เซญ่า Talk
และแล้วเขาก็ติดต่อมาให้ฉันไปทำงานกับเขา เพื่อชดใช้ที่ฉันไปหลอกเอาเงินเขามาหลายบาท ให้ฉันไปทำงานเป็นแม่บ้านของเขาตอนนี้ฉันกำลังรอลูกน้องของเขามารับ ฉันเองก็อยากออกจากบ้านใจจะขาดนะ แต่อยากไปที่อื่นมากกว่า เพราะไม่ว่าฉันจะไปอยู่ที่ไหนแม่ของฉันหรือไม่ก็พ่อจะไปโวยวายที่หน้ามหาลัยตลอด จนฉันต้องกลับไป นี่ถ้าพวกเขารู้ว่าฉันไปอยู่ที่อื่นมีหวังได้ตามไปโวยวายอีกแน่ๆ เผลอๆ ไปสร้างหนี้เพิ่มอีก
สาเหตุที่ฉันต้องทำงานบ้าๆ บอๆ นี่ก็เพราะแม่แอบขโมยบัตรไปกู้ยืมเงิน ฉันเลยต้องตามชดใช้เพราะเคยถูกดักทำร้ายมาแล้ว คนพวกนั้นเป็นคนมีอิทธิพล แจ้งความไปก็เท่านั้น หลังๆ มาแม่ไปกู้เงินปากเปล่าโดยที่ให้ฉันชดใช้ทุกอย่าง เพราะพวกเขารู้ว่าฉันจะต้องหาเงินมาใช้จนได้ มันหนักขึ้นและฉันก็ไม่มีทางจะหนีได้เลย ถ้าไม่หามาคืนฉันก็ต้องเจ็บตัว ซึ่งคนในครอบครัวก็ไม่ได้มารับรู้ด้วยเลยทั้งๆ ที่พวกเขาเป็นคนก่อขึ้นมาเอง ถ้าเป็นไปได้นะฉันจะหนีไปให้ไกลเลย จะได้ไม่ต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ฉันยอมเป็นลูกอกตัญญู หวังว่าการที่ฉันออกไปอยู่ข้างนอกแบบนี้มันจะดีกับฉัน
บรืน~
รถตู้คันสีดำขับมาจอดที่หน้าซอยเพราะฉันบอกว่าจะรอตรงนี้ ฉันไม่อยากให้คนในครอบครัวหรือคนข้างบ้านเห็นว่าฉันขึ้นรถไปกับใคร ป้าข้างบ้านก็ใช่ย่อย มีอะไรก็เที่ยวเร่ไปพูดอย่างนั้นอย่างนี้
“ขึ้นมาสิครับ”
“ค่ะ”
ฉันเข้าไปนั่งในรถพร้อมกับมองไปที่อีกคนที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน ไม่คิดว่าเขาจะมาด้วย ไอ้ใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกแบบนี้เนี่ยมองกี่ทีก็รู้สึกขนลุกแฮะ บางทีนึกอยากจะพูดก็โพล่งขึ้นมาเลย
“กระเป๋ามีแค่นี้เหรอ?"
“ค่ะ” ฉันตอบ กระเป๋าของฉันไม่ได้ใบใหญ่อะไรหรอก เพราะมีแต่ชุดนักศึกษาแล้วก็ชุดใส่เล่นอยู่บ้าน เครื่องสำอางก็มีอยู่นิดนึงแค่นั้นเอง
“พ่อแม่เธอรู้หรือยัง?”
“ไม่ค่ะ”
“ทำไมไม่บอก เดี๋ยวพ่อแม่เธอก็จะหาว่าฉันลักพาตัวเธอเอาหรอก”
“ช่างเถอะค่ะ ถ้าพวกเขารู้นั่นแหละคุณจะเดือดร้อนเปล่าๆ” ฉันรู้ว่าคนในครอบครัวของฉันเป็นยังไง ถ้ารู้ว่าฉันได้ไปอยู่ที่อื่นแล้วบ้านหลังใหญ่กว่าที่อยู่ มีหวังได้ตามไปโวยวายกันแน่
“เธอมีปัญหากับครอบครัวเหรอ?”
“นิดหน่อยค่ะ” ความจริงก็ไม่นิดหน่อยหรอก แต่ฉันไม่อยากให้เขาต้องคิดอะไรมาก ตอนนี้ฉันมีหน้าที่ทำงานชดใช้หนี้ของเขาก็เท่านั้น เรื่องพวกนั้นมันเลยไม่จำเป็นอะไรเลย
ไม่นานรถตู้ก็ขับเข้าไปในรั้วบ้านหลังนึง มันใหญ่มาก บ้านหลังเท่าราชวังเลย มีพื้นที่กว้างมากๆ มีรถหลายคันด้วย มีคนชุดดำอยู่กันให้เต็มไปหมด เชื่อแล้วล่ะว่าเป็นคนรวย เพราะถ้าไม่รวยก็ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก
“ลงมาสิ จะนั่งรอให้ใครมาเชิญ?"
“บะ บ้านคุณเหรอ?"
“อืม..."
