“ระวังนะคะ ตำแหน่งที่คุณครองจะถูกเด็กรุ่นน้องคว้าเอาไป”
เธอกระเซ้า พร้อมกับยิ้มหวาน ฉายานักรัก ฉายานักล่า ในกลุ่มไฮโซยกให้แมทธิวแทบทั้งหมด เขาเป็นขวัญใจสาวๆ ขวัญใจมวลมหาประชาชน เมื่อรูปงามดังทองทา แถมยังร่ำรวยมหาศาล พ่วงตำแหน่งด้วยผู้นำดีแลนคนต่อไป มีสาวๆ คนไหนที่จะไม่ปรารถนาเขาบ้างเล่า
แมทธิวไม่ได้ตอบ เขายกแก้วเชมเปญขึ้นจิบด้วยท่าทีไม่เดือดร้อน
“แมทย่าจะกลับแล้วนะ พรุ่งนี้ย่ามีไฟล์ต้องบิน” มาดามจูเลียเดินเข้ามาหา หลังนางเดินไปทักทายเพื่อนร่วมวงการ
“ครับ...เอ็มม่า ผมขอตัวก่อนนะ คุณย่าต้องรีบกลับไปพัก”
หากเป็นเมื่อก่อน คนส่งมาดามจูเลียกลับคฤกหาสน์ดีแลน...คงไม่พ้นจาคอป เมื่อแมทธิวมักจะอยู่สำเริงสำราญตามประสาหนุ่มโสดต่อ... แต่วันนี้มาแปลก เขาจะกลับพร้อมญาติผู้ใหญ่ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้กับมาดามจูเลีย รวมถึงเอ็มม่าด้วย
หญิงสาวเซ็งในอารมณ์ยืนหน้าตูมจนแซกเดินโฉบเข้ามากระเซ้า
“ไงเทพบุตรของคุณ เหินฟ้ากลับวิมานไปแล้วรึ?”
“อย่าพูดมากน่าแซก กำลังอารมณ์ไม่ดี ไม่รู้ว่าแมทธิวไปติดสาวคนอื่
บทที่7.กระชากหน้ากากคนหลอกลวง“ปะ ปล่อยดิฉันนะคะ!!” ทิพยอาภาพยายามดึงมือที่ถูกจับออกจากการเกาะกุมของแมทธิว...“เธอทำอะไรผิดล่ะอริส...ทำไมเธอถึงกลัวฉันจัง” ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปใกล้ๆ เขาได้ ‘กลิ่น’ นั่นอีกแล้ว“เปล่าค่ะ ดิฉันอยากไปป้อนข้าวคุณหนูถึงเวลาแล้วค่ะ...เดี๋ยวเธอจะหิว” หญิงสาวแสร้งหาข้ออ้าง เมื่อมันเป็นทางเดียวที่จะเลี่ยงหลบแมทธิวได้“ฉันรู้ทันเธอน่า... อย่ามาอ้างเลย!! ” ชายหนุ่มตอบกลับ เขารั้งหล่อนไว้สุดแรง แต่ทิพยอาภาพยายามฝืนไว้“ปะ เปล่าค่ะ...” ใบหน้าเล็กๆ ใต้แว่นตากรอบโตส่ายเดี๊ยะชายหนุ่มกระตุกมือแรงๆ และปลายนิ้วดันไปเกี่ยวผมกระเซอะกระเซิงของหล่อนเขา แล้วเมื่อเขากระชากซ้ำ!! ผลที่ได้คือ...กลุ่มผมที่เขาจับหลุดออกมาทั้งยวง...แมทธิวก้มมองก้อนดำๆ ในมือ เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า หล่อนกำลังยกมือทาบอก ใบหน้าเผือดซีด!!เขาสิ...ตกใจยิ่งกว่า...คนที่เขาตามหาให้ควัก!! ยืนอยู่ตรงหน้า เขาเดินผ่านหล่อนไม่รู
