “พี่พูดเองนะคะ ว่าอยากลอง” เธอเอ่ยท้าทายเขาเพราะตอนนี้ต่อให้อะไรก็คงมาหยุดความอยากของเธอไว้ไม่ได้ “หนูเงี่ยนแล้วหรอครับ หืมม ขอร้องพี่สิ” ไม่ช้าคนทั้งคู่ก็กระโจนริมฝีปากเข้าหากันอย่างดูดดื่ม ไคล์นรู้ไคล์นเห็นทุกสิ่งอย่างตลอดสองคืนที่ผ่านมา เขาก็อยากจะลองเหมือนกันว่าเธอมีดีอะไรถึงทำให้เอริคถึงติดใจเธอนักหนาจนยอมมอมเหล้าเขา คนที่อยู่ด้วยกันมานานถึง 11 ปี ใครบ้างที่จะดูไม่ออก และไอ้แผนการเรื่องงานบ้าบอนี่ก็เป็นแผนของเขาเช่นกัน เสือมันร้าย.. แน่นอนว่าเขารู้ว่าวันนี้เธอต้องลุกไม่ขึ้นแน่ๆ การได้ซ้ำรอยคนรักมันจะเป็นอะไรไป แรกๆ ไคล์นก็หวังแค่จะเคลม แต่ทว่ากลับติดใจคนร่างบอบบางไปซะได้ นอกจากเขาจะแข็งปึ๋งปั๋งแล้ว รสจูบของเธอมันช่างแสนวิเศษจริงๆ “ทำไมปากหนูอร่อยจัง” เธอหูอื้อตามัวไปหมดไม่ฟังคำใดๆ ทั้งนั้น ร่างกายตอนนี้มันสั่นสะท้านด้วยอารมณ์อยาก ไม่นานนักคนทั้งคู่ก็เปลื้องผ้าออกมาง่ายๆ ด้วยฤทธิ์ของยาทำให้เธอไร้ซึ่งสติ คนตัวเล็กกว่าผลักอกหนาของเขาจนล้มลงบนเตียง ก่อนที่เธอจะขึ้นคร่อม และโน้มตัวลงมาจูบเขาอย่างดุเดือด ‘หืม เธอเร่าร้อนกว่าที่ทำกับเอริคอีกนะ’ ผู้ถูกกระทำก็เอาแต่ยกยิ้มอย่างชัยชนะ “หนูนี่หื่นได้ใจพี่จริงๆ ” “พี่ไคล์น … หนูรู้สึกต้องการแปลกๆ ก็พี่อยากพิสูจน์ไม่ใช่หรอ ว่าถ้าสอดใส่มันจะรู้สึกยังไง งั้นพี่ก็ลองมันซะสิ” มือหนาไม่รอช้า ก่อนจะคว้าเอากล่องสี่เหลี่ยมออกมา จากนั้นก็ฉีกซองพลาสติกสีเงินใสด้วยปาก เธอมองดูมือหนาที่กำลังสวมใส่ปลอกให้เจ้าไซส์ 58 อย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆ โน้มตัวขึ้นมาจูบเธออย่างดุเดือดเร่าร้อนอีกครั้ง อื้มมมม …. ลีลาของพี่ก็เด็ดเหมือนกันนะเนี่ย “พี่อยากสอดใส่แล้ว หนูช่วยจับมันยัดเข้าให้พี่หน่อยสิครับ” คนฟังถึงกับหูอื้อหน้ามืดตามัว แต่ทว่ากลับทำตามคำสั่งอย่างง่ายดาย ด้วยความหิวบวกความเงี่ยน ไหนจะฤทธิ์ของยาบวกแอลกอฮอล์นั่นอีก ไคล์นรู้ดีว่ายานี้ถ้ากินพร้อมกับแอลกอฮอล์ ฤทธิ์ของมันจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว คนร่างเล็กพยายามจะสอดใส่ แต่แล้วก็เข้าไม่ได้สักที เขาจับคนร่างเล็กพลิกให้นอนหงาย ก่อนจะเป็นเขาเองที่คุมเกมต่อจากนี้ ริมฝีปากหยักหนาขอบดูดทุกสัดส่วนของเธอ รอยแดงจ้ำๆ ที่เกิดจากน้ำมือของเอริคยังคงเห็นได้ชัด ก่อนที่เขาจะกดริมฝีปากทาบทับกับรอยนั่นอย่างแสดงความเป็นเจ้าของ ความอยากกระสันของหญิงสาวถูกปลุกเร้าจนลืมความเจ็บ ครั้งนี้ไคล์นเป็นคนสานต่อที่ค้างคาเมื่อคืน เขาละเลงปลายลิ้นลงกับกลีบอูม มันหวานหอมฉ่ำเยิ้มไปหมด จากนั้นแก่นกายก็ขึ้นมาทาบทับร่างบางอีกรอบก่อนจะค่อยๆ ถูไถหัวหยักบานเข้าไปด้านใน ความกระสันอยากมันทำให้เขาไม่รอช้า เขาดันเสียบเข้าไปด้านในจนสุดลำในคราเดียว ปึก… กึด… “อ๊าห์….” เธอทั้งเจ็บทั้งจุกและขยับกายไม่ได้ ทว่าฤทธิ์ของยาก็ยังกระตุ้นมากกว่าที่ความเจ็บนั้นจะทำอะไรได้ เพราะตอนนี้หญิงสาวต่างหลงลืมความเจ็บไปจนหมดสิ้น คงไว้แค่ความเสี้ยนกระสัน “ทำไมมันดีแบบนี้ล่ะ ของหนูมันแน่นมากตอดรัดของพี่มากเลย” เขายังคงแช่ค้างมันอยู่อย่างนั้นชั่วครู่ การได้สอดใส่มันดีแบบนี้นี่เอง นี่อย่าบอกนะว่าเขาติดใจกับผู้หญิงเข้าให้แล้ว ซี้ดส์ …. อื้มมม …. เขายังคงสอบแก่นกายเข้าออกถี่ๆ ความรู้สึกนี้มันยากที่จะถอนตัว ไคล์นทำหน้าเคลิ้มอย่างควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ มันเสียวจนเขากลั้นเอาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่น้ำขาวขุ่นจะพุ่งทะลักใส่ถุงใสๆ ด้านใน กับครั้งแรกที่ร่วมรักแบบสอดใส่ มันทำให้เขาอดกลั้นอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ ชายหนุ่มยังคงแช่มันกับร่องสวาทของหญิงสาวเอาไว้ ก่อนจะค่อยๆ ถอดออกมาเช็ดทำความสะอาด “เลือดหนูไหล!!” คนปากหนาเอ่ยพึมพำ แน่นอนว่าเมื่อคืนมันก็ไหลไปทีนึงแล้ว แต่ครั้งนั้นมันยังเข้าไม่สุด แต่ครั้งนี้คนที่พรากพรหมจรรย์เธอไปจนหมดสิ้นคือไคล์น “เจ็บมั้ยครับคนดี” เขาเอ่ยถามเธอด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน “ครั้งนี้พี่อดใจไว้ไม่อยู่ ก็ของหนูทั้งแน่นทั้งตอดรัดจนน้ำพี่พุ่ง เดี๋ยวพี่ช่วยให้หนูเสร็จคาปากนะครับ” พูดจบชายหนุ่มก็ทำการเช็ดคราบเลือดสีจางๆ ออก ก่อนจะละเลงปลายลิ้นร้อนรัวๆ เธอเด้งเอวรับกับลิ้นอุ่นหนาของเขา เขากระดกลิ้นรัวถี่จนเธอแทบขาดใจ นิ้วหนายังคงสอดละเลงกับด้านล่าง ความเสียวซ่านแล่นพล่านไปทั่วร่างกายของเธอ ก่อนที่หญิงสาวจะเริ่มบิดเกร็งหน้าท้อง เท้าทึงจิกเกร็งและมือหยุมหัวของชายหนุ่มอย่างอดกลั้นไม่ได้ ไม่นานนักเธอก็เริ่มกระตุกถี่ก่อนจะถึงสรวงสวรรค์ เมื่อชายหนุ่มเห็นว่าเธอเสร็จแล้ว เขาก็สอบเอวยัดแก่นกายไซส์ยักษ์เข้าร่างกายของหญิงสาวอีกระลอก คนผมสีบลอนด์เงินทั้งกระเด้งกระเด้าถี่ๆ “เอื้อออ… เสียวจังเลยครับไอรีน พี่จะแตกอีกแล้ว” ปัก ปัก ปัก หญิงสาวดิ้นเราๆ หอบหายใจถี่ๆ หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเหมือนจะขาดใจ “อ๊าหห์ พี่ไคล์น” แล้วคนร่างสูงกว่า 185 ก็ทำให้เธอขึ้นสวรรค์ไปหลายต่อหลายทีเธอที่คิดว่าเอริคหื่นแล้ว แต่ทว่าไคล์นกลับหื่นยิ่งกว่า ความรู้สึกแปลกๆ ที่มีต่อคนทั้งสองก็ได้ก่อตัวขึ้นในใจช้าๆ นั่นเธอจะรู้ไหมนะว่าเจองานยากเข้าให้ซะแล้วเอริคเองก็เที่ยวชมพระราชวังแวร์ซาย (Palace of Versailles) บ่ายเดินเล่นใน สวนสาธารณะลุกซัมบูร์ก (Luxembourg Gardens) เขาเข้ากับเพื่อนๆ ในกรุ๊ปทัวร์ได้ดี มีสาวๆ หลายต่อหลายคนที่แอบเสียดายเพราะรู้ว่าเขามีแฟนแล้ว และแฟนที่ว่านั่นก็คือผู้ชาย ไม่ต่างจากลูกน้ำและพิราที่ก็แอบเสียดายในความหล่อเท่ไม่ต่างกัน“วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของการเที่ยวชมปารีสนะคะทุกคน ส่วนใครอยากซื้อของฝากติดไม้ติดมือนิดๆ หน่อยๆ ได้ค่ะ แต่อย่าลืมนะคะว่าเราต้องไปอีกตั้งสามประเทศ ยังไงก็ซื้อเบาๆ มือกันด้วยนะคะ ด้วยความเป็นห่วงค่า”เสียงของลูกน้ำ ไกด์สาวสวยดีกรีปริญญาโทเธอเก่งหลายภาษาและหน้าตาก็ถูกเติมแต่งผ่านมือหมอมานับครั้งไม่ถ้วนจนตอนนี้เธอสวยแบบสายฝอ สายฝอที่แบบว่าสวยจึ้ง ลูกน้ำก็ได้เอ่ยบอกกับทุกคนก่อนจะขึ้นรถกลับไปยังที่พัก และวันนี้มื้อค่ำก็จะทานที่โรงแรมตามเดิมเมื่อถึงที่พักแล้วเอริคก็ขอตัวขึ้นห้องเลย เพราะไคล์นไลน์มาบอกแล้วว่าเตรียมอาหารเครื่องดื่มรอเขาไว้แล้ว ส่
“ทำไมนายอาบน้ำนานจัง” เสียงไคล์นเอ่ยถามกับชายหนุ่มผู้เป็นที่รัก “ก็อาบปกตินะ เอ….” เขาพูดลากเสียงช้าๆ ก่อนว่า “หรือว่านายใจร้อน” “บ้า … ฉันหิวแล้วต่างหาก และก็กลัวว่าไอรีนจะหิวแล้วเหมือนกัน” ไอ้คำว่าหิวที่ว่ายิ่งทำให้ข้างในมันตอดตุบๆ ก่อนที่คนร่างบางจะหันมามองยังคนร่างสูงที่สุด ที่พึ่งจะออกจากห้องน้ำมา แววตาเธอมองเขามันเว้าวอนแปลกๆ ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันมายิ้มให้ “เดี๋ยวฉันเข้าห้องน้ำแป๊บนะ พวกนายตามสบายได้เลย” ไคลน์เอ่ยบอกกับคนทั้งคู่ “นายจะไปนานรึไง พวกเรารอทานด้วยอยู่” ไม่นานคนตัวสูง 185 ก็เข้าห้องน้ำเพื่อไปทำความสะอาดร่างกายอีกรอบ วันนี้ทั้งวันเขาเพลียชะมัด ไม่นานนักเขาก็ออกมา ตอนนี้เทียนตรงกลางโต๊ะต่างถูกจุดมันสว่างและหอมมากช่างโรแมนติคจริงๆ นี่หากเขาได้ร่วมรักกับคนทั้งสอง