แชร์

บทที่ 3

ผู้แต่ง: คุณชายมังกร
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-19 14:13:57
โรงพยาบาลศูนย์กลาง ห้องไอซียู

"ติ๊ดติ๊ดดดดด"

เสียงเครื่องมือส่งสัญญาณเตือนถี่ๆ

"แย่แล้ว ข้อมูลตัวเลขแต่ละรายการของผู้ป่วยเกิดความผิดปกติ สัญญาณชีพจรอ่อนลงอย่างรวดเร็ว ทำการช่วยชีวิตเดี๋ยวนี้"

"ฉีดฮอร์โมนอะดรีนาลีนเข้าไป เพิ่มปริมาณ!"

"อัตราการเต้นหัวใจของผู้ป่วยผิดปกติ เครื่องกระตุ้นหัวใจเตรียมพร้อม เร็วเข้า!"

……

ไม่กี่นาทีต่อมา คลื่นไฟฟ้าหัวใจบนจอภาพกลายเป็นเส้นตรง หมอทุกคนต่างหยุดการช่วยชีวิต

“ผู้อาวุโสมู่ สัญญาณชีพของผู้ป่วยหายไปโดยสิ้นเชิงแล้ว ประกาศการเสียชีวิต!” หมอหนุ่มคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเทาเล็กน้อย

“เฮ้อ ถ้าหากทำการผ่าตัดเร็วหน่อย ก็ไม่มีทางเป็นผลลัพธ์แบบนี้ พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว ไปแจ้งญาติเถอะ!”

หมออาวุโสที่ชื่อมู่เจิ้งเสียนท่านนั้นถอนหายใจอย่างจนใจ

เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจสูงสุดในการรักษาโรคหัวใจ ถ้าหากทำการผ่าตัดเร็วกว่านี้หนึ่งวัน เขามีความมั่นใจห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะช่วยผู้ป่วยกลับมาได้

น่าเสียดายที่ทุกอย่างสายไปแล้ว

นอกประตู ผู้หญิงท่านหนึ่งตามมาด้วยความรีบร้อน

“คุณหมอ เงินฉันนำมาเรียบร้อยแล้ว รีบทำการผ่าตัดให้เสี่ยวอวี่ของฉันเถอะค่ะ ขอร้องพวกคุณล่ะ”

ผู้หญิงคนนั้นถือบัตรธนาคารใบหนึ่ง พูดด้วยความรีบร้อน

เธอชื่อว่าหลิ่วฮุ่ยซิน ได้ยินว่าเป็นหญิงรับใช้ที่ติดตามแม่ของฉินเทียนมิ่งมาในตอนที่แต่งงานในปีนั้น ตั้งแต่เล็กดูแลฉินเทียนมิ่งกับน้องสาวโตมา เห็นพวกเขาเป็นเหมือนลูกตัวเอง

“คุณน้า อย่าร้อนใจไปนะคะ หมอมู่ได้เข้าไปตรวจดูสถานการณ์ของผู้ป่วยแล้ว เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอำนาจสูงสุดในเมืองหลวงของเรา รอให้คุณจ่ายเงินเรียบร้อย เขาก็จะทำการผ่าตัดให้ทันที”

พยาบาลคนหนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงปลอบใจ

“ถ้าอย่างนั้นค่อยยังชั่ว พระโพธิสัตว์โปรดคุ้มครอง จะต้องปกป้องเสี่ยวอวี่ของเราให้ผ่านด่านยากนี้ไปให้ได้” ผู้หญิงมือประสานกัน พูดอย่างเคารพบูชา

ในตอนที่เธอเตรียมนำใบเสร็จไปชำระเงิน จู่ๆ ประตูใหญ่ของห้องไอซียูเปิดออก หมอกลุ่มหนึ่งสวมชุดกาวน์สีขาวเดินออกมา คนที่เดินนำหน้าก็คือมู่เจิ้งเสียนผู้เชี่ยวชาญผู้มีอำนาจสูงสุดท่านนั้น

“คุณก็คือหมอมู่เหรอคะ? เสี่ยวอวี่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ฉันเข้าไปพบหน้าเธอได้ไหมคะ?” ผู้หญิงสายตาอ้อนวอนถามขึ้น

“คุณน้า ขอโทษด้วยครับ เธอเสียชีวิตแล้ว ไว้อาลัยด้วย!”

หมอหนุ่มคนนั้นที่อยู่ข้างๆ มู่เจิ้งเสียนพูดด้วยความเห็นใจ

“ครืน!”

ผู้หญิงเหมือนถูกฟ้าผ่า ร่างกายโซเซล้มไปด้านหลัง

วินาทีต่อมา เธอรู้สึกว่าทั้งโลกจะพังทลายแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ เสี่ยวอวี่ของฉันไม่มีทางเสียชีวิต พวกคุณกำลังหลอกฉันอยู่แน่นอน ฉันจะเข้าไปพบเธอ”

ผู้หญิงแผดเสียงออกมาเหมือนคุ้มคลั่ง

ในตอนที่พยาบาลคนนั้นอยากจะเข้ามาห้าม จู่ๆ มือใหญ่มือหนึ่งผลักพวกเธอทั้งหมดออก

“น้าหลิ่ว เกิดอะไรขึ้น?”

ช่วงเวลาสำคัญ ฉินเทียนมิ่งตามมาถึงโรงพยาบาลในที่สุด เห็นภาพที่หลิ่วฮุ่ยซินคุ้มคลั่งพอดี

หลิ่วฮุ่ยซินเห็นฉินเทียนมิ่งปรากฏตัว เหมือนกับจับฟางช่วยชีวิตเส้นสุดท้ายไว้ได้

"เทียนมิ่ง ใช่นายไหม? พวกเขาบอกว่าเสี่ยวอวี่ตายแล้ว ฉันไม่เชื่อ นายรีบให้หมอรักษาเธอสิ!" หลิ่วฮุ่ยซินร้องตะโกนพูดอ้อนวอน

ฉินเทียนมิ่งสีหน้าเปลี่ยนทันที พุ่งเข้าไปในห้องไอซียูโดยไม่พูดพร่ำ

"คุณทำอะไร? ห้องไอซียูไม่ใช่สถานที่ที่คุณจะเข้ามาได้?"

หมอผู้ชายสองสามคนรีบเข้ามาขัดขวางฉินเทียนมิ่ง

“ไสหัวไป!”

