หลิวถิงถิงเข้าเรียนแบบที่ไม่มีสมาธิเท่าไหร่นักจนฟางอี้หลงอดที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เพราะเขาไม่ค่อยเห็นหลิวถิงถิงไม่มีสมาธิเวลาที่เข้าเรียนแบบนี้ “ถิงถิงเป็นอะไรหรือเปล่า ฉันเห็นเธอแสดงสีหน้าเป็นกังวลตั้งแต่เข้าห้องเรียนมาแล้วนะ” “เปล่า พอดีรู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่ตอนนี้ดีขึ้นละ ตั้งใจเรียนเถอะ เดี๋ยวอาจารย์จะดุ” เสียงหวานบอกกับเพื่อนชายก่อนที่จะทำเป็นก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือโดยไม่ได้สนใจคนข้างๆ อีก ฟางอี้หลงมองเธอด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่กล้าซักถามให้เกิดความรำคาญเพราะเขารู้ดีว่าเขาไม่ได้เป็นคนสำคัญในชีวิตเธอ และคืนนี้ก็เป็นคืนที่หลิวถิงถิงคิดมาก จะโทรไปถามบิดาว่าเป็นอะไรไหมก็กลัวเขาจะโกหก อดีตแม่เลี้ยงของเธออาจจะรู้อะไรบางอย่างมาที่บิดาของเธอไม่ยอมเล่าให้เธอฟังเพราะกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง อาการของหลิวถิงถิงนั้นอยู่ในสายตาของเพื่อนทั้งสองตลอด “นอนไม่หลับหรอถิงถิง ไม่สบายหรือเปล่า ฉันเห็นเธอจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเลยนะวันนี้” จ้าวซือซือเอ่ยถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“คุณชายครับนางหยินเยว่ฝากจดหมายมาให้คุณชายครับ” จางหลงรีบส่งจดหมายให้ผู้เป็นนายทันที“หยินเยว่งั้นหรอ” มือหนารีบรับมาก่อนที่จะเปิดอ่าน‘ถึงคุณชายซือตอนนี้ไอ้ผัวชั่วของฉันมันกำลังจะไปลักพาตัวหลิวถิงถิงไปให้เจ้าสัวที่เมืองเคโดยให้ฉันเป็นนางนกต่อ ฉันไม่มีทางเลือกมันตบตีฉันจนฉันต้องยอมทำตามที่มันต้องการ นี่เป็นเส้นทางที่มันจะใช้เดินทางกลับตอนได้ตัวหลิวถิงถิงเรียบร้อยแล้ว ในรถมีลูกน้องของเจ้าสัวมาด้วยสองคน ช่วยปลดปล่อยเราจากไอ้ชั่วเยว่ชิงด้วยนะคะ แล้วดิฉันกับลูกจะไม่มายุ่งกับหลิวถิงถิงอีก.......... หยินเยว่’ สายตาคมวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างน่ากลัว สองบอดี้การ์ดหนุ่มรู้สึกขนหัวลุกกับท่าทีของคุณชาย แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถามอะไรเสียงเข้มก็เอ่ยดังมาจากริมฝีปากสีกุหลาบ “มันคงจะติดคุกนานจนลืมไปว่าเมืองแอลแห่งนี้เป็นถิ่นของใคร จางหลง ต้าฉินไปดักรอตามเส้นทางนี้และให้คนตามดูถิงถิงอย่าให้คลาดสายตา หยินเยว่ส่งข่าวมาว่าผัวชั่วของนางจะจับตัวถิงถิงไปขัดดอกหนี้พนันกับเจ้าสัวที่เมืองเคโดยให้หยินเยว่เป็นนางนกต่อ อย่าปล่อยให้มันข้ามชา
