แชร์

บทที่ 9

ผู้แต่ง: คุณชายมังกร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 14:13:57
เย่ชิงหลวนไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องทำงานได้อย่างไร คนทั้งคนเหมือนกับสูญเสียวิญญาณไป

มู่เจิ้งเสียนบอกเธอ เธอต้องทำการตัดสินใจภายในวันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ความเป็นไปได้สามส่วนก็จะต้องสูญเสียไป

เธอไปห้องน้ำใช้น้ำเย็นล้างหน้า เย่ชิงหลวนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง จากนั้นถึงได้กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย

ตอนนี้เย่เสี่ยวซีลูกสาวของเธอนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบ เหมือนกับทูตสวรรค์ตัวน้อยที่นอนหลับอยู่

เย่ชิงหลวนนั่งลงตรงหน้าเตียง ยื่นมือไปลูบใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวของเย่เสี่ยวซี ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจกับความไร้ที่พึ่ง

"แม่ แม่ร้องไห้ทำไมคะ?"

ในตอนนี้ เย่เสี่ยวซีตื่นขึ้นมากะทันหัน

เธอเห็นคราบน้ำตาบนแก้มของเย่ชิงหลวน อยากยื่นมือออกไปเช็ดให้สะอาด กลับพบว่ามือถูกเข็มเสียบเต็มไปหมด ไม่มีแรงแม้แต่น้อย

"ซีซีตื่นแล้วเหรอ ลูกหิวไหม อยากกินอะไรไหม?"

เย่ชิงหลวนพยายามฉีกยิ้มถามออกมา เธอจะเผยความอ่อนแอออกมาต่อหน้าลูกสาวไม่ได้

"แม่ ซีซีไม่หิวค่ะ แต่ซีซีเจ็บมาก พวกเราจะได้กลับบ้านตอนไหน ที่นี่น่ากลัวมากเลย"

"รักษาหายแล้ว แม่จะพาลูกกลับบ้านนะคะ" เย่ชิงหลวนพูดปลอบ

"แม่หลอกหนู ก่อนหน้านี้หนูได้ยินคุณน้าข้างเตียงบอกว่าโรคของหนูรักษาไม่หายแล้ว"

"พูดซี้ซั้ว ลูกเชื่อแม่ แม่จะต้องให้หมอรักษาโรคของลูกจนหาย" เย่ชิงหลวนพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่

"ค่ะ ซีซีเชื่อแม่ แต่แม่คะ แม่เคยรับปากหนูว่าจะพาพ่อมาหาหนู ทำไมเขายังไม่มาอีก?" เย่เสี่ยวซีถามด้วยสายตาคาดหวัง

เย่ชิงหลวนนิ่งอึ้ง จากนั้นถามว่า: "ลูกอยากจะเจอพ่อจริงๆ เหรอ?"

ก่อนหน้านี้เพื่อปลอบอารมณ์ของเย่เสี่ยวซี เย่ชิงหลวนจึงโกหกว่าจะพาพ่อมาเยี่ยมเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอยังจดจำอยู่ในใจมาตลอด

"แน่นอนค่ะ ซีซีฝันก็ยังอยากจะเจอคุณพ่อเลย"

เย่ชิงหลวนลังเลครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: "งั้นก็ได้ ซีซีจะต้องเชื่อฟัง พรุ่งนี้แม่จะพาเขามาเจอลูก"

"จริงเหรอคะ? ดีจังเลย ในที่สุดซีซีก็จะได้เจอคุณพ่อแล้ว"

ดูเย่เสี่ยวซีเผยรอยยิ้มดีใจออกมาแบบนี้ครั้งแรก เย่ชิงหลวนจึงทำการตัดสินใจ ถึงเวลาแล้วที่จะให้ผู้ชายคนนั้นรู้ว่าเขายังมีลูกสาวอยู่

บางที นี่จะเป็นการเจอหน้ากันครั้งแรกของสองพ่อลูก

และก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน

รถแท็กซี่จอดลงที่ใกล้ๆ สวนริมทะเลสาบแห่งหนึ่ง

ช่วงเวลาใกล้ยามพระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์อัสดงสะท้อนบนทะเลสาบ สายลมพัดผ่านหน้า คลื่นที่ส่องประกาย ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสบายมาก

แต่ตอนนี้ฉินเทียนมิ่งคิดแค่อยากจะรีบกลับบ้านไปอยู่พร้อมหน้ากันกับพวกน้องสาว ไม่มีอารมณ์ชื่นชมทิวทัศน์แบบนี้ เขาเดินไปตามทางสีเขียวของสวนสาธารณะ

"ส่วบส่วบ!"

ทันใดนั้น เสียงฟาดฟันกลางอากาศดังขึ้นดึงดูดความสนใจของฉินเทียนมิ่ง

ที่นี่มีนักบู๊ด้วยงั้นเหรอ?

ฉินเทียนมิ่งตามเสียงไปด้วยสัญชาตญาณและขยับเข้าไปใกล้

ตรงแท่นสูงแห่งหนึ่ง ชายชราที่สวมชุดฝึกกังฟูสีขาวกำลังฝึกฝนหมัดอยู่

พลังของเขาเหมือนมังกรเหมือนเสือ แต่ละหมัดแต่ละฝ่ามือถึงขั้นที่มีพลังบ้าบิ่น เต็มไปด้วยภาพที่น่าสั่นสะเทือน

"เฮือก!"

ทันใดนั้น ชายชราชุดขาวปล่อยหมัดออกกลางอากาศ พลังที่ดุดันนั้นกลายเป็นเสือดุลงจากเขา สะเทือนจนหินยักษ์ก้อนหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปสามเมตรแหลกละเอียดทันที

"ยินดีด้วยครับหัวหน้าหยางวิชาหมัดพัฒนาขึ้นอย่างมาก อีกไม่นานก็สามารถก้าวเข้าสู่แดนปรมาจารย์ได้แล้ว!"

