โรงแรมไดนาสตี้ โรงแรมห้าดาวที่หรูหราที่สุดในเมืองเจียงหลิงตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของเมืองเจียงหลิง หันหน้าไปทางแม่น้ำก็คืออาคารจักรพรรดิโรงแรมทั้งหมดมีแปดสิบแปดชั้น ชั้นบนสุดก็คือห้องโถงหมุนได้สามร้อยหกสิบองศาโดยไม่มีจุดบอดปกติชั้นนี้ไม่เปิดบริการให้ภายนอก รับรองเฉพาะระดับเจ้าพ่อหรือเศรษฐีที่ทรัพย์สินมากกว่าห้าร้อยล้านบาทถึงจะจัดเลี้ยงที่ชั้นนี้ตอนนั้นงานหมั้นของฉินเทียนมิ่งกับเย่ชิงหลวนก็อยู่ที่ชั้นนี้ครั้งนี้ตระกูลหวังใช้เส้นสายมากมาย สุดท้ายใช้เงินยี่สิบห้าล้านบาทเสุนัขชั้นแปดสิบแปดของโรงแรมไดนาสตี้ เอาไว้เป็นสถานที่จัดงานหมั้นของหวังเจียงเทากับเย่ชิงหลวน ชั่วขณะดังสะท้านไปทั่วทั้งเมืองเจียงหลิงหกโมงครึ่ง ลานจนรถบนพื้นของโรงแรมไดนาสตี้มีรถหรูรุ่นต่างๆ จอดเต็มไปหมดมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ มียักษ์ใหญ่ของวงการเครื่องประดับ และก็มีเจ้าพ่อของบริษัทองค์กร ต่างได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานหมั้นในคืนนี้ และให้เกียรติตระกูลหวังอย่างมากงานหมั้นยังไม่เริ่มต้น ตอนนี้ทั่วทั้งห้องโถงมีคนนั่งเต็มเกือบหมดแล้วสถานที่จัดงานมีการเชื้อเชิญชนแก้วดื่มเหล้าแสดงคว
ผ่านไปห้าปี ได้มาเหยียบห้องโถงแห่งนี้อีกครั้ง ในใจของฉินเทียนมิ่งมีความรู้สึกดุจดังอยู่คนละโลกห้าปีก่อนห้องโถงใหญ่ที่วิจิตรตระการตา มีแขกเหรื่อมากมายเช่นเดียวกันเย่ชิงหลวนที่สวมชุดสีแดง ผู้หญิงที่สวยหยาดเยิ้มเช่นเดียวกันตอนนั้น ฉินเทียนมิ่งคิดว่าตัวเองเป็นผู้ชายที่มีความสุขมากที่สุดบนโลกนี้แต่ก็เป็นในตอนนั้นเช่นเดียวกัน ที่ชีวิตของฉินเทียนมิ่งมืดมนมากที่สุด สิ้นหวังมากที่สุดห้าปีต่อมาเขากลับมาแล้วพาลูกสาวของเขากับเย่ชิงหลวนกลับมาด้วยกันโศกนาฏกรรมความเสียใจในตอนนั้น ไม่มีทางเกิดซ้ำเป็นอีกครั้งอย่างแน่นอน!เขาจะให้คนทั้งเมืองเจียงหลิงได้รับรู้เย่ชิงหลวน เป็นผู้หญิงของเขาฉินเทียนมิ่งตลอดไป!ใคร ก็มาแย่งไปไม่ได้!"เอ๊ะ เด็กผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวของเย่ชิงหลวนไม่ใช่เหรอ?""จริงด้วย แต่ผู้ชายคนนั้นเป็นใครกัน? เหมือนจะคุ้นหน้านิดหน่อย!""มีความคุ้นหน้าอยู่บ้างจริงๆ นั่นแหละ ไม่รู้ว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน"ทุกคนพากันสงสัย ต่างอยากรู้สถานะของฉินเทียนมิ่งอย่างมาก"ส่วบ!"ในงานเลี้ยง คนของตระกูลเย่ลุกขึ้นยืนก่อนคนอื่นอาจจะไม่รู้ว่าฉินเทียนมิ่งคือใคร แต่พวกเขาจะจำไม่ได้ได
“พรึ่บ!”ทันใดนั้น ดวงตาของชายชราที่เดิมทีขุ่นมัว มีความสามารถที่เฉียบคมแวบผ่าน“ไอ้หนุ่ม ตอนนั้นเป็นตระกูลเย่ของฉันที่ทำผิดต่อพวกนายตระกูลฉิน แต่ความแค้นของพวกเราสองตระกูล รอให้งานหมั้นเสร็จสิ้นแล้วค่อยมาแก้ปัญหากันได้ไหม?”ชายชราก็คือเย่จี้หมิงนายท่านของตระกูลเย่มีข่าวลือว่าเขาเคยแฝงกายอยู่ในโลกมืดในต่างประเทศตอนวัยรุ่น ในแวดวงชาวจีนมีอำนาจและชื่อเสียงไม่น้อยเลยต่อให้ตอนนี้เขาอายุเกินแปดสิบปี บนตัวยังคงมีพลังในตอนนั้นที่หลงเหลืออยู่“ตาแก่ คุณมีคุณสมบัติอะไรมาต่อรองกับผม ไสหัวไป!”