“คนหนุ่มอย่าหยิ่งไปนักเลย! คุณก็แค่มีชีวิตอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้นแหละ ทุก ๆ วันหลังจากวันนี้ของคุณ จะเป็นชีวิตที่ถูกไล่ฆ่า!” ฉินเจิ้งคุนกระตุ้นเจตนาฆ่าต่อหลินหยาง ต่อศักยภาพอันยิ่งใหญ่อย่างนี้ และอัจฉริยะที่มีความแค้น ทางเลือกที่ดีที่สุด ถูกเค้นคอฆ่าในเปลแห่งอารยธรรมจีน!แต่ตระกูลหลินและตระกูลหลู โดยธรรมชาติแล้วจะแข็งแกร่งเช่นนี้ เพราะท้ายที่สุดหลานหยางก็เป็นอัจฉริยะ!เมื่อคำพูดนี้ถูกเปล่งออกมา เหล่าแฟนคลับที่เพิ่งทำการฉลองกันอยู่ ส่งเสียงเชียร์ออกมาล้วนถูกขัดจังหวะ มู่หรงยิ่น มู่หรงหว่านเอ๋อร์ เหยียนหรูอวี้และคนอื่น ๆ ที่กำลังดูไลฟ์อยู่นั้น หัวใจกลับถูกปกคลุมด้วยหมอก ฉินเจิ้งคุนพูดอย่างไม่มีที่ผิด ดูเหมือนว่าหลินหยางจะก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เพียงแค่เริ่มต้นนี้ การเอาคืนของตระกูลฉินและตระกูลหลู ก็เจ็บแปล๊บที่หัวใจขึ้นมา! ในวันต่อต่อมา หลินหยางจะมีชีวิตที่ไม่ปลอดภัยต่อไป “งั้นพวกคุณก็รีบลงมือซะสิถึงจะดี ไม่อย่างงั้นก็ให้เวลาผม ผมจะทำให้พวกคุณคุกเข่าขอร้องผม” หลินหยางเปล่งวาจาดูถูกออกมา เขาอยู่ต่อหน้าหลูอ้าวตงกับฉินเจิ้งคุนทั้งสองคน ด้วยท่าทีเอ
นี่ทำให้เขาคาดไม่ถึงเลยทีเดียว! “เฒ่าแก่ลั่ว?” อย่าว่าแต่พวกเขาเลย หลินหยางเองก็อึ้งอยู่เหมือนกัน เนื่องจากตัวเขาเองก็ไม่ได้แจ้งให้ลั่วหงอวี๋มาช่วย เธอมาที่เกาะล่วงหน้าก่อนเกิดเรื่องนี้ แล้วแอบดูการต่อสู้ เพื่อคอยคุ้มกันตนเองหรือเปล่านะ? “คิดไม่ถึงเลยว่าเมืองลั่วของคุณจะมีปรมาจารย์เสวียนยอดฝีมืออย่างนี้ด้วย ชาวโลกต่างถือว่าคุณกับเว่ยจ้งและคนอื่น ๆ เป็นมีมหาปรมาจารย์แห่งเมืองลั่ว แต่เป็นปรมาจารย์ท่านหนึ่งที่อ่อนแอที่สุดในสี่มหาปรมาจารย์ ช่างไร้สาระเสียจริง” “เพียงแค่ผมคิดไม่ถึงว่า ทำไมคุณจะต้องก้าวล่วงผมเรื่องค่าชดใช้ของตระกูลหลู และปกป้องเจ้าเด็กนี่ คุณเองก็รู้ ว่าการมาระรานสี่ตระกูลใหญ่ ผลที่ตามมาเป็นอย่างไร?” หลูอ้าวตงมองไปที่ลั่วหงอวี๋ด้วยทีท่าหวาดเกรง ต่อหน้าปรมาจารย์เสวียนผู้แข็งแกร่งที่สุด แรงกดดันของเขาก็ทวีคูณมากขึ้น ไม่กล้าชะล่าใจเลย ทำได้เพียงขู่ว่าจะย้ายออกจากตระกูลหลูแม้แต่หลินหยางก็อดไม่ได้ที่จะโน้มน้าว “เฒ่าแก่ลั่ว นี่เป็นเรื่องของผม คุณไม่มีความจำเป็นที่จะเอาตัวเองเข้ามา” เราไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วพละกำลังของลั่วหงอวี๋เป็นอย่างไร แต่สองตระกูลที่เขาขุ่นเคืองใ
