ได้ยินมาว่าจินต้าเยว่ก็เป็นคนโหดที่มีเบื้องหลังยิ่งใหญ่ ในเมื่อสามารถเปิดโรงแรมห้าดาวระดับสูงสุดที่เมืองเจียงหลิงได้ จะเรียบง่ายได้ที่ไหนกัน?แต่จินต้าเยว่จัดการอย่างเงียบๆ มาโดยตลอด น้อยครั้งมากที่จะปรากฏตัวออกมา ตระกูลหวังก็เคยอยากไปมาหาสู่กับเขาอยู่หลายครั้ง แต่ต่างถูกปฏิเสธอยู่นอกประตูหวังหงซานกำลังจะระเบิดโมโห เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น"ผมคือหลี่เทียนสยง ที่ชั้นนี้ ผมเป็นคนโทรศัพท์ไปหาผู้อาวุโสจินด้วยตัวเอง ให้เขาเก็บไว้ให้ตระกูลหวัง ตอนนี้เขาต้องการทำอะไร?"หลี่เทียนสยงถามเสียงเย็นชา พลังที่ติดตัวถูกแพร่กระจายออกมาเขาเรียกจินต้าเยว่ว่าผู้อาวุโสจิน เห็นได้ชัดว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์กัน"ท่านหลี่ เกรงว่าคุณต้องไปถามท่านจินของเราด้วยตัวเองแล้ว ผมก็เพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่ง"เมื่อเห็นว่าเป็นหลี่เทียนสยง หลิวเชาก็โค้งตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นว่านี่เป็นถึงราชาแห่งโลกใต้ดินเมืองเจียงหลิง เขาไม่กล้าผิดใจด้วยหรอก"หึ ฉันจะดูสิว่าผู้อาวุโสจินจะอธิบายอย่างไร"หลี่เทียนสยงส่งเสียงไม่พอใจ จากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาจินต้าเยว่ต่อหน้าทุกคนโดยตรงไม่นานโทรศัพท์ก็ต่อสายติด หลี่เทียนสยงเค้นถามจินต้า
ทุกคนต่างหยุดเดิน สายตามองไปทางฉินเทียนมิ่งด้วยความประหลาดใจพวกเขาไม่เข้าใจ ทำไมจนถึงตอนนี้ ฉินเทียนมิ่งยังไม่ยอมจบเรื่องราว"ซีซี เด็กดี ไปหาแม่นะ"ฉินเทียนมิ่งปล่อยเย่เสี่ยวซีลงเย่เสี่ยวซีก็โผเข้าในอ้อมแขนของเย่ชิงหลวนทันที จากนั้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าเธอไปด้วย พูดไปด้วย "แม่ ไม่ร้องไห้นะ พ่อจะปกป้องพวกเรา""อืม แม่ไม่ร้อง ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม บาดเจ็บตรงไหนไหม?" เย่ชิงหลวนถามอย่างเป็นห่วง"แม่ หนูไม่เป็นไรค่ะ พ่อช่วยหนูเอาไว้ พ่อเก่งมากๆ เลย" เย่เสี่ยวซีพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจเย่ชิงหลวนมองไปทางฉินเทียนมิ่งไม่หยุด ตอนที่อยากจะพูดว่าขอบคุณ จู่ๆ ก็นึกขึ้นได้ว่าฉินเทียนมิ่งรู้แล้วว่าเย่เสี่ยวซีก็คือลูกสาวของเขา"ชิงหลวน ขอโทษ ฉันมาช้าเกินไป""ยังมีอีก ฉันขอโทษกับคำพูดเหล่านั้นที่เคยพูดไปก่อนหน้านี้ เห็นแค่ลูกได้ไหม ยกโทษให้ฉันสักครั้ง ฉันรับรองว่าต่อไปจะปฏิบัติกับพวกเธอสองแม่ลูกอย่างดี ไม่มีทางให้พวกเธอได้รับบาดเจ็บใดๆ อีกแล้ว"ฉินเทียนมิ่งมองเย่ชิงหลวน พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังเพราะว่าความผิดที่ตัวเองทำไว้ในตอนนั้น ทำให้เย่ชิงหลวนผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่งต้องแบกรับความไม่ยุติธรรมกับความ
