หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
เซย์ไฮ ทักทายนักอ่านทุกท่านค่ะ สำหรับเรื่องนี้เป็นความรักของคู่เกย์คู่หนึ่งนะคะที่ทั้งคู่ต่างไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไบมาก่อน ( Bisexual ) หรือที่ทุกคนรู้จักกันดีว่าเกย์กลาย กับผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ดี โดยตัวละครหลักคือคนทั้งสาม เอริค เขาเป็นเซ็กส์ชวลก็จริงค่ะ แต่คนนี้จะเป็นฝ่ายรุกซะมากกว่าและไม่ประตูหลัง ส่วนไคล์นชายหนุ่มผมสีบลอนด์เงินเขาได้ทั้งหน้าและทั้งหลัง ซึ่งไม่ต่างจากยัยน้องไอรีนค่ะ รายนี้ก็เหมาหมดทั้งหน้าและหลัง อิอิ เรื่องนี้สนุกนะคะไรท์ตั้งใจเขียนมากๆ เนื้อหาไม่มีคำหยาบโลน(มั้งคะ) แฮร่.. แต่รับรองถึงใจสุดๆค่ะ อ่านกันแล้วก็อย่าลืมแวะส่งกำลังใจ ติชมเนื้อหากันได้นะคะ ว่าได้ค่ะแต่อย่าแรง ไรท์เป็นคนใจบาง ฮ่าๆ งั้นเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปตามติดชีวิตของคนทั้งสามกันเลยค๊าบทนำคนที่หอบพาเอาหัวใจที่บอบช้ำของตัวเอง มันก็นึกอะไรไม่ออกหรอกนะ นอกจากการหนีเที่ยว การไปฮีลใจที่ไหนสักแห่ง ที่ที่ไม่มีใครรู้จัก ที่ที่แน่นอนว่าย่อมไม่พบเจอใครสักเท่าไหร่มือเรียวสวยกดคลิกตกลงยืนยันจ่ายเงินกับกรุ๊ปทัวร์ยุโรปแบบฉ่ำๆ 15 วัน 13 คืน กับยอดค่าใช้จ่ายเฉพาะทริปก็เกือบสามแสน นี่ไม่รวมค่าอยู่ค
ปารีส ฝรั่งเศสทันทีที่เครื่องแลนดิ้งถึงเมืองน้ำหอม ทุกคนราวกว่าสี่สิบชีวิตก็มารวมตัวกันที่ประตูผู้โดยสารขาออก รถทัวร์สีน้ำเงินชั้นเดียวแบบหรูสไตล์ยุโรปก็มาจอดรอรับตรงจุดรอรับลูกทัวร์ ไม่นานเธอมองเห็นพี่ลูกน้ำกับพี่พิรายืนโบกสะบัดธงของชื่อกรุ๊ปอยู่ไวๆ ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มเดินไปตามป้าย“กรุ๊ปทัวร์ไทยบริษัท xx ทราเวลด้านนี้ค่าา”จากนั้นทุกคนก็ทยอยขึ้นรถ และไปหาที่นั่งของตนเอง ซึ่งการนั่งก็เอาที่ลูกทัวร์สะดวก ไอรีนนั่งคนเดียว เพราะว่านอกนั้นเขาก็มากันแบบคู่ ก่อนที่ไกด์ทั้งสองจะแนะนำแผนการทัวร์คร่าวๆ ของวันพรุ่งนี้ และคืนนี้ก็คงจะทานมื้อดึกแล้วก็แยกย้าย ระหว่างทางที่ไปร้านอาหาร ทัวร์ก็แจ้งเรื่องห้องพัก ที่พักในตอนนี้มันมักจะเป็นเตียงคู่ และห้องแบบสำหรับพักคนเดียวคือเต็ม