หลังจากเรื่องราววุ่นวายต่างๆ ผ่านพ้นไปหลิวถิงถิงก็เริ่มใช้ชีวิตอย่างปกติสุขมากขึ้น แต่ที่ไม่ปกติคือซือมู่อันนั้นนัดเจอเธออยู่เรื่อยๆ ถึงแม้เธอจะหวั่นไหวกับเขาแค่ไหน และรู้สึกว่าพักหลังๆ มานี้เขาทำดีกับเธอแค่ไหน แต่หลิวถิงถิงก็ไม่กล้าที่จะคิดไกลไปกว่าแค่เธอเป็นเด็กในอุปการะของเขา หรือเป็นแค่ที่ระบายเรื่องบนเตียงให้กับเขาก็เท่านั้น เธอรอวันที่เขาเบื่อเธอเพื่อจะได้เป็นอิสระแต่วันแล้ววันเล่าเขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะเบื่อเธอเลยสักนิด
“อื้อ ปล่อยดิฉันก่อนค่ะ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นขณะที่ร่างกายเปลือยเปล่ายังอยู่ในอ้อมแขนที่แสนอบอุ่นของชายหนุ่มที่มีรูปร่างงดงามดังเทพบุตรกรีก “ทำไมหืม....จะรีบลุกไปไหน วันนี้มันวันเสาร์ เธอไม่ได้มีเรียนไม่ใช่หรอ” เสียงทุ้มดังขึ้นที่ข้างหูเล็กทำเอาขนกายสาวลุกซู่ “ย่ะ..อย่านะคะ” ร่างบางพยายามถอยหนีแต่วงแขนกว้างกลับรัดแน่นยิ่งกว่าเดิม จมูกโด่งกดลงไปบนบ่าเนียนก่อนที่จะเลื่อนไปยังลำคอขาวผ่อง ปากหนาสีกุหลาบเม้มลงบนเนื้อนวลจนเป็นรอยแดงเล็กๆ ใบหน้าหล่อเหลาผละออกจากลำคอแล้วมองดูผลงานของตนอย่างพอใจ คนถูกกระทำ“กลัวฉัน...มากขนาดนั้นเลยหรอถิงถิง ตอนนี้เธอคือคนเดียวที่ฉันนอนด้วยแล้วนะ รู้ตัวไหม หืม...” ซือมู่อันตอบเสียงกระเส่าออกมาทำเอาใจสาวอดที่จะสั่นไหวไม่ได้ ‘นั่นสิทำไมกันนะ ทำไมเขาถึงไม่ยอมเรียกหาใครเลย ทั้งๆ ที่เขาน่าจะเบื่อร่างกายของเธอไปแล้วด้วยซ้ำ แต่นี่นานวันเข้าเขากลับไม่รู้จักอิ่ม เขาตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอทุกครั้งที่มีโอกาส และหัวใจของเธอก็กลายเป็นของเขาหมดทั้งใจ และเธอก็พร้อมที่จะยอมรับผลที่ตามมา นั่นก็คือการไปรักคนไม่มีหัวใจ แบบคุณชายซือ’“เปล่าค่ะ แต่....ที่เราทำมามันมากเกินไปแล้วนะคะ” หญิงสาวตอบด้วยความอาย“แต่ทำไมฉันยังไม่รู้สึกว่ามันพอเสียที” ซือมู่อันบอกหน้าตายก่อนที่จะเริ่มบทรักอันร้อนแรงที่หญิงสาวเองก็ปฏิเสธไม่ได้ กว่าที่บทรักพายุสวาทครั้งนี้จะสงบลง หลิวถิงถิงก็สลบคาอกของชายหนุ่มไปแบบไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งบ่ายคล้อย ร่างบางจึงฟื้นคืนสติ บนที่นอนนุ่มข้างกายนั้นไร้ร่างหนาของคนที่รังแกเธอมาตลอดทั้งเช้าจนข้าวสองมื้อไม่ตกถึงท้องของเธอเลย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ‘เธอก็เป็นแค่ที่ระบายของเ
หลังจากที่แยกกับคุณชายซือแล้ว หลิวถิงถิงก็รีบเดินกลับเข้าไปที่หอพักทันที ดีที่ตอนนี้เพื่อนทั้งสองออกไปอยู่หอพักข้างนอกกันแล้วเพราะต้องฝึกงาน หลิวถิงถิงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่จะต้องไปฝึกงานที่บริษัทของซือมู่อัน เพราะแค่ทุกวันนี้เธอก็อดที่จะระแวงกลัวว่าคนอื่นจะรู้ถึงเรื่องความสัมพันธ์ของเธอกับเขาไม่ได้กริ๊งงงง..............“ฮัลโหล ซือซือ ว่าไง” เสียงหวานตอบกลับปลายสายทันทีที่กดรับ “ถิงถิง สรุปได้ที่ฝึกงานหรือยัง” จ้าวซือซือเอ่ยถามเพื่อนสนิทสาวด้วยความเป็นห่วง “อืม....