และมีหรือที่ทิพยอาภาจะฝืนต้านได้ เมื่อแมทธิวเป็นชายคนเดียวที่เธอสนิทเสน่หา เพียงแค่เขาชิดใกล้โลมลูบเธอก็อ่อนระทวยเหมือนวุ้นนิ่มๆ แมทธิวขบกรามแน่น อารมณ์หนุ่มพุ่งสูงสุดขีด และสุดที่จะควบคุมได้ เพียงแค่แตะต้องทิพยอาภานิดๆ หน่อยๆอารมณ์พิศวาสถูกปลุกเร้าขึ้นจากมือและปากที่ยุ่มย่ามอยู่บนเนื้อตัว เวลานี้ทิพยอาภาเตลิดไปไกล เธอไม่สนใจแล้วว่าชายหนุ่มจะดูแคลนอะไรเธออีก หากเขาจะทำให้อารมณ์รุ่มร้อนของเธอสงบลงได้ เมื่อแมทธิวตะโบมจูบเธอแบบมันสะเด็ด!! ทิพยอาภาก็แหงนเงยขึ้นรับ สนองจุมพิตแบบสุดติ่งเช่นกันหญิงสาวไม่รู้ตัว เสื้อผ้าสุดเห่ยของเธอถูกปลดเปลื้องไปตั้งแต่เมื่อใด มารู้ตัวอีกทีหลังดื่มด่ำกับความหอมหวานของจุมพิตแสนมัวเมาของแมทธิว...ร่างกายสวยสดของเธอ ก็เหลือแค่ซับในชิ้นเล็กๆ สองชิ้นแค่นั้นเอง...“แมท...” ทิพยอาภาเชิดหน้าเธอร้องครางเสียงแหลม เมื่อแมทธิวก้มลงมาปรนเปรอทรวงอกอิ่มของตัวเอง มือของเขากำลังเคล้นคลึงเต่งเต้าครัดเคร่งพร้อมกับเสียงคำรามงึมงำแมทธิวเงยหน้าขึ้นมองสบตาเธอ ปากของเขากำลังงับยอดอกของเธอไว้เต็มคำ รสหวานมันของน้ำนมอุ่นๆ ที่ไหลสู่อุ้งปากขอ
บทที่8.ขาไปเหมือนไก่ตีปีก ขากลับเหมือนไก่โดนน็อค...น้ำหอมยี่ห้อดังถูกประพรมบนร่างกายกำยำหลังอาบน้ำจนชุ่มปอด แมทธิวก้มมองอวัยวะสำคัญที่ฟื้นคืนชีพด้วยสายตาเป็นประกาย...วันนี้เป็นวันดี...วันที่ ‘ลูกชาย’ ของเขามีชีวิต มันกระดุกกระดิกได้ แถมยังแผลงฤทธิ์เสียจนอารมณ์ฉุนเฉียวที่เคยมีกระเด็นหายไปจนหมด วันนี้จะเป็นวันที่เขาออกไปเริงร่าในรอบ1 ปี หลังจากเก็บตัวเงียบมาแสนนาน เพราะอาวุธประจำกายไม่สู้คน...“ฮ่าๆ !! ”แมทธิวเงยหน้าหัวเราะ เขาหมุนตัวเป็นวงกลมประหนึ่งนักบัลเล่ต์ที่กำลังหมุนตัวด้วยท่า Fouette แบบเร็วๆ เป็นการฉลองชัยให้ตัวเอง เขาจะกลับไปผงาดในวงการอีกครั้งเมื่อแมทธิวมั่นใจ เขาไม่ได้เป็นโรค ‘กามตายด้าน’ เมื่อวันนี้เขาสามารถ ‘ฟาด’ ทิพยอาภาจนหล่อนครางหงุงหงิงจาคอปเดินเข้ามารอคำสั่ง เพราะเจ้านายหนุ่มโทรศัพท์ตามตัวแบบเร่งด่วน ในเวลากลางคืน ซึ่งแมทธิวไม่เคยเรียกใช้เขาแบบนี้มาเป็นปีๆ“เอารถออกให้หน่อยว่ะ วันนี้จะออกไปแรด”
แมทธิวยังคงโวย...เขาขวางหูขวางตา และยิ่งสติไม่เต็มร้อย ถ้อยคำที่หลุดออกมาจากปากเขา ก็เผยความจริงให้การ์ดหนุ่มรับรู้ จาคอปอมยิ้ม...จากประสบการณ์ที่ผ่านมา...งานนี้เจ้านายคงหลงใหลทิพยอาภาไม่น้อย เขาถึงไม่สามารถร่วมอภิรมย์กับหญิงอื่นได้ เมื่อจิตใต้สำนึกคอยต่อต้าน...“ยัยบ้า!! เพราะยัยนั่นคนเดียวกูเลยทำอะไรคนอื่นไม่ได้...ผู้หญิงบ้าอะไรวะ...”เสียงโวยนั่นยังดังต่อเนื่อง...ระหว่างเดินทางกลับคฤหาสน์ดีแลน แมทธิวเผยความลับคับใจให้จาคอปรู้ไม่น้อย...รวมถึงเรื่อง ‘อริส’ พี่เลี้ยงของบุตรสาวเขาด้วย“หึ!! ปลอมตัวมา...