เย่ชิงหลวนมาถึงโรงพยาบาลศูนย์กลางด้วยความรวดเร็วที่สุด"หมอคะ ลูกสาวของฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"เย่ชิงหลวนถามด้วยสีหน้าร้อนรนสองสามวันนี้ ลูกสาวของเธอเป็นเพราะร่างกายรู้สึกไม่สบาย จึงพักอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์กลางมาโดยตลอดวันนี้เช้าลูกสาวของเธอไข้สูงกะทันหัน ถึงขั้นที่อุณหภูมิสูงจนเป็นลมหลังการรักษาของหมอ อาการถือว่าคงที่แล้วแต่คิดไม่ถึงเมื่อครู่โรงพยาบาลโทรหาเธอ บอกว่าอาการป่วยของลูกสาวของเธออาการหนักยิ่งกว่าเดิม ทำให้เย่ชิงหลวนตกใจจนขวัญเสียคนที่ให้บริการเย่ชิงหลวนคือหมอวัยกลางคนท่านหนึ่ง เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: "คุณเย่ ทางที่ดีคุณเตรียมใจเอาไว้ อาการป่วยของลูกสาวของคุณในตอนนี้ไม่ดีนัก แต่คุณวางใจได้ หมอที่ฝีมือดีที่สุดในโรงพยาบาลของผม ได้เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถให้แผนการการรักษาออกมาได้"เย่ชิงหลวนได้ยิน คนทั้งคนก็ทรุดนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลออกมาโดยที่กลั้นไม่หยุดลูกสาวของเธอเป็นโรคขี้เซาที่รุนแรงมากตั้งแต่เด็ก แต่ละวันจะต้องนอนสิบกว่าชั่วโมงขึ้นไป มีบางครั้งถึงขั้นที่นอนหนึ่งวันเต็มๆหลายปีมานี้เธอพาลูกสาวไปรักษาจนทั่ว แต่ยังไม่สามารถหาต้
เย่ชิงหลวนไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องทำงานได้อย่างไร คนทั้งคนเหมือนกับสูญเสียวิญญาณไปมู่เจิ้งเสียนบอกเธอ เธอต้องทำการตัดสินใจภายในวันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ความเป็นไปได้สามส่วนก็จะต้องสูญเสียไปเธอไปห้องน้ำใช้น้ำเย็นล้างหน้า เย่ชิงหลวนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง จากนั้นถึงได้กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยตอนนี้เย่เสี่ยวซีลูกสาวของเธอนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบ เหมือนกับทูตสวรรค์ตัวน้อยที่นอนหลับอยู่เย่ชิงหลวนนั่งลงตรงหน้าเตียง ยื่นมือไปลูบใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวของเย่เสี่ยวซี ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจกับความไร้ที่พึ่ง"แม่ แม่ร้องไห้ทำไมคะ?"ในตอนนี้ เย่เสี่ยวซีตื่นขึ้นมากะทันหันเธอเห็นคราบน้ำตาบนแก้มของเย่ชิงหลวน อยากยื่นมือออกไปเช็ดให้สะอาด กลับพบว่ามือถูกเข็มเสียบเต็มไปหมด ไม่มีแรงแม้แต่น้อย"ซีซีตื่นแล้วเหรอ ลูกหิวไหม อยากกินอะไรไหม?"เย่ชิงหลวนพยายามฉีกยิ้มถามออกมา เธอจะเผยความอ่อนแอออกมาต่อหน้าลูกสาวไม่ได้"แม่ ซีซีไม่หิวค่ะ แต่ซีซีเจ็บมาก พวกเราจะได้กลับบ้านตอนไหน ที่นี่น่ากลัวมากเลย""รักษาหายแล้ว แม่จะพาลูกกลับบ้านนะคะ" เย่ชิงหลวนพูดปลอบ"แม่หลอกหนู ก่อนหน้านี้หน