ที่เกิดเหตุวุ่นวายไปหมดเพียงแค่สองสามลมหายใจ การต่อสู้ก็เสร็จสิ้นลง!บอดี้การ์ดที่สิบกว่าคนที่เคยได้รับการฝึกฝนเป็นพิเศษ ทั้งหมดนอนอยู่บนพื้น ร้องโอดครวญไม่หยุดตอนนี้หัวใจของทุกคนสั่นเทาอย่างรุนแรงนี่ นี่ยังเป็นคนอยู่ไหม?หวังเจียงเทาก็ตกใจจนขวัญเสีย ร่างกายถอยไปด้านหลังด้วยความหวาดกลัว แต่กลับสะดุดล้มลงบนพื้นฉินเทียนมิ่งเดินจ้ำอ้าวเข้ามา มือข้างหนึ่งจับหวังเจียงเทาที่ตัวอ่อนอยู่บนพื้นขึ้นมา"แก...แกจะทำอะไร... ถ้าแกกล้าแตะต้องฉันแม้แต่ปลายผม ฉันรับรองว่าแกจะต้องตายอย่างน่าอนาถมาก"จนถึงตอนนี้แล้ว หวังเจียงเทายังคงข่มขู่ฉินเทียนมิ่ง"ปล่อยลูกฉันไป ไม่อย่างนั้นต่อให้ฉันต้องทุ่มอำนาจของตระกูลหวังลงไปจนหมดก็จะทำให้นายเสียใจที่เกิดมาบนโลกนี้!หวังหงซานพูดด้วยสีหน้าดุดัน"ไอ้หนุ่ม ก่อนที่นายจะลงมือคิดถึงผลที่ตามมาให้ชัดเจน ฉันหลี่เทียนสยงสาบานตรงนี้ ถ้าหากนายทำร้ายคนของตระกูลหวัง แก๊งเก้ามังกรก็จะตามฆ่านายโดยไม่สนทุกสิ่งทุกอย่าง"ในตอนนี้หลี่เทียนสยงพูดออกมาแล้วชั่วขณะ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจ ทำให้บรรยากาศภายในห้องโถงใหญ่เคร่งขรึมจนถึงที่สุด"งั้นเหรอ?"ฉินเทียนมิ่งหัวเราะ
เซี่ยชิงจู๋เป็นใครกัน?ราชินีแห่งการทำงานที่อายุน้อยที่สุด มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกธุรกิจเมืองเจียงหลิงตอนนี้ยิ่งเป็นรองประธานของอิมพีเรียลกรุ๊ป เป็นตำแหน่งที่สูงส่ง บุคคลยิ่งใหญ่ที่ในมือมีอำนาจใหญ่โตแต่ตอนนี้กลับถ่อมตัวแบบนี้ต่อฉินเทียนมิ่งความคิดที่น่าหวาดกลัวจู่ๆ ก็แวบผ่านในหัวของทุกคนไปหรือว่าฉินเทียนมิ่งก็คือคุณฉินผู้ลึกลับท่านนั้นที่บริหารอิมพีเรียลกรุ๊ปราคาห้าร้อยล้านตามที่ลือกัน?"ประธานเซี่ย คุณจำผิดคนหรือเปล่าครับ? เขาก็แค่คนกระจอกที่ตระกูลล้มละลายก็เท่านั้นเอง"หวังหงซานเดินเข้าไปพูดเขาไม่เชื่ออย่างแน่นอน ฉินเทียนมิ่งก็คือคุณฉินผู้ลึกลับคนนั้นเซี่ยชิงจู๋สายตาเย็นชา เหมือนน้ำแข็งนับพันปี"หวังหงซาน นายใจกล้ามาก คุณชายฉินเป็นแขกคนสำคัญของคุณชายเฉินเย่น นายกล้าเสียมารยาทต่อเขา?"เซี่ยชิงจู๋ตะคอกเสียงเย็นชา"พรึ่บ!"เมื่อพูดออกมาแบบนี้ ทั่วทั้งงานเกรียวกราวทันทีฉินเทียนมิ่งคนนี้กลับรู้จักคุณชายเฉินเย่นของตระกูลเฉิน หรือว่าเขาก็คือคุณฉินท่านนั้นจริงๆ?"ส่วบ!"หวังหงซานกับหลี่เทียนสยงและคนอื่นๆ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากทันที เผยสีหน้ากระวนกระวายใจและหวาดกลัวอ
"ลูกเนรคุณ นี่มันเวลาไหนแล้ว แกยังกล้าทำเก่งอีก?"หวังหงซานโมโหจนร่างกายสั่นถ้าหากฉินเทียนมิ่งเป็นคุณฉินผู้ลึกลับคนนั้นจริงๆ บาดหมางกับเขา ตระกูลหวังจะต้องประสบกับความยากลำบากแน่นอนในเมื่อเบื้องหลังของเขาเป็นถึงตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนาน นั่นเป็นสิ่งใหญ่มหึมาที่ตระกูลหวังไม่มีทางขย่มได้ทั้งชีวิต"คุณฉิน เป็นผมที่สอนลูกได้ไม่ดีเอง กลับไปจะต้องสั่งสอนลูกเนรคุณคนนี้อย่างเข้มงวด พวกเราจะกลับไปเดี๋ยวนี้ครับ"หวังหงซานหันไปพูดกับฉินเทียนมิ่งอย่างถ่อมตัวเขาทำได้แค่กล้ำกลืนความไม่เป็นทำ ก้มหัวของเขาลงมีเพียงแบบนี้ ตระกูลหวังถึงจะแคล้วคลาดปลอดภัยได้"เขาไม่มีโอกาสนี้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาวันนี้ เขาจะฆ่าหวังเจียงเทา!