เสียงตวาดดังขึ้น สะเทือนจนทำให้หมอสองสามคนนั้นถอยหลังไป

ไม่รอให้พวกเขาตั้งตัวกลับมาได้ ฉินเทียนมิ่งก็พังประตูเข้าไปแล้ว

วินาทีต่อมา ฉินเทียนมิ่งมาตรงด้านหน้าเตียงของฉินเวยอวี่น้องสาวของเขา

มองดูฉินเวยอวี่ที่ไม่มีชีวิตชีวา ฉินเทียนมิ่งรีบยื่นมือออกไปจับชีพจร

“สภาพชีพจรยังไม่ได้หายไปจนหมด ยังมีความหวังอยู่บ้าง!”

ฉินเทียนมิ่งรู้สึกดีใจทันที รีบลงมือกดจุดฝังเข็มสำคัญบนร่างกายของฉินเวยอวี่เอาไว้ เพื่อรักษาโอกาสรอดชีวิตเอาไว้

จากนั้น เขานำกล่องไม้โบราณที่พกติดตัวออกมา

เปิดกล่องไม้ออก ข้างในเต็มไปด้วยเข็มเงินขนาดเล็กใหญ่ ยาวสั้นต่างกันไป

ขณะเดียวกันพวกมู่เจิ้งเสียนก็ตามเข้ามา เมื่อเห็นว่าฉินเทียนมิ่งหยิบกล่องเข็มออกมา สีหน้าของทุกคนก็ตกตะลึงกันหมด

“สหายน้อย สัญญาณชีพจรของน้องสาวคุณหายไปหมดแล้ว อย่าเปลืองแรงเลย ล้มเลิกเถอะครับ!”

มู่เจิ้งเสียนถอนหายใจพูดออกมา

ต่อให้ไม่มีเครื่องมือตรวจสอบ ใช้เพียงแค่ประสบการณ์การเป็นหมอสิบกว่าปีของเขา ก็มองออกในพริบตาเดียวว่าฉินเวยอวี่ไม่มีโอกาสรอดแล้ว

ฉินเวยอวี่ขาข้างหนึ่งก้าวเข้าสู่ประตูนรกแล้วจริงๆ นั่นแหละ หากเปลี่ยนเป็นหมอคนอื่นก็หมดหนทางต่อเธอ และหยุดการรักษา

ถ้าหากพูดว่าบนบนโลกนี้มีเพียงคนเดียวที่สามารถช่วยเธอได้

นั่นก็มีเพียงแค่ฉินเทียนมิ่ง!

“อย่าใช้ความสามารถของคุณ มาสงสัยวิชาแพทย์ของผม!”

ฉินเทียนมิ่งพูดด้วยเสียงเย็นชา

เขาไม่กล้ามีความลังเลใดๆ หางตาเหลือบมองเข็มเงินสามสิบสามเข็มในกล่องไม้

เห็นเพียงแค่มือสองข้างของเขาปัดผ่านกล่องไม้ มือขวามีเข็มยาวเจ็ดนิ้วติดอยู่ มือซ้ายกลับหยิบเข็มขนาดสามนิ้วครึ่ง

เข็มเงินหนึ่งเล่มยาวหนึ่งเล่มสั้น ในมือของฉินเทียนมิ่งพวกมันเหมือนปีกผีเสื้อสองปีกที่สั่นเบา ๆ

“หยุดนะ คุณกำลังทำอะไร ถ้าหากเกิดเรื่องขึ้น โรงพยาบาลของเราไม่รับผิดชอบนะ”

หมอหนุ่มคนหนึ่งเห็นฉินเทียนมิ่งหยิบเข็มเงินออกมา จึงรีบตะโกนห้าม

แต่ฉินเทียนมิ่งไม่สนใจด้วยซ้ำ สายตามีความตั้งใจอย่างไม่เคยมีมาก่อน เข็มเงินในมือทั้งสองข้างแทงไปที่ตำแหน่งชีพจรหัวใจของฉินเวยอวี่ช้าๆ

ไม่รอให้ทุกคนตั้งตัวกลับมาได้ ฉินเทียนมิ่งไม่ได้หันกลับมา มือขวายื่นไปทางกล่องไม้อีก ในมือมีเข็มเงินขนาดยาวเท่ากันติดมือมาทันที

เขาฝังเข็มอีกครั้ง ไม่ลังเลแม้แต่นิด แทงลงไปตรงจุดฝังเข็มสามจุดใหญ่รอบหัวใจของฉินเวยอวี่

ครั้งนี้ ฉินเทียนมิ่งฝังเข็มทั้งไวทั้งเร่งรัด เหมือนกับพายุอันรุนแรง

ขณะเดียวกัน มือซ้ายของเขากลายเป็นดรรชนีกระบี่ ทะลุออกมาเป็นกระแสลมที่มองไม่เห็นสามกระแส ปล่อยใส่บนเข็มเงินผ่านอากาศ

ภาพนี้ ทำให้ทุกคนตกตะลึงจนตาค้าง

โดยเฉพาะมู่เจิ้งเสียน ตอนนี้อารมณ์บนใบหน้าของเขา ก็เหมือนกับเห็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อบนโลกนี้

"เข็มเงินอัดพลัง เบิกทางเทพและปีศาจ หรือว่านี่คือเข็มเทพเจ้าพญายมที่หายสาบสูญนับพันปี?"

มู่เจิ้งเสียนพูดด้วยสีหน้าหวาดผวา

จากนั้น มือขวาของฉินเทียนมิ่งยื่นไปกล่องเข็มอีกครั้ง

ครั้งนี้ เขาหยิบเข็มออกมาห้าเล่มโดยตรง

เขาปัดป่ายฝ่ามือ เข็มเงินห้าเล่มหลุดออกออกทันที ลอยอยู่บนฝ่ามือของเขา หมุนวนด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่ออย่างหนึ่ง ไม่ได้ตกหล่นลง

“แม่เจ้า นี่คือเข็มเงินควบคุมพลัง ตอนนี้มีเพียงติ่งเทียนซิวราชาเข็มสามารถแสดงเข็มเงินควบคุมพลังออกมาได้ เขาทำได้อย่างไรกัน?”

หากไม่ได้เห็นกับตา มู่เจิ้งเสียนไม่มีทางเชื่อด้วยซ้ำ วัยรุ่นอายุยี่สิบกว่าๆ คนหนึ่ง กลับชำนาญวิธีการฝังเข็มที่น่าทึ่งแบบนี้

นี่มันผิดมนุษย์ชัดๆ!