ทั้งสองด้าน คนวัยกลางคนสองคนที่พลังไม่ธรรมดาเช่นเดียวกันรีบเดินเข้ามาอวยพร

ระดับฝีมือของผู้ที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบ่งออกเป็นพลังแสง พลังมืด และพลังผันแปร

แต่ละขอบเขตก็แบ่งรายละเอียดเป็นขั้นต้น ขั้นท้ายกับขั้นสูงสุด

ส่วนระดับพลังผันแปรขึ้นไป ก็คือปรมาจารย์บู๋ในตำนาน

การฝึกบำเพ็ญของชายชราชุดขาวเป็นถึงพลังผันแปรขั้นท้าย ระยะห่างจากพลังผันแปรขั้นสูงสุดยังมีความแตกต่างอีกมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงขั้นปรมาจารย์บู๊

"แดนปรมาจารย์ เกรงว่าชีวิตนี้ไม่มีหวังแล้ว!"

ชายชราชุดขาวทอดถอนใจ

หลังจากเห็นชายชราชุดขาวหยุดการฝึกฝน ฉินเทียนมิ่งก็ส่ายหน้าด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นหันหลังเดินจากไป

แต่เพียงแค่การกระทำที่ไม่โดดเด่นแบบนี้ ถูกชายชราชุดขาวสังเกตเห็นอย่างว่องไว

"สหายน้อย ช้าก่อน!"

หลังจากชายชราชุดขาวพ่นลมหายใจยาวๆ ออกมา ก็ตะโกนเรียกฉินเทียนมิ่งทันที

ฉินเทียนมิ่งนิ่งอึ้ง ถามด้วยน้ำเสียงนิ่งเฉย: "มีอะไรเหรอ?"

ชายชราชุดขาวเดินเข้ามา จ้องมองฉินเทียนมิ่งด้วยความสนใจ จากนั้นยิ้มพูดว่า: "ฉันหยางเป่ยซาน ขอถามสหายน้อยว่ารู้จักวิชาหมัดด้วยเหรอ?"

ฉินเทียนมิ่งยักไหล่พูดว่า: "พอรู้บ้าง"

"งั้นสหายน้อยคิดว่าหมัดมังกรเสือหกประสานเป็นยังไงบ้าง?"

หยางเป่ยซานใบหน้าเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง

"กระจอก!"

ฉินเทียนมิ่งตอบตามความจริง

"สามหาว เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาจากไหนกัน นายรู้ไหมว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้านายคือใคร?"

ในตอนนี้ ชายวัยกลางคนหนึ่งในนั้นเดินออกมาตวาดใส่ฉินเทียนมิ่งอย่างไม่พอใจ

"หวังจง อย่าเสียมารยาท"

หยางเป่ยซานรีบตะโกนห้าม

ชีวิตของเขาผ่านอะไรมามากมาย จะมองไม่เห็นถึงความพิเศษบนตัวของฉินเทียนมิ่งได้อย่างไร

โดยเฉพาะดวงตาเฉียบคมที่ไม่สอดคล้องกับอายุของเขา เหมือนซ่อนดวงดาวไว้นับพันล้านดวง ทำให้คนมองไปแล้วเกิดความหวาดหวั่น

วัยรุ่นคนนี้ ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!

แต่ว่าหมัดมังกรเสือหกประสานเป็นถึงวิชาหมัดมีชื่อเสียงที่เขาภาคภูมิใจ ตอนนี้ถูกวัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าคนหนึ่ง พูดว่ากระจอก ภายในใจของหยางเป่ยซานมีความไม่พอใจเล็กน้อย

"คิดว่าสหายน้อยก็เป็นผู้ที่ฝึกบู๊ ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าแลกเปลี่ยนความรู้กับฉันหน่อยไหม?"

หยางเป่ยซานถามเชื้อเชิญ ในดวงตาไม่ได้มีความเหยียดหยามแม้แต่น้อย ถึงขั้นที่มีความหวังอยู่นิดหน่อย

ทั่วร่างกายของฉินเทียนมิ่งเผยลมปราณที่ไม่ธรรมดา หยางเป่ยซานก็อยากจะลองฝีมือของวัยรุ่นคนนี้

ใครจะรู้ว่าฉินเทียนมิ่งกลับส่ายหน้า

"ไม่สนใจ!"

พูดจบ ฉินเทียนมิ่งหันหลังจะเดินจากไป

ถ้าหากเขาอยู่ช่วงขั้นสูงสุด พลังน้อยนิดแค่นี้ของหยางเป่ยซาน แม้แต่กระบวนท่าเดียวของฉินเทียนมิ่งเขาก็รับไว้ไม่อยู่

แต่ตอนนี้เส้นโลหิตหัวใจของฉินเทียนมิ่งบาดเจ็บอย่างหนัก ต่อให้สามารถเอาชนะหยางเป่ยซานที่เป็นยอดฝีมือพลังผันแปรขั้นท้ายคนนี้ได้ เกรงว่าจะต้องเสียหายไปไม่น้อย

"ส่วบ!"

เงาดำเงาหนึ่งจู่ๆ แวบมาตรงหน้าของฉินเทียนมิ่ง ขวางทางของเขา!

"ไอ้หนุ่ม นายเพิ่งจะพูดจาอวดดี ตอนนี้ก็อยากไปแล้วงั้นเหรอ?"

