หลินหยางเห็นสีหน้าฉินโม่หนงเคร่งขรึม แต่กลับไม่พูดอะไร เขากล่าวต่อ “ผมถามคุณหน่อย การแต่งงานของผมกับตระกูลหลิว คุณก็โกหกผมด้วยใช่หรือเปล่า? หลิวเฉิงจื้อไม่เคยเสนอยกเลิกการแต่งงานเลย เป็นคุณที่โกหกทั้งสองฝ่าย ใช่หรือเปล่า?”“ดูเหมือนแกจะรู้แล้ว”ฉินโม่หนงก็ไม่คิดจะปิดบังอีก จึงยอมรับโดยตรง“ถูกต้อง ฉันเป็นคนยกเลิกการแต่งงานเอง”หลินหยางยกหัวแม่มือให้ ไฟแห่งความโกรธในใจลุกโชน“เก่งมาก ฉินโม่หนง คุณเก่งจริงๆ คุณปั่นทุกคนจนหัวหมุน รู้สึกประสบความสำเร็จมากเลยใช่หรือเปล่า?”หลินหยางเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตาดุร้าย มีกลิ่นอายของการบีบคั้นฉินโม่หนงถอยหลังหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เธอไม่มีอะไรจะพูด“วันนี้ผมมาที่นี่ ก็เพื่อมอบเซอร์ไพรส์ให้คุณ งานเลี้ยงใกล้จะเริ่มแล้ว คุณเตรียมตัวรอได้เลย”หลินหยางพูดจบ ก็หมุนตัวเดินจากไป“หลินหยาง! แกจะทำแบบนี้จริงเหรอ?” ฉินโม่หนงกล่าวจากด้านหลังหลินหยางหันกลับมากล่าว “ใช่! ผมจะทำแบบนี้ นอกเสียจากคุณจะฆ่าผมตอนนี้ แต่คุณไม่มีความสามารถนี้”“เรื่องบางเรื่อง มันไม่ใช่อย่างที่แกคิด แกฟังฉันอธิบายได้หรือเปล่า?”“ความจริงวางอยู่ตรงหน้า ไม่จำเป็นต้องไปคิ
“อีกฝ่ายส่งยอดฝีมือระดับเจ็ดคนหนึ่งมา สถานการณ์คับขัน แขกสำคัญท่านนี้ลงมือช่วยเหลืออีกครั้ง ฆ่ายอดฝีมือระดับเจ็ดในกระบวนท่าเดียว ช่วยชีวิตผมเอาไว้”ทุกคนเข้าใจในทันที“ที่แท้ช่วยชีวิตนายท่านติดต่อกันสองครั้ง โชคดีจริงๆ!”“โชคดี? นอกจากโชคดีแล้วยังต้องมีความสามารถที่แท้จริงด้วยมั้ง เจอยอดฝีมือระดับเจ็ดลอบฆ่า โชคแบบนี้ให้คุณ คุณก็รักษาไว้ไม่ได้หรอก”“ฆ่ายอดฝีมือระดับเจ็ดในกระบวนท่าเดียว มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าทึ่งมากนัก ส่วนพูดถึงทักษะการแพทย์ หรืออยู่เหนือกว่าฉีอีซินอีกเหรอ? ก็โชคดีนั่นแหละ”“ฉันคิดว่าเป็นบุคคลสำคัญอะไรเสียอีก ก็ไม่เท่าไหร่นี่นา และยังบอกว่าผู้อำนวยการเฉามาเพราะบุคคลสำคัญ พูดเหลวไหลทั้งนั้น”ทุกคนวิจารณ์เสียงเบาฉินโม่หนงที่อยู่ข้างล่างก็ขมวดคิ้วเช่นกัน คิดในใจ นี่ก็ไม่นับเป็นบุคคลสำคัญนี่นา ทำไมผู้อำนวยการเฉาถึงให้เกียรติ?“ตอนนี้ขอเชิญผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตของผม แขกสำคัญของตระกูลมู่หรงขึ้นเวที”มู่หรงจางพูดจบ สายตาของทุกคนมองไปทางเดินฝั่งซ้ายของเวที แต่ก็ไม่เห็นหลินหยางออกมาปรากฏตัวสักที“คุณหลินเป็นคนถ่อมตน ดูเหมือนไม่อยากปรากฏตัวในที่สาธารณะ อีกเดี๋ยวผมไป
สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ทางเดินด้านซ้ายของเวทีอีกครั้ง ต่างก็อยากเห็นว่าคุณหลินที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนในเมืองลั่วคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรประเด็นคือเฉาเค่อหมิงพูดชัดเจนแล้ว คุณหลินเป็นคนเมืองลั่ว อีกทั้งยังอายุน้อยมาก ไม่ใช่ตาแก่อย่างที่ทุกคนจินตนาการสิ่งนี้ยิ่งทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็นแล้วทว่าหลินหยางไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็นแม้แต่เงา มีเพียงมู่หรงจางเดินออกมาคนเดียว“ทุกท่าน ต้องขออภัย คุณหลินเป็นคนถ่อมตน ไม่ยอมปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เขาไปแล้ว”มู่หรงจางก็หมดหนทางเช่นกัน เขาไปหลังเวทีก็ไม่เจอหลินหยางกับมู่หรงยิ่นจึงได้แต่โทรหามู่หรงยิ่น มู่หรงยิ่นบอกในโทรศัพท์ว่าหลินหยางไปแล้ว ไม่ออกปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิด“เพราะอะไร? มีตรงไหนที่พวกเราทำได้ไม่ดีใช่หรือเปล่า ทำให้คุณหลินโกรธ?” มู่หรงจางกล่าวถาม“น่าจะไม่ใช่ หนูก็ไม่เจอเขาเหมือนกัน ในโทรศัพท์เขาพูดกับหนูแค่ว่าไม่ออกงานกิจกรรมแล้ว และแสดงความขอโทษ อีกทั้งยังให้พวกเราอย่าเพิ่งเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับเขามากเกินไป”มู่หรงยิ่นกล่าวในโทรศัพท์“ยิ่นเอ๋อร์ ถ้าอย่างนั้นลูกก็ไม่ต้องออกงานงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ไปหาคุณหลินดีกว่า ลองถามส
หลิ่วเฉิงจื้อยกแก้วเหล้าขึ้นมาทักทายกลับ ในใจมีข้อกังขา“เลขาเจียงบอกว่ามีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือ ผู้สูงศักดิ์คนนี้เป็นใคร?”“จะต้องเป็นเหลียงควนแน่นอน พ่อของเขารับปากแล้วไม่ใช่หรือว่าจะให้คุณเข้าร่วมสมาคมการค้าวั่นเหา? คิดว่าจะต้องเป็นเพราะพูดชื่นชมต่อหน้าประธานยิ่นแน่นอน” อวี๋ผิงกล่าวหลิ่วเฉิงจื้อพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกล่าว “ถ้าอย่างนั้นคงจะต้องขอบคุณเสี่ยวเหลียงหน่อยเสียแล้ว”“เสียวอวี่ ครั้งนี้ลูกสร้างผลงานชิ้นใหญ่แล้ว ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะความสัมพันธ์ระดับนี้ของลูก พวกเราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วจริง ๆ” อวี๋ผิงกล่าวอย่างดีใจหลิ่วฟู่อวี่เองก็สีหน้าดีใจ กล่าว “หนูขอไปหาเขาเพื่อขอบคุณเขาต่อหน้าหน่อยนะคะ”“พวกเราเองก็ไปด้วย”หลิ่วเฉิงจื้อลุกขึ้น พาอวี๋ผิงเดินมายังโต๊ะของเหลียงควน“เสี่ยวเหลียง ครั้งนี้ขอบคุณเธอมาก ๆ ที่ช่วยพวกเราเอาไว้ ถ้าหากไม่ได้เธอ ติ่งเซิ่งกรุ๊ปจะเลือกร่วมมือกับพวกเราได้ยังไงกัน!”เหลียงควนได้ยินก็ตกตะลึง กล่าวอย่างประหลาดใจ “ติ่งเซิ่งกรุ๊ปเลือกพวกคุณแล้ว?”“ถูกต้อง! เลขาเจียงเพิ่งจะมาแจ้งข่าวด้วยตัวเอง เธอยังไม่รู้ใช่ไหม?” อวี๋ผิงกล่าวเหลียงควนคิดใน