“รวยจัง"
“เข้าไปสิ เดี๋ยวแม่บ้านข้างในจะเป็นคนพาเธอเข้าห้องพัก และก็จะบอกให้เธอรู้เองว่าต้องเรียนรู้งานอะไรบ้าง”
“ค่ะ”
ฉันพยักหน้าให้กับเขาก่อนจะถือกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเดินเข้าไปด้านใน บ้านคนรวยมันหรูหราแบบนี้เองสินะ อะไรๆ ก็ระยิบระยับไปหมด สะอาดสะอ้านไม่เหมือนกับบ้านของฉันเลย ต่อให้ทำความสะอาดแล้วก็ยังเลอะเทอะเหมือนเดิม เพราะคนทำความสะอาดมีแค่ฉันคนเดียว ส่วนคนอื่นก็อย่างที่เห็นแหละ
“เข้ามาสิ จะพาไปดูห้องพัก"
“ค่ะๆ” ฉันพยักหน้าก่อนจะรีบเดินตามผู้หญิงคนนึงเข้าไป เพราะมัวแต่มองไปรอบๆ ตัวเอง มันโดดเด่นไม่ว่าอะไรก็สะดุดตาไปหมด
ฉันไม่ต่างอะไรจากพวกบ้านนอกเข้าเมืองกรุงเลย เคยดูในทีวีนางเอกบ้านจนได้เข้ามาทำงานที่บ้านของพระเอกที่มีคนแนะนำให้ ชีวิตของฉันมันจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะ แต่ก็คงไม่หรอก เพราะฉันดันทำเรื่องน่าอายไปแล้วยังไงล่ะ
“นี่ห้องของเธอนะ”
“ขอบคุณนะคะ”
“ตอนเช้าตื่นตีห้าครึ่ง เตรียมอาหารให้เจ้านายให้เรียบร้อยก่อนเจ็ดโมง แต่งานของเธอก็คงจะไม่มีอะไรมาก เพราะทุกคนที่นี่ก็แบ่งหน้าที่กันลงตัวแล้ว ยังไงก็ช่วยคนอื่นเขาหยิบจับอะไรบ้างล่ะ ให้สมกับที่เจ้านายเขาพามาทำงานด้วย”
“ขะ ขอบคุณค่ะ”
ฉันถือกระเป๋าของตัวเองเข้าไปในห้องพัก จากนั้นก็จัดแจงเอาเสื้อผ้าใส่ตู้ เดินสำรวจรอบๆ ห้องพักที่ได้เข้ามาอยู่ มันกว้างและน่าอยู่กว่าห้องนอนของฉันอีก กลอนล็อคก็ดูแน่นหนาดีเหมือนกัน คงไม่ต้องมานั่งระแวงว่าห้องนอนจะถูกรื้อค้นตอนไหน เงินเก็บ เงินค่าเทอม ค่าจิปาถะต่างๆ ที่ฉันต้องเก็บไว้ใช้ก็ไม่มีที่ไหนปลอดภัยอีกแล้ว แม้กระทั่งเก็บไว้กับตัวเองยังไม่ปลอดภัยเลย ทำไมครอบครัวของฉันมันต้องเป็นแบบนี้ด้วยนะ แต่ก่อนมันดีกว่านี้ แต่พอมีพ่อเลี้ยงเข้ามาก็พากันเสียคนไปหมด รวมถึงน้องชายของฉันด้วย
ก๊อกๆ
ฉันรีบเดินไปเปิดประตูและก็ได้เห็นแม่บ้านคนเดิมที่พาฉันมาส่งที่ห้องพักนี้
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
“เห็นโรวันบอกว่าเธอกำลังเรียนใช่ไหม?"
“ค่ะ แต่หนูทำงานได้นะคะ ตื่นมาตอนเช้าช่วยทุกคนทำงาน แล้วก็ค่อยไปรียน ตอนบ่ายก็กลับมาช่วยทุกคนทำงานเหมือนเดิม แต่คงจะต้องหางานเสริมทำตอนกลางคืนด้วย"
“….."
“ฝากบอกพี่เขาด้วยนะคะ ว่าค่าแรงของหนูให้ได้ตามความเหมาะสมเลย หนูรู้ว่าตัวเองคงทำงานไม่ได้เต็มที่ จะรับเต็มจำนวนเหมือนกับที่ทุกคนรับก็คงไม่ได้”
“เรื่องเงินเดือนฉันไม่ได้ยุ่งหรอกนะ เธอต้องไปคุยกับโรวันเอง เพราะเขาเป็นคนจ่ายเงินเดือนเธอ"
“ค่ะ ได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาบอก"
“อืม...เริ่มงานพรุ่งนี้นะ วันนี้พักผ่อนเถอะ"
“ค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”
ฉันเดินกลับเข้ามาในห้อง จะว่าไปคนที่นี่ก็ไม่ได้ใจร้ายเลยนี่นา แต่ก็ดูในระยะสั้นๆ ไม่ได้หรอกต้องดูไปนานๆ กว่านี้ แต่มันคงจะดีกว่าที่ฉันอยู่บ้านของตัวเอง เพราะต่อให้ฉันจะทำงานแทบตายก็ไม่มีวันลืมตาอ้าปากได้หรอก ส่วนเรื่องหนี้สินที่แม่เอาชื่อของฉันไปกู้ยืมกับพวกปล่อยเงินกู้เก็บดอกเถื่อน เพราะถ้าไม่มีจ่ายแล้วพวกมันมาเจอฉันอีกโดนทำร้ายแน่ๆ ฉันไม่อยากเจอแบบนั้นอีกแล้ว เมื่อไหร่แม่จะคิดได้สักทีนะว่าฉันเป็นลูกแล้วต้องมาเจออะไรแบบนี้มันโหดร้ายกับฉันมากแค่ไหน เมื่อไหร่จะเลิกคิดว่านี่คือการทดแทนค่าน้ำนม ฉันต้องชดใช้จนกว่าจะตายเลยหรือไง
