ชื่อเสียงความดุร้ายของเฉินเทียนหาวฉาวโฉ่ไปทั่ว วิธีการทรมานคนยิ่งโหดเหี้ยมอำมหิต เธอไม่กล้าคิดเลยว่า หากหลินหยางตกอยู่ในมือเขา จะมีสภาพเช่นใด “ถึงต้องเสียสละตัวเอง ก็จะช่วยให้หลินหยางได้สมหวัง ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน แม้แต่ฉันก็แทบตื้นตันจนจะร้องไห้แล้ว” เฉินเทียนหาวแสยะมุมปาก เผยรอยยิ้มเหี้ยมเกรียมออกมา “แต่เธอก็ไม่รู้จักคิดดูว่า แล้วเธอกับลูกจะทำยังไง?” “ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ จะถูกพวกพี่น้องของฉันปู้ยี่ปู้ยำจนเหมือนตุ๊กตาผ้าขาดๆได้นะ” สีหน้าของฉินโม่หนงขาวซีดอย่างที่สุด เมื่อคิดถึงฉากนั้นก็ไม่กล้านึกต่อไปอีก เธอย่อมกลัวตายอย่างแน่นอน แต่เธอก็ไม่ต้องการให้หลินหยางต้องประสบกับการทรมานแบบนั้น หลินหยางทำไม่ไหวแน่! “แม่คะ แม่บ้าไปแล้วหรือคะ? แม่จะทำให้หนูตายเพราะไอ้หลินหยางนั่นหรือคะ?” ฉินเยียนหรานหวาดกลัวจนขวัญกระเจิงไปแล้ว “มันไม่ได้บอกว่าตัวเองเป็นคุณหลินหรือคะ? อย่างนั้นก็ให้มันมาสิคะ! เรื่องก็เป็นมันก่อขึ้นมาเอง เกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วยคะ!” ฉินโม่หนงหลับตาลงอย่างปวดร้าว ทว่าเพื่อปกป้องหลินหยาง แม้ตายเธอก็ไม่ยอมเปิดปาก “แม่มันเถอะ! นังนี่ปากเธอแน่นเหลือเกินนะ บิดาจะลอง
ฉินโม่หนงร้องตะโกนออกมาสุดเสียง ราวกับทุ่มเทกำลังทั่วทั้งร่าง “หลินหยาง แกรีบคุกเข่ายอมรับผิดให้ฉันเดี๋ยวนี้เลย ถ้าแก้ยังพอมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ก็ช่วยแม่ฉันซะ!” ทันทีที่ฉินเยียนหรานเห็นหลินหยาง ก็ร้องตะโกนออกมาด้วยเพลิงโทสะอันพวยพุ่ง “ได้ยินแล้วหรือยัง? ว่าชีวิตของนังนี่อยู่ในมือฉัน!” เฉินเทียนหาวที่ถือไพ่ในมือไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย เขาเยาะเย้ยและจ้องเขม็งไปที่หลินหยาง ตอนนี้ มือใหญ่กำลังบีบคอของฉินโม่หนงพลางกล่าวว่า “ขอแค่ฉันลงมือ แกก็จะทำให้เกิดความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ไม่อาจย้อนกลับได้อีก!” ในเวลาเดียวกัน บรรดาลูกน้องที่เขาพามาก็ขวางอยู่เบื้องหน้าหลินหยางด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อ้อ” หลินหยางคล้ายกับจะรับฟังคำโน้มน้าว เขาหยุดฝีเท้าลง ทว่า ในตอนที่เฉินเทียนหาวเผยรอยยิ้มได้ใจออกมานั่นเอง หลินหยางพลันหยกมือขึ้นมาคว้าไปที่ชายฉกรรจ์ใบหน้าดุร้ายที่ขวางอยู่เบื้องหน้า นิ้วทั้งห้ากุมลำคอของเขาไว้! ตามมาด้วยการกระชาก หลอดลมหลอดต่างๆในลำคอของชายฉกรรจ์คนนั้นล้วนถูกเขากระชากออกมา เลือดไหลนองเป็นสาย จากนั้นก็ถูกเขาโยนลงกับพื้นอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนดวงตาทั้งคู่ของชายฉกรรจ์ยังคงเต็มไปด้ว
