บทที่3.กลิ่นนาง
แมทธิวตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา...เขาหลับยาวแบบที่ไม่เคยทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกดเหนือหว่างคิ้ว เขาสูดปากครางเบาๆ เพราะรู้สึกชาวาบไปทั้งท้องแขน ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมอง เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะเอื้อมมือผลักทิพยอาภาจนกระเด็น
“โอ๊ะ!!” หญิงสาวร้องเสียงหลง ความฝันแสนหวานหายวับไปกับตา เมื่อเธอฝันถึงงานวิวาห์ท่ามกลางความยินดีของคนรอบตัว
ทิพยอาภากอดตัวเองแน่น เธอควานมือจนพบผ้าห่มผืนใหญ่ หญิงสาวรั้งผ้าผืนนั้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะช้อนสายตาขลาดอายมอง ‘สามีทางพฤตินัย’ ของตัวเอง
แมทธิวจ้องคนแปลกหน้าตาถลน เขาก้มมองตัวเองก่อนจะสบถเสียงขุ่น
“พระเจ้า!!”
หลักฐานตรงหน้าขา...คือความอัปยศที่ชายหนุ่มแทบจะรับไม่ไหว
เขาหลับนอนกับหล่อนโดยปราศจากการป้องกันตัว หลักฐานที่เห็นทนโท่ คือคราบน้ำรักที่แห้งกรังติดอยู่ตรงอวัยวะเพศของเขาเอง
“เธอเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นเขียว
ทิพยอาภาก้มหน้าน้ำตาตก...เธอกัดริมฝีปากล่าง รู้สึกอับอายจนหน้าชา
“ฉันถามว่าเธอเป็นใคร!!” แมทธิวกรรโชกถามซ้ำ เขาฉวยกางเกงมาสวมลวกๆ กระโจนลงจากเตียงนอนเหมือนโดนไฟลนก้น
“ทิพ เอ่อ...ทิพ” หญิงสาวพยายามจะตอบ เธอมองชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตา แววตาเธอสั่นระริก ความหวาดกลัวแผ่ซ่านขึ้นทั่วหน่วยตา
“เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครพาเธอมา?” แมทธิวตะโกนก้อง มือเขาปัดไปโดนแจกันจนหล่นแตกดังเปรื่องปร้าง
เพล้ง!!
เพราะเสียงแจกันแตก จาคอปที่อยู่ด้านนอก จึงถลันวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นๆ
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” การ์ดร่างยักษ์กวาดตามองไปรอบๆ เขาระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้านายตามสัญชาตญาณ
“มาก็ดี...หล่อนเป็นใคร?” แมทธิวเสยผมแรงๆ เขาชี้นิ้วไปยังทิพยอาภาที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ตรงซอกเตียง
จาคอปปรายตามอง เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ก่อนตอบ สภาพหญิงสาวเท่าที่เห็น ไม่ต้องเดาก็พอรู้ หญิงสาวคงถูกแมทธิวปู้ยี่ปู้ยำจนไม่เหลือชิ้นดี
“เจ้านายให้ผมไปรับเธอมานี่ครับ”
การ์ดหนุ่มตอบไม่ตรงคำถาม...
แมทธิวหันขวับ!! เขาถลึงตามองการ์ดส่วนตัว สลับกับการมองทิพยอาภา
“Damn!!”
ชายหนุ่มสบถแล้วสบถอีก เขาเดินหมุนไป หมุนมา...รู้สึกปวดศีรษะซีกซ้าย จนเส้นเลือดข้างขมับเต้นตุ๊บๆ
“หึ!!”
แมทธิวทิ้งตัวนั่ง เขายกมือรองใต้คาง มองทิพยอาภาด้วยสายตาถมึงทึง...
“เธอต้องการอะไร?” ชายหนุ่มถามเสียงดังๆ
ทิพยอาภากะพริบเปลือกตาปริบๆ น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย เธอไม่เข้าใจคำถาม
“ฉันถาม...และเธอต้องตอบ...เธอต้องการอะไรกับการเสนอตัวให้ฉันครั้งนี้ ฉันเมาจนไม่มีสติ...เธอต้องการอะไรหะ...ถึงได้ถลกกระโปรงให้ฉันเอา!!”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงลั่น น้ำลายกระเซ็นกระสาย เมื่อแมทธิวฉุนขาด เขาโมโหสุดขีดจนหมดสิ้นการควบคุมตัว...
หญิงสาวอยากกลั้นใจตาย เธอเกือบเป็นลมเพราะความตกใจ
น้ำตาที่รินไหลหยุดชะงัก เธอไม่เข้าใจคำถาม...เธอไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาเลย...