ชายวัยกลางคนที่ชื่อหวังจงคนนั้นพูดยิ้มเยาะ

ส่วนสูงของเขาเกินหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตร รูปร่างสูงใหญ่กำยำ ยืนอยู่ตรงหน้าฉินเทียนมิ่ง เหมือนกับภูเขาใหญ่ลูกหนึ่ง

"หลีกไป!"

เสียงของฉินเทียนมิ่งเปลี่ยนไปเย็นชาขึ้นมา

"หึ อายุยังน้อยก็กำเริบเสิบสานขนาดนี้ วันนี้ฉันจะสั่งสอนนายแทนพ่อแม่นายอย่างดีเลย!"

พูดจบ หวังจงก้าวเดินออกมา ฝ่ามือจับกุมไปทางฉินเทียนมิ่ง

ฉินเทียนมิ่งดวงตาเย็นชา ยังไม่เห็นว่าบนมือของเขามีการเคลื่อนไหวใดๆ เข็มเงินสองเล่มก็ถูกปล่อยออกมา

"ระวัง!"

หยางเป่ยซานตอบสนองได้ในทันที สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก

แต่อยากยับยั้งก็ไม่ทันแล้ว!

"พรวด!"

เข็มเงินที่ลอยไปอย่างรวดเร็วแทงเข้าหัวเขาของหวังจง ขาทั้งสองข้างของเขาสูญเสียความรู้สึกทันที ร่างกายที่แข็งแร็งกำยังล้มลงบนพื้นดังตึง

หวังจงคนนี้เป็นแค่นักบู๊พลังมืดขั้นสูงสุด ความสามารถด้อยกว่าหยางเป่ยซานอีกยเยอะ

ฉินเทียนมิ่งจะโจมตีเขา ก็เป็นเรื่องง่ายอย่างมาก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 10

    "ส่วบ!"หยางเป่ยซานแวบตัวเข้าไปทันที ประคองหวังจงที่ล้มลงขึ้นมา จากนั้นฝืนใช้กำลังภายในเค้นเข็มเงินสองเล่มนั้นออกมาหวังจงที่ขาทั้งสองข้างฟื้นฟูความรู้สึกก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ"คนชั้นต่ำน่ารังเกียจ ใช้อาวุธลับลอบโจมตี?"หวังจงสีหน้าดุดัน ตวาดใส่ฉินเทียนมิ่งแต่ว่ากลับถูกหยางเป่ยซานห้ามปรามเอาไว้"หวังจง คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา อีกอย่างเขาไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ไม่อย่างนั้นเข็มเงินเมื่อครู่นี้เพียงพอที่พรากชีวิตของคุณได้"หยางเป่ยซานพูดเสียงเคร่งขรึมเข็มเงินที่ฉินเทียนมิ่งปล่อยออกมา ความเร็วนั้นว่องไว แม้แต่หยางเป่ยซานที่เป็นยอดฝีมือพลังผันแปรขั้นท้ายก็ยังตอบสนองไม่ทันถ้าหากโจมตีจุดสำคัญของหวังจง จะต้องตายทันทีแน่นอนเมื่อหันมองไปทางฉินเทียนมิ่งอีกครั้ง สายตาของหยางเป่ยซานมีความเคร่งขรึมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย"ที่แท้สหายน้อยก็เป็นยอดฝีมืออาวุธลับ ไม่ทราบว่าคุณเรียนวิชาความรู้มาจากที่ไหน?"หยางเป่ยซานสองมือกำปั้นถามขึ้นยอดฝีมืออาวุธลับที่อายุน้อยขนาดนี้ พบเจอได้ยากจริงๆ!"ไม่มีสำนักไม่มีพวกพ้อง!"ฉินเทียนมิ่งตอบกลับอย่างนิ่งเฉยถามเขาเป็นยอดฝีมืออาวุธลับที่ไหนกัน นั่นก็แค่เทคนิ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 11

    "ลูกสาวของเย่ชิงหลวนอายุเท่าไหร่แล้ว?"ฉินเทียนมิ่งวางตะเกียบลงและถามขึ้นมา"ถ้าฉันจำไม่ผิด น่าจะประมาณสี่ขวบ"อายุสี่ห้าขวบ ในสมองมีเนื้องอกข้อมูลทั้งหมด ตรงกับลูกสาวของเย่ชิงหลวนอย่างมากหรือว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ?"น้าหลิ่ว ผมมีธุระออกไปข้างนอกหน่อย พวกน้าทานกันก่อนเลย"พูดจบ ฉินเทียนมิ่งก็ออกจากบ้าน นั่งรถตรงไปโรงพยาบาลศูนย์กลางถ้าหากเป็นลูกสาวของเย่ชิงหลวนจริงๆ เขาจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยไม่ได้เก็นติ้งวิลเลจ เขตคนรวยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองเจียงหลิง คนที่อาศัยอยู่ในนี้ร่ำรวยอย่างมากเย่ชิงหลวนยืนอยู่หน้าประตูวิลล่าหรูหราหลังหนึ่ง ผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังไม่ได้เข้าไปข้างในตอนบ่าย เธอได้ทำการตัดสินใจแล้ว ให้หมอมู่ทำการผ่าตัดให้ลูกสาวของเธอแต่ค่าผ่าตัดต้องใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนบาท เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงโทรศัพท์หาแม่ของเธอทันทีแต่ไม่ว่าเธอจะขอร้องอ้อนวอนด้วยความต่ำต้อยยังไง แม่ของเธอก็ไม่ยอมให้เงิน แถมยังต่อว่าเธอยกใหญ่ ด่าเธอว่าไม่ระมัดระวังคลอดลูกของพวกชั้นต่ำออกมา ทำลายชื่อเสียงของตระกูลเย่ภายใต้ความสิ้นหวัง เย่ชิงหลวนนึกถึงหวังเจียงเทาขึ้นมา ตอน