ภายใต้ความตกตะลึงของมู่เจิ้งเสียน เข็มเงินห้าเล่มภายใต้การควบคุมโดยพลังของฉินเทียนมิ่ง แทงลงบนจุดฟังเข็มห้าจุดที่แตกต่างกันบนตัวฉินเวยอวี่ด้วยมุมที่ยุ่งยากมาก

“ติ๊ดติ๊ด”

ทันใดนั้น เดิมทีคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่กลายเป็นเส้นตรงเริ่มขยับอีกครั้ง

ฉินเทียนมิ่งกลั้นหายใจและพ่นลมหายใจออกช้าๆ

ช่วงเวลาสุดท้าย เขาถือว่าแย่งชิงน้องสาวกลับมาจากพญายมได้แล้ว

"เทียนมิ่ง เสี่ยวอวี่ยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย?"

หลิ่วฮุ่ยซินยืนอยู่ข้างๆ สายตาแฝงไปด้วยความหวังสุดท้ายมองไปทางฉินเทียนมิ่ง

“น้าหลิ่ว เสี่ยวอวี่เธอไม่เป็นไรแล้ว เพียงแค่ต้องสังเกตอาการช่วงหนึ่ง แต่น่าจะไม่มีปัญหาอะไรมากแล้ว”

ฉินเทียนมิ่งพูดปลอบ

จากนั้น เขาไม่มีเวลาสนใจแม้แต่หยดเหงื่อบนหน้าผาก ดึงเข็มเงินที่อยู่บนตัวของฉินเวยอวี่ออกจากตัวจนหมด

หลังจากบาดเจ็บหนัก แม้แต่ทำการแสดงเข็มเทพเจ้าพญายมก็ยังเปลืองแรงอยู่บ้าง

“ผู้อาวุโสมู่ ผู้ป่วยนอกจากไม่ได้สติ สัญญาณชีพกลับมาเป็นปกติโดยสิ้นเชิง แม่เจ้า ผมไม่ได้ฝันไปหรอกนะ จะเป็นไปได้ยังไงกัน?”

หมอหนุ่มคนนั้นตะโกนอย่างตกตะลึง

เดิมทีผู้ป่วยที่ประกาศเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ไม่เพียงฟื้นคืนชีพ สัญญาณชีพก็กลับมาฟื้นฟูโดยสิ้นเชิง

นี่มันปาฏิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก!

ในตอนนี้ สายตาที่มู่เจิ้งเสียนที่มองไปทางฉินเทียนมิ่งเปลี่ยนไป

"สหายน้อย ไม่ทราบว่าคุณได้รับการสืบทอดมาจากผู้อาวุโสติ่งเทียนซิวราชาเข็มงั้นเหรอครับ?" มู่เจิ้งเสียนถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพอย่างเห็นได้ชัด

เข็มเงินควบคุมพลัง นี่เป็นสุดยอดวิชาของติ่งเทียนซิวราชาเข็ม ด้วยเหตุนี้มู่เจิ้งเสียนจึงคาดเดาว่า ฉินเทียนมิ่งเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายของติ่งเทียนซิว

“ติ่งเทียนซิว?”

ฉินเทียนมิ่งส่ายหน้า สีหน้าแฝงไปด้วยความทะนงองอาจ

“ในอดีตเขาคุยอยากกราบเป็นครู”

“แต่ ถูกผมปฏิเสธไป!”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 4

    มู่เจิ้งเสียนอ้าปาก พูดไม่ออกอยู่นานติ่งเทียนซิวราชาเข็ม เป็นถึงบุคคลที่มีความน่าเลื่อมใส มีบทบาทหน้าที่สำคัญในของวงการการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญของวงการแพทย์จำนวนนับไม่ถ้วนไปเยือนถึงที่บ้านเขา เป้าหมายก็เพื่อลงทะเบียนเป็นลูกศิษย์ของเขาแต่หนุ่มวัยรุ่นที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักที่อยู่ตรงหน้านี้ กล้าพูดสามหาวว่าติ่งเทียนซิวเคยจะไหว้เขาเป็นครู สุดท้ายถูกเขาปฏิเสธ?ถ้าหากถูกแพร่งพรายออกไป ฉินเทียนมิ่งจะต้องถูกคนที่เลื่อมใสติ่งเทียนซิวเหล่านั้นกระทืบจนตายทั้งเป็น“เอาล่ะ ตอนนี้น้องสาวของผมต้องการพักผ่อนอย่างสงบ รบกวนจัดแจงห้องที่เงียบสงบให้เธอหนึ่งห้อง ขอบคุณครับ”ฉินเทียนมิ่งไม่สนสีหน้าตกตะลึงของทุกคน โบกมือพูดขึ้นอาการป่วยของฉินเวยอวี่สามารถควบคุมเอาไว้ได้แล้ว ต่อไปถ้าฟื้นขึ้นมาก็สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนทั่วไปแล้ว“ได้ ผมจะให้คนจัดการเดี๋ยวนี้ครับ”มู่เจิ้งเสียนตั้งสติกลับมาได้ มองไปทางฉินเทียนมิ่งอย่างลึกซึ้ง จากนั้นให้คนย้ายฉินเวยอวี่ไปที่ห้องพักผู้ป่วยทั่วไปทันทีตอนบ่าย ฉินเวยอวี่ก็ฟื้นขึ้นมาในตอนที่ได้รับรู้ว่าฉินเทียนมิ่งพี่ชายของเธอช่วยเธอกลับมาจากความตาย ฉินเวยอวี่ตื่นเต้นจนกร

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 5

    “ติ๊ดติ๊ด”ในตอนนี้ โทรศัพท์ของฉินเทียนมิ่งมีเสียงข้อความดังขึ้น"หมอเทวดาฉิน ผมคือเฉินเย่นของตระกูลเฉินเมืองหลิ่งหนาน คุณพ่อให้ผมมาที่เมืองเจียงหลิงล่วงหน้า เจรจาเรื่องสำคัญบางอย่างกับคุณ ไม่ทราบว่าวันนี้คุณพอมีเวลาว่างเจอกับผมไหมครับ?"ตระกูลเฉินเป็นฝ่ายติดต่อฉินเทียนมิ่ง แสดงว่าพวกเขาทำการเลือกเรียบร้อยแล้วพอดีกับที่ตอนนี้ฉินเทียนมิ่งก็ต้องการอำนาจของตระกูลเฉิน ดังนั้นทั้งสองคนจึงนัดแนะเวลาและสถานที่กันอย่างรวดเร็วจากนั้น ฉินเทียนมิ่งบอกกับพวกหลิ่วฮุ่ยซินว่ามีธุระจะออกไปข้างนอกหน่อย ให้พวกเธอกลับบ้านกันเอาเองก่อน และรับปากย้ำๆ ว่าจะกลับก่อนเที่ยงแน่นอน หลิ่วฮุ่ยซินถึงได้ยอมให้เขาออกไปหลังออกจากโรงพยาบาล ฉินเทียนมิ่งแทรกตัวเข้าไปในรถแท็กซี่ทันทีอาคารจักรพรรดิ ตั้งอยู่บนศูนย์ใจกลางเมืองที่เจริญรุ่งเรือง เป็นตึกก่อสร้างสัญลักษณ์ของทั้งเมืองเจียงหลิงจุดนัดพบที่เฉินเย่นนัดฉินเทียนมิ่ง ก็อยู่ข้างในอาคารจักรพรรดิเมื่อลงจากรถแท็กซี่ ฉินเทียนมิ่งเตรียมจะเดินเข้าอาคารจักรพรรดิ จู่ๆ รถบีเอ็มสีฟ้าคันหนึ่งจอดกะทันหันอยู่ตรงหน้าเขาจากนั้น ในรถก็มีชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งเดินลงมาผ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 6