มันจะเป็นยังไงนะ “ไคล์น? ” “ห่ะ!! ห๊ะ?? เมื่อกี๊นายว่ายังไงนะเอริค” “นายนี่ชักจะเอาใหญ่นะ ใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ผมถามว่าวันนี้นายอยากดื่มไวน์ขาวรึไวน์แดง?” ก่อนที่ไคล์นจะหันมามองอาหารตรงหน้า มันมีเมนูสเต๊กเนื้อกับสเต๊กปลาแซลม่อนรมควัน “ถ้าให้ฉันเดานะ สเต๊กเนื้อสองจานนี่คงเป็นของเรา ก็
มีหรอที่คนอารมณ์ค้างจะไม่ตอบสนอง เธอขึ้นคร่อมนั่งทาบทับอกแกร่งของเขา จากนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อนอนของเขาออกอย่างไว ตามมาด้วยเรียวลิ้นอุ่นร้อนที่ซอกไซร้ลงบนลำคอของเขาอย่างคนเงอะงะหึ หึ เขากลั้นขำอย่างนึกเอ็นดู แต่กลับชอบที่เธอแสดงออกมาแบบนี้อื้มมม …. “จัดจ้านขึ้นนะเรา”“ลูกศิษย์ก็ต้องเก่งเหมือนครูสิคะ”เขาบดขยี้บีบก้นเธออย่างคนหมั่นเขี้ยว ดูสีหน้าของเขาตอนนี้เข้าสิ มันเหมือนคนเห็นลูกแมวแล้วอยากขย้ำ มือหนาคลึงสะโพกกลมกลึงของเธอ ก่อนจะเด้งแอ่นก้นขึ้นมาให้เจ้าแท่งแข็งๆ มันโดนก้นนุ่มนิ่มของเธอมากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มจับร่างบางให้มานั่งใกล้ๆ ใบหน้า“อ๊ะ!! พี่จะทำอะไรคะ?”“ก็กินหนูไงครับ”ไม่ว่าเปล่าคนที่เลื่อนเอวหนาให้มานั่งทับกับเรียวปากของตนเอง เขาใช้มือหนาจับคลึงดึงสะโพกเธอให้บดขยี้กับริมฝีปากและสันจมูกของเขา เธอทั้งเสียวทั้งตื่นเต้น“พี่เงี่ยนจัง อยากยัดแล้ว”เพียงแค่คิดเธอก็แทบจุก เธอยังจำขนาดไซส์ยักษ์ใหญ่ของมันได้ดี มันใหญ่กว่าของใครอีกคนที่ตอนนี้เอาแต่นอนกรนครอกๆ ให้คนอื่นฟัง แน่ล่ะสิ ก็รายนั้นจัดเธอแทบทั้งวัน ล่าสุดยังมารีบตอกจนตัวเองเสร็จสม คงค้างไว้แต่อารมณ์ค้างเติ่งของเธอเอริคหยัดตัว
คนทั้งคู่ต่างเสร็จสมไปถึงสี่รอบติด นับว่าเจนจัดกันทั้งสอง ก่อนที่เธอจะเดินขาสั่นๆ เข้าไปด้านใน แต่แล้วทั้งสองก็ต้องหันมามองหน้ากันอย่างตกตะลึง ก็คนที่นอนหลับปุ๋ยตอนนี้ต่างย้ายมายังเตียงเล็กของเธอ อย่าบอกนะว่าเขาแอบได้ยินที่คนทั้งสองทำอะไรกัน เธอหันมองหน้าคนตัวใหญ่ ทว่าเขากลับส่ายหัวไปมา“น่าจะแค่นอนละเมอแล้วก็นอนผิดเตียง”เธอหันมองเอริคด้วยแววตาหวั่นๆ“นี่ก็เที่ยงคืนแล้ว พรุ่งนี้ต้องเจอกันที่ลอบบี้ 7 โมงเพื่อนั่งรถไฟจากปารีสไปลงที่ซูริก เดี๋ยวจะตื่นไม่ทัน”เขาเอ่ยบอกกับคนร่างบางก่อนจะตีมือหนาลงที่เตียงใหญ่เบาๆ ทำนองว่าคืนนี้ให้เธอนอนกับเขา“พี่ตั้งนาฬิกาหรือยังคะ? ”“ตั้งแล้วครับ แต่เดี๋ยวโทรศัพท์ก็ปลุกแจ้งเตือนเรา”หญิงสาวทำหน้านิ่งๆ อย่างครุ่นคิดเขาจึงเอ่ยต่อ“มันเป็นนาฬิกาปลุกแบบอัตโนมัติอ่ะ ทุกห้องของลูกทัวร์จะดังขึ้นเหมือนๆ กัน เวลาเดียวกัน”“อ้อ … อย่างนี้นี่เอง แล้วนี่” เธอหันมาชี้ตัวเอง ทำนองว่า เธอต้องนอนไหน“หนูก็นอนเตียงเดียวกับพี่”เธอทำตกใจตาโต!!