ทันทีที่คำพูดอันราบเรียบของหลินหยางถูกเอ่ยออกมา ความสยดสยองสายหนึ่งก็พุ่งเข้าสู่หัวใจของเฉินเทียนหาว ทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นไม่น่ามองอย่างที่สุด ท่าทางของหลินหยางน่ากลัวจนเกินไป ราวกับไม่ว่าใครมาขวางก็จะฆ่าคนผู้นั้น เทพขวางสังหารเทพ พระขวางสังหารพระ ไอสังหารหนักหน่วงจนทำให้เขาสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว นอกจากนี้ คำพูดนี้ของเขาไม่ใช่ฝ่ายตัวร้ายแบบฉันควรเป็นคนพูดหรือไง? ไอ้หลินหยางคนนี้เป็นฝ่ายที่ถูกข่มขู่ชัดๆ? แล้วมันมีความมั่นใจขนาดนี้ได้ยังไง! มันไม่กลัวว่าฉันจะฆ่าฉินโม่หนงจริงๆ หรือไง? ส่วนฉินเยียนหรานกับฉินโม่หนงนั้น ก็ตกใจอย่างที่สุดเช่นเดียวกัน การเข่นฆ่าที่แสนโชกเลือดนั้น ได้ทำลายสิ่งที่พวกเธอเข้าใจเกี่ยวกับหลินหยางไป ทว่าวินาทีถัดมา ฉินเยียนหรานพลันได้สติกลับมา เธอหวาดกลัวจบวิญญาณแทบออกจากร่าง ต่อให้หลินหยางแข็งแกร่งกว่านี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร เขาก็ยังคงเป็นแค่คนธรรมดาที่มีวรยุทธ์เล็กน้อยเท่านั้น อาศัยอะไรมาเป็นศัตรูกับเฉินเทียนหาวกัน! ตอนนี้ยิ่งเขาฆ่ามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ตนตกอยู่ในอันตรายมากเท่านั้น! “หลินหยางแกบ้าไปแล้ว! แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ถึงกลั
แล้วด้วยพละกำลังของมัน คนที่ตายจะไม่ใช่เขาหรือไง? ส่วนคำพูดนี้ของเขา แม้ไม่อาจข่มขู่หลินหยางได้ แต่กลับทำให้ฉินเยียนหรานหวาดกลัวแล้ว “ประธานเฉินคุณอย่าฆ่าพวกเรา! คุณจับไอ้หลินหยางแล้วฆ่ามันก็พอ! มันไม่หนีหรอก!” ในเวลานี้ เฉินเทียนหาวรู้สึกหัวเสียเป็นอย่างมาก ยัยผู้หญิงคนหมายความว่ายังไงหา? ยังให้ฉันจับหลินหยางด้วย? ฉันแม่งถ้าเอาชนะไอ้หลินหยางได้ แล้วฉันจะจับพวกแกมาขู่ไอ้หลินหยางทำไม? ไอ้คนบ้านนี้ป่วยกันหมดใช่ไหมนี่! เขาจึงสะบัดมือตบฉินเยียนหรานไปฉาดหนึ่ง “แม่มันเถอะ ถึงเธอไม่พูดก็ไม่มีใครว่าเธอเป็นใบ้หรอกนะ!” ฉินเยียนหรานถูกตบไปฉาดหนึ่ง กลับไม่กล้าโมโหเฉินเทียนหาวที่ใช้ความรุนแรงกับตน แต่กลับไปตะคอกใส่หลินหยางว่า “แกไอ้ตัวไร้ประโยชน์ ไอ้คนโกหก! แกอยากจะเห็นพวกเราตายหมดถึงจะพอใจใช่ไหม?” “ในเมื่อเมื่อวานแกช่วยฉันไว้ครั้งนึงแล้ว ทำไมถึงใช้ชีวิตของแกมาช่วยฉันอีกเป็นครั้งที่สองไม่ได้หา!” ฉินโม่หนงทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว จึงขึ้นเสียงตำหนิว่า “แกหุบปากให้ฉันซะ วันนี้พวกเราตายด้วยกัน ก็ถือว่าแกได้ชดใช้ความผิดต่อหลินหยางแล้ว!” ในใจของเธอรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก ในเมื่อหลิน
