บทที่3.กลิ่นนาง
แมทธิวตื่นขึ้นมาในเช้าวันต่อมา...เขาหลับยาวแบบที่ไม่เคยทำ ชายหนุ่มยกมือขึ้นกดเหนือหว่างคิ้ว เขาสูดปากครางเบาๆ เพราะรู้สึกชาวาบไปทั้งท้องแขน ชายหนุ่มผงกศีรษะขึ้นมอง เขาขมวดคิ้ว ก่อนจะเอื้อมมือผลักทิพยอาภาจนกระเด็น
“โอ๊ะ!!” หญิงสาวร้องเสียงหลง ความฝันแสนหวานหายวับไปกับตา เมื่อเธอฝันถึงงานวิวาห์ท่ามกลางความยินดีของคนรอบตัว
ทิพยอาภากอดตัวเองแน่น เธอควานมือจนพบผ้าห่มผืนใหญ่ หญิงสาวรั้งผ้าผืนนั้นมาปกปิดร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะช้อนสายตาขลาดอายมอง ‘สามีทางพฤตินัย’ ของตัวเอง
แมทธิวจ้องคนแปลกหน้าตาถลน เขาก้มมองตัวเองก่อนจะสบถเสียงขุ่น
“พระเจ้า!!”
หลักฐานตรงหน้าขา...คือความอัปยศที่ชายหนุ่มแทบจะรับไม่ไหว
เขาหลับนอนกับหล่อนโดยปราศจากการป้องกันตัว หลักฐานที่เห็นทนโท่ คือคราบน้ำรักที่แห้งกรังติดอยู่ตรงอวัยวะเพศของเขาเอง
“เธอเป็นใคร?” ชายหนุ่มถามเสียงขุ่นเขียว
ทิพยอาภาก้มหน้าน้ำตาตก...เธอกัดริมฝีปากล่าง รู้สึกอับอายจนหน้าชา
“ฉันถามว่าเธอเป็นใคร!!” แมทธิวกรรโชกถามซ้ำ เขาฉวยกางเกงมาสวมลวกๆ กระโจนลงจากเตียงนอนเหมือนโดนไฟลนก้น
“ทิพ เอ่อ...ทิพ” หญิงสาวพยายามจะตอบ เธอมองชายหนุ่มผ่านม่านน้ำตา แววตาเธอสั่นระริก ความหวาดกลัวแผ่ซ่านขึ้นทั่วหน่วยตา
“เธออยู่ที่นี่ได้ยังไง ใครพาเธอมา?” แมทธิวตะโกนก้อง มือเขาปัดไปโดนแจกันจนหล่นแตกดังเปรื่องปร้าง
เพล้ง!!
เพราะเสียงแจกันแตก จาคอปที่อยู่ด้านนอก จึงถลันวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นๆ
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” การ์ดร่างยักษ์กวาดตามองไปรอบๆ เขาระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเจ้านายตามสัญชาตญาณ
“มาก็ดี...หล่อนเป็นใคร?” แมทธิวเสยผมแรงๆ เขาชี้นิ้วไปยังทิพยอาภาที่นั่งสะอื้นไห้อยู่ตรงซอกเตียง
จาคอปปรายตามอง เขากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ ก่อนตอบ สภาพหญิงสาวเท่าที่เห็น ไม่ต้องเดาก็พอรู้ หญิงสาวคงถูกแมทธิวปู้ยี่ปู้ยำจนไม่เหลือชิ้นดี
“เจ้านายให้ผมไปรับเธอมานี่ครับ”
การ์ดหนุ่มตอบไม่ตรงคำถาม...
แมทธิวหันขวับ!! เขาถลึงตามองการ์ดส่วนตัว สลับกับการมองทิพยอาภา
“Damn!!”
ชายหนุ่มสบถแล้วสบถอีก เขาเดินหมุนไป หมุนมา...รู้สึกปวดศีรษะซีกซ้าย จนเส้นเลือดข้างขมับเต้นตุ๊บๆ
“หึ!!”
แมทธิวทิ้งตัวนั่ง เขายกมือรองใต้คาง มองทิพยอาภาด้วยสายตาถมึงทึง...
“เธอต้องการอะไร?” ชายหนุ่มถามเสียงดังๆ
ทิพยอาภากะพริบเปลือกตาปริบๆ น้ำตายังคงไหลรินไม่ขาดสาย เธอไม่เข้าใจคำถาม
“ฉันถาม...และเธอต้องตอบ...เธอต้องการอะไรกับการเสนอตัวให้ฉันครั้งนี้ ฉันเมาจนไม่มีสติ...เธอต้องการอะไรหะ...ถึงได้ถลกกระโปรงให้ฉันเอา!!”
ชายหนุ่มตะโกนเสียงลั่น น้ำลายกระเซ็นกระสาย เมื่อแมทธิวฉุนขาด เขาโมโหสุดขีดจนหมดสิ้นการควบคุมตัว...
หญิงสาวอยากกลั้นใจตาย เธอเกือบเป็นลมเพราะความตกใจ
น้ำตาที่รินไหลหยุดชะงัก เธอไม่เข้าใจคำถาม...เธอไม่ได้ต้องการอะไรจากเขาเลย...
