ยังไม่ทันรอให้หลินหยางถามต่อ ฉินโม่หนงก็รีบพูดขึ้นมา “เธอเอาเยียนหรานกลับมาคืนให้ฉัน แล้วฉันจะบอกเธอ!” เมื่อพูดจบ เธอก็ตัดสายไป อีด้าน ฉินโม่หนงกำโทรศัพท์ไว้แน่น ด้วยดวงตาอันว่างเปล่า “หลินหยาง ถ้าบอกเรื่องพวกนี้กับเธอแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องดีไหม บางครั้งการไม่รู้อะไรถือเป็นความโชคดีนะ...” ความลับนี้ เดิมทีแล้วเธอเตรียมจะเก็บไว้ชั่วชีวิต ให้ตายอย่างไรก็ไม่อยากให้หลินหยางรู้แต่ตอนนี้ ฉินเยียนหรานอยู่ในกำมือหลินหยาง “พี่หลิน ซ้อหลิน ฉันขอโทษพวกคุณนะคะ....” เสียงของเธอทุ้มต่ำลงอย่างมาก ด้วยความรู้สึกเจ็บปวด และในเวลาเดียวกันนี้เอง เมื่อหลินหยางวางสายโทรศัพท์ไป ด้วยสีหน้าจมดิ่งลงมา แล้วผลักฉินเยียนหรานที่กำลังเข้ามาพัวพันออกไปอีกครั้ง เครื่องยนต์ร้องคำราม ก่อนจะเร่งความเร็วออกไปหน้าคฤหาสน์ตระกูลฉินฉินโม่หนงยืนอยู่ที่ประตูทางเข้า เฝ้ามองทางอย่างร้อนรน ทันทีที่หูได้ยินเสียงของเครื่องยนต์แล่นเข้ามา รถยนต์คันหนึ่งที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูง ก่อนที่จะรีบจอดลงตรงหน้าเธอ ล้อยางล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยควัน หลินหยางดึงฉินเยียนหรานออกมา แล้วโยนลงไปที่พื้น ก่อนจะจ้องไปที่ฉินโม่
“ตอนนั้น เป็นช่วงเวลาเก็บเกี่ยวจริง ๆ” เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอทนไม่ไหวที่จะพูดออกไปแล้ว สายตาที่เธอมองไปที่หลินหยาง ด้วยความห่วงใยและสงสารอย่างสุดซึ้งหลินหยางงงอยู่นั่น สีหน้าซีดเผือด หลังจากที่ดูเหมือนเงียบมาเป็นเวลานาน น้ำเสียงของเขามีความแหบปร่าเล็กน้อย “ฉันก็เป็นเพียงแค่เหยื่อนั่นเหรอ?” “คนที่ห่วงใยฉันจริง ๆ พวกนั้น ตอนที่มาเยี่ยมฉันต่างก็โดนฆ่าไปหมดแล้ว” “พวกเขา.... ตายเพราะฉัน?” ระยะเวลาสองปีนี้ เมืองลั่วไม่ตระกูลจำนวนไม่น้อยที่ล่มจมลงอย่างเงียบ ๆ แต่ตระกูลเหล่านั้นต่างเป็นพันธมิตรที่ดีต่าตระกูลขอตน เดิมทีเขาคิดว่า ทั้งหมดคงเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพทางธุรกิจ......แต่ผลปรากฏว่า ทั้งหมดถูกล่อให้ตายด้วยเหยื่อของพวกเขาเอง!ฉินโม่หนงเอ่ยออกมาอย่างกังวลใจ “คนที่ฆ่าพวกเขาไม่ใช่นาย แต่เป็นกลุ่มฆาตกรพวกนั้นต่างหาก!” “สุดท้ายแล้วตายไปกี่คน!”เสียงของหลินหยางทั้งแข็งกร้าวและเยือกเย็น สายตาของเขาแฝงไปด้วยเจตนาฆ่าอย่างเงียบสงบ ฉินโม่หนงอ้าปากค้าง แต่ก็พูดกลับมาเสียงต่ำ “เท่าที่ฉันรู้ ก็ห้าร้อยสิบเจ็ดคน” “ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นนักธุรกิจจากเมืองลั่ว ยังมีอีกส่วนหนึ่ง....ที่ฉันก็ไม่ร