รถตู้คันสีขาวแล่นไปตามทางที่หยินเยว่บอกเอาไว้ เพราะเธอนั้นอยู่เมืองแอลมานานและรู้จักเส้นทางดีกว่าใคร เยว่ชิงจึงไว้ใจให้เธอเป็นคนบอกเส้นทาง สายตาหื่นกระหายจากลูกน้องของเจ้าสัวมองไปที่หญิงสาวที่ลูกหนี้ของเจ้าสัวไปอุ้มมาก็อดที่กลืนน้ำลายไม่ได้ เพราะผู้หญิงคนนี้ทั้งสวยทั้งขาวขนาดนี้เป็นใครจะอดมองไหว เมื่อรถเริ่มเข้าไปเส้นทางลัดซึ่งเป็นทางเปลี่ยวไม่ค่อยมีใครใช้งานรถที่แล่นมาดีๆ ก็ต้องเบรกแทบไม่ทัน “เห้ย รถใครจอดขวางทางวะ” เสียงลูกน้องเจ้าสัวที่กำลังทำหน้าที่เป็นคนขับรถสบถถามขึ้น “ตำรวจหรือเปล่าวะ” เพื่อนที่มาด้วยกันละสายตาจากหญิงสาวก่อนที่จะหันไปมองข้างหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้นอย่างตื่นตระหนก “ไม่น่าจะใช่ ทางนี้ทางลัดไม่มีตำรวจแน่นอน” หยินเยว่เอ่ยขึ้น เยว่ชิงหันมามองภรรยาด้วยสายตาหวาดระแวง “นี่ไม่ได้มีคนมาช่วยนังเด็กนี่ใช่ไหม” เสียงเหี้ยมเอ่ยถามขึ้น ขณะมองไปที่ด้านหน้า สองบอดี้การ์ดหนุ่มลงจากรถมายืนจังก้ามองมาที่รถตู้เป้าหมายที่จอดนิ่งอยู่ ก่อนที่จะเดินไปเคาะกระจกด้านคนขับ &n
‘ถึงว่าเด็กในรถทั้งสวยทั้งขาว จะเป็นเด็กของคุณชายคงจะไม่แปลก’ หนึ่งในลูกน้องของเจ้าสัวคิดในใจเมื่อนึกถึงหญิงสาวที่นางหยินเยว่ไปพาขึ้นรถมา“เห้ย!! ไอ้พวกโง่ พวกมันมีกันแค่สามคนจะกลัวอะไรกันวะ” พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงรถตู้คันหนึ่งก็ขับเข้ามาจอดที่ด้านหลังรถตู้คันสีขาว สี่ร่างสูงใหญ่ลูกน้องของต้าฉินลงจากรถมาด้วยท่าทางขึงขังจนสองลูกน้องของเจ้าสัวกลัวจนขาสั่น พวกมันนั่งคุกเข่าลงกับพื้นแทบจะไม่ทัน “ปล่อยเราสองคนกลับเมืองเคไปเถอะครับ ถือซะว่าเห็นแก่มิตรภาพของคุณชายกับเจ้าสัว ส่วนไอ้นี่คุณชายจะทำอย่างไรกับมันก็สุดแล้วแต่คุณชาย” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นๆ“เฮ้ย อะไรกันวะ พวกแกจะทิ้งฉันกับเมียได้ยังไง ทำด้วยกันก็ต้องรับผิดชอบร่วมกันดิวะ” เสียงแหบแห้งของเยว่ชิงตวาดขึ้นจนสองลูกน้องของเจ้าสัวลุกขึ้นและจับเขากดลงกับพื้น “แกไม่มีสิทธิ์มาพูดแบบนี้ไอ้เยว่ชิง ถ้าเจ้าสัวรู้ว่าแกกำลังทำให้มิตรภาพของเจ้าสัวกับคุณชายซือสั่นคลอน แกไม่ได้ตายดีแน่ๆ” เสียงเหี้ยมสบถขึ้นก่อนที่จะเตะเข้าไปที่ร่า
รถตู้คันหรูเคลื่อนกลับเข้าไปในเมืองแอล ก่อนที่จะตรงไปที่คอนโดสุดหรูใจกลางกรุง ซือมู่อันหันไปมองคนข้างๆ แทบจะนับครั้งไม่ถ้วน เขาไม่รู้ว่าเธอโดนยานอนหลับไปปริมาณมากขนาดไหนถึงยังนอนหลับไม่รู้สึกตัวนานขนาดนี้ พอถึงบริเวณจอดรถของคอนโด ชายหนุ่มก็ลงจากรถก่อนที่จะเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งข้างคนขับที่มีร่างบางนอนอย่างไร้สติอยู่ มือหนาสอดเข้าไปด้านหลังและข้อพับใต้ขาแล้วช้อนร่างบางขึ้นมาบนอ้อมแขน ประตูรถถูกปิดโดยเท้าที่สวมรองเท้าหนังแบรนด์เนม ก่อนที่จะก้าวขายาวๆ ตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัว ไม่นานลิฟต์ก็พาสองหนุ่มสาวไปถึงห้องของซือมู่อัน เขาวางร่างบางลงบนโซฟาที่มีไว้รับแขกด้านนอก แล้วเดินตรงไปเปิดประตูเข้าไปในห้อง ร่างสูงกลับมาอุ้มหญิงสาวขึ้นมาแนบอกก่อนที่จะสาวเท้ายาวๆ เข้าห้องไป ทางด้านต้าฉินก็พาตัวเยว่ชิงมาจัดการที่บ้านร้างติดชายแดนเมืองแอลและเมืองเอ็ม คุณชายซือสั่งให้จัดการเขาให้เด็ดขาดและไม่ให้กลับมาสร้างปัญหาให้กับใครในเมืองแอลอีกนั่นก็หมายความว่าให้จัดการระดับที่8 ไม่ตายก็เกือบตาย บทสรุปของคนชั่วที่ไม่ต้องรอให้กฎหมายมาลงโทษ เพราะถึงจะเข้าคุกไปพอออกมาแล้วคนแบบนี้ก็ยังไม่รู้จักสำนึก ร่างผอมถู