"ส่วบ!"หยางเป่ยซานแวบตัวเข้าไปทันที ประคองหวังจงที่ล้มลงขึ้นมา จากนั้นฝืนใช้กำลังภายในเค้นเข็มเงินสองเล่มนั้นออกมาหวังจงที่ขาทั้งสองข้างฟื้นฟูความรู้สึกก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ"คนชั้นต่ำน่ารังเกียจ ใช้อาวุธลับลอบโจมตี?"หวังจงสีหน้าดุดัน ตวาดใส่ฉินเทียนมิ่งแต่ว่ากลับถูกหยางเป่ยซานห้ามปรามเอาไว้"หวังจง คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา อีกอย่างเขาไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ไม่อย่างนั้นเข็มเงินเมื่อครู่นี้เพียงพอที่พรากชีวิตของคุณได้"หยางเป่ยซานพูดเสียงเคร่งขรึมเข็มเงินที่ฉินเทียนมิ่งปล่อยออกมา ความเร็วนั้นว่องไว แม้แต่หยางเป่ยซานที่เป็นยอดฝีมือพลังผันแปรขั้นท้ายก็ยังตอบสนองไม่ทันถ้าหากโจมตีจุดสำคัญของหวังจง จะต้องตายทันทีแน่นอนเมื่อหันมองไปทางฉินเทียนมิ่งอีกครั้ง สายตาของหยางเป่ยซานมีความเคร่งขรึมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย"ที่แท้สหายน้อยก็เป็นยอดฝีมืออาวุธลับ ไม่ทราบว่าคุณเรียนวิชาความรู้มาจากที่ไหน?"หยางเป่ยซานสองมือกำปั้นถามขึ้นยอดฝีมืออาวุธลับที่อายุน้อยขนาดนี้ พบเจอได้ยากจริงๆ!"ไม่มีสำนักไม่มีพวกพ้อง!"ฉินเทียนมิ่งตอบกลับอย่างนิ่งเฉยถามเขาเป็นยอดฝีมืออาวุธลับที่ไหนกัน นั่นก็แค่เทคนิ
"ลูกสาวของเย่ชิงหลวนอายุเท่าไหร่แล้ว?"ฉินเทียนมิ่งวางตะเกียบลงและถามขึ้นมา"ถ้าฉันจำไม่ผิด น่าจะประมาณสี่ขวบ"อายุสี่ห้าขวบ ในสมองมีเนื้องอกข้อมูลทั้งหมด ตรงกับลูกสาวของเย่ชิงหลวนอย่างมากหรือว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ?"น้าหลิ่ว ผมมีธุระออกไปข้างนอกหน่อย พวกน้าทานกันก่อนเลย"พูดจบ ฉินเทียนมิ่งก็ออกจากบ้าน นั่งรถตรงไปโรงพยาบาลศูนย์กลางถ้าหากเป็นลูกสาวของเย่ชิงหลวนจริงๆ เขาจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยไม่ได้เก็นติ้งวิลเลจ เขตคนรวยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองเจียงหลิง คนที่อาศัยอยู่ในนี้ร่ำรวยอย่างมากเย่ชิงหลวนยืนอยู่หน้าประตูวิลล่าหรูหราหลังหนึ่ง ผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังไม่ได้เข้าไปข้างในตอนบ่าย เธอได้ทำการตัดสินใจแล้ว ให้หมอมู่ทำการผ่าตัดให้ลูกสาวของเธอแต่ค่าผ่าตัดต้องใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนบาท เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงโทรศัพท์หาแม่ของเธอทันทีแต่ไม่ว่าเธอจะขอร้องอ้อนวอนด้วยความต่ำต้อยยังไง แม่ของเธอก็ไม่ยอมให้เงิน แถมยังต่อว่าเธอยกใหญ่ ด่าเธอว่าไม่ระมัดระวังคลอดลูกของพวกชั้นต่ำออกมา ทำลายชื่อเสียงของตระกูลเย่ภายใต้ความสิ้นหวัง เย่ชิงหลวนนึกถึงหวังเจียงเทาขึ้นมา ตอน
สุดท้าย เย่ชิงหลวนที่สภาพย่ำแย่ถูกไล่ออกจากตระกูลหวังท่ามกลางลมเย็น ความสิ้นหวังที่ไม่เคยมีมาก่อนโจมตีสมองของเย่ชิงหลวนในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าโลกของตัวเองพังทลายไปแล้ว ทำลายความมั่นใจและศรัทธาสุดท้ายของเธอ……ฉินเทียนมิ่งมาที่โรงพยาบาลเด็กด้วยความเร็วที่สุด และไปพบกับมู่เจิ้งเสียนทันทีตอนที่มู่เจิ้งเสียนเห็นฉินเทียนมิ่ง ยังไม่ทันได้ทักทายเป็นพิธี ฉินเทียนมิ่งก็รีบร้อนจะไปพบผู้ป่วยมองผ่านกระจก ฉินเทียนมิ่งอยู่นอกห้องพักผู้ป่วยเห็นเย่เสี่ยวซีที่นอนอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าทำไม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้ในใจกลับมีความเจ็บปวดจนหายใจไม่ออกเหมือนกับคนที่นอนอยู่ในนั้นก็คือลูกสาวแท้ๆ ของเขา"แม่ของเธอชื่ออะไร?"