    เย่ไห่กับแฟนของเขามองหน้ากัน ทั้งคู่เห็นความเหลือเชื่อในสายตาของอีกฝ่ายประโยคนี้ที่เซี่ยชิงจู๋พูด พวกเขาไม่แปลกใจเลย เพราะพวกเขาเพิ่งได้ยินจากปากของฉินเทียนมิ่งไม่นานนี้คุณฉิน?หรือว่าคุณฉินที่เซี่ยชิงจู๋พูดถึงนั้นก็คือฉินเทียนมิ่ง?จะเป็นไปได้ยังไง?"ประธานเซี่ย ในนี้ต้องมีเรื่องเข้าใจผิดแน่นอน อาคารจักรพรรดิแห่งนี้เป็นของตระกูลของคุณชายเฉินเย่น ผมกับคุณชายเฉินเย่นเป็นเพื่อนกัน คุณฉินที่คุณพูดถึงนั้นมีสิทธิ์อะไรไล่พวกเราออกไป?"เย่ไห่ถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม"คุณฉินตอนนี้คือประธานผู้บริหารของอิมพีเรียลกรุ๊ป คำสั่งของเขาก็คือสั่งของตระกูลเฉิน" เซี่ยชิงจู๋พูดอย่างเย็นชา"อะไรนะ?"เย่ไห่ถอยหลังไปสองสามก้าวด้วยความตกตะลึงที่แท้ข่าวลือก็คือเรื่องจริง ตระกูลเฉินก่อตั้งอิมพีเรียลกรุ๊ปที่มีมูลค่าสองพันห้าร้อยล้านบาท ก็เพื่อที่จะมอบให้บุคคลใหญ่โตลึกลับคนหนึ่ง?และบุคคลใหญ่โตคนนี้ น่าจะเป็นคุณฉินที่เซี่ยชิงจู๋พูดถึง"ใครก็ได้ ไล่พวกเขาออกไปซะ"เซี่ยชิงจู๋โบกมือ บอดี้การ์ดที่ดูมีกำลังสองสามคนเข้ามาหามพวกเย่ไห่ทันที"รีบปล่อยผมนะ ผมคือคุณชายของตระกูลเย่ ผู้สืบทอดตระกูลเย่ในอนาคต พว

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 7

    "เพียะ!"เสียงตบหน้าดังสนั่น!เย่ไห่ถูกฝ่ามือนี้ตบจนล้มลงบนพื้น เขางุนงงไปหมด บนใบหน้ามีรอยนิ้วมือห้านิ้วประทับไว้อย่างชัดเจนฟันหลายซี่ถูกคายออกมาผสมกับเลือด เห็นได้ว่าแรงกำลังของฝ่ามือนั้นมีมากแค่ไหน"ฉินเทียนมิ่ง?"เย่ชิงหลวนตกตะลึงทันที พบว่าเงาที่รูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ก็คือฉินเทียนมิ่ง"ฉินเทียนมิ่ง แกกล้าตบฉันเหรอ? ฉันเอาแกตายแน่"เย่ไห่ที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟตั้งตัวกลับมาได้ ก็พุ่งมาทางฉินเทียนมิ่งเหมือนคุ้มคลั่ง"ปึง!"ฉินเทียนมิ่งเพียงแค่ยกเท้าถีบเบาๆ ก็ทำให้เย่ไห่กระเด็นออกไปอีกครั้ง"อ่อก..."น้ำกระเพาะพุ่งออกจากลำคอ เย่ไห่เจ็บจนน้ำตาไหลออกมาฉินเทียนมิ่งไม่สนใจเย่ไห่อีกต่อไป เขาหันหลังกลับมามองเย่ชิงหลวน"เธอไม่เป็นไรนะ?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัดเย่ชิงหลวนส่ายหน้าด้วยความงุนงงจู่ๆ เธอพบว่า ฉินเทียนมิ่งที่อยู่ตรงหน้า เหมือนจะแตกต่างไปจากห้าปีที่แล้ว"เธอจะเข้าอาคารจักรพรรดิเหรอ?"ฉินเทียนมิ่งเดินออกมาจากประตูใหญ่มา ก็ได้ยินบทสนาของทั้งคู่"อืม แต่พวกเขาเหมือนว่าจะไม่อนุญาตให้คนของตระกูลเย่เข้าไป" เย่ชิงหลวนพูดด้วยน้ำเสียง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 8

    เย่ชิงหลวนมาถึงโรงพยาบาลศูนย์กลางด้วยความรวดเร็วที่สุด"หมอคะ ลูกสาวของฉันตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?"เย่ชิงหลวนถามด้วยสีหน้าร้อนรนสองสามวันนี้ ลูกสาวของเธอเป็นเพราะร่างกายรู้สึกไม่สบาย จึงพักอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์กลางมาโดยตลอดวันนี้เช้าลูกสาวของเธอไข้สูงกะทันหัน ถึงขั้นที่อุณหภูมิสูงจนเป็นลมหลังการรักษาของหมอ อาการถือว่าคงที่แล้วแต่คิดไม่ถึงเมื่อครู่โรงพยาบาลโทรหาเธอ บอกว่าอาการป่วยของลูกสาวของเธออาการหนักยิ่งกว่าเดิม ทำให้เย่ชิงหลวนตกใจจนขวัญเสียคนที่ให้บริการเย่ชิงหลวนคือหมอวัยกลางคนท่านหนึ่ง เขาพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม: "คุณเย่ ทางที่ดีคุณเตรียมใจเอาไว้ อาการป่วยของลูกสาวของคุณในตอนนี้ไม่ดีนัก แต่คุณวางใจได้ หมอที่ฝีมือดีที่สุดในโรงพยาบาลของผม ได้เรียกประชุมผู้เชี่ยวชาญแล้ว เชื่อว่าอีกไม่นานก็สามารถให้แผนการการรักษาออกมาได้"เย่ชิงหลวนได้ยิน คนทั้งคนก็ทรุดนั่งลงบนพื้น น้ำตาไหลออกมาโดยที่กลั้นไม่หยุดลูกสาวของเธอเป็นโรคขี้เซาที่รุนแรงมากตั้งแต่เด็ก แต่ละวันจะต้องนอนสิบกว่าชั่วโมงขึ้นไป มีบางครั้งถึงขั้นที่นอนหนึ่งวันเต็มๆหลายปีมานี้เธอพาลูกสาวไปรักษาจนทั่ว แต่ยังไม่สามารถหาต้