“ไม่!! ทิพไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณค่ะ ทิพแค่มาขอบคุณ ที่คุณเมตตาส่งเสียจนทิพเรียนจบ”
ทิพยอาภาตอบเสียงแหบแห้ง เธอส่ายใบหน้า น้ำตาหยดแหมะๆ ดวงตาเธอแดงก่ำ เมื่อเจ็บรวดร้าวไปทั้งใจ กับสายตาหยามเหยียดที่มองมายังตัวเอง
“อ๋อ...เธอเลยสนองคุณฉัน ด้วยการกระโจนขึ้นเตียงฉันงั้นสิ!!” ชายหนุ่มครางยาวเหยียด เขาพูดด้วยเสียงน่าเกลียดที่สุดเท่าที่ทิพยอาภาเคยได้ยิน
น้ำตาของเธอไหลออกมาเงียบๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงสะอื้น
“ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ หากคิดว่าฉันจะรับผิดชอบเธอ เธอคิดผิด!! เธอจะไปร้องเร่แห่กระเซิงที่ไหนก็เชิญ!! แต่ฉันจะไม่รับผิดชอบใดทั้งสิ้น!! เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น มันเกิดเพราะความอยากของเธอ ฉันเมาปลิ้น!! ฉันปล้ำเธอไม่ได้หรอก ยกเว้นเธอยอมเอง”
แมทธิวแสยะยิ้มใส่ เขาหรี่ตามองหล่อน...ทิพยอาภาเหมือนเศษขยะ กลิ่นเหม็นเน่าของหล่อนน่าสะอิดสะเอียนจนเขาอยากสำรอก
หญิงสาวเผลอกัดกระพุ้งแก้ม...จนเลือดทะลัก รสชาติเฝื่อนๆ ในปากแผ่ไปทั้งอุ้งปาก เธอกลืนลิ่มเลือดนั่นลงไปลำคอ ช้อนสายตารวดร้าวมองสบนัยน์กระด้างดุดันของแมทธิว
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ทิพไม่ใช่คนเนรคุณ คุณจะไม่เดือดร้อนเพราะทิพแน่”
“ดี...”
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินปาดหน้าทิพยอาภา ฉวยสูทตัวเก่งขึ้นมาพาดไว้บนบ่า “จาคอปส่งหล่อนกลับไปที่เดิม ฉันหวังว่าหล่อนคงไม่ทำให้ฉันเดือดร้อนจริงๆ”
เขายิ้มเยาะหล่อน เดินกระแทกส้นเท้าปึงปังจากไป
จาคอปทอดสายตาเวทนามองหญิงสาวที่ก้มหน้านิ่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ
“แต่งตัวเถอะคุณ...ผมจะไปส่งคุณเอง”
มันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตไร้ค่าของทิพยอาภา....ถ้า เธอไม่ ‘ท้อง’ 1 เดือนต่อมา สิ่งที่ทิพยอาภากังวลใจก็เกิดขึ้น เธอย้ายออกจากหอพัก มาเช่าห้องเล็กๆ ในอาพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งอยู่ ออกหางานทำ และด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมเธอจึงได้งานทำในเวลาไม่นาน ทิพยอาภาหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอไม่เคยคิดที่จะฉวยโอกาสจากความผิดพลาดครั้งนั้น เมื่อสิ่งที่เธอใฝ่ฝันก็แค่ความปรารถนาของผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยากมีสักวันที่ได้นอนในอ้อมกอดของเขา...ฝันเธอเป็นจริง...แต่ความเป็นจริงโหดร้ายยิ่งกว่า...
หลังจากความสัมพันธ์ลึกซึ้ง...ส่งผลให้บางสิ่งอุบัติขึ้น
ทิพยอาภาเก็บความลับเงียบ เธอไม่เคยคิดบอกใคร และไม่เคยคิดร้องขอความช่วยเหลือจากแมทธิว
แต่เขารู้...
ในวันที่ฟ้าหม่นเพราะอากาศภายนอกมัวซัว เนื่องจากฟ้ามืดมิดจากกลุ่มเมฆสีดำ สัญญาณจากฟ้าก่อนที่สายฝนจะพร่างพรมลงบนพื้นโลก
แมทธิวยืนหันหลังให้ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ในอาพาร์ทเม้นของเธอเอง
เขาปรากฏตัวขึ้น...พร้อมกับเงามัจจุราช
“เอาออกซะ!!” คำบัญชาของเขา ไม่ใช่ความต้องการของเธอ กระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ระบุจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง สำหรับทำลายก้อนเนื้อที่เขาไม่ต้องการ สายเลือดที่เกิดบนความไม่ตั้งใจ
ทิพยอาภาก้มหน้านิ่ง เธอไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ และแมทธิวก็ชะล่าใจเกินไป เขาจากไป โดยคิดว่าทิพยอาภาคงไม่ทำให้เขาผิดหวัง
เปล่าเลย...ตรงกันข้าม...หญิงสาวไม่ได้ทำลายเลือดเนื้อก้อนนั้น หล่อนถนอมกล่อมเกลี้ยงสายเลือดในอกอย่างดี หล่อนเลือกที่จะหลบหน้าเขา ซ่อนตัวจากสายตามัจจุราช จนกระทั่งคลอดลูกออกมา
และหลังจากที่แมทธิวควานหาเธอจนเจอ เขาให้จาคอปรับเธอมาที่คฤหาสน์ดีแลน เพื่อตกลงอะไรบางอย่างกับเธอ
ทิพยอาภายิ้มหยันตัวเอง...เธอมองไปรอบตัวๆ นึกอิจฉาความเพียบพร้อมของแมทธิว...เขาเติบโตมาในบ้านที่ปลอดภัย มีอาหารกินครบสามมื้อ มีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องหวั่นไหวกับสายลมหนาวเหน็บ ไม่ต้องตะเกียกตะกายเพื่อหาเงินมาซื้ออาหารกินยังชีพ แล้วทำไมล่ะ? ทำไมถึงเพาะบ่มผู้ชายคนนั้นให้เป็นจอมวายร้าย เขาไร้คุณธรรม ไร้ความเมตตา แม้แต่สายเลือดในอก เขาก็ยังคิดจะกำจัดทิ้ง!!