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 12

    สุดท้าย เย่ชิงหลวนที่สภาพย่ำแย่ถูกไล่ออกจากตระกูลหวังท่ามกลางลมเย็น ความสิ้นหวังที่ไม่เคยมีมาก่อนโจมตีสมองของเย่ชิงหลวนในตอนนี้ เธอรู้สึกว่าโลกของตัวเองพังทลายไปแล้ว ทำลายความมั่นใจและศรัทธาสุดท้ายของเธอ……ฉินเทียนมิ่งมาที่โรงพยาบาลเด็กด้วยความเร็วที่สุด และไปพบกับมู่เจิ้งเสียนทันทีตอนที่มู่เจิ้งเสียนเห็นฉินเทียนมิ่ง ยังไม่ทันได้ทักทายเป็นพิธี ฉินเทียนมิ่งก็รีบร้อนจะไปพบผู้ป่วยมองผ่านกระจก ฉินเทียนมิ่งอยู่นอกห้องพักผู้ป่วยเห็นเย่เสี่ยวซีที่นอนอยู่บนเตียงไม่รู้ว่าทำไม นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเด็กผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนี้ในใจกลับมีความเจ็บปวดจนหายใจไม่ออกเหมือนกับคนที่นอนอยู่ในนั้นก็คือลูกสาวแท้ๆ ของเขา"แม่ของเธอชื่ออะไร?"ฉินเทียนมิ่งสูดหายใจลึกๆ และถามออกมา สายตาไม่อยากเคลื่อนย้ายออกจากตัวของเย่เสี่ยวซีด้วยซ้ำมู่เจิ้งเสียนนิ่งอึ้ง เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าประโยคแรกที่ฉินเทียนมิ่งถามจะเป็นปัญหานี้"เหมือนว่าจะชื่อเย่ชิงหลวน" มู่เจิ้งเสียนพูดเป็นอย่างที่คิด เขาไม่ได้เดาผิด นี่ก็คือลูกสาวของเย่ชิงหลวนจริงๆ"ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?"ฉินเทียนมิ่งมองไปรอบๆ ก็ไม่พบเงาของเย

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 13

    ไม่นานนัก เย่เสี่ยวซีถูกเข็นเข้าห้องผ่าตัด ฉินเทียนมิ่งก็ไม่คิดที่จะรอเย่ชิงหลวนกลับมา เวลาผ่านไปแต่ละวินาที สำหรับเย่เสี่ยวซีก็มีความอันตรายเพิ่มขึ้นหนึ่งส่วน"คุณฉิน มีอะไรต้องการให้พวกเราช่วยไหมครับ?" มู่เจิ้งเสียนถามนี่อาจเป็นความต่ำต้อยที่สุดตั้งแต่เขาเป็นหมอมาสิบกว่าปีแต่ในใจกลับไม่ได้รู้สึกอารมณ์ไม่ดี ถึงขั้นที่แอบมีความตื่นเต้นด้วยเล็กน้อย"ไม่ต้อง ยืนดูอยู่เงียบๆ ก็พอ"เมื่อพูดจบ ฉินเทียนมิ่งเดินไปที่ด้านหลังศีรษะของเย่เสี่ยวซี เขากำจัดความคิดฟุ้งซ่านทุกอย่างของตัวเอง จากนั้นสองมือกดลงที่ด้านหลังศีรษะของเธอเบาๆดูเหมือนเป็นการนวดที่ธรรมดา แต่สองมือของฉินเทียนมิ่งเหมือนกับเวทมนตร์ ทำให้เย่เสี่ยวซีที่ตกอยู่ในความเจ็บปวดทรมานผ่อนคลายลงโดยสิ้นเชิง และตกอยู่ในความฝันที่ไม่ได้มีมานานแล้วจากนั้น ฉินเทียนมิ่งนำกล่องเข็มของเขาออกมา หยิบเข็มยาวออกมาจากด้านใน แทงเข้าไปที่จุดป๋ายฮุ่ยของเย่เสี่ยวซี"เข็มเงินของเขาทำไมถึงไม่ฆ่าเชื้อ?"หัวหน้าคนหนึ่งถามด้วยความตกตะลึงฉินเทียนมิ่งถลึงตาใส่ ในดวงตาส่องแสงเย็นชาออกมา"ถ้าหากส่งเสียงออกมาแม้แต่นิดเดียวอีก ก็ไสหัวออกไปให้หมด!"เข็

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 14

    หลังจากวางเย่เสี่ยวซีลงบนเตียงด้วยความระมัดระวัง ฉินเทียนมิ่งมองดูเธอเป็นครั้งสุดท้ายอย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะลุกขึ้นออกจากโรงพยาบาลไปเมื่อออกจากประตูใหญ่ของโรงพยาบาล ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่าน ฉินเทียนมิ่งรู้สึกจิตใจสับสนวุ่นวายเขามองดูอาคารสูงที่มีแสงไฟนีออนสว่างไสวอยู่ไกลๆ ความคิดย้อนกลับไปในคืนนั้นเมื่อห้าปีก่อนตอนนั้นฉินเจิงพอของเขาเสียชีวิต เจิงหรงกรุ๊ปล้มละลายเลิกกิจการ ฉินเทียนมิ่งที่เป็นคุณชายตระกูลร่ำรวยมีทุกสิ่งทุกอย่าง เปลี่ยนไปไม่เหลืออะไรในค่ำคืนเดียวเขาไม่สามารถยอมรับความจริงแบบนี้ได้ แต่ละวันใช้แอลกอฮอล์หลอกตัวเอง กลายเป็นคนไร้ค่าไปโดยสิ้นเชิงช่วงเวลานั้น เย่ชิงหลวนไม่ยอมห่างไปไหน ดูแลเขาอยู่ตลอดต่อให้ฉินเทียนมิ่งระบายอารมณ์ไม่พอใจและโมโหใส่เธอ เธอก็ไม่เคยโอดครวญใดๆจนกระทั่งมีวันหนึ่ง ฉินเทียนมิ่งที่ดื่มจนเมาเละผลักเย่ชิงหลวนล้มลงบนเตียงอย่างบ้าคลั่งไม่ว่าเย่ชิงหลวนจะร้องตะโกนอ้อนวอนอย่างไร เขาก็ไม่สะทกสะท้าน ครอบครองเย่ชิงหลวนโดยที่สูญเสียไปสติโดยสิ้นเชิงเมื่อตื่นขึ้นในวันต่อมา เย่ชิงหลวนหายตัวไปตั้งนานแล้ว เตียงที่ยุ่งเหยิงทิ้งรอยสีแดงที่สวยหยาดเยิ้มเอาไว้