“แก…แกว่าอะไรนะ?” เฉินเทียนหาวไม่กล้าเชื่อหูตัวเอง อย่างไรก็ตาม ที่ตอบกลับเขากลับเป็นเสียงกร๊อบเสียงหนึ่ง! หลินหยางยกมือจับมือของเฉินจื่อหลิงขึ้นมา แล้วก็ออกแรงบิดอย่างแรง จนแขนของเฉินจื่อหลิงถูกบิดสามร้อยหกสิบองศาไปรอบหนึ่ง! ภายใต้เสียงดังฟังชัด กระดูกบริเวณที่แขนและหัวไหล่เชื่อมต่อกัน ก็แตกออกทันที! “อ๊ากกๆๆๆ” เสียงที่เฉินจื่อหลิงกรีดร้องออกมาราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดผวาคล้ายคลุ้มคลั่งไปแล้ว “พ่อ พ่อรีบช่วยผมเร็วเข้า ไอ้เวรนี่มันเป็นคนบ้า! พ่อรีบช่วยผมออกไปเร็ว!” “หลินหยาง! แกปล่อยลูกชายของฉันซะ! ไม่ว่าแกต้องการเงื่อนไขอะไรฉันก็รับปากทั้งนั้น!” สีหน้าของเฉินเทียนหาวซีดขาว ดวงตาทั้งคู่ที่เบิกกว้างอย่างกะทันหันเต็มไปด้วยเส้นเลือด เขาคำรามออกมาสุดเสียงด้วยความเกรี้ยวกราด เมื่อเขาเห็นเฉินจื่อหลิงที่อยู่ในสภาพอเนจอนาถอย่างที่สุด ทั่วทั้งร่างราวตกอยู่ในภาวะคลุ้มคลั่งไปทันที ในใจแค้นจนแทบอยากฉีกกระชากหลินหยางออกเป็นผุยผง แต่ในตอนนี้เขาร้อนใจที่จะปกป้องลูก จึงได้แต่เจรจาเงื่อนไขกับหลินหยาง ทว่าคำพูดอันราบเรียบเพียงประโยคเดียวของหลินหยาง กลับทำใ
เขาจึงทำให้เพียงเค้นรอยยิ้มขึ้นเต็มใบหน้าแล้วพูดว่า “คุณหนูฉินโปรดรอสักครู่ แค่เฉินเทียนหาวคนเดียว ตัวตลกตัวหนึ่งเท่านั้น มันทำร้ายพวกคุณไม่ได้หรอกครับ” คำพูดนี้ทำให้ฉินเยียนหรานดีใจแทบตาย เธอรู้สึกแค่ว่า หงชังไฮ่ช่างยิ่งใหญ่ไร้ใดเปรียบ แถมยังมีสุภาพเข้าถึงได้ไม่วางท่า เปี่ยมไปด้วยลักษณะของคนใหญ่คนโตอย่างที่สุด! ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างมาก ในช่วงเวลาแห่งความเป็นตายแบบนี้ เธอถึงกับจินตนาการไปว่า หากสามารถแนะนำเขากับแม่ ให้มาเป็นพ่อเลี้ยงของเธอได้ก็จะดีมากเลย… “ฉันขอพูดอีกครั้ง! ส่งลูกชายของฉันมา!” และในเวลานี้ เฉินเทียนหาวกำลังคำรามออกมาสุดเสียง ราวคนร้ายที่กำลังเข้าตาจน ทว่าเมื่อสิบนาทีก่อนหน้า เขายังเป็นผู้ทรงอิทธิพลที่ถูกห้อมล้อมด้วยผู้คนมากมายอยู่เลย ได้แต่กล่าวว่า การมาถึงของหลินหยางนำมาซึ่งความพลิกผันที่กะทันหันเกินไป หงชังไฮ่รู้สึกไม่สบายใจนัก เขามองไปทางหลินหยางอย่างระมัดระวัง “ดูท่า เฉินเทียนหาวจะลงมือจริงๆ นะครับ…” แต่หลินหยางกลับไม่ได้ตอบกลับมา ทว่าจู่ๆ เขาก็กดไหล่ของเฉินจื่อหลิงไว้ และคราวนี้กลับเป็นการฉีกกระชากแขนขวาของเฉินจื่อหลิงออกมาแทน ท่ามกลางเสียงก