"ไม่ ข้าไม่ไป ปล่อยข้านะเว้ย” เสียงแหบพร่าตะโกนขึ้นก่อนที่จะพยายามหนี แต่ร่างกายบาดเจ็บเกินกว่าจะหนีไปไหนได้ ร่างผอมแห้งถูกสองชายฉกรรจ์จากไปขึ้นรถที่มาใหม่ทันที“ขอบคุณที่ไม่ปล่อยมันไปครับ เจ้าสัวฝากมาขอโทษคุณชายซือด้วยครับที่สร้างความเดือดร้อนให้” หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่ยังยืนอยู่เอ่ยขึ้นกับต้าฉินอย่างสุภาพ ต้าฉินโค้งศีรษะลงเล็กน้อยเพื่อตอบรับ ก่อนที่อีกฝ่ายจะคำนับให้เขาอีกครั้งแล้วเดินกลับไปขึ้นรถ รถตู้เคลื่อนออกจากบริเวณบ้านร้างไปพร้อมกับสายตาคมของต้าฉินที่มองตามไปจนสุดสายตา“สุดท้ายก็หนีไม่พ้นสิ่งที่ตนก่อไว้” บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยออกมาก่อนที่จะหันไปสั่งให้ลูกน้องทำความสะอาดบริเวณบ้านและพากันขับรถกลับเมืองแอล ขณะที่นั่งอยู่ในรถต้าฉินก็ส่งข้อความไปรายงานคุณชายซือว่าได้ทำงานที่สั่งสำเร็จและส่งต่อไปให้เจ้าสัวที่ชายแดนเมืองเคเรียบร้อยแล้ว ซือมู่อันที่พาร่างบางขึ้นไปนอนบนเตียงก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดูข้อความ พอเห็นรายงานริมฝีปากหนาก็ยกยิ้มขึ้นมาทันที คนชั่วๆ แบบเยว่ชิงจะปล่อยไปได้ยังไง อย่างน้อยก็ต้องให้มันได้กลับไปเจอกับเจ้าหนี้สักหน่อย ที่เหลือก็สุดแล้วแต่เวรแต่กรรมของมัน มือหนายื่นไปจับปอย
หลังจากเรื่องราววุ่นวายต่างๆ ผ่านพ้นไปหลิวถิงถิงก็เริ่มใช้ชีวิตอย่างปกติสุขมากขึ้น แต่ที่ไม่ปกติคือซือมู่อันนั้นนัดเจอเธออยู่เรื่อยๆ ถึงแม้เธอจะหวั่นไหวกับเขาแค่ไหน และรู้สึกว่าพักหลังๆ มานี้เขาทำดีกับเธอแค่ไหน แต่หลิวถิงถิงก็ไม่กล้าที่จะคิดไกลไปกว่าแค่เธอเป็นเด็กในอุปการะของเขา หรือเป็นแค่ที่ระบายเรื่องบนเตียงให้กับเขาก็เท่านั้น เธอรอวันที่เขาเบื่อเธอเพื่อจะได้เป็นอิสระแต่วันแล้ววันเล่าเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อเธอเลยสักนิด“อื้อ ปล่อยดิฉันก่อนค่ะ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นขณะที่ร่างกายเปลือยเปล่ายังอยู่ในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่นของชายหนุ่มที่มีรูปร่างงดงามดังเทพบุตรกรีก“ทำไมหืม....จะรีบลุกไปไหน วันนี้มันวันเสาร์ เธอไม่ได้มีเรียนไม่ใช่หรอ” เสียงทุ้มดังขึ้นที่ข้างหูเล็กทำเอาขนกายสาวลุกซู่“ย่ะ..อย่านะคะ” ร่างบางพยายามถอยหนีแต่วงแขนกว้างกลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม จมูกโด่งกดลงไปบนบ่าเนียนก่อนที่จะเลื่อนไปยังลำคอขาวผ่อง ปากหนาสีกุหลาบเม้มลงบนเนื้อนวลจนเป็นรอยแดงเล็กๆ ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจากลำคอแล้วมองดูผลงานของตนอย่างพอใจ คนถูกกระทำ