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 9

    เย่ชิงหลวนไม่รู้ว่าตัวเองเดินออกมาจากห้องทำงานได้อย่างไร คนทั้งคนเหมือนกับสูญเสียวิญญาณไปมู่เจิ้งเสียนบอกเธอ เธอต้องทำการตัดสินใจภายในวันพรุ่งนี้ ไม่อย่างนั้นแม้แต่ความเป็นไปได้สามส่วนก็จะต้องสูญเสียไปเธอไปห้องน้ำใช้น้ำเย็นล้างหน้า เย่ชิงหลวนบังคับตัวเองให้ใจเย็นลง จากนั้นถึงได้กลับไปที่ห้องพักผู้ป่วยตอนนี้เย่เสี่ยวซีลูกสาวของเธอนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบสงบ เหมือนกับทูตสวรรค์ตัวน้อยที่นอนหลับอยู่เย่ชิงหลวนนั่งลงตรงหน้าเตียง ยื่นมือไปลูบใบหน้าเล็กๆ ที่ซีดเซียวของเย่เสี่ยวซี ดวงตาเต็มไปด้วยความทุกข์ใจกับความไร้ที่พึ่ง"แม่ แม่ร้องไห้ทำไมคะ?"ในตอนนี้ เย่เสี่ยวซีตื่นขึ้นมากะทันหันเธอเห็นคราบน้ำตาบนแก้มของเย่ชิงหลวน อยากยื่นมือออกไปเช็ดให้สะอาด กลับพบว่ามือถูกเข็มเสียบเต็มไปหมด ไม่มีแรงแม้แต่น้อย"ซีซีตื่นแล้วเหรอ ลูกหิวไหม อยากกินอะไรไหม?"เย่ชิงหลวนพยายามฉีกยิ้มถามออกมา เธอจะเผยความอ่อนแอออกมาต่อหน้าลูกสาวไม่ได้"แม่ ซีซีไม่หิวค่ะ แต่ซีซีเจ็บมาก พวกเราจะได้กลับบ้านตอนไหน ที่นี่น่ากลัวมากเลย""รักษาหายแล้ว แม่จะพาลูกกลับบ้านนะคะ" เย่ชิงหลวนพูดปลอบ"แม่หลอกหนู ก่อนหน้านี้หน

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 10

    "ส่วบ!"หยางเป่ยซานแวบตัวเข้าไปทันที ประคองหวังจงที่ล้มลงขึ้นมา จากนั้นฝืนใช้กำลังภายในเค้นเข็มเงินสองเล่มนั้นออกมาหวังจงที่ขาทั้งสองข้างฟื้นฟูความรู้สึกก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ"คนชั้นต่ำน่ารังเกียจ ใช้อาวุธลับลอบโจมตี?"หวังจงสีหน้าดุดัน ตวาดใส่ฉินเทียนมิ่งแต่ว่ากลับถูกหยางเป่ยซานห้ามปรามเอาไว้"หวังจง คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา อีกอย่างเขาไม่ได้คิดร้ายกับคุณ ไม่อย่างนั้นเข็มเงินเมื่อครู่นี้เพียงพอที่พรากชีวิตของคุณได้"หยางเป่ยซานพูดเสียงเคร่งขรึมเข็มเงินที่ฉินเทียนมิ่งปล่อยออกมา ความเร็วนั้นว่องไว แม้แต่หยางเป่ยซานที่เป็นยอดฝีมือพลังผันแปรขั้นท้ายก็ยังตอบสนองไม่ทันถ้าหากโจมตีจุดสำคัญของหวังจง จะต้องตายทันทีแน่นอนเมื่อหันมองไปทางฉินเทียนมิ่งอีกครั้ง สายตาของหยางเป่ยซานมีความเคร่งขรึมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย"ที่แท้สหายน้อยก็เป็นยอดฝีมืออาวุธลับ ไม่ทราบว่าคุณเรียนวิชาความรู้มาจากที่ไหน?"หยางเป่ยซานสองมือกำปั้นถามขึ้นยอดฝีมืออาวุธลับที่อายุน้อยขนาดนี้ พบเจอได้ยากจริงๆ!"ไม่มีสำนักไม่มีพวกพ้อง!"ฉินเทียนมิ่งตอบกลับอย่างนิ่งเฉยถามเขาเป็นยอดฝีมืออาวุธลับที่ไหนกัน นั่นก็แค่เทคนิ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 11

    "ลูกสาวของเย่ชิงหลวนอายุเท่าไหร่แล้ว?"ฉินเทียนมิ่งวางตะเกียบลงและถามขึ้นมา"ถ้าฉันจำไม่ผิด น่าจะประมาณสี่ขวบ"อายุสี่ห้าขวบ ในสมองมีเนื้องอกข้อมูลทั้งหมด ตรงกับลูกสาวของเย่ชิงหลวนอย่างมากหรือว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ?"น้าหลิ่ว ผมมีธุระออกไปข้างนอกหน่อย พวกน้าทานกันก่อนเลย"พูดจบ ฉินเทียนมิ่งก็ออกจากบ้าน นั่งรถตรงไปโรงพยาบาลศูนย์กลางถ้าหากเป็นลูกสาวของเย่ชิงหลวนจริงๆ เขาจะไม่ยื่นมือเข้าช่วยไม่ได้เก็นติ้งวิลเลจ เขตคนรวยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในเมืองเจียงหลิง คนที่อาศัยอยู่ในนี้ร่ำรวยอย่างมากเย่ชิงหลวนยืนอยู่หน้าประตูวิลล่าหรูหราหลังหนึ่ง ผ่านไปเป็นเวลานานก็ยังไม่ได้เข้าไปข้างในตอนบ่าย เธอได้ทำการตัดสินใจแล้ว ให้หมอมู่ทำการผ่าตัดให้ลูกสาวของเธอแต่ค่าผ่าตัดต้องใช้เงินหนึ่งล้านห้าแสนบาท เธอไม่มีเงินมากขนาดนั้น ดังนั้นจึงโทรศัพท์หาแม่ของเธอทันทีแต่ไม่ว่าเธอจะขอร้องอ้อนวอนด้วยความต่ำต้อยยังไง แม่ของเธอก็ไม่ยอมให้เงิน แถมยังต่อว่าเธอยกใหญ่ ด่าเธอว่าไม่ระมัดระวังคลอดลูกของพวกชั้นต่ำออกมา ทำลายชื่อเสียงของตระกูลเย่ภายใต้ความสิ้นหวัง เย่ชิงหลวนนึกถึงหวังเจียงเทาขึ้นมา ตอน