“เจ้าคนต่ำต้อย เห็นข้าแล้วเหตุใดจึงไม่คุกเข่า!” เสียงอันแสนไกลราวดังมาจากสุดขอบฟ้า ทำให้คนไม่อาจขัดขืน เฉินเทียนหาวเหม่อค้างไปแล้ว ร่างกายของเขาคุกเข่าลงอย่างควบคุมไม่ได้ ราวสาวกที่ศรัทธาที่สุด คุกเข่าหมอบกราบหลินหยาง และบรรดาคนที่เหลือก็ล้วนเผยสีหน้ายำเกรงออกมา สายตาที่มองไปยังหลินหยางเต็มไปด้วยความสงบและศรัทธา “มิน่าคนที่ครอบครองเนตรคู่จึงมักถูกผู้คนเห็นเป็นเป้าหมาย ผลลัพธ์ของการมอมเมาจิตใจผู้คนนี้ออกจะร้ายกาจเหนือกฎธรรมชาติไปหน่อยแล้ว” หลินหยางนึกถึงเหล่าผู้ครอบครองเนตรคู่ในประวัติศาสตร์ ล้วนได้สร้างความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ มีผู้ติดตามมากมายนับคณนา ตนยังไม่ได้บรรลุเนตรคู่ขั้นสามอย่างแท้จริง เพียงเพึ่งปลุกทักษะดูดซับวิญญาณบางส่วนขึ้นมาเท่านั้น สามารถกล่าวได้ว่า แค่เป็นทักษะดูดซับวิญญาณเพียงครึ่งหนึ่ง ก็สามารถสยบทุกคนได้แล้ว เช่นนั้นวิชาดูดซับวิญญาณที่แท้จริง จะมีพลังอำนาจยิ่งใหญ่ตระการตาเพียงใดกัน! และก็เป็นเพราะทักษะดูดซับวิญญาณที่มีเพียงครึ่ง ทำให้ระยะเวลาคงอยู่ได้ไม่นานนัก ในตอนที่ฤทธิ์ของทักษะดูดซับวิญญาณเสื่อมถอย ทุกคนก็ราวอยู่ในห้วงฝัน แววตาสงสัย สงสัยว่าเมื่อ
ฉันใช้คุณหลินเป็นเครื่องมือ? นี่มันพลิกหลักสวรรค์ไปแล้วโว้ย! ส่วนฉินโม่หนงก็รีบกล่าวว่า “ที่หลินหยางสามารถติดตามท่านประธานหงได้ ก็ถือว่าชีวิตมีทางออกแล้ว ซิงเย่ากรุ๊ปของเรายินดีที่จะมอบหุ้นครึ่งหนึ่งให้กับท่านประธานหง นอกจากเป็นการแสดงความขอบคุณแล้ว แค่หวังว่าท่านประธานหงจะช่วยดูแลหลินหยางให้มากขึ้นหน่อยเท่านั้นค่ะ” ในเวลานี้ หงชังไฮ่ชาไปทั้งตัวแล้ว ในสมองมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น ยัยผู้หญิงสองคนนี้คงไม่ได้คิดวางแผนทำร้ายเขาอย่างลับๆ ใช่ไหม! เมื่อฉินเยียนหรานได้ยินว่าจะมอบหุ้นให้ครึ่งหนึ่งก็รู้สึกปวดใจอยู่บ้าง ทว่าเมื่อคิดถึงเรื่องหนึ่ง ก็พูดออกมาอย่างยินดีว่า “ท่านประธานหง คุณแม่ของฉันยังโสดอยู่ ได้ยินมาว่าคุณก็ยังโสดอยู่เช่นกัน ถ้ายังไงพวกคุณลองทำความรู้จักกันดูดีไหมคะ?” “เยียนหรานอย่าพูดเหลวไหล! ฉันไม่มีความคิดแบบนั้น!” สีหน้าของฉินโม่หนงเปลี่ยนไปในทันที นี่ยังอยู่ต่อหน้าหลินหยางนะ เธอกลัวว่าหลินหยางจะคิดมาก “กลัวอะไรล่ะคะ” ฉินเยียนหรานพูดอย่างไม่เห็นด้วย “แม่คะ วันนี้ท่านประธานหงช่วยพวกเราทั้งบ้านไว้เลยนะคะ ต่อให้ใช้ตัวตอบแทนก็ยังสมเหตุสมผลเลย!” เมื่อพูดถึงตรง
“ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต
“แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?