วันต่อมาฉันตื่นตามเวลาช่วยแม่บ้านหยิบจับทำงานต่างๆ จนกระทั่งได้เวลาที่ตัวเองจะต้องออกไปเรียน เพราะต้องใช้เวลาในการเดินทางเนื่องจากฉันไม่มีรถ เลยต้องออกไปเช้าหน่อย ส่วนเขาฉันก็ไม่รู้หรอกว่าจะออกไปทำงานตอนไหน แต่เราไม่เจอกันบ่อยๆ จะดีกว่า ฉันไม่กล้าสู้หน้าเขา ก็เล่นทำเรื่องงามหน้าเอาไว้ขนาดนั้นใครมันจะกล้ามองหน้าเขาล่ะปี๊บๆ !!“หือ..??” ฉันหันกลับไปมองด้านหลังขณะที่กำลังเดิน ก่อนที่รถเก๋งคันหรูจะจอดเทียบฟุตบาทและคนที่นั่งอยู่ข้างคนขับจะลองกระจกลงมา“ขึ้นรถมาสิครับ”“เอ่อ...มะ ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันเดินสะดวกกว่าเผื่อเวลามาแล้ว ไปถึงก็ได้เข้าเรียนพอดี ถ้าไปถึงเร็วก็ไม่รู้จะทำอะไร” ฉันตอบ ที่บอกมันก็ส่วนนึงแหละ แต่จริงๆ ฉันก็ไม่อยากอยู่ใกล้กับเขาด้วยแหละ คนอะไรแค่ทำหน้านิ่งๆ ก็ดูน่ากลัวแล้ว“ขึ้นมาเถอะครับ ถนนเส้นนี้มันเปลี่ยว”“เอ่อ...จริงๆ มันก็ไม่น่ากลัวหรอกค่ะ”“แถวนี้ไม่ใช่บ้านคุณนะครับ คุณจะรู้ได้ยังไงว่ามันจะไม่เกิดอะไรขึ้น”“…..” จะว่าไปมันก็ดูน่ากลัวจริงๆ แหละ แต่เดินไปอีกหน่อยก็จะเจอกับหน้าซอยแล้ว ถึงเวลานั้นก็คงจะมีรถวิ่งผ่านไปมาเยอะพอสมควร มันก็คงจะไม่เปลี่ยวแล้วล่ะ“ขึ้นรถมา!” กระ
วันหยุดเสาร์อาทิตย์วันนี้เซญ่าหยุดไม่ได้ไปเรียน ช่วงเช้าของเธอก็ยังไปช่วยแม่บ้านคนอื่นๆ ทำงานเหมือนเคย พอตกกลางวันก็มานั่งทำงานของเธอเพราะต้องส่งอาจารย์ในวันเปิดเรียนถัดไป เพราะเธอทำแต่งานหลายอย่างแม้มันจะเป็นการหลอกลวงคนอื่นแต่มันก็เหนื่อยใช่ย่อยเลย เพราะต้องหลบหลีกไม่ให้ใครจับได้ เธอเลยเรียนตามเพื่อนๆ คนอื่นไม่ทันเพราะต้องทำงานหนักแบบนี้ก๊อกๆๆ“ใครคะ?"“ฉันเอง"“…..” หญิงสาวรีบเดินไปเปิดประตู ก่อนจะพบว่าคนที่เข้ามาเคาะประตูเป็นลูกน้องของเจ้านายเธอ “พี่มีอะไรหรือเปล่าคะ?"“คุณไทเลอร์ในเราชงกาแฟขึ้นไปให้น่ะ”“ให้ฉัน?” เธอถามกลับ เพราะปกติเธอไม่ได้มีหน้าที่นี้นี่นา ถ้าเจ้านายจะกินกาแฟจะมีแม่บ้านหรือคนของเขาลงมาเอาให้เอง เธอเลยตกใจที่ว่าเขาให้เธอเป็นคนชงกาแฟขึ้นไปให้“ใช่ ให้เราชงกาแฟขึ้นไปให้"“แต่ฉันไม่เคยทำเลยนะพี่ ฉันจะชงได้ยังไง ใส่อะไรบ้างฉันยังไม่รู้เลย” เธอไม่รู้จริงๆ ว่ามันจะต้องใส่อะไรบ้าง เธอไม่เคยกินมาก่อนเลย เคยแต่ทำอาหารในครัว ส่วนของพวกนี้เธอไม่เคยทำเลย“ก็ทำเหมือนเราทำกับข้าวแหละ ใส่กาแฟสามช้อน คุณไทเลอร์ชอบเข้มๆ"“พี่ไปทำให้ฉันก่อนไม่ได้เหรอ ตอนนี้ฉันยังยุ่งๆ อยู่เลยอ
วันหนึ่งขณะที่เซญ่ากำลังอาบน้ำเตรียมตัวที่จะไปเรียน ด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แต่ทว่าเธอกลับไม่ได้ยินเพราะกำลังเปิดเพลงร้องร่ำเต้นอยู่ในห้องน้ำอย่างสนุกสนาน เสียงเคาะดังขึ้นเรื่อยๆ ก่อนที่ประตูห้องจะถูกเปิดเข้ามาอย่างถือวิสาสะ และขณะเดียวกันหญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี เพราะเธอไม่ได้คิดว่าจะมีคนเข้ามาในห้อง จึงใส่เพียงผ้าขนหนูห่อพันร่างกายของเธอเอาไว้แค่นั้น เรือนร่างที่ขาวสะอาดไม่เคยมีใครมาเห็น แต่เขากลับได้เห็น“คะ คุณไทเลอร์”“อึก...” เขามองจนตาค้าง เพราะเรือนร่างของเธอมันสวยสะดุดตาจริงๆ เขาไม่เคยเจอผู้หญิงที่รูปร่างสวยธรรมชาติแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมาผู้หญิงของเขาส่วนใหญ่ก็ผ่านการศัลยกรรมมาแล้วทั้งนั้น หน้าอก โครงหน้า แทบจะทุกส่วนของร่างกายที่ทำขึ้นมาใหม่เพื่อให้ได้ใบหน้าที่สวยงาม“อะ ไอ้คนบ้า ว๊าก!!” เธอแหกปากร้องอย่างไม่เหลือคราบของผู้หญิง ไม่เรียบร้อยเหมือนกับหน้าตา ก่อนที่ผ้าขนหนูมันจะหลุดร่วงลงพื้นไป ทำให้เรือนร่างที่ไร้อาภรณ์ปกปิดปรากฎต่อหน้าเขา และนั่นก็ทำให้ชายหนุ่มตกใจจนตาค้างมากกว่าเดิมอีกแทนที่เขาะรีบออกไป เขารีบปิดประตูเพราะกลัวว่าคนข้างนอกจะมาเห็นเธออยู่ในสภาพโ