หวังหงซานได้ยิน สีหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ"มือของลูกชายผมถูกคุณหักแล้ว เขาได้รับผิดชอบกับสิ่งที่ทำแล้ว คุณจะกำจัดให้สิ้นซากให้ได้เลยเหรอครับ?"หวังหงซานกัดฟัน สีหน้าดุดันเล็กน้อยฉินเทียนมิ่งสายตาจ้องมองหวังหงซาน หัวเราะเยาะพูดว่า: "หึหึ นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น หลังจากนี้ไปตระกูลหวังเตรียมลบชื่อออกจากเมืองเจียงหลิงได้เลย!"เริ่มตั้ง
"แม่เจ้า นึกไม่ถึงว่าจะเป็นราชาโสมภูเขาหิมะของเขตเหนือ อีกทั้งยังเป็นราชาโสมที่อายุเกินสามร้อยปีขึ้นไป นั่นเป็นสมบัติที่ไม่อาจประมาณค่าได้!""ว่ากันว่าราชาโสมภูเขาหิมะแบบนี้มีสรรพคุณในการช่วยชีวิตคนที่ใกล้ตายให้กลับมาหายดีได้ งานประมูลซูเต๋อปี่ในตอนนั้น ราชาโสมภูเขาหิมะเขตเหนืออายุสองร้อยปีต้นหนึ่ง ยังถูกประมูลไปในราคาสูงถึงห้าพันล้านบาท ราชาโสมอายุสามร้อยปีต้นนี้ มูลค่าคงเกินห้าหมื่นล้านบาท!"ทุกคนอุทานออกมาเสียงดัง ในสายตาไม่มีใครที่ไม่ตกตะลึงและอิจฉาในหมู่พวกเขาไม่ขาดแคลนอำนาจและทรัพย์สินเงินทอง แต่ราชาโสมภูเขาหิมะเขตเหนืออายุสามร้อยปี นั่นไม่ใช่สมบัติที่มีเงินแล้วจะสามารถซื้อได้ จะไม่ให้คนอิจฉาได้อย่างไร?"แน่ใจเหรอว่านี่เป็นของขวัญที่มอบให้ตระกูลหวังของฉัน?"หวังหงซานถามด้วยความเหลือเชื่อนี่เป็นราชาโสมภูเขาหิมะที่ราคาห้าหมื่นล้านบาทเชียวนะ ใครกันนะที่ใจกว้างขนาดนี้?""แน่นอนครับ หัวหน้าของพวกเรายังสั่งอีกว่า ครั้งนี้ไม่สามารถมาร่วมงานแต่งของพี่ใหญ่ของเขาได้ รอกลับมาจะต้องชดเชยให้พวกคุณอย่างดีแน่นอน" กวอเฟยหยางพูด"พี่ใหญ่?"หวังหงซานหันมองไปทางหวังเจียงเทา สายตากลับเผยค
"ฮ่าฮ่า ไอ้ลูกหมา เมื่อครู่แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ? ตอนนี้แกลองอวดดีอีกสิ?""ยังมีตระกูลเย่ พวกแกใกล้จะตายแล้ว พญายมมาแล้วก็ช่วยพวกแกไม่ได้แล้ว!"หวังเจียงเทาหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุร้ายและบิดเบี้ยวหวังหงซานก็ไม่ได้ตำหนิหวังเจียงเทาอีกต่อไป สายตาที่เขามองไปทางฉินเทียนมิ่งกับตระกูลเย่ ก็แฝงไปด้วยความดุดันมีตระกูลเฉินเมืองหลิ่งหนานหนุนหลังแล้วจะยังไง?ลูกชายของเขาเป็นถึงทหารกองปราบมังกร และคนที่หนุนหลังก็คือทั้งกองทัพปราบปรามมังกรต่อไปใครกล้าเหยียดหยามตระกูลหวังของเขาอีก?"คุณชายฉิน จะให้ฉันเรียกคุณชายเฉินเย่นมาไหมคะ?"เห็นสถานการณ์ไม่ดี เซี่ยชิงจู๋รีบพูดกับฉินเทียนมิ่งฉินเทียนมิ่งโบกมือ แสดงออกว่าไม่ต้องเขารู้ดีถึงความยิ่งใหญ่ของกองทัพปราบปรามมังกรเขตเหนือ ไม่ต้องพูดถึงเฉินเย่น ต่อให้เฉินโป๋จวินพ่อของเขามาด้วยตัวเอง เกรงว่าก็คงจะไม่กล้าบาดหมางกับตระกูลหวังในตอนนี้แต่ในสายตาของคนอื่น กองทัพปราบปรามมังกรที่แข็งแกร่งเหมือนมังกรยักษ์ ในสายตาของฉินเทียนมิ่งกลับไม่นับประสาอะไรด้วยซ้ำเพราะเขาคือผู้แข็งแกร่งอันดับหนึ่งของลำดับเทพ เป็นตัวแทนพลังที่แข็งแกร่งมากท