“ไม่!! ทิพไม่ได้ต้องการอะไรจากคุณค่ะ ทิพแค่มาขอบคุณ ที่คุณเมตตาส่งเสียจนทิพเรียนจบ”
ทิพยอาภาตอบเสียงแหบแห้ง เธอส่ายใบหน้า น้ำตาหยดแหมะๆ ดวงตาเธอแดงก่ำ เมื่อเจ็บรวดร้าวไปทั้งใจ กับสายตาหยามเหยียดที่มองมายังตัวเอง
“อ๋อ...เธอเลยสนองคุณฉัน ด้วยการกระโจนขึ้นเตียงฉันงั้นสิ!!” ชายหนุ่มครางยาวเหยียด เขาพูดด้วยเสียงน่าเกลียดที่สุดเท่าที่ทิพยอาภาเคยได้ยิน
น้ำตาของเธอไหลออกมาเงียบๆ อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่มีเสียงสะอื้น
“ฉันบอกไว้ก่อนเลยนะ หากคิดว่าฉันจะรับผิดชอบเธอ เธอคิดผิด!! เธอจะไปร้องเร่แห่กระเซิงที่ไหนก็เชิญ!! แต่ฉันจะไม่รับผิดชอบใดทั้งสิ้น!! เพราะสิ่งที่เกิดขึ้น มันเกิดเพราะความอยากของเธอ ฉันเมาปลิ้น!! ฉันปล้ำเธอไม่ได้หรอก ยกเว้นเธอยอมเอง”
แมทธิวแสยะยิ้มใส่ เขาหรี่ตามองหล่อน...ทิพยอาภาเหมือนเศษขยะ กลิ่นเหม็นเน่าของหล่อนน่าสะอิดสะเอียนจนเขาอยากสำรอก
หญิงสาวเผลอกัดกระพุ้งแก้ม...จนเลือดทะลัก รสชาติเฝื่อนๆ ในปากแผ่ไปทั้งอุ้งปาก เธอกลืนลิ่มเลือดนั่นลงไปลำคอ ช้อนสายตารวดร้าวมองสบนัยน์กระด้างดุดันของแมทธิว
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ทิพไม่ใช่คนเนรคุณ คุณจะไม่เดือดร้อนเพราะทิพแน่”
“ดี...”
ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินปาดหน้าทิพยอาภา ฉวยสูทตัวเก่งขึ้นมาพาดไว้บนบ่า “จาคอปส่งหล่อนกลับไปที่เดิม ฉันหวังว่าหล่อนคงไม่ทำให้ฉันเดือดร้อนจริงๆ”
เขายิ้มเยาะหล่อน เดินกระแทกส้นเท้าปึงปังจากไป
จาคอปทอดสายตาเวทนามองหญิงสาวที่ก้มหน้านิ่งร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ
“แต่งตัวเถอะคุณ...ผมจะไปส่งคุณเอง”
มันคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับชีวิตไร้ค่าของทิพยอาภา....ถ้า เธอไม่ ‘ท้อง’ 1 เดือนต่อมา สิ่งที่ทิพยอาภากังวลใจก็เกิดขึ้น เธอย้ายออกจากหอพัก มาเช่าห้องเล็กๆ ในอาพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งอยู่ ออกหางานทำ และด้วยผลการเรียนดีเยี่ยมเธอจึงได้งานทำในเวลาไม่นาน ทิพยอาภาหวังที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เธอไม่เคยคิดที่จะฉวยโอกาสจากความผิดพลาดครั้งนั้น เมื่อสิ่งที่เธอใฝ่ฝันก็แค่ความปรารถนาของผู้หญิงคนหนึ่ง เธออยากมีสักวันที่ได้นอนในอ้อมกอดของเขา...ฝันเธอเป็นจริง...แต่ความเป็นจริงโหดร้ายยิ่งกว่า...
หลังจากความสัมพันธ์ลึกซึ้ง...ส่งผลให้บางสิ่งอุบัติขึ้น
ทิพยอาภาเก็บความลับเงียบ เธอไม่เคยคิดบอกใคร และไม่เคยคิดร้องขอความช่วยเหลือจากแมทธิว
แต่เขารู้...
ในวันที่ฟ้าหม่นเพราะอากาศภายนอกมัวซัว เนื่องจากฟ้ามืดมิดจากกลุ่มเมฆสีดำ สัญญาณจากฟ้าก่อนที่สายฝนจะพร่างพรมลงบนพื้นโลก
แมทธิวยืนหันหลังให้ เขามองออกไปนอกหน้าต่าง ในอาพาร์ทเม้นของเธอเอง
เขาปรากฏตัวขึ้น...พร้อมกับเงามัจจุราช
“เอาออกซะ!!” คำบัญชาของเขา ไม่ใช่ความต้องการของเธอ กระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ระบุจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง สำหรับทำลายก้อนเนื้อที่เขาไม่ต้องการ สายเลือดที่เกิดบนความไม่ตั้งใจ
ทิพยอาภาก้มหน้านิ่ง เธอไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ และแมทธิวก็ชะล่าใจเกินไป เขาจากไป โดยคิดว่าทิพยอาภาคงไม่ทำให้เขาผิดหวัง
เปล่าเลย...ตรงกันข้าม...หญิงสาวไม่ได้ทำลายเลือดเนื้อก้อนนั้น หล่อนถนอมกล่อมเกลี้ยงสายเลือดในอกอย่างดี หล่อนเลือกที่จะหลบหน้าเขา ซ่อนตัวจากสายตามัจจุราช จนกระทั่งคลอดลูกออกมา
และหลังจากที่แมทธิวควานหาเธอจนเจอ เขาให้จาคอปรับเธอมาที่คฤหาสน์ดีแลน เพื่อตกลงอะไรบางอย่างกับเธอ
ทิพยอาภายิ้มหยันตัวเอง...เธอมองไปรอบตัวๆ นึกอิจฉาความเพียบพร้อมของแมทธิว...เขาเติบโตมาในบ้านที่ปลอดภัย มีอาหารกินครบสามมื้อ มีที่นอนอุ่นๆ ไม่ต้องหวั่นไหวกับสายลมหนาวเหน็บ ไม่ต้องตะเกียกตะกายเพื่อหาเงินมาซื้ออาหารกินยังชีพ แล้วทำไมล่ะ? ทำไมถึงเพาะบ่มผู้ชายคนนั้นให้เป็นจอมวายร้าย เขาไร้คุณธรรม ไร้ความเมตตา แม้แต่สายเลือดในอก เขาก็ยังคิดจะกำจัดทิ้ง!!
“อริสๆ อยู่นี่เองคุณหนูตื่นแล้วนะ”
สวีตตี้ร้องบอก แองเจลิน่าตื่นขึ้นมา และเล่นคนเดียวเงียบๆ สวีตตี้มองเห็นผ่านทีวีวงจรปิด เธอจึงออกตามหาทิพยอาภา
หญิงสาวผุดลุกเร็วๆ เธอปัดฝุ่นที่ชายกระโปรงจนแน่ใจว่าสะอาด จึงกึ่งวิ่งกึ่งเดิน ตรงไปยังห้องบุตรสาว
พลั่ก!!