เมืองคับแคบอย่างเมืองลั่ว ทั้งยังเป็นเมืองชนชั้นล่าง ทำไมถึงซ่อนปรมาจารย์เสวียนระดับเก้าคนนี้ไว้ได้? ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย!แล้วในที่สุดหลินหยางหาผู้สนับสนุนที่มีทักษะระดับสูงเช่นนี้ได้อย่างไร? หรือว่าเจ้าเด็กนี่จะถูกปรมาจารย์เสวียนท่านนี้เลี้ยงดูมา? เขาประหลาดใจอย่างไม่ลดละ และเมื่อเหยาจงเห็นเข้ากับสิ่งนี้ นอกจากจะตื่นตระหนกแล้ว ก็เพิ่งตระหนักได้ว่าครั้งที่แล้วก็เพิ่งรอดชีวิตมาจากเงื้อมมือของลั่วหงอวี๋ นับว่าโชคดีอย่างมาก หากว่าในตอนนั้นเข้าไปช้ากว่านี้อีกหน่อย เกรงว่าหัวกับตัวคงจะแยกกันอยู่คนละทิศละทาง เมื่อทุกคนถูกปรามให้อยู่ในสถานการณ์ที่สงบลง ลั่วหงอวี๋จึงอ้าปากพูดออกมาเบา ๆ “นับจากวันนี้เป็นต้นไป ใครที่อยู่เหนือระดับปรมาจารย์ ไม่อนุญาตให้เข้ามาในเมืองลั่วเพื่อทำให้หลินหยางลำบากใจอีก” “หากว่ามีผู้ใดฝ่าฝืนจะฆ่าอย่างไร้ความปรานี” แม้ว่าเสียงของเธอจะแผ่วเบา แต่ก็ราวกับว่าได้ตั้งกฎไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็ไม่อาจเพิกเฉยได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องตาย!”หลูอ้าวตงที่โกรธอย่างไม่ลดละ “ขี้โม้อยู่ได้ไร้ยางอาย! เธอกล้าออกคำสั่งต่อผมจากสี่มหาตระกูลงั้นเหรอ!” “แกคิดว่าแกเป็นใคร!”ฉินเจ
วันนี้หลินหยางถูกบังคับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในใจอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ในเวลานั้นกลับมีนางฟ้าเข้ามายึดครองสถานการณ์ แน่นอนว่าไม่อาจจะทิ้งโอกาสไป เย่อหยิ่งได้เต็มที่เลย! อย่างไรเสียเขาก็ได้สร้างความบาดหมางร้ายแรงกับทั้งตระกูลฉินและตระกูลหลูไว้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าตระกูลฉินตระกูลหลู!“นี่เจ้าเด็กน้อยกำลังใช้อำนาจคนอื่นมาข่มเหง! แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงกล้าพูดออกมา! ถ้าไม่มีคนหนุนหลังแกก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว!” ฉินเจิ้งคุนพูดด้วยความโกรธจัด เขาสามารถทนต่อลั่วหงอวี๋ได้ เพราะอย่างไรแล้วก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง ตัวเขาเองเข้าไม่ถึงความตื้นลึกด้วยซ้ำ จึงไม่กล้าทำพลาดอีก แต่หลินหยางถือว่าตนเป็นใคร ต้อยต่ำราวกับมด! ยังจะกล้าเอ็ดตะโรอีก!“คุณพูดถูกเผงเลย ผมก็แค่แสร้งทำเป็นว่ามีกำลัง แล้วจะทำไม? ทุกคนก็เหมือนกัน แต่คุณไม่เหมือนคุณใช้สถานะความเป็นตระกูลฉินมาโอ้อวด?” “ถ้าสู้กันตัวต่อตัว มือผมเพียงแค่ข้างเดียวก็กำจัดคุณได้แล้ว ล้วนแล้วแต่อาศัยบารมีคนอื่นแอบอ้างตัวตน คุณนี่นะ? ตอนนี้บารมีที่ผมแอบอ้างแข็งแกร่งกว่าคุณ ผมจะยืนอยู่ที่นี่ แล้วคุณจะทำอะไรผมได้ไหม?” ปากของหลินหยางทำให้ผู้คนชดใช้ด้วยชีวิ