“กลัวฉัน...มากขนาดนั้นเลยหรอถิงถิง ตอนนี้เธอคือคนเดียวที่ฉันนอนด้วยแล้วนะ รู้ตัวไหม หืม...” ซือมู่อันตอบเสียงกระเส่าออกมาทำเอาใจสาวอดที่จะสั่นไหวไม่ได้ ‘นั่นสิทำไมกันนะ ทำไมเขาถึงไม่ยอมเรียกหาใครเลย ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเบื่อร่างกายของเธอไปแล้วด้วยซ้ำ แต่นี่นานวันเข้าเขากลับไม่รู้จักอิ่ม เขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอทุกครั้งที่มีโอกาส และหัวใจของเธอก็กลายเป็นของเขาหมดทั้งใจ และเธอก็พร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมา นั่นก็คือการไปรักคนไม่มีหัวใจ แบบคุณชายซือ’“เปล่าค่ะ แต่....ที่เราทำมามันมากเกินไปแล้วนะคะ” หญิงสาวตอบด้วยความอาย“แต่ทำไมฉันยังไม่รู้สึกว่ามันพอเสียที” ซือมู่อันบอกหน้าตายก่อนที่จะเริ่มบทรักอันร้อนแรงที่หญิงสาวเองก็ปฏิเสธไม่ได้ กว่าที่บทรักพายุสวาทครั้งนี้จะสงบลง หลิวถิงถิงก็สลบคาอกของชายหนุ่มไปแบบไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งบ่ายคล้อย ร่างบางจึงฟื้นคืนสติ บนที่นอนนุ่มข้างกายนั้นไร้ร่างหนาของคนที่รังแกเธอมาตลอดทั้งเช้าจนข้าวสองมื้อไม่ตกถึงท้องของเธอเลย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ‘เธอก็เป็นแค่ที่ระบายของเ
“ยินดีด้วยนะลี่หลิน คุณจางหลง ในที่สุดก็จะลงเอยกันเสียที” เจ้าของร้านคนสวยเอ่ยแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวทันทีที่เห็นคู่รักเดินเข้ามาในงานเลี้ยงขนาดเล็กภายในร้านของเธอ วันนี้ร้านของเธอปิดทำการขายหนึ่งวัน และได้นำขนมบางส่วนไปให้เด็กๆ ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ทาน ส่วนสามีสุดหล่อแถมสายเปย์ก็มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสในนามของตระกูลซือ“จ้ะ ขอบใจเธอมากนะที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกัน” ลี่หลินเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาจับมือเพื่อนสาวคนสวยที่ราศีคุณนายจับ ผิวขาวเนียนผุดผ่องตามประสาคนไม่ค่อยโดนแสงแดด“มันเป็นพรหมลิขิตมากกว่า จริงไหมคะคุณจางหลง” ซือถิงถิงเอ่ยออกมาพร้อมกับเอ่ยถามบอดี้การ์ดมือซ้ายของสามีหนุ่มยิ้มๆ “ใช่ครับคุณนาย” จางหลงตอบพร้อมยิ้มกว้างออกมา ‘อันที่จริงก็เพราะคุณนายหนีไปทำงานที่เมืองเอ็มอยู่กับลี่หลินนั่นแหละครับผมถึงได้เจอเธอ’ จางหลงคิดในใจหากแต่เขาไม่พูดออกมาเพราะการหนีไปครั้งนั้นของเธอทำให้คุณชายซือผู้ที่เคยเย็นชาของเขากลับกลายเป็นคุณชายซือผู้คลั่งรักและแสนอบอุ่นกับภรรยาและลูกๆ ทั้งสองในวันนี้ สองหนุ่มสาวทักทายเจ้าของร้านคนสวยอยู่สักพักก่อนที่จะเข้าไปเล่นกับคุณชายน้อยและคุณหนูน้