ฉินเทียนมิ่งสูดหายใจลึกๆ และถามออกมา สายตาไม่อยากเคลื่อนย้ายออกจากตัวของเย่เสี่ยวซีด้วยซ้ำมู่เจิ้งเสียนนิ่งอึ้ง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าประโยคแรกที่ฉินเทียนมิ่งถามจะเป็นปัญหานี้"เหมือนว่าจะชื่อเย่ชิงหลวน" มู่เจิ้งเสียนพูดเป็นอย่างที่คิด เขาไม่ได้เดาผิด นี่ก็คือลูกสาวของเย่ชิงหลวนจริงๆ"ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"ฉินเทียนมิ่งมองไปรอบๆ ก็ไม่พบเงาของเย
ไม่นานนัก เย่เสี่ยวซีถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด ฉินเทียนมิ่งก็ไม่คิดที่จะรอเย่ชิงหลวนกลับมา เวลาผ่านไปแต่ละวินาที สำหรับเย่เสี่ยวซีก็มีความอันตรายเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน"คุณฉิน มีอะไรต้องการให้พวกเราช่วยไหมครับ?" มู่เจิ้งเสียนถามนี่อาจเป็นความต่ำต้อยที่สุดตั้งแต่เขาเป็นหมอมาสิบกว่าปีแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกอารมณ์ไม่ดี ถึงขั้นที่แอบมีความตื่นเต้นด้วยเล็กน้อย"ไม่ต้อง ยืนดูอยู่เงียบๆ ก็พอ"เมื่อพูดจบ ฉินเทียนมิ่งเดินไปที่ด้านหลังศีรษะของเย่เสี่ยวซี เขากำจัดความคิดฟุ้งซ่านทุกอย่างของตัวเอง จากนั้นสองมือกดลงที่ด้านหลังศีรษะของเธอเบาๆดูเหมือนเป็นการนวดที่ธรรมดา แต่สองมือของฉินเทียนมิ่งเหมือนกับเวทมนตร์ ทำให้เย่เสี่ยวซีที่ตกอยู่ในความเจ็บปวดทรมานผ่อนคลายลงโดยสิ้นเชิง และตกอยู่ในความฝันที่ไม่ได้มีมานานแล้วจากนั้น ฉินเทียนมิ่งนำกล่องเข็มของเขาออกมา หยิบเข็มยาวออกมาจากด้านใน แทงเข้าไปที่จุดป๋ายฮุ่ยของเย่เสี่ยวซี"เข็มเงินของเขาทำไมถึงไม่ฆ่าเชื้อ?"หัวหน้าคนหนึ่งถามด้วยความตกตะลึงฉินเทียนมิ่งถลึงตาใส่ ในดวงตาส่องแสงเย็นชาออกมา"ถ้าหากส่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียวอีก ก็ไสหัวออกไปให้หมด!"เข็
หลังจากวางเย่เสี่ยวซีลงบนเตียงด้วยความระมัดระวัง ฉินเทียนมิ่งมองดูเธอเป็นครั้งสุดท้ายอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะลุกขึ้นออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาล ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่าน ฉินเทียนมิ่งรู้สึกจิตใจสับสนวุ่นวายเขามองดูอาคารสูงที่มีแสงไฟนีออนสว่างไสวอยู่ไกลๆ ความคิดย้อนกลับไปในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อนตอนนั้นฉินเจิงพอของเขาเสียชีวิต เจิงหรงกรุ๊ปล้มละลายเลิกกิจการ ฉินเทียนมิ่งที่เป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยมีทุกสิ่งทุกอย่าง เปลี่ยนไปไม่เหลืออะไรในค่ำคืนเดียวเขาไม่สามารถยอมรับความจริงแบบนี้ได้ แต่ละวันใช้แอลกอฮอล์หลอกตัวเอง กลายเป็นคนไร้ค่าไปโดยสิ้นเชิงช่วงเวลานั้น