ฉินเทียนมิ่งไม่เกรงใจแม้แต่นิด และพูดด้วยความเย็นชาเขาจำได้อย่างชัดเจน ตอนนั้นเป็นเย่จี้หมิงที่ยืนกรานจะยุติงานหมั้นของเขากับเย่ชิงหลวนดังนั้น เขาก็ไม่จำเป็นต้องสุภาพต่อตาแก่ที่วางมาดขรึมคนนี้“สามหาว ฉินเทียนมิ่ง นายกล้าพูดแบบนี้กับนายท่านของเราได้ยังไง?”“ไอ้หมาไร้เจ้าของ กล้าเอะอะโวยวายด้วยเหรอ? ไม่ดูบ้างว่าที่นี่คือสถานที่อะไร!”“ใครก็ได้ยิน ไล่เขาออกไปซะ!”คนของตระกูลเย่แสดงอารมณ์โกรธขึ้นมาอย่างฉับพลัน ท่าทางเหมือนจะกลืนฉินเทียนมิ่งเข้าไปทั้งเป็น“พ่อคะ หนูกลัวมากเลย!”เย่เสี่ยวซีสอง
“พรึ่บ!”คำพูดประโยคนี้ของฉินเทียนมิ่งเหมือนก้อนหินที่ทำให้เกิดคลื่นนับพันชั้น สร้างความตกตะลึงทั่วทั้งงานเป็นอย่างมากเขามาแย่งเจ้าสาวจริงๆ ด้วย!หลังจากตกตะลึง สายตาของทุกคนที่มองไปทางฉินเทียนมิ่ง ต่างแฝงไปด้วยความเยาะเย้ยถากถางหวังเจียงเทาคือใคร?ทายาทในอนาคตของตระกูลหวังตระกูลร่ำรวยอันดับหนึ่งของเมืองเจียงหลิงเป็นวัยรุ่นที่มีอิทธพลอย่างสูงที่เมืองเจียงหลิงในอนาคตไม่มีขีดจำกัดส่วนฉินเทียนมิ่งล่ะ?เป็นเพียงแค่ลูกชายที่หลงเหลืออยู่ของตระกูลที่ล่มจมไปแล้วก็เท่านั้นเองเขามีสิทธิ์อะไรกล้ามาแย่งเจ้าสาว?มีสิทธิ์อะไรกล้าตีเสมอกับหวังเจียงเทา?ทำการไม่เจียมตัว ไม่ประมาณกำลังของตนเอง!แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า ฉินเทียนมิ่งที่อยู่ตรงหน้า เป็นผู้ชายที่หวังเจียงเทาไม่มีเทียบเท่าได้ตลอดกาลเขาเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของหมอเทวดากู่เชียนเหอตอนนี้กู่เชียนเหอเสียชีวิตแล้ว เขาก็คือหมอเทวดาอันดับหนึ่งในยุคนี้เขายังเป็นผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของลำดับเทพที่ทำให้นักบู๊ทั่วโลกต่างหวาดกลัวจนตัวสั่นไม่ว่าเงินทองหรือจะเป็นอำนาจ เขาก็ได้มาอย่างง่ายดายอย่าว่าแต่แค่ตระกูลหวังเลย ต่อใ
ไม่รอให้เขาเดินมาถึงบนเวทีทันใดนั้น ในมือของเย่ชิงหลวนไม่รู้ว่าถือมีดที่แวววับเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่เย่เสี่ยวซีก็คือชีวิตของเธออ หวังเจียงเทาป่าวประกาศว่าจะเอาลูกสาวของเธอไปขายที่ต่างประเทศผู้หญิงที่ปกติแล้วแม้แต่สัตว์ปีก็ยังไม่กล้าฆ่า ในตอนนี้กลับบุกรุดหน้าถือมีดขึ้นแทงไปทางหวังเจียงเทาโดยไม่ขลาดกลัว"ว้าย!"เสียงอุทาน ทำให้หวังเจียงเทาที่เหม่อลอยตั้งตัวกลับมาได้ในที่สุดเขารีบหลบออกแต่ระยะห่างของทั้งสองคน ต่อให้หลบส่วนสำคัญ แต่มีดก็ยังคงบาดไปที่แขนของเขาอย่างแรง ลากเป็นรอยเลือดขนาดยาวออกมา"แม่ง นังสารเลว!"หวังเจียงเทาไม่สนใจแขนที่มีเลือดอาบ เขาแย่งมีดที่อยู่ในมือของเย่ชิงหลวนมา จากนั้นตบหน้าเธออย่างแรงฝ่ามือนี้ตบจนเย่ชิงหลวนวิงเวียน เซล้มลงบนพื้น มุมปากมีเลือดสดไหลออกมาช้าๆทุกอย่างนี้เกิดขึ้นกะทันหันจนเกินไป มีหลายคนที่ถึงขั้นตั้งตัวไม่ทัน"หวังเจียงเทา แกรนหาที่ตาย!"ฉินเทียนมิ่งตะโกนด้วยเสียงโมโห เสียงสั่นสะเทือนจนแก้วหูของคนที่อยู่โดยรอบรู้สึกเจ็บหวังเจียงเทาตบหน้าเย่ชิงหลวนติดต่อกัน นี่จะทำให้ฉินเทียนมิ่งไม่โมโหได้อย่างไร?แต่หวังเจียงเทาเหมือนมีการเตรียมต