แต่เพราะอารามรีบร้อน หญิงสาวจึงวิ่งหน้าตั้ง เธอไม่ทันมองให้แน่ใจ...ตรงมุมตึกที่ค่อนข้างอับสาย
และมันก็เกิดขึ้นจนได้ เธอชนใครบางคนจนกระเด็น ใครบางคนที่ว่าคือคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด!! ร่างผอมบางของเธอกระเด็นล้มลงไปกองที่พื้น มีคนตัวใหญ่ล้มทับอยู่ด้านบน
มือของเธอวางทาบอยู่บนแผ่นอกหนาๆ รีบหลับตาปี๋ และครางโอดโอย... “อูยยย...”
แมทธิวสบถ “เชี่ย!!” มันเป็นวันอภิมหาซวยหรือยังไง เขาเดินออกมาจากห้องนอนเพราะไม่ว่าจะข่มตาหลับยังไง เขาก็ไม่สามารถหลับได้ลง จึงออกมาเดินเล่น ไม่คิดว่าขาเจ้ากรรมจะพาเข้ามายังส่วนที่ไม่เคยเยี่ยมกรายมา ‘ปีกซ้ายของบ้านดีแลน’
“ขอโทษค่ะ...” หญิงสาวลนลานตอบ รีบกระถดตัวหนีลุกลน เมื่อมองเห็นว่าตัวเองเดินชนใครเข้า
“เดินให้มันดีหน่อย ดูทาง...ดูคนด้วย!!” ชายหนุ่มกล่าวเสียงเย็นติดดุนิดๆ รีบเดินจ้ำๆ หนีไป เมื่อรู้ตัวว่ามาผิดทาง
ทิพยอาภาเองก็เช่นกันเธอเผ่นแน่บ วิ่งจ้ำอ้าวแบบไม่เหลียวหลัง
เอะ!! แมทธิวชะงัก เขาหมุนตัวกลับมามองด้านหลัง แต่โถงทางเดินว่างเปล่าเสียแล้ว สาวใช้คนนั้นหายไป!!
กลิ่น...กลิ่นหอมอ่อน ๆ เตะจมูก เป็นกลิ่นคุ้นๆ ที่แมทธิวแน่ใจ...เขาเคยได้กลิ่นนี้จากใครบางคน
“บ้าชิป!!”
ชายหนุ่มยกขาวาดไปในอากาศ เขาเตะลมเตะแร้งระบายอารมณ์
ยกมือขึ้นเท้าสะเอวหมุนไปหมุนมาเหมือนคนคิดอะไรไม่ออก
แต่เขาแน่ใจทิพยอาภาเย้ายวนกว่าแม่สาวใช้สะตึ...รูปร่างผอมบางคนนั้น
เห็นจะไม่ได้การ...ในสมองของเขาคิดแต่เรื่องผู้หญิงคนนั้น จนวงจรชีวิตของเขาบิดเพี้ยน เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ทุกอย่างกลับเข้ารูปรอยเดิม
“เฮ้!! คนสวย ไม่ทราบว่าวันนี้...พอจะมีเวลาว่างสักชั่วโมงให้ผมไหมครับ?” แมทธิวกดโทรศัพท์ เขาโทร. หาหนึ่งในคู่ควง ที่อาจจะเป็นตัวจริง เมื่อหล่อนมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเป็นมาดามดีแลน หากชายหนุ่มคิดจะแต่งงาน
เอ็มม่า สจ๊วต ไฮโซสาวตัวแม่ ดีกรีของหล่อนร้อนแรงพอๆ กับรูปร่างสุดเซ็กซี่ ในวอชิงตันดี.ซี. ไม่มีใครไม่รู้จักหล่อน เมื่อเอ็มม่าเปิดสถานความงามครบวงจร เป็นแหล่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เดินเข้าไป เพื่อขจัดไขมันและพัฒนาบุคลิกให้ออกมางดงามลออตา
“คุณก็รู้นี่แมท สำหรับคุณ...เอ็มม่าว่างเสมอ” หล่อนตอบกลับเสียงหวานหยด
“ฮ่าๆ คุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังจริงๆ เอ็มม่าแล้วเจอกันครับ...1ทุ่มตรง...ผมจะไปรับ”
ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ ในบรรดาคู่ควงของแมทธิว เอ็มม่าดูจะเป็นคนที่เข้าใจง่ายที่สุด หล่อนไม่เคยเรียกร้อง หรือตามจิกอะไรจากเขาเลย แม้แต่ดอกไม้สักช่อ หล่อนก็ไม่เคยร้องขอ...