เย่ชิงหลวนไม่ยอมห่างไปไหน ดูแลเขาอยู่ตลอดต่อให้ฉินเทียนมิ่งระบายอารมณ์ไม่พอใจและโมโหใส่เธอ เธอก็ไม่เคยโอดครวญใดๆจนกระทั่งมีวันหนึ่ง ฉินเทียนมิ่งที่ดื่มจนเมาเละผลักเย่ชิงหลวนล้มลงบนเตียงอย่างบ้าคลั่งไม่ว่าเย่ชิงหลวนจะร้องตะโกนอ้อนวอนอย่างไร เขาก็ไม่สะทกสะท้าน ครอบครองเย่ชิงหลวนโดยที่สูญเสียไปสติโดยสิ้นเชิงเมื่อตื่นขึ้นในวันต่อมา เย่ชิงหลวนหายตัวไปตั้งนานแล้ว เตียงที่ยุ่งเหยิงทิ้งรอยสีแดงที่สวยหยาดเยิ้มเอาไว้
"คุณชายฉิน คุณฟังฉันพูดให้จบก่อน คุณรู้ไหมคะว่าทำไมคุณเย่จะต้องช่วยตระกูลหวังคว้าสัญญาการร่วมือกับอิมพีเรียลกรุ๊ปให้ได้?" เซี่ยชิงจู๋ถาม"หรือว่าไม่ใช่เพราะเธออยากเอาอกเอาใจตระกูลหวังงั้นเหรอ?" ฉินเทียนมิ่งถามด้วยเสียงเย็นชาถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่มีทางเชื่อว่าเย่ชิงหลวนเป็นคนแบบนี้แต่เมื่อคืนตอนที่เย่เสี่ยวซีอาการป่วยอยู่ในขั้นอันตราย เย่ชิงหลวนยังวิ่งแจ้นไปแอบนัดกับหวังเจียงเทาที่ตระกูลหวัง นี่จึงทำให้ฉินเทียนมิ่งตายใจต่อเธอถึงที่สุด"คุณชายฉิน คุณอาจจะเข้าใจคุณเย่ผิดแล้ว เหตุที่เธอช่วยตระกูลหวัง ก็เพราะเธอยากใช้สัญญาฉบับนี้ ให้ตระกูลหวังยกเลิกการหมั้น เธอไม่อยากแต่งงานกับหวังเจียงเทาคนนั้นด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นเพียงโอกาสเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองได้" เซี่ยชิงจู๋พูด"เรื่องนี้เธอบอกกับคุณเองงั้นเหรอ?" ฉินเทียนมิ่งขมวดคิ้วถาม"ใช่ค่ะ ด้วยลางสังหรณ์ของผู้หญิง ฉันมั่นใจได้ว่าเธอไม่ได้โกหก""ถ้าหากเธอไม่อยากแต่ง จะมีคนบังคับเธอได้อย่างนั้นเหรอ?""มีค่ะ ทุกอย่างต่างเป็นตระกูลของเธอที่บีบคั้นเธอ ถึงแม้เธอไม่ได้พูดเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงไม่ต่อต้าน แต่ฉันเดาได้ว่าความเป
"นายท่าน ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ""คุณปู่ ผมไม่ยอม!"ห้องรับแขกมีเสียงต่อต้านดังขึ้น มีเพียงเย่เต๋อซานที่ไม่พูดจา"หุบปาก พวกไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนปกติพวกแกไม่พยายามพัฒนาตัวเอง เอาแต่เที่ยวเล่น เย่ซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?" เย่จี้หมิงตะโกนด้วยความโมโหทั่วห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสากตั้งแต่ที่เย่จี้หมิงสละตำแหน่ง เย่ซื่อกรุ๊ปที่มีเย่เต๋อซานเป็นผู้ควบคุมก็เริ่มเสื่อมถอยโดยเฉพาะเมื่อถึงคนหนุ่มสาวตระกูลเย่ในรุ่นของเย่ไห่ แต่ละคนเอาแต่เสพสุข ใช้จ่ายไม่บันยะบันยัง ไม่มีความตั้งใจจะบริหารเรื่องของบริษัทด้วยซ้ำนี่ต่างหากเป็นเหตุผลที่เย่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำอย่างแท้จริง"นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ"ใบหน้าของโจวหงเซี๋ยเผยรอยยิ้มออกมา"แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งเย่จี้หมิงพูดต่อ"นายท่านพูดมาเถอะค่ะ""หัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นเต๋อซาน เธอเป็นเพียงแค่รองประธาน ภายในบริษัทอำนาจการตัดสินสุดท้าย ยังคงอยู่ในมือของเต๋อซาน นี่คือเส้นตายของฉัน และก็เป็นเส้นตายของตระกูลเย่" เย่จี้หมิงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเย่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เย่จี้หมิงสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาไม่มีท