“มันจะดีหรือคะ? ”แต่ก็ช้ากว่าที่มือหนาจะดึงร่างบางเอาไว้ เขาดึงเธอขึ้นไปนอนบนเตียง ส่วนอีกคนก็หลับกรนอย่างเอาเป็นเอาตาย ต่อให้
เมื่อถึงเวลาที่กำหนดรถไฟขบวนพิเศษก็จอดตรงตามเวลาเป๊ะๆ ก่อนที่ทุกคนจะเดินไปรวมตัวกันในกลุ่ม“นี่ถ้าไม่ติดว่าสองหนุ่มหล่อนั้นเป็นเกย์ ฉันว่าพวกเขาคงกำลังหึงสาวกันแน่ๆ” พิราก็พูดไปอย่างภาพที่เห็น ก่อนที่เสียงของไกด์สาวอีกคนจะตอบ“เน้อ แต่ดูแล้วสองหนุ่มน่าจะมีเพื่อนสาวเพิ่ม ก็จะไปแปลกอะไรแก พวกคนรวยเขาคงอยากหาคอนแท็กนั่นแหละ ทั้งสามก็ใช่ธรรมดาที่ไหน นี่ฉันยังงง ทำไมถึงมากับทัวร์กันได้ ทั้งที่บ้านออกจะรวย”ที่รู้เพราะดูจากยี่ห้อกระเป๋าลาก นาฬิกา เสื้อผ้าที่สวมใส่ อีกอย่างพวกเขาก็พักห้องที่จองเอง ทานอาหารที่ซื้อกันเองแค่ราคาไวน์ขวดนึงก็ปาไปหลายยูโรจากนั้นคณะทัวร์ก็พากันมุ่งหน้ามาที่โรงแรมที่พักก่อน แล้วค่อยพากันทานมื้อเที่ยง ซึ่งทุกคนก็ทานง่ายๆ ตามที่ทางกรุ๊ปทัวร์จัดไว้ให้ ตามด้วยแพลนเที่ยวเยี่ยมชม เมืองเก่าซูริค (Old Town Zurich) และ ทะเลสาบซูริคทะเลสาบซูริก“สวยจังเลยค่ะ” แน่นอนว่าที่นี่ขึ้นชื่อมาก“มาถ่ายรูปกันเอามั้ย?” เอริคเอ่ยถาม“มาค่า แก๊งสวยหล่อ เดี๋ยวพี่ลูกน้ำถ่ายให้นะคะ”สิ้นเสียงหญิงสาวก็หันมองคนซ้ายก่อนจะแลมาดูคนขวา“พวกพี่ไม่ไปถ่ายกันหรอคะ? ”เธอก็กลัวว่าจะไปเป็นก้างของพวกเข
เอริคที่ร้อนรุ่มก็เริ่มเข้ามาขยี้บดจูบไคล์นอย่างไว เขาเปลื้องผ้าของไคล์นออกจนหมด จากนั้นก็ดึงทึ้งร่างของไคล์นให้โก้งโค้งแอ่นลง ไคล์นมองดูแก่นกายของคนร่างสูงที่ตอนนี้มันแข็งผงาดเต็มกำลัง“ทำไมนายใช้ยาล่ะเอริค? ”“ผมจะได้กล้าขอในสิ่งที่ผมคิด”“นายอยากขอมีไอรีนเพิ่มมาอีกคนใช่มั้ย? ”“นายรู้!!” แน่นอนว่าเอริคเองต่างก็ตกใจ“อื้มม … ฉันรู้ รู้มาตลอด และก็เห็นตลอดเวลาที่นายเอากับเธอ ฉันอยากจะเข้าไปแจมเป็นบ้า”คนที่กำลังจะงัดแก่นกายใส่ก้นงอนของอีกฝ่ายต้องชะงัก ก่อนจะมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างคนรู้เห็นเป็นใจ ก่อนจะเดินเปิดประตูเข้าไปด้านในหาหญิงสาวทันทีที่เธอเห็นคนเปลือยเปล่าทั้งสองที่แก้ผ้าโทงๆ พวกเขาถึงกับหยุดชะงัก พอๆ กันกับอาการของเธอที่ตกใจ นี่พวกเขามาเห็นเธอตกเบ็ดตัวเองอย่างนั้นหรอเนี่ย“ให้พวกพี่ช่วยหนูไหม? ”คำถามที่เอ่ยออกมาจากปากไคล์น ทำเอาหญิงสาวถึงกับชะงัก นี่ที่เธอพึ่งขอพรไปเมื่อตอนกลางวันจากวัดวัดหนึ่ง ว่าอยากได้สองคนนี้มาเป็นผัวมันเป็นจริงหรือนี่ อะไรจะไวปานนี้นะ“คือพวกพี่ …!!! อ๊ะ!!”ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยถามอะไร เอริคก็ยกคนงามขึ้นแล้วหันหน้าเธอไปหาไคล์น ก่อนที่ชายหนุ่มจะ
เวลาที่ไทยห่างจากสวิตถึง 6 ชั่วโมงในฤดูหนาว นี่ก็ปาไปเจ็ดโมงแล้วคนทั้งสามต่างหลับกอดกันคุดคู้เหมือนเจ้าเหมียวนอนกกกัน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นเป็นชื่อว่า Ama จากนั้นเธอ ก็กดรับสายในทันที“ค่ะอาม่า” หญิงสาวเสียงหวานทันทีที่กดรับ“อารีน นี่หนูเที่ยวจนไม่คิดจะโทรหาอาม่าบ้างเลยนะ แล้วเที่ยวเป็นไง สนุกไหม? ”เสียงจากปลายสายเสียงดังพอ พอที่คนทั้งสองจะได้ยิน เอริคกระชับไคล์นเข้าสู่อ้อมแขนแกร่ง ก่อนจะก้มหอมที่หน้าผากชายหนุ่มผมบลอนด์เงินอย่างแผ่วเบา“เมื่อคืนเจนจัดเหมือนกันนะเรา”“ก็นายนั่นแหละ เอาอะไรมาให้พวกฉันกิน”ไคล์นทำท่ากระเง้ากระงอดใส่“หรือว่าไม่ชอบล่ะ” เขาเอ่ยกระซิบถาม ก่อนจะเล่าต่ออีกว่า “ผมรู้นะ คืนแรกที่ปารีส คุณก็แอบใส่ให้ผมกินเหมือนกัน เจ้าหนูไอรีนนั่นก็ด้วย”“นายรู้? ” บุรุษผมบลอนด์เงินถึงกับอ้าปากค้าง กับคำตอบที่ได้ นี่ที่ผ่านมาเอริครู้ทุกอย่างเลยหรอวะเนี่ย“แต่นายก็ยอมเล่นตามน้ำ? ”เขาเอ่ยถามคนร่างสูง 190“อารีน ลื้ออยู่คนเลียวรึเปล่าเนี่ย อั๊วะเหมือนได้ยินเสียงปู้ชาย”ก่อนที่คนทั้งสามจะหันหน้ามองกันขวับ และไค
เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเขาทางจากซูริคไป อินเทอร์ลาเคน เยี่ยมชม ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และเดินทางไปชมวิวจาก ภูเขาจุงฟราว (Jungfraujoch) ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนที่นั่งโดยสารแบบ First Class นั้นก็มีม่านกั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว หากใครจะรับบริการก็แค่แง้มม่านไว้ เท่านี้พนักงานบนรถก็เป็นอันรู้กันว่าที่นั่งแถวนี้ต้องการการใช้บริการ และหากที่นั่งใดปิดม่านเอาไว้ก็หมายความว่าอยากเป็นส่วนตัวทุกคนทานมื้อเช้ามากันแล้วกับทางทัวร์จัดไว้ให้ หญิงสาวถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและยังมีสเวตเตอร์คอเต่าอยู่ด้านใน ส่วนกระโปรงสั้นที่เธอสวมใส่ก็มีถุงน่องยาวเลยเข่าแบบปรุขน เรื่องแฟชั่นให้ไว้ใจคนทั้งสาม อย่างกับหลุดมาจากแบบโฆษณาตามรายทางก็มองเห็นหมู่บ้านสลับกับหิมะ และตอนนี้หิมะต่างก็ตกปรอยๆ แม้ข้างในขบวนรถไฟจะมีฮีตเตอร์สร้างความอบอุ่น แต่คนที่นั่งคนเดียวตอนนี้ช่างเปล่าเปลี่ยวใจแต่เหมือนชายหนุ่มจะรู้ความคิดของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะย้ายที่นั่งมานั่งข้างๆ และประกบซ้ายขวา คนที่เหม่อใจลอยถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับคนทั้งคู่“คิดอะไรครับ? ” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์เงินไม่ว่าเปล่า แต
หลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค
เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเขาทางจากซูริคไป อินเทอร์ลาเคน เยี่ยมชม ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และเดินทางไปชมวิวจาก ภูเขาจุงฟราว (Jungfraujoch) ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนที่นั่งโดยสารแบบ First Class นั้นก็มีม่านกั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว หากใครจะรับบริการก็แค่แง้มม่านไว้ เท่านี้พนักงานบนรถก็เป็นอันรู้กันว่าที่นั่งแถวนี้ต้องการการใช้บริการ และหากที่นั่งใดปิดม่านเอาไว้ก็หมายความว่าอยากเป็นส่วนตัวทุกคนทานมื้อเช้ามากันแล้วกับทางทัวร์จัดไว้ให้ หญิงสาวถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและยังมีสเวตเตอร์คอเต่าอยู่ด้านใน ส่วนกระโปรงสั้นที่เธอสวมใส่ก็มีถุงน่องยาวเลยเข่าแบบปรุขน เรื่องแฟชั่นให้ไว้ใจคนทั้งสาม อย่างกับหลุดมาจากแบบโฆษณาตามรายทางก็มองเห็นหมู่บ้านสลับกับหิมะ และตอนนี้หิมะต่างก็ตกปรอยๆ แม้ข้างในขบวนรถไฟจะมีฮีตเตอร์สร้างความอบอุ่น แต่คนที่นั่งคนเดียวตอนนี้ช่างเปล่าเปลี่ยวใจแต่เหมือนชายหนุ่มจะรู้ความคิดของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะย้ายที่นั่งมานั่งข้างๆ และประกบซ้ายขวา คนที่เหม่อใจลอยถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับคนทั้งคู่“คิดอะไรครับ? ” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์เงินไม่ว่าเปล่า แต