บทล่าสุด

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 40

    "นายท่าน ไม่ได้เด็ดขาดนะครับ""คุณปู่ ผมไม่ยอม!"ห้องรับแขกมีเสียงต่อต้านดังขึ้น มีเพียงเย่เต๋อซานที่ไม่พูดจา"หุบปาก พวกไร้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช่ว่าในตอนปกติพวกแกไม่พยายามพัฒนาตัวเอง เอาแต่เที่ยวเล่น เย่ซื่อกรุ๊ปจะตกอยู่ในสภาพแบบนี้เหรอ?" เย่จี้หมิงตะโกนด้วยความโมโหทั่วห้องรับแขกเงียบเป็นเป่าสากตั้งแต่ที่เย่จี้หมิงสละตำแหน่ง เย่ซื่อกรุ๊ปที่มีเย่เต๋อซานเป็นผู้ควบคุมก็เริ่มเสื่อมถอยโดยเฉพาะเมื่อถึงคนหนุ่มสาวตระกูลเย่ในรุ่นของเย่ไห่ แต่ละคนเอาแต่เสพสุข ใช้จ่ายไม่บันยะบันยัง ไม่มีความตั้งใจจะบริหารเรื่องของบริษัทด้วยซ้ำนี่ต่างหากเป็นเหตุผลที่เย่ซื่อกรุ๊ปตกต่ำอย่างแท้จริง"นายท่านเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ"ใบหน้าของโจวหงเซี๋ยเผยรอยยิ้มออกมา"แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่งเย่จี้หมิงพูดต่อ"นายท่านพูดมาเถอะค่ะ""หัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป ยังคงเป็นเต๋อซาน เธอเป็นเพียงแค่รองประธาน ภายในบริษัทอำนาจการตัดสินสุดท้าย ยังคงอยู่ในมือของเต๋อซาน นี่คือเส้นตายของฉัน และก็เป็นเส้นตายของตระกูลเย่" เย่จี้หมิงพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเย่ซื่อกรุ๊ปเป็นบริษัทที่เย่จี้หมิงสร้างขึ้นมาเองกับมือ เขาไม่มีท

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 39

    โจวหงเซี๋ยถลึงตาใส่เย่เหอซานด้วยความโมโหและพูดว่า: "เย่เหอซาน คุณหุบปากเลยนะ ฉันแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่างคุณยี่สิบกว่าปีแล้ว ทนกับความขี้ขลาดแบบนี้มานานแล้ว วันนี้ถ้าหากฉันเอาหุ้นห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์ของเย่ซื่อกรุ๊ปมาไม่ได้ งั้นเงินก้อนนี้พวกคุณก็ไม่ได้กลับมาแม้แต่บาทเดียว"ในฐานะที่เป็นลูกชายของเย่จี้หมิงเช่นเดียวกัน เย่เต๋อซานเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป มีหุ้นของบริษัทห้าสิบเอ็ดเปอร์เซ็นต์แต่เย่เหอซานกลับมีเพียงแค่ชื่อเสียงจอมปลอมอยู่ในเย่ซื่อกรุ๊ป อย่าว่าแต่หุ้น แม้แต่อำนาจที่ตระกูลเย่ก็ไม่มีเลยสักนิด โจวหงเซี๋ยทนรับการดูถูกมายี่สิบกว่าปีแล้วครั้งนี้ ไม่ว่ายังไงเธอก็จะเอาของที่เป็นของพวกเขากลับมา"เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทก็อยากจะเป็นหัวหน้าประธานของเย่ซื่อกรุ๊ป เธอคิดเพ้อเจ้อแล้ว"ในตอนนี้ เย่ไห่ยืนออกมาเขาในฐานะหลานชายคนโตของเย่จี้หมิง ลูกชายคนโตของเย่เต๋อซาน ผู้สืบทอดเย่ซื่อกรุ๊ปในอนาคตถ้าหากตอนนี้ถูกโจวหงเซี๋ยแย่งไป งั้นชีวิตนี้เขาทำได้แค่พึ่งพาอาศัยคนอื่น จึงไม่มีทางยอมอยู่แล้ว"งั้นพวกคุณไม่ยืมก็ได้ ไม่มีใครบังคับพวกคุณ"โจวหงเซี๋ยพูดเหมือนไม่มีอะไรจะต้อง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 38

    "น่าจะเป็นไปไม่ได้ นอกจากเธอเซี่ยชิงจู๋ไม่อยากใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเจียงหลิงอีกต่อไป ไม่อย่างนั้นจะกล้าปล่อยให้แมงดาคนหนึ่งเป็นศัตรูกับตระกูลหวังได้ยังไง?"เย่เต๋อซานส่ายหน้าแต่ในใจของเขากลับมีความสงสัยเป็นอย่างมากจริงๆฉินเทียนมิ่งที่หายตัวไปห้าปี กลับมาที่เมืองเจียงหลิงโดยไม่มีสัญญาณก็กลายไปเป็นหัวหน้าประธานของบริษัทระดับเหนือชั้นฟังดูแล้วลี้ลับซับซ้อนจนเกินไป"ผมไม่สนหรอกว่าเขาจะมีสถานะอะไร ผมสนใจแค่ว่าเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทของผมจะมาถึงเมื่อไหร่""จำไว้ พวกคุณมีเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น" สวี่ซิงฮุยพูดเสียงเย็นชาภายใต้ความกระวนกระวายของคนตระกูลเย่ ในที่สุดเย่ชิงหลวนกับฉินเทียนมิ่งก็กลับมาแล้วทั้งสองเดินเข้าประตูตระกูลเย่ตามกันมา"ชิงหลวนกลับมาแล้ว"ในตอนนี้ ในใจของคนตระกูลเย่ก็ถือว่าโล่งอกแล้วสายตาที่แต่ละคนมองเย่ชิงหลวน เหมือนกับมองพระโพธิสัตว์ที่มาช่วยชีวิตโจวหงเซี๋ยเดินเข้าไปต้อนรับในทันที และจับมือของเย่ชิงหลวนด้วยความรักใคร่ เหมือนกับพวกเขาสองแม่ลูกกลับมาคืนดีกันแล้ว"ชิงหลวน เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเอามาแล้วยัง? รีบเอาออกมาคืนท่านสาม" เย่เต๋อซานพูดเร่ง