โจวหงเซี๋ยถลึงตาใส่เย่เหอซานด้วยความโมโหและพูดว่า: "เย่เหอซาน คุณหุบปากเลยนะ ฉันแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนกับความขี้ขลาดแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าหากฉันเอาหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ของเย่ซื่อกรุ๊ปมาไม่ได้ งั้นเงินก้อนนี้พวกคุณก็ไม่ได้กลับมาแม้แต่บาทเดียว"ในฐานะที่เป็นลูกชายของเย่จี้หมิงเช่นเดียวกัน เย่เต๋อซานเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์แต่เย่เหอซานกลับมีเพียงแค่ชื่อเสียงจอมปลอมอยู่ในเย่ซื่อกรุ๊ป อย่าว่าแต่หุ้น แม้แต่อำนาจที่ตระกูลเย่ก็ไม่มีเลยสักนิด โจวหงเซี๋ยทนรับการดูถูกมายี่สิบกว่าปีแล้วครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาของที่เป็นของพวกเขากลับมา"เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทก็อยากจะเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป เธอคิดเพ้อเจ้อแล้ว"ในตอนนี้ เย่ไห่ยืนออกมาเขาในฐานะหลานชายคนโตของเย่จี้หมิง ลูกชายคนโตของเย่เต๋อซาน ผู้สืบทอดเย่ซื่อกรุ๊ปในอนาคตถ้าหากตอนนี้ถูกโจวหงเซี๋ยแย่งไป งั้นชีวิตนี้เขาทำได้แค่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จึงไม่มีทางยอมอยู่แล้ว"งั้นพวกคุณไม่ยืมก็ได้ ไม่มีใครบังคับพวกคุณ"โจวหงเซี๋ยพูดเหมือนไม่มีอะไรจะต้อง
"น่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากเธอเซี่ยชิงจู๋ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเจียงหลิงอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะกล้าปล่อยให้แมงดาคนหนึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลหวังได้ยังไง?"เย่เต๋อซานส่ายหน้าแต่ในใจของเขากลับมีความสงสัยเป็นอย่างมากจริงๆฉินเทียนมิ่งที่หายตัวไปห้าปี กลับมาที่เมืองเจียงหลิงโดยไม่มีสัญญาณก็กลายไปเป็นหัวหน้าประธานของบริษัทระดับเหนือชั้นฟังดูแล้วลี้ลับซับซ้อนจนเกินไป"ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสถานะอะไร ผมสนใจแค่ว่าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทของผมจะมาถึงเมื่อไหร่""จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น" สวี่ซิงฮุยพูดเสียงเย็นชาภายใต้ความกระวนกระวายของคนตระกูลเย่ ในที่สุดเย่ชิงหลวนกับฉินเทียนมิ่งก็กลับมาแล้วทั้งสองเดินเข้าประตูตระกูลเย่ตามกันมา"ชิงหลวนกลับมาแล้ว"ในตอนนี้ ในใจของคนตระกูลเย่ก็ถือว่าโล่งอกแล้วสายตาที่แต่ละคนมองเย่ชิงหลวน เหมือนกับมองพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยชีวิตโจวหงเซี๋ยเดินเข้าไปต้อนรับในทันที และจับมือของเย่ชิงหลวนด้วยความรักใคร่ เหมือนกับพวกเขาสองแม่ลูกกลับมาคืนดีกันแล้ว"ชิงหลวน เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเอามาแล้วยัง? รีบเอาออกมาคืนท่านสาม" เย่เต๋อซานพูดเร่ง