เซญ่า Talkก๊อกๆๆ“ใครคะ?” ฉันถามออกไปเพราะไม่รู้ว่าใครมาเคาะประตูห้องของฉัน ตอนนี้ก็เข้าช่วงหัวค่ำแล้ว ฉันกำลังเร่งรีบในการทำงานส่งอาจารย์เพราะไหนจะต้องไปทำงานข้างนอกอีก อะไรๆ มันก็เลยต้องเร่งรีบไปหมดเพื่อให้ทันเวลา“พี่เอง” เสียงพี่โรวันฉันเดินออกไปเปิดประตูก่อนจะพบเข้ากับเจ้าของเสียง พี่โรวันลูกน้องคนสนิทของคุณไทเลอร์เจ้านายของฉันนี่แหละ เราเองก็เป็นลูกน้องเหมือนกัน อยู่ในสถานะที่คล้ายๆ กัน เราสองคนเลยคุยกันรู้เรื่องมากกว่าฉันคุยกับเขา“มีอะไรหรือเปล่าคะ?"“คุณไทเลอร์อยากได้เอกสารที่เราเป็นหนี้น่ะ"“เอกสารหนี้?” ฉันขมวดคิ้วใส่คนตรงหน้า เพราะไม่เข้าใจว่าพี่โรวันต้องการอะไร เอกสารที่ฉันเป็นหนี้น่ะเหรอ มันไม่มีเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรสักหน่อย เพราะครั้งล่าสุดนี่แม่ไปกู้ปากเปล่า ส่วนเอกสารก็อยู่ที่เจ้าหนี้ฉันไม่ได้เอามาถือเอง เพราะพวกนั้นก็ระวังตัวอยู่ใช่ย่อย“อื้ม หนี้ของเราทั้งหมดน่ะ"“มันไม่มีอะไรแล้วนะคะ หนี้ของหนูก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันไม่รู้หรอกว่าเขารู้ได้ยังไงว่าฉันมีหนี้ แต่ฉันก็ไม่อยากเอาเรื่องของตัวเองไปให้ใครต้องมารับผิดชอบด้วย จะมากหรือน้อยมันก็เรื่องของฉ
เวลาต่อมาไทเลอร์เดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากเสร็จภารกิจของตัวเอง เขาเห็นกระดาษใบเล็กๆ วางอยู่ตรงโต๊ะหัวเตียง ก็รู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่ของเขา และก่อนหน้านี้เขาเองก็รู้ว่าเซญ่าแอบเข้ามาในห้องนอนของเขาด้วยมือหนาหยิบกระดาษใบเล็กๆ ขึ้นมาดู มันเป็นบิลใบเสร็จการรับเงิน เพราะก่อนหน้านี้เขาให้เธอเอาหลักฐานที่เธอเป็นหนี้มาให้กับเขา“มีแค่นี้เองเหรอ?” เขามองดูบิลใบเสร็จแล้วก็แค่นหัวเราะออกมา เพราะยอดเงินมันไม่ได้มากอะไรเลย แต่ทำไมเธอถึงได้ทำงานหนักขนาดนั้นจำนวนเงินที่แม่ของเธอกู้ยืมจากพวกเจ้าหนี้นอกระบบ มันแค่หลักหมื่นแต่เพราะหามาจ่ายไม่ทันดอกเบี้ยมันจึงเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน จนเกือบจะเหยียบแสนให้ได้แล้ว“โรวัน”“ครับ” ลูกน้องคนนสนิทเดินเข้ามา เพราะยังไม่ได้กลับไปพักจนกว่าเจ้านายจะเข้านอน มันคือการกระทำของลูกน้องทั้งสองคนที่คอยดูแลเจ้านายอย่างใกล้ชิด“เอาบิลนี้ไปจ่ายหนี้ของเธอให้หมด แล้วสืบมาด้วยว่าเธอยังมีหนี้ที่ไหนอีกไหม"“เห็นว่ามีนะครับ เธอบอกกับผมว่าพวกนั้นไม่ได้ให้หลักฐานอะไร เพราะกลัวว่าเธอจะเอาหลักฐานพวกนั้นไปแจ้งตำรวจ"“ไม่มีหลักฐาน แล้วทำไมเธอถึงเชื่อแล้วยอมจ่าย"“ก็ถ้าไม่จ่ายก็ถูกทำร้า
เช้าวันต่อมาเซญ่า Talkฉันตื่นมาตอนเช้าเตรียมที่จะไปเรียนตามปกติเหมือนอย่างเคย เรื่องเมื่อคืนฉันยังไม่ลืมหรอกมันอายจนไม่กล้าจะมองหน้าเขาด้วยซ้ำ แต่จะทำยังไงได้ล่ะในเมื่อฉันก็ต้องเจอหน้าเขาทุกวันอยู่แล้วนี่ทั้งที่เป็นลูกน้องของเขาแต่กลับทำเรื่องไม่เป็นเรื่องไปจนได้ ใครที่ไหนเขาจะมาทำแบบนี้กัน“เซญ่า..”“….” ฉันหยุดเดินเพราะเสียงเรียกเสียงพี่โรวันนั่นแหละ เราเริ่มสนิทกันเพราะเจอหน้าและได้คุยกันตลอด ส่วนพี่อีกคนนึงฉันไม่ค่อยได้เจอเพราะรายนั้นทำงานอยู่อีกที่มากกว่า นานๆ เขาถึงจะมาที่นี่เราจะได้เจอกันเพราะพี่เขามารอออกไปทำงานพร้อมกับเจ้านาย ส่วนฉันก็จะออกไปเรียน“จะไปเรียนแล้วเหรอ?”“ค่ะ”“เจ้านายฝากบอกว่าให้เรารอก่อนนะ”“รอ...ทำไมคะ?”“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่คุณไทเลอร์สั่งเอาไว้แบบนี้น่ะ เมื่อคืนยังไม่ได้คุยกันเหรอ?”“ก็คุยกันแล้วนี่ เจ้านายพี่บอกจะจัดการเรื่องหนี้สินของฉันให้ แล้วจัดการปิดบ่อนพวกนั้นให้ด้วย” ฉันบอกตามที่คุณไทเลอร์พูดไว้เมื่อคืน เขาบอกว่าจะจัดการเรื่องของพวกนั้นให้ ปิดบ่อนของคนพวกนั้น ฉันไม่รู้ว่าเขาจะจัดการด้วยวิธีไหนแต่ฉันก็ไม่อยากให้เขาต้องมาเดือดร้อนด้วยเช่นกัน“ไ