คิดว่ากูไม่รู้ โธ่!! กลิ่นมันฟ้อง จำไม่ได้กูคงเป็นควาย!! ”จาคอปตะแคงหูฟังและคิดตาม... “อริส!! ไอ้เวรไทรีสคงตั้งให้...เป็นอริสในแดนมหัศจรรย์งายยยย...”การ์ดหนุ่มถึงบางอ้อ...เมื่อเจ้านายค่อย ๆ คายความลับออกมาเรื่อยๆ ที่เขาแปลกใจคือ...แมทธิวควานหาตัวทิพยอาภาเพื่อตกลงกับหล่อน...และขจัดหล่อนออกไปจากวงจรชีวิต...แล้วทำไมไม่อัปเปหิหล่อนออกไปจากดีแลน...เมื่อรู้ว่าหล่อนอยู่ไหน...เท่าที่เห็นดูเจ้านายจะ ‘หวง&
มาดามแพชี่ขมวดคิ้ว หน้าที่นั้น เท่าที่นางรู้ พ่อบ้านวัยดึก นามชิเอลเป็นคนทำให้แมทธิว เมื่อชายหนุ่มไม่ชอบให้สาวใช้เข้าไปยุ่มย่าม ช่วงที่เขาต้องการชำระร่างกาย“หืม...เหรอจ๊ะ”หนุ่มหล่อสุดเซ็ง กำลังจะหาเรื่องฉกทิพยอาภาไปเพื่อพิสูจน์ร่างกายตนเองซ้ำ...เขาคิดว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับหล่อน การที่มังกรผยองของเขา สลดลง...กลายเป็นแค่มะเขือเผา“โทษที...ฉันอาจจะมาไกลไปหน่อย...ช่วยตามชิเอลให้ทีสิ...”ชายหนุ่มรีบฉากหนี เมื่อแววตาสนเท่ห์ของมาดามแพชี่มองตรงมาที่เขา“เขามาบ่อยไหม?” มาดามเปรยลอยๆ นางเริ่มสับสนกับพฤติกรรมของลูกเลี้ยง“สอง สามครั้งแล้วค่ะ” สวีตตี้ชิงตอบ และทิพยอาภาห้ามไม่ทัน“หืม...” มาดามครางรับ เธอเดินตรงไปหาหลานรักที่ดูเหมือนว่าจะตื่นนอนแล้ว“ไงจ๊ะ...ย่าไม่ได้คิดไปเองนะ...ย่าคิดว่าอีกไม่นานพ่อของหนู คงยอมรับหนูมากขึ้น” นางคิดว่าการที่แมทธิวโฉบมาห้องนอนของแองเจลิน่าบ่อยๆ เพราะชายหนุ่มเริ่มรู้สึกผูกพันกับเด็กน้อยทีละนิดทิพยอาภาถอนใจ...เธอเดินมาหยุดอยู่
บทที่9.ความลับ!!ความพยายามของแมทธิวสัมฤทธิผลในเช้าวันหนึ่ง เขากระชากทิพยอาภาเข้ามาในห้องส่วนตัวจนได้“ปล่อยค่ะ คุณทำแบบนี้ต้องการให้ทุกคนรู้หรือไงคะว่าทิพเป็นใคร”หญิงสาวตะเบ็งเสียงก้อง เธอดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองรอด ไม่อยากถูกเฉดหัวส่ง ทั้งที่เพิ่งอุ้มลูกแนบอกได้ไม่กี่เดือน“อย่ามากำแหงใส่ฉัน...ทิพยอาภา”แมทธิวตวาด...“ทิพไม่ได้กำแหงอวดเก่ง...ทิพแค่ไม่อยากให้ความลับเปิดเผย...หากมีคนรู้ คุณไม่เสียหน้าแย่เหรอคะ เมื่อให้ใครต่อใครออกควานหาตัวทิพ แต่พอเจอเข้าจริงๆ กลับพยายามรั้งไว้”หล่อนเชิดหน้าท้าทาย และสิ่งที่หล่อนพูด ดันเป็นเรื่องจริงเสียด้วย...ทำไมเขาไม่โพนทะนา แล้วเฉดหัวหล่อนออกไปจากดีแลนล่ะ!!“หุบปาก ...ออกไปซะ!! ”ชายหนุ่มกระชากทิพยอาภาเข้ามาใกล้ เขากรรโชกเสียงเคร่งๆ ใส่...ก่อนจะดันหลังหล่อนออกไปจนพ้นบานประตูปัง!! แมทธิวกระแทกประตูใส่หน้าแม่ของลูก หลังจากผลักไสหล่อนออกไปจากห้องนอน เขาหงุดหงิด และไม่มี