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 15

    "คุณชายฉิน คุณฟังฉันพูดให้จบก่อน คุณรู้ไหมคะว่าทำไมคุณเย่จะต้องช่วยตระกูลหวังคว้าสัญญาการร่วมือกับอิมพีเรียลกรุ๊ปให้ได้?" เซี่ยชิงจู๋ถาม"หรือว่าไม่ใช่เพราะเธออยากเอาอกเอาใจตระกูลหวังงั้นเหรอ?" ฉินเทียนมิ่งถามด้วยเสียงเย็นชาถ้าหากเป็นเมื่อก่อน เขาไม่มีทางเชื่อว่าเย่ชิงหลวนเป็นคนแบบนี้แต่เมื่อคืนตอนที่เย่เสี่ยวซีอาการป่วยอยู่ในขั้นอันตราย เย่ชิงหลวนยังวิ่งแจ้นไปแอบนัดกับหวังเจียงเทาที่ตระกูลหวัง นี่จึงทำให้ฉินเทียนมิ่งตายใจต่อเธอถึงที่สุด"คุณชายฉิน คุณอาจจะเข้าใจคุณเย่ผิดแล้ว เหตุที่เธอช่วยตระกูลหวัง ก็เพราะเธอยากใช้สัญญาฉบับนี้ ให้ตระกูลหวังยกเลิกการหมั้น เธอไม่อยากแต่งงานกับหวังเจียงเทาคนนั้นด้วยซ้ำ นี่ก็เป็นเพียงโอกาสเดียวที่สามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของตัวเองได้" เซี่ยชิงจู๋พูด"เรื่องนี้เธอบอกกับคุณเองงั้นเหรอ?" ฉินเทียนมิ่งขมวดคิ้วถาม"ใช่ค่ะ ด้วยลางสังหรณ์ของผู้หญิง ฉันมั่นใจได้ว่าเธอไม่ได้โกหก""ถ้าหากเธอไม่อยากแต่ง จะมีคนบังคับเธอได้อย่างนั้นเหรอ?""มีค่ะ ทุกอย่างต่างเป็นตระกูลของเธอที่บีบคั้นเธอ ถึงแม้เธอไม่ได้พูดเหตุผลว่าเพราะอะไรถึงไม่ต่อต้าน แต่ฉันเดาได้ว่าความเป

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 16

    "ตอนนี้แม่ของแกกำลังปลดปล่อยตัวเองอยู่กับผู้ชายคนอื่น มีเวลามาสนใจเด็กชั้นต่ำอย่างแกที่ไหนกัน?""ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณชายหวังถึงได้ชอบผู้หญิงร่านอย่างเย่ชิงหลวน ว่ากันว่าเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายมามากมาย เกรงว่าแม้แต่เธอเองก็คงไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของนังเด็กชั้นต่ำคนนี้"คนรับใช้ของตระกูลเย่สองสามคนที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเยาะอย่างกำเริบเสิบสาน"ไม่ใช่นะ หนูมีพ่อ หนูเคยพบเขามาก่อน อาการป่วยของหนูก็เป็นเขาที่รักษาให้" เย่เสี่ยวซีจู่ๆ พูดขึ้นเสียงดัง"ฮ่าฮ่า นังเด็กชั้นต่ำคงจะเป็นบ้าแล้วสินะ เริ่มพูดจาซี้ซั้วแล้ว"หญิงอ้วนท้วมคนนั้นจูงหมาสีดำตัวใหญ่ออกมา พูดกับเย่เสี่ยวซีอย่างดุดัน: "แกไม่กินหมั่นโถว ฉันก็จะให้หมาตัวนี้กินแก"หมาสีดำตัวนั้นแยกเขี้ยวยิงฟันใส่เย่เสี่ยวซี ส่งเสียงร้องที่น่าหวาดกลัวเย่เสี่ยวซีตกใจจนหน้าซีด ตัวสั่นไปหมดเธอไม่กล้าไม่เชื่อฟัง หยิบหมั่นโถวขึ้นราที่อยู่บนพื้นขึ้นมา กัดลงไปหนึ่งค่ำ"อ้วก..."หมั่นโถวที่ส่งกลิ่นเหม็นทำให้เย่เสี่ยวซีพะอืดพะอมจะอ้วกทันที น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด"ห้ามอ้วกออกมา ยังมีน้ำเศษข้าวกะลังมังนั้น ดื่มเข้าไปซะ"หญิงอ้วนท้วมพูดด้วยใบหน้าดุด