หลังจากกลับมาจากที่นั่นฉันก็เก็บตัวอยู่ในห้องอย่างเดียว มันจุกดีนะที่คนในครอบครัวของเขาเห็นเงินสำคัญกว่าเราที่เป็นลูกแท้ๆ มันก็ไม่ใช่ครั้งแรกนะที่ต้องเจอแบบนี้ แต่ฉันก็ไม่สามารถทำใจให้ชินได้เลย แต่ครั้งนี้มันหนักมากจริงๆ เพราะฉันถูกแม่ด่าต่อหน้าคนนับสิบ มันเจ็บมากนะในฐานะของคนเป็นลูกอะมันเจ็บจนฉันไม่อยากพูดกับใครเลย ไม่อยากพูดหรือระบายอะไรทั้งนั้น เวลาเหนื่อย เศร้า ฉันมักจะอยู่เงียบๆ คนเดียว จนกว่าความรู้สึกเหมือนเดิมจะกลับมาหายดีก๊อก ก๊อก ก๊อก“ตอนนี้ยังไม่อยากคุยกับใครค่ะ ขอพักก่อนนะคะ ไม่ค่อยสบายค่ะ” ฉันพูดผ่านประตูออกไป ตอนนี้มันก็หมดเวลางานแล้วฉันไม่ต้องทำงานแล้ว อยากอยู่คนเดียวเงียบๆ สักพัก“ป้าเอาข้าวมาให้ เห็นโรวันบอกว่าเรายังไม่ได้กินอะไรเลย ตั้งแต่กลับมาถึง"“หนูไม่ค่อยหิวค่ะป้า ขอบคุณมากนะคะ วางไว้ตรงหน้าห้องก็ได้ค่ะเดี๋ยวหนูออกไปเอา”“รีบกินล่ะ เดี๋ยวมันเย็นแล้วจะไม่อร่อย”“…..” ฉันไม่ได้ตอบอะไรจนกระทั่งเสียงคนด้านนอกเงียบไป ฉันก็เปิดประตูออกไปเพื่อหยิบข้าวมาไว้ จะกินหรือไม่กินก็ยังไม่รู้เลยแต่ก็เอามาเก็บไว้ก่อน ป้าแกจะได้ไม่รู้สึกเสียน้ำใจวันต่อมา...“เซญ่า...จะไปเรียน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“เข้ามา”“…..” เซญ่าค่อยๆ เปิดประตูแล้วเดินเข้าไปด้านใน ในห้องที่ถูกเปิดเครื่องปรับอากาศเอาไว้จนเย็นเฉียบไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่ชินเลยสักครั้ง มันทำให้เธอรู้สึกขนลุกทุกครั้งที่ได้เข้าไปเลย“มีอะไรหรือเปล่า?” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น เมื่อเธอเดินเข้าไปเกือบถึงตัวของเขาแล้ว“ฉันจะมาขอเบิกค่าแรงล่วงหน้าค่ะ พี่โรวันบอกว่าให้มาคุยกับคุณเอง”“เบิกไปทำอะไร?”“จ่ายค่าเทอมค่ะ”“…..” ชายหนุ่มหันกลับมา เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานที่หมุนได้ พอได้เจอหน้ากันเธอก็รีบก้มหน้าหลบในทันที“พอดีว่ามหาวิทยาลัยเขาส่งใบเตือนมาแล้วค่ะ ถ้าไม่จ่ายเขาจะไม่ให้เรียนต่อ” เธอพูดจบก็วางซองจดหมายลงบนโต๊ะตรงหน้าของเขา ก่อนที่ชายหนุ่มจะรับไปและเปิดดู“…..”“จริงๆ ฉันจะจ่ายแล้ว แต่ตอนนั้นโดนแม่ขโมยเงินค่ะ ก็เลยยังไม่ได้จ่ายเพราะเงินอีกส่วนก็ต้องเอาไปจ่ายหนี้ด้วย” เธอรีบอธิบายให้เขาฟัง เพราะเธอจำเป็นต้องเอาไปจ่ายจริงๆ ไม่ได้โกหกเพื่อจะเอาเงินไปใช้อย่างอื่น“มีอะไรอีกไหมที่ต้องจ่าย ฉันจะได้ตามจ่ายให้ทีเดียวเลย”“มะ ไม่มีแล้วค่ะ ส่วนนี้คุณไทเลอร์หักออกจากเงินเดือนได้เลยนะคะ”“…..”“ดะ ได้หรือเปล่าคะ” เธอถามเสียงตะกุกตะ
เวลาผ่านไปจนกระทั่งถึงเวลาใกล้คลอดของเซญ่าเต็มทีแล้ว เธอได้ลูกชายทั้งสองคนเลย หรือเรียกง่ายๆว่าแฝดชาย ก็เพิ่งจะมารู้แน่ชัดตอนช่วงใกล้จะคลอด เพราะการอัลตร้าซาวด์มันผลไม่ค่อยตรงคุณหมอบอกว่าเซญ่ามีแนวโน้มว่าจะคลอดก่อนกำหนด แต่ก็อยู่ในช่วงเวลาที่สามารถคลอดทารกออกมาได้แล้ว เพราะเธอท้องใหญ่กว่าคนท้องปกติ เนื่องจากในครรภ์เป็นทารกแฝดส่วนไทเลอร์หลังจากที่หายดีจากอาการแพ้ท้องแทนภรรยา เขาก็หันมาดูแลเธอเป็นอย่างดี ทำอะไรต่อมิอะไรแทนเธอทุกอย่างเท่าที่ทำได้"โอ๊ะ!? อื้อ!" ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ เซญ่าก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะจู่ๆ ในท้องของเธอมันก็มีอาการปวดตุ๊บๆ และมันก็แรงขึ้นเรื่อยๆ ปวดเหมือนท้องของเธอมันบีบเข้าหากันและแรงขยับแม้จะเป็นเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ไทเลอร์รู้สึกได้ถึงความผิดปกติของคนข้างกาย"เป็นอะไรปวดท้องเหรอ?""