วันนี้หลินหยางถูกบังคับซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในใจอดกลั้นความโกรธเอาไว้ ในเวลานั้นกลับมีนางฟ้าเข้ามายึดครองสถานการณ์ แน่นอนว่าไม่อาจจะทิ้งโอกาสไป เย่อหยิ่งได้เต็มที่เลย! อย่างไรเสียเขาก็ได้สร้างความบาดหมางร้ายแรงกับทั้งตระกูลฉินและตระกูลหลูไว้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องไว้หน้าตระกูลฉินตระกูลหลู!“นี่เจ้าเด็กน้อยกำลังใช้อำนาจคนอื่นมาข่มเหง! แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงกล้าพูดออกมา! ถ้าไม่มีคนหนุนหลังแกก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว!” ฉินเจิ้งคุนพูดด้วยความโกรธจัด เขาสามารถทนต่อลั่วหงอวี๋ได้ เพราะอย่างไรแล้วก็เป็นคนที่แข็งแกร่ง ตัวเขาเองเข้าไม่ถึงความตื้นลึกด้วยซ้ำ จึงไม่กล้าทำพลาดอีก แต่หลินหยางถือว่าตนเป็นใคร ต้อยต่ำราวกับมด! ยังจะกล้าเอ็ดตะโรอีก!“คุณพูดถูกเผงเลย ผมก็แค่แสร้งทำเป็นว่ามีกำลัง แล้วจะทำไม? ทุกคนก็เหมือนกัน แต่คุณไม่เหมือนคุณใช้สถานะความเป็นตระกูลฉินมาโอ้อวด?” “ถ้าสู้กันตัวต่อตัว มือผมเพียงแค่ข้างเดียวก็กำจัดคุณได้แล้ว ล้วนแล้วแต่อาศัยบารมีคนอื่นแอบอ้างตัวตน คุณนี่นะ? ตอนนี้บารมีที่ผมแอบอ้างแข็งแกร่งกว่าคุณ ผมจะยืนอยู่ที่นี่ แล้วคุณจะทำอะไรผมได้ไหม?” ปากของหลินหยางทำให้ผู้คนชดใช้ด้วยชีวิ
“ตระกูลหลูอันมีเกียรติของฉัน จะเบี้ยวได้ไง! แกไม่ต้องเองฉันไม่เปรียบกับแก ฉันไม่ใช่คนคดโกงอย่างแก” หลูอ้าวตงสูดลมหายใจลึก เพื่อทำให้ตัวเองใจเย็นลงหน่อย “นี่คือบัตรเครดิตเสริมสีดำของฉัน มีโควตาอยู่ห้าร้อยล้าน....” “คุณเอาของพวกนี้ให้ขอทาน? สิ่งที่ผมต้องการคือวัตถุดิบยา ห่อสิ่วโอวห้าร้อยปี โสมอย่างน้อยสองคันรถ! หลินหยางเย่อหยิ่งอย่างมาก “นี่แกเอาเปรียบฉันเหรอ! วัตถุดิบทำยาสองคันรถ ต่อให้แกมีสักสิบชีวิตก็ชดใช้ไม่หมด!” หลูอ้าวตงโกรธจัด วัตถุดิบยาสองร้อยปีค่อยหาง่ายหน่อย แต่วัตถุดิบยาที่อายุถึงห้าร้อยปีนั้น สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสมบัติที่หาได้ยาก วัตถุดิบยาห้าร้อยปี สำหรับปรมาจารย์ระดับเทวราชแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่หวงแหน แล้วจะให้หลินหยางได้อย่างไร! ทุกคนที่กำลังรับชมการถ่ายทอดสด เมื่อได้ยินคำร้องขอของหลินหยางแล้ว ก็ได้แต่สูดลมหายใจเย็น ๆ เข้าไป หลินหยางเรียกราคาเป็นจำนวนมาก ทั้งปากทั้งกระเพาะใหญ่ไปหมดแล้ว “คุณกล้าเรียกตัวเองว่าตระกูลขุนนาง งั้นก็เป็นเพียงการดูหมิ่นสองคำเท่านั้น....” หลินหยางดูถูก ในบันทึกของปรมาจารย์เทพโอสถ วัตถุดิบยาอายุห้าร้อยปีที่อยู่ในมือตระกูลขุนนางไม่ต