ตอนนี้ในเมื่อหลี่เทียนสยงออกคำสั่งแล้ว หวังเจียงเทาก็ไม่กล้าบุ่มบ่าม ทำได้แค่มองไปทางตระกูลหวัง"เสี่ยวเทา ในเมื่อลุงหลี่ออกหน้า งั้นก็ปล่อยคนไปเถอะ นายปล่อยไป มีลุงหลี่ของนายอยู่ ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องที่นี่หรอก"ในตอนนี้ หวังหงซานพ่อของหวังเจียงเทาลุกขึ้นยืน ความมั่นใจเต็มเปี่ยมหวังเจียงเทาไม่เต็มใจยอมรับและพูดว่า: "พ่อ ลุงหลี่ ความแค้นนี้ผมอดกลั้นไม่ได้จริงๆ ชีวิตของเขาผมไม่เอาก็ได้ แต่ผมจะหักแขนขาของเขา ให้เขายืนไม่ขึ้นตลอดไป"ฆ่าคนต่อหน้าคนจำนวนมากขนาดนี้ หวังเจียงเทาก็ไม่กล้าจริงๆ นั่นแหละแต่ถ้าหากปล่อยฉินเทียนมิ่งไปแบบนี้ ต่อไปเขายังจะมีหน้าใช้ชีวิตต่อที่เมืองเจียงหลิงได้อีกเหรอ?"พี่หลี่ พี่คิดว่ายังไง?"หวังหงซานถาม"วัยรุ่นอารมณ์ร้อนเป็นเรื่องปกติมาก เพียงแค่อย่าทำให้คนตาย ฉันก็สามารถรองรับตระกูลหวังของนายได้"หลี่เทียนสยงพยักหน้า พูดด้วยน้ำเสียงทะนงตัวมีประโยคนี้ของหลี่เทียนสยง รอยยิ้มบนใบหน้าของหวังเจียงเทาก็เปลี่ยนไปอึมครึมดุดันมากขึ้น"เกรงว่าคุณคงรองรับไม่ไหว!"ฉินเทียนมิ่งมองดูหลี่เทียนสยง และยิ้มเยาะพูดขึ้น"พรึ่บ!"สายตาของทุกคนมองไปทางฉินเทียนมิ่งพร้อ
ได้ยินมาว่าจินต้าเยว่ก็เป็นคนโหดที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ ในเมื่อสามารถเปิดโรงแรมห้าดาวระดับสูงสุดที่เมืองเจียงหลิงได้ จะเรียบง่ายได้ที่ไหนกัน?แต่จินต้าเยว่จัดการอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด น้อยครั้งมากที่จะปรากฏตัวออกมา ตระกูลหวังก็เคยอยากไปมาหาสู่กับเขาอยู่หลายครั้ง แต่ต่างถูกปฏิเสธอยู่นอกประตูหวังหงซานกำลังจะระเบิดโมโห เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น"ผมคือหลี่เทียนสยง ที่ชั้นนี้ ผมเป็นคนโทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสจินด้วยตัวเอง ให้เขาเก็บไว้ให้ตระกูลหวัง ตอนนี้เขาต้องการทำอะไร?"หลี่เทียนสยงถามเสียงเย็นชา พลังที่ติดตัวถูกแพร่กระจายออกมาเขาเรียกจินต้าเยว่ว่าผู้อาวุโสจิน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน"ท่านหลี่ เกรงว่าคุณต้องไปถามท่านจินของเราด้วยตัวเองแล้ว ผมก็เพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง"เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่เทียนสยง หลิวเชาก็โค้งตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านี่เป็นถึงราชาแห่งโลกใต้ดินเมืองเจียงหลิง เขาไม่กล้าผิดใจด้วยหรอก"หึ ฉันจะดูสิว่าผู้อาวุโสจินจะอธิบายอย่างไร"หลี่เทียนสยงส่งเสียงไม่พอใจ จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาจินต้าเยว่ต่อหน้าทุกคนโดยตรงไม่นานโทรศัพท์ก็ต่อสายติด หลี่เทียนสยงเค้นถามจินต้า