อื้อ..." เธอผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ แทนคำตอบ เพราะมันปวดจนเธอไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ไทเลอร์รีบอุ้มภรรยาลงมาเพราะด้านล่างมีคนของเขาคอยสแตนบายรออยู่แล้ว หลังจากนั้นก็รีบพาเธอไปโรงพยาบาลในทันที ก่อนที่เซญ่าจะถูกนำตัวเข้าไปในห้องผ่าตัด เพราะท้องแฝดไม่สามารถคลอดเองได้"ขอพยาบาลเตร
สองเดือนถัดมา“คะ คุณไท!”“อ้วก!! โอกก! โรวัน มะ ม่วงเปรี้ยวได้หรือยังวะ” ไทเลอร์โวยวายเสียงดัง เขาแพ้ท้องหนักมาสองเดือนที่ผ่านมานี้ เป็นอย่างที่คุณหมอพูดเอาไว้ไม่มีผิดเลย ว่าไทเลอร์จะต้องแพ้ท้องเพราะอาการวิตกกังวลที่มีมากไปตอนที่รู้ว่าภรรยากำลังตั้งครรภ์“ใจเย็นๆ ก่อนสิคะคุณไท ตะโกนเสียงดังเดี๋ยวก็เป็นลมเอาหรอกค่ะ” เพราะมีเขาแพ้ท้องแทนเธอจึงไม่เป็นอะไรเลยแม้กระทั่งอาการอยากจะอาเจียน เธอเป็นปกติมาก กินก็ปกติ อาการก็ปกติ และกลับกลายเป็นว่าเธอนั้นต้องคอยดูแลเขาไม่ให้โวยวายใส่อารมณ์กับลูกน้อง“มาแล้วครับๆ ใจเย็นๆ หน่อยสิครับ ผมกำลังปอกอยู่”“ขอบคุณค่ะพี่โรวัน”“ผมสั่งให้คนของเราไปติดต่อเจ้าของสวนมะม่วงเอาไว้แล้วนะครับ หาซื้อตามตลาดมันไม่ค่อยจะมีสดๆ แต่ถ้าซื้อจากสวนเลยมันจะดีกว่า”“…..” ไทเลอร์เอาแต่นั่งกินผลไม้เปรี้ยวที่โรวันเอามาให้ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าลูกน้องกำลังพูดอะไรกับตัวเองอยู่ เซญ่าจึงเป็นคนรับรู้ทุกอย่างเองและตอบกลับเองเพราะอาการแพ้ท้องที่หนักหน่วงทำให้ไทเลอร์เอาแต่กินผลไม้เปรี้ยวอย่างเดียว แต่อาหารหลักๆ ก็แทบจะไม่แตะต้องเลย จนลูกน้องต้องไปติดต่อกับเจ้าของสวนผลไม้เพื่อซื้อในจำน
เช้าวันต่อมาคืนวันเกิดของเซญ่าได้จัดขึ้นในที่สุด เพราะไทเลอร์ต้องการจะประกาศให้กัับทุกคนรู้ว่าเขากำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว และวันนี้ก็พาเซญ่ามาหาหมอที่โรงพยาบาล เขาตื่นเต้นมากจนแทบจะนั่งไม่ติดเลย ระหว่างที่กำลังนั่งรอคุณหมอไทเลอร์ก็จับมือของเซญ่าแน่น มือของเขาเย็นเฉียบเพราะตื่นเต้นมากกว่าเธอที่อุ้มท้องแทนซะอีก“มือเย็นเชียวนะคุณ”“ฉันตื่นเต้นน่ะ”“ใจเย็นๆ สิคะคุณ มือเย็นแบบนี้ระวังจะช็อคเอานะ”“ไม่หรอก มือเย็นเพราะตื่นเต้นเฉยๆ”“…..” เซญ่าไม่ได้ตอบอะไร เธอจับมือของเขาแล้วบีบไว้แน่นๆ เหมือนให้กำลังใจ เพราะไทเลอร์เหมือนจะคิดมากและเป็นกังวลอยู่ไม่น้อย นี่เป็นลูกคนแรกของเขาด้วย จึงทำให้เขากังวลได้มากขนาดนี้ทั้งกังวลทั้งตื่นเต้นไปหมดเลย เพราะเขาให้ความสำคัญกับเรื่องแบบนี้มาก“เชิญคุณเซญ่าเข้าห้องตรวจได้เลยค่ะ” พยาบาลเดินมาตาม ก่อนที่เธอจะเดินเข้าไปในห้องตรวจพร้อมกับไทเลอร์“สวัสดีค่ะคุณหมอ”“ครับ สวัสดีครับ”“สวัสดีครับคุณหมอ”“เชิญนั่งกันก่อนนะครับ หมอขอตรวจร่างกายก่อน ขอเจาะเลือดของคุณทั้งสองเพื่อตรวจโรคด้วยนะครับ”“ครับได้ครับ” ไทเลอร์ตอบ“แล้วฉันต้องทำอะไรอีกคะคุณหมอ?”“ระหว่างรอผลเลือ
หลายเดือนต่อมา“มาเร็วๆ สิ”“โอ๊ย! อะไรของคุณเนี่ย จู่ๆ ก็ลากฉันออกมา มีอะไรก็ไม่ยอมพูด” เซญ่าถูกพาออกมาจากห้องแต่เช้าตรู่ ด้วยความงงบวกกับอาการของคนที่เพิ่งจะตื่นนอนมันเลยทำให้เธอหงุดหงิดอยู่นิดหน่อยช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไรร่างกายของเธอไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อารมณ์ก็หงุดหงิดง่ายมากกับเรื่องเล็กๆ บางทีก็ไม่พอใจใหญ่โต จากที่เคยชอบอะไรก็เปลี่ยนมาเป็นไม่ชอบได้ง่ายๆ เลย“ฉันอยากนอน