"สามหาว กล้าเหยียดหยามกองทัพปราบปรามมังกร นี่เป็นความผิดร้ายแรงในการไม่เคารพ วันนี้นายอย่าคิดจะมีชีวิตกลับไป!"ไม่รอให้หวังเจียงเทาพวกเขาตั้งตัวได้ กวอเฟยหยางก็โมโหขึ้นมาก่อนในฐานะหนึ่งในสมาชิกกองทัพปราบปรามมังกร ความถือดีกับความภาคภูมิใจเป็นสิ่งที่สลักอยู่ในกระดูกเขาไม่อนุญาตให้ผู้ใดมาเหยียดหยามความน่าเกรงขามของกองทัพปราบปรามมังกรสายตาที่คนอื่นๆ มองไปทางฉินเทียนมิ่ง แฝงไปด้วยความสะใจล่วงเกินกองทัพปราบปรามมังกร จุดจบมีเพียงแค่หนึ่งเดียวฉินเทียนมิ่งจ้องมองสายตาโมโหของกวอเฟยหยาง พูดอย่างเรียบเฉย: "ต่อให้หัวหน้ามังกรของพวกคุณมาด้วยตัวเอง ก็ยังไม่กล้าพูดกับผมแบบนี้ คุณนับประสาอะไรงั้นเหรอ?"ในคำพูดเต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามทุกคนอ้าปากค้าง มองฉินเทียนมิ่งด้วยความเหลือเชื่อหัวหน้ามังกรของกองทัพปราบปรามมังกร นั่นมีชื่อเรียกว่าเทพแห่งสงครามอันดับหนึ่งของประเทศต้าเซี่ย ยิ่งมีตัวตนที่น่าหวาดกลัวอยู่ในสิบอันดับแรกของลำดับเทพลือกันว่าตอนนั้นประเทศศัตรูห้าประเทศร่วมมือกันบุกรุกเขตเหนือ กองทัพปราบปรามมังกรที่แข็งแกร่งก็พ่ายแพ้ในการสู้รบครั้งนั้นนั่นเป็นครั้งแรกที่กองทัพปราบปรา
"นายท่าน ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ""คุณปู่ ผมไม่ยอม!"ห้องรับแขกมีเสียงต่อต้านดังขึ้น มีเพียงเย่เต๋อซานที่ไม่พูดจา"หุบปาก พวกไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนปกติพวกแกไม่พยายามพัฒนาตัวเอง เอาแต่เที่ยวเล่น เย่ซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?" เย่จี้หมิงตะโกนด้วยความโมโหทั่วห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสากตั้งแต่ที่เย่จี้หมิงสละตำแหน่ง เย่ซื่อกรุ๊ปที่มีเย่เต๋อซานเป็นผู้ควบคุมก็เริ่มเสื่อมถอยโดยเฉพาะเมื่อถึงคนหนุ่มสาวตระกูลเย่ในรุ่นของเย่ไห่ แต่ละคนเอาแต่เสพสุข ใช้จ่ายไม่บันยะบันยัง ไม่มีความตั้งใจจะบริหารเรื่องของบริษัทด้วยซ้ำนี่ต่างหากเป็นเหตุผลที่เย่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำอย่างแท้จริง"นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ"ใบหน้าของโจวหงเซี๋ยเผยรอยยิ้มออกมา"แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งเย่จี้หมิงพูดต่อ"นายท่านพูดมาเถอะค่ะ""หัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นเต๋อซาน เธอเป็นเพียงแค่รองประธาน ภายในบริษัทอำนาจการตัดสินสุดท้าย ยังคงอยู่ในมือของเต๋อซาน นี่คือเส้นตายของฉัน และก็เป็นเส้นตายของตระกูลเย่" เย่จี้หมิงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเย่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เย่จี้หมิงสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาไม่มีท