มาดามแพชี่ยกมือทาบอก มือข้างที่กอดหลานรักไว้ กระชับแน่นขึ้น...เมื่อผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้น หาใช่ใครอื่น แม้เธอจะเคยเห็นหล่อนแค่ผ่านๆ เพียงครั้งเดียว มาดามก็แน่ใจนี่แหละคือผู้ให้กำเนิด แองเจลิน่า‘ทิพยอาภา’ผู้หญิงที่สามารถให้กำเนิดทายาทดีแลนได้...“มันเป็นความจำเป็นที่ดิฉันไม่สามารถเลี่ยงได้...ตอนนี้คุณท่านรู้แล้วว่าดิฉันเป็นใคร เธอให้ดิฉันอยู่ จนกว่าแองเจิ้ลครบหนึ่งขวบค่ะ” ทิพยอาภาเล่าให้มาดามแพชี่ฟัง ความหวังที่จะได้เห็นบุตรสาวเจริญเติบโตทีละนิด หมดลงตั้งแต่ถูกจับได้ เวลานี้ช่วงเวลาที่เธอมีความสุข หดสั้นลงทุกที“แล้วเธอก็ยอม?” เป็นคำถามที่เหมือนจะต่อว่าเธอกลายๆหญิงสาวยกมือปาดน้ำตาบนผิวแก้ม เธอยื่นมือสั่นๆ จับปลายเท้าของบุตรสาวไว้ “แล้วดิฉันจะทำอะไรได้ล่ะค่ะ หากหนี...ก็ยังไม่รู้ว่าจะไปรอดหรือเปล่า? มันจะเป็นการทำให้แองเจิ้ลลำบากเสียเปล่าๆ ลูกควรมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง หาใช่การระหกระเหินไปในที่ต่างๆ ทั้งที่เขามีที่อยู่ที่ปลอดภัยรออยู่แล้ว”หญิงผู้อาภัพกล่าวด้วยความระทมทุกข์...จะให้เธอหอบห
บทที่10.หยดน้ำตาบนหมอนนุ่มเห้อ...เสียงถอนลมหายใจรอบที่ร้อยในหนึ่งวัน...เมื่อหัวใจหม่นหมอง กลัดหนองจนเกือบขาดใจตาย ความทุกข์ที่เธอแบกรับไว้ ทำให้ไม่สามารถยิ้มได้เหมือนเดิม ไม่มีใครช่วยเธอได้สักคน...มันเหมือนเชือกที่ร้อยรัดพันธนาการเธอไว้ ค่อยๆ ขยับปม มัดแน่นเข้ามาทุกที จนแทบหายใจไม่ออกแต่จะให้ทำยังไงได้ นอกจากก้มหน้าทน...และทน เมื่อหัวใจของเธอผูกพันกับคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบุตรสาว หรือ แมทธิววันใดที่เดินออกจากคฤหาสน์ดีแลน...มันนั้นเธอคงเหลือแค่ซากเมื่อหัวใจทั้งดวงทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว“หน้าเธอเศร้าจังเลยอริส!! ”สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนสนใจใคร่รู้ไปทุกเรื่อง ยิ่งคนใกล้ตัวแล้ว ยิ่งไม่มีทางคลาดสายตา“คิดถึงบ้านละสิ...ใหม่ๆ ฉันก็เป็น แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วล่ะ” หล่อนยังพูดเจื้อยแจ้ว...ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคู่สนทนาจะเป็นอย่างไรแม่ลูกอ่อนสุดอาภัพยกมือปาดน้ำตา รีบสวมรอยเพราะไม่อยากให้คนอื่นล่วงรู้ความในใจของตนเอง“อืม...คิดถึง...” ห