“อริสๆ อยู่นี่เองคุณหนูตื่นแล้วนะ”
สวีตตี้ร้องบอก แองเจลิน่าตื่นขึ้นมา และเล่นคนเดียวเงียบๆ สวีตตี้มองเห็นผ่านทีวีวงจรปิด เธอจึงออกตามหาทิพยอาภา
หญิงสาวผุดลุกเร็วๆ เธอปัดฝุ่นที่ชายกระโปรงจนแน่ใจว่าสะอาด จึงกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ตรงไปยังห้องบุตรสาว
พลั่ก!!
แต่เพราะอารามรีบร้อน หญิงสาวจึงวิ่งหน้าตั้ง เธอไม่ทันมองให้แน่ใจ...ตรงมุมตึกที่ค่อนข้างอับสาย
และมันก็เกิดขึ้นจนได้ เธอชนใครบางคนจนกระเด็น ใครบางคนที่ว่าคือคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด!! ร่างผอมบางของเธอกระเด็นล้มลงไปกองที่พื้น มีคนตัวใหญ่ล้มทับอยู่ด้านบน
มือของเธอวางทาบอยู่บนแผ่นอกหนาๆ รีบหลับตาปี๋ และครางโอดโอย... “อูยยย...”
แมทธิวสบถ “เชี่ย!!” มันเป็นวันอภิมหาซวยหรือยังไง เขาเดินออกมาจากห้องนอนเพราะไม่ว่าจะข่มตาหลับยังไง เขาก็ไม่สามารถหลับได้ลง จึงออกมาเดินเล่น ไม่คิดว่าขาเจ้ากรรมจะพาเข้ามายังส่วนที่ไม่เคยเยี่ยมกรายมา ‘ปีกซ้ายของบ้านดีแลน’
“ขอโทษค่ะ...” หญิงสาวลนลานตอบ รีบกระถดตัวหนีลุกลน เมื่อมองเห็นว่าตัวเองเดินชนใครเข้า
“เดินให้มันดีหน่อย ดูทาง...ดูคนด้วย!!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็นติดดุนิดๆ รีบเดินจ้ำๆ หนีไป เมื่อรู้ตัวว่ามาผิดทาง
ทิพยอาภาเองก็เช่นกันเธอเผ่นแน่บ วิ่งจ้ำอ้าวแบบไม่เหลียวหลัง
เอะ!! แมทธิวชะงัก เขาหมุนตัวกลับมามองด้านหลัง แต่โถงทางเดินว่างเปล่าเสียแล้ว สาวใช้คนนั้นหายไป!!
กลิ่น...กลิ่นหอมอ่อน ๆ เตะจมูก เป็นกลิ่นคุ้นๆ ที่แมทธิวแน่ใจ...เขาเคยได้กลิ่นนี้จากใครบางคน
“บ้าชิป!!”
ชายหนุ่มยกขาวาดไปในอากาศ เขาเตะลมเตะแร้งระบายอารมณ์
ยกมือขึ้นเท้าสะเอวหมุนไปหมุนมาเหมือนคนคิดอะไรไม่ออก
แต่เขาแน่ใจทิพยอาภาเย้ายวนกว่าแม่สาวใช้สะตึ...รูปร่างผอมบางคนนั้น
เห็นจะไม่ได้การ...ในสมองของเขาคิดแต่เรื่องผู้หญิงคนนั้น จนวงจรชีวิตของเขาบิดเพี้ยน เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทุกอย่างกลับเข้ารูปรอยเดิม
“เฮ้!! คนสวย ไม่ทราบว่าวันนี้...พอจะมีเวลาว่างสักชั่วโมงให้ผมไหมครับ?” แมทธิวกดโทรศัพท์ เขาโทร. หาหนึ่งในคู่ควง ที่อาจจะเป็นตัวจริง เมื่อหล่อนมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นมาดามดีแลน หากชายหนุ่มคิดจะแต่งงาน
เอ็มม่า สจ๊วต ไฮโซสาวตัวแม่ ดีกรีของหล่อนร้อนแรงพอๆ กับรูปร่างสุดเซ็กซี่ ในวอชิงตันดี.ซี. ไม่มีใครไม่รู้จักหล่อน เมื่อเอ็มม่าเปิดสถานความงามครบวงจร เป็นแหล่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เดินเข้าไป เพื่อขจัดไขมันและพัฒนาบุคลิกให้ออกมางดงามลออตา
“คุณก็รู้นี่แมท สำหรับคุณ...เอ็มม่าว่างเสมอ” หล่อนตอบกลับเสียงหวานหยด
“ฮ่าๆ คุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังจริงๆ เอ็มม่าแล้วเจอกันครับ...1ทุ่มตรง...ผมจะไปรับ”
ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ ในบรรดาคู่ควงของแมทธิว เอ็มม่าดูจะเป็นคนที่เข้าใจง่ายที่สุด หล่อนไม่เคยเรียกร้อง หรือตามจิกอะไรจากเขาเลย แม้แต่ดอกไม้สักช่อ หล่อนก็ไม่เคยร้องขอ...