“พวกเขาตายเพราะฉัน” “ความแค้นนี้ ฉันจะชำระเอง” คำพูดที่ดูแตกสลายทุกคำ ดูเหมือนจะพูดออกมาด้วยเลือด!อุณหภูมิภายในห้องเหมือนจะลดลงอย่างกะทันหันฉินโม่หนงก็ไม่ได้พูดโน้มน้าวออกมาอีก เมื่อเธอได้ยินอย่างนี้ หลินหยางไม่ได้เพียงแค่บอกกล่าวเธอ แต่เป็นการสาบานอย่างนองเลือดต่างหาก! ความบาดหมางนี้ แม้หลินหยางจะต้องเสี่ยงชีวิตเข้าไปแก้แค้นก็ยอม!“ของที่พวกเขาทิ้งไว้อยู่ไหน” หลินหยางเอ่ยขึ้นมาทั้งน้ำเสียงเยือกเย็น ฉินโม่หนงถอนให้ใจออกมา ก่อนจะลุกขึ้น แล้วพาหลินหยางไปยังห้องใต้ดิน ที่นี่ที่หลินหยางอยู่กับห้องใต้ดินมีเพียงแค่กำแพงกั้นอยู่ ซึ่งถูกทำให้กลายเป็นโกดังเก็บไวน์ขณะที่ฉินโม่หนงกระตุกขวดไวน์แดง ชั้นวางไวน์แดงก็แยกออกจากกันทั้งสองด้านตารางแต่ละช่องค่อย ๆ โผล่ออกมา ด้านบนมีกล่องโลหะขนาดเท่าลูกบาสหลายสิบกล่องวางอยู่ ทุกกล่องต่างมีคราบสกปรกอยู่ หลินหยางดูออกว่า นั่นคือร่องรอยของคราบเลือดแห้ง ๆ ยากที่จะจินตนาการ ว่าเจ้าของกล่องเหล่านี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง ถึงมาเห็นตัวเองอย่างนี้ “ฉันคิดว่าคนพวกนั้นจะมาขอของเหล่านี้ซะอีก แต่ก็ไม่มีใครมา ดูเหมือนว่าพวกเขาคงไม่ได้สนใจแล้ว....”
คนที่ส่งมอบกล่องเหล่านั้นให้ สุดท้ายแล้วตัวตนเป็นอย่างไรกันนะ? หลินหยางมีข้อสงสัย เมื่อเปิดกล่องเหล่านั้นออกแล้ว สิ่งของที่อยู่ภายในกล่อง สิ่งที่เขากังวลมากขึ้นตอนนี้ คือเขาจะสามารถหาเบาะแสเกี่ยวกับตัวตนของพ่อได้หรือไม่!จากนั้นไม่นานสิ่งของที่กองอยู่ตรงหน้าหลินหยางทั้งสิบแปดชิ้น มีทั้งวัตถุดิบยา ทั้งยังมีวิชาการต่อสู้และการฝึกยุทธิ์อีกมากมาย ไม่ว่าจะเพียงแค่ชิ้นเดียว ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสมบัติที่น่าอิจฉาตาร้อนสำหรับปรมาจารย์ระดับเทวราช!ของล้ำค่าเหล่านี้เมื่ออยู่รวมตัวกัน เกรงว่าจะทำให้ปรมาจารย์ระดับเทวราชแห่งสี่มหาตระกูลเสี่ยงชีวิตเพื่อเข้ามาแย่งชิงแต่ก็เท่านั้น ไม่มีสิ่งของใดที่สามารถเปิดเผยตัวตนได้เลย..... ฉินโม่หนงรู้ว่าหลินหยางกำละงหาอะไรอยู่ จึงเอ่ยออกมาทั้งยังถอนหายใจว่า “ขนาดพ่อของนายยังไม่เปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม เขาคงไม่อยากแสดงตัวตน แต่คนลึกลับเหล่านั้น จะไม่ฝ่าฝืนกฎของเขาอย่างแน่นอน” “ฉันคิดว่าสิ่งของเหล่านี้ที่พวกเขาส่งมา ก็ไม่ได้อยากให้นายรู้ถึงประสบการณ์ชีวิตของตน เพียงแค่อยากให้นายเก็บรักษาสิ่งของเหล่านี้ไว้ด้วยตัวเอง” เมื่อพูดจบ เธอก็มองหลินหยางอย่างกังวล