ทุกคนต่างหยุดเดิน สายตามองไปทางฉินเทียนมิ่งด้วยความประหลาดใจพวกเขาไม่เข้าใจ ทำไมจนถึงตอนนี้ ฉินเทียนมิ่งยังไม่ยอมจบเรื่องราว"ซีซี เด็กดี ไปหาแม่นะ"ฉินเทียนมิ่งปล่อยเย่เสี่ยวซีลงเย่เสี่ยวซีก็โผเข้าในอ้อมแขนของเย่ชิงหลวนทันที จากนั้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเธอไปด้วย พูดไปด้วย "แม่ ไม่ร้องไห้นะ พ่อจะปกป้องพวกเรา""อืม แม่ไม่ร้อง ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม บาดเจ็บตรงไหนไหม?" เย่ชิงหลวนถามอย่างเป็นห่วง"แม่ หนูไม่เป็นไรค่ะ พ่อช่วยหนูเอาไว้ พ่อเก่งมากๆ เลย" เย่เสี่ยวซีพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจเย่ชิงหลวนมองไปทางฉินเทียนมิ่งไม่หยุด ตอนที่อยากจะพูดว่าขอบคุณ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าฉินเทียนมิ่งรู้แล้วว่าเย่เสี่ยวซีก็คือลูกสาวของเขา"ชิงหลวน ขอโทษ ฉันมาช้าเกินไป""ยังมีอีก ฉันขอโทษกับคำพูดเหล่านั้นที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ เห็นแค่ลูกได้ไหม ยกโทษให้ฉันสักครั้ง ฉันรับรองว่าต่อไปจะปฏิบัติกับพวกเธอสองแม่ลูกอย่างดี ไม่มีทางให้พวกเธอได้รับบาดเจ็บใดๆ อีกแล้ว"ฉินเทียนมิ่งมองเย่ชิงหลวน พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะว่าความผิดที่ตัวเองทำไว้ในตอนนั้น ทำให้เย่ชิงหลวนผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งต้องแบกรับความไม่ยุติธรรมกับความ
"นายท่าน ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ""คุณปู่ ผมไม่ยอม!"ห้องรับแขกมีเสียงต่อต้านดังขึ้น มีเพียงเย่เต๋อซานที่ไม่พูดจา"หุบปาก พวกไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนปกติพวกแกไม่พยายามพัฒนาตัวเอง เอาแต่เที่ยวเล่น เย่ซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?" เย่จี้หมิงตะโกนด้วยความโมโหทั่วห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสากตั้งแต่ที่เย่จี้หมิงสละตำแหน่ง เย่ซื่อกรุ๊ปที่มีเย่เต๋อซานเป็นผู้ควบคุมก็เริ่มเสื่อมถอยโดยเฉพาะเมื่อถึงคนหนุ่มสาวตระกูลเย่ในรุ่นของเย่ไห่ แต่ละคนเอาแต่เสพสุข ใช้จ่ายไม่บันยะบันยัง ไม่มีความตั้งใจจะบริหารเรื่องของบริษัทด้วยซ้ำนี่ต่างหากเป็นเหตุผลที่เย่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำอย่างแท้จริง"นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ"ใบหน้าของโจวหงเซี๋ยเผยรอยยิ้มออกมา"แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งเย่จี้หมิงพูดต่อ"นายท่านพูดมาเถอะค่ะ""หัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นเต๋อซาน เธอเป็นเพียงแค่รองประธาน ภายในบริษัทอำนาจการตัดสินสุดท้าย ยังคงอยู่ในมือของเต๋อซาน นี่คือเส้นตายของฉัน และก็เป็นเส้นตายของตระกูลเย่" เย่จี้หมิงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเย่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เย่จี้หมิงสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาไม่มีท