ไม่ได้อยากมาดูอะไรเลย”“แป๊บเดียวเอง เซอร์ไพรส์ไง”“…..” เธอยอมเดินตามไป เพราะไม่อย่างนั้นก็จะถูกเขาตื๊อจนน่ารำคาญไปหมด เธอไม่ได้อยากเป็นคนที่ทำตัวน่าเบื่อแบบนี้เลย แต่ก็ไม่รู้ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ มันเป็นของมันไปเองทั้งหมดเลย ไอ้อารมณ์แปรปรวนแบบนี้ก็เช่นกันมันเป็นไปเองหมดเลยเธอไม่ได้อยากทำตัวแบบนี้เพราะกลัวเขาจะรำคาญ ถึงเขาจะไม่เคยเป็นแบบนั้นเลยก็ตาม แต่เธอก็ห้ามไม่ได้จริงๆ“ถึงหรือยังคุณ”“ใกล้แล้วๆ”ไม่นานก็เดินมาถึง ด้านหน้าของเซญ่าคือกล่องใบใหญ่คล้ายกล่องของขวัญ มีโบว์สีแดงผูกไว้อยู่ น่าจะเป็นของขวัญอะไรสักอย่างที่ชิ้นต้องใหญ่มากๆ เพราะขนาดกล่องยังใหญ่ได้ขนาดนี้“ข้างในมันคืออะไรเหรอคุณ?”“ลองกระตุกสายนั่นดูสิ”“
ขณะที่กำลังนั่งรถมาเซญ่าก็รู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวเหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะไม่สบายไปด้วยอีกคน รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แปลกๆ ไปหมด พอมาถึงโรงพยาบาลก็ได้นอนโรงพยาบาลพร้อมกันทั้งสองคนเลย ได้อยู่ห้องเดียวกันเพราะไทเลอร์ไม่ยอมแยกห้องให้ตายยังไงเขาก็จะไม่แยกห้องนอนกับเซญ่าเด็ดขาด และหมอก็ต้องเป็นฝ่ายยอมเอง"ความจริงถ้าหากอีกฝ่ายไม่สบายอยู่ไม่ควรจะมีเพศสัมพันธ์เลยนะครับเพราะมันจะติดได้ง่ายเลย""....." ไทเลอร์นั่งหน้าบูดบึ้ง เพราะรู้สึกเหมือนกำลังโดนพ่อบ่นยังไงไม่รู้"หมอคงห้ามไม่ได้ถ้าคุณจะอยู่ที่นี่ แต่ยังไงก็ไม่ควรใกล้ชิดกันเกินไปนะครับ ส่วนเรื่องเพศสัมพันธ์ก็ควรจะงดห่างไปก่อน รอให้หายดีกันทั้งสองคนแล้วค่อยว่ากันอีกทีนะครับ""ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ""ยินดีครับ"ในขณะที่หมอยืนพูดอยู่ไทเลอร์ไม่พูดอะไรเลยเขาเอาแต่นั่งหน้าบูดอย่างเดียว แต่เซญ่านี่สิเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว ถึงจะปฏิเสธไปรอยบนตัวของทั้งสองมันก็ชัดเจนแล้วว่าทั้งสองทำอะไรมาด้วยกัน"ฉันจะบอกให้โรวันเปลี่ยนหมอ หมอคนนี้พูดมาก!""จะบ้าเหรอคุณ ที่หมอเขาพูดก็ถูกนะ เราไม่ควรทำแบบนั้นกัน""แต่ฉันไม่ชอบหมอพูดมาก""หมอเขาไม่ได้พูดมากเข้าแค่แนะนำในฐานะที
เพราะคิดว่าไม่เป็นอะไรทั้งสองจึงมีเซ็กซ์กันเพราะอารมณ์ที่กำลังเร่าร้อนจนหักห้ามใจกันไม่ได้ สุดท้ายก็จบลงด้วยการมีเซ็กซ์ที่แสนจะเร่าร้อนไม่ได้สนใจแล้วว่าตอนนี้กำลังเป็นยังไงกันอยู่“อึกอืม...” เซญ่าโยกขยับตัวเองขึ้นลงอย่างรัวๆ มือสองข้างวางลงบนหัวไหล่ของไทเลอร์หาที่ยึดเกาะไว้ เขาเองก็จับเอวของเธอไว้แน่นเช่นกัน“อะอ่า...เซญ่า” เขาร้องครางพร้อมกับมองคนตรงหน้าที่กำลังหลับตาโยกขยับตัวอยู่ ท่าทางของเธอในตอนนี้มันทำให้เขาแทบคลั่ง เพิ่งจะเคยเห็นเซญ่าอารมณ์รุนแรงแบบนี้เป็นครั้งแรกเลย และเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลยนอกจากประคองเอวเล็กๆ ของเธอเอาไว้ไม่ให้เธอหงายหลังลงไปก็เท่านั้น“ดะ ดีจัง อืม..”“แฮ่ก...เซญ่าเธอเป็นอะไร”“ฉันชอบอืม...”“อึก...แอ่นหน้าอกขึ้นหน่อยสิ”“อ๊ะอ๊ะอ๊า...คุณไทฉันอึก...” เธอแอ่นอกขึ้นอีกมากขึ้น พร้อมกับมือที่จับผมตรงท้ายทอยของเขาขยุ้มขณะที่กำลังถูกเขาละเลงลิ้นเลียที่หน้าอกอวบอย่างระรัว มันเสียวจนเธอต้องหยุดขย่มแต่เปลี่ยนขยับเอวเนิบนาบแทนและแอ่นหน้าอกเชิ่ดขึ้นสูงไปอีก“อืม...แม่งจะบ้าให้ได้เลยว่ะ!” ไทเลอร์สบถออกมา ก่อนที่เขาจะขบกัดหัวนมของเธอเล่นเพราะความมันเขี้ยว ยิ่งเธอทำ