“การตัดสินใจของประธานยิ่น ย่อมมีเหตุผลของเธอ ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถคาดคะเนได้” เจียงหลินกล่าว“แล้วคุณหลินท่านนั้นละ? เขามีความเป็นมายังไงกันแน่?”ฉินโม่หนงกล่าวถามต่อ“ไม่แน่ใจ วันหลังมีข้อมูลที่ละเอียด ฉันจะบอกคุณอีกที”เมื่อฉินโม่หนงเห็นว่าเรื่องนี้ชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว จึงทำได้แค่เพียงเลิกรา หันเหความสนใจไปที่คุณหลิน“เธอคิดหาหนทางช่วยฉันให้ได้ติดต่อกับคุณหลิน ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม”เจียงหลินพยักหน้า แล้วก็เดินจากไปทั้งครอบครัวของหลิ่วเฉิงจื้อดีใจเป็นอย่างยิ่ง ได้ร่วมมือกับติ่งเซิ่งกรุ๊ปอย่างราบรื่น ยังได้ลูกเขยในอนาคตที่ร่ำรวยมาอีกคนหนึ่งด้วย ได้กำไรสุด ๆ เลย“เสี่ยวหยางล่ะ? ฉันให้เขารออยู่ด้านนอกไม่ใช่เหรอ?”หลิ่วเฉิงจื้อกล่าว“คุณตามหาเขาทำไม? ตอนนี้เขามีผู้หญิงรวยเลี้ยงดูแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง” อวี๋ผิงเบะปากกล่าว“พ่อคะ พ่อคงไม่คิดจะให้หนูแต่งงานกับเขาหรอกใช่ไหมคะ?” หลิ่วฟู่อวี่กล่าว“ไม่มีทาง! เสียวอวี่ ลูกวางใจ ต่อให้พ่อของลูกมีความคิดนี้ แม่ก็ไม่มีทางเห็นด้วย เหลียงควนถึงจะเป็นลูกเขยของแม่ในอนาคต สวะอย่างหลินหยาง คู่ควรกับลูกที่ไหนกัน?”อวี๋ผิงกล่าวหล
การแต่งกายที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้บุคลิกของเธอผิดไปอย่างกับคนละคน เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีสไตล์หลากหลาย“คุณแต่งตัวแบบนี้ แตกต่างจากตอนปกตินะครับ”“สวยไหมคะ?” มู่หรงยิ่นกล่าวถามพร้อมรอยยิ้มหวาน“สวยครับ”หลินหยางพยักหน้าอย่างจริงใจ“แล้วคุณชอบไหมคะ?”มู่หรงยิ่นโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย มือทั้งสองข้างเท้าคาง ดวงตางามใสราวกับน้ำในทะเลสาบ เปล่งประกายแสงที่ทำให้คนลุ่มหลงหลินหยางคิดไม่ถึงว่าทันทีที่มู่หรงยิ่นนั่งลง ก็จะจู่โจมเขา“แน่นอนว่าชอบสิครับ”เพลิงราคะของหลินหยางที่เกิดขึ้นสงบลงไปเพราะการแช่สมุนไพร ไม่ได้ถูกระบายออกมา ทันทีที่ถูกมู่หรงยิ่นยั่วเย้า เพลิงราคะก็ปะทุขึ้นมาทันทีมู่หรงยิ่นแสยะยิ้ม ราวกับพอใจในคำตอบของหลินหยางทั้งสองคนสบตากันแบบนี้ ราวกับว่าอยากจะนาบตราลงไปในดวงตาของกันและกันจนกระทั่งพนักงานมาเสิร์ฟเหล้า สายตาของทั้งสองจึงละออกจากกันหลินหยางกระแอมทีหนึ่ง ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วกล่าว “ขอบคุณสำหรับการจัดการของคุณในค่ำคืนนี้”มู่หรงยิ่นหน้าแดงเล็กน้อย จิบเหล้าอึกหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์“ปากบอกว่าขอบคุณ แต่ไม่มีความจริงใจเท่าไหร่เลย”“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากให้ผมขอ