โจวหงเซี๋ยถลึงตาใส่เย่เหอซานด้วยความโมโหและพูดว่า: "เย่เหอซาน คุณหุบปากเลยนะ ฉันแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนกับความขี้ขลาดแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าหากฉันเอาหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ของเย่ซื่อกรุ๊ปมาไม่ได้ งั้นเงินก้อนนี้พวกคุณก็ไม่ได้กลับมาแม้แต่บาทเดียว"ในฐานะที่เป็นลูกชายของเย่จี้หมิงเช่นเดียวกัน เย่เต๋อซานเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์แต่เย่เหอซานกลับมีเพียงแค่ชื่อเสียงจอมปลอมอยู่ในเย่ซื่อกรุ๊ป อย่าว่าแต่หุ้น แม้แต่อำนาจที่ตระกูลเย่ก็ไม่มีเลยสักนิด โจวหงเซี๋ยทนรับการดูถูกมายี่สิบกว่าปีแล้วครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาของที่เป็นของพวกเขากลับมา"เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทก็อยากจะเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป เธอคิดเพ้อเจ้อแล้ว"ในตอนนี้ เย่ไห่ยืนออกมาเขาในฐานะหลานชายคนโตของเย่จี้หมิง ลูกชายคนโตของเย่เต๋อซาน ผู้สืบทอดเย่ซื่อกรุ๊ปในอนาคตถ้าหากตอนนี้ถูกโจวหงเซี๋ยแย่งไป งั้นชีวิตนี้เขาทำได้แค่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จึงไม่มีทางยอมอยู่แล้ว"งั้นพวกคุณไม่ยืมก็ได้ ไม่มีใครบังคับพวกคุณ"โจวหงเซี๋ยพูดเหมือนไม่มีอะไรจะต้อง
"น่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากเธอเซี่ยชิงจู๋ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเจียงหลิงอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะกล้าปล่อยให้แมงดาคนหนึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลหวังได้ยังไง?"เย่เต๋อซานส่ายหน้าแต่ในใจของเขากลับมีความสงสัยเป็นอย่างมากจริงๆฉินเทียนมิ่งที่หายตัวไปห้าปี กลับมาที่เมืองเจียงหลิงโดยไม่มีสัญญาณก็กลายไปเป็นหัวหน้าประธานของบริษัทระดับเหนือชั้นฟังดูแล้วลี้ลับซับซ้อนจนเกินไป"ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสถานะอะไร ผมสนใจแค่ว่าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทของผมจะมาถึงเมื่อไหร่""จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น" สวี่ซิงฮุยพูดเสียงเย็นชาภายใต้ความกระวนกระวายของคนตระกูลเย่ ในที่สุดเย่ชิงหลวนกับฉินเทียนมิ่งก็กลับมาแล้วทั้งสองเดินเข้าประตูตระกูลเย่ตามกันมา"ชิงหลวนกลับมาแล้ว"ในตอนนี้ ในใจของคนตระกูลเย่ก็ถือว่าโล่งอกแล้วสายตาที่แต่ละคนมองเย่ชิงหลวน เหมือนกับมองพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยชีวิตโจวหงเซี๋ยเดินเข้าไปต้อนรับในทันที และจับมือของเย่ชิงหลวนด้วยความรักใคร่ เหมือนกับพวกเขาสองแม่ลูกกลับมาคืนดีกันแล้ว"ชิงหลวน เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเอามาแล้วยัง? รีบเอาออกมาคืนท่านสาม" เย่เต๋อซานพูดเร่ง
