ฮุ่ยเหมยไม่ได้สนใจคำเตือนของเพื่อน ในวันต่อมาขณะที่เธอกำลังเข้าไปในห้องน้ำเธอบังเอิญเจอเข้ากับหลิวถิงถิงพอดี สาวสวยสุดมั่นเลยหาเรื่องเด็กสาวด้วยความหมั่นไส้
“หลบไป ขวางหูขวางตาจริงๆ” เสียงแว้ดดังขึ้นทันทีที่เห็นว่าเด็กสาวยืนอยู่หน้ากระจกเพียงลำพัง“ดิฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ไปยืนขวางทางใครสักหน่อย” เป็นครั้งแรกที่หลิวถิงถิงรู้สึกรำคาญจนทนไม่ไหว เธอก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ในเมื่ออีกฝ่ายคอยจ้องแต่จะจิกกัดเธออยู่เรื่อย “หึ ทำมาเป็นปากดี ต่อหน้าคนอื่นนี่ทำตัวหนิมๆ หงิมๆ ทำไม กลัวคนอื่นจะว่าเธอตีสองหน้าเหรอจ๊ะ ทำมาเป็นเชิดเดินชูคอไปเดินชูคอมาให้ท่าท่านประธาน คนแบบท่านประธานน่ะเขาไม่จริงจังกับหล่อนหรอกย่ะ นี่คงยังไม่ได้นอนกับเขาสิท่าเขาถึงยังไม่ปล่อยเธอไป” ฮุ่ยเหมยจีบปากจีบคอเอ่ยออกมาก่อนที่จะจ้องใบหน้างามเขม็ง หากแต่ว่าหลิวถิงถิงไม่ได้หลบดังเช่นทุกครั้ง เธอจ้องหน้าอีกฝ่ายกลับเช่นกัน ในเมื่ออยู่กันแบบสงบไม่ได้ก็มาเคลียร์กันให้จบๆ ไปเลยดีกว่า เธอชักจะรำคาญเต็มทีแล้วเหมือนกัน “แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่าร่างบางในอ้อมแขนพยายามที่จะลงไปยืนเองทันทีที่อยู่ภายในลิฟต์กันสองต่อสอง ซือมู่อันก้มหน้าลงมองคนในอ้อมแต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้เธอลงตามที่เธอต้องการ ขายาวๆ ก้าวผ่านโต๊ะของเลขาหน้าห้องไปอย่างรวดเร็วจนคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงานเงยหน้าขึ้นมามองแทบไม่ทัน เธอทำได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ตั้งแต่ทำงานที่นี่มาตั้งแต่รุ่นพ่อเธอไม่เคยเห็นคุณชายหรือท่านประธานพาผู้หญิงคนไหนมาที่ห้องทำงานมาก่อน ยิ่งอุ้มขึ้นแนบอกแบบนี้ยิ่งยากที่จะเชื่อ ถ้าวันนี้ไม่เห็นกับตาก็คงคิดว่าเป็นเรื่องโกหก เธอรีบส่งข้อความไปบอกใครบางคนด้วยความตื่นเต้น หลังจากประตูห้องทำงานปิดลง ร่างสูงโปร่งยังคงอุ้มสาวสวยไว้อ้อมแขนก่อนที่จะกดจมูกโด่งลงบนหน้าผากเนียนของหญิงสาวจนหลิวถิงถิงตกใจ“ค่ะ..คุณชาย ท่ะ..ทำอะไรคะ” หลิวถิงถิงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า แล้วนี่เธอโดนแบบนี้มานานหรือยัง นอกจากผู้หญิงคนนั้นยังมีใครอีกไหมที่ทำกับเธอแบบวันนี้” น้ำเสียงที่ยังคงความเย็นชาแต่เธอฟังทีไรมันกลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจดังมาจากริมฝีปากสีกุหลาบ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ วางเธอลงกับพื้นห้อง &ldq
“ขออนุญาตครับท่านประธาน คุณฮุ่ยเหมยมาแล้วครับ” เสียงของต้าฉินดังขึ้นรายงานท่านประธานจากด้านนอก“เข้ามาได้” เสียงเข้มเย็นชาดังขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ก่อนแล้วรู้สึกถึงความน่ากลัวจากคนตรงหน้าเลยสักนิดร่างอวบอิ่มเดินเข้ามาหลังจากที่บอดี้การ์ดมือขวาของท่านประธานเปิดประตูออกแล้วผายมือเชิญให้เธอก้าวเข้าไปด้านใน ร่างอวบอิ่มสั่นสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่การเข้ามาในห้องนี้เป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ หลายๆ คนแต่คงไม่มีใครอยากที่จะเข้ามาในสถานการณ์แบบนี้ ขาเรียวก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้าของท่านประธานก่อนที่สายตาจะเหลือบไปมองสาวหน้าหวานคู่กรณีของตน