“ตัวคุณร้อนนะ กินยาหน่อย” เซญ่าหยิบเอายาที่เตรียมไว้ตรงหัวเตียงใส่ปากให้กับไทเลอร์ อาการของเขาหนักจนเธอต้องโทรให้ลูกน้องของเขามารับจริงๆ เพราะเธอเองก็ขับรถไม่เป็น ขืนปล่อยไว้นานกว่านี้ได้เป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ“อืม...ฉันกลืนน้ำไม่ลง ป้อนหน่อย”“ฝืนหน่อยนะคุณ จะได้หายเร็วๆ”“…..”เซญ่ายกน้ำเทใส่ปากอมไว้ก่อนจะโน้มหน้าลงไปป้อนน้ำใส่ปากของเขา ถ้าเธอไม่ทำแบบนี้เขาก็จะไม่ยอมกลืนยาลงไปแน่ๆ“อืม...ตัวคุณยังร้อนอยู่เลย”“…..”“เช็ดตัวหน่อยไหม?”เซญ่ารีบจัดแจงหากะละมังมาพร้อมกับผ้าสำหรับเช็ดตัว จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของไทเลอร์ออกเหลือเพียงชั้นในของเขาตัวเดียว เธอเช็ดตัวให้เขาอย่างเบามือเพราะกลัวเขาจะเจ็บ เขาว่ากันว่าคนไม่สบายมักจะมีอาการเจ็บเนื้อขั้นตัวแค่แตะนิดหน่อยก็เจ็บแล้ว เธอจึงไม่อยากทำให้เขาต้องเจ็บ“เป็นยังไงบ้างคุณ”“อือ...เมีย เมียจ๋า...” ไทเลอร์ลุกขึ้นนั่งเอาหน้าซบลงไปบนหัวไหล่ของเซญ่าขณะที่เธอกำลังเช็ดตัวให้กับเขาอยู่ พยายามออดอ้อนเธอเหมือนกับลูกลิงที่แปะอยู่บนตัวของแม่ลิงไม่ปล่อยไอความร้อนจาากตัวของเขามันทำให้เธอสัมผัสได้เลย ไหนจะผ้าที่เอาชุบน้ำเช็ดบนตัวของเขาอีก มันแห้งเร็วมากเพราะดูดซ
เซญ่า Talkเมื่อวานฉันจามอยู่ปาวๆ ก็คิดว่าเช้ามาตัวเองต้องรู้สึกไม่สบายตัวแน่ๆ แต่กลับไม่เป็นอะไรเลย อีกคนโน่นสิที่ต้องนอนจับไข้เพราะตากฝนมาเมื่อวาน สมน้ำหน้าอยากพาฉันตากฝนกลับมาดีนะตัวเองก็เลยป่วยเลย และฉันก็ต้องมานั่งคอยเช็ดตัวเอายาให้กินเนี่ย รถก็ขับไม่เป็นจะพาเขาออกไปจากที่นี่ก็ไม่ได้ นี่ถ้าไม่หายคงได้โทรหาพี่โรวันให้ขับรถมารับนะเนี่ย"คุณตื่นมากินยาก่อน""อือ...""ไม่ต้องมาทำท่าทางเหมือนเด็กเลย ฉันไม่สงสารหรอกนะ คุณอยากดื้อเอง""ใจร้าย..""กินยาก่อนค่ะ ถ้าไข้ยังขึ้นอยู่ฉันจะเช็ดตัวให้""จะหลอกแต๊ะอั๋งฉันเหรอ?""เป็นไข้ขนาดนี้แล้วยังจะมีเวลามาคิดเรื่องแบบนี้อีกนะคุณ!""....." เขาตะแคงตัวมาจับแขนของฉันแล้วเอาหน้าถู เหมือนกับแมวเลยแฮะ เวลาฉันไปเล่นกับแมวพวกแมวมันก็ชอบเอาหน้ามาถูตามแขนของฉันแบบนี้แหละแต่จะพูดไปก็ไม่ได้หรอกเดี๋ยวก็งอนเอาอีกหึงได้แม้กระทั่งแมวคนอะไรก็ไม่รู้"คราวหน้าก็อย่าซ่าอีก""ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะป่วยนี่""คุณถอดเสื้อคลุมให้ฉันแล้วตัวคุณก็เลยโดนฝนเปียกเต็มๆ ไม่ป่วยให้มันรู้ไปสิ""จะไปไหน?" เขารีบจับแขนของฉันเอาไว้ ทันทีที่ฉันหันหลังให้เขาและจะลุกขึ้น ช่วงนี้ออกห
วันถัดมาเซญ่าชวนไทเลอร์ออกมาเดินเล่นเพราะตั้งแต่ที่เธอมาอยู่ที่นี่เธอยังไม่เคยเดินเล่นแถวๆ นี้เลย ไทเลอร์บอกว่าแถวนี้ไม่มีสัตว์ป่าดุร้ายมาหากิน จะมีก็พวกสัตว์เล็กสัตว์น้อยบ้างประปรายเพราะไม่ใช่ป่าดงดิบอะไร เพราะงั้นไม่ต้องกลัวเลยยกเว้นพวกสัตว์มีพิษตามพื้นเท่านั้นที่ต้องคอยระวัง"ฉันว่าเราน่าจะจำลองเหตุการณ์พระเอกนางเอกหลงป่าด้วยกันนะ แล้วก็เจอฝนตกวิ่งหนีกันจนได้เจอกระท่อมหลังน้อยๆ แล้วพระเอกนางเอกก็มีอะไรกันในนั้น""โว๊ะ! เรื่องแบบนั้นคงมีแต่ในหนังแล้วคุณ ไม่ยักจะรู้ว่าคุณพูดอะไรน้ำเน่าแบบนี้เป็นด้วย""มันไม่ได้น้ำเน่าสักหน่อย""นี่มันชีวิตจริงนะคุณ ไม่ใช่ในละครหรือในนิยายสักหน่อยที่ฝนจะตกแล้ว..."ซ่า~ขณะที่เซญ่ากำลังพูดจู่ๆ ฝนก็ตกลงมาโดยไม่มีท่าทีเตือนก่อนหน้าเลย เธอแหงนหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้าก็เห็นเมฆก้อนใหญ่ๆ ที่เป็นก้อนสีดำและก็เป็นต้นเหตุของฝนที่กำลังตกลงมาเป็นเมฆที่ไม่ได้ก้อนใหญ่และเป็นฝนที่ตกไม่ทั่วป่า ตกเฉพาะที่ที่เธอกำลังยืนอยู่เท่านั้น"อะไรเนี่ย มีฝนตกแบบนี้ด้วยเหรอ?""คราวนี้จะเชื่อได้แล้วหรือยังล่ะ?""ใครจะไปเชื่อก็แค่เรื่องบังเอิญเท่านั้นแหละ มายืนหลบใต้ต้นไม้ก่อนคุณ ต