ถ้าหากเย่ชิงหลวนต้องการจริงๆ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ต่อให้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท เขาก็จะหาวิธีเอาเงินมาให้ได้แต่ถ้าหากให้โจวหงเซี๋ยยืม ฉินเทียนมิ่งไม่อยากจะให้ยืมสักบาทเย่ชิงหลวนพยักหน้า จากนั้นเล่าที่มาของเรื่องให้ฉินเทียนมิ่งรับรู้ทั้งหมด"ชิงหลวน ตระกูลเย่ไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว ทำไมเธอยังจะต้องช่วยพวกเขา?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเย่ชิงหลวนก้มหน้า ไม่กล้ามองตาฉินเทียนมิ่ง"ฉันสามารถไม่สนใจคนอื่นในตระกูลเย่ได้ แต่ฉันไม่สนใจพวกพ่อแม่ของฉันไม่ได้""ถ้าหากเย่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย พวกเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง""ดังนั้นเทียนมิ่ง คุณช่วยพวกเขาสักครั้งได้ไหม ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไป"พูดจบ เย่ชิงหลวนก็เงยหน้ามองไปทางฉินเทียนมิ่ง สายตาแฝงไปด้วยความขอร้องที่ต่ำต้อยเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ชิงหลวน ในใจของฉินเทียนมิ่งก็อดใจไม่ได้ต่อให้เขาเกลียดตระกูลเย่แค่ไหน แต่ในเมื่อเย่ชิงหลวนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเซี่ยชิงจู๋"เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นส่งไปที่ตระกูลเย่" ฉินเทียนมิ่งพูดเซี่ยชิงจ
ทุกคนหันหน้ากลับไปมอง พบว่าคนที่พูดก็คือเย่ชิงห้าวน้องชายของเย่ชิงหลวนเย่ชิงห้าวเหมือนกับฉินเทียนมิ่งในตอนนั้น เป็นคุณชายที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ ตอนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย"ขอโทษด้วย ผมก็แค่พูดไปแบบนั้น"เห็นทุกคนต่างมองมาที่ตัวเอง เย่ชิงห้าวขี้ขลาดขึ้นมาทันที และหลบไปด้านหลังของโจวหงเซี๋ย"ฉันคิดว่าคำแนะนำของชิงห้าวใช้การได้ ในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนมิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดกีกับอิมพีเรียลกรุ๊ป เพียงแค่ชิงหลวนเอ่ยปาก เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ""แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งจะไล่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ คุณคิดว่าเขาจะให้พวกเรายืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรอ?""ในเมื่อชิงหลวนเป็นคนที่พวกเราดูเธอเติบโตมา เธอไม่มีทางมองดูตระกูลเย่บ้านแตกสาแหรกขาดหรอก"ทุกคนพากันเงียบขรึมเมื่อคืนเพิ่งจะไล่เย่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้กลับต้องไปขอยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทจากเธอเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่นี่มีการดูถูกอยู่เล็กน้อย!"เหอซาน ชิงหลวนเป็นลูกสาวของพวกนาย โทรศัพท์สายนี้พวกนายเป็นคนโทร ต้องยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาให้ได้" เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั
คนตระกูลเย่เหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน ร้อนใจจนอยู่นิ่งไม่ได้"ท่านสาม ขอร้องคุณให้เวลาพวกเราสักนิดเพื่อไปอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลเย่จะต้องจบเห่แล้วจริงๆ" เย่เต๋อซานรีบพูดออกมาเย่ซื่อกรุ๊ปเดิมทีก็อยู่ในช่วงวิกฤติ ตอนนี้ตระกูลหวังจะแบนพวกเขาทุกทาง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ"หึ ตอนนี้มาเสียดายทีหลังก็สายไปแล้ว วันนี้ถ้าพวกคุณไม่เอาเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทออกมา ใครก็อย่าได้ออกจากประตูบานนี้ไป!"สวี่ซิงฮุยสายตาเย็นชา พูดข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขายืนเรียงแถว ท่าทางโหดเหี้ยมแบบนั้น ทำให้คนตระกูลเย่ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวคนเหล่านี้เป็นนักมวยที่สวี่ซิงฮุยทุ่มเงินจำนวนมากฝึกฝนออกมา หนึ่งคนสู้ศัตรูสิบคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ"โทษเย่ชิงหลวนเลย ไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราตระกูลเย่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกต่ำแบบนี้""ยังมีฉินเทียนมิ่งคนนั้นอีก เป็นตัวซวยจริงๆ กลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันเลือกกลับมาตอนนี้""พวกเขาเป็นคนบาปของตระกูลเย่ตลอดไป!"คนของตระกูลเย่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะหั่นศพของฉินเทียนมิ่งเป็นหมื่นท่อนเย่เหอซานกับโจวหงเซี๋ยสองสามีภรรยายืนอยู่ท่
เช้าวันต่อมา คนของตระกูลเย่รวมตัวกันที่ห้องรับแขก เจรจากันว่าจะไปขอโทษตระกูลหวังอย่างไรในตอนที่พวกเขาเตรียมจะออกเดินทาง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน"ผู้นำตระกูล แย่แล้ว ท่านสามสวี่พาคนมาถึงที่แล้ว"เมื่อได้ยินชื่อ "ท่านสามสวี่" คนตระกูลเย่ที่อยู่ตรงนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดพวกเขาต่างรู้เหตุผลที่ท่านสามสวี่คนนี้มาที่นี่กะทันหัน"อุ๊ย อยู่กันครบเลยนะ!"ในตอนนี้เอง เสียงหยอกล้อดังขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไปทุกคนมองตามเสียงไป นั่นก็คือท่านสามสวี่คนนั้นนอกจากเขาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันสองสามคนตามเข้ามาด้วย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรคนของตระกูลเย่ไม่กล้าลังเลใจ รีบออกไปต้อนรับ เหมือนกับแขกคนสำคัญมาเยือน"ท่านสาม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"เย่เต๋อซานรีบเข้าไป พูดด้วยท่าทางเกรงใจท่านสามสวี่เหลือบมองเย่เต๋อซาน ใบหน้ายิ้มเยาะถามว่า: "เย่เต๋อซาน ผมก็ไม่พูดไร้สาระกับคุณแล้ว วันนี้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วยัง?"เย่เต๋อซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา: "ท่านสาม พวกเราคุยกันแล้วว่าเดือนหน้าไม่ใช่เหรอครับ? คุณวางใจ