“วันหลังฉันจะไปหนานตู เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี” หลินหยางพูดออกมาทั้งที่ยังกอดเธอไว้อยู่ เหมือนกับการบอกลา ซึ่งมีความคับข้องใจบางอย่างที่เขาต้องล้างแค้นด้วยตัวเองครั้งนี้ฉินโม่หนงไม่ได้ต่อต้านใด ๆ เธอคลายกอดหลินหยางเบา ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าของเขา เชยชมอยู่เป็นเวลานาน ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “มากับฉัน” เธอดึงหลินหยาง ไปที่ห้องนอนของตัวเอง ครั้งนี้ เธอกระตือรือร้นอย่างน่าประหลาดใจ อาจจะเพราะรู้ว่าหลินหยางกำลังเดินบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ เธอจึงไม่ระงับใด ๆ อุทิศเรือนร่างและจิตใจของตัวเองให้กับหลินหยาง ให้หลินหยางได้เพลิดเพลินอย่างถึงที่สุด แม้แต่เสียงครวญครางคลุมเครือก็ยังได้ยินมาจนถึงห้องนั่งเล่น ทำให้ฉินเยียนหรานซึ่งกำลังงังเงียบนโซฟาบิดตัวอย่างไม่สบายใจในตอนเช้าตรู่ เมื่อหลินหยางตื่นขึ้นมา คนข้างกายก็หายไปแล้ว เหลือไว้เพียงแค่กลิ่นกายอ่อน ๆ เท่านั้น อีกทั้งบนโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ ยังมีอหารเช้าหนึ่งชุดทางไว้อีก ข้าง ๆ วางกระดาษหนึ่งแผ่นไว้ ที่คือครั้งแรกที่ฉินโม่หนงทำอาหารเช้าให้เขาในรอบสองปี นี่ดูเหมือนจะบ่งบอกถึงความตั้งใจบางอย่างของผู้หญิงคนนี้หลินหยางหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ
หากพรรคพยัคฆ์ดำหวาดระแวงจนต้องการกำจัดศัตรูทุกคน พวกเขาคงไม่ทำอะไรที่ใหญ่โตขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้น เฉินเทียนหาวก็ไม่ใช่คนสำคัญของพรรคพยัคฆ์ดำหากหลินหยางหยุดต่อสู้กับพรรคพยัคฆ์ดำในตอนนั้น พรรคพยัคฆ์ดำก็จะเลือกสังเกตการณ์ดูการเปลี่ยนแปลงก่อน “ถ้าคนนี้ไม่ตาย ผมก็จะตายตาไม่หลับ”“แกไม่ใช่บอกว่าตระกูลหลูตระกูลฉินก็จัดการไม่ได้เหรอ? ส่วนคนที่ไปตามฆ่ามันก็ยังไม่กลับมา! สรุปแล้วมันจะตายตอนไหนล่ะ!?” “ผมอยากให้เขาตาย ผมอยากให้เขาตายตอนนี้เลย!”เฉินจื่อหลิงคำรามด้วยความโกรธ ตัวละครที่ถูกหลินหยางบังคับขู่เข็ญล้วนแล้วแต่มีอาการป่วยทั้งนั้นท่าทางของเฉินเทียนหาวดูน่าเกลียดหน่อย ตอนนี้อยากให้หลินหยางตาย แต่มันง่ายซะที่ไหน คล้ายกับว่าเขากลายเป็นคนสำคัญไปแล้ว ในตอนนี้ตัวเขาเอง ยังคงต้องแหงนหน้าขึ้นมอง......หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากพรรคพยัคฆ์ดำ ตัวเขาเองจะมีแรงที่ไหนไปฆ่าเขา...ในทางตรงกันข้ามหลินหยางสามารถฆ่าตัวเขาตายได้เพียงแค่สะบัดนิ้ว“พ่อ ขอร้องล่ะ ฆ่าเขาซะ ไม่อย่างนั้นผมจะนอนไม่หลับไปตลอดชีวิตแน่ พ่ออยากเห็นผมถูกทรมานไปทุก ๆ วันเลยเหรอ?”เฉินจื่อหลิงวิงวอนเมื่อเห็นรูปลักษณ์อันน