เธอกำลังนั่งอยู่อย่างสบายและมองมาที่เธอเช่นกัน ฮุ่ยเหมยเป็นคนที่หลบสายตาก่อน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนที่เธอควรจะมีเรื่องด้วย“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเรียกคุณให้มาพบด้วยเรื่องอะไร” เสียงเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับสายตาเย็นชาที่มองมาทำให้หญิงสาวร่างอวบรู้สึกขนลุกแล้วร่างกายมันก็สั่นสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ร่ะ.ร่ะ..รู้ค่ะ” เสียงแหลมๆ ที่เคยได้ยินกลายเ
การฝึกงานสามเดือนที่ผ่านมาทำให้นักศึกษาสาวได้ทั้งประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองร่ำเรียนมาและเวลาที่หญิงสาวรอคอยก็ใกล้จะมาถึงเต็มที นั่นก็คือวันที่เธอเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแอล “น้องถิงถิง ฝึกงานวันสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวพวกพี่จะพาไปเลี้ยงส่ง” จินหยูผู้จัดการแผนกบัญชีและการเงินของบริษัทเอ่ยขึ้นหลังจากได้เวลาเลิกงาน “ไปเลี้ยงที่ไหนกันหรอคะ” นักศึกษาฝึกงานเพียงหนึ่งเดียวของแผนกเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“คลับแถวบริษัทเรานี่แหละจ้ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คลับนี้เป็นของเครือตระกูลซือ นั่นก็คือของท่านประธานนั่นแหละจ้ะ ว่าแต่เราไปได้หรือเปล่า ถ้าไปไม่ได้นี่งานกร่อยเลยนะ เพราะงานนี้เป็นงานเลี้ยงส่งหนู” สาวใหญ่เอ่ยขึ้น หลิวถิงถิงรู้สึกเกรงใจจึงไม่ปฏิเสธ “ไปก็ได้ค่ะ อีกอย่างถิงถิงอยากจะขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วยที่คอยสั่งสอนถิงถิงจนเรียนรู้งานได้ดีตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มดีใจของพี่ๆ ทุกคนในแผนก “ดีมากจ้ะ อ้อ แล้วเปลี่ยนชุดด้วยนะเดี
สองสาวรุ่นพี่จัดการเนรมิตสาวน้อยวัยใสในชุดแซกเซ็กซี่อวดแผ่นหลังขาวเนียนไปจนเกือบจะถึงช่วงเอว ความสั้นก็เลยเข่ามาเล็กน้อย หลิวถิงถิงรู้สึกเย็นวูบวาบจนต้องคว้าเสื้อคลุมมาสวมไว้ สองสาวได้แต่ขำให้กับอาการของสาวน้อย เพราะดูๆ เด็กสาวคงยังไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาขนาดนี้ ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเข้มขึ้นริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูอ่อนๆ กลายเป็นสีแดงเข้ากับชุดสีแดงเพลิง ทรงผมก็ถูกถักเปียเก็บขึ้นจนเผยให้เห็นลำคอระหง สองสาวมองดูผลงานของตนเองก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างพอใจ ‘รับรองงานนี้มีคนคอเคล็ดหลายคน’ซีแอล คลับ ร่างบางหุ่นสวยทรงนาฬิกาทรายในชุดเดรสเปิดไหล่คว้านหลังลึกไปถึงช่วงเอว ความยาวระดับเคลียร์หน้าขา ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มจนจำลุคส์เดิมแทบจะไม่ได้ แต่ความสวยและเซ็กซี่ที่เปร่งประกายออกมานั้นทำให้นักเที่ยวชายหลายคนมองไปที่ร่างบางในชุดสีแดงเพลิงกันคอแทบเคล็ด อีกทั้งสองสาวที่ก้าวมาพร้อมกันก็สวยเปรี้ยวไม่แพ้กัน รวมๆ คือสวยงามลงไปตัวไปหมด “โอ้พระเจ้า นั่นคุณหลิวหรือนั่น” เสียงเข้มเอ่ยดังขึ้นพร้อม