ได้แล้ว ทางมหาวิทยาลัยเพิ่งจะแจ้งฉันวันนี้” หญิงสาวตอบก่อนที่เพื่อนสนิทจะเอ่ยถามออกมาด้วยความตื่นเต้น“หรอ...ที่ไหนล่ะ ฉันล่ะอดเป็นห่วงเธอไม่ได้เลย” จ้าวซือซือเอ่ยถามขึ้นอย่างตื่นเต้น “บริษัทของคุณชายซือน่ะ” คำตอบของหลิวถิงถิงทำเอาจ้าวซือซือร้องกรี๊ดออกมาก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย “กรี๊ดดดด........จริงดิ คุณชายซือเป็นคนเลือกให้เธอไปฝึกงานที่บริษัทของเขาใช่ไหม&r
แผนกบัญชีและการเงิน ผู้จัดการแผนกพอที่จะทราบมาล่วงหน้าแล้วว่าท่านประธานรับเด็กฝึกงานมาให้แผนกของเธอ ซึ่งเธอก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ จนกระทั่งที่ได้พบหน้ากับหญิงสาวที่เพิ่งจะเดินมาถึงที่แผนกกับผู้จัดการผ่านบุคคล และแน่นอนความสวยของเธอทำให้พี่ๆ หลายๆ คนในบริษัทต่างมองมาด้วยความสนใจและมีบางส่วนที่รู้สึกอิจฉาเด็กสาวที่มีรูปร่างหน้าตาที่เป็นที่นิยมชมชอบในหมู่ชายหนุ่ม“ทุกคน พี่พาน้องฝึกงานมาส่ง ฝากดูแลน้องด้วยนะ และให้น้องเรียนรู้งานให้เต็มที่ ห้ามกั๊กวิชาเด็ดขาด” เสียงของผู้จัดการฝ่ายบุคคลเอ่ยขึ้นทันทีที่พนักงานทุกคนในแผนกซึ่งมีเพียงหกคนหันมามองที่หญิงสาวคนสวยในชุดนักศึกษาผู้มาใหม่เป็นตาเดียวกัน“สวัสดีค่ะพี่ๆ ดิฉันชื่อหลิวถิงถิง หรือจะเรียกถิงถิงเฉยๆ ก็ได้ค่ะ ถิงถิงขอฝากเนื้อฝากตัวกับพี่ๆ ด้วยนะคะ มีอะไรแนะนำหรือสั่งสอนได้เลยนะคะ” หลิวถิงถิงเอ่ยทักทายก่อนที่จะยิ้มแย้มแจกจ่ายไปทั่วทั้งแผนกจนคนมองอดที่จะยิ้มตอบกลับสาวน้อยตรงหน้านี้เช่นกัน ผู้จัดการฝ่ายบุคคลเดินกลับไปทำงานส่วนของตนทันทีที่เห็นว่าหญิงสาวผู้มาใหม่น่าจะเข้ากับคนในแผนกนี้ได้เป็
หลังกลับจากฝึกงานที่บริษัทของซือมู่อันแล้วหญิงสาวก็จำต้องไปรอเขาอยู่ที่คอนโดสุดหรูของชายหนุ่มตามคำสั่งของเขา เธอไม่อยากต่อต้านหรือทำอะไรให้เขาไม่พอใจในตัวเธอเพราะเธอรู้ดีว่าเธอมีหน้าที่ตอบแทนเขาด้วยเรื่องอะไร ถึงแม้เขาจะไม่เคยบอกหรือขอกับเธอก็ตาม ร่างบางในชุดเสื้อยืดคอกลมกางเกงขาสั้นเพียงหน้าขาอวดเรียวขาสวยงามกำลังนอนไม่รู้เรื่องอยู่บนโซฟาตัวยาวภายในห้องรับแขก ซือมู่อันที่รีบกลับมาจากทานดินเนอร์กับคู่ค้ายืนมองเธอก่อนที่มุมปากหนาจะยกยิ้มขึ้นมา แค่เธอมารอเขาตามคำสั่งแค่นี้หัวใจเขาก็รู้สึกโลดแล่นแล้ว ร่างสูงโปร่งตรงเข้าไปยังห้องนอนก่อนที่จะถอดชุดที่ใส่มาทั้งวันออกจากร่างกายจนเปลือยเปล่าอวดมัดกล้ามและซิกซ์แพ็คเป็นลอน ขายาวๆ ก้าวเข้าไปในห้องน้ำมือหนาเอื้อมไปเปิดฝักบัวเรนชาวเวอร์ให้น้ำไหลกระทบลงมาผ่านศีรษะและร่างกายที่สมบูรณ์ของตนหลิวถิงถิงเริ่มรู้สึกตัวจากนิทรา เสียงน้ำกระทบพื้นดังมาจากห้องน้ำภายในห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้ หญิงสาวรู้ได้ทันทีว่าคุณชายซือกลับมาแล้ว หัวใจดวงน้อยรู้สึกโลดแล่นก่อนที่จะพยายามห้ามหัวใจตัวเองไม่ให้คิดไปไกล เธอพึงระลึกตนเองอยู่เสมอว่าเธอเป็นใคร