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 17

    โรงแรมไดนาสตี้ โรงแรมห้าดาวที่หรูหราที่สุดในเมืองเจียงหลิงตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของเมืองเจียงหลิง หันหน้าไปทางแม่น้ำก็คืออาคารจักรพรรดิโรงแรมทั้งหมดมีแปดสิบแปดชั้น ชั้นบนสุดก็คือห้องโถงหมุนได้สามร้อยหกสิบองศาโดยไม่มีจุดบอดปกติชั้นนี้ไม่เปิดบริการให้ภายนอก รับรองเฉพาะระดับเจ้าพ่อหรือเศรษฐีที่ทรัพย์สินมากกว่าห้าร้อยล้านบาทถึงจะจัดเลี้ยงที่ชั้นนี้ตอนนั้นงานหมั้นของฉินเทียนมิ่งกับเย่ชิงหลวนก็อยู่ที่ชั้นนี้ครั้งนี้ตระกูลหวังใช้เส้นสายมากมาย สุดท้ายใช้เงินยี่สิบห้าล้านบาทเสุนัขชั้นแปดสิบแปดของโรงแรมไดนาสตี้ เอาไว้เป็นสถานที่จัดงานหมั้นของหวังเจียงเทากับเย่ชิงหลวน ชั่วขณะดังสะท้านไปทั่วทั้งเมืองเจียงหลิงหกโมงครึ่ง ลานจนรถบนพื้นของโรงแรมไดนาสตี้มีรถหรูรุ่นต่างๆ จอดเต็มไปหมดมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มียักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องประดับ และก็มีเจ้าพ่อของบริษัทองค์กร ต่างได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานหมั้นในคืนนี้ และให้เกียรติตระกูลหวังอย่างมากงานหมั้นยังไม่เริ่มต้น ตอนนี้ทั่วทั้งห้องโถงมีคนนั่งเต็มเกือบหมดแล้วสถานที่จัดงานมีการเชื้อเชิญชนแก้วดื่มเหล้าแสดงคว

บทล่าสุด

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 40

    "นายท่าน ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ""คุณปู่ ผมไม่ยอม!"ห้องรับแขกมีเสียงต่อต้านดังขึ้น มีเพียงเย่เต๋อซานที่ไม่พูดจา"หุบปาก พวกไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนปกติพวกแกไม่พยายามพัฒนาตัวเอง เอาแต่เที่ยวเล่น เย่ซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?" เย่จี้หมิงตะโกนด้วยความโมโหทั่วห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสากตั้งแต่ที่เย่จี้หมิงสละตำแหน่ง เย่ซื่อกรุ๊ปที่มีเย่เต๋อซานเป็นผู้ควบคุมก็เริ่มเสื่อมถอยโดยเฉพาะเมื่อถึงคนหนุ่มสาวตระกูลเย่ในรุ่นของเย่ไห่ แต่ละคนเอาแต่เสพสุข ใช้จ่ายไม่บันยะบันยัง ไม่มีความตั้งใจจะบริหารเรื่องของบริษัทด้วยซ้ำนี่ต่างหากเป็นเหตุผลที่เย่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำอย่างแท้จริง"นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ"ใบหน้าของโจวหงเซี๋ยเผยรอยยิ้มออกมา"แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งเย่จี้หมิงพูดต่อ"นายท่านพูดมาเถอะค่ะ""หัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นเต๋อซาน เธอเป็นเพียงแค่รองประธาน ภายในบริษัทอำนาจการตัดสินสุดท้าย ยังคงอยู่ในมือของเต๋อซาน นี่คือเส้นตายของฉัน และก็เป็นเส้นตายของตระกูลเย่" เย่จี้หมิงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเย่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เย่จี้หมิงสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาไม่มีท

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 39

    โจวหงเซี๋ยถลึงตาใส่เย่เหอซานด้วยความโมโหและพูดว่า: "เย่เหอซาน คุณหุบปากเลยนะ ฉันแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนกับความขี้ขลาดแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าหากฉันเอาหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ของเย่ซื่อกรุ๊ปมาไม่ได้ งั้นเงินก้อนนี้พวกคุณก็ไม่ได้กลับมาแม้แต่บาทเดียว"ในฐานะที่เป็นลูกชายของเย่จี้หมิงเช่นเดียวกัน เย่เต๋อซานเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์แต่เย่เหอซานกลับมีเพียงแค่ชื่อเสียงจอมปลอมอยู่ในเย่ซื่อกรุ๊ป อย่าว่าแต่หุ้น แม้แต่อำนาจที่ตระกูลเย่ก็ไม่มีเลยสักนิด โจวหงเซี๋ยทนรับการดูถูกมายี่สิบกว่าปีแล้วครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาของที่เป็นของพวกเขากลับมา"เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทก็อยากจะเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป เธอคิดเพ้อเจ้อแล้ว"ในตอนนี้ เย่ไห่ยืนออกมาเขาในฐานะหลานชายคนโตของเย่จี้หมิง ลูกชายคนโตของเย่เต๋อซาน ผู้สืบทอดเย่ซื่อกรุ๊ปในอนาคตถ้าหากตอนนี้ถูกโจวหงเซี๋ยแย่งไป งั้นชีวิตนี้เขาทำได้แค่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จึงไม่มีทางยอมอยู่แล้ว"งั้นพวกคุณไม่ยืมก็ได้ ไม่มีใครบังคับพวกคุณ"โจวหงเซี๋ยพูดเหมือนไม่มีอะไรจะต้อง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 38