ในตอนนี้เย่เหอซานเอ่ยปากขึ้นมาเย่ชิงหลวนถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ พวกเขาอยู่ที่ตระกูลเย่ก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ต่อไปโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเย่ชิงหลวนไม่พูดจา เพียงแค่มองไปทางพวกเขาด้วยความขมขื่นใจฉินเทียนมิ่งเห็นแบบนี้ จึงโอบกอดร่างกายบอบบางที่สั่นเทาของเย่ชิงหลวนเอาไว้แน่นจากนั้นมองไปทางคนของตระกูลเย่ทุกคน"ผมรับรองว่า ต่อไปพวกคุณจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้อย่างแน่นอน!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาตระกูลเย่ที่อัปลักษณ์แบบนี้ ทำให้ฉินเทียนมิ่งได้เปิดโลกกว้างจริงๆ"คนที่เสียใจควรจะเป็นนาย!""ฉินเทียนมิ่ง รอวันที่หวังเจียงข่ายกลับมา ก็จะเป็นวันที่นายต้องตาย แต่นายวางใจได้ ถึงเวลาฉันจะให้คนไปเก็บศพของนาย จากนั้นโยนศพของนายลงแม่น้ำเจียงหลิงให้ปลากิน"เย่ไห่พูดแสยะยิ้มครั้งนี้ เขาถือว่าแตกหักกับฉินเทียนมิ่งโดยสิ้นเชิง เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลหวัง"ไปเถอะ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาอีกต่อไป ยังต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงการขอโทษกับตระกูลหวังอย่างไร" เย่เต๋อซานส่ายหน้าพูด"รีบไปเถอะ ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราเป็นพวกเดียวกับพวกเขา"ชั่วขณะ คนตระกูลเย่ก็พา
"ตอนนี้ พวกคุณไสหัวไปได้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาคนของตระกูลหวังยังจะกล้าอยู่ต่อที่ไหนกัน พาหวังหงซานที่หมดสติกับศพของหวังเจียงเทาออกจากที่เกิดเหตุด้วยท่าทางน่าอนาถไม่นานนนัก แขกคนอื่นๆ ก็พากันแยกย้ายกลับ เหลือเพียงคนของตระกูลเย่ที่ยังอยู่ห้องโถงจัดเลี้ยง"เย่ชิงหลวน เธอหยุดหลงงมงายอีกต่อไปได้แล้ว ตอนนี้ไปขอร้องตระกูลหวังให้อภัยก็ยังทัน ไม่อย่างนั้นรอหวังเจียงข่ายกลับมา พวกเราตระกูลเย่ทุกคนก็จบสิ้นแล้ว"เย่เต๋อซานพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเบื้องหลังฉินเทียนมิ่งต่อให้มีตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนานหนุนหลัง แต่เขากลับบาดหมางกับกองทัพปราบปรามมังกรกองทัพอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยนั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำให้โลกตกตะลึงได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเยือนดินแดนรกร้างได้ด้วยประโยคเดียวเขาเอาอะไรมาสู้กับตระกูลหวัง?เย่ชิงหลวนสายตาเย็นชาและเหลือบมองเย่เต๋อซาน พูดว่า: "ฉันไม่ไป ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปขอร้องตระกูลหวังเอง""หุบปาก นี่เธออยากให้ตระกูลเย่ของเราถูกฆ่าทั้งครอบครัวงั้นเหรอ!"เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงโมโห"ถ้าหากพวกคุณไม่อยากเดือดร้อน