ทางด้านหลิวถิงถิงเมื่อเยื้องย่างเข้ามาในบริษัทก็ต้องรู้สึกแปลกใจที่พนักงานหลายคนหลบสายตาเธอ ไม่กล้ามองและทักทายเอ่ยแซวเหมือนเช่นเมื่อวาน จนเดินไปถึงแผนกของตนผู้จัดการแผนกอย่างจินหยูเข้ามาถามไถ่ความจริงทันที เผื่อเธอจะได้ทำตัวกับเด็กสาวคนนี้ถูก “สวัสดีค่ะพี่ๆ” หญิงสาวเอ่ยทักทายรุ่นพี่ที่มาถึงที่ทำงานก่อนหน้าแล้วทันทีที่วางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงานเสร็จ “สวัสดีจ้ะถิงถิง” ทุกคนในแผนกแทบจะเอ่ยทักทายเธอพร้อมๆ กันจนหญิงสาวอดที่จะงงไม่ได้ จนผู้จัดการแผนกเดินเข้ามาถามนั่นแหละเธอถึงได้รู้ว่า เรื่องที่คุณชายซือหรือท่านประธานของทุกคนเข้ามาคุยกับเธอก่อนที่เขาจะออกจากบริษัทไปทำให้เธอตกเป็นหัวข้อที่ทุกคนพูดถึงในเช้านี้“คือ อันที่จริงถิงถิงเป็นเด็กที่คุณชายซือ เอ่อ...ท่านประธานน่ะค่ะ ท่านรับอุปการะส่งเสียให้เรียนหนังสือในมหาวิทยาลัยแอล แล้วเมื่อวานที่ท่านเข้ามากระซิบบอกคือท่านจะให้ถิงถิงไปทำความสะอาดคอนโดให้น่ะค่ะ ไม่ได้มีอะไรแบบที่พวกพี่เข้าใจหรอก” หลิวถิงถิงหาทางแก้ตัวด้วยการไม่ได้พูดเรื่องจริงทั้งหมดให้พวกพี่ๆ ในแผนก
หลิวถิงถิงใช้ชีวิตในการเป็นเด็กฝึกงานจนเวลาล่วงเลยเข้ามาได้เดือนกว่าๆ หนุ่มๆ หลายคนที่เคยคิดจะเข้ามาขายขนมจีบให้เธอต่างก็ต้องถอยทัพ เพราะใครบ้างที่จะกล้ามายุ่งกับเด็กของท่านประธาน มีแต่พนักงานสาวๆ บางคนที่แอบหมั่นไส้หญิงสาวอยู่ไม่น้อย แต่ที่ยังไม่ยุ่งก็เพื่อจะรอดูให้แน่ใจว่าเธอคือคนสำคัญของท่านประธานจริงๆ หรือแค่ของที่เขาเก็บไว้เล่นๆ เพราะอาจจะยังไม่ได้พาขึ้นเตียงก็ได้ “พี่จินหยู มีอะไรให้ถิงถิงช่วยอีกไหมคะ พอดีถิงถิงต้องเข้ามหาวิทยาลัยด่วนน่ะค่ะ” เด็กสาววัยใสเอ่ยถามผู้จัดการแผนกสาววัยสี่สิบกว่าๆ “อ้อ ไม่มีจ้ะ ไปเถอะ” จินหยูเอ่ยบอกเด็กสาวที่เจอหน้ากันมาร่วมเดือนทันที“ค่ะ ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะรีบกลับมาทำงานเลยค่ะ” หลิวถิงถิงเอ่ยก่อนที่จะส่งยิ้มจนตาหยีให้กับผู้จัดการแผนกที่ให้ความเมตตากรุณาต่อเธอ ทุกคนในแผนกใจดีกับเธอจนอดที่จะแปลกใจไม่ได้ และทุกคนก็พยายามเหมือนจะถ่ายทอดความรู้ที่มีให้เธอได้เรียนรู้แบบไม่มีกั๊กเลยตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาผู้จัดการสาวมองตามแผ่นหลังของเด็กสาวไปด้วยสายตา
ฮุ่ยเหมยไม่ได้สนใจคำเตือนของเพื่อน ในวันต่อมาขณะที่เธอกำลังเข้าไปในห้องน้ำเธอบังเอิญเจอเข้ากับหลิวถิงถิงพอดี สาวสวยสุดมั่นเลยหาเรื่องเด็กสาวด้วยความหมั่นไส้“หลบไป ขวางหูขวางตาจริงๆ” เสียงแว้ดดังขึ้นทันทีที่เห็นว่าเด็กสาวยืนอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง“ดิฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปยืนขวางทางใครสักหน่อย” เป็นครั้งแรกที่หลิวถิงถิงรู้สึกรำคาญจนทนไม่ไหว เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ในเมื่ออีกฝ่ายคอยจ้องแต่จะจิกกัดเธออยู่เรื่อย“หึ ทำมาเป็นปากดี