หลิวถิงถิงรู้สึกว่าหนุ่มๆ มาชนแก้วกับเธอมากเกินไปจนเธอต้องหันไปหาจินหยูเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีวุฒิภาวะมากสุดจึงทำหน้าที่กันหนุ่มๆ ให้เด็กสาวไปโดยปริยาย ซือมู่อันที่แอบมองอยู่บนชั้นสองยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยและหมายมาดจะมอบเงินโบนัสเพิ่มเติมให้แก่ผู้จัดการสาวใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กสาวใต้การปกครองเป็นอย่างดี “หน้าแดงมากแล้วนะเราอ่ะ เมาหรือเปล่าเนี่ย” จินหยูขยับเข้ามาใกล้ร่างบางของหลิวถิงถิงก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใย “นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยถิงถิงกันผู้ชายพวกนั้นไว้ให้ อันที่จริงถิงถิงไม่ค่อยชอบมาเที่ยวสถานที่แบบนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ เสียงมันดังแถมรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยด้วย” หลิวถิงถิงเอ่ยออกมาให้ผู้จัดการสาวใหญ่ฟังอย่างไม่ปิดบัง “ไม่ต้องกังวลนะ ที่นี่เป็นคลับของท่านประธาน รับรองเราทุกคนจะปลอดภัย ไม่มีใครกล้ามารังแกเราหรอก อ้อ!! แล้วท่านประธานฝากต้าฉินมาบอกว่าวันนี้ท่านประธานจะเลี้ยงเองให้ทุกคนเต็มที่ได้เลย” ทันทีที่ได้ยินสาวใหญ่เอ่ยถึงซือมู่อัน หลิวถิงถิงก็ถึงกับเหลีย
ร่างสูงสง่าเดินเข้าไปในห้องวีวีไอพีของคลับเพื่อพบกับคนที่บังอาจมาทำเรื่องน่าเกลียดในคลับของเขา เพราะเขาไม่เคยสนับสนุนให้นักเที่ยวคนไหนใช้วิธีหลอกลวงหญิงสาวด้วยการวางยาในแอลกอฮอล์อย่างนี้ เพราะเวลามีปัญหาอะไรมา คลับของเขาก็ต้องร่วมรับผิดชอบเช่นกัน “จ่ะ..จับผมมาทำไมครับ” น้ำเสียงหวาดกลัวหากแต่ยังทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามขึ้น ใครบ้างในเมืองแอลที่จะไม่รู้จักซือมู่อันหรือคุณชายซือผู้เย็นชาคนนี้ หากใครได้มีเรื่องหรือมีปัญหากับเขารับรองว่าชีวิตนี้จบไม่สวย ถ้าเขายังใจดีก็ยังคงมีที่ยืนอยู่ในเมืองแอล หากเขาใจร้ายถ้าไม่ตายก็คงต้องถูกบีบให้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วอย่าหวังว่าจะได้กลับมาเหยียบที่เมืองนี้อีกเลย “แล้วนาย...ได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าล่ะ” น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นมาจากริมฝีปากสีกุหลาบของคนตรงหน้า มือหนาหยิบปืนสีดำเมื่อมขึ้นมา ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดและถูไปมา บนกระบอกปืนเบาๆ สายตาของชายหนุ่มนักเที่ยวสั่นไหวก่อนที่ร่างหนาจะสั่นเทิ้มเช่นเดียวกันด้วยความกลัว “ป่ะ...เปล่านะครับ ผมก็มาดื่มมาเที่ยวตามปกติ” เขาพยายามทำใจดีสู้เสือแบบ
ร่างหนากลายเป็นที่พักพิงแอบอิงให้แม่แมวน้อยคออ่อนที่เมามายนอนหลับตาพริ้มไม่ได้สติ ตั้งแต่ขึ้นรถมา เขาเหลือบไปมองใบหน้าหวานก่อนที่จะใช้นิ้วเรียวยาวของตนเกลี่ยปอยผมที่ปกคลุมบดบังใบหน้าหวานอยู่ แม้ในยามหลับใหลแม่สาวน้อยก็ยังดูสวยและน่าเอ็นดูในสายตาของเขา เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบเธอมาก่อน ทั้งยังพาเธอขึ้นเตียงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ที่สำคัญเขาไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหนได้อีกเลยนอกจากเธอคนนี้คนเดียว“กลับคอนโดใช่ไหมครับคุณชาย” เสียงจางหลงเอ่ยถามขึ้นขัดจังหวะความคิดของเจ้านายหนุ่ม“อืม....” เสียงเย็นชาตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก่อนที่จะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูออกมาจากกระเป๋าเพราะมีข้อความเข้าจากต้าฉินบอดี้การ์ดมือขวา งานที่สั่งเรียบร้อยครับคุณชาย (รูปถ่ายของนักเที่ยวชายในสภาพที่ทนดูแทบไม่ได้)ซือมู่อัน ดีมาก แล้วพนักงานของบริษัทเราล่ะกลับกันหมดหรือยังบอดี้การ์ดมือขวา ยังครับ ยังคงดื่มกันต่อซือมู่อัน ฝากดูแลหน่อยนะ เลี้ยงให้เต็มที่บอดี้การ์ดมือขวา รับทราบครับคุณชาย