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยัดเก็บในกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิม...เขาเดินชมธรรมชาติ เมื่อพอจะอารมณ์ดีขึ้นแมทธิวขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าคฤหาสน์ดีแลนจะกว้างขวางขนาดนี้...ส่วนปีกซ้ายที่เขาไม่เคยเฉียดเข้ามาใกล้เต็มไปด้วยพรรณไม้สวยเยอะแยะไปหมด...แมทธิวจึงเปลี่ยนใจ เขาเดินตรงไปยังเรือนกระจก สถานที่โปรดปรานของมาดามแพชี่ และขณะนั้น นางกำลังนั่งจิบชาอยู่พอดี...มาดามสูงศักดิ์เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อมองเห็นลูกเลี้ยงหนุ่มเดินมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า“นั่งก่อนไหมคะ...คุณแมท?” นางผายมือให้ชายหนุ่มนั่ง พร้อมกับเอื้อมมือหยิบแก้วเซรามิกตรงหน้าเตรียมจะรินชาอุ่น ๆ ให้ชายหนุ่มทรุดนั่งแบบเสียไม่ได้...เขามองไปรอบๆ ตัว เหมือนอยากชมบรรดาพรรณไม้หนักหนาแมทธิวยกแก้วชาอุ่นๆ ขึ้นจิบ “เด็กนั่นล่ะ?” เขาถามหา ‘ลูก’ ที่ตัวเองยังไม่ยอมรับมาดามแพชี่คลี่ยิ้มอ่อนๆ แมทธิวกระด้างและเคร่งขรึม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเย็นชาถึงเนื้อใน“อริสกำลังพามาค่ะ...แองเจิ้ลน่ารัก...เลี้ยงง่ายนะ”นางตอบสั้นๆ เสจิ้มขนมของว่างใส่ปาก กันอาการประดักประ
“เอาสิ...ทำงานที่นี่ไม่สบายใจตรงไหน บอกฉันได้นะ”อาเธอร์ส่งหลานสาวตัวอ้วนจ้ำม่ำให้ทิพยอาภา ท่านกล่าวต่ออย่างมีเมตตา เมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังดูแลคนในดีแลน แถมเป็นคนสำคัญเสียด้วย เพราะหากแองเจลิน่าเป็นสายเลือดของแมทธิว นั่นย่อมหมายถึง...หลานของท่านคนนี้ จะเป็นหลานคนเดียว เมื่อตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุ ไม่ว่าจะเพียรพยายามทุ่มเทกำลังทรัพย์มากเท่าใด...ผลคือเหลว...เหมือนเบื้องบนกำหนดไว้ ดีแลนจะมีทายาทสืบต่อ แค่1 คนเท่านั้น“ค่ะ...” ทิพยอาภาตอบรับแบบสำรวม เธอช้อนอุ้มบุตรสาวแนบอก ยกผ้าซับน้ำลายมุมปากให้แองเจลิน่าอย่างอ่อนโยน“ลูกชายฉันผีเข้าผีออก ยังไงก็ระวังไว้บ้างล่ะ” อาเธอร์ยกแก้วชาขึ้นจิบ ท่านเปรยลอยๆเรื่องนี้ไม่ต้องบอก...ทิพยอาภาก็ทำให้เป็นความเคยชิน ที่ไหนมีแมทธิว...เธอจะจะเลี่ยงออกไปห่างๆ หากเป็นความบังเอิญแบบไม่ทันคาด เผ่นได้ เธอก็รีบเผ่นแบบไม่รอช้า...เพราะหากเธอพลาด หมายถึงชั่วชีวิตนี้ คงได้แต่มองแองเจลิน่าอยู่ห่างๆ แค่นั้นเอง“แอะๆ” เด็กน้อยเริ่มโยเย เพราะใกล้ถึงเวลานอน“คงง่วงแล้ว...พาไป
บทที่1.ของขวัญจากพระเจ้า1สัปดาห์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า...แมทธิว ดีแลนทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลดังฝั่งอเมริกาเขานั่งหน้าตึงท่ามกลางญาติสนิทที่มารวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ เนื่องจากคนในปกครองของชายหนุ่ม ‘เด็กสาว’ ที่เขาอุปการะไว้ หายตัวไปแบบลึกลับ...มีเพียงกระดาษชิ้นเล็กๆ ทิ้งไว้กับ ทารก!! เพศหญิงอีกหนึ่งคนยัยผู้หญิงบ้า...งี่เง่าที่เขาโอบอุ้มหล่อนตามคำสั่งคุณย่า แต่หล่อนดันตลบหลังเขา...มีพฤติกรรมที่ไม่น่าอภัย‘สำส่อน’ นิยามนี้เหมาะกับเด็กสาวใจแตกอย่าง ทิพยอาภา เลียม ที่สุด!!“จาคอป...เอาเด็กนี่ไปยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะ...ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันจะออกให้เอง แต่อย่าเอา ‘เด็ก’ มาทิ้งไว้ใกล้ตาฉัน ฉันยังไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาทุกคน” เสียงของแมทธิวดุดัน จนไม่มีใครกล้าปริปากท้วง ความคั่งแค้นปะปนมาในกระแสเสียง จนคนได้ยินยังสะท้านการ์ดหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาไม่กล้ามองสบนัยน์ตาใสแจ๋วของเด็กน้อยที่นอนมองตาแป๋ว...แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ชะตาชีวิตเด็กคนนี้จะเป็นเยี่ยงไร...การ์ดหนุ่มยกตะกร้าใบใหญ่...ที่ถูกทำเป็นเหมือนอู่นอนของเด็กน้อยคนนี้ มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ห้อยไว้ที่หูตะกร้าลายมือเป็นร