โจวหงเซี๋ยถลึงตาใส่เย่เหอซานด้วยความโมโหและพูดว่า: "เย่เหอซาน คุณหุบปากเลยนะ ฉันแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนกับความขี้ขลาดแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าหากฉันเอาหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ของเย่ซื่อกรุ๊ปมาไม่ได้ งั้นเงินก้อนนี้พวกคุณก็ไม่ได้กลับมาแม้แต่บาทเดียว"ในฐานะที่เป็นลูกชายของเย่จี้หมิงเช่นเดียวกัน เย่เต๋อซานเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์แต่เย่เหอซานกลับมีเพียงแค่ชื่อเสียงจอมปลอมอยู่ในเย่ซื่อกรุ๊ป อย่าว่าแต่หุ้น แม้แต่อำนาจที่ตระกูลเย่ก็ไม่มีเลยสักนิด โจวหงเซี๋ยทนรับการดูถูกมายี่สิบกว่าปีแล้วครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาของที่เป็นของพวกเขากลับมา"เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทก็อยากจะเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป เธอคิดเพ้อเจ้อแล้ว"ในตอนนี้ เย่ไห่ยืนออกมาเขาในฐานะหลานชายคนโตของเย่จี้หมิง ลูกชายคนโตของเย่เต๋อซาน ผู้สืบทอดเย่ซื่อกรุ๊ปในอนาคตถ้าหากตอนนี้ถูกโจวหงเซี๋ยแย่งไป งั้นชีวิตนี้เขาทำได้แค่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จึงไม่มีทางยอมอยู่แล้ว"งั้นพวกคุณไม่ยืมก็ได้ ไม่มีใครบังคับพวกคุณ"โจวหงเซี๋ยพูดเหมือนไม่มีอะไรจะต้อง
"น่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากเธอเซี่ยชิงจู๋ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเจียงหลิงอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะกล้าปล่อยให้แมงดาคนหนึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลหวังได้ยังไง?"เย่เต๋อซานส่ายหน้าแต่ในใจของเขากลับมีความสงสัยเป็นอย่างมากจริงๆฉินเทียนมิ่งที่หายตัวไปห้าปี กลับมาที่เมืองเจียงหลิงโดยไม่มีสัญญาณก็กลายไปเป็นหัวหน้าประธานของบริษัทระดับเหนือชั้นฟังดูแล้วลี้ลับซับซ้อนจนเกินไป"ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสถานะอะไร ผมสนใจแค่ว่าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทของผมจะมาถึงเมื่อไหร่""จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น" สวี่ซิงฮุยพูดเสียงเย็นชาภายใต้ความกระวนกระวายของคนตระกูลเย่ ในที่สุดเย่ชิงหลวนกับฉินเทียนมิ่งก็กลับมาแล้วทั้งสองเดินเข้าประตูตระกูลเย่ตามกันมา"ชิงหลวนกลับมาแล้ว"ในตอนนี้ ในใจของคนตระกูลเย่ก็ถือว่าโล่งอกแล้วสายตาที่แต่ละคนมองเย่ชิงหลวน เหมือนกับมองพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยชีวิตโจวหงเซี๋ยเดินเข้าไปต้อนรับในทันที และจับมือของเย่ชิงหลวนด้วยความรักใคร่ เหมือนกับพวกเขาสองแม่ลูกกลับมาคืนดีกันแล้ว"ชิงหลวน เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเอามาแล้วยัง? รีบเอาออกมาคืนท่านสาม" เย่เต๋อซานพูดเร่ง