5 ปีผ่านไป สองแฝดน้อยเติบโตมาเป็นเด็กดี และด้วยไอคิวและอีคิวที่สูงกว่าเด็กทั่วไปเลยทำให้ทั้งสองเด็กน้อยถูกเรียกว่าเด็กอัจฉริยะ ทั้งลู่ชิงและลู่เหลียนต่างเป็นที่รักของครอบครัว ครูอาจารย์และเพื่อนๆ ทั้งชั้นเรียน เพราะความเก่ง ฉลาด และมีนิสัยน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ถือว่าตนอยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรือสูงส่ง ลู่ชิงและลู่เหลียนมีเพื่อนตั้งแต่ตระกูลธรรมดาไปจนถึงลูกเจ้าของบริษัท“แม่ครับ วันนี้ผมขอไปเตะบอลกับต้าเฟยนะครับ” เสียงเล็กๆ ของบุตรชายเอ่ยดังขึ้นหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ต้าเฟยคือบุตรชายของต้าฉิน กับหลินหลิน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกในทันทีทำให้สองเด็กน้อยมีอายุห่างกันแค่สิบเดือนเท่านั้น“แล้วลู่เหลียนจะไปอยู่ไหนล่ะคะพี่ลู่ชิง” น้องสาวที่คลอดห่างกันไม่กี่นาทีเอ่ยถามพี่ชายขึ้นเพราะต้าเฟยนั้นก็เป็นผู้ชาย เด็กวัยเดียวกันกับเธอนั้นไม่มีเลย มีก็แต่น้องซูหนี่ว์ บุตรสาวของคุณน้าซือซือ ซุปตาร์สาวเพื่อนของมารดาที่อายุน้อยกว่าเธอไปถึงสามปี น้องเพิ่งจะได้สองขวบ เพราะคุณน้าซือซือเพิ่งตกลงแต่งงานกับคุณลุงเจียอีที่ตามจีบคุณน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย “เอาอย่างนี้ไหมคะลูก เดี๋ยวลู่เหลียนไปที
“ชอบเขาหรอวะจางหลง” ต้าฉินโพล่งถามขึ้นมาทันที จางหลงที่ยกน้ำขึ้นมากระดกพอดีน้ำแทบจะพุ่งพรวดออกจากปาก มือหนายกขึ้นมาเช็ดปากก่อนที่จะหันขวับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของไอ้เพื่อนสนิท “เออ...ว่าแต่อาการของข้ามันมองออกขนาดนั้นเลยหรอวะ” จางหลงเอ่ยถามขึ้นเสียงหลง “มาก ไม่ค่อยแสดงออกเลยฮ่าๆๆ” “เออ..ใครมันจะไปเก็บความรู้สึกเก่งแบบแก ระวังเถอะ ระวังสุนัขคาบไปรับประทาน แม่นักข่าวสาวเพื่อนสนิทของแกน่ะ” จางหลงไม่ยอมให้เพื่อนมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียว เลยเอาความลับที่รู้มาแขวะเพื่อนกลับไปเช่นกัน ต้าฉินมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างตกใจ “เฮ้ย!! แล้วแกรู้ได้ไงวะ ฉันไม่เคยแสดงออกเลยนะ” ต้าฉินอุทานพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตกใจ “ก็แกน่ะคบผู้หญิงสักคนที่ไหน ก็เห็นจะมีแต่หลินหลินคนเดียวที่แกคุยด้วย โถ่!! ไอ้ต้าฉินอย่าคิดว่าแกถือไพ่เหนือกว่าคนเดียวสิวะ ขนาดเรื่องนี้คุณชายยังรู้เลยฮ่าๆๆๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ต้าฉินตาเบิกโพลงเขาไม่คิดว่าคุณชายผู้ที่ไม่สนใจเรื่องราวใดๆ แต่ดันมารู้เรื่องของหัวใจที่เขาปิดบังเอาไว้สองหนุ่มหยอกล้อกันระหว่างที่นั่งคุมเชิงอยู่หน้าห้องพักฟื้นVVIPของคุณนายซือ