ฉะนั้นแล้วเธอจึงเป็นเศษจากจำนวนของลูกทัวร์ทั้งหมด“พิรา เอาไงดีวะ มาเศษก็เศษหนึ่งคนพอดี” ลูกน้ำเอ่ยถามกับเพื่อนสาวอย่างขอความคิดเห็น“มันมีห้องของคู่รักคู่นั้นไงแก เขาได้พักห้องเตียงคู่ มันมีเตียงหนึ่งเป็นคิงส์ไซซ์ อีกเตียงเป็นแบบมินิ แกว่าเราไปขออนุญาตพวกเขาก่อนสักคืนได้ไหมวะ แก้ปัญหาไปก่อน”พิราก็เสนอความคิดเห็นเท่าที่เธอ
เมื่อหญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวเสร็จและอยู่ในชุดลำลอง แต่ว่าเซ็กซี่ ก็เธอกะจะเซลฟี่กับไอเฟลด้วยเหมือนกัน ดีซะอีกที่ตอนนี้มีคนถ่ายรูปให้ แต่เมื่อมองดูสองหนุ่มกลับพบว่าพวกเขายังรอทานมื้อดึกพร้อมเธอ นี่เราให้เขารอนานไหมเนี่ย แค่มารบกวนที่พักยังมารบกวนให้คนทั้งคู่นั่งหิวรอเธออาบน้ำอีก เธอยิ้มแหยๆ อย่างคนเกรงใจ ก่อนจะเอ่ยถามออกไป“ทำไมพวกนายยังไม่ทานกันอีก อาหารเย็นหมดแล้วมั้งนั่น” คนถามเอาแต่ทำหน้าเหวอ คงเพราะเธอสินะ คงรอเธอสินะ “รอฉันหรอ? ” เธอถามพร้อมชี้นิ้วเรียวเข้าหาตัวเองบุรุษผมบลอนด์เงินไม่ตอบ ทว่าบุรุษผมดำขลับกลับตอบด้วยการผงกหัวแทน“เอ่อ …. ขอโทษนะที่ให้รอ”ก็เธอบอกพวกเขาแล้วนี่ว่าให้ทานก่อน แต่ด้วยมารยาทสากลจึงทำให้คนทั้งคู่รอ จริงๆ สองหนุ่มก็ยังไม่ได้หิวอะไรเท่าไหร่“รีบมานั่งเถอะ ผมหิวแล้ว”เอริคพูดชวนทำลายบรรยากาศที่เงียบเธอเดินไปพร้อมกับมองชายหนุ่มผมสีดำที่กำลังทำการเปิดไวน์สีแดงเข้ม ก่อนจะค่อยๆ รินมันอย่างพิถีพิถัน เขาเลื่อนเก้าอี้ออกให้เธอ แน่นอนว่ามันอยู่ตรงข้ามกับไคลน์ ชายหนุ่มผู้หน้าบึ้งเอาแต่ใจ ส่วนคนหัวโต๊ะก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเอริค‘ขอบคุณพระเจ้า ขอบคุณที่ยังมีนายนะ
ทันทีที่หญิงสาวกระโดดไปนั่งบนตักของชายหนุ่มผมดำ เธอนั่งโดยไม่คิดอะไร เอ๊ะ!! หรือว่าแอบคิดกันแน่นะผมยาวดกดำที่พึ่งถูกสระ กับกลิ่นบาธโฟมยี่ห้อหรูจากทางโรงแรม มันทำให้กลิ่นหอมละมุนนั้นลอยเตะเข้าจมูกของเขาอย่างจัง ร่างนุ่มนิ่มของหญิงสาว ที่ตอนนี้ดิ้นยุกยิกบนตักของเขาไปมา ชายหนุ่มหลับตาลงช้าๆ อย่างสงบจิตสงบใจ‘มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ เราไม่ชอบผู้หญิงนี่นา’คนที่สมองข้างในตีกันตุบตับ ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งมีอารมณ์แปลกๆ คนร่างบอบบางหันมามองชายหนุ่ม