ถ้าหากเย่ชิงหลวนต้องการจริงๆ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ต่อให้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท เขาก็จะหาวิธีเอาเงินมาให้ได้แต่ถ้าหากให้โจวหงเซี๋ยยืม ฉินเทียนมิ่งไม่อยากจะให้ยืมสักบาทเย่ชิงหลวนพยักหน้า จากนั้นเล่าที่มาของเรื่องให้ฉินเทียนมิ่งรับรู้ทั้งหมด"ชิงหลวน ตระกูลเย่ไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว ทำไมเธอยังจะต้องช่วยพวกเขา?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเย่ชิงหลวนก้มหน้า ไม่กล้ามองตาฉินเทียนมิ่ง"ฉันสามารถไม่สนใจคนอื่นในตระกูลเย่ได้ แต่ฉันไม่สนใจพวกพ่อแม่ของฉันไม่ได้""ถ้าหากเย่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย พวกเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง""ดังนั้นเทียนมิ่ง คุณช่วยพวกเขาสักครั้งได้ไหม ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไป"พูดจบ เย่ชิงหลวนก็เงยหน้ามองไปทางฉินเทียนมิ่ง สายตาแฝงไปด้วยความขอร้องที่ต่ำต้อยเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ชิงหลวน ในใจของฉินเทียนมิ่งก็อดใจไม่ได้ต่อให้เขาเกลียดตระกูลเย่แค่ไหน แต่ในเมื่อเย่ชิงหลวนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเซี่ยชิงจู๋"เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นส่งไปที่ตระกูลเย่" ฉินเทียนมิ่งพูดเซี่ยชิงจ
ทุกคนหันหน้ากลับไปมอง พบว่าคนที่พูดก็คือเย่ชิงห้าวน้องชายของเย่ชิงหลวนเย่ชิงห้าวเหมือนกับฉินเทียนมิ่งในตอนนั้น เป็นคุณชายที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ ตอนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย"ขอโทษด้วย ผมก็แค่พูดไปแบบนั้น"เห็นทุกคนต่างมองมาที่ตัวเอง เย่ชิงห้าวขี้ขลาดขึ้นมาทันที และหลบไปด้านหลังของโจวหงเซี๋ย"ฉันคิดว่าคำแนะนำของชิงห้าวใช้การได้ ในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนมิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดกีกับอิมพีเรียลกรุ๊ป เพียงแค่ชิงหลวนเอ่ยปาก เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ""แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งจะไล่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ คุณคิดว่าเขาจะให้พวกเรายืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรอ?""ในเมื่อชิงหลวนเป็นคนที่พวกเราดูเธอเติบโตมา เธอไม่มีทางมองดูตระกูลเย่บ้านแตกสาแหรกขาดหรอก"ทุกคนพากันเงียบขรึมเมื่อคืนเพิ่งจะไล่เย่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้กลับต้องไปขอยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทจากเธอเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่นี่มีการดูถูกอยู่เล็กน้อย!"เหอซาน ชิงหลวนเป็นลูกสาวของพวกนาย โทรศัพท์สายนี้พวกนายเป็นคนโทร ต้องยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาให้ได้" เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั
คนตระกูลเย่เหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน ร้อนใจจนอยู่นิ่งไม่ได้"ท่านสาม ขอร้องคุณให้เวลาพวกเราสักนิดเพื่อไปอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลเย่จะต้องจบเห่แล้วจริงๆ" เย่เต๋อซานรีบพูดออกมาเย่ซื่อกรุ๊ปเดิมทีก็อยู่ในช่วงวิกฤติ ตอนนี้ตระกูลหวังจะแบนพวกเขาทุกทาง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ"หึ ตอนนี้มาเสียดายทีหลังก็สายไปแล้ว วันนี้ถ้าพวกคุณไม่เอาเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทออกมา ใครก็อย่าได้ออกจากประตูบานนี้ไป!"สวี่ซิงฮุยสายตาเย็นชา พูดข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขายืนเรียงแถว ท่าทางโหดเหี้ยมแบบนั้น ทำให้คนตระกูลเย่ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวคนเหล่านี้เป็นนักมวยที่สวี่ซิงฮุยทุ่มเงินจำนวนมากฝึกฝนออกมา หนึ่งคนสู้ศัตรูสิบคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ"โทษเย่ชิงหลวนเลย ไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราตระกูลเย่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกต่ำแบบนี้""ยังมีฉินเทียนมิ่งคนนั้นอีก เป็นตัวซวยจริงๆ กลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันเลือกกลับมาตอนนี้""พวกเขาเป็นคนบาปของตระกูลเย่ตลอดไป!"คนของตระกูลเย่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะหั่นศพของฉินเทียนมิ่งเป็นหมื่นท่อนเย่เหอซานกับโจวหงเซี๋ยสองสามีภรรยายืนอยู่ท่
เช้าวันต่อมา คนของตระกูลเย่รวมตัวกันที่ห้องรับแขก เจรจากันว่าจะไปขอโทษตระกูลหวังอย่างไรในตอนที่พวกเขาเตรียมจะออกเดินทาง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน"ผู้นำตระกูล แย่แล้ว ท่านสามสวี่พาคนมาถึงที่แล้ว"เมื่อได้ยินชื่อ "ท่านสามสวี่" คนตระกูลเย่ที่อยู่ตรงนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดพวกเขาต่างรู้เหตุผลที่ท่านสามสวี่คนนี้มาที่นี่กะทันหัน"อุ๊ย อยู่กันครบเลยนะ!"ในตอนนี้เอง เสียงหยอกล้อดังขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไปทุกคนมองตามเสียงไป นั่นก็คือท่านสามสวี่คนนั้นนอกจากเขาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันสองสามคนตามเข้ามาด้วย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรคนของตระกูลเย่ไม่กล้าลังเลใจ รีบออกไปต้อนรับ เหมือนกับแขกคนสำคัญมาเยือน"ท่านสาม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"เย่เต๋อซานรีบเข้าไป พูดด้วยท่าทางเกรงใจท่านสามสวี่เหลือบมองเย่เต๋อซาน ใบหน้ายิ้มเยาะถามว่า: "เย่เต๋อซาน ผมก็ไม่พูดไร้สาระกับคุณแล้ว วันนี้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วยัง?"เย่เต๋อซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา: "ท่านสาม พวกเราคุยกันแล้วว่าเดือนหน้าไม่ใช่เหรอครับ? คุณวางใจ