    "น่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากเธอเซี่ยชิงจู๋ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเจียงหลิงอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะกล้าปล่อยให้แมงดาคนหนึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลหวังได้ยังไง?"เย่เต๋อซานส่ายหน้าแต่ในใจของเขากลับมีความสงสัยเป็นอย่างมากจริงๆฉินเทียนมิ่งที่หายตัวไปห้าปี กลับมาที่เมืองเจียงหลิงโดยไม่มีสัญญาณก็กลายไปเป็นหัวหน้าประธานของบริษัทระดับเหนือชั้นฟังดูแล้วลี้ลับซับซ้อนจนเกินไป"ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสถานะอะไร ผมสนใจแค่ว่าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทของผมจะมาถึงเมื่อไหร่""จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น" สวี่ซิงฮุยพูดเสียงเย็นชาภายใต้ความกระวนกระวายของคนตระกูลเย่ ในที่สุดเย่ชิงหลวนกับฉินเทียนมิ่งก็กลับมาแล้วทั้งสองเดินเข้าประตูตระกูลเย่ตามกันมา"ชิงหลวนกลับมาแล้ว"ในตอนนี้ ในใจของคนตระกูลเย่ก็ถือว่าโล่งอกแล้วสายตาที่แต่ละคนมองเย่ชิงหลวน เหมือนกับมองพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยชีวิตโจวหงเซี๋ยเดินเข้าไปต้อนรับในทันที และจับมือของเย่ชิงหลวนด้วยความรักใคร่ เหมือนกับพวกเขาสองแม่ลูกกลับมาคืนดีกันแล้ว"ชิงหลวน เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเอามาแล้วยัง? รีบเอาออกมาคืนท่านสาม" เย่เต๋อซานพูดเร่ง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 37

    ถ้าหากเย่ชิงหลวนต้องการจริงๆ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ต่อให้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท เขาก็จะหาวิธีเอาเงินมาให้ได้แต่ถ้าหากให้โจวหงเซี๋ยยืม ฉินเทียนมิ่งไม่อยากจะให้ยืมสักบาทเย่ชิงหลวนพยักหน้า จากนั้นเล่าที่มาของเรื่องให้ฉินเทียนมิ่งรับรู้ทั้งหมด"ชิงหลวน ตระกูลเย่ไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว ทำไมเธอยังจะต้องช่วยพวกเขา?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเย่ชิงหลวนก้มหน้า ไม่กล้ามองตาฉินเทียนมิ่ง"ฉันสามารถไม่สนใจคนอื่นในตระกูลเย่ได้ แต่ฉันไม่สนใจพวกพ่อแม่ของฉันไม่ได้""ถ้าหากเย่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย พวกเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง""ดังนั้นเทียนมิ่ง คุณช่วยพวกเขาสักครั้งได้ไหม ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไป"พูดจบ เย่ชิงหลวนก็เงยหน้ามองไปทางฉินเทียนมิ่ง สายตาแฝงไปด้วยความขอร้องที่ต่ำต้อยเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ชิงหลวน ในใจของฉินเทียนมิ่งก็อดใจไม่ได้ต่อให้เขาเกลียดตระกูลเย่แค่ไหน แต่ในเมื่อเย่ชิงหลวนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเซี่ยชิงจู๋"เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นส่งไปที่ตระกูลเย่" ฉินเทียนมิ่งพูดเซี่ยชิงจ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 36

    ทุกคนหันหน้ากลับไปมอง พบว่าคนที่พูดก็คือเย่ชิงห้าวน้องชายของเย่ชิงหลวนเย่ชิงห้าวเหมือนกับฉินเทียนมิ่งในตอนนั้น เป็นคุณชายที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ ตอนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย"ขอโทษด้วย ผมก็แค่พูดไปแบบนั้น"เห็นทุกคนต่างมองมาที่ตัวเอง เย่ชิงห้าวขี้ขลาดขึ้นมาทันที และหลบไปด้านหลังของโจวหงเซี๋ย"ฉันคิดว่าคำแนะนำของชิงห้าวใช้การได้ ในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนมิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดกีกับอิมพีเรียลกรุ๊ป เพียงแค่ชิงหลวนเอ่ยปาก เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ""แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งจะไล่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ คุณคิดว่าเขาจะให้พวกเรายืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรอ?""ในเมื่อชิงหลวนเป็นคนที่พวกเราดูเธอเติบโตมา เธอไม่มีทางมองดูตระกูลเย่บ้านแตกสาแหรกขาดหรอก"ทุกคนพากันเงียบขรึมเมื่อคืนเพิ่งจะไล่เย่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้กลับต้องไปขอยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทจากเธอเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่นี่มีการดูถูกอยู่เล็กน้อย!"เหอซาน ชิงหลวนเป็นลูกสาวของพวกนาย โทรศัพท์สายนี้พวกนายเป็นคนโทร ต้องยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาให้ได้" เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 35

    คนตระกูลเย่เหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน ร้อนใจจนอยู่นิ่งไม่ได้"ท่านสาม ขอร้องคุณให้เวลาพวกเราสักนิดเพื่อไปอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลเย่จะต้องจบเห่แล้วจริงๆ" เย่เต๋อซานรีบพูดออกมาเย่ซื่อกรุ๊ปเดิมทีก็อยู่ในช่วงวิกฤติ ตอนนี้ตระกูลหวังจะแบนพวกเขาทุกทาง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ"หึ ตอนนี้มาเสียดายทีหลังก็สายไปแล้ว วันนี้ถ้าพวกคุณไม่เอาเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทออกมา ใครก็อย่าได้ออกจากประตูบานนี้ไป!"สวี่ซิงฮุยสายตาเย็นชา พูดข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขายืนเรียงแถว ท่าทางโหดเหี้ยมแบบนั้น ทำให้คนตระกูลเย่ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวคนเหล่านี้เป็นนักมวยที่สวี่ซิงฮุยทุ่มเงินจำนวนมากฝึกฝนออกมา หนึ่งคนสู้ศัตรูสิบคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ"โทษเย่ชิงหลวนเลย ไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราตระกูลเย่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกต่ำแบบนี้""ยังมีฉินเทียนมิ่งคนนั้นอีก เป็นตัวซวยจริงๆ กลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันเลือกกลับมาตอนนี้""พวกเขาเป็นคนบาปของตระกูลเย่ตลอดไป!"คนของตระกูลเย่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะหั่นศพของฉินเทียนมิ่งเป็นหมื่นท่อนเย่เหอซานกับโจวหงเซี๋ยสองสามีภรรยายืนอยู่ท่