ถ้าหากเย่ชิงหลวนต้องการจริงๆ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ต่อให้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท เขาก็จะหาวิธีเอาเงินมาให้ได้แต่ถ้าหากให้โจวหงเซี๋ยยืม ฉินเทียนมิ่งไม่อยากจะให้ยืมสักบาทเย่ชิงหลวนพยักหน้า จากนั้นเล่าที่มาของเรื่องให้ฉินเทียนมิ่งรับรู้ทั้งหมด"ชิงหลวน ตระกูลเย่ไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว ทำไมเธอยังจะต้องช่วยพวกเขา?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเย่ชิงหลวนก้มหน้า ไม่กล้ามองตาฉินเทียนมิ่ง"ฉันสามารถไม่สนใจคนอื่นในตระกูลเย่ได้ แต่ฉันไม่สนใจพวกพ่อแม่ของฉันไม่ได้""ถ้าหากเย่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย พวกเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง""ดังนั้นเทียนมิ่ง คุณช่วยพวกเขาสักครั้งได้ไหม ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไป"พูดจบ เย่ชิงหลวนก็เงยหน้ามองไปทางฉินเทียนมิ่ง สายตาแฝงไปด้วยความขอร้องที่ต่ำต้อยเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ชิงหลวน ในใจของฉินเทียนมิ่งก็อดใจไม่ได้ต่อให้เขาเกลียดตระกูลเย่แค่ไหน แต่ในเมื่อเย่ชิงหลวนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเซี่ยชิงจู๋"เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นส่งไปที่ตระกูลเย่" ฉินเทียนมิ่งพูดเซี่ยชิงจ
ทุกคนหันหน้ากลับไปมอง พบว่าคนที่พูดก็คือเย่ชิงห้าวน้องชายของเย่ชิงหลวนเย่ชิงห้าวเหมือนกับฉินเทียนมิ่งในตอนนั้น เป็นคุณชายที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ ตอนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย"ขอโทษด้วย ผมก็แค่พูดไปแบบนั้น"เห็นทุกคนต่างมองมาที่ตัวเอง เย่ชิงห้าวขี้ขลาดขึ้นมาทันที และหลบไปด้านหลังของโจวหงเซี๋ย"ฉันคิดว่าคำแนะนำของชิงห้าวใช้การได้ ในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนมิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดกีกับอิมพีเรียลกรุ๊ป เพียงแค่ชิงหลวนเอ่ยปาก เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ""แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งจะไล่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ คุณคิดว่าเขาจะให้พวกเรายืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรอ?""ในเมื่อชิงหลวนเป็นคนที่พวกเราดูเธอเติบโตมา เธอไม่มีทางมองดูตระกูลเย่บ้านแตกสาแหรกขาดหรอก"ทุกคนพากันเงียบขรึมเมื่อคืนเพิ่งจะไล่เย่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้กลับต้องไปขอยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทจากเธอเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่นี่มีการดูถูกอยู่เล็กน้อย!"เหอซาน ชิงหลวนเป็นลูกสาวของพวกนาย โทรศัพท์สายนี้พวกนายเป็นคนโทร ต้องยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาให้ได้" เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั
คนตระกูลเย่เหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน ร้อนใจจนอยู่นิ่งไม่ได้"ท่านสาม ขอร้องคุณให้เวลาพวกเราสักนิดเพื่อไปอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลเย่จะต้องจบเห่แล้วจริงๆ" เย่เต๋อซานรีบพูดออกมาเย่ซื่อกรุ๊ปเดิมทีก็อยู่ในช่วงวิกฤติ ตอนนี้ตระกูลหวังจะแบนพวกเขาทุกทาง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ"หึ ตอนนี้มาเสียดายทีหลังก็สายไปแล้ว วันนี้ถ้าพวกคุณไม่เอาเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทออกมา ใครก็อย่าได้ออกจากประตูบานนี้ไป!"สวี่ซิงฮุยสายตาเย็นชา พูดข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขายืนเรียงแถว ท่าทางโหดเหี้ยมแบบนั้น ทำให้คนตระกูลเย่ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวคนเหล่านี้เป็นนักมวยที่สวี่ซิงฮุยทุ่มเงินจำนวนมากฝึกฝนออกมา หนึ่งคนสู้ศัตรูสิบคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ"โทษเย่ชิงหลวนเลย ไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราตระกูลเย่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกต่ำแบบนี้""ยังมีฉินเทียนมิ่งคนนั้นอีก เป็นตัวซวยจริงๆ กลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันเลือกกลับมาตอนนี้""พวกเขาเป็นคนบาปของตระกูลเย่ตลอดไป!"คนของตระกูลเย่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะหั่นศพของฉินเทียนมิ่งเป็นหมื่นท่อนเย่เหอซานกับโจวหงเซี๋ยสองสามีภรรยายืนอยู่ท่
เช้าวันต่อมา คนของตระกูลเย่รวมตัวกันที่ห้องรับแขก เจรจากันว่าจะไปขอโทษตระกูลหวังอย่างไรในตอนที่พวกเขาเตรียมจะออกเดินทาง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน"ผู้นำตระกูล แย่แล้ว ท่านสามสวี่พาคนมาถึงที่แล้ว"เมื่อได้ยินชื่อ "ท่านสามสวี่" คนตระกูลเย่ที่อยู่ตรงนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดพวกเขาต่างรู้เหตุผลที่ท่านสามสวี่คนนี้มาที่นี่กะทันหัน"อุ๊ย อยู่กันครบเลยนะ!"ในตอนนี้เอง เสียงหยอกล้อดังขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไปทุกคนมองตามเสียงไป นั่นก็คือท่านสามสวี่คนนั้นนอกจากเขาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันสองสามคนตามเข้ามาด้วย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรคนของตระกูลเย่ไม่กล้าลังเลใจ รีบออกไปต้อนรับ เหมือนกับแขกคนสำคัญมาเยือน"ท่านสาม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"เย่เต๋อซานรีบเข้าไป พูดด้วยท่าทางเกรงใจท่านสามสวี่เหลือบมองเย่เต๋อซาน ใบหน้ายิ้มเยาะถามว่า: "เย่เต๋อซาน ผมก็ไม่พูดไร้สาระกับคุณแล้ว วันนี้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วยัง?"เย่เต๋อซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา: "ท่านสาม พวกเราคุยกันแล้วว่าเดือนหน้าไม่ใช่เหรอครับ? คุณวางใจ