ซึ่งตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งคู่มันใกล้กันมาก ใกล้ซะจนเธอใจโหวงไหว ก่อนที่ร่างบอบบางจะเอ่ยถามขึ้น“พี่เอริคไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ด้วย ว๊าาา แย่จัง เสน่ห์ของหนูเสื่อมสภาพหมด ความมั่นใจหายหดถดถอย”เธอพูดทั้งๆ ที่ร่างแน่งน้อยยังคงดิ้นยุกยิกไปมา ก่อนจะหันมาเอ่ยกับเขาต่อ ซึ่งทว่าตอนนี้ใบหน้าของคนทั้งคู่ก็อยู่ห่างกันไม่ถึงคืบอีกแล้ว เธอลอบมองริมฝีปากของเขาอยู่นาน แน่นอนว่ามันน่าจูบเป็นบ้า คนอะไรริมฝีปากสวยกว่าผู้หญิงเสียอีก แล้วอะไรก็ไม่รู้ที่ดลใจให้เธอพูดเอ่ยอะไรออกมา“งั้น …. ลองจูบดูมั้ยคะ? เผื่อว่าพี่จะหวั่นไหวได้บ้าง”พูดอย่างคนทะเล้นแบบไม่คิดอะไร ทว่าภายใ
เธอตกใจสุดขีด นี่เจ้าหล่อนกำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่นะ บทจะง่ายก็ง่ายแบบนี้เลยหรอ แกมันบ้าชัดๆ ไอรีนไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผล ทว่าต่อมรับความรู้สึกของร่างกายมันช่างตอบสนองอย่างซาบซ่าน คนเป็นงานก็คุมเกมจนใครอีกคนโอนอ่อนอย่างว่าง่าย แม้ในใจจะอยากคัดค้านและปฏิเสธเขา แต่ทำไมกันนะ..ทำไม ทำไมเธอถึงได้ใจง่ายอะไรเช่นนี้ทันทีที่ชายหนุ่มผละริมฝีปากออกเพราะดูท่าว่าคนที่เขาจูบกำลังจะขาดอากาศหายใจ แล้วเธอก็สูดเอาออกซิเจนเข้าปอดในทันที เขามองดูร่างเล็กบางสั่นระริก ไอ้คนปากดีก่อนหน้านี้หายไปไหนซะล่ะ นี่คงจะเป็นจูบแรกของเธอจริงๆ สินะ มันผิดคาดของเขาไปซะหมด ก็ดูเธอสิ แต่งตัวเก่ง เซ็กซี่ ไอ้เราก็นึกว่าจะเจนจัดเรื่องบนเตียง‘นี่เราควรไปต่อหรือพอแค่นี้วะ เชี่ยชิบ ข้างล่างก็ปวดหนึบแทบแตก ถ้าไปปลุกไคลน์มาจัดการตอนนี้ แล้วเธอล่ะ เราจะไม่ต้องอายหรอกนะที่ต้องแสดงหนังสดต่อหน้าคนอื่น ทริปสั้นจะไม่ว่า นี่ทริปยาว15 วันเลยนะโว้ย!!’ คนตัวสูงกว่า 190 สบถกับตนเองในใจ“ไหวมั้ยครับ? ให้พี่ทำต่อหรือให้พี่พอแค่นี้”ทั้งๆ ที่ตัวเองอยากไปต่อแทบตาย แต่ก็เอ่ยปากถามหญิงสาวออกมาอย่างนั้น แล้วเจ้าหล่อนก็เล่นนิ่งเงียบไม่ตอบเป็น
หลังจากการแต่งงานผ่านไป หญิงสาวก็พึ่งมารู้ทีหลังว่าครั้งแรกที่ปารีสตอนห้องเต็มคือเรื่องจริง แต่ว่าคืนที่สองไกด์สาวต่างหาห้องให้เธอได้แล้ว ทว่าเอริคเป็นคนไปขอร้องบอกกับสองไกด์สาวว่าให้จัดการเรื่องนี้ต่อไป คือให้ห้องเต็ม แต่ที่พีคไปกว่านั้นคือไคล์นเองก็เป็นคนไปบอกกับสองไกด์สาวเหมือนกัน ซ้ำร้ายไปกว่านั้นคือทุกกิจกรรมทุกการกระทำพวกเขาสองคนต่างรับรู้และซุ่มดูกันอย่างเงียบๆ ตลกดีใช่มั้ยล่ะห้าปีเต็มมาแล้วสินะที่ชีวิตแห่งความสุขสงบหลังจากแต่งงาน (แต่ไม่เคยขาดสีสัน) ก็ได้หล่อหลอมให้ชีวิตคู่ของพวกเขากลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บ้านหลังใหญ่ที่เอริคและไคล์นสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือนหอได้กลายเป็นสนามเด็กเล่นของเด็กหญิงและเด็กชายฝาแฝดวัยสี่ขวบ ผู้ซึ่งทำให้บ้านหลังนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มท่ามกลางความซุกซน“แด๊ดดี๊ขา! ดูสิ พี่วิ่งเร็วกว่าหนูอีก!” เด็กหญิงตัวน้อยในชุดกระโปรงสีชมพูตะโกนพลางหัวเราะเสียงใส ขณะที่พี่ชายฝาแฝดของเธอหัวเราะคิกคักไล่ตามมาติดๆ“เดี๋ยววิ่งระวังหน่อยลูก เดี๋ยวชนโต๊ะล้ม!” ไอรินพูดพลางจับผมยาวของตัวเองที่ถูกลมพัดให้ยุ่งเหยิง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความรักและควา
คนทั้งสองต่างรู้สึกผิดเมื่อวันนี้หญิงสาวมีไข้ แม้เธอจะบอกว่าไม่เป็นไร เพราะเธอเองก็ต้องการเรื่องอย่างว่านั้นเหมือนกัน แต่คนทั้งคู่ต่างรู้สึกผิดอยู่ดีวันนี้คนทั้งสามต่างหยุดงาน จะไปหรือไม่ไปมันก็ไม่มีผลอะไรมาก เพราะทุกคนเริ่มจัดการบางอย่างเอาไว้แล้ว พวกเขาแพลนงานและให้ลูกน้องสานต่อ ยังมีความลับที่สองหนุ่มยังไม่ได้บอกกับหญิงสาว และกะว่าจะบอกทีเดียวในวันนั้นเมื่อเห็นว่าเธอทานข้าวทานยาจนหลับไป เอริคก็หันมองไคล์นด้วยความกระสันอยากขึ้นมาอีกแล้ว เขาเหมือนเสือโหยที่กินไม่รู้จักอิ่ม จากนั้นคนทั้งคู่ก็ออกไปด้านนอก ปล่อยให้หญิงสาวได้พัก“สายตาแบบนี้จะกินฉัน?” ไคล์นสบตาเอริคอื้มมมม ….ไม่ทันที่ไคล์นจะได้เอื้อนเอ่ย เอริคก็จัดการถอดเสื้อผ้าของทั้งคู่ก่อนจะก้มจ้วงตวัดเรียวลิ้นอุ่นร้อนสาดใส่ดูดตวัดอย่างเร่าร้อน ยิ่งกระตุ้นไฟในกายปรารถนาให้โหมกระหน่ำ ความกระสันซ่านแผ่ขยายจนคับแน่นไปหมด“นายนี่อดอยากปากแห้งจริงๆ เลยนะเอริค ก็บอกให้ซื้อกิน ก็ไม่เชื่อ”แน่นอนว่าไคล์นกับไอรีนไม่มีปัญหาหากเขาจะซื้อกิน แต่ทว่าชายหนุ่มกลับเลือกเซ็กส์โฟนแทน“นายรู้มั้ยว่าผมเงี่ยนแค่ไหนเวลาเห็นนายเอากับเธอ ผมอยากจนต้องช่วยต
หญิงสาวค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ก่อนจะพบว่ามีใครอีกคนที่นอนกกกอดเธออยู่ข้างๆ เธอหันไปมองนาฬิกาดิจิตอลตรงปลายเตียงที่ติดอยู่ฝาผนังก็พบว่านี่เป็นเวลาเกือบๆ จะสองทุ่ม‘ตายจริง โอ๊ย!! ซี้ดดดส์’ เธอซี้ดปากเจ็บที่ศอกด้านซ้าย ก่อนที่ใครอีกคนจะสะดุ้งตื่นตาม“ตื่นแล้วหรอครับคนดี” ว่าพลางดึงกระชับเธอเข้ามากอดตามด้วยลูบหัวทุยน้อยๆ อย่างแผ่วเบา“ตื่นแล้วค่ะ นี่หนูเมามาก”“ครับ พี่รู้” เขาพูดพลางพยักหน้า ก่อนจะก้มมากดจมูกโด่งลงแก้มนวลเบาๆ“มีคนเมา และก็โทรไปโวยวายกวนคนกำลังหลับปุ๋ยถึงเมกา” เขาบอกหญิงสาวสะดุ้งตัวโหยงลุกขึ้นนั่ง เธอเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราว นี่เธอโทรไปโวยวายอะไรบ้าๆ กับเขากันแน่นะ ก่อนที่ชายหนุ่มจะค่อยๆ เปิดผ้าห่มออก และก็ไปคว้าเอาโทรศัพท์ที่อยู่ข้างๆ เตียงขึ้นมา และส่งรูปบางอย่างให้เธอดู“อื้อ ….” เขายื่นให้หญิงสาว“อะไรคะ? ”จากนั้นเธอก็หยิบมันขึ้นมาดูและก็พบรูปถ่ายของคนสี่คน และก็หญิงสาวคนสวยคนนั้นกับเสื้อผ้าชุดนั้นที่เธอรับสาย และก็หันมามองคนข้างๆ อย่างมีคำถาม“วันนั้นพวกเอริคอยู่กันสี่คน พวกเขาทำงานไปดื่มไป และตอนที่สาวสวยคนนั้นรับสายเพราะเอริคอาบน้ำ ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่มีใครตื่น นี่เอร
เขาซุกไซร้เรือนกายที่หอมกรุ่น มือหนาจับขาหญิงสาวที่นอนตะแคงอยู่ตอนนี้อ้ากางออกขึ้นพาดสะโพกของเขา ก่อนจะงัดเอานิ้วสากหนาชอนไชหาปุ่มเสียวกระสันของหญิงสาว มืออีกข้างเคล้นคลึงบีบเต้า ส่วนอีกข้างก็กดจุดปุ่มเสียวของหญิงสาวไปมาเขาให้นิ้วเรียวหนาทั้งสองนิ้วเข้าแหย่สำรวจในกลีบดอกไม้ ก่อนจะจับเธอนอนคว่ำหน้า จากนั้นเขาก็ยกก้นของหญิงสาวให้แอ่นเด้งขึ้น เขาไล้เลียตั้งแต่ติ่งหูลามลงมาจนถึงแผ่นหลังนุ่มเนียนของเธอ ชายหนุ่มยังคงละเลงลิ้นอยู่อย่างนั้นตวัดหมุนวนไปมาจนเธอเสียวซ่าน ก่อนไล้ลิ้นร้อนเข้ามาตรงช่องทางสวาทด้านหลัง เขาให้นิ้วอุ่นค่อยๆ จิ้มเข้าไปในรูก้นของหญิงสาว ก่อนจะหยิบเอาอุปกรณ์สั่นๆ บางอย่างขึ้นมา แล้วกดไปที่โหมดเบาสุด ก่อนจะค่อยๆ แหย่มันเข้ากับช่องทางคับแคบด้านหลังของเธอหญิงสาวก็เปลี่ยนสลับหันมาหยิบเอาทอยส์กระบองใหญ่ ขนาดมันอาจจะเล็กกว่าของเอริคและคนที่เธอกำลังกระทำกับคนตรงหน้า หญิงสาวเปลี่ยนสลับให้ตนเองเป็นคนคุมเกมรัก และตอนนี้ชายหนุ่มต่างนอนคว่ำหน้าในท่าโค้งตูด เธอค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นน้อยๆ แหย่เข้าช่องทางรักของเขาจากทางด้านหลัง นวัดลิ้นไปมารัวๆ มืออีกข้างก็จับเจ้างูยักษ์ชักขึ้นชักลงอย่างช้
คนทั้งสามที่มายืนรอส่งใครอีกคนที่สนามบิน ตอนนี้มันเป็นอะไรที่เศร้ามาก เศร้าใจแบบสุดๆ เพราะนอกจากเรื่องอย่างว่า พวกเขาต่างมีความรักให้กันและกันจริงๆชายหนุ่มผมสีเข้มถึงกับหันมาลูบหัวของเธอกับไคล์น แน่นอนว่าระหว่างเอริคกับไคล์น เอริคจะออกแมนๆ มากกว่า ไคล์นจะนิสัยน่ารักคล้ายผู้หญิง ทว่ากับเธอ พวกเขาก็ต่างเร้าใจไม่แพ้กัน“อย่าเศร้ากันสิ ทำให้คนกำลังจะไปมันใจโหวงหวิว”คนร่างสูงกว่า 190 เอ่ยขึ้นทั้งพยายามสะกดกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่“พี่ห้ามไปมีใครนะคะ ไม่งั้นหนูกับพี่ไคล์นจะหนีไปจากพี่แบบไม่ให้พี่ตามตัวเจอ”เขาหันมายิ้มให้หญิงสาวและชายหนุ่มอีกคนด้วยน้ำตานองหน้า แต่ก็ฝืนมันเอาไว้ ตอนนี้มีแคไคล์นกับหญิงสาวเท่านั้นที่ปล่อยโฮครอบครัวของเอริคและไคล์นต่างทำธุรกิจในเครือไดม่อนและในเครือของท่าอากาศยาน มีน้อยคนมากที่จะรู้จักพวกเขา ก็เล่นรวยเงียบ ไม่ชอบออกสื่อ จริงๆ พวกเขาไม่ได้ต้องการจะปกปิดอะไรเธอ เพียงแค่ปล่อยให้มันค่อยเป็นค่อยไป ส่วนที่บ้านของหญิงสาวก็หาใช่ธรรมดาที่ไหน ส่งออกนำเข้าหยกแท้ทั้งในและต่างประเทศ รวมๆ มูลค่าของทรัพย์สินก็ไม่น่าจะต่ำกว่าพันล้าน เพราะเป็นธุรกิจของครอบครัวที่สืบทอดรุ่นต่อร
หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาในอิตาลีอย่างเต็มที่ บรรยากาศของเยอรมันในวันสุดท้ายของทริปก็มาพร้อมความรู้สึกหลากหลาย ทั้งสุข เศร้า และโหยหาความต่อเนื่อง พรุ่งนี้พวกเขาจะขึ้นไฟลท์เย็นเพื่อกลับไปสู่ชีวิตจริงที่รออยู่ แต่ค่ำคืนนี้ ทุกอย่างดูเหมือนจะถูกตรึงไว้ในห้วงเวลาแห่งความทรงจำไกด์สาวอย่างลูกน้ำสังเกตเห็นสายสัมพันธ์พิเศษที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างลูกค้าทั้งสาม แม้จะไม่ได้เอ่ยปากอะไร แต่รอยยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าของเธอก็บ่งบอกชัดว่าเธอรู้อะไรบางอย่าง“ไว้เรามาเที่ยวกันเองดีมั้ย ช่วงกุมภาวาเลนไทน์ พี่ว่าเราไปกรีซกันดีมั้ย?”