“ตระกูลหลูอันมีเกียรติของฉัน จะเบี้ยวได้ไง! แกไม่ต้องเองฉันไม่เปรียบกับแก ฉันไม่ใช่คนคดโกงอย่างแก” หลูอ้าวตงสูดลมหายใจลึก เพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลงหน่อย “นี่คือบัตรเครดิตเสริมสีดำของฉัน มีโควตาอยู่ห้าร้อยล้าน....” “คุณเอาของพวกนี้ให้ขอทาน? สิ่งที่ผมต้องการคือวัตถุดิบยา ห่อสิ่วโอวห้าร้อยปี โสมอย่างน้อยสองคันรถ! หลินหยางเย่อหยิ่งอย่างมาก “นี่แกเอาเปรียบฉันเหรอ! วัตถุดิบทำยาสองคันรถ ต่อให้แกมีสักสิบชีวิตก็ชดใช้ไม่หมด!” หลูอ้าวตงโกรธจัด วัตถุดิบยาสองร้อยปีค่อยหาง่ายหน่อย แต่วัตถุดิบยาที่อายุถึงห้าร้อยปีนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติที่หาได้ยาก วัตถุดิบยาห้าร้อยปี สำหรับปรมาจารย์ระดับเทวราชแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่หวงแหน แล้วจะให้หลินหยางได้อย่างไร! ทุกคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสด เมื่อได้ยินคำร้องขอของหลินหยางแล้ว ก็ได้แต่สูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าไป หลินหยางเรียกราคาเป็นจำนวนมาก ทั้งปากทั้งกระเพาะใหญ่ไปหมดแล้ว “คุณกล้าเรียกตัวเองว่าตระกูลขุนนาง งั้นก็เป็นเพียงการดูหมิ่นสองคำเท่านั้น....” หลินหยางดูถูก ในบันทึกของปรมาจารย์เทพโอสถ วัตถุดิบยาอายุห้าร้อยปีที่อยู่ในมือตระกูลขุนนางไม่ต
“ทำให้คนตระกูลจากสี่มหาตระกูลขายหน้า ก็เหมือนกับถูกปล้น...” ฉินเจิ้งคุนมองไปที่เงาของหลูอ้าวตงที่เดินจากไป แล้วจึงส่ายหัวด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ปรากฏว่าหลินหยางกลับได้ยินเข้า แต่ก็เพียงแค่เหลือบมองเขาแวบเดียว “ผมบอกแล้วเขาไม่ได้ว่าคุณใช่ไหม? คุณเองก็เหมือนกัน ส่งโสมห้าร้อยปีสิบต้นมาให้ผม!” เมื่อฉินเจิ้งคุนได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับตะลึง ความโมโหพุ่งขึ้นสู่หน้า “เกี่ยวอะไร! ผมไม่ได้ส่งคนให้ไปจัดการคุณสักหน่อย! “ “คุณไม่ได้ลงมือ แต่คุณก็ดูเกมนี่!” หลินหยางกลอกตาแล้วพูดว่า “ดูผมต่อสู้จะไม่เอาเงินได้ไง? คิดว่าผมแสดงให้คุณดูฟรี ๆ งั้นเหรอ?” “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว จ่ายค่าตั๋วเข้าชมมา!” ฉินเจิ้งคุนสำลัก ตกใจกับความไร้ยางอายของหลินหยาง เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสร้างโชคลาภจากตัวตนของเขาทั้งสอง!“ว่าไง ไม่ยอมเหรอ?” หลินหยางประเมินเขา สีหน้าดูไม่สู้ดีนัก แล้วจุดโฟกัสของสายตาก็มองไปยังฉินอี๋หลิง “หากว่าไม่ยอมมอบวัตถุดิบยาให้ผมก็ไม่เป็นไร ผมเห็นลูกสาวคุณสวยเสียจนอยากจะกลืนกิน....” นี่ทำให้ฉินอี๋หลิงตกใจเสียจนบดบังความสวย แล้วจึงรีบพูดกับฉินเจิ้งคุน “เขาเป็นเพียงสัตว์ร้าย