แต่มันไม่ได้จบแบบในนวนิยาย หนังสืออ่านเล่นที่เธอชอบอ่านก่อนนอนเจ้าชาย...ไม่มีจริงในโลกปัจจุบันแมทธิวเป็นเทพบุตรแค่เปลือก เนื้อในเขาเป็นจอมวายร้าย“เอาเด็กออก!!” คำบัญชาของเขา ตอนที่เธอบอกเขาเรื่องที่เธอ ‘ท้อง’เขาเย็นชายิ่งกว่าหิมะกลางฤดูหนาว ใจดำยิ่งกว่าสีของขนนกกาแมทธิวให้เธอทำลายเลือดก้อนหนึ่งของเขากับเธอ...แต่ ทิพยอาภาไม่ทำ!! ...เธอหลบหน้าหลบตาเขา แอบคลอดลูกและไม่ปริปากบอกเขาสักคำ เมื่อเขาไม่ต้องการ...เธอก็จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ด้วยสองมือ สองขาของผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่จบแค่นั้น...หากจอมวายร้ายอย่างเขาจะปล่อยผ่าน เมื่อเธอหายตัวไป แมทธิวกลับตามจนเจอ!! ...เขาให้จาคอปรับตัวเธอมาที่คฤหาสน์ดีแลน เพื่อตกลงกับเธอครั้งสุดท้าย...เมื่อแมทธิวบีบจนเธอไม่มีทางเดิน เธอก็ได้แต่หวังว่าคนในคฤหาสน์หลังนั้น จะยังพอมีความเมตตาหลงเหลืออยู่บ้าง ยังไงเสีย... แองเจลิน่าก็เป็นสายเลือดของ ดีแลน!! คนหนึ่ง...“จะเอาไงต่อ จะกลับบ้าน หรือจะหางานทำที่นี่?” เสียงของไทรีสปลุกความคิดล่องลอยของทิพยอาภากลับมาอยู่ที่เดิม“ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกไท ฉันจะกลับบ้าน”บ้านเกิดของแม่...บ้านที่เธอเหลือแค่ความทรงจำรางๆ เพร
บทที่2.คัดเลือกไทรีสพาเพื่อนรักออกเดินทางแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าจากแคลิฟอร์เนียไปยังวอชิงตันดี.ซี.เพื่อภารกิจสำคัญ!!ระหว่างที่รถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า คนขับชำเลืองมองคนข้างตัวบ่อยๆ เขาปล่อยมือจากการจับพวงมาลัยรถยนต์ ยื่นมือไปกุมมือของทิพยอาภาเอาไว้หลวมๆ เมื่อเขารู้ เพื่อนกำลังตื่นเต้นและหวาดกลัว...กับการเผชิญหน้ากับคนในตระกูลนั้น...“ไม่มีอะไรต้องกลัวนี่ทิพ แกกำลังจะไปหาลูก หากพลาดงานนี้... ยังไงเสีย...แกก็ได้เจอแองเจิ้ลอีกครั้ง”ชายหนุ่มปลอบขวัญ...ทิพยอาภามีเขาทั้งคน เขาไม่ปล่อยให้เพื่อนเดียวดายเพียงคนเดียวแน่ทิพยอาภาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ภายใต้กรอบแว่นหนา ๆ ดวงตาของเธอคลอขังไปด้วยน้ำร้อนๆ ที่ไหลเออขึ้นมาที่ขอบตา“ฉันรู้ แต่ฉันก็อดกลัวไม่ได้”“แกกลัวอะไร กลัวไอ้เวรนั่นเหรอ...เมื่อไรแกจะลืมมันได้สักทีหะ!!” ไทรีสกระแทกเสียงขุ่นขวาง ผู้ชายอย่าง แมทธิวไม่มีค่าควรจำ เขาเป็นอมนุษย์ หาใช่คนเหมือนคนอื่นๆ ใจเขาดำผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก ใครๆ ก็ชื่นชม ยกย
มาดามแพชี่พูดยิ้มๆ นางกอดกระชับหลานรักแน่นขึ้น เมื่อเจ้าตัวกำลังดิ้นรนจะไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าหน้าอกทิพยอาภาปวดหนึบ...เต่งเต้าของเธอเต้นตุ๊บๆ เหมือนอยากจะกลั่นน้ำนมออกมาให้บุตรสาวได้ดื่มกิน โชคดีที่เธอรู้ทันจึงเอาทิชชูยัดใส่ไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำนมของเธอที่ไหลออกมา คงทำให้ใครๆ ในที่นี้รู้ว่า เธอเพิ่งจะคลอดลูกไม่นาน“ขอดิฉันอุ้มคุณหนูได้ไหมคะ?”ทิพยอาภาช้อนสายตาขึ้นมองมาดามแพชี่ เสียงของเธอเกือบสั่นตอนที่ร้องขอมาดามคนที่สองตรองอย่างหนัก แต่เมื่อพิจารณาทิพยอาภาแล้ว หล่อนไม่น่ามีพิษภัย จึงยอมส่งแองเจลิน่าให้กับหญิงสาวเด็กน้อยโผเข้าใส่เมื่อได้มองสบตากับมารดา ใบหน้าเล็กซุกแนบอกอิ่ม มือป้อมๆ วางแนบเนินอก ปากอิ่มย้อยดูดจุ๊บจับ!! ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง...อิงใบหน้ากับอกอิ่มของคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แบบไม่หวงตัว สร้างความแปลกใจให้กับมาดามแพชี่เป็นอย่างมาก...นางมองทิพยอาภาซ้ำ...ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้ว ผมสั้นกุดไม่เป็นทรง แว่นตาอันใหญ่เทอะทะ...เสื้อผ้าหลวมโพลกจนไม่สามารถประเมินรูปร่างได้ แต่ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทางที่จะทำให้แมทธิวสนใจ
ปีกซ้ายของคฤหาสน์ดีแลน...ปีกขวาคือพื้นที่ส่วนตัวของมาดามจูเลียกับแมทธิว ดังนั้นปีกซ้ายทั้งแถบจึงเป็นพื้นที่ของอาเธอร์กับมาดามแพชี่ และเวลานี้อีกส่วนหนึ่งถูกกันเป็นของหลานสาวคนใหม่ของมาดามแพชี่...แองเจลิน่าทิพยอาภาเริ่มงานอย่างแข็งขัน เธอไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักทีที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวยี่สิบสี่ชั่วโมงคือความสุขของเธอ แม้จะแค่เพียงนั่งมองเงียบๆ“พักกินข้าวบ้างเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมไป” สวีตตี้เดินเข้ามากระซิบบอกด้วยความหวังดี หล่อนชะเง้อมองคุณหนูตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่บนแปลนอนยิ้มๆหญิงสาวพยักหน้ารับ...เธอเอื้อมมือดึงผ้าโปร่งๆ คลุมแปลไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันแมลงตัวเล็กๆ มากวนการนอนหลับของบุตรสาว เป็นความใส่ใจที่สวีตตี้แอบทึ่งในครัว...สถานที่พักผ่อนของสาวใช้…ทิพยอาภาก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานเงียบๆ เธอฟังเสียงคนอื่นคุย แต่ไม่ได้คิดจะไปร่วมวงสนทนา เมื่อต้องเก็บตัวป้องกันความผิดพลาด...“คุณแมทกลับมาเมื่อสักครู่...เธอเห็นเขายัง” สาวใช้วัยรุ่นรูปร่างอวบอัดกระซิบบอกเพื่อนวัยเด
“เอาสิ...ทำงานที่นี่ไม่สบายใจตรงไหน บอกฉันได้นะ”อาเธอร์ส่งหลานสาวตัวอ้วนจ้ำม่ำให้ทิพยอาภา ท่านกล่าวต่ออย่างมีเมตตา เมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังดูแลคนในดีแลน แถมเป็นคนสำคัญเสียด้วย เพราะหากแองเจลิน่าเป็นสายเลือดของแมทธิว นั่นย่อมหมายถึง...หลานของท่านคนนี้ จะเป็นหลานคนเดียว เมื่อตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุ ไม่ว่าจะเพียรพยายามทุ่มเทกำลังทรัพย์มากเท่าใด...ผลคือเหลว...เหมือนเบื้องบนกำหนดไว้ ดีแลนจะมีทายาทสืบต่อ แค่1 คนเท่านั้น“ค่ะ...” ทิพยอาภาตอบรับแบบสำรวม เธอช้อนอุ้มบุตรสาวแนบอก ยกผ้าซับน้ำลายมุมปากให้แองเจลิน่าอย่างอ่อนโยน“ลูกชายฉันผีเข้าผีออก ยังไงก็ระวังไว้บ้างล่ะ” อาเธอร์ยกแก้วชาขึ้นจิบ ท่านเปรยลอยๆเรื่องนี้ไม่ต้องบอก...ทิพยอาภาก็ทำให้เป็นความเคยชิน ที่ไหนมีแมทธิว...เธอจะจะเลี่ยงออกไปห่างๆ หากเป็นความบังเอิญแบบไม่ทันคาด เผ่นได้ เธอก็รีบเผ่นแบบไม่รอช้า...เพราะหากเธอพลาด หมายถึงชั่วชีวิตนี้ คงได้แต่มองแองเจลิน่าอยู่ห่างๆ แค่นั้นเอง“แอะๆ” เด็กน้อยเริ่มโยเย เพราะใกล้ถึงเวลานอน“คงง่วงแล้ว...พาไป
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยัดเก็บในกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิม...เขาเดินชมธรรมชาติ เมื่อพอจะอารมณ์ดีขึ้นแมทธิวขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าคฤหาสน์ดีแลนจะกว้างขวางขนาดนี้...ส่วนปีกซ้ายที่เขาไม่เคยเฉียดเข้ามาใกล้เต็มไปด้วยพรรณไม้สวยเยอะแยะไปหมด...แมทธิวจึงเปลี่ยนใจ เขาเดินตรงไปยังเรือนกระจก สถานที่โปรดปรานของมาดามแพชี่ และขณะนั้น นางกำลังนั่งจิบชาอยู่พอดี...มาดามสูงศักดิ์เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อมองเห็นลูกเลี้ยงหนุ่มเดินมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า“นั่งก่อนไหมคะ...คุณแมท?” นางผายมือให้ชายหนุ่มนั่ง พร้อมกับเอื้อมมือหยิบแก้วเซรามิกตรงหน้าเตรียมจะรินชาอุ่น ๆ ให้ชายหนุ่มทรุดนั่งแบบเสียไม่ได้...เขามองไปรอบๆ ตัว เหมือนอยากชมบรรดาพรรณไม้หนักหนาแมทธิวยกแก้วชาอุ่นๆ ขึ้นจิบ “เด็กนั่นล่ะ?” เขาถามหา ‘ลูก’ ที่ตัวเองยังไม่ยอมรับมาดามแพชี่คลี่ยิ้มอ่อนๆ แมทธิวกระด้างและเคร่งขรึม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเย็นชาถึงเนื้อใน“อริสกำลังพามาค่ะ...แองเจิ้ลน่ารัก...เลี้ยงง่ายนะ”นางตอบสั้นๆ เสจิ้มขนมของว่างใส่ปาก กันอาการประดักประ
บทที่3.กลิ่นนางแมทธิวตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา...เขาหลับยาวแบบที่ไม่เคยทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกดเหนือหว่างคิ้ว เขาสูดปากครางเบาๆ เพราะรู้สึกชาวาบไปทั้งท้องแขน ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมอง เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะเอื้อมมือผลักทิพยอาภาจนกระเด็น“โอ๊ะ!!” หญิงสาวร้องเสียงหลง ความฝันแสนหวานหายวับไปกับตา เมื่อเธอฝันถึงงานวิวาห์ท่ามกลางความยินดีของคนรอบตัวทิพยอาภากอดตัวเองแน่น เธอควานมือจนพบผ้าห่มผืนใหญ่ หญิงสาวรั้งผ้าผืนนั้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะช้อนสายตาขลาดอายมอง ‘สามีทางพฤตินัย’ ของตัวเองแมทธิวจ้องคนแปลกหน้าตาถลน เขาก้มมองตัวเองก่อนจะสบถเสียงขุ่น“พระเจ้า!!”หลักฐานตรงหน้าขา...คือความอัปยศที่ชายหนุ่มแทบจะรับไม่ไหวเขาหลับนอนกับหล่อนโดยปราศจากการป้องกันตัว หลักฐานที่เห็นทนโท่ คือคราบน้ำรักที่แห้งกรังติดอยู่ตรงอวัยวะเพศของเขาเอง“เธอเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นเขียวทิพยอาภาก้มหน้าน้ำตาตก...เธอกัดริมฝีปากล่าง รู้สึ
ปีกซ้ายของคฤหาสน์ดีแลน...ปีกขวาคือพื้นที่ส่วนตัวของมาดามจูเลียกับแมทธิว ดังนั้นปีกซ้ายทั้งแถบจึงเป็นพื้นที่ของอาเธอร์กับมาดามแพชี่ และเวลานี้อีกส่วนหนึ่งถูกกันเป็นของหลานสาวคนใหม่ของมาดามแพชี่...แองเจลิน่าทิพยอาภาเริ่มงานอย่างแข็งขัน เธอไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยสักทีที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับบุตรสาวยี่สิบสี่ชั่วโมงคือความสุขของเธอ แม้จะแค่เพียงนั่งมองเงียบๆ“พักกินข้าวบ้างเถอะ เดี๋ยวจะเป็นลมไป” สวีตตี้เดินเข้ามากระซิบบอกด้วยความหวังดี หล่อนชะเง้อมองคุณหนูตัวน้อยที่หลับสนิทอยู่บนแปลนอนยิ้มๆหญิงสาวพยักหน้ารับ...เธอเอื้อมมือดึงผ้าโปร่งๆ คลุมแปลไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันแมลงตัวเล็กๆ มากวนการนอนหลับของบุตรสาว เป็นความใส่ใจที่สวีตตี้แอบทึ่งในครัว...สถานที่พักผ่อนของสาวใช้…ทิพยอาภาก้มหน้าก้มตากินข้าวในจานเงียบๆ เธอฟังเสียงคนอื่นคุย แต่ไม่ได้คิดจะไปร่วมวงสนทนา เมื่อต้องเก็บตัวป้องกันความผิดพลาด...“คุณแมทกลับมาเมื่อสักครู่...เธอเห็นเขายัง” สาวใช้วัยรุ่นรูปร่างอวบอัดกระซิบบอกเพื่อนวัยเด
มาดามแพชี่พูดยิ้มๆ นางกอดกระชับหลานรักแน่นขึ้น เมื่อเจ้าตัวกำลังดิ้นรนจะไปหาคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าหน้าอกทิพยอาภาปวดหนึบ...เต่งเต้าของเธอเต้นตุ๊บๆ เหมือนอยากจะกลั่นน้ำนมออกมาให้บุตรสาวได้ดื่มกิน โชคดีที่เธอรู้ทันจึงเอาทิชชูยัดใส่ไว้ ไม่อย่างนั้นน้ำนมของเธอที่ไหลออกมา คงทำให้ใครๆ ในที่นี้รู้ว่า เธอเพิ่งจะคลอดลูกไม่นาน“ขอดิฉันอุ้มคุณหนูได้ไหมคะ?”ทิพยอาภาช้อนสายตาขึ้นมองมาดามแพชี่ เสียงของเธอเกือบสั่นตอนที่ร้องขอมาดามคนที่สองตรองอย่างหนัก แต่เมื่อพิจารณาทิพยอาภาแล้ว หล่อนไม่น่ามีพิษภัย จึงยอมส่งแองเจลิน่าให้กับหญิงสาวเด็กน้อยโผเข้าใส่เมื่อได้มองสบตากับมารดา ใบหน้าเล็กซุกแนบอกอิ่ม มือป้อมๆ วางแนบเนินอก ปากอิ่มย้อยดูดจุ๊บจับ!! ก่อนที่เปลือกตาจะปิดลง...อิงใบหน้ากับอกอิ่มของคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก แบบไม่หวงตัว สร้างความแปลกใจให้กับมาดามแพชี่เป็นอย่างมาก...นางมองทิพยอาภาซ้ำ...ผู้หญิงหน้าตาขี้ริ้ว ผมสั้นกุดไม่เป็นทรง แว่นตาอันใหญ่เทอะทะ...เสื้อผ้าหลวมโพลกจนไม่สามารถประเมินรูปร่างได้ แต่ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีทางที่จะทำให้แมทธิวสนใจ
บทที่2.คัดเลือกไทรีสพาเพื่อนรักออกเดินทางแต่เช้าตรู่ มุ่งหน้าจากแคลิฟอร์เนียไปยังวอชิงตันดี.ซี.เพื่อภารกิจสำคัญ!!ระหว่างที่รถยนต์เคลื่อนที่ไปข้างหน้า คนขับชำเลืองมองคนข้างตัวบ่อยๆ เขาปล่อยมือจากการจับพวงมาลัยรถยนต์ ยื่นมือไปกุมมือของทิพยอาภาเอาไว้หลวมๆ เมื่อเขารู้ เพื่อนกำลังตื่นเต้นและหวาดกลัว...กับการเผชิญหน้ากับคนในตระกูลนั้น...“ไม่มีอะไรต้องกลัวนี่ทิพ แกกำลังจะไปหาลูก หากพลาดงานนี้... ยังไงเสีย...แกก็ได้เจอแองเจิ้ลอีกครั้ง”ชายหนุ่มปลอบขวัญ...ทิพยอาภามีเขาทั้งคน เขาไม่ปล่อยให้เพื่อนเดียวดายเพียงคนเดียวแน่ทิพยอาภาเงยหน้าขึ้นมองเพื่อน ภายใต้กรอบแว่นหนา ๆ ดวงตาของเธอคลอขังไปด้วยน้ำร้อนๆ ที่ไหลเออขึ้นมาที่ขอบตา“ฉันรู้ แต่ฉันก็อดกลัวไม่ได้”“แกกลัวอะไร กลัวไอ้เวรนั่นเหรอ...เมื่อไรแกจะลืมมันได้สักทีหะ!!” ไทรีสกระแทกเสียงขุ่นขวาง ผู้ชายอย่าง แมทธิวไม่มีค่าควรจำ เขาเป็นอมนุษย์ หาใช่คนเหมือนคนอื่นๆ ใจเขาดำผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก ใครๆ ก็ชื่นชม ยกย
แต่มันไม่ได้จบแบบในนวนิยาย หนังสืออ่านเล่นที่เธอชอบอ่านก่อนนอนเจ้าชาย...ไม่มีจริงในโลกปัจจุบันแมทธิวเป็นเทพบุตรแค่เปลือก เนื้อในเขาเป็นจอมวายร้าย“เอาเด็กออก!!” คำบัญชาของเขา ตอนที่เธอบอกเขาเรื่องที่เธอ ‘ท้อง’เขาเย็นชายิ่งกว่าหิมะกลางฤดูหนาว ใจดำยิ่งกว่าสีของขนนกกาแมทธิวให้เธอทำลายเลือดก้อนหนึ่งของเขากับเธอ...แต่ ทิพยอาภาไม่ทำ!! ...เธอหลบหน้าหลบตาเขา แอบคลอดลูกและไม่ปริปากบอกเขาสักคำ เมื่อเขาไม่ต้องการ...เธอก็จะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง ด้วยสองมือ สองขาของผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่จบแค่นั้น...หากจอมวายร้ายอย่างเขาจะปล่อยผ่าน เมื่อเธอหายตัวไป แมทธิวกลับตามจนเจอ!! ...เขาให้จาคอปรับตัวเธอมาที่คฤหาสน์ดีแลน เพื่อตกลงกับเธอครั้งสุดท้าย...เมื่อแมทธิวบีบจนเธอไม่มีทางเดิน เธอก็ได้แต่หวังว่าคนในคฤหาสน์หลังนั้น จะยังพอมีความเมตตาหลงเหลืออยู่บ้าง ยังไงเสีย... แองเจลิน่าก็เป็นสายเลือดของ ดีแลน!! คนหนึ่ง...“จะเอาไงต่อ จะกลับบ้าน หรือจะหางานทำที่นี่?” เสียงของไทรีสปลุกความคิดล่องลอยของทิพยอาภากลับมาอยู่ที่เดิม“ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอกไท ฉันจะกลับบ้าน”บ้านเกิดของแม่...บ้านที่เธอเหลือแค่ความทรงจำรางๆ เพร
บทที่1.ของขวัญจากพระเจ้า1สัปดาห์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า...แมทธิว ดีแลนทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลดังฝั่งอเมริกาเขานั่งหน้าตึงท่ามกลางญาติสนิทที่มารวมตัวกันในห้องโถงใหญ่ของคฤหาสน์ เนื่องจากคนในปกครองของชายหนุ่ม ‘เด็กสาว’ ที่เขาอุปการะไว้ หายตัวไปแบบลึกลับ...มีเพียงกระดาษชิ้นเล็กๆ ทิ้งไว้กับ ทารก!! เพศหญิงอีกหนึ่งคนยัยผู้หญิงบ้า...งี่เง่าที่เขาโอบอุ้มหล่อนตามคำสั่งคุณย่า แต่หล่อนดันตลบหลังเขา...มีพฤติกรรมที่ไม่น่าอภัย‘สำส่อน’ นิยามนี้เหมาะกับเด็กสาวใจแตกอย่าง ทิพยอาภา เลียม ที่สุด!!“จาคอป...เอาเด็กนี่ไปยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าซะ...ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฉันจะออกให้เอง แต่อย่าเอา ‘เด็ก’ มาทิ้งไว้ใกล้ตาฉัน ฉันยังไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาทุกคน” เสียงของแมทธิวดุดัน จนไม่มีใครกล้าปริปากท้วง ความคั่งแค้นปะปนมาในกระแสเสียง จนคนได้ยินยังสะท้านการ์ดหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ เขาไม่กล้ามองสบนัยน์ตาใสแจ๋วของเด็กน้อยที่นอนมองตาแป๋ว...แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว ชะตาชีวิตเด็กคนนี้จะเป็นเยี่ยงไร...การ์ดหนุ่มยกตะกร้าใบใหญ่...ที่ถูกทำเป็นเหมือนอู่นอนของเด็กน้อยคนนี้ มีกระดาษแผ่นเล็กๆ ห้อยไว้ที่หูตะกร้าลายมือเป็นร