เวลาที่ไทยห่างจากสวิตถึง 6 ชั่วโมงในฤดูหนาว นี่ก็ปาไปเจ็ดโมงแล้วคนทั้งสามต่างหลับกอดกันคุดคู้เหมือนเจ้าเหมียวนอนกกกัน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นเป็นชื่อว่า Ama จากนั้นเธอ ก็กดรับสายในทันที“ค่ะอาม่า” หญิงสาวเสียงหวานทันทีที่กดรับ“อารีน นี่หนูเที่ยวจนไม่คิดจะโทรหาอาม่าบ้างเลยนะ แล้วเที่ยวเป็นไง สนุกไหม? ”เสียงจากปลายสายเสียงดังพอ พอที่คนทั้งสองจะได้ยิน เอริคกระชับไคล์นเข้าสู่อ้อมแขนแกร่ง ก่อนจะก้มหอมที่หน้าผากชายหนุ่มผมบลอนด์เงินอย่างแผ่วเบา“เมื่อคืนเจนจัดเหมือนกันนะเรา”“ก็นายนั่นแหละ เอาอะไรมาให้พวกฉันกิน”ไคล์นทำท่ากระเง้ากระงอดใส่“หรือว่าไม่ชอบล่ะ” เขาเอ่ยกระซิบถาม ก่อนจะเล่าต่ออีกว่า “ผมรู้นะ คืนแรกที่ปารีส คุณก็แอบใส่ให้ผมกินเหมือนกัน เจ้าหนูไอรีนนั่นก็ด้วย”“นายรู้? ” บุรุษผมบลอนด์เงินถึงกับอ้าปากค้าง กับคำตอบที่ได้ นี่ที่ผ่านมาเอริครู้ทุกอย่างเลยหรอวะเนี่ย“แต่นายก็ยอมเล่นตามน้ำ? ”เขาเอ่ยถามคนร่างสูง 190“อารีน ลื้ออยู่คนเลียวรึเปล่าเนี่ย อั๊วะเหมือนได้ยินเสียงปู้ชาย”ก่อนที่คนทั้งสามจะหันหน้ามองกันขวับ และไค
เอริคที่ร้อนรุ่มก็เริ่มเข้ามาขยี้บดจูบไคล์นอย่างไว เขาเปลื้องผ้าของไคล์นออกจนหมด จากนั้นก็ดึงทึ้งร่างของไคล์นให้โก้งโค้งแอ่นลง ไคล์นมองดูแก่นกายของคนร่างสูงที่ตอนนี้มันแข็งผงาดเต็มกำลัง“ทำไมนายใช้ยาล่ะเอริค? ”“ผมจะได้กล้าขอในสิ่งที่ผมคิด”“นายอยากขอมีไอรีนเพิ่มมาอีกคนใช่มั้ย? ”“นายรู้!!” แน่นอนว่าเอริคเองต่างก็ตกใจ“อื้มม … ฉันรู้ รู้มาตลอด และก็เห็นตลอดเวลาที่นายเอากับเธอ ฉันอยากจะเข้าไปแจมเป็นบ้า”คนที่กำลังจะงัดแก่นกายใส่ก้นงอนของอีกฝ่ายต้องชะงัก ก่อนจะมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างคนรู้เห็นเป็นใจ ก่อนจะเดินเปิดประตูเข้าไปด้านในหาหญิงสาวทันทีที่เธอเห็นคนเปลือยเปล่าทั้งสองที่แก้ผ้าโทงๆ พวกเขาถึงกับหยุดชะงัก พอๆ กันกับอาการของเธอที่ตกใจ นี่พวกเขามาเห็นเธอตกเบ็ดตัวเองอย่างนั้นหรอเนี่ย“ให้พวกพี่ช่วยหนูไหม? ”คำถามที่เอ่ยออกมาจากปากไคล์น ทำเอาหญิงสาวถึงกับชะงัก นี่ที่เธอพึ่งขอพรไปเมื่อตอนกลางวันจากวัดวัดหนึ่ง ว่าอยากได้สองคนนี้มาเป็นผัวมันเป็นจริงหรือนี่ อะไรจะไวปานนี้นะ“คือพวกพี่ …!!! อ๊ะ!!”ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยถามอะไร เอริคก็ยกคนงามขึ้นแล้วหันหน้าเธอไปหาไคล์น ก่อนที่ชายหนุ่มจะ