ทว่าผู้มีความสามารถแข็งแกร่งเพียงนี้ กลับลดตัวมาเป็นเถ้าแก่ร้านอาหารอยู่ในสถานที่คับแคบเช่นเมืองลั่ว หรือนี่คือสิ่งที่เรียกว่าผู้มีความสามารถเร้นกายอยู่ในหมู่มวลชน หรือมีเบื้องหลังอื่นซ่อนอยู่กันแน่นะลั่วหงอวี๋มองหลินหยางที่สีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม ก็ทำเพียงหัวเราะแล้วกล่าวว่า “เธอลองเดาดูสิ?”หลินหยางเกาหัว พูดไปตามที่คิดว่า “ไม่เป็นไรครับ! ขอแค่ให้เวลาผม ผมก็จะเข้มแข็งพอ กระทั่งแข็งแกร่งพอที่จะปกป้องเถ้าแก่ลั่วได้”ลั่งหงอวี๋หลุดหัวเราะออกมาราวได้ยินเรื่องน่าขบขัน แม้แต่ตัวหลินหยางเองก็ไม่รู้ว่า ระดับความโอหังของคำพูดประโยคนี้ เหนือล้ำไปกว่าคำผยองทั้งหมดในอดีตที่เขาเคยพูดมารวมกันแล้วเธอจึงพูดมาอย่างไม่จริงจังว่า “งั้นฉันจะรอวันนั้นนะ” “วันนี้ต้องขอบคุณเถ้าแก่ลั่วมากที่ให้การช่วยเหลือ แต่ก่อนจะพูดถึงเรื่องนั้น ตอนนี้คุณช่วยผมอีกเรื่องก่อนได้ไหมครับ” “เรื่องอะไรเหรอ?”“ช่วยพาผมกลับไปได้ไหมครับ ผมเดินไม่ไหวแล้วจริงๆ…”หลินหยางยิ้มออกมาอย่างอ่อนแรง หลังจากที่พลังของข้อห้ามสังหารเทพหมดลง ลวดลายโลหิตบนร่างของเขาก็ค่อยๆ สลายไปความรู้สึกอ่อนเพลียอย่างรุนแรงสายหนึ่งไหลบ่าเข้ามา เขา
“ไม่ถึงชีวิต แค่ต้องพักผ่อนสองสามวันเท่านั้น” สีหน้าของเหยียนหรูอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา “เข้าใจแล้วค่ะ!”จากนั้น เธอก็หันไปสั่งการเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจการทั้งหมด “เปิดทาง! คุ้มกันคุณหลินกลับบ้าน!”คราวนี้เหล่าแฟนคลับก็ร้อนใจแล้ว พากันคัดค้าน มีคนเอาปากกาสำหรับเซ็นชื่อออกมาขอให้หลินหยางเซ็นชื่อให้“รอจนคุณหลินหายดีแล้ว ฉันจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้คุณหลินที่ที่ทำการเจ้าเมือง ถึงเวลานั้นทุกคนจะมีโอกาสได้พบคุณหลินอีก!”หลังจากการประกาศของเหยียนหรูอวี้ บรรดาแฟนคลับจึงได้ยอมล้มเลิก ต่างพากันมองส่งเฮลิคอปเตอร์บินจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ส่วนบนเฮลิคอปเตอร์ หลินหยางกวาดตามองฝูงชนที่อยู่เบื้องล่างเพื่อค้นหาร่องรอยของลั่วหงอวี๋ แต่กลับพบว่าไม่รู้ว่าลั่วหงอวี๋หายไปตั้งแต่เมื่อใดแล้ว“เมื่อครู่ฉันยังคิดจะไปคารวะเถ้าแก่ลั่ว คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่ลั่วจะจากไปก่อนแล้ว เถ้าแก่ลั่วช่างเป็นมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหางจริงๆ ” เหยียนหรูอวี้กล่าวอย่างเปี่ยมอารมณ์ นับระยะเวลาที่เธอรู้จักลั่วหงอวี๋มาก็ไม่น้อยเลย คิดว่าเธอเป็นปรมาจารย์ของเมืองลั่วที่อ่อนแอที่สุดมาโดยตลอด จึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนักทว่าวันนี้การแสดงออก
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