“ขอทิพไปหาลูกนะคะ”หญิงสาวพยักหน้ารับ...เธอร้องขอเสียงแผ่ว“ผมจะพาคุณหนูไปส่งคุณผู้หญิงที่ห้องเองครับ” ชิเอลตอบเหมือนคนรู้งาน“ลุงเรียกทิพเหมือนเดิมก็ได้ค่ะ...ทิพคงไม่เหมาะกับคำนั้น” หญิงสาวยิ้มเหยเก เธอกล่าวกับผู้สูงวัยกว่า ด้วยน้ำเสียงเก้อเขิน“ไม่ได้หรอกครับ...คุณผู้หญิงกับ อริส!! มันคนละสถานะ แบบนี้กระผมสบายใจกว่า”ชิเอลอธิบายเสียงนิ่งสนิท เขาค้อมศีรษะให้ผู้หญิงที่เคยเป็นแค่พี่เลี้ยงเด็ก...แต่เวลานี้สถานะหล่อนเปลี่ยนไปเสียแล้ว“อย่าขัดใจชิเอลเลยทิพ ถ้านิสัยดื้อด้านมีฉันเป็นที่หนึ่ง ตาลุงชิเอลก็คงเป็นอันดับสอง”แมทธิวเปรยยิ้มๆ เขามองสบนัยน์ตาฝ้าฟางของคนรับใช้ที่ภักดี“ค่ะ” ทิพยอาภาคงทำได้แค่ถอนใจ...“ไปเถอะ...เธอจะปลอดภัยที่นี่” ชายหนุ่มวาดมือตบแก้มก้นหญิงสาวเบาๆ เขาขยิบตาขี้เล่นให้หล่อน ก่อนจะเดินลอยชายออกจากประตูบ้าน เพื่อมุ่งหน้าไปดูอาการมาดามจูเลียทิพยอาภาบ่นอุบอิบ เธอเสก้มหน้าซ่อนความเอียงอาย เพราะทุกคนที่เห็
บทที่13.ยอมแพ้โชคชะตา...แมทธิวยืนนิ่งเขากางแขนออก สายตาวิงวอนมองตรงไปยังผู้หญิงเบื้องหน้า หล่อนคงกำลังชั่งใจ ที่จะไปจากเขา หรือย้อนกลับมาหาเขากันแน่!! เวลานี้แมทธิวกำลังวัดใจกับโชคชะตา เพราะต่อให้ทิพยอาภา เดินหายลับเข้าไปในเกรท เขาก็ไม่มีวันปล่อยเธอไป... ชายหนุ่มสาบานกับใจตัวเอง ต่อให้หล่อนหนีไปซุกอยู่มุมไหนบนโลกใบนี้ก็ตาม เขาจะตามให้เจอ และจะไม่มีวันปล่อยให้หล่อนหลุดมือไป...อีกครั้งแน่!!เขายอมสยบแล้ว ยอมแพ้พรหมลิขิต หัวใจแกร่งกล้าแค่ไหน ก็ยังพ่ายแพ้ความเด็ดเดี่ยวของทิพยอาภาหล่อนเป็นผู้หญิงที่น่าชื่นชม...ไม่เคยปริปากตัดพ้อเขา มีเพียงแววตาเศร้าๆ แค่นั้น ที่ให้แอบมองตอนที่เขาเผลอหัวใจของหล่อนดั่งทองทา งดงามและล้ำค่า มากกว่าสิ่งใดหญิงสาวเม้มปากยืนนิ่ง...ตัดสินใจไม่ถูก ระหว่างหันหลังให้ผู้ชายที่ตัวเองรักกับการโผเข้าหาเขา แต่จะต้องผจญกับความเจ็บปวดแสนสาหัส เมื่อตนเองไม่มีค่าคู่ควรกับเขาสักนิดหากเปรียบแมทธิวเป็นเทพบุตร...ตัวเธอเองก็คงเป็นแค่ขอทานข้างถนนฟ้าสูงลิ่
แต่เขาก็จำหล่อนได้ แววตาภักดีของทิพยอาภานั่นไง...เป็นสิ่งเดียวที่ตราตรึงอยู่ในใจ...เขามั่นใจตนเองไม่ใช่คนเหลวไหล...เขากินเลือก...และป้องกันตัวดี...แต่เพราะอะไรไม่รู้...มันอาจจะเป็นเพราะความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาของทิพยอาภาก็เป็นได้...เขาไม่เคยคิดถึง ‘คอนดอม’ ไม่คิดถึงสิ่งใด นอกจากครอบครองหล่อนให้ได้...แมทธิวถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ระหว่างเขากับทิพยอาภายังไม่แน่ชัดนัก...ความรู้สึกคลุมเครือนั่น...มีเส้นใยบางๆ กั้นอยู่...ชายหนุ่มนิ่งเงียบไป เขาใช้ความคิด และกำลังตรองความรู้สึกของตัวเอง ที่มีกับผู้หญิงคนนั้น เขา รังเกียจ หล่อน หรือ รัก หล่อนกันแน่!!การเดินทางแสนยาวนานในความรู้สึกของคนใจคอไม่ดี...ถึงเวลาสิ้นสุดลง เมื่อมองเห็นประตูรั้วเหล็กยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า...ประตูหน้าถูกเปิดก่อนที่รถยนต์ของเขาจะเคลื่อนที่ไปถึง มีรถยนต์ของดีแลนคันหนึ่ง วิ่งสวนออกมา...แมทธิวใจหายวูบ!! เขามั่นใจว่าตัวเองสายตาดี ผู้หญิงที่นั่งตอนหลังรถยนต์คันนั้น คือ...คนที่ให้กำเนิดแองเจลิน่า!!“เร็วหน่อย!!” เขาตบเบาะเร่ง ใจคอไม่ดี ร
บทที่12.หัวใจหล่นหาย...เป็นเช้าที่หม่นหมองที่สุดสำหรับทิพยอาภา...เมื่อเวลาของเธอหมดลงคำประกาศิตของมาดามจูเลียก้องอยู่ในหัว เธอเก็บเสื้อผ้าของใช้ใส่กระเป๋าพร้อมกับน้ำตาที่หยดริน...“ทิพต้องไปแล้วค่ะคุณผู้หญิง” แม่ลูกอ่อนสุดอาภัพอุ้มลูกน้อยวัย1ปี ไปส่งถึงมือมาดามแพชี่พร้อมกับเอ่ยลา ข้างตัวเธอมีกระเป๋าเดินทางขนาดย่อม“เธอไม่ห่วงแองเจิ้ลเหรอทิพยอาภา”มารดาเลี้ยงของแมทธิวถามย้ำ นางน้ำตาซึมกับความกดดันที่โอบล้อมอยู่รอบตัวทิพยอาภาช้อนสายตาหม่นตรมขึ้นมองมาดามแพชี่ “ห่วงยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง แต่เวลาทิพหมดลงแล้วค่ะ”“ใครล่ะ ใครกำหนดเวลานั่นให้กับเธอ?” สาวใหญ่เค้นเสียงถาม มันแหบสั่นและแห้งแร้งเหลือทน“ฉันเอง...หล่อนมีปัญหาเหรอแม่แพชี่!!” มาดามจูเลียเดินผ่านประตูหน้าเข้ามา นางยืนค้ำศีรษะทิพยอาภา ปรายตาหยันๆ มองผู้หญิงที่อาจจะทำให้ดีแลนเสียหาย“ดิฉันไม่กล้าหรอกค่ะคุณท่าน แต่อยากถามสักนิด... ทิพยอาภาผิดมา
แมทธิวเบ้ปาก เขายกมือขึ้นหมายจะจับมืออ้วนป้อมของเด็กน้อยออกไปจากแขนแข็งแรง...เขาไม่ชอบเด็ก!!แต่...อะไรบางอย่างพุ่งปราดจากมือน้อยๆ นั่น วิ่งพล่านเข้าสู่หัวใจ เขาชะงัก จ้องมองนัยน์ตาใสแจ๋ว กับใบหน้ายิ้มแฉ่งนั่นแบบตะลึงงัน“ลองอุ้มแกดูไหมคะ?” เธอกระชับผืนผ้าให้แน่นขึ้น ขยับตัวช้อนอุ้มบุตรสาวมือของเธอจับอยู่ที่ซอกรักแร้ของแองเจลิน่า ยื่นร่างอ้วนกลมของบุตรสาวไว้ต่อหน้าแมทธิว“อย่าเลย...ฉันไม่เคย” ชายหนุ่มโบกมือปฏิเสธ เขาเสหลบตาบุตรสาวที่จ้องมองเหมือนกำลังรอความหวัง“ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่แรกหรอกค่ะ ทุกคนมีครั้งแรกเหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นคุณ หรือทิพ”หญิงสาวกล่าวให้กำลังใจ...