โทรศัพท์บางเฉียบถูกยัดเก็บในกระเป๋าเสื้อสูทตามเดิม...เขาเดินชมธรรมชาติ เมื่อพอจะอารมณ์ดีขึ้นแมทธิวขมวดคิ้ว เขาไม่คิดว่าคฤหาสน์ดีแลนจะกว้างขวางขนาดนี้...ส่วนปีกซ้ายที่เขาไม่เคยเฉียดเข้ามาใกล้เต็มไปด้วยพรรณไม้สวยเยอะแยะไปหมด...แมทธิวจึงเปลี่ยนใจ เขาเดินตรงไปยังเรือนกระจก สถานที่โปรดปรานของมาดามแพชี่ และขณะนั้น นางกำลังนั่งจิบชาอยู่พอดี...มาดามสูงศักดิ์เลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เมื่อมองเห็นลูกเลี้ยงหนุ่มเดินมาปรากฏกายอยู่ตรงหน้า“นั่งก่อนไหมคะ...คุณแมท?” นางผายมือให้ชายหนุ่มนั่ง พร้อมกับเอื้อมมือหยิบแก้วเซรามิกตรงหน้าเตรียมจะรินชาอุ่น ๆ ให้ชายหนุ่มทรุดนั่งแบบเสียไม่ได้...เขามองไปรอบๆ ตัว เหมือนอยากชมบรรดาพรรณไม้หนักหนาแมทธิวยกแก้วชาอุ่นๆ ขึ้นจิบ “เด็กนั่นล่ะ?” เขาถามหา ‘ลูก’ ที่ตัวเองยังไม่ยอมรับมาดามแพชี่คลี่ยิ้มอ่อนๆ แมทธิวกระด้างและเคร่งขรึม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเย็นชาถึงเนื้อใน“อริสกำลังพามาค่ะ...แองเจิ้ลน่ารัก...เลี้ยงง่ายนะ”นางตอบสั้นๆ เสจิ้มขนมของว่างใส่ปาก กันอาการประดักประ
“เอาสิ...ทำงานที่นี่ไม่สบายใจตรงไหน บอกฉันได้นะ”อาเธอร์ส่งหลานสาวตัวอ้วนจ้ำม่ำให้ทิพยอาภา ท่านกล่าวต่ออย่างมีเมตตา เมื่อผู้หญิงคนนี้กำลังดูแลคนในดีแลน แถมเป็นคนสำคัญเสียด้วย เพราะหากแองเจลิน่าเป็นสายเลือดของแมทธิว นั่นย่อมหมายถึง...หลานของท่านคนนี้ จะเป็นหลานคนเดียว เมื่อตลอดระยะเวลาหลายชั่วอายุ ไม่ว่าจะเพียรพยายามทุ่มเทกำลังทรัพย์มากเท่าใด...ผลคือเหลว...เหมือนเบื้องบนกำหนดไว้ ดีแลนจะมีทายาทสืบต่อ แค่1 คนเท่านั้น“ค่ะ...” ทิพยอาภาตอบรับแบบสำรวม เธอช้อนอุ้มบุตรสาวแนบอก ยกผ้าซับน้ำลายมุมปากให้แองเจลิน่าอย่างอ่อนโยน“ลูกชายฉันผีเข้าผีออก ยังไงก็ระวังไว้บ้างล่ะ” อาเธอร์ยกแก้วชาขึ้นจิบ ท่านเปรยลอยๆเรื่องนี้ไม่ต้องบอก...ทิพยอาภาก็ทำให้เป็นความเคยชิน ที่ไหนมีแมทธิว...เธอจะจะเลี่ยงออกไปห่างๆ หากเป็นความบังเอิญแบบไม่ทันคาด เผ่นได้ เธอก็รีบเผ่นแบบไม่รอช้า...เพราะหากเธอพลาด หมายถึงชั่วชีวิตนี้ คงได้แต่มองแองเจลิน่าอยู่ห่างๆ แค่นั้นเอง“แอะๆ” เด็กน้อยเริ่มโยเย เพราะใกล้ถึงเวลานอน“คงง่วงแล้ว...พาไป
บทที่4.มาดามจูเลียโรม...อิตาลี...หญิงสูงวัยอายุเกือบแปดสิบปี นั่งนิ่วหน้า นางกำลังจิบกาแฟในร้านโปรดที่กรุงโรม เป็นการมาท่องเที่ยวกึ่งทำงาน เพราะมาดามจูเลียถือโอกาสพักผ่อนหย่อนใจหลังเซ็นสัญญาการค้าจบ...มือที่ผิวหนังเหี่ยวย่นเกร็งค้าง ขยุ้มกระดาษหนังสือพิมพ์เจ้าดังจนยับคามือ...เมื่อเห็นข่าวฉาวล่าสุดของแมทธิวหลานรัก...ในรอบยี่สิบปีนับตั้งแต่หลานชายเป็นหนุ่มเต็มตัว เขามีเดทกับสาวๆ ไม่เลือกหน้า ความฮอตของแมทธิวทำให้นางปวดหัว...แต่หลานชายของนางก็ระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่เคยมีภาพหลุด แต่ที่เห็นนี่ มาดามจูเลียรับไม่ไหว...เป็นภาพฉาวที่สุดเท่าที่นางเคยเห็น แม้จะมีสีดำๆ คาดปิดใบหน้ากึ่งหนึ่ง ให้ตายเถอะ!! แค่เส้นผม นางก็จำได้ ที่เห็นนี่คือหลานชายของนางชัดๆท่ามกลางผู้คน แมทธิวกำลัง ‘จูบ’ กับผู้หญิงคนหนึ่ง และหากไม่มีใครอยู่ในบริเวณเดียวกัน เขากับเธอคงร่วมรักกันแบบดุเดือดเพราะลักษณะการจูบที่เห็น...มันคงไม่จบแค่การแลกลิ้นกันแน่ๆ“แมท!!”นางคำราม ลดมือลง กระแทกหนังสือ
สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนทำตัวเหมือนเป็นผู้พิทักษ์ทิพยอาภา หากเวลาไหนก็ตามที่ไวโอเล็ตตามมาแขวะ!!สาวใช้รูปร่างสมส่วนสะบัดค้อนให้ หล่อนเดินจากไปแบบหัวฟัดหัวเหวี่ยง“ทำอะไรอะอริส?”แองเจลิน่าหลับสนิทหลังเล่นจนเหนื่อยและดื่มนมไป1ขวดใหญ่ เด็กน้อยทำปากหมุบหมับ มองหน้าอกมารดาตาปรอย แต่เพราะมีสวีตตี้อยู่ ทิพยอาภาจึงทำเป็นไม่สนใจ แม้หน้าอกเธอจะปวดแปลบหญิงสาวเงยหน้ามอง “ข้าวต้มใส่แครอทกับตับและฟักทองจ้ะ สวีตตี้” เธอตอบพร้อมกับยิ้มน้อย“น่ากินเนอะ!! ” สาวอวบมองสิ่งที่เพื่อนร่วมงานทำตามันวับ “ฉันไปเฝ้าคุณหนูดีกว่า...ว่าแต่...รู้ยังมาดามกลับมาแล้ว!! ” สวีตตี้ลดเสียงลง เมื่อพูดถึงประมุขเฒ่าทิพยอาภาพยักใบหน้าหงึกหงัก“เห้อ!! ไม่รู้ว่าคุณหนูจะโดนหางเลขบ้างหรือเปล่า ข่าวว่ากำลังฉุนจัดจากข่าวคุณแมทธิว”สาวใช้ตัวอวบบ่น เป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ในเวลานี้ ทุกคนในบ้านต้องพูดถึง หลังจากเห็นข่าวเจ้านายหนุ่มขึ้นหราที่หน้าหนึ่งของสื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ทิพยอาภากะพริบเปลือกตาปริบๆ เธอยังไม่
บทที่5.งานเข้าแคลิฟอร์เนีย...อเมริกา...ไทรีสเหยียดยิ้ม เขาเบิกตาโต แสร้งทำท่าตื่นเต้น ทั้งที่ในใจหัวเราะร่า...เมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอ คือคนของแมทธิว...เขาคนนี้...มาเพื่อตามหาทิพยอาภา...“ไม่ทราบว่าคุณพอจะให้ข่าวคุณทิพยอาภาเพื่อนของคุณ กับทางเราได้บ้างไหมครับ”จาคอปพยายามพูดแบบสุภาพที่สุด เมื่อเขารู้สึกเอง...ผู้ชายตรงหน้าตั้งใจยวน“ไม่ทราบว่าคุณอยากรู้ข่าวแบบไหนล่ะฮ้า!! ฉันตอบไม่ถูกหรอก...เมื่อเพื่อนของฉันนะมีเรื่องให้ฉันต้องปวดหัวเยอะแยะไปหมด” ชายหนุ่มตอบเสียงกลั้วหัวเราะ กรีดนิ้วจับหูแก้วกาแฟ และยกขึ้นจิบด้วยมาดนางพญา!!เสียงสูดลมหายใจแรงๆ “เราอยากรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนตอนนี้ครับ? คุณไทรีสน่าจะทราบ...เพราะเธอมาอยู่กับคุณเป็นคนสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป...” จาคอปเปรย เท่าที่เขาตามรอยมา...ทิพยอาภาเหมือนหายตัวได้ หลังจากเข้ามาอยู่กับผู้ชายที่ชื่อ ไทรีส มัวคนสุดท้ายหนุ่มหล่อหัวใจสีชมพูไหวไหล่ เขาจิบกาแฟเหมือนกำลังดื่มด่ำกับรสชาติขมๆ ของกาแฟดำอย่างเหลือเกิ
อาพาร์ทเม้นท์หรูกลางเมือง...เอ็มม่านอนกลิ้งไปมาบนที่นอนขนาดใหญ่ หล่อนหัวเราะคิกคัก ขณะที่ยกหนังสือพิมพ์สื่อดังขึ้นเปิดอ่านช้า ๆ“ถูกใจคุณไหมครับคนสวย...”เสียงแหบพร่าจากบุคคลที่ยืนอิงกรอบประตูห้องน้ำ เขาทอดสายตาหวานเชื่อมมองผู้หญิงอวบอึ๋มที่มีเพียงผ้าห่มคลุมกายเพียงชิ้นเดียว ด้วยสายตาสื่อความหมาย“ยิ่งกว่าถูกใจอีก แซก!! คุณทำได้สมราคา...แบบนี้เอ็มม่าคงไม่เสียดายเงินที่ต้องจ่าย”ใช่...ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นแผนการของหล่อนเอง...การจะจับคนเจ้ายศเจ้าอย่างสักคน ก็ต้องทำกันแบบโจ่งครึ่ม!! เมื่อคนอย่าแมทธิวรักหน้าตายิ่งกว่าอะไรทั้งหมด...“ผมไม่คิดว่าคุณจะใช้วิธีนี้”แซก เวล นักข่าวอิสระแต่งานของเขามักจะดังเปรี้ยงปร้างเสมอ ดังนั้นไม่แปลกหรอกที่เขาส่งไฟล์ให้สื่อสิ่งพิมพ์แล้วจะไม่มีใครรับ และข่าวครั้งนี้ก็ทำให้ยอดขายของหนังสือพิมพ์พุ่งพรวด เมื่อเป็นข่าวเกี่ยวกับเซเลปชื่อดังแมทธิว ดีแลน หนุ่มในฝันที่สาวๆ ค่อนโลก เฝ้าติดตาม“เอ็มม่าไม่สนวิธีหรอกค่ะแซก ขอแค่...” หญิงสาวยิ้มย่อ
บทที่6.สยบข่าวลือแสงแพลชวูบวาบเมื่อมีเซเลปชื่อดังเดินผ่านหน้ากล้อง นักข่าวมือดีรีบกดซัตเตอร์รัวๆ รวมถึงแซกด้วย นักข่าวอิสระอย่างแซกมางานการกุศลก็เพราะเป็นความต้องการของเอ็มม่า มันไม่ใช่งานถนัดของนักข่าวผู้นี้ เมื่อแซกชอบที่จะเป็นปาปารัสซี่มากกว่า เขาชอบล้วงลึกเกาะข่าวคนดัง เปิดเผยความลับที่คนมีสตางค์แอบไว้ในมุมมืด“คุณเกาะใครอยู่หรือแซก ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะอยู่แถวนี้”เพื่อนร่วมงานสายอาชีพเดียวกันเอ่ยทักทายแซกไม่ตอบ เขาขยับสายกระเป๋าที่หัวไหล่ ทอดสายตาหยันๆ มองกลุ่มไฮโซที่เดินกรีดกรายอยู่ตรงหน้า“เห็นคุณสนิทกับเอ็มม่า ไม่ทราบว่าพอจะมีข่าวเด็ดๆ ของหล่อนแบ่งให้ผมได้มั่งหรือเปล่า”แซกเงยหน้าขึ้น เขากำลังเช็กเลนส์กล้อง เขายิ้มมุมปากก่อนจะแย้มเล่าเรื่องสำคัญที่เอ็มม่าตั้งใจปล่อย“หล่อนกำลังมีข่าวดี...”“หืม...” เพื่อนร่วมงานคนอื่นที่ดูท่าไม่ใส่ใจ กลับหันขวับมามองตาโต“ขยายหน่อยเพื่อน...แค่นี้มันน้อยไป...ข่าวเด็ดที่ว่าเกี่ยวก
“ระวังนะคะ ตำแหน่งที่คุณครองจะถูกเด็กรุ่นน้องคว้าเอาไป”เธอกระเซ้า พร้อมกับยิ้มหวาน ฉายานักรัก ฉายานักล่า ในกลุ่มไฮโซยกให้แมทธิวแทบทั้งหมด เขาเป็นขวัญใจสาวๆ ขวัญใจมวลมหาประชาชน เมื่อรูปงามดังทองทา แถมยังร่ำรวยมหาศาล พ่วงตำแหน่งด้วยผู้นำดีแลนคนต่อไป มีสาวๆ คนไหนที่จะไม่ปรารถนาเขาบ้างเล่าแมทธิวไม่ได้ตอบ เขายกแก้วเชมเปญขึ้นจิบด้วยท่าทีไม่เดือดร้อน“แมทย่าจะกลับแล้วนะ พรุ่งนี้ย่ามีไฟล์ต้องบิน” มาดามจูเลียเดินเข้ามาหา หลังนางเดินไปทักทายเพื่อนร่วมวงการ“ครับ...เอ็มม่า ผมขอตัวก่อนนะ คุณย่าต้องรีบกลับไปพัก”หากเป็นเมื่อก่อน คนส่งมาดามจูเลียกลับคฤกหาสน์ดีแลน...คงไม่พ้นจาคอป เมื่อแมทธิวมักจะอยู่สำเริงสำราญตามประสาหนุ่มโสดต่อ... แต่วันนี้มาแปลก เขาจะกลับพร้อมญาติผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับมาดามจูเลีย รวมถึงเอ็มม่าด้วยหญิงสาวเซ็งในอารมณ์ยืนหน้าตูมจนแซกเดินโฉบเข้ามากระเซ้า“ไงเทพบุตรของคุณ เหินฟ้ากลับวิมานไปแล้วรึ?”“อย่าพูดมากน่าแซก กำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้ว่าแมทธิวไปติดสาวคนอื่
แต่เขาก็จำหล่อนได้ แววตาภักดีของทิพยอาภานั่นไง...เป็นสิ่งเดียวที่ตราตรึงอยู่ในใจ...เขามั่นใจตนเองไม่ใช่คนเหลวไหล...เขากินเลือก...และป้องกันตัวดี...แต่เพราะอะไรไม่รู้...มันอาจจะเป็นเพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของทิพยอาภาก็เป็นได้...เขาไม่เคยคิดถึง ‘คอนดอม’ ไม่คิดถึงสิ่งใด นอกจากครอบครองหล่อนให้ได้...แมทธิวถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ระหว่างเขากับทิพยอาภายังไม่แน่ชัดนัก...ความรู้สึกคลุมเครือนั่น...มีเส้นใยบางๆ กั้นอยู่...ชายหนุ่มนิ่งเงียบไป เขาใช้ความคิด และกำลังตรองความรู้สึกของตัวเอง ที่มีกับผู้หญิงคนนั้น เขา รังเกียจ หล่อน หรือ รัก หล่อนกันแน่!!การเดินทางแสนยาวนานในความรู้สึกของคนใจคอไม่ดี...ถึงเวลาสิ้นสุดลง เมื่อมองเห็นประตูรั้วเหล็กยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า...ประตูหน้าถูกเปิดก่อนที่รถยนต์ของเขาจะเคลื่อนที่ไปถึง มีรถยนต์ของดีแลนคันหนึ่ง วิ่งสวนออกมา...แมทธิวใจหายวูบ!! เขามั่นใจว่าตัวเองสายตาดี ผู้หญิงที่นั่งตอนหลังรถยนต์คันนั้น คือ...คนที่ให้กำเนิดแองเจลิน่า!!“เร็วหน่อย!!” เขาตบเบาะเร่ง ใจคอไม่ดี ร
บทที่12.หัวใจหล่นหาย...เป็นเช้าที่หม่นหมองที่สุดสำหรับทิพยอาภา...เมื่อเวลาของเธอหมดลงคำประกาศิตของมาดามจูเลียก้องอยู่ในหัว เธอเก็บเสื้อผ้าของใช้ใส่กระเป๋าพร้อมกับน้ำตาที่หยดริน...“ทิพต้องไปแล้วค่ะคุณผู้หญิง” แม่ลูกอ่อนสุดอาภัพอุ้มลูกน้อยวัย1ปี ไปส่งถึงมือมาดามแพชี่พร้อมกับเอ่ยลา ข้างตัวเธอมีกระเป๋าเดินทางขนาดย่อม“เธอไม่ห่วงแองเจิ้ลเหรอทิพยอาภา”มารดาเลี้ยงของแมทธิวถามย้ำ นางน้ำตาซึมกับความกดดันที่โอบล้อมอยู่รอบตัวทิพยอาภาช้อนสายตาหม่นตรมขึ้นมองมาดามแพชี่ “ห่วงยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง แต่เวลาทิพหมดลงแล้วค่ะ”“ใครล่ะ ใครกำหนดเวลานั่นให้กับเธอ?” สาวใหญ่เค้นเสียงถาม มันแหบสั่นและแห้งแร้งเหลือทน“ฉันเอง...หล่อนมีปัญหาเหรอแม่แพชี่!!” มาดามจูเลียเดินผ่านประตูหน้าเข้ามา นางยืนค้ำศีรษะทิพยอาภา ปรายตาหยันๆ มองผู้หญิงที่อาจจะทำให้ดีแลนเสียหาย“ดิฉันไม่กล้าหรอกค่ะคุณท่าน แต่อยากถามสักนิด... ทิพยอาภาผิดมา