หกเดือนต่อมา และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่สองแฝดน้อยได้กำหนดการในการลืมตามาดูโลก คุณนายใหญ่ดูจะเป็นผู้ที่ตื่นเต้นกว่าใครทั้งหมด ด้วยยังไม่รู้ว่าหลานๆ ของตนนั้นเป็นเพศไหน เพราะทั้งบุตรชายและสะใภ้ต่างอยากจะรอลุ้นในวันคลอดทีเดียว ผู้เป็นย่าจึงทำได้แค่เพียงรอคอยและเตรียมชื่อไว้ให้สองแฝดเท่านั้น ซือมู่อันตื่นเต้นไม่แพ้กัน เขาคอยทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวมาเป็นอย่างดี แถมเขายังงดเรื่องบนเตียงมาได้เกือบสามเดือนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกน้อยทั้งสอง ซือถิงถิงเคยพูดเล่นให้เขาไปทำแบบเดิมช่วงที่เธอไม่สามารถมอบความสุขให้เขาได้ แต่ผู้ชายแบบเขาก็ไม่มีทางผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับภรรยาเด็ดขาด เขาเลือกที่จะช่วยตนเองและออกกำลังกาย แทนการไปปลดปล่อยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะพี่ตงตง ถิงถิงเข้าห้องคลอดไปนานหรือยังคะ” เสียงหวานจากซุปตาร์สาวที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้เอ่ยทักทายครอบครัวของเพื่อนสนิท ก่อนที่จะถามถึงเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “อ้าว สวัสดีจ้ะหนูซือซือ เข้าไปได้สักพักแล้วจ้ะ เห็นว่าจะคลอดเองนะ แม่ก็อดท
หลิวถิงถิงเขินจนหน้าแดง ก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของสามีหนุ่มอย่างหมั่นไส้ และหันไปมองสองบอดี้การ์ดหนุ่มข้างหลังก็พบว่าคนทั้งคู่กำลังมองไปทางอื่นเลยถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างรู้สึกโล่งใจที่สองบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ทันเห็น แต่หารู้ไม่ว่าริมฝีปากหนาของทั้งจางหลงและต้าฉินยกยิ้มขึ้นมาอย่างขบขันเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่แผนกบัญชีและการเงิน ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้ก็เดินออกมาจากลิฟต์อย่างสง่างาม พร้อมด้วยบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างจางหลงที่มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับคุณนายซือ สี่สาวและสองหนุ่มมองมาที่หญิงสาวในสถานะใหม่อย่างตกตะลึง ก่อนที่ทุกคนจะรีบเดินออกมายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อต้อนรับคุณนายซือ“สวัสดีค่ะพี่จินหยูและพี่ๆ ทุกคน สบายดีกันไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ผู้จัดการแผนกมองไปที่หญิงสาวที่มีรูปร่างอวบอิ่มอย่างตื่นเต้นและดีใจ“พี่สบายดีค่ะ น้องถิงถิง เอ่อ...คุณนายซือก็สบายดีใช่ไหมคะ” หญิงสูงวัยกว่าทักทายกลับก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาของท่านประธาน“เรียกว่าถิงถิงเหมือนเดิมก็ได้ค่ะพี่จินหยู พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคะ”“ไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้น้องถิงถิง..เอ
เรือนร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนกอดก่ายอยู่บนเรือนร่างหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของสามีหมาดๆ เปลือกตาบางหลับพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านค่ำคืนที่บ่งบอกว่าเธอและเขาคือคนคนเดียวกันโดยสมบูรณ์ วงแขนอบอุ่นโอบกอดเธอเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้เธอจากไปไหน แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นการเตือนว่าเช้านี้ทั้งสองชีวิตได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างแท้จริงแล้ว ร่างหนาของซือมู่อันค่อยๆ ขยับร่างระหงของภรรยาสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาถึงความสุข มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมร่างอวบอิ่มของภรรยาสาวเอาไว้ก่อนที่สายตาคมที่ทอแสงแห่งความอบอุ่นส่งไปยามมองไปที่ใบหน้าสวย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนที่จะตรงไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ในเวลาต่อมาร่างหนาในชุดคลุมสีขาวเดินตรงไปยังส่วนของห้องครัว มื้อนี้เขาจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้ามื้อแรกสำหรับภรรยาคนสวยของเขา ขณะที่มือเรียวยาวของพ่อครัวหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังจับตะหลิวคนโจ๊กร้อนๆ อยู่ที่หน้าเตา ช่วงเอวสอบก็ถูกลำแขนเสลาสอดเข้ามากอดจากทางด้านหลัง ริมฝีปากบางสีกุหลาบยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่น“กำลังทำอะไรอยู่คะ...คุณสามี” เสียงหว
การที่ไม่จัดพิธีฉลองมงคลสมรสแบบสากลในตอนเย็นนั้นเป็นความต้องการของเจ้าสาวเอง ไม่ใช่เพราะเธออยากที่จะช่วยทางเจ้าบ่าวประหยัดงบหนือเกรงใจ แต่เป็นเพราะช่วงนี้เธอรู้สึกเพลียง่ายและง่วงนอนเร็ว เลยเลือกที่จะทำพิธีแบบจีนอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าบ่าวอย่างคุณชายซือก็ไม่ขัด ถึงแม้ว่ามารดาจะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม เพราะความที่อยากจะกู้ศักดิ์ศรีให้กับลูกสะใภ้ แต่ก็ต้องจำยอมเพราะเธอเอาหลานๆ ในท้องมาอ้างว่าหากเธอเพลียอาจจะไม่เป็นผลดีกับสองแฝดน้อยในครรภ์คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองแอลพอรถจอดซือมู่อันก็อุ้มร่างบอบบางที่เริ่มอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของภรรยาขึ้นก่อนที่สองขาแข็งแรงจะก้าวยาวๆ ตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัว ใบหน้าหวานขึ้นสีเลือดฝาดขึ้นมาทันทีที่มองใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นสามีทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย ทั้งสองได้จดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะจัดพิธีแต่งงานมาได้สัปดาห์หนึ่งแล้ว คนถูกมองเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาแอบมองเขาอยู่ แต่นั่นไม่จริงเลยสักนิด เขากำลังตั้งใจอุ้มเธอด้วยความระมัดระวังเพราะมีลูกๆ สองคนอยู่ในท้องของเธอ ประตูคอนโดถูกเปิดออกโดยสองหนุ่มบอดี้ก
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ใครหลายคนเฝ้าจับตาและรอคอย นั่นก็คือวันแต่งงานของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลซือซึ่งงานนั้นถูกจัดขึ้นภายในอาณาจักรตระกูลซือที่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ และเหตุผลที่เลือกจัดงานโดยใช้สถานที่เดียวในวันนี้ก็เพราะที่บ้านของเจ้าสาวนั้นค่อนข้างที่จะคับแคบ คุณนายใหญ่แห่งตระกูลซือเลยออกความเห็นว่าให้จัดที่บ้านเจ้าบ่าวและไปเข้าหอกันที่คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองของเจ้าบ่าว ทางฝ่ายเจ้าสาวที่มีญาติเหลือเพียงสองคนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีเจ้าสาวแสนสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงสไตล์เรียบหรูแบบผสมผสานระหว่างจีนกับยุโรป ทรงผมถูกทักเปียเก็บอย่างสวยงามมีปิ่นเงินปิ่นทองและใบทับทิมพร้อมดอกไม้สดประดับอยู่ข้างหลังส่งกลิ่นหอมอบอวลด้วยเจ้าสาวนั้นชอบกลิ่นของมันจึงไม่ใช่ปัญหาของอาการแพ้ท้องที่ตอนนี้ครบกำหนดสามเดือนแล้ว ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ร่างระหงกำลังนั่งรอเจ้าบ่าวมารับตัวเพื่อลงไปประกอบพิธี ขั้นตอนนี้ผ่านพิธีมอบสินสอดและสวมแหวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่รอให้เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวพาไปเข้าหอ “เธอสวยมากเล
หลิวถิงถิงมองพนักงานทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เธอยังไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นผู้หญิงทั้งสองคือใคร เสียงดนตรีบรรเลงเพลงสากลขึ้นมาเบาๆ ซึ่งเธอก็จำได้ว่ามันเป็นเพลง Perfect ของEd Sheeran และมาถึงช่วงจังหวะทำนองWell, I found a woman, stronger than anyone I knowShe shares my dreams, I hope that someday I'll share her homeI found a love, to carry more than just my secretsTo carry love, to carry children of our own ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายซือก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ บริกรสาวภายใต้หน้ากากเปิดฝาที่ครอบถาดกลมเอาไว้ออก ซึ่งเผยให้เห็นว่าภายในมีกระปุกกลมสีทองวางอยู่ มือเรียวของซือมู่อันยื่นไปหยิบมาถือไว้ หลิวถิงถิงรู้สึกใจเต้นแรงแทบจะไม่เป็นจังหวะก่อนที่เธอจะมองไปที่บริกรสาวทั้งสองอย่างคุ้นเคย หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรออกไป กล่องสีทองก็ถูกว่าที่สามีสุดหล่อของเธอเปิดออกตรงหน้า แหวนเพชรวงเล็กแต่มีเพชรล้อมรอบส่งแสงระยิบระยับดูงามตา พอถึงตอนนี้เธอจึงเข้าใจทันทีว่าเธอกำลังถูกเขาขอแต่งงาน “มาเป็นคน