เธอเองก็ร่วมลุ้น อยากให้แมทธิวทดลอง ‘อุ้ม’ แองเจลิน่าสักครั้งขาอ้วนๆ แกว่งไปมา...มือป้อมๆ ยัดใส่ปาก ดวงตาเริ่มพราวฉ่ำด้วยน้ำใสใส“ก็ได้ส่งมา หากฉันทำหลุดมืออย่ามาว่ากันนะ”ชายหนุ่มตัดใจ เขาตอบกลับเสียงห้วน...มือแข็งแรงยกขึ้นรอท่า พร้อมกับความรู้สึกตื่นเต้นที่ประเดประดังใส่“อย่าดิ้นสิ เดี๋
เป็นเรื่องน่าอายหากมีบุคคลที่สามล่วงรู้ เขาควานหาตัวทิพยอาภาเป็นบ้าเป็นหลัง แต่เมื่อเจอตัวหล่อน เขากลับไม่คิดกระโตกกระตาก ขอเก็บหล่อนไว้ลับๆ เพื่อดื่มด่ำกับรสเสน่หาที่มีหล่อนผู้เดียวที่มอบให้เขาได้“ค่ะ ทิพจะไม่บอกใคร?”เธอมีเวลาช่วงสั้น ๆ แล้วทำไมเล่าเธอจะไม่กอบโกยช่วงเวลานี้ไว้ คำประกาศิตของมาดามจูเลียยังดังก้องอยู่ในหู วันใดที่แองเจลิน่าครบ1 ปี นั่นคือเวลาสิ้นสุดของเธอ และช่วงเวลานั้นขยับเคลื่อนเข้าใกล้เต็มทน...แมทธิวจูบเร็ว ๆ ที่ริมฝีปากอิ่มเต็ม เขาเคล้นคลึงเนินอกอิ่มหนักมือขึ้น จนหญิงสาวตัวสั่นแสงไฟที่ส่องสว่างมุมห้อง ทอดแสงเรืองรองมายังร่างสูงใหญ่ของแมทธิว แสงสว่างน้อยนิดนั่นแหละ ทำให้เธอเห็นว่า ชายหนุ่มสุดกำยำ กำลังไขว่แขนเพื่อสลัดเสื้อผ้าบนร่างกายของเขาออกไป แผงอกหนาหนั่นที่เธอเคยอิงแอบแนบซบ อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง ปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตา...ลาดไหล่แข็งแกร่ง เนินอกที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม เสน่หาเรือนกายที่สยบเธอได้อย่างชะงัด!!ผิวแก้มทิพยอาภาผ่าวร้อน เมื่อหวนนึกถึงช่วงเวลาสุดหวามของตัวเองกับแมทธิว“หือ...” ชายหนุ่มเลิกป
บทที่11.ค่ำคืนที่เป็นแค่ความฝัน...กลางดึกสงัด ทุกอย่างรอบตัวมืดมิด...แต่ตามทางเดินรอบคฤหาสน์...ยังมีแสงไฟส่องสว่าง ดังนั้น... บุรุษหนุ่มผู้หนึ่งที่ย่องมาอย่างเงียบเชียบ...จากปีกตึกด้านขวาของดีแลน มายังปีกตึกด้านซ้ายของดีแลน จึงต้องเลี่ยงหลบ แสงไฟนั่น เพราะเผื่อจะมีคนตาดีมองเห็น เขาไม่อยากกระโตกกระตากให้คนอื่นรู้...ความลับที่กำลังทำแต่แมทธิวไม่รู้...มีสายตาคู่หนึ่งจับตามองเขา พร้อมกับอมยิ้มเจ้านายหนุ่มปีนี้อายุสามสิบห้าปี เขาเป็นถึงหัวหอกของดีแลนคอมแพล็กซ์...แต่กลับทำตัวเหมือนหนุ่มรุ่นกระทง ไม่ต่างอะไรกับโรมิโอ...ที่กำลังจะปีนหน้าต่างไปหาจูเลียต...แตกต่างกันแค่...ทิพยอาภาไม่ใช่หญิงสูงศักดิ์...หล่อนเป็นแค่ซิลเดอเรลล่า...ที่ถูกซุกอยู่ในครัว ต่ำต้อยเรี่ยดิน...แววตาคมวาว พราวระยับ เมื่อย่องตามแมทธิวมาติดๆ เขารับคำสั่งมาให้ตามดู มาดามจูเลียไม่ได้ให้ขัดขวาง...ดังนั้น แมทธิวจึงผลุบหายเข้าไปในห้องนอนของบุตรสาว...โดยไม่มีใครขัดขวาง หรือบังเอิญผ่านมาเจอ เมื่อเอ็ดมันเคลียร์เส้นทางจนปลอดโปร่ง