แมทธิวเบ้ปาก เขายกมือขึ้นหมายจะจับมืออ้วนป้อมของเด็กน้อยออกไปจากแขนแข็งแรง...เขาไม่ชอบเด็ก!!แต่...อะไรบางอย่างพุ่งปราดจากมือน้อยๆ นั่น วิ่งพล่านเข้าสู่หัวใจ เขาชะงัก จ้องมองนัยน์ตาใสแจ๋ว กับใบหน้ายิ้มแฉ่งนั่นแบบตะลึงงัน“ลองอุ้มแกดูไหมคะ?” เธอกระชับผืนผ้าให้แน่นขึ้น ขยับตัวช้อนอุ้มบุตรสาวมือของเธอจับอยู่ที่ซอกรักแร้ของแองเจลิน่า ยื่นร่างอ้วนกลมของบุตรสาวไว้ต่อหน้าแมทธิว“อย่าเลย...ฉันไม่เคย” ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธ เขาเสหลบตาบุตรสาวที่จ้องมองเหมือนกำลังรอความหวัง“ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่แรกหรอกค่ะ ทุกคนมีครั้งแรกเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือทิพ”หญิงสาวกล่าวให้กำลังใจ...เธอเองก็ร่วมลุ้น อยากให้แมทธิวทดลอง ‘อุ้ม’ แองเจลิน่าสักครั้งขาอ้วนๆ แกว่งไปมา...มือป้อมๆ ยัดใส่ปาก ดวงตาเริ่มพราวฉ่ำด้วยน้ำใสใส“ก็ได้ส่งมา หากฉันทำหลุดมืออย่ามาว่ากันนะ”ชายหนุ่มตัดใจ เขาตอบกลับเสียงห้วน...มือแข็งแรงยกขึ้นรอท่า พร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่ประเดประดังใส่“อย่าดิ้นสิ เดี๋
เป็นเรื่องน่าอายหากมีบุคคลที่สามล่วงรู้ เขาควานหาตัวทิพยอาภาเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เมื่อเจอตัวหล่อน เขากลับไม่คิดกระโตกกระตาก ขอเก็บหล่อนไว้ลับๆ เพื่อดื่มด่ำกับรสเสน่หาที่มีหล่อนผู้เดียวที่มอบให้เขาได้“ค่ะ ทิพจะไม่บอกใคร?”เธอมีเวลาช่วงสั้น ๆ แล้วทำไมเล่าเธอจะไม่กอบโกยช่วงเวลานี้ไว้ คำประกาศิตของมาดามจูเลียยังดังก้องอยู่ในหู วันใดที่แองเจลิน่าครบ1 ปี นั่นคือเวลาสิ้นสุดของเธอ และช่วงเวลานั้นขยับเคลื่อนเข้าใกล้เต็มทน...แมทธิวจูบเร็ว ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มเต็ม เขาเคล้นคลึงเนินอกอิ่มหนักมือขึ้น จนหญิงสาวตัวสั่นแสงไฟที่ส่องสว่างมุมห้อง ทอดแสงเรืองรองมายังร่างสูงใหญ่ของแมทธิว แสงสว่างน้อยนิดนั่นแหละ ทำให้เธอเห็นว่า ชายหนุ่มสุดกำยำ กำลังไขว่แขนเพื่อสลัดเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาออกไป แผงอกหนาหนั่นที่เธอเคยอิงแอบแนบซบ อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา...ลาดไหล่แข็งแกร่ง เนินอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม เสน่หาเรือนกายที่สยบเธอได้อย่างชะงัด!!ผิวแก้มทิพยอาภาผ่าวร้อน เมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาสุดหวามของตัวเองกับแมทธิว“หือ...” ชายหนุ่มเลิกป
บทที่11.ค่ำคืนที่เป็นแค่ความฝัน...กลางดึกสงัด ทุกอย่างรอบตัวมืดมิด...แต่ตามทางเดินรอบคฤหาสน์...ยังมีแสงไฟส่องสว่าง ดังนั้น... บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่ย่องมาอย่างเงียบเชียบ...จากปีกตึกด้านขวาของดีแลน มายังปีกตึกด้านซ้ายของดีแลน จึงต้องเลี่ยงหลบ แสงไฟนั่น เพราะเผื่อจะมีคนตาดีมองเห็น เขาไม่อยากกระโตกกระตากให้คนอื่นรู้...ความลับที่กำลังทำแต่แมทธิวไม่รู้...มีสายตาคู่หนึ่งจับตามองเขา พร้อมกับอมยิ้มเจ้านายหนุ่มปีนี้อายุสามสิบห้าปี เขาเป็นถึงหัวหอกของดีแลนคอมแพล็กซ์...แต่กลับทำตัวเหมือนหนุ่มรุ่นกระทง ไม่ต่างอะไรกับโรมิโอ...ที่กำลังจะปีนหน้าต่างไปหาจูเลียต...แตกต่างกันแค่...ทิพยอาภาไม่ใช่หญิงสูงศักดิ์...หล่อนเป็นแค่ซิลเดอเรลล่า...ที่ถูกซุกอยู่ในครัว ต่ำต้อยเรี่ยดิน...แววตาคมวาว พราวระยับ เมื่อย่องตามแมทธิวมาติดๆ เขารับคำสั่งมาให้ตามดู มาดามจูเลียไม่ได้ให้ขัดขวาง...ดังนั้น แมทธิวจึงผลุบหายเข้าไปในห้องนอนของบุตรสาว...โดยไม่มีใครขัดขวาง หรือบังเอิญผ่านมาเจอ เมื่อเอ็ดมันเคลียร์เส้นทางจนปลอดโปร่ง
ทิพยอาภาส่งตะกร้าใบเล็กในมือให้การ์ดหนุ่มใหญ่โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ที่เธอทำคือกัดกระพุ้งแก้ม เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอแสดงความไม่พอใจ...เวลานี้เธอยังไม่พร้อมที่จะหันหลังให้กับคนที่นี่“เอะอะอะไรกัน?”แมทธิวเดินหน้าตึงเขามาสมทบ เขาขึงตาใส่ทิพยอาภาและหล่อนก็รีบก้มหน้าหลบสายตาของเขา“คนของแม่เลี้ยงเราน่ะ...ทำเป็นอวดดี สะเออะ!! อวดรู้ หล่อนไปเก็บของพวกนั้นมาจากข้างรั้ว...คงคิดจะทำดีเสนอหน้า แต่เปล่าเลย เป็นความคิดที่แย่มาก”มาดามเปรยบอกหลานชาย นางหรี่ตาจับพิรุธแมทธิวด้วย...ระหว่างผู้หญิงตรงหน้ากับตัวหลานชาย ยังมีเยื่อใยต่อกันหรือไม่?“อะไรครับคุณย่า?” ชายหนุ่มเดินเข้าไปประคองมาดามจูเลีย เขาขึงตาปรามทิพยอาภา เป็นการข่มขวัญหล่อนไม่ให้หล่อนหือ“ช่างเถอะ...ว่าแต่วันนี้ทำไมไปสาย”นางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะย้อนถามแมทธิวเสียงเรียบชายหนุ่มสะอึก เขายังไม่ทันคิดหาข้อแก้ตัว วันนี้เขาตั้งใจเบี้ยว เพราะมีความต้องการล้นอก และกำลังหาทางมาระบายออกกับผู้หญิงที่กำลังโดนเฉ่งคนนี้ไง“ไปสา