ต่อหน้าคนอื่นนี่ทำตัวหนิมๆ หงิมๆ ทำไม กลัวคนอื่นจะว่าเธอตีสองหน้าเหรอจ๊ะ ทำมาเป็นเชิดเดินชูคอไปเดินชูคอมาให้ท่าท่านประธาน คนแบบท่านประธานน่ะเขาไม่จริงจังกับหล่อนหรอกย่ะ นี่คงยังไม่ได้นอนกับเขาสิท่าเขาถึงยังไม่ปล่อยเธอไป” ฮุ่ยเหมยจีบปากจีบคอเอ่ยออกมาก่อนที่จะจ้องใบหน้างามเขม็ง หากแต่ว่าหลิวถิงถิงไม่ได้หลบดังเช่นทุกครั้ง เธอจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับเช่นกัน ในเมื่ออยู่กันแบบสงบไม่ได้ก็มาเคลียร์กันให้จบๆ ไปเลยดีกว่า เธอชักจะรำคาญเต็มทีแล้วเหมือนกัน “แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่า
ร่างบางในอ้อมแขนพยายามที่จะลงไปยืนเองทันทีที่อยู่ภายในลิฟต์กันสองต่อสอง ซือมู่อันก้มหน้าลงมองคนในอ้อมแต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอลงตามที่เธอต้องการ ขายาวๆ ก้าวผ่านโต๊ะของเลขาหน้าห้องไปอย่างรวดเร็วจนคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานเงยหน้าขึ้นมามองแทบไม่ทัน เธอทำได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นพ่อเธอไม่เคยเห็นคุณชายหรือท่านประธานพาผู้หญิงคนไหนมาที่ห้องทำงานมาก่อน ยิ่งอุ้มขึ้นแนบอกแบบนี้ยิ่งยากที่จะเชื่อ ถ้าวันนี้ไม่เห็นกับตาก็คงคิดว่าเป็นเรื่องโกหก เธอรีบส่งข้อความไปบอกใครบางคนด้วยความตื่นเต้น หลังจากประตูห้องทำงานปิดลง ร่างสูงโปร่งยังคงอุ้มสาวสวยไว้อ้อมแขนก่อนที่จะกดจมูกโด่งลงบนหน้าผากเนียนของหญิงสาวจนหลิวถิงถิงตกใจ“ค่ะ..คุณชาย ท่ะ..ทำอะไรคะ” หลิวถิงถิงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า แล้วนี่เธอโดนแบบนี้มานานหรือยัง นอกจากผู้หญิงคนนั้นยังมีใครอีกไหมที่ทำกับเธอแบบวันนี้” น้ำเสียงที่ยังคงความเย็นชาแต่เธอฟังทีไรมันกลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจดังมาจากริมฝีปากสีกุหลาบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ วางเธอลงกับพื้นห้อง &ldq
“ยินดีด้วยนะลี่หลิน คุณจางหลง ในที่สุดก็จะลงเอยกันเสียที” เจ้าของร้านคนสวยเอ่ยแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวทันทีที่เห็นคู่รักเดินเข้ามาในงานเลี้ยงขนาดเล็กภายในร้านของเธอ วันนี้ร้านของเธอปิดทำการขายหนึ่งวัน และได้นำขนมบางส่วนไปให้เด็กๆ ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ทาน ส่วนสามีสุดหล่อแถมสายเปย์ก็มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสในนามของตระกูลซือ“จ้ะ ขอบใจเธอมากนะที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกัน” ลี่หลินเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาจับมือเพื่อนสาวคนสวยที่ราศีคุณนายจับ ผิวขาวเนียนผุดผ่องตามประสาคนไม่ค่อยโดนแสงแดด“มันเป็นพรหมลิขิตมากกว่า จริงไหมคะคุณจางหลง” ซือถิงถิงเอ่ยออกมาพร้อมกับเอ่ยถามบอดี้การ์ดมือซ้ายของสามีหนุ่มยิ้มๆ “ใช่ครับคุณนาย” จางหลงตอบพร้อมยิ้มกว้างออกมา ‘อันที่จริงก็เพราะคุณนายหนีไปทำงานที่เมืองเอ็มอยู่กับลี่หลินนั่นแหละครับผมถึงได้เจอเธอ’ จางหลงคิดในใจหากแต่เขาไม่พูดออกมาเพราะการหนีไปครั้งนั้นของเธอทำให้คุณชายซือผู้ที่เคยเย็นชาของเขากลับกลายเป็นคุณชายซือผู้คลั่งรักและแสนอบอุ่นกับภรรยาและลูกๆ ทั้งสองในวันนี้ สองหนุ่มสาวทักทายเจ้าของร้านคนสวยอยู่สักพักก่อนที่จะเข้าไปเล่นกับคุณชายน้อยและคุณหนูน้
5 ปีผ่านไป สองแฝดน้อยเติบโตมาเป็นเด็กดี และด้วยไอคิวและอีคิวที่สูงกว่าเด็กทั่วไปเลยทำให้ทั้งสองเด็กน้อยถูกเรียกว่าเด็กอัจฉริยะ ทั้งลู่ชิงและลู่เหลียนต่างเป็นที่รักของครอบครัว ครูอาจารย์และเพื่อนๆ ทั้งชั้นเรียน เพราะความเก่ง ฉลาด และมีนิสัยน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ถือว่าตนอยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรือสูงส่ง ลู่ชิงและลู่เหลียนมีเพื่อนตั้งแต่ตระกูลธรรมดาไปจนถึงลูกเจ้าของบริษัท“แม่ครับ วันนี้ผมขอไปเตะบอลกับต้าเฟยนะครับ” เสียงเล็กๆ ของบุตรชายเอ่ยดังขึ้นหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ต้าเฟยคือบุตรชายของต้าฉิน กับหลินหลิน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกในทันทีทำให้สองเด็กน้อยมีอายุห่างกันแค่สิบเดือนเท่านั้น“แล้วลู่เหลียนจะไปอยู่ไหนล่ะคะพี่ลู่ชิง” น้องสาวที่คลอดห่างกันไม่กี่นาทีเอ่ยถามพี่ชายขึ้นเพราะต้าเฟยนั้นก็เป็นผู้ชาย เด็กวัยเดียวกันกับเธอนั้นไม่มีเลย มีก็แต่น้องซูหนี่ว์ บุตรสาวของคุณน้าซือซือ ซุปตาร์สาวเพื่อนของมารดาที่อายุน้อยกว่าเธอไปถึงสามปี น้องเพิ่งจะได้สองขวบ เพราะคุณน้าซือซือเพิ่งตกลงแต่งงานกับคุณลุงเจียอีที่ตามจีบคุณน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย “เอาอย่างนี้ไหมคะลูก เดี๋ยวลู่เหลียนไปที
“ชอบเขาหรอวะจางหลง” ต้าฉินโพล่งถามขึ้นมาทันที จางหลงที่ยกน้ำขึ้นมากระดกพอดีน้ำแทบจะพุ่งพรวดออกจากปาก มือหนายกขึ้นมาเช็ดปากก่อนที่จะหันขวับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของไอ้เพื่อนสนิท “เออ...ว่าแต่อาการของข้ามันมองออกขนาดนั้นเลยหรอวะ” จางหลงเอ่ยถามขึ้นเสียงหลง “มาก ไม่ค่อยแสดงออกเลยฮ่าๆๆ” “เออ..ใครมันจะไปเก็บความรู้สึกเก่งแบบแก ระวังเถอะ ระวังสุนัขคาบไปรับประทาน แม่นักข่าวสาวเพื่อนสนิทของแกน่ะ” จางหลงไม่ยอมให้เพื่อนมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียว เลยเอาความลับที่รู้มาแขวะเพื่อนกลับไปเช่นกัน ต้าฉินมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างตกใจ “เฮ้ย!! แล้วแกรู้ได้ไงวะ ฉันไม่เคยแสดงออกเลยนะ” ต้าฉินอุทานพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตกใจ “ก็แกน่ะคบผู้หญิงสักคนที่ไหน ก็เห็นจะมีแต่หลินหลินคนเดียวที่แกคุยด้วย โถ่!! ไอ้ต้าฉินอย่าคิดว่าแกถือไพ่เหนือกว่าคนเดียวสิวะ ขนาดเรื่องนี้คุณชายยังรู้เลยฮ่าๆๆๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ต้าฉินตาเบิกโพลงเขาไม่คิดว่าคุณชายผู้ที่ไม่สนใจเรื่องราวใดๆ แต่ดันมารู้เรื่องของหัวใจที่เขาปิดบังเอาไว้สองหนุ่มหยอกล้อกันระหว่างที่นั่งคุมเชิงอยู่หน้าห้องพักฟื้นVVIPของคุณนายซือ
หกเดือนต่อมา และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่สองแฝดน้อยได้กำหนดการในการลืมตามาดูโลก คุณนายใหญ่ดูจะเป็นผู้ที่ตื่นเต้นกว่าใครทั้งหมด ด้วยยังไม่รู้ว่าหลานๆ ของตนนั้นเป็นเพศไหน เพราะทั้งบุตรชายและสะใภ้ต่างอยากจะรอลุ้นในวันคลอดทีเดียว ผู้เป็นย่าจึงทำได้แค่เพียงรอคอยและเตรียมชื่อไว้ให้สองแฝดเท่านั้น ซือมู่อันตื่นเต้นไม่แพ้กัน เขาคอยทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวมาเป็นอย่างดี แถมเขายังงดเรื่องบนเตียงมาได้เกือบสามเดือนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกน้อยทั้งสอง ซือถิงถิงเคยพูดเล่นให้เขาไปทำแบบเดิมช่วงที่เธอไม่สามารถมอบความสุขให้เขาได้ แต่ผู้ชายแบบเขาก็ไม่มีทางผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับภรรยาเด็ดขาด เขาเลือกที่จะช่วยตนเองและออกกำลังกาย แทนการไปปลดปล่อยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะพี่ตงตง ถิงถิงเข้าห้องคลอดไปนานหรือยังคะ” เสียงหวานจากซุปตาร์สาวที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้เอ่ยทักทายครอบครัวของเพื่อนสนิท ก่อนที่จะถามถึงเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “อ้าว สวัสดีจ้ะหนูซือซือ เข้าไปได้สักพักแล้วจ้ะ เห็นว่าจะคลอดเองนะ แม่ก็อดท
หลิวถิงถิงเขินจนหน้าแดง ก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของสามีหนุ่มอย่างหมั่นไส้ และหันไปมองสองบอดี้การ์ดหนุ่มข้างหลังก็พบว่าคนทั้งคู่กำลังมองไปทางอื่นเลยถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างรู้สึกโล่งใจที่สองบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ทันเห็น แต่หารู้ไม่ว่าริมฝีปากหนาของทั้งจางหลงและต้าฉินยกยิ้มขึ้นมาอย่างขบขันเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่แผนกบัญชีและการเงิน ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้ก็เดินออกมาจากลิฟต์อย่างสง่างาม พร้อมด้วยบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างจางหลงที่มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับคุณนายซือ สี่สาวและสองหนุ่มมองมาที่หญิงสาวในสถานะใหม่อย่างตกตะลึง ก่อนที่ทุกคนจะรีบเดินออกมายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อต้อนรับคุณนายซือ“สวัสดีค่ะพี่จินหยูและพี่ๆ ทุกคน สบายดีกันไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ผู้จัดการแผนกมองไปที่หญิงสาวที่มีรูปร่างอวบอิ่มอย่างตื่นเต้นและดีใจ“พี่สบายดีค่ะ น้องถิงถิง เอ่อ...คุณนายซือก็สบายดีใช่ไหมคะ” หญิงสูงวัยกว่าทักทายกลับก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาของท่านประธาน“เรียกว่าถิงถิงเหมือนเดิมก็ได้ค่ะพี่จินหยู พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคะ”“ไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้น้องถิงถิง..เอ
เรือนร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนกอดก่ายอยู่บนเรือนร่างหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของสามีหมาดๆ เปลือกตาบางหลับพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านค่ำคืนที่บ่งบอกว่าเธอและเขาคือคนคนเดียวกันโดยสมบูรณ์ วงแขนอบอุ่นโอบกอดเธอเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้เธอจากไปไหน แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นการเตือนว่าเช้านี้ทั้งสองชีวิตได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างแท้จริงแล้ว ร่างหนาของซือมู่อันค่อยๆ ขยับร่างระหงของภรรยาสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาถึงความสุข มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมร่างอวบอิ่มของภรรยาสาวเอาไว้ก่อนที่สายตาคมที่ทอแสงแห่งความอบอุ่นส่งไปยามมองไปที่ใบหน้าสวย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนที่จะตรงไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ในเวลาต่อมาร่างหนาในชุดคลุมสีขาวเดินตรงไปยังส่วนของห้องครัว มื้อนี้เขาจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้ามื้อแรกสำหรับภรรยาคนสวยของเขา ขณะที่มือเรียวยาวของพ่อครัวหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังจับตะหลิวคนโจ๊กร้อนๆ อยู่ที่หน้าเตา ช่วงเอวสอบก็ถูกลำแขนเสลาสอดเข้ามากอดจากทางด้านหลัง ริมฝีปากบางสีกุหลาบยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่น“กำลังทำอะไรอยู่คะ...คุณสามี” เสียงหว
การที่ไม่จัดพิธีฉลองมงคลสมรสแบบสากลในตอนเย็นนั้นเป็นความต้องการของเจ้าสาวเอง ไม่ใช่เพราะเธออยากที่จะช่วยทางเจ้าบ่าวประหยัดงบหนือเกรงใจ แต่เป็นเพราะช่วงนี้เธอรู้สึกเพลียง่ายและง่วงนอนเร็ว เลยเลือกที่จะทำพิธีแบบจีนอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าบ่าวอย่างคุณชายซือก็ไม่ขัด ถึงแม้ว่ามารดาจะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม เพราะความที่อยากจะกู้ศักดิ์ศรีให้กับลูกสะใภ้ แต่ก็ต้องจำยอมเพราะเธอเอาหลานๆ ในท้องมาอ้างว่าหากเธอเพลียอาจจะไม่เป็นผลดีกับสองแฝดน้อยในครรภ์คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองแอลพอรถจอดซือมู่อันก็อุ้มร่างบอบบางที่เริ่มอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของภรรยาขึ้นก่อนที่สองขาแข็งแรงจะก้าวยาวๆ ตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัว ใบหน้าหวานขึ้นสีเลือดฝาดขึ้นมาทันทีที่มองใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นสามีทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย ทั้งสองได้จดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะจัดพิธีแต่งงานมาได้สัปดาห์หนึ่งแล้ว คนถูกมองเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาแอบมองเขาอยู่ แต่นั่นไม่จริงเลยสักนิด เขากำลังตั้งใจอุ้มเธอด้วยความระมัดระวังเพราะมีลูกๆ สองคนอยู่ในท้องของเธอ ประตูคอนโดถูกเปิดออกโดยสองหนุ่มบอดี้ก
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ใครหลายคนเฝ้าจับตาและรอคอย นั่นก็คือวันแต่งงานของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลซือซึ่งงานนั้นถูกจัดขึ้นภายในอาณาจักรตระกูลซือที่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ และเหตุผลที่เลือกจัดงานโดยใช้สถานที่เดียวในวันนี้ก็เพราะที่บ้านของเจ้าสาวนั้นค่อนข้างที่จะคับแคบ คุณนายใหญ่แห่งตระกูลซือเลยออกความเห็นว่าให้จัดที่บ้านเจ้าบ่าวและไปเข้าหอกันที่คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองของเจ้าบ่าว ทางฝ่ายเจ้าสาวที่มีญาติเหลือเพียงสองคนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีเจ้าสาวแสนสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงสไตล์เรียบหรูแบบผสมผสานระหว่างจีนกับยุโรป ทรงผมถูกทักเปียเก็บอย่างสวยงามมีปิ่นเงินปิ่นทองและใบทับทิมพร้อมดอกไม้สดประดับอยู่ข้างหลังส่งกลิ่นหอมอบอวลด้วยเจ้าสาวนั้นชอบกลิ่นของมันจึงไม่ใช่ปัญหาของอาการแพ้ท้องที่ตอนนี้ครบกำหนดสามเดือนแล้ว ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ร่างระหงกำลังนั่งรอเจ้าบ่าวมารับตัวเพื่อลงไปประกอบพิธี ขั้นตอนนี้ผ่านพิธีมอบสินสอดและสวมแหวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่รอให้เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวพาไปเข้าหอ “เธอสวยมากเล
หลิวถิงถิงมองพนักงานทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เธอยังไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นผู้หญิงทั้งสองคือใคร เสียงดนตรีบรรเลงเพลงสากลขึ้นมาเบาๆ ซึ่งเธอก็จำได้ว่ามันเป็นเพลง Perfect ของEd Sheeran และมาถึงช่วงจังหวะทำนองWell, I found a woman, stronger than anyone I knowShe shares my dreams, I hope that someday I'll share her homeI found a love, to carry more than just my secretsTo carry love, to carry children of our own ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายซือก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ บริกรสาวภายใต้หน้ากากเปิดฝาที่ครอบถาดกลมเอาไว้ออก ซึ่งเผยให้เห็นว่าภายในมีกระปุกกลมสีทองวางอยู่ มือเรียวของซือมู่อันยื่นไปหยิบมาถือไว้ หลิวถิงถิงรู้สึกใจเต้นแรงแทบจะไม่เป็นจังหวะก่อนที่เธอจะมองไปที่บริกรสาวทั้งสองอย่างคุ้นเคย หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรออกไป กล่องสีทองก็ถูกว่าที่สามีสุดหล่อของเธอเปิดออกตรงหน้า แหวนเพชรวงเล็กแต่มีเพชรล้อมรอบส่งแสงระยิบระยับดูงามตา พอถึงตอนนี้เธอจึงเข้าใจทันทีว่าเธอกำลังถูกเขาขอแต่งงาน “มาเป็นคน