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 37

    ถ้าหากเย่ชิงหลวนต้องการจริงๆ อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาท ต่อให้เป็นหนึ่งแสนห้าหมื่นล้านบาท เขาก็จะหาวิธีเอาเงินมาให้ได้แต่ถ้าหากให้โจวหงเซี๋ยยืม ฉินเทียนมิ่งไม่อยากจะให้ยืมสักบาทเย่ชิงหลวนพยักหน้า จากนั้นเล่าที่มาของเรื่องให้ฉินเทียนมิ่งรับรู้ทั้งหมด"ชิงหลวน ตระกูลเย่ไล่เธอออกจากตระกูลแล้ว ทำไมเธอยังจะต้องช่วยพวกเขา?"ฉินเทียนมิ่งถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเย่ชิงหลวนก้มหน้า ไม่กล้ามองตาฉินเทียนมิ่ง"ฉันสามารถไม่สนใจคนอื่นในตระกูลเย่ได้ แต่ฉันไม่สนใจพวกพ่อแม่ของฉันไม่ได้""ถ้าหากเย่ซื่อกรุ๊ปล้มละลาย พวกเขาก็จะหมดสิ้นทุกอย่าง""ดังนั้นเทียนมิ่ง คุณช่วยพวกเขาสักครั้งได้ไหม ฉันรับรองว่าจะไม่มีครั้งต่อไป"พูดจบ เย่ชิงหลวนก็เงยหน้ามองไปทางฉินเทียนมิ่ง สายตาแฝงไปด้วยความขอร้องที่ต่ำต้อยเห็นท่าทางน่าสงสารของเย่ชิงหลวน ในใจของฉินเทียนมิ่งก็อดใจไม่ได้ต่อให้เขาเกลียดตระกูลเย่แค่ไหน แต่ในเมื่อเย่ชิงหลวนเอ่ยปากแล้ว เขาก็ปฏิเสธไม่ได้จากนั้นเขาหยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาเซี่ยชิงจู๋"เตรียมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทให้ผมโดยเร็วที่สุด จากนั้นส่งไปที่ตระกูลเย่" ฉินเทียนมิ่งพูดเซี่ยชิงจ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 36

    ทุกคนหันหน้ากลับไปมอง พบว่าคนที่พูดก็คือเย่ชิงห้าวน้องชายของเย่ชิงหลวนเย่ชิงห้าวเหมือนกับฉินเทียนมิ่งในตอนนั้น เป็นคุณชายที่ใช้ชีวิตเล่นสนุกไปวันๆ ตอนนี้ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย"ขอโทษด้วย ผมก็แค่พูดไปแบบนั้น"เห็นทุกคนต่างมองมาที่ตัวเอง เย่ชิงห้าวขี้ขลาดขึ้นมาทันที และหลบไปด้านหลังของโจวหงเซี๋ย"ฉันคิดว่าคำแนะนำของชิงห้าวใช้การได้ ในเมื่อตอนนี้ฉินเทียนมิ่งมีความสัมพันธ์ที่ดกีกับอิมพีเรียลกรุ๊ป เพียงแค่ชิงหลวนเอ่ยปาก เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทสำหรับพวกเขาไม่ใช่ปัญหาด้วยซ้ำ""แต่เมื่อคืนพวกเราเพิ่งจะไล่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ คุณคิดว่าเขาจะให้พวกเรายืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านเหรอ?""ในเมื่อชิงหลวนเป็นคนที่พวกเราดูเธอเติบโตมา เธอไม่มีทางมองดูตระกูลเย่บ้านแตกสาแหรกขาดหรอก"ทุกคนพากันเงียบขรึมเมื่อคืนเพิ่งจะไล่เย่ชิงหลวนออกจากตระกูลเย่ ตอนนี้กลับต้องไปขอยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทจากเธอเพื่อช่วยเหลือตระกูลเย่นี่มีการดูถูกอยู่เล็กน้อย!"เหอซาน ชิงหลวนเป็นลูกสาวของพวกนาย โทรศัพท์สายนี้พวกนายเป็นคนโทร ต้องยืมเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทมาให้ได้" เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงออกคำสั

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 35

    คนตระกูลเย่เหมือนกับมดที่อยู่บนกระทะร้อน ร้อนใจจนอยู่นิ่งไม่ได้"ท่านสาม ขอร้องคุณให้เวลาพวกเราสักนิดเพื่อไปอธิบายกับตระกูลหวัง ไม่อย่างนั้นพวกเราตระกูลเย่จะต้องจบเห่แล้วจริงๆ" เย่เต๋อซานรีบพูดออกมาเย่ซื่อกรุ๊ปเดิมทีก็อยู่ในช่วงวิกฤติ ตอนนี้ตระกูลหวังจะแบนพวกเขาทุกทาง ไม่ให้โอกาสพวกเขาได้มีชีวิตรอดด้วยซ้ำ"หึ ตอนนี้มาเสียดายทีหลังก็สายไปแล้ว วันนี้ถ้าพวกคุณไม่เอาเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทออกมา ใครก็อย่าได้ออกจากประตูบานนี้ไป!"สวี่ซิงฮุยสายตาเย็นชา พูดข่มขู่ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเขายืนเรียงแถว ท่าทางโหดเหี้ยมแบบนั้น ทำให้คนตระกูลเย่ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวคนเหล่านี้เป็นนักมวยที่สวี่ซิงฮุยทุ่มเงินจำนวนมากฝึกฝนออกมา หนึ่งคนสู้ศัตรูสิบคนนั้นไม่ใช่เรื่องยากด้วยซ้ำ"โทษเย่ชิงหลวนเลย ไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราตระกูลเย่ก็ไม่ถึงขั้นต้องตกต่ำแบบนี้""ยังมีฉินเทียนมิ่งคนนั้นอีก เป็นตัวซวยจริงๆ กลับมาตอนไหนไม่กลับ ดันเลือกกลับมาตอนนี้""พวกเขาเป็นคนบาปของตระกูลเย่ตลอดไป!"คนของตระกูลเย่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะหั่นศพของฉินเทียนมิ่งเป็นหมื่นท่อนเย่เหอซานกับโจวหงเซี๋ยสองสามีภรรยายืนอยู่ท่

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 34

    เช้าวันต่อมา คนของตระกูลเย่รวมตัวกันที่ห้องรับแขก เจรจากันว่าจะไปขอโทษตระกูลหวังอย่างไรในตอนที่พวกเขาเตรียมจะออกเดินทาง มีคนคนหนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรน"ผู้นำตระกูล แย่แล้ว ท่านสามสวี่พาคนมาถึงที่แล้ว"เมื่อได้ยินชื่อ "ท่านสามสวี่" คนตระกูลเย่ที่อยู่ตรงนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเห็นได้ชัดพวกเขาต่างรู้เหตุผลที่ท่านสามสวี่คนนี้มาที่นี่กะทันหัน"อุ๊ย อยู่กันครบเลยนะ!"ในตอนนี้เอง เสียงหยอกล้อดังขึ้นมาจากจุดที่ไกลออกไปทุกคนมองตามเสียงไป นั่นก็คือท่านสามสวี่คนนั้นนอกจากเขาแล้ว ด้านหลังยังมีผู้ชายที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางดุดันสองสามคนตามเข้ามาด้วย แค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คนดีอะไรคนของตระกูลเย่ไม่กล้าลังเลใจ รีบออกไปต้อนรับ เหมือนกับแขกคนสำคัญมาเยือน"ท่านสาม ไม่เจอกันนานเลยนะครับ"เย่เต๋อซานรีบเข้าไป พูดด้วยท่าทางเกรงใจท่านสามสวี่เหลือบมองเย่เต๋อซาน ใบหน้ายิ้มเยาะถามว่า: "เย่เต๋อซาน ผมก็ไม่พูดไร้สาระกับคุณแล้ว วันนี้เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านบาทเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วยัง?"เย่เต๋อซานสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมา: "ท่านสาม พวกเราคุยกันแล้วว่าเดือนหน้าไม่ใช่เหรอครับ? คุณวางใจ

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 33

    ในตอนนี้เย่เหอซานเอ่ยปากขึ้นมาเย่ชิงหลวนถูกไล่ออกจากตระกูลเย่ พวกเขาอยู่ที่ตระกูลเย่ก็ต่ำต้อยอยู่แล้ว ต่อไปโงหัวไม่ขึ้นยิ่งกว่าเดิมอย่างแน่นอนเย่ชิงหลวนไม่พูดจา เพียงแค่มองไปทางพวกเขาด้วยความขมขื่นใจฉินเทียนมิ่งเห็นแบบนี้ จึงโอบกอดร่างกายบอบบางที่สั่นเทาของเย่ชิงหลวนเอาไว้แน่นจากนั้นมองไปทางคนของตระกูลเย่ทุกคน"ผมรับรองว่า ต่อไปพวกคุณจะต้องเสียใจกับการตัดสินใจในวันนี้อย่างแน่นอน!"ฉินเทียนมิ่งพูดเสียงเย็นชาตระกูลเย่ที่อัปลักษณ์แบบนี้ ทำให้ฉินเทียนมิ่งได้เปิดโลกกว้างจริงๆ"คนที่เสียใจควรจะเป็นนาย!""ฉินเทียนมิ่ง รอวันที่หวังเจียงข่ายกลับมา ก็จะเป็นวันที่นายต้องตาย แต่นายวางใจได้ ถึงเวลาฉันจะให้คนไปเก็บศพของนาย จากนั้นโยนศพของนายลงแม่น้ำเจียงหลิงให้ปลากิน"เย่ไห่พูดแสยะยิ้มครั้งนี้ เขาถือว่าแตกหักกับฉินเทียนมิ่งโดยสิ้นเชิง เลือกยืนอยู่ข้างตระกูลหวัง"ไปเถอะ ไม่ต้องเสียเวลากับเขาอีกต่อไป ยังต้องคิดว่าพรุ่งนี้จะไปแสดงการขอโทษกับตระกูลหวังอย่างไร" เย่เต๋อซานส่ายหน้าพูด"รีบไปเถอะ ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังยังคิดว่าตระกูลเย่ของเราเป็นพวกเดียวกับพวกเขา"ชั่วขณะ คนตระกูลเย่ก็พา

  • เทพเข็มพญายม   บทที่ 32

    "ตอนนี้ พวกคุณไสหัวไปได้แล้ว!"ฉินเทียนมิ่งเหลือบมองทุกคนด้วยสายตาเย็นชาคนของตระกูลหวังยังจะกล้าอยู่ต่อที่ไหนกัน พาหวังหงซานที่หมดสติกับศพของหวังเจียงเทาออกจากที่เกิดเหตุด้วยท่าทางน่าอนาถไม่นานนนัก แขกคนอื่นๆ ก็พากันแยกย้ายกลับ เหลือเพียงคนของตระกูลเย่ที่ยังอยู่ห้องโถงจัดเลี้ยง"เย่ชิงหลวน เธอหยุดหลงงมงายอีกต่อไปได้แล้ว ตอนนี้ไปขอร้องตระกูลหวังให้อภัยก็ยังทัน ไม่อย่างนั้นรอหวังเจียงข่ายกลับมา พวกเราตระกูลเย่ทุกคนก็จบสิ้นแล้ว"เย่เต๋อซานพูดด้วยสีหน้าไม่ดีเบื้องหลังฉินเทียนมิ่งต่อให้มีตระกูลเฉินตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลิ่งหนานหนุนหลัง แต่เขากลับบาดหมางกับกองทัพปราบปรามมังกรกองทัพอันดับหนึ่งของต้าเซี่ยนั่นเป็นการมีอยู่อันน่าสะพรึงกลัวที่สามารถทำให้โลกตกตะลึงได้ด้วยคำพูดเพียงคำเดียว และเยือนดินแดนรกร้างได้ด้วยประโยคเดียวเขาเอาอะไรมาสู้กับตระกูลหวัง?เย่ชิงหลวนสายตาเย็นชาและเหลือบมองเย่เต๋อซาน พูดว่า: "ฉันไม่ไป ถ้าจะไปพวกคุณก็ไปขอร้องตระกูลหวังเอง""หุบปาก นี่เธออยากให้ตระกูลเย่ของเราถูกฆ่าทั้งครอบครัวงั้นเหรอ!"เย่เต๋อซานพูดด้วยน้ำเสียงโมโห"ถ้าหากพวกคุณไม่อยากเดือดร้อน

DMCA.com Protection Status