ในตอนนี้เย่เหอซานเอ่ยปากขึ้นมาเย่ชิงหลวนถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ พวกเขาอยู่ที่ตระกูลเย่ก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ต่อไปโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเย่ชิงหลวนไม่พูดจา เพียงแค่มองไปทางพวกเขาด้วยความขมขื่นใจฉินเทียนมิ่งเห็นแบบนี้ จึงโอบกอดร่างกายบอบบางที่สั่นเทาของเย่ชิงหลวนเอาไว้แน่นจากนั้นมองไปทางคนของตระกูลเย่ทุกคน"ผมรับรองว่า ต่อไปพวกคุณจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้อย่างแน่นอน!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาตระกูลเย่ที่อัปลักษณ์แบบนี้ ทำให้ฉินเทียนมิ่งได้เปิดโลกกว้างจริงๆ"คนที่เสียใจควรจะเป็นนาย!""ฉินเทียนมิ่ง รอวันที่หวังเจียงข่ายกลับมา ก็จะเป็นวันที่นายต้องตาย แต่นายวางใจได้ ถึงเวลาฉันจะให้คนไปเก็บศพของนาย จากนั้นโยนศพของนายลงแม่น้ำเจียงหลิงให้ปลากิน"เย่ไห่พูดแสยะยิ้มครั้งนี้ เขาถือว่าแตกหักกับฉินเทียนมิ่งโดยสิ้นเชิง เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลหวัง"ไปเถอะ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาอีกต่อไป ยังต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงการขอโทษกับตระกูลหวังอย่างไร" เย่เต๋อซานส่ายหน้าพูด"รีบไปเถอะ ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราเป็นพวกเดียวกับพวกเขา"ชั่วขณะ คนตระกูลเย่ก็พา
"ตอนนี้ พวกคุณไสหัวไปได้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาคนของตระกูลหวังยังจะกล้าอยู่ต่อที่ไหนกัน พาหวังหงซานที่หมดสติกับศพของหวังเจียงเทาออกจากที่เกิดเหตุด้วยท่าทางน่าอนาถไม่นานนนัก แขกคนอื่นๆ ก็พากันแยกย้ายกลับ เหลือเพียงคนของตระกูลเย่ที่ยังอยู่ห้องโถงจัดเลี้ยง"เย่ชิงหลวน เธอหยุดหลงงมงายอีกต่อไปได้แล้ว ตอนนี้ไปขอร้องตระกูลหวังให้อภัยก็ยังทัน ไม่อย่างนั้นรอหวังเจียงข่ายกลับมา พวกเราตระกูลเย่ทุกคนก็จบสิ้นแล้ว"เย่เต๋อซานพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเบื้องหลังฉินเทียนมิ่งต่อให้มีตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนานหนุนหลัง แต่เขากลับบาดหมางกับกองทัพปราบปรามมังกรกองทัพอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยนั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำให้โลกตกตะลึงได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเยือนดินแดนรกร้างได้ด้วยประโยคเดียวเขาเอาอะไรมาสู้กับตระกูลหวัง?เย่ชิงหลวนสายตาเย็นชาและเหลือบมองเย่เต๋อซาน พูดว่า: "ฉันไม่ไป ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปขอร้องตระกูลหวังเอง""หุบปาก นี่เธออยากให้ตระกูลเย่ของเราถูกฆ่าทั้งครอบครัวงั้นเหรอ!"เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงโมโห"ถ้าหากพวกคุณไม่อยากเดือดร้อน