เอริคเสนอขึ้นมาขณะที่พวกเขากำลังนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่เล็ก ๆ ที่เมืองมิวนิก“แต่ฉันอยากไปโมนาโก”ไคล์นแย้งขึ้นทันที สีหน้าจริงจัง หญิงสาวที่นั่งฟังพวกเขาเถียงกันเรื่องแผนการเที่ยวครั้งหน้ากลับลอบยิ้มอย่างขำขัน สองหนุ่มนี่ช่างต่างกันเสียจริง“นี่พวกเราอยู่ด้วยกันมาตั้งหลายวันจนตัวติดกันแทบทุกนาที แต่ไม่มีช่องทางการติดต่อกันเลย รู้ตัวมั้ย? จนวันสุดท้ายแล้วพวกพี่ยังไม่มีไลน์หนูเลย!”เธอยื่นโทรศัพท์ให้ทั้งคู่ พลางหัวเราะน้อย ๆ“นี่ค่ะ พวกพี่แอดมาได้เลย”เมื่อทุกคนเชื่อมต่อกันเรียบร้อย ค
เช้านี้ก็เป็นอีกวันที่พวกเขาทางจากซูริคไป อินเทอร์ลาเคน เยี่ยมชม ทะเลสาบเบรียนซ์ (Lake Brienz) และเดินทางไปชมวิวจาก ภูเขาจุงฟราว (Jungfraujoch) ใช้เวลาในการเดินทาง 2 ชั่วโมง 30 นาที ส่วนที่นั่งโดยสารแบบ First Class นั้นก็มีม่านกั้นไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว หากใครจะรับบริการก็แค่แง้มม่านไว้ เท่านี้พนักงานบนรถก็เป็นอันรู้กันว่าที่นั่งแถวนี้ต้องการการใช้บริการ และหากที่นั่งใดปิดม่านเอาไว้ก็หมายความว่าอยากเป็นส่วนตัวทุกคนทานมื้อเช้ามากันแล้วกับทางทัวร์จัดไว้ให้ หญิงสาวถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและยังมีสเวตเตอร์คอเต่าอยู่ด้านใน ส่วนกระโปรงสั้นที่เธอสวมใส่ก็มีถุงน่องยาวเลยเข่าแบบปรุขน เรื่องแฟชั่นให้ไว้ใจคนทั้งสาม อย่างกับหลุดมาจากแบบโฆษณาตามรายทางก็มองเห็นหมู่บ้านสลับกับหิมะ และตอนนี้หิมะต่างก็ตกปรอยๆ แม้ข้างในขบวนรถไฟจะมีฮีตเตอร์สร้างความอบอุ่น แต่คนที่นั่งคนเดียวตอนนี้ช่างเปล่าเปลี่ยวใจแต่เหมือนชายหนุ่มจะรู้ความคิดของเธอ ก่อนที่พวกเขาจะย้ายที่นั่งมานั่งข้างๆ และประกบซ้ายขวา คนที่เหม่อใจลอยถึงกับสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมายิ้มให้กับคนทั้งคู่“คิดอะไรครับ? ” ชายหนุ่มผมสีบลอนด์เงินไม่ว่าเปล่า แต