ในตอนนี้เย่เหอซานเอ่ยปากขึ้นมาเย่ชิงหลวนถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ พวกเขาอยู่ที่ตระกูลเย่ก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ต่อไปโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเย่ชิงหลวนไม่พูดจา เพียงแค่มองไปทางพวกเขาด้วยความขมขื่นใจฉินเทียนมิ่งเห็นแบบนี้ จึงโอบกอดร่างกายบอบบางที่สั่นเทาของเย่ชิงหลวนเอาไว้แน่นจากนั้นมองไปทางคนของตระกูลเย่ทุกคน"ผมรับรองว่า ต่อไปพวกคุณจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้อย่างแน่นอน!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาตระกูลเย่ที่อัปลักษณ์แบบนี้ ทำให้ฉินเทียนมิ่งได้เปิดโลกกว้างจริงๆ"คนที่เสียใจควรจะเป็นนาย!""ฉินเทียนมิ่ง รอวันที่หวังเจียงข่ายกลับมา ก็จะเป็นวันที่นายต้องตาย แต่นายวางใจได้ ถึงเวลาฉันจะให้คนไปเก็บศพของนาย จากนั้นโยนศพของนายลงแม่น้ำเจียงหลิงให้ปลากิน"เย่ไห่พูดแสยะยิ้มครั้งนี้ เขาถือว่าแตกหักกับฉินเทียนมิ่งโดยสิ้นเชิง เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลหวัง"ไปเถอะ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาอีกต่อไป ยังต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงการขอโทษกับตระกูลหวังอย่างไร" เย่เต๋อซานส่ายหน้าพูด"รีบไปเถอะ ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราเป็นพวกเดียวกับพวกเขา"ชั่วขณะ คนตระกูลเย่ก็พา
"ตอนนี้ พวกคุณไสหัวไปได้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาคนของตระกูลหวังยังจะกล้าอยู่ต่อที่ไหนกัน พาหวังหงซานที่หมดสติกับศพของหวังเจียงเทาออกจากที่เกิดเหตุด้วยท่าทางน่าอนาถไม่นานนนัก แขกคนอื่นๆ ก็พากันแยกย้ายกลับ เหลือเพียงคนของตระกูลเย่ที่ยังอยู่ห้องโถงจัดเลี้ยง"เย่ชิงหลวน เธอหยุดหลงงมงายอีกต่อไปได้แล้ว ตอนนี้ไปขอร้องตระกูลหวังให้อภัยก็ยังทัน ไม่อย่างนั้นรอหวังเจียงข่ายกลับมา พวกเราตระกูลเย่ทุกคนก็จบสิ้นแล้ว"เย่เต๋อซานพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเบื้องหลังฉินเทียนมิ่งต่อให้มีตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนานหนุนหลัง แต่เขากลับบาดหมางกับกองทัพปราบปรามมังกรกองทัพอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยนั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำให้โลกตกตะลึงได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเยือนดินแดนรกร้างได้ด้วยประโยคเดียวเขาเอาอะไรมาสู้กับตระกูลหวัง?เย่ชิงหลวนสายตาเย็นชาและเหลือบมองเย่เต๋อซาน พูดว่า: "ฉันไม่ไป ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปขอร้องตระกูลหวังเอง""หุบปาก นี่เธออยากให้ตระกูลเย่ของเราถูกฆ่าทั้งครอบครัวงั้นเหรอ!"เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงโมโห"ถ้าหากพวกคุณไม่อยากเดือดร้อน