ซือมู่อันวางหลิวถิงถิงลงก่อนที่จะหมุนร่างบางให้หันหลังให้เขา มือบางของเธอค้ำยันกับผนังห้องน้ำไว้ ก่อนที่เขาจะส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนของตนเข้าไปในช่องทางรักที่ยังคงคับแคบจากทางด้านหลังอีกครั้ง มือหนาทั้งสองข้างจับสะโพกกลมกลึงของสาวสวยตรงหน้าเอาไว้แน่น ก่อนที่สะโพกสอบของตนจะทำหน้าที่ส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าไปสำรวจภายในถ้ำงามอย่างช้าๆ และเริ่มกดสะโพกเร่งขึ้นให้เป็นจังหวะหนักหน่วงในเวลาต่อมาจนร่างบางสั่นสะท้านทั้งสองร่างเกร็งกระตุกพร้อมกัน ความอุ่นร้อนจากน้ำรักถูกฉีดพุ่งเข้าไปในโพรงสวาทของหญิงสาวทุกหยาดหยด ตอนนี้อารมณ์ใคร่ที่เกิดขึ้นมันทำให้ความยับยั้งชั่งใจหมดสิ้นเสียแล้ว .ซือมู่อันค่อยๆ ดึงแท่งเอ็นที่เพิ่งจะเสร็จบทสวาทไปแล้วเมื่อครู่ออกจากช่องทางรักของหลิวถิงถิงอย่างช้าๆ ขาเรียวสั่นระริกหากไม่ได้เขากอบกุมโอบอุ้มร่างบางของเธอเอาไว้ในวงแขนล่ำ เธอคงจะทรุดลงไปกองกับพื้น เขากดครีมอาบน้ำก่อนที่จะถูไถและลูบไล้ไปตามร่างกายให้กับเธออย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งสระผมให้หญิงสาวเช่นกัน ความเงียบเกิดจากเหตุการณ์ร่วมรักก่อนหน้า เขาไม่ได้ป้องกันและเขาก็ปลดปล่อยข้างใน ซือมู่อันรู้ดีแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเส
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว
ขณะที่หญิงสาวคู่กรณีกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่นั้น ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะตกอกตกใจในสิ่งที่หุ้นส่วนคนสำคัญของท่านประธานกำลังกระทำต่อหญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นพนักงานใหม่ไม่ได้ ร่างบางระหงของหลิวถิงถิงแทบจะลอยไปแนบอกหนั่นแน่นของหุ้นส่วนหนุ่มที่เป็นที่หมายตาของสาวๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจเช่นกันที่เห็นเขา ตอนที่เห็นสองบอดี้การ์ดเข้ามาช่วยเธอ หญิงสาวก็ว่าช๊อไม่ไยดีแล้ว พอแขนเรียวถูกเขาดึงให้เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นหญิงสาวก็อดที่จะน้ำตารื้นไม่ได้ ด้วยเพราะความคิดถึงที่ต้องจากเขามาเพราะความจำใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าหือ ดูสิหน้าแดงเลย” เสียงนุ่มทุ้มไม่เย็นชาเลยสักนิดเอ่ยถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง นิ้วเรียวนั้นลูบไล้ลงบนแก้มนวลที่บวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาด้วยอารมณ์ของคนที่กำลังมีครรภ์ “แล้วนี่ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย น้องเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยออกไปกับบุคคลอื่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วงแขนกว้างยังคงโอบกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่เธอพยายามดันตัวเองออกมาให้หลุดพ้นจากวงแขนอันอ
พนักงานสาวๆ ต่างมองไปที่หุ้นส่วนของท่านประธานเป็นตาเดียวกัน และดูออกได้ไม่ยากว่าสาวๆ คิดอะไรกับเขา ก็เขานั้นทั้งสูง ทั้งหล่อล่ำ หุ่นราวกับเทพบุตรกรีก มู่หลินก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แอบหวังในตัวของหุ้นส่วนท่านประธานคนนี้อยู่ไม่น้อย สายตายั่วยวนทอดสะพานไปให้คนข้างหน้าอย่างปิดไม่มิด หากแต่คนบนเวทีนั้นไม่ได้สนใจกับสายตาของสาวๆ เท่าไหร่นัก ดวงตาคมยังคงมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกระซิบถามน้องชายต่างเมือง “ถิงถิงไปไหน วันนี้เธอมาทำงานไม่ใช่เหรอ” เสียงเย็นชากระซิบที่ข้างหูของฟางถง “ก็ใช่นะพี่มู่อัน ผมว่าเธอคงไม่ได้มาเข้าประชุมด้วย พี่จะไปดูที่ห้องทำงานไหมล่ะ” ฟางถงกระซิบถามเขากลับเช่นกัน ซือมู่อันจึงพยักหน้าให้เป็นการตอบตกลง “ครับ วันนี้ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุข และสนุกกับงานที่ทำด้วยนะครับ แยกย้ายกลับไปทำงานได้ครับ” เสียงเข้มของฟางถงเอ่ยขึ้นก่อนที่สองหนุ่มร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันจะพากันเดินออกจากห้องประชุมไป เสียงพูดคุยกรี๊ดกร๊าดราวกับผึ้งแตกรัง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่จับกลุ่มพูดคุยกันขณะที่เดินกลับไปทำงานที่แผนก หลิวถิงถิงยังคงไม่ได้สนใจอะไรหรือรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกรุ่นพี่ได้ไปพบเจอก
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ หลิวถิงถิงตื่นมาอาเจียนตั้งแต่เช้ามืดจนลี่หลินพลอยต้องตื่นนอนแต่เช้าไปด้วย ร่างบางก้มๆ เงยอยู่ที่หน้าคอห่านจนเพื่อนอีกคนต้องเดินเข้ามาถามพร้อมกับลูบหลังให้ “เป็นไงบ้างถิงถิง ไปทำงานไหวไหมเนี่ย” “อืม ไหว เมื่อวานน่าจะทานอาหารเยอะไปหน่อยจนอาหารไม่ย่อย เช้ามาเลยอาเจียนเยอะแบบนี้ ขอโทษนะลี่หลินที่ทำให้เธอต้องตื่นแต่เช้าเลย ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดพักผ่อนของเธอแท้ๆ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอก เวลานอนเรามีทั้งวัน ว่าแต่เธอเถอะไปทำงานไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวจะได้โทรไปลาที่ฝ่ายบุคคลให้” ลี่หลินตอบก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เป็นไร เราไหวจ้ะ ขอบใจนะ” หลิวถิงถิงลุกขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวอาบน้ำ ลี่หลินจึงเดินออกมาและมองกลับไปด้วยสายตาสงสัย ‘สรุปหลิวถิงถิงไม่เคยมีแฟนมาก่อนแน่เหรอ แต่อาการของเธอเหมือนท้องเลยอะ’ ลี่หลินคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะคาดคั้นอะไรกับเพื่อนมากเพราะเรื่องบางเรื่องถ้าเพื่อนไม่อยากบอกนั่นแสดงว่าเธอไม่อยากให้รู้ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าเสร็จหลิวถิงถิงก็ไปขึ้นรถเมล์ที่หน
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจ มันคือเรื่องจริง ฉันจะมารับเธอกลับเมืองแอล แม่ของฉันอยากเจอเธอ” ซือมู่อันบอกน้องชายที่ทำหน้าประหลาดใจ เขาได้ปรึกษากับมารดาเรื่องของเธอแล้ว มารดาบอกเขาว่าเขารักเธอ ให้เขาลองถามหัวใจตัวเองดู แต่ปากเจ้ากรรมมันดันพูดออกมาไม่ได้ เขาเลยอยากมาเจรจากับเธอเพื่อที่จะให้สถานะที่ไม่เคยให้ใครกับเธอ ยิ่งมารู้ความจริงที่ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา เขายิ่งมั่นใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะตามเมียและลูกกลับไปเมืองแอลกับเขาให้ได้ “แล้วนี่พี่เคยบอกกับเธอหรือยังว่าพี่รู้สึกยังไงกับเธอ ผู้หญิงน่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าคนที่รักเธอจากหัวใจบอกคำว่ารักให้เธอได้ยินหรอกนะพี่มู่อัน ผมอยากให้พี่บอกความในใจกับเธอ เชื่อผมเถอะ สิ่งที่พี่คิดว่ายากจะง่ายภายในพริบตาเลยล่ะ” ฟางถงเอ่ยถามก่อนที่จะแนะนำตามประสบการณ์ของตนกับฉินเวยเวย ที่ตอนแรกเธอคิดแค่ว่าเขารักสนุกกับเธอ ไม่ได้จริงจังอะไร จนวันที่เขาสารภาพออกมา มันทำให้เธอกล้าเปิดหัวใจและรักเขากลับเช่นกัน “ยังไม่เคยบอก นายก็รู้ว่าฉันมันเย็นชาไร้หัวใจ ฉันเคยรักใครซะที่ไหนกัน” เสียง
ทันทีที่รถตู้คันหรูจอดลงบริเวณที่จอดรถวีไอพีของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร่างหนาสูงโปร่งก็แทบจะปลิวลงจากรถทันที ขายาวๆ ก้าวตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อตรงไปห้องทำงานของท่านประธานทันทีโดยมีสายตาจากสาวๆ ในบริษัทที่มองมาที่เขาอย่างตื่นเต้น แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้างไม่ บอดี้การ์ดทั้งสองผู้ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณชายก็แทบจะเดินแกมวิ่งตามเจ้านายมือหนาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เลขาที่อยู่หน้าห้องที่กำลังจะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้มาใหม่ยังไม่ทันได้อ้าปากห้ามเลยด้วยซ้ำ“เห้ย!!! อะไรกันเนี่ยพี่มู่อัน เข้ามาไม่เคาะประตูก่อนเล่า” เสียงทุ้มสบถออกมามือหนาพรางรีบดึงเสื้อเกาะอกของแฟนสาวขึ้นไปอยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าหวานของฉินเวยเวยแดงก่ำด้วยความอายพร้อมกับซบลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของแฟนหนุ่ม ดีที่เธอหันหลังออกไปทางประตู ผู้มาใหม่อย่างคุณชายซือเลยไม่ทันเห็นอกอวบของตน ฟางถงมองคนมาใหม่อย่างงุนงง ปกติพี่ชายต่างเมืองคนนี้ของเขามักจะมีมารยาทเสมอ วันนี้มาแปลกที่ไม่โทรมาบอกก่อนและยังไม่ให้เลขาหน้าห้องรายงานเขาก่อนที่จะเข้ามาอีก “ขอโทษๆ ขอโท
“ว่าไง เธอมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงจะเครียดแหละ แต่เท่าที่สังเกตตั้งแต่เธออยู่กับฉันมาเกือบสองอาทิตย์ ฉันเห็นเธอกินเก่งมากเลยนะ ดูเหมือนเธอจะหิวตลอด แล้วก็ชอบกินพวกของเปรี้ยวๆ บ่อยๆ ด้วย จนฉันอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเธอกำลังจะมีน้อง” ด้วยความช่างสังเกตแต่เพราะยังไม่สนิทเลยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมา แต่ตอนนี้ทั้งเธอและเพื่อนใหม่เริ่มที่จะสนิทกันแล้วจึงไม่ยากที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ฉัน...ไม่เคยมีแฟนหรอก” เธอตอบเพื่อนใหม่ตามความจริง แต่เลือกที่จะปิดบังว่าเธอเคยนอนกับใครมา “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเพราะเครียดกับพักผ่อนน้อยแหละ วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะไปทำงานก่อนล่ะ พรุ่งนี้ได้ข่าวว่าพี่ชายท่านประธานมาจากต่างเมืองด้วยนะ หล่อระเบิดเลยแหละจะบอกให้ พรุ่งนี้อย่าป่วยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดอาหารตาเอาคิกๆ” ลี่หลินเอ่ยออกมาพรางโล่งใจที่เพื่อนสาวคนสวยของเธอไม่ใช่ว่าที่คุณแม่ เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยแถมยังเพิ่งเรียนจบอีกด้วย คงลำบากไม่น้อยถ้าฐานะไม่ดีแล้วต้องมาดูแลเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา
และแล้ววันรับปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแอลรุ่นของหลิวถิงถิงก็มาถึง สามสาวนั้นรวบผมขึ้นพร้อมกับแต่งหน้าจางๆ มองแล้วดูสวยงามทุกคนจนหนุ่มๆ อดที่จะเหลียวหลังมองตามไม่ได้ ส่วนสาวๆ ที่หมั่นไส้ในทีก็มองมาด้วยความอิจฉาแก๊งนางฟ้าหัวใจเย็นชาที่ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหนเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และวันนี้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาก็มา “สวัสดีสาวๆ สบายดีกันนะ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรียนจบกันเสียที” เสียงทุ้มดังมาจากหนุ่มรูปหล่อร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวดำ “อ้าว สวัสดีค่ะพี่เจียอี พวกเราสบายดีค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มา ว่าแต่ไม่เจอกันนานเลย พี่เจียอีสบายดีนะคะ” เป็นหลิวถิงถิงที่เอ่ยทักขึ้นตามแบบของคนที่มีอัธยาศัยและจิตใจดีก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสาวคนสนิท“พี่ทำงานอยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เสียงหวานของเฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ก็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่านกลางเมืองนั่นแหละ พอดีตอนนี้พี่ได้เป็นหัวหน้าวิศวกรที่นั่นแล้วล่ะ” หลินเจียอีตอบออกมาอย่างภูมิใจก่อนที่จะมองไปท่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเธอมานานหลายปีจนป่
มื้ออาหารฉลองเรียนจบผ่านไปอย่างสนุกสนาน กลุ่มของฟางอี้หลงกลับไปก่อนกลุ่มของหลิวถิงถิง สามสาวลองดื่มเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นจากผลไม้ จ้าวซือซือดูจะชำนาญและดื่มเก่งที่สุด ส่วนคนที่คออ่อนที่สุดน่าจะเป็นเฉินเหม่ยหาน เพราะเธอเริ่มพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ตั้งแต่หมดไปกระป๋องที่สามแล้ว สามสาวจึงพากันกลับหอพัก หากแต่หลิวถิงถิงนั้นมีคนของคุณชายซือมารอรับอยู่ที่หน้าร้าน เธอจึงบอกให้เพื่อนทั้งสองกลับไปก่อนเพราะเธอคงจะต้องไปคุยกับเขาให้เข้าใจว่าเธอกำลังจะไปทำงานที่เมืองอื่นหลังจากเรียนจบ รถตู้คันหรูติดฟิล์มสีดำเคลื่อนเข้าไปจอดที่คอนโดหรู สถานที่ประจำที่เธอมาบ่อยๆ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หญิงสาวมองไปรอบๆ ราวกับต้องการที่จะจดจำเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย จางหลงที่เดินมาส่งเธอก็มองอาการคนสำคัญของคุณชายด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาที่เธอมา เธอไม่เคยที่จะอ้อยอิ่งหรือสำรวจสถานที่นานเหมือนวันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป “สวัสดีค่ะคุณชายซือ” เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มรูปงามที่กำลังนั่งจิบไวน์รอเธออยู่อย่างใจเย็น “มานั่งนี่สิ” เขาใช้มือหนาตบลงบนที่นั่งข้างกาย ขาเรียวพาร่างระหงเยื้องย่างเข้าไปหาชา