เวลาที่ไทยห่างจากสวิตถึง 6 ชั่วโมงในฤดูหนาว นี่ก็ปาไปเจ็ดโมงแล้วคนทั้งสามต่างหลับกอดกันคุดคู้เหมือนเจ้าเหมียวนอนกกกัน แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของหญิงสาวก็ดังขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นเป็นชื่อว่า Ama จากนั้นเธอ ก็กดรับสายในทันที“ค่ะอาม่า” หญิงสาวเสียงหวานทันทีที่กดรับ“อารีน นี่หนูเที่ยวจนไม่คิดจะโทรหาอาม่าบ้างเลยนะ แล้วเที่ยวเป็นไง สนุกไหม? ”เสียงจากปลายสายเสียงดังพอ พอที่คนทั้งสองจะได้ยิน เอริคกระชับไคล์นเข้าสู่อ้อมแขนแกร่ง ก่อนจะก้มหอมที่หน้าผากชายหนุ่มผมบลอนด์เงินอย่างแผ่วเบา“เมื่อคืนเจนจัดเหมือนกันนะเรา”“ก็นายนั่นแหละ เอาอะไรมาให้พวกฉันกิน”ไคล์นทำท่ากระเง้ากระงอดใส่“หรือว่าไม่ชอบล่ะ” เขาเอ่ยกระซิบถาม ก่อนจะเล่าต่ออีกว่า “ผมรู้นะ คืนแรกที่ปารีส คุณก็แอบใส่ให้ผมกินเหมือนกัน เจ้าหนูไอรีนนั่นก็ด้วย”“นายรู้? ” บุรุษผมบลอนด์เงินถึงกับอ้าปากค้าง กับคำตอบที่ได้ นี่ที่ผ่านมาเอริครู้ทุกอย่างเลยหรอวะเนี่ย“แต่นายก็ยอมเล่นตามน้ำ? ”เขาเอ่ยถามคนร่างสูง 190“อารีน ลื้ออยู่คนเลียวรึเปล่าเนี่ย อั๊วะเหมือนได้ยินเสียงปู้ชาย”ก่อนที่คนทั้งสามจะหันหน้ามองกันขวับ และไค
เอริคที่ร้อนรุ่มก็เริ่มเข้ามาขยี้บดจูบไคล์นอย่างไว เขาเปลื้องผ้าของไคล์นออกจนหมด จากนั้นก็ดึงทึ้งร่างของไคล์นให้โก้งโค้งแอ่นลง ไคล์นมองดูแก่นกายของคนร่างสูงที่ตอนนี้มันแข็งผงาดเต็มกำลัง“ทำไมนายใช้ยาล่ะเอริค? ”“ผมจะได้กล้าขอในสิ่งที่ผมคิด”“นายอยากขอมีไอรีนเพิ่มมาอีกคนใช่มั้ย? ”“นายรู้!!” แน่นอนว่าเอริคเองต่างก็ตกใจ“อื้มม … ฉันรู้ รู้มาตลอด และก็เห็นตลอดเวลาที่นายเอากับเธอ ฉันอยากจะเข้าไปแจมเป็นบ้า”คนที่กำลังจะงัดแก่นกายใส่ก้นงอนของอีกฝ่ายต้องชะงัก ก่อนจะมองหน้ากัน แล้วพยักหน้าอย่างคนรู้เห็นเป็นใจ ก่อนจะเดินเปิดประตูเข้าไปด้านในหาหญิงสาวทันทีที่เธอเห็นคนเปลือยเปล่าทั้งสองที่แก้ผ้าโทงๆ พวกเขาถึงกับหยุดชะงัก พอๆ กันกับอาการของเธอที่ตกใจ นี่พวกเขามาเห็นเธอตกเบ็ดตัวเองอย่างนั้นหรอเนี่ย“ให้พวกพี่ช่วยหนูไหม? ”คำถามที่เอ่ยออกมาจากปากไคล์น ทำเอาหญิงสาวถึงกับชะงัก นี่ที่เธอพึ่งขอพรไปเมื่อตอนกลางวันจากวัดวัดหนึ่ง ว่าอยากได้สองคนนี้มาเป็นผัวมันเป็นจริงหรือนี่ อะไรจะไวปานนี้นะ“คือพวกพี่ …!!! อ๊ะ!!”ยังไม่ทันที่เธอจะได้เอ่ยถามอะไร เอริคก็ยกคนงามขึ้นแล้วหันหน้าเธอไปหาไคล์น ก่อนที่ชายหนุ่มจะ