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 34

    เช้าวันต่อมา คนของตระกูลเย่รวมตัวกันที่ห้องรับแขก เจรจากันว่าจะไปขอโทษตระกูลหวังอย่างไรในตอนที่พวกเขาเตรียมจะออกเดินทาง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน"ผู้นำตระกูล แย่แล้ว ท่านสามสวี่พาคนมาถึงที่แล้ว"เมื่อได้ยินชื่อ "ท่านสามสวี่" คนตระกูลเย่ที่อยู่ตรงนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดพวกเขาต่างรู้เหตุผลที่ท่านสามสวี่คนนี้มาที่นี่กะทันหัน"อุ๊ย อยู่กันครบเลยนะ!"ในตอนนี้เอง เสียงหยอกล้อดังขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไปทุกคนมองตามเสียงไป นั่นก็คือท่านสามสวี่คนนั้นนอกจากเขาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันสองสามคนตามเข้ามาด้วย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรคนของตระกูลเย่ไม่กล้าลังเลใจ รีบออกไปต้อนรับ เหมือนกับแขกคนสำคัญมาเยือน"ท่านสาม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"เย่เต๋อซานรีบเข้าไป พูดด้วยท่าทางเกรงใจท่านสามสวี่เหลือบมองเย่เต๋อซาน ใบหน้ายิ้มเยาะถามว่า: "เย่เต๋อซาน ผมก็ไม่พูดไร้สาระกับคุณแล้ว วันนี้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วยัง?"เย่เต๋อซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา: "ท่านสาม พวกเราคุยกันแล้วว่าเดือนหน้าไม่ใช่เหรอครับ? คุณวางใจ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 33

    ในตอนนี้เย่เหอซานเอ่ยปากขึ้นมาเย่ชิงหลวนถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ พวกเขาอยู่ที่ตระกูลเย่ก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ต่อไปโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเย่ชิงหลวนไม่พูดจา เพียงแค่มองไปทางพวกเขาด้วยความขมขื่นใจฉินเทียนมิ่งเห็นแบบนี้ จึงโอบกอดร่างกายบอบบางที่สั่นเทาของเย่ชิงหลวนเอาไว้แน่นจากนั้นมองไปทางคนของตระกูลเย่ทุกคน"ผมรับรองว่า ต่อไปพวกคุณจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้อย่างแน่นอน!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาตระกูลเย่ที่อัปลักษณ์แบบนี้ ทำให้ฉินเทียนมิ่งได้เปิดโลกกว้างจริงๆ"คนที่เสียใจควรจะเป็นนาย!""ฉินเทียนมิ่ง รอวันที่หวังเจียงข่ายกลับมา ก็จะเป็นวันที่นายต้องตาย แต่นายวางใจได้ ถึงเวลาฉันจะให้คนไปเก็บศพของนาย จากนั้นโยนศพของนายลงแม่น้ำเจียงหลิงให้ปลากิน"เย่ไห่พูดแสยะยิ้มครั้งนี้ เขาถือว่าแตกหักกับฉินเทียนมิ่งโดยสิ้นเชิง เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลหวัง"ไปเถอะ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาอีกต่อไป ยังต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงการขอโทษกับตระกูลหวังอย่างไร" เย่เต๋อซานส่ายหน้าพูด"รีบไปเถอะ ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราเป็นพวกเดียวกับพวกเขา"ชั่วขณะ คนตระกูลเย่ก็พา

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 32

    "ตอนนี้ พวกคุณไสหัวไปได้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาคนของตระกูลหวังยังจะกล้าอยู่ต่อที่ไหนกัน พาหวังหงซานที่หมดสติกับศพของหวังเจียงเทาออกจากที่เกิดเหตุด้วยท่าทางน่าอนาถไม่นานนนัก แขกคนอื่นๆ ก็พากันแยกย้ายกลับ เหลือเพียงคนของตระกูลเย่ที่ยังอยู่ห้องโถงจัดเลี้ยง"เย่ชิงหลวน เธอหยุดหลงงมงายอีกต่อไปได้แล้ว ตอนนี้ไปขอร้องตระกูลหวังให้อภัยก็ยังทัน ไม่อย่างนั้นรอหวังเจียงข่ายกลับมา พวกเราตระกูลเย่ทุกคนก็จบสิ้นแล้ว"เย่เต๋อซานพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเบื้องหลังฉินเทียนมิ่งต่อให้มีตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนานหนุนหลัง แต่เขากลับบาดหมางกับกองทัพปราบปรามมังกรกองทัพอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยนั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำให้โลกตกตะลึงได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเยือนดินแดนรกร้างได้ด้วยประโยคเดียวเขาเอาอะไรมาสู้กับตระกูลหวัง?เย่ชิงหลวนสายตาเย็นชาและเหลือบมองเย่เต๋อซาน พูดว่า: "ฉันไม่ไป ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปขอร้องตระกูลหวังเอง""หุบปาก นี่เธออยากให้ตระกูลเย่ของเราถูกฆ่าทั้งครอบครัวงั้นเหรอ!"เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงโมโห"ถ้าหากพวกคุณไม่อยากเดือดร้อน

DMCA.com Protection Status