“คุณกำลังมองใครคะ?”มู่หรงยิ่นหันหน้ากลับไป ก็เห็นหลิ่วฟู่อวี่กับเหลียงควน“ที่แท้ก็เธอ เห็นคู่หมั้นกับผู้ชายอื่นอยู่ด้วยกัน คงปวดใจมากสินะคะ?”“เปล่าคับ มา ดื่มเหล้ากันต่อ”หลินหยางเก็บสายตาคืนมา คร้านจะสนใจหลิ่วฟู่อวี่หลิ่วฟู่อวี่ในเวลานี้มองเห็นหลินหยางแล้ว“ซวยจริง ๆ ยังมาเจอเขาที่นี่อีก” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน“ใครครับ?”“หลินหยาง” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวเหลียงควนหันหน้ากลับมา มองหลินหยางแวบหนึ่ง นัยน์ตาเปล่งประกายความเคียดแค้นตอนนั้นเขาถูกหลินหยางกระหน่ำต่อยยกหนึ่ง เหลียงควนจำขึ้นใจมาตลอด“ผมได้ข่าวมาว่าพ่อกับแม่ของเขาตายแล้ว เขาเองก็ทำตัวเหลวแหลก ทั้งเล่นพนันทั้งเสพยา เสียผู้เสียคนไปหมด ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”หลังจากที่เหลียงควนกลับประเทศ ก็จงใจให้คนไปสืบข่าวของหลิ่วฟู่อวี่กับหลินหยางโดยเฉพาะ“เขาจับผู้หญิงรวยได้คนหนึ่ง ทำตัวเป็นไอ้แมงดา ตอนนี้ เขาไม่คู่ควรแม้แต่ถือรองเท้าให้คุณ” หลิ่วฟู่อวี่กล่าว“งั้นหรือ? ทำให้คนคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ”เหลียงควนแอบสะใจ คุณชายหลินผู้สง่าผ่าเผยที่เคยเหยียบย่ำเขา ตอนนี้ตกอับจนถูกผู้หญิงรวยที่ทั้งแก่ทั้งขี้เหร่เลี้ยงดู แต่
เหลียงควนไม่ได้เป็นอย่างที่หลิ่วฟู่อวี่คิด ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ สวยมากจริง มีสไตล์ เป็นระดับนางฟ้าได้เลย!เหลียงควนโอดครวญในใจ ผู้หญิงรวยแบบนี้ เป็นฉันก็ยอมให้เธอเลี้ยงดู!ถ้าหากไม่ใช่เพราะเป็นกังวลว่าหลิ่วฟู่อวี่อยู่ข้าง ๆ เหลียงควนอยากจะพูดตรง ๆ นางฟ้า คุณเลี้ยงดูผมเถอะ ผมยินดีที่จะเป็นไอ้แมงดาให้คุณ ลีลาบนเตียงของผมดุเดือดมาก!นอกจากความเกลียดแค้นของเหลียงควนที่มีต่อหลินหยางแล้ว ยังมีความริษยารุนแรงเพิ่มขึ้นมา“เมื่อวานฉันก็เคยพูดไปแล้วว่า เธอก็ไม่ต่างอะไรกับตัวตลก เธอยังไม่จำขึ้นใจอีกเหรอ?”มู่หรงยิ่นกล่าวเสียงเย็นเยียบ“เธอนั่นแหละที่เป็นตัวตลก! เธอมีอะไรที่เจ๋งมากงั้นเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ตระกูลหลิ่วของพวกเราเป็นหุ้นส่วนใหม่กับติ่งเซิ่งกรุ๊ป จะได้เป็นตระกูลทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งของเมืองลั่วในไม่ช้านี้แล้ว เธอเก่งมาจากไหนถึงกล้าดูถูกฉัน!”หลิ่วฟู่อวี่อดไม่ได้ที่จะโอ้อวดเรื่องที่ได้ประจบสอพลอตระกูลมู่หรง ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจมู่หรงยิ่นแสยะยิ้มอย่างเยาะหยัน รู้สึกว่าหลิ่วฟู่อวี่โง่จนน่าขำมาก“พูดจบแล้วใช่ไหม? พูดจบแล้วก็รีบไป”แม้แต่หลินหยางยังรู้สึกรู้สึกอายแทนหลิ่วฟู่อวี่
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย