มาดามแพชี่พูดยิ้มๆ นางกอดกระชับหลานรักแน่นขึ้น เมื่อเจ้าตัวกำลังดิ้นรนจะไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า
หน้าอกทิพยอาภาปวดหนึบ...เต่งเต้าของเธอเต้นตุ๊บๆ เหมือนอยากจะกลั่นน้ำนมออกมาให้บุตรสาวได้ดื่มกิน โชคดีที่เธอรู้ทันจึงเอาทิชชูยัดใส่ไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำนมของเธอที่ไหลออกมา คงทำให้ใครๆ ในที่นี้รู้ว่า เธอเพิ่งจะคลอดลูกไม่นาน
“ขอดิฉันอุ้มคุณหนูได้ไหมคะ?”
ทิพยอาภาช้อนสายตาขึ้นมองมาดามแพชี่ เสียงของเธอเกือบสั่นตอนที่ร้องขอ
มาดามคนที่สองตรองอย่างหนัก แต่เมื่อพิจารณาทิพยอาภาแล้ว หล่อนไม่น่ามีพิษภัย จึงยอมส่งแองเจลิน่าให้กับหญิงสาว
เด็กน้อยโผเข้าใส่เมื่อได้มองสบตากับมารดา ใบหน้าเล็กซุกแนบอกอิ่ม มือป้อมๆ วางแนบเนินอก ปากอิ่มย้อยดูดจุ๊บจับ!! ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง...อิงใบหน้ากับอกอิ่มของคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แบบไม่หวงตัว สร้างความแปลกใจให้กับมาดามแพชี่เป็นอย่างมาก...
นางมองทิพยอาภาซ้ำ...ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้ว ผมสั้นกุดไม่เป็นทรง แว่นตาอันใหญ่เทอะทะ...เสื้อผ้าหลวมโพลกจนไม่สามารถประเมินรูปร่างได้ แต่ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทางที่จะทำให้แมทธิวสนใจ อย่าแค่มองเลย เดินผ่านชายหนุ่มอาจจะผลักหล่อนจนกระเด็น เมื่อไม่มีส่วนไหนเจริญตา เป็นไปไม่ได้ที่หล่อนจะมีความผูกพันกับหลานของนางมาก่อน
“เหมือนว่าหลานฉันจะเลือกแล้วนะ”
นางกล่าว กวาดตามองไปรอบๆ ตัว สีหน้าแต่ละคนที่มารอ แสดงความผิดหวังออกมาอย่างชัดเจน เพราะหากพลาดงานนี้ ก็คงไม่มีโอกาสเจาะเข้ามาในคฤหาสน์ดีแลนได้ และคงไม่มีโอกาสได้ ‘อ่อย’ แมทธิว
“เออ...” หลายคนพยายามจะท้วง แต่ก็อย่างที่เห็น
เด็กน้อยนั่นหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของผู้หญิงเฉิ่มเบอะ!! ที่มองหาความงดงามไม่เจอ เอาน่าหล่อนคงเหมาะกับการเลี้ยงเด็ก แต่ไม่ใช่คู่แข่งตัวฉกาจของตัวเอง เพราะสภาพของหล่อน คงไม่ทำให้ผู้ชายสุดหยิ่งอย่างแมทธิวเหลียวมอง...
คนที่ผิดหวังทยอยออกไปทีละคน เมื่อหมดประโยชน์ที่จะอยู่ต่อ...
อีกอย่างแรงดึงดูดที่ทำให้พวกหล่อนมา...เขาไม่ได้อยู่ที่นี่
“เอาละจ้ะ เธอชื่ออะไร?” มาดามแพชี่เริ่มถาม หลังจากทิพยอาภาค่อยๆ วางเด็กหญิงในอ้อมกอดลงบนเบาะนอนที่สาวใช้คนหนึ่งวิ่งไปหยิบมาให้
“คุณหนูนอนง่ายๆ เนอะคุณท่าน เธอมีมนต์บทไหนเหรอ? ทำไมถึงกล่อมเด็กนอนหลับได้ง่ายดายจัง?” สวีทตี้ไม่ได้ดูแลแองเจลิน่าโดยตรง เธอเป็นตัวสำรองที่รับมือกับแองเจลิน่าแทบไม่ไหว เห็นเงียบๆ น่ารักน่าเอ็นดูแบบนี้ เวลาพยศขึ้นมา คุณหนูตัวน้อยก็แผดเสียงแบบไม่ยอมใครเช่นกัน...
ทิพยอาภาช้อนสายตามองไทรีส...
“อริสฮ่ะ...เธอเป็นสาวเวียดนามที่ภาษาอังกฤษใช้ได้เลย ว่าแต่... เงินเดือนของเธอได้ยังไงฮะ? กินนอนที่ไหนฮะ?” ชายหนุ่มหัวใจสีชมพูพยายามบีบเสียงและพูดจาอย่างสำรวม เขาต้องทำให้สมจริงเพราะหากมีใครสะกิดใจมันจะเป็นการเสียเปล่า ไทรีสตีหน้านิ่งๆ ทั้งๆ ที่นึกอยากจะร้องกรี๊ดๆ เมื่อส้มหล่นใส่เพื่อนแบบง่ายๆ
“เธอเป็นใครล่ะ?” มาดามแพชี่เอียงคอมอง “สามีหล่อนเหรอ?”
“ปะ เปล่าฮ่ะ...ฮั้นมีสำนักจัดหาคนงานส่งตามบ้าน และอริสเป็นหนึ่งในคนงานของฮั้น”
ไทรีสโบกมือปฏิเสธ เขาเตี๊ยมกับทิพอาภามาบ้างแล้ว เพื่อไม่ให้เป็นที่น่าสงสัย
“อ๋อ...เรื่องเงินเดือนตามสัญญานี่เลยจ้ะ เรื่องที่พักก็ตามที่ระบุ...ในสัญญา...แต่หากเธอทำงานดีฉันจะเพิ่มให้อีกนะจ๊ะ”
เพราะทิพยอาภาไม่ได้สนใจสิ่งที่ตัวเองควรได้ เธอเฝ้ามองใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวที่นอนหลับสนิทในเบาะนอน
“โอ้!! เป็นเงินเดือนที่เยอะมากเลยครับ อริสคงดีใจ...บ้านเธอยากจนครับและต้องส่งเงินกลับไปเพื่อเลี้ยงน้องๆ”
เพื่อความสมจริงไทรีสจะพูดเป็นตุเป็นตะ...
“เริ่มงานเมื่อไรฮ้า?” ชายหนุ่มยิงตรงประเด็น!!
“สะดวกเริ่มตอนนี้เลยไหมล่ะจ้ะ เธอน่าจะเข้ากับหลานฉันเป็นอย่างดี...”
เป็นการตกลงเริ่มงานแบบไร้อุปสรรค ผู้ชายคนนั้นไม่เห็นแม้แต่เงา แต่ก็ทำให้ทิพอาภาพลอยโล่งใจ...
ไทรีสกลับไปหลังจากย้ำให้ทิพยอาภาอดทน...เมื่อหล่อนเลือกที่จะเป็นแบบนี้...
“สู้นะทิพ ฉันรู้ว่าแกทำได้...”
ก่อนกลับไทรีสย้ำ เขาจะเอาของใช้ส่วนตัวมาส่งให้เธออีกครั้ง พร้อมกับกำลังใจเต็มเปี่ยม
ดีแลนคอมเพล็กซ์...
เบื้องหลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ บนชั้นสูงสุดของตึกดีแลน...มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหน้าตึงเปลี๊ยะ!! เขายกขาขึ้นพาดขอบโต๊ะ เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตามองแชนเดอเรียกลางห้องแบบเลื่อนลอย...หัวคิ้วขมวดเป็นระยะๆ เพราะในขณะนี้สมองของแมทธิวกำลังทำงานหนัก...เขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ...
“เจ้านายครับ?”
จาคอปค้อมตัวลง เขายกมือกุมอยู่ที่เป้ากางเกงหลังเอ่ยเรียกเจ้านายหนุ่ม
เปลือกตาเปิดฉับ!! เหมือนกับว่าแมทธิวกำลังรอการ์ดส่วนตัวอยู่แบบตั้งตารอ...
“ว่าไง? มาดามจัดการยังไงกับ ‘เด็กนั่น’ !!” ชายหนุ่มกระเด้งตัวนั่งตรงๆ เขาวาดปลายเท้าลงมาจากขอบโต๊ะ
“มาดามประกาศหาคนเลี้ยงเด็ก และเลี้ยง ‘เธอ’ ไว้ที่ดีแลนครับ”
จาคอปตอบตามที่สืบมา...
“หึ!!” แมทธิวกระแทกลมหายใจแรงๆ คำพูดของเขาไม่มีน้ำหนัก จนแม้แต่คนหัวอ่อนที่สุดอย่างมาดามแพชี่ยังลุกขึ้นมาต่อต้าน
“พอรู้ไหม ‘ใคร’ มาเป็นพี่เลี้ยง” ความอยากรู้ทำให้ชายหนุ่มหลุดคำถามออกมา เขาตีสีหน้านิ่งๆ และจาคอปก็ไม่ได้ทักท้วง
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยื่นให้แมทธิว มีภาพเปิดค้างไว้ และนั่นคือคำตอบ จาคอปทำงานดี ทำได้เกินคำสั่ง
ปลายนิ้วเรียวสวยไสด์หน้าจอเลื่อนดูภาพของ ‘คนเลี้ยงเด็ก’ เขาเบ้ปาก บ่มพึม
“มาดามนั่น...ไปขุดยัยนี่มาจากไหนวะ ทำไม...ช่างเป็นผู้หญิงที่ดูแล้วเสียสายตาจริงๆ ว่ะ”
ภาพลักษณ์ใหม่ของทิพยอาภา แม้แต่แมทธิวยังจำไม่ได้ เขายื่นโทรศัพท์คืนให้จาคอป เม้มปากแน่น เมื่อคิดจะถามคำถามต่อไป...
“ตามตัวยัยนั่น!! เจอหรือยัง?”
เขาเค้นเสียงถาม นึกเจ็บใจทุกครั้งที่คิดถึงทิพยอาภา เพราะความผิดพลาด ‘เด็กนั่น’ จึงเกิดขึ้นมา หล่อนฉวยโอกาส และทำตัวน่ารังเกียจ เขาขยะแขยงหล่อน...ไม่คิดว่าผู้หญิงที่ดูใสซื่อในฉากหน้า...จะซ่อนความร้ายกาจเอาไว้เบื้องหลัง
จาคอปส่ายใบหน้า ทิพยอาภาแทบไม่มีคนรู้จักเลยในอเมริกา ครอบครัวเดิมของหล่อนก็ปฏิเสธการรับรู้เมื่อครั้งที่จาคอปแวะไปถามข่าวหล่อน คนพวกนั้นแสดงอาการน่ารังเกียจมากๆ จนแม้แต่คนเย็นชาอย่างจาคอปที่ผ่านการฝึกมาอย่างหนัก ยังรู้สึกรันทดแทนหญิงสาว หล่อนช่างเป็นคนอาภัพอับโชค...และยิ่งเธอได้มาเจอกับแมทธิวเจ้านายเขา มันเหมือนหล่อนตกลงมาในขุมนรก เมื่อตลอดระยะเวลาที่ติดตามแมทธิว จาคอปเชื่อว่าเจ้านายหนุ่มไม่มี ‘หัวใจ’
“ตามหล่อนให้เจอ ฉันอยากรู้ว่าหล่อนต้องการอะไรจากฉัน!!”
เสียงลอดไรฟันเย็นชาเหมือนเกล็ดหิมะกลางฤดูหนาว แมทธิวหยัดกายขึ้นยืน เขาติดกระดุมสูท ยกมือปัดรอยยับที่ชายเสื้อ สอดมือไว้ในกระเป๋ากางเกง ก่อนจะเดินออกไปจากห้องทำงาน...
ในความทรงจำของแมทธิว ทิพยอาภาคือสิ่งที่แสดงถึงความมีเมตตาของเขา หล่อนเป็นได้แค่นั้นสำหรับเขาจริงๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นมา เขาจึงโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใช่...แมทธิวเหมือนหนุ่มๆ ทั่วไปที่นิยม ชื่นชมกับความงามบนเรือนกายผู้หญิง...แต่เขาเลือก...ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะได้มานอนใต้ร่างกายเขา เพื่อเป็นเครื่องบันเทิงอารมณ์
เขาไม่อยากใส่ความหล่อน...ทิพยอาภาทำตัวเป็นนักตกทอง หล่อนหวังสบายทางลัด...
หล่อนเสนอสนองให้เขา ในตอนที่เขามีสติไม่เต็มร้อย...ถึงหล่อนจะบริสุทธิ์ผุดผ่อง!!
แต่จะให้เขายอมรับหล่อน...ไม่มีวัน...
ผู้หญิงอย่างทิพยอาภาไม่ต่างอะไรกับตัวเหลือบ...ที่คอยเกาะดูดกินเลือด...เป็นกาฝากที่ไม่เคยคิดจะสร้างตัวเองอาศัยร่มไม้ใหญ่เพื่อดูดซึมอาหาร
เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม!! แมทธิวจึงสั่ง!! ให้หล่อน ‘ทำลาย’ สิ่งที่เกิดขึ้นทิ้ง...
ไม่คิดว่าหล่อนจะใจกล้า เก็บ ‘เด็ก’ ไว้ เขาตกใจแทบสิ้นสติ ตอนที่รู้ข่าวเข้า...
ทางเดียวที่จะรักษาหน้าตาตนเองเอาไว้ได้เหมือนเดิม เขาต้องตกลงกับหล่อนเสียใหม่ เขาไม่มีวันปล่อยให้ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างทิพยอาภาเป็นคนทำลายชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของเขา ที่สืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคน เพราะความสำส่อนของหล่อนเอง...
ไม่มีวัน!!
กรามของแมทธิวบดกันไปมา เมื่อย้อนนึกถึงอดีต...เขาสะบัดหน้าแรงๆ พยายามทำเป็นลืมสายตาตัดพ้อของหล่อน...ทิพยอาภาไม่เคยเรียกร้อง...แต่จะให้เขาไว้ใจหล่อนอย่างนั้นเหรอ...ไม่มีทาง แมทธิว ดีแลนไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งมาลูบคม ครั้งแรกหล่อนยังกล้า...คำสั่งเขาเหมือนลมปาก หาได้มีความศักดิ์สิทธิ์...ดังนั้นเขาไม่มีวันไว้ใจหล่อนเด็ดขาด
แมทธิวลืมไป...ทิพยอาภาแค่ทำตามสัญชาตญาณความเป็นแม่...
ชายหนุ่มถูกเลี้ยงมาท่ามกลางการแข่งขัน หัวใจแมทธิวจึงแห้งแร้ง...
เขาไม่รู้จัก ‘ความรัก’ ในสมองของแมทธิวบันทึกไว้แค่คำว่า ‘ผลประโยชน์’
Porsche Panameraสีขาวปรอท...รถยนต์คันล่าสุดที่หนุ่มไฮโซใช้เป็นยานพาหนะ รูปทรงโฉบเฉี่ยวสะกดสายตาคนมองได้ชะงัด เป็นรถยนต์รุ่นล่าที่คนมีสตางค์นิยมถอยออกมาวิ่งเล่นบนท้องถนน แมทธิวขับเคลื่อนรถยนต์ตรงกลับคฤหาสน์ดีแลน...ความคิดของเขาเลื่อนลอยเคว้งคว้าง...ชายหนุ่มสับสนในตัวเอง...ปากเขาบอกว่าเกลียดและขยะแขยงทิพยอาภา แต่ในความเป็นจริง...เงาอันรางเลือนของหล่อน ยังตามมาหลอกหล่อนเขาทุกค่ำคืน...จนอารมณ์สุนทรีย์ที่เคยมีหดหาย
เป็นความลับที่แมทธิวไม่เคยบอกใคร...
เขาไม่สามารถหลับนอนกับผู้หญิงคนอื่นได้เลย...เพราะทิพยอาภาจะเป็นตัวแทรกทำลายความรู้สึกกำหนัดที่เกิดขึ้น...
จนตัวเองคิดว่า...เขาน่าจะใกล้เคียงกับคนเป็นโรค ‘กามตายด้าน’ ลูกชายเขาไม่แข็งขัน มันหดหู่ หัวห้อย...ไม่เคลื่อนไหวใดเลย หากกลิ่นของบนตัวคู่นอน ไม่ใช่กลิ่นที่เขาเคยสูดดมจากเรือนกายอวบอุ่นของผู้หญิงที่ชื่อ ทิพยอาภา!!
ปึกๆ
แมทธิวกระแทกสันมือกับพวงมาลัย...เขากลายเป็นคนฉุนเฉียวง่าย...นับตั้งแต่หล่อนปรากฏกายตรงหน้าเมื่อหนึ่งปีก่อน
เวร!!
ชีวิตแสนสุขของเขาผกผันก็เพราะผู้หญิงคนเดียว...
เอี๊ยด!! ปัง!! ปึกๆ
เสียงแรกคือเสียงห้ามล้อ...เมื่อชายหนุ่มกระทืบเบรกเต็มแรงจนรถยนต์จอดสนิทหน้าโถงทางเดิน ปัง!! เสียงต่อมาคือการระบายอารมณ์ของแมทธิว เขากระโจนลงจารถยนต์กระแทกประตูปิดเสียงดังๆ ปึกๆ ส้นรองเท้าหนังมันวับกระแทกลงบนหินอ่อนที่ปูเป็นพื้นทั่วคฤหาสน์หลังใหญ่
บ้าน...เป็นที่สุดท้ายที่แมทธิวนึกถึง...การกลับมานอนใต้ชายคาคฤหาสน์ดีแลน แมทธิวจะกลับมาก็ต่อเมื่อมาดามจูเลียอยู่ด้วย
แมทธิวไม่อยากเป็นส่วนเกิน...เมื่ออยู่ต่อหน้าบิดา...เขาเหมือนไร้ตัวตน เพราะท่านใส่ใจแค่ภรรยาคนใหม่...มันเป็นรอยบาดหมางในหัวใจของเขา ที่ไม่มีใครรู้... ภายใต้สีหน้าเย็นชา...แมทธิวโหยหาอ้อมกอดของท่านเหมือนเด็กคนอื่นๆ แต่เพราะถูกฝึกมาตั้งแต่เด็ก เพื่อเป็นผู้นำตระกูลในอนาคต เขาจึงฉาบหน้าไว้ด้วยความว่างเปล่า ซ่อนหัวใจโหยหาไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจ!!
ปีกซ้ายของคฤหาสน์ดีแลน...ปีกขวาคือพื้นที่ส่วนตัวของมาดามจูเลียกับแมทธิว ดังนั้นปีกซ้ายทั้งแถบจึงเป็นพื้นที่ของอาเธอร์กับมาดามแพชี่ และเวลานี้อีกส่วนหนึ่งถูกกันเป็นของหลานสาวคนใหม่ของมาดามแพชี่...แองเจลิน่าทิพยอาภาเริ่มงานอย่างแข็งขัน เธอไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักทีที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวยี่สิบสี่ชั่วโมงคือความสุขของเธอ แม้จะแค่เพียงนั่งมองเงียบๆ“พักกินข้าวบ้างเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมไป” สวีตตี้เดินเข้ามากระซิบบอกด้วยความหวังดี หล่อนชะเง้อมองคุณหนูตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่บนแปลนอนยิ้มๆหญิงสาวพยักหน้ารับ...เธอเอื้อมมือดึงผ้าโปร่งๆ คลุมแปลไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันแมลงตัวเล็กๆ มากวนการนอนหลับของบุตรสาว เป็นความใส่ใจที่สวีตตี้แอบทึ่งในครัว...สถานที่พักผ่อนของสาวใช้…ทิพยอาภาก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานเงียบๆ เธอฟังเสียงคนอื่นคุย แต่ไม่ได้คิดจะไปร่วมวงสนทนา เมื่อต้องเก็บตัวป้องกันความผิดพลาด...“คุณแมทกลับมาเมื่อสักครู่...เธอเห็นเขายัง” สาวใช้วัยรุ่นรูปร่างอวบอัดกระซิบบอกเพื่อนวัยเด
บทที่3.กลิ่นนางแมทธิวตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา...เขาหลับยาวแบบที่ไม่เคยทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกดเหนือหว่างคิ้ว เขาสูดปากครางเบาๆ เพราะรู้สึกชาวาบไปทั้งท้องแขน ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมอง เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะเอื้อมมือผลักทิพยอาภาจนกระเด็น“โอ๊ะ!!” หญิงสาวร้องเสียงหลง ความฝันแสนหวานหายวับไปกับตา เมื่อเธอฝันถึงงานวิวาห์ท่ามกลางความยินดีของคนรอบตัวทิพยอาภากอดตัวเองแน่น เธอควานมือจนพบผ้าห่มผืนใหญ่ หญิงสาวรั้งผ้าผืนนั้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะช้อนสายตาขลาดอายมอง ‘สามีทางพฤตินัย’ ของตัวเองแมทธิวจ้องคนแปลกหน้าตาถลน เขาก้มมองตัวเองก่อนจะสบถเสียงขุ่น“พระเจ้า!!”หลักฐานตรงหน้าขา...คือความอัปยศที่ชายหนุ่มแทบจะรับไม่ไหวเขาหลับนอนกับหล่อนโดยปราศจากการป้องกันตัว หลักฐานที่เห็นทนโท่ คือคราบน้ำรักที่แห้งกรังติดอยู่ตรงอวัยวะเพศของเขาเอง“เธอเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นเขียวทิพยอาภาก้มหน้าน้ำตาตก...เธอกัดริมฝีปากล่าง รู้สึ
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยัดเก็บในกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิม...เขาเดินชมธรรมชาติ เมื่อพอจะอารมณ์ดีขึ้นแมทธิวขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าคฤหาสน์ดีแลนจะกว้างขวางขนาดนี้...ส่วนปีกซ้ายที่เขาไม่เคยเฉียดเข้ามาใกล้เต็มไปด้วยพรรณไม้สวยเยอะแยะไปหมด...แมทธิวจึงเปลี่ยนใจ เขาเดินตรงไปยังเรือนกระจก สถานที่โปรดปรานของมาดามแพชี่ และขณะนั้น นางกำลังนั่งจิบชาอยู่พอดี...มาดามสูงศักดิ์เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อมองเห็นลูกเลี้ยงหนุ่มเดินมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า“นั่งก่อนไหมคะ...คุณแมท?” นางผายมือให้ชายหนุ่มนั่ง พร้อมกับเอื้อมมือหยิบแก้วเซรามิกตรงหน้าเตรียมจะรินชาอุ่น ๆ ให้ชายหนุ่มทรุดนั่งแบบเสียไม่ได้...เขามองไปรอบๆ ตัว เหมือนอยากชมบรรดาพรรณไม้หนักหนาแมทธิวยกแก้วชาอุ่นๆ ขึ้นจิบ “เด็กนั่นล่ะ?” เขาถามหา ‘ลูก’ ที่ตัวเองยังไม่ยอมรับมาดามแพชี่คลี่ยิ้มอ่อนๆ แมทธิวกระด้างและเคร่งขรึม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเย็นชาถึงเนื้อใน“อริสกำลังพามาค่ะ...แองเจิ้ลน่ารัก...เลี้ยงง่ายนะ”นางตอบสั้นๆ เสจิ้มขนมของว่างใส่ปาก กันอาการประดักประ
“เอาสิ...ทำงานที่นี่ไม่สบายใจตรงไหน บอกฉันได้นะ”อาเธอร์ส่งหลานสาวตัวอ้วนจ้ำม่ำให้ทิพยอาภา ท่านกล่าวต่ออย่างมีเมตตา เมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังดูแลคนในดีแลน แถมเป็นคนสำคัญเสียด้วย เพราะหากแองเจลิน่าเป็นสายเลือดของแมทธิว นั่นย่อมหมายถึง...หลานของท่านคนนี้ จะเป็นหลานคนเดียว เมื่อตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุ ไม่ว่าจะเพียรพยายามทุ่มเทกำลังทรัพย์มากเท่าใด...ผลคือเหลว...เหมือนเบื้องบนกำหนดไว้ ดีแลนจะมีทายาทสืบต่อ แค่1 คนเท่านั้น“ค่ะ...” ทิพยอาภาตอบรับแบบสำรวม เธอช้อนอุ้มบุตรสาวแนบอก ยกผ้าซับน้ำลายมุมปากให้แองเจลิน่าอย่างอ่อนโยน“ลูกชายฉันผีเข้าผีออก ยังไงก็ระวังไว้บ้างล่ะ” อาเธอร์ยกแก้วชาขึ้นจิบ ท่านเปรยลอยๆเรื่องนี้ไม่ต้องบอก...ทิพยอาภาก็ทำให้เป็นความเคยชิน ที่ไหนมีแมทธิว...เธอจะจะเลี่ยงออกไปห่างๆ หากเป็นความบังเอิญแบบไม่ทันคาด เผ่นได้ เธอก็รีบเผ่นแบบไม่รอช้า...เพราะหากเธอพลาด หมายถึงชั่วชีวิตนี้ คงได้แต่มองแองเจลิน่าอยู่ห่างๆ แค่นั้นเอง“แอะๆ” เด็กน้อยเริ่มโยเย เพราะใกล้ถึงเวลานอน“คงง่วงแล้ว...พาไป
บทที่4.มาดามจูเลียโรม...อิตาลี...หญิงสูงวัยอายุเกือบแปดสิบปี นั่งนิ่วหน้า นางกำลังจิบกาแฟในร้านโปรดที่กรุงโรม เป็นการมาท่องเที่ยวกึ่งทำงาน เพราะมาดามจูเลียถือโอกาสพักผ่อนหย่อนใจหลังเซ็นสัญญาการค้าจบ...มือที่ผิวหนังเหี่ยวย่นเกร็งค้าง ขยุ้มกระดาษหนังสือพิมพ์เจ้าดังจนยับคามือ...เมื่อเห็นข่าวฉาวล่าสุดของแมทธิวหลานรัก...ในรอบยี่สิบปีนับตั้งแต่หลานชายเป็นหนุ่มเต็มตัว เขามีเดทกับสาวๆ ไม่เลือกหน้า ความฮอตของแมทธิวทำให้นางปวดหัว...แต่หลานชายของนางก็ระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่เคยมีภาพหลุด แต่ที่เห็นนี่ มาดามจูเลียรับไม่ไหว...เป็นภาพฉาวที่สุดเท่าที่นางเคยเห็น แม้จะมีสีดำๆ คาดปิดใบหน้ากึ่งหนึ่ง ให้ตายเถอะ!! แค่เส้นผม นางก็จำได้ ที่เห็นนี่คือหลานชายของนางชัดๆท่ามกลางผู้คน แมทธิวกำลัง ‘จูบ’ กับผู้หญิงคนหนึ่ง และหากไม่มีใครอยู่ในบริเวณเดียวกัน เขากับเธอคงร่วมรักกันแบบดุเดือดเพราะลักษณะการจูบที่เห็น...มันคงไม่จบแค่การแลกลิ้นกันแน่ๆ“แมท!!”นางคำราม ลดมือลง กระแทกหนังสือ
สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนทำตัวเหมือนเป็นผู้พิทักษ์ทิพยอาภา หากเวลาไหนก็ตามที่ไวโอเล็ตตามมาแขวะ!!สาวใช้รูปร่างสมส่วนสะบัดค้อนให้ หล่อนเดินจากไปแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง“ทำอะไรอะอริส?”แองเจลิน่าหลับสนิทหลังเล่นจนเหนื่อยและดื่มนมไป1ขวดใหญ่ เด็กน้อยทำปากหมุบหมับ มองหน้าอกมารดาตาปรอย แต่เพราะมีสวีตตี้อยู่ ทิพยอาภาจึงทำเป็นไม่สนใจ แม้หน้าอกเธอจะปวดแปลบหญิงสาวเงยหน้ามอง “ข้าวต้มใส่แครอทกับตับและฟักทองจ้ะ สวีตตี้” เธอตอบพร้อมกับยิ้มน้อย“น่ากินเนอะ!! ” สาวอวบมองสิ่งที่เพื่อนร่วมงานทำตามันวับ “ฉันไปเฝ้าคุณหนูดีกว่า...ว่าแต่...รู้ยังมาดามกลับมาแล้ว!! ” สวีตตี้ลดเสียงลง เมื่อพูดถึงประมุขเฒ่าทิพยอาภาพยักใบหน้าหงึกหงัก“เห้อ!! ไม่รู้ว่าคุณหนูจะโดนหางเลขบ้างหรือเปล่า ข่าวว่ากำลังฉุนจัดจากข่าวคุณแมทธิว”สาวใช้ตัวอวบบ่น เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ในเวลานี้ ทุกคนในบ้านต้องพูดถึง หลังจากเห็นข่าวเจ้านายหนุ่มขึ้นหราที่หน้าหนึ่งของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทิพยอาภากะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอยังไม่
บทที่5.งานเข้าแคลิฟอร์เนีย...อเมริกา...ไทรีสเหยียดยิ้ม เขาเบิกตาโต แสร้งทำท่าตื่นเต้น ทั้งที่ในใจหัวเราะร่า...เมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ คือคนของแมทธิว...เขาคนนี้...มาเพื่อตามหาทิพยอาภา...“ไม่ทราบว่าคุณพอจะให้ข่าวคุณทิพยอาภาเพื่อนของคุณ กับทางเราได้บ้างไหมครับ”จาคอปพยายามพูดแบบสุภาพที่สุด เมื่อเขารู้สึกเอง...ผู้ชายตรงหน้าตั้งใจยวน“ไม่ทราบว่าคุณอยากรู้ข่าวแบบไหนล่ะฮ้า!! ฉันตอบไม่ถูกหรอก...เมื่อเพื่อนของฉันนะมีเรื่องให้ฉันต้องปวดหัวเยอะแยะไปหมด” ชายหนุ่มตอบเสียงกลั้วหัวเราะ กรีดนิ้วจับหูแก้วกาแฟ และยกขึ้นจิบด้วยมาดนางพญา!!เสียงสูดลมหายใจแรงๆ “เราอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนนี้ครับ? คุณไทรีสน่าจะทราบ...เพราะเธอมาอยู่กับคุณเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป...” จาคอปเปรย เท่าที่เขาตามรอยมา...ทิพยอาภาเหมือนหายตัวได้ หลังจากเข้ามาอยู่กับผู้ชายที่ชื่อ ไทรีส มัวคนสุดท้ายหนุ่มหล่อหัวใจสีชมพูไหวไหล่ เขาจิบกาแฟเหมือนกำลังดื่มด่ำกับรสชาติขมๆ ของกาแฟดำอย่างเหลือเกิ
อาพาร์ทเม้นท์หรูกลางเมือง...เอ็มม่านอนกลิ้งไปมาบนที่นอนขนาดใหญ่ หล่อนหัวเราะคิกคัก ขณะที่ยกหนังสือพิมพ์สื่อดังขึ้นเปิดอ่านช้า ๆ“ถูกใจคุณไหมครับคนสวย...”เสียงแหบพร่าจากบุคคลที่ยืนอิงกรอบประตูห้องน้ำ เขาทอดสายตาหวานเชื่อมมองผู้หญิงอวบอึ๋มที่มีเพียงผ้าห่มคลุมกายเพียงชิ้นเดียว ด้วยสายตาสื่อความหมาย“ยิ่งกว่าถูกใจอีก แซก!! คุณทำได้สมราคา...แบบนี้เอ็มม่าคงไม่เสียดายเงินที่ต้องจ่าย”ใช่...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของหล่อนเอง...การจะจับคนเจ้ายศเจ้าอย่างสักคน ก็ต้องทำกันแบบโจ่งครึ่ม!! เมื่อคนอย่าแมทธิวรักหน้าตายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...“ผมไม่คิดว่าคุณจะใช้วิธีนี้”แซก เวล นักข่าวอิสระแต่งานของเขามักจะดังเปรี้ยงปร้างเสมอ ดังนั้นไม่แปลกหรอกที่เขาส่งไฟล์ให้สื่อสิ่งพิมพ์แล้วจะไม่มีใครรับ และข่าวครั้งนี้ก็ทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์พุ่งพรวด เมื่อเป็นข่าวเกี่ยวกับเซเลปชื่อดังแมทธิว ดีแลน หนุ่มในฝันที่สาวๆ ค่อนโลก เฝ้าติดตาม“เอ็มม่าไม่สนวิธีหรอกค่ะแซก ขอแค่...” หญิงสาวยิ้มย่อ
วันว่างของ ‘ดีแลน’ ในยุคนี้ คือการสังสรรค์กันตามประสาคนครอบครัวเดียวกัน มีแต่เสียงหัวเราะ กับรอยยิ้ม พลอยทำให้คนที่อยู่อาศัยลดความอึดอัดไปได้อย่างมากมาย บรรยากาศวันนี้ แตกต่างกับอดีตแบบสิ้นเชิง ไม่มีการแบ่งฝัก แบ่งฝ่าย ทุกคนคือสมาชิกในดีแลน...แบบเสมอภาคกัน…ดังนั้นภาพฉาวๆ ของแมทธิวจึงไม่เคยมี หากเทียบกับภาพหลุดในอดีต จากหนุ่มนักรักที่เป็นดั่งจอมวายร้ายของสาวๆ เขารักจริงทิ้งจริง...พร้อมเปย์ แต่ไม่รับผิดชอบ ทุกคนมีอิสระต่อกัน ไม่มีความผูกพัน มีแต่ความใคร่วันนี้แมทธิวเป็นเทพบุตรของลูกและภรรยา เขาเป็นคนดีที่เป็นตัวอย่างให้บุตรสาวเห็น ซ่อนความร้ายกาจไว้ด้านใน เขาจะงัดความร้ายนั่น ออกมาใช้ในตอนทำงาน กับคู่แข่งที่หวังจะเข้ามาทำลาย กับคนไม่หวังดีที่จ้องจะมาทำร้ายเท่านั้น...เขาซ่อนเขี้ยวเล็บไว้ และพร้อมจะงัดมาใช้หากมีสถานการณ์ฉุกเฉิน!!สาวโสดหลายคนพากันหมดหวัง เซเลปสาวๆ หลายคนเคยเข้ามาทาบ เมื่อข้างตัวแมทธิว เวลาออกงานสังคม...ไร้มาดามเคียงข้าง แต่ผลที่หล่อนได้รับคือหน้าแหกกลับมา...เมื่อชายหนุ่มยิ้มเย็นให้ พร้อมกับคำปฏิเสธชัดๆ โดยไม่คิดจะรักษาหน้าคนที่เ
บทที่18.ครอบครัวแสนรักงานวิวาห์ช็อกวงการเพิ่งจะผ่านไปได้ไม่นาน ภาพหลุดที่ปาปารัสซี่แอบถ่ายได้ ก็ทำร้ายความรู้สึกของสาวโสดอีกหลายแสนคน เมื่อภาพเหล่านั้น คือภาพความสุขของหนุ่มหล่อขวัญใจสาวๆ แมทธิวกับภรรยา แถมลูกน้อยที่กำลังเติบโตอีกหนึ่ง ที่ประจักษ์กับสายตาเลย คือผู้หญิงสวยข้างตัวเขา กำลังอุ้มท้องทายาทดีแลนอีกคนเป็นการทำลายความหวังลมๆ แร้งๆ ของสาวๆ จนไม่หลงเหลือซาก แต่ละนางได้แต่ปลง เพราะคงไม่มีทางแทรกเข้าไปในครอบครัวแสนสุขได้เลยเมื่อชายหนุ่มมีทั้งภรรยาสะสวยที่มีโซ่ทองคล้องใจ เส้นใหญ่เสียเหลือเกินภาพสวีทหวานกลางทะเล บนเรือยอร์ทส่วนตัว กับวันแสนสุขของครอบครัว หากมองดีๆ จะเห็นว่า ครอบครัวดีแลนที่อิหลักอิเหลื่อกันมาหลายสิบปี กลับมากระชับแน่นเหมือนนิมิตใหม่ที่แสนดี เมื่อสมาชิกทุกคนอยู่พร้อมหน้า ไม่ว่าจะเป็นมาดามจูเลีย หัวหอกอาวุโส อาเธอร์บุตรชาย มาดามแพชี่ศรีสะใภ้...และครอบครัวใหม่แกะกล่อง แมทธิว ทิพยอาภา...หลายคนอาจจะมองผ่านๆ เพราะก็แค่ครอบครัวไฮโซ พากันไปเที่ยว แต่สำหรับไทรีส เขามองแ
“แต่แกต้องอ่าน เพราะแกกำลังทำให้ดีแลนเสียหาย ใช่... ย่ายอมรับแม่นั่น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้แกเชิดชู หล่อนมีค่าขนาดนั้นเชียวหรือ”แมทธิวยืดตัวนั่งตรงๆ เขาเอื้อมมือจับมือเหี่ยวของมาดามจูเลีย“คุณย่าครับ...ทิพเป็นแค่เด็กกำพร้าผมไม่เถียง แต่เธอก็ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับเรา คนธรรมดาก็มีหัวใจ มันแปลกเหรอครับที่ผมจะ ‘รัก’ เธอ หากทิพไร้ค่า แล้วเรามีค่าแค่ไหนเชียวครับ หนึ่งชีวิต หนึ่งลมหายใจเหมือนกัน แตกต่างกันตรงไหนอะ”ประมุขเฒ่าจนคำตอบ...นางรู้ทุกชีวิตมีค่าเท่ากัน แตกต่างแค่อีโก้ที่แมทธิวย้ำเสมอ“ต่างกันตรงฉันกับแกเป็นดีแลน แต่หล่อนไม่ใช่!!”นางตอบแบบกวนอารมณ์ เมื่อพยายามชี้แนะให้หลานชายเข้าใจความคิดของนาง“งั้นทิพก็ไม่แตกต่าง เมื่อเธอก็เป็นดีแลน เช่นกัน”แมทธิวตอบกวนๆ กลับ เขายิ้มประจบ เมื่อมาดามตวัดตามอง“เอะ!! หมายถึงอะไรแมท แกต้องการบอกอะไรย่า”“ผมก็แค่อยากทำให้ถูกต้อง เพื่อลูก...ผมไปโบสถ์มาครับ และอีกเจ็ดวันจะมีพิธีสาบานตนต่อหน้าพระเจ้า
บทที่17.สาวปริศนาว่าที่มาดาม ดีแลน!!“คนพวกนั้นมาทำอะไรกัน?”ประมุขเฒ่าถามเสียงขุ่น นางมองกลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่ยืนอออยู่หน้าประตูรั้วเหล็กกับกล้องถ่ายรูปจำนวนมาก มีทั้งแบบซูมระยะใกล้ และแบบระยะไกล หลายคนพยายามปีนกำแพง หมายจะส่องให้เห็นถึงด้านในเอ็ดมันส์อมยิ้ม เขามองผ่านกระจก ก่อนจะหมุนตัวมาตอบนายจ้างเสียงแผ่วๆ “นักข่าวนะครับ เป็นธรรมดาที่สื่ออยากรู้จักว่าที่มาดามดีแลนคนใหม่”“จะอยากรู้ไปทำไม แม่นั่นมีอะไรดี!!” นางกระแทกเสียงตอบ เอนตัวพิงพนักเบาะ พ่นลมหายใจแรงๆ“สาวปริศนาที่ไม่ต่างอะไรกับหนูตกถังข้าวสาร...เป็นเรื่องปกติที่ใครๆ ก็อยากรู้จัก เมื่อผู้ชายที่หล่อนกำลังจะได้ครอง เป็นทายาทคนเดียวของดีแลนนะครับ”การ์ดหนุ่มใหญ่อธิบายช้าๆ เขาอมยิ้มกับความพยายามของสื่อ เมื่อหลายคนทำตัวไม่ต่างอะไรกับนักย่องเบาที่ป่ายปีนกำแพงหิน เพื่อจะล้วงข้อมูล“มาดามครับ ‘เธอ’ อยู่ที่นี่ใช่ไหม?”ช่วงจังหวะรถยนต์ชะลอความเร
คุณพระ!!เจ้าหน้าที่รัฐวิ่งฉิวผ่านหน้าหญิงสาวไป และเอ็มม่ากำลังตกใจ จนตัวแข็งค้าง เมื่อคนคนนั้นไม่ใช่ใครเลย...คนเจ็บปางตายที่ถูกนำมาทิ้งไว้ในอาณาเขตของเธอ...คือ แซกหญิงสาวเซแซ่ดๆ เธอเดินสะเปะสะปะ แทรกกลุ่มคนที่ดาหน้าเข้ามาอีก หลังเจ้าหน้าที่รัฐมาถึงเสียงซุบซิบ...ดังอืออึง!! แต่กลับไม่เข้าโสตประสาทของเอ็มม่าเลย เวลานี้หญิงสาวที่หยิ่งทะนง กำลังซวนเซ ภัยร้ายคืบคลานเข้ามาประชิดตัว จนแทบมองไม่เห็นทางหนีและมันเป็นสัญญาณบอกเธอเป็นในๆเรื่องที่เธอส่งให้แซกไปทำ...เหลวไม่เป็นท่าอีกครั้ง!!เรื่องช็อกวงการมายา...สะเทือนไปทั้งสังคมไฮโซ...กับข่าวฉาวของเอ็มม่า สจ๊วต...หลายข่าวกระหน่ำใส่เธอจนแทบจะต้องปิดกิจการหนี...ไม่ว่าจะสารพัดครีมที่หล่อนเป็นผู้ทำขึ้นมาจำหน่าย มีการตรวจพบสารปอร์ทปนเปื้อน แถมเบื้องหลังสถานความงามสวยหรู...คือความโสมมที่แอบแฝงอยู่ในสังคมไฮโซ... มีการค้ากามอยู่เบื้องหลัง และผู้ชายหลายคนที่เข้าไปใช้บริการต้องพากันสะดุ้ง!! เพราะแต่ละคนมีหน้ามีตา มีตำแหน่งในรัฐบาลค้ำคอ...พวกเขาจึงกลัวที่จะถูกแฉ และพลอยติดร่างแหไปด้วย
บทที่16.ทัณฑ์ยมทูต...“มันอยู่ไหน!” แมทธิวตะโกนเสียงแหลม ล้วงมัจจุราชสีเงินวาววับออกมาจากซอกเอว พลางขึ้นไกเสียงดัง ‘กริ๊ก’“นายครับ! ใจเย็นๆ ก่อนครับ” จาคอปเงยหน้าขึ้น เขารีบปรามเจ้านายเสียงอ่อนๆ“นั่นสิ...มันอยู่ไหน?” มาดามจูเลียเดินมายืนขนาบข้างหลานชาย นางเหลือบมองปืนในมือของอีกแมทธิวด้วยสายตาว่างเปล่าการ์ดหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ“จาคอป... มันอยู่ไหน!” แมทธิวเอ่ยถามอีกครั้ง พร้อมกับมองไปรอบๆ“ยะ อยู่ในโกดังครับ” การ์ดหนุ่มรู้สึกเสียวสันหลังวูบ กับความอำมหิตที่พวยพุ่งออกมาจากเจ้านายทั้งสองคน ไม่ว่าจะแมทธิว หรือมาดามผู้เฒ่า...ท่าทีเกรี้ยวกราดของหลานชายยังไม่เท่า ความสงบนิ่งของประมุขเฒ่าดีแลน นั่นหมายถึง...หากศัตรูที่รออยู่...ตอบคำถามไม่ถูกใจ มันคงตายแบบศพไม่สวย“นำกูไปจาคอป...กูอยากรู้แล้วล่ะ...ใครบงการมัน” แมทธิวยิ้มเหี้ยม เขาอยากรู้แล้วสิ...ว่าใครหน้าไหนที่กล้าลองดีกับดีแลน&ldq
เหมือนจะเป็นการเสียหน้า...ลูกสะใภ้หัวแข็งที่แม่สามีไม่โปรดรีบล้วงโทรศัพท์โทร. ออกทันควัน“คุณน้องคะ ที่สั่งใกล้เสร็จหรือยัง...คุณพี่อยากเซอร์ไพรส์หลานอายุใกล้ขวบแล้วล่ะ”ไม่ใช่มาดามจูเลียที่คิดการใหญ่เป็น นางคิดล่วงหน้าไว้นานแล้ว...ดังนั้น เครื่องเพชรที่นางสั่งน่าจะเสร็จก่อนประมุขเฒ่าเหมือนโดนลูบคม นางกำมือแน่น จ้องหน้าศรีสะใภ้ ด้วยแววตาขุ่นจัด“ไม่ต้องแล้วเอ็ดมันส์ ในเซฟฉัน น่าจะพอมีเพชรชุดเล็กๆ ไว้ให้แองเจิ้ลใส่เล่นแก้เหงา”เป็นการข่มกันในเชิง ระหว่างแม่ผัว กับลูกสะใภ้ โดยมีเด็กน้อยตาดำๆ เป็นคนกลาง โดยที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราว แค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีทั้งสร้อย ทั้งแหวนมากองตรงหน้า และคาดว่าในอนาคต แองเจลิน่าคงถูก สปอยจากสองผู้เฒ่า...ไม่น้อย...“แปะๆ”เด็กน้อยนั่งจุ่มปุก ตบมือเปาะแปะ มีมารดาคอยกำราบด้วยสายตา แต่ก็เหมือนเดิม...เด็กอายุไม่ถึงหนึ่งปี จะรู้อะไร...สาวใหญ่สองคนสะบัดหน้าใส่กัน แต่ไม่มีใครยอมถอยหลัง คอยพะนอแองเจลิน่า จนทิพยอาภาเหนื่อยใจแทน
หญิงสาวกรีดร้องเสียงแผ่วๆ ประจุไฟฟ้าในร่างกายแตกกระจัดกระจาย เธอขยับโยกจนเหงื่อโทรมกาย และกระโจนไปถึงฝั่งฝันก่อนแมทธิวจนได้ ชายหนุ่มรีบจับพลิกลำตัวอ่อนบางลงด้านล่าง เขาสาวบั้นเอวถี่ๆ กระทุ้งความแกร่งร้อนใส่ทิพยอาภาจนเรือนกายหล่อนสั่นสะเทือน พร้อมกับรีบปลดปล่อยเมล็ดพันธุ์ชีวิต สาดใส่กลีบดอกไม้ชุ่มน้ำจนเจิ่งนอง...“แอะ ๆ” เสียงแปลกๆ ทำให้เด็กน้อยที่เล่นคนเดียวส่งเสียงเรียกทิพยอาภาผลักอกสามี เธอโผเผไปหาบุตรสาว พร้อมกับรีบชะโงกหน้าไปให้แองเจลิน่าเห็น ก่อนที่บุตรสาวจะแผลงฤทธิ์เด็กน้อยยิ้มแฉ่งเมื่อเห็นคนคุ้นเคยในม่านตา...แมทธิวเดินมาทรุดใกล้ๆ เขาโอบทิพยอาภาไว้ ก่อนจะชะโงกหน้ากดจูบที่หน้าผากของบุตรสาว มือของชายหนุ่มลูบไล้อยู่ที่ข้างเอว...เมื่ออารมณ์หวามๆ ยังลอยเรี่ยอยู่รอบตัว“ไงคนสวย...อยากมีน้องมั้ย?”เขาเอ่ยปากถามลูก แต่กลับจ้องหน้าคนเป็นแม่“แอะๆ” เด็กหญิงโบกมือให้ว่อน ปากสีสดยิ้มย่อง ฉีกยิ้มจนเห็นฟันหมดทั้งปาก“หือ...ไม่เจอแค่ไม่กี่ชั่วโมง...ฟัน ‘ลูก’ ขึ้นอีกซี่แล้วนี่นาทิพ
บทที่15.ภัยร้ายรุกคืบ!!วอชิงตันดี.ซี. อเมริกา...“เป็นไงบ้างไท...แกสบายดีมั้ย?”ทิพยอาภายิ้มกว้าง เมื่อเพื่อรักต่อสายมาหาในเช้าวันหนึ่ง“ฉันสิต้องถามแก...แกเป็นไงบ้างทิพ ไอ้เวรนั่นมันกดขี่แกอีกหรือเปล่า?” ไทรีสถามกลับเสียงเคร่ง เขายังไม่ได้ตอบคำถามทิพยอาภา“ก็เรื่อยๆ นะ...ฉันสบายดี แกไม่ต้องเป็นห่วงไปหรอก” หญิงสาวเก็บความไม่สบายใจไว้ในอก...แมทธิวไม่ได้บีบบังคับอะไรเธอ เขาและเธอปรับความเข้าใจกันใหม่ สิ่งเดียวที่ชายหนุ่มทำเป็นกิจวัตร คือความปรารถนามากล้นที่โยนใส่และทิพยอาภาปฏิเสธไม่ได้ด้วยสิ เธอเองก็ชอบที่จะได้อยู่ในอ้อมแขนของเขา...สิ่งเดียวที่หนักอกเธออยู่ตอนนี้ ก็คือมาดามจูเลีย...ท่านยังไม่ยอมรับเธอ แต่ทิพยอาภาก็ไม่เคยต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ขอแค่ได้อุ้มชู ‘ลูก’ ไม่ต้องจำพรากกันเหมือนที่กลัว“แม่ผัวแกไม่เท่าไร พ่อผัวก็ด้วย...ที่น่ากลัวก็คงยังเป็นยายแก่นั่น”ไทรีสจีบปากพูด...ดีแลนแบ่งเป็นสองฝ่าย...ฝ่ายหนึ่งอ้าแข