บทที่10.หยดน้ำตาบนหมอนนุ่มเห้อ...เสียงถอนลมหายใจรอบที่ร้อยในหนึ่งวัน...เมื่อหัวใจหม่นหมอง กลัดหนองจนเกือบขาดใจตาย ความทุกข์ที่เธอแบกรับไว้ ทำให้ไม่สามารถยิ้มได้เหมือนเดิม ไม่มีใครช่วยเธอได้สักคน...มันเหมือนเชือกที่ร้อยรัดพันธนาการเธอไว้ ค่อยๆ ขยับปม มัดแน่นเข้ามาทุกที จนแทบหายใจไม่ออกแต่จะให้ทำยังไงได้ นอกจากก้มหน้าทน...และทน เมื่อหัวใจของเธอผูกพันกับคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบุตรสาว หรือ แมทธิววันใดที่เดินออกจากคฤหาสน์ดีแลน...มันนั้นเธอคงเหลือแค่ซากเมื่อหัวใจทั้งดวงทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว“หน้าเธอเศร้าจังเลยอริส!! ”สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนสนใจใคร่รู้ไปทุกเรื่อง ยิ่งคนใกล้ตัวแล้ว ยิ่งไม่มีทางคลาดสายตา“คิดถึงบ้านละสิ...ใหม่ๆ ฉันก็เป็น แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วล่ะ” หล่อนยังพูดเจื้อยแจ้ว...ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคู่สนทนาจะเป็นอย่างไรแม่ลูกอ่อนสุดอาภัพยกมือปาดน้ำตา รีบสวมรอยเพราะไม่อยากให้คนอื่นล่วงรู้ความในใจของตนเอง“อืม...คิดถึง...” ห
มาดามแพชี่ยกมือทาบอก มือข้างที่กอดหลานรักไว้ กระชับแน่นขึ้น...เมื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่น แม้เธอจะเคยเห็นหล่อนแค่ผ่านๆ เพียงครั้งเดียว มาดามก็แน่ใจนี่แหละคือผู้ให้กำเนิด แองเจลิน่า‘ทิพยอาภา’ผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดทายาทดีแลนได้...“มันเป็นความจำเป็นที่ดิฉันไม่สามารถเลี่ยงได้...ตอนนี้คุณท่านรู้แล้วว่าดิฉันเป็นใคร เธอให้ดิฉันอยู่ จนกว่าแองเจิ้ลครบหนึ่งขวบค่ะ” ทิพยอาภาเล่าให้มาดามแพชี่ฟัง ความหวังที่จะได้เห็นบุตรสาวเจริญเติบโตทีละนิด หมดลงตั้งแต่ถูกจับได้ เวลานี้ช่วงเวลาที่เธอมีความสุข หดสั้นลงทุกที“แล้วเธอก็ยอม?” เป็นคำถามที่เหมือนจะต่อว่าเธอกลายๆหญิงสาวยกมือปาดน้ำตาบนผิวแก้ม เธอยื่นมือสั่นๆ จับปลายเท้าของบุตรสาวไว้ “แล้วดิฉันจะทำอะไรได้ล่ะค่ะ หากหนี...ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่า? มันจะเป็นการทำให้แองเจิ้ลลำบากเสียเปล่าๆ ลูกควรมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หาใช่การระหกระเหินไปในที่ต่างๆ ทั้งที่เขามีที่อยู่ที่ปลอดภัยรออยู่แล้ว”หญิงผู้อาภัพกล่าวด้วยความระทมทุกข์...จะให้เธอหอบห
บทที่9.ความลับ!!ความพยายามของแมทธิวสัมฤทธิผลในเช้าวันหนึ่ง เขากระชากทิพยอาภาเข้ามาในห้องส่วนตัวจนได้“ปล่อยค่ะ คุณทำแบบนี้ต้องการให้ทุกคนรู้หรือไงคะว่าทิพเป็นใคร”หญิงสาวตะเบ็งเสียงก้อง เธอดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองรอด ไม่อยากถูกเฉดหัวส่ง ทั้งที่เพิ่งอุ้มลูกแนบอกได้ไม่กี่เดือน“อย่ามากำแหงใส่ฉัน...ทิพยอาภา”แมทธิวตวาด...“ทิพไม่ได้กำแหงอวดเก่ง...ทิพแค่ไม่อยากให้ความลับเปิดเผย...หากมีคนรู้ คุณไม่เสียหน้าแย่เหรอคะ เมื่อให้ใครต่อใครออกควานหาตัวทิพ แต่พอเจอเข้าจริงๆ กลับพยายามรั้งไว้”หล่อนเชิดหน้าท้าทาย และสิ่งที่หล่อนพูด ดันเป็นเรื่องจริงเสียด้วย...ทำไมเขาไม่โพนทะนา แล้วเฉดหัวหล่อนออกไปจากดีแลนล่ะ!!“หุบปาก ...ออกไปซะ!! ”ชายหนุ่มกระชากทิพยอาภาเข้ามาใกล้ เขากรรโชกเสียงเคร่งๆ ใส่...ก่อนจะดันหลังหล่อนออกไปจนพ้นบานประตูปัง!! แมทธิวกระแทกประตูใส่หน้าแม่ของลูก หลังจากผลักไสหล่อนออกไปจากห้องนอน เขาหงุดหงิด และไม่มี