ทิพยอาภาส่งตะกร้าใบเล็กในมือให้การ์ดหนุ่มใหญ่โดยที่ไม่ได้พูดอะไร ที่เธอทำคือกัดกระพุ้งแก้ม เพื่อไม่ให้ตัวเองเผลอแสดงความไม่พอใจ...เวลานี้เธอยังไม่พร้อมที่จะหันหลังให้กับคนที่นี่“เอะอะอะไรกัน?”แมทธิวเดินหน้าตึงเขามาสมทบ เขาขึงตาใส่ทิพยอาภาและหล่อนก็รีบก้มหน้าหลบสายตาของเขา“คนของแม่เลี้ยงเราน่ะ...ทำเป็นอวดดี สะเออะ!! อวดรู้ หล่อนไปเก็บของพวกนั้นมาจากข้างรั้ว...คงคิดจะทำดีเสนอหน้า แต่เปล่าเลย เป็นความคิดที่แย่มาก”มาดามเปรยบอกหลานชาย นางหรี่ตาจับพิรุธแมทธิวด้วย...ระหว่างผู้หญิงตรงหน้ากับตัวหลานชาย ยังมีเยื่อใยต่อกันหรือไม่?“อะไรครับคุณย่า?” ชายหนุ่มเดินเข้าไปประคองมาดามจูเลีย เขาขึงตาปรามทิพยอาภา เป็นการข่มขวัญหล่อนไม่ให้หล่อนหือ“ช่างเถอะ...ว่าแต่วันนี้ทำไมไปสาย”นางเหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะย้อนถามแมทธิวเสียงเรียบชายหนุ่มสะอึก เขายังไม่ทันคิดหาข้อแก้ตัว วันนี้เขาตั้งใจเบี้ยว เพราะมีความต้องการล้นอก และกำลังหาทางมาระบายออกกับผู้หญิงที่กำลังโดนเฉ่งคนนี้ไง“ไปสา
บทที่10.หยดน้ำตาบนหมอนนุ่มเห้อ...เสียงถอนลมหายใจรอบที่ร้อยในหนึ่งวัน...เมื่อหัวใจหม่นหมอง กลัดหนองจนเกือบขาดใจตาย ความทุกข์ที่เธอแบกรับไว้ ทำให้ไม่สามารถยิ้มได้เหมือนเดิม ไม่มีใครช่วยเธอได้สักคน...มันเหมือนเชือกที่ร้อยรัดพันธนาการเธอไว้ ค่อยๆ ขยับปม มัดแน่นเข้ามาทุกที จนแทบหายใจไม่ออกแต่จะให้ทำยังไงได้ นอกจากก้มหน้าทน...และทน เมื่อหัวใจของเธอผูกพันกับคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นบุตรสาว หรือ แมทธิววันใดที่เดินออกจากคฤหาสน์ดีแลน...มันนั้นเธอคงเหลือแค่ซากเมื่อหัวใจทั้งดวงทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว“หน้าเธอเศร้าจังเลยอริส!! ”สวีตตี้เจ้าเดิม หล่อนสนใจใคร่รู้ไปทุกเรื่อง ยิ่งคนใกล้ตัวแล้ว ยิ่งไม่มีทางคลาดสายตา“คิดถึงบ้านละสิ...ใหม่ๆ ฉันก็เป็น แต่เดี๋ยวนี้ชินแล้วล่ะ” หล่อนยังพูดเจื้อยแจ้ว...ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าคู่สนทนาจะเป็นอย่างไรแม่ลูกอ่อนสุดอาภัพยกมือปาดน้ำตา รีบสวมรอยเพราะไม่อยากให้คนอื่นล่วงรู้ความในใจของตนเอง“อืม...คิดถึง...” ห