และในขณะเดียวกันณ ห้องทำงานในอาคารซิงเย่า กรุ๊ปฉินเยียนหรานอ่อนแอไปทั้งตัว เมื่อกี้เธอเพิ่งฟื้นขึ้นมาจากฤทธิ์ยา มือเท้าก็ยังไม่มีแรง ดู ๆ แล้วราวกับว่ากำลังป่วยหนัก ภายใต้ความกังวลของฉินโม่หนง จึงเข้ามาดูแลเธอยู่ข้าง ๆ และในตอนนี้เธอกำลังถือชาร้อนอยู่ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ "แม่คะ แม่บ้าไปแล้วเหรอ? แม่จะมอบหุ้นกลุ่มแบ่งให้หลินหยางทำไม?"“ไอ้เศษสวะนั่น ไม่คู่ควรต่อซิงเย่า กรุ๊ปเลย? นอกจากนี้ก็ยังเอาบริษัทให้มันอีก แล้วแบบนี้หนูจะเหลืออะไร!” ฉินโม่หนงเองก็จะไม่ตามใจลูกสาวของเธฮอีกต่อไป จึงพูดอย่างเย็นชา "นี่เป็นแค่การเตือน ไม่ใช่การหารือ! แล้วมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแก!"เธอไม่เคยถือว่าซิงเย่า กรุ๊ปเป็นของเธอตั้งแต่แรกเริ่มจนสุดท้าย ตอนนี้หลังจากที่เธอได้สารภาพสาเหตุกับหลินหยางไปแล้วนั้น เป็นเรื่องปกติที่ซิงเย่า กรุ๊ปควรจะกลับคืนไปเหมือนเดิม!“หนูไม่สน หนูก็แค่ไม่เห็นด้วยอยู่ดี! ถ้าแม่นัวยืนกรานตามทางของตัวเอง หนูก็จะตายให้แม่!”ฉินเยียนหรานกล่าวด้วยความโกรธ“นี่แกยังมีจิตสำนึกอยู่ไหม? ถ้าหลินหยางไม่ช่วยแกกลับมา ป่านนี้แกคงเป็นของเล่นไอ้เหยียนฮ่าวไปแล้ว!”ฉินโม
“เฉินเทียนหาว คุณจะทำอะไร?”ฉินโม่หนงลุกขึ้นมาตะคอกใส่ เธอทั้งตกใจทั้งโมโห ฉินเยียนหรานก็ตกใจจนสะดุ้งเช่นกัน ทันใดนั้นก็ไม่หลงเหลือความหยิ่งผยองต่อไปอีก รีบหลบอยู่ด้านหลังของฉินโม่หนง“ทำอะไรน่ะเหรอ แน่นอนว่าต้องจัดการกับเธอน่ะสิ”เฉินเทียนหาวมองสำรวจฉินโม่หนงขึ้นลง ยิ้มอย่างชั่วร้ายว่า “ให้ตายเถอะ รูปร่างหน้าตาไม่เลวจริงๆ ให้ไอ้หลินหยางใช้ช่างน่าเสียดายเกินไปแล้ว ไม่สู้ให้บิดาลองใช้ดูก่อน รอไอ้เด็กนั่นมาแล้ว ฉันจะให้มันดูฉันจัดการกับเธอ!”“คุณพุ่งเป้าหมายมาที่หลินหยาง?”หัวใจของฉินโม่หนงตื่นตระหนกขึ้นมา เธอกำลังกังวลว่าอนาคตของหลินหยางไม่อาจคาดเดา ผลคือเฉินเทียนหาวกลับบุกมาหาเรื่องถึงที่แล้วแล้วหลินหยางไปหาเรื่องเฉินเทียนหาวตั้งแต่เมื่อไหร่อีกนี่?พ่อเจ้ากรรมนายเวรคนนี้ช่างหาเรื่องได้เก่งเหลือเกิน…ตอนนี้ก็มีแต่ตนที่สามารถจัดการเคลียร์เรื่องราวให้เขาได้แล้วฉินโม่หนงสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกล่าวว่า “ไม่ว่าหลินหยางจะล่วงเกินคุณอย่างไร ฉันล้วนสามารถชดเชยแทนเขาได้ คุณบอกราคามาเถอะ!”นี่เป็นผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงคนหนึ่ง ได้ยินว่าเบื้องหลังมีพรรคพยัคฆ์ดำของหนานตูหนุนหลัง ตัวเธอก็ดี
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