“ทำให้คนตระกูลจากสี่มหาตระกูลขายหน้า ก็เหมือนกับถูกปล้น...” ฉินเจิ้งคุนมองไปที่เงาของหลูอ้าวตงที่เดินจากไป แล้วจึงส่ายหัวด้วยท่าทีที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง ปรากฏว่าหลินหยางกลับได้ยินเข้า แต่ก็เพียงแค่เหลือบมองเขาแวบเดียว “ผมบอกแล้วเขาไม่ได้ว่าคุณใช่ไหม? คุณเองก็เหมือนกัน ส่งโสมห้าร้อยปีสิบต้นมาให้ผม!” เมื่อฉินเจิ้งคุนได้ยินแบบนี้ก็ถึงกับตะลึง ความโมโหพุ่งขึ้นสู่หน้า “เกี่ยวอะไร! ผมไม่ได้ส่งคนให้ไปจัดการคุณสักหน่อย! “ “คุณไม่ได้ลงมือ แต่คุณก็ดูเกมนี่!” หลินหยางกลอกตาแล้วพูดว่า “ดูผมต่อสู้จะไม่เอาเงินได้ไง? คิดว่าผมแสดงให้คุณดูฟรี ๆ งั้นเหรอ?” “หยุดพูดไร้สาระได้แล้ว จ่ายค่าตั๋วเข้าชมมา!” ฉินเจิ้งคุนสำลัก ตกใจกับความไร้ยางอายของหลินหยาง เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะสร้างโชคลาภจากตัวตนของเขาทั้งสอง!“ว่าไง ไม่ยอมเหรอ?” หลินหยางประเมินเขา สีหน้าดูไม่สู้ดีนัก แล้วจุดโฟกัสของสายตาก็มองไปยังฉินอี๋หลิง “หากว่าไม่ยอมมอบวัตถุดิบยาให้ผมก็ไม่เป็นไร ผมเห็นลูกสาวคุณสวยเสียจนอยากจะกลืนกิน....” นี่ทำให้ฉินอี๋หลิงตกใจเสียจนบดบังความสวย แล้วจึงรีบพูดกับฉินเจิ้งคุน “เขาเป็นเพียงสัตว์ร้าย
“ไอ้บอด แกรีบเก็บข้าวของ แล้วไสหัวออกไปจากบ้านฉัน”ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน ฉินเยียนหรานเดินมายังห้องใต้ดินที่หลินหยางอาศัยอยู่ พูดจาอย่างหยิ่งผยองกับหลินหยางที่กำลังคุกเข่าถูพื้นอยู่หลินหยางไม่แม้แต่จะเงยหน้า ไม่แม้แต่จะส่งเสียงและถูพื้นต่อไปฉินเยียนหรานถีบหลินหยางจนล้มลงไปกองกับพื้น“ไอ้บอด! ฉันกำลังพูดกับแก แกหูตึงหรือไง?”หลินหยางค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างของเขามองไม่เห็น ด้านหน้ามีเพียงความมืดมิด“ผมไปก็ได้ แต่ผมต้องเอาของที่เป็นของผมกลับคืนมา” หลินหยางกล่าว“ของอะไรที่เป็นของแก? กระจกตา? หรือว่าหุ้นของซิงเย่า กรุ๊ป?”ฉินเยียนหรานหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม “ไอ้บอดอย่างแก ช่างคิดเพ้อฝันจริง ๆ ตอนนี้ไม่มีของชิ้นไหนที่เป็นของแกเลยสักชิ้น ทั้งซิงเย่า กรุ๊ป เป็นของตระกูลพวกฉันหมดแล้ว”“แม้แต่ ชีวิตอันไร้ค่าของแก ก็เป็นของครอบครัวฉันเหมือนกัน ฉันไม่ฆ่าแกให้ตาย แค่จะให้แกไสหัวออกไปใช้ชีวิตตามยถากรรม ก็นับว่าเมตตากับแกแล้ว”เมื่อหลินหยางได้ยินดังนั้น ก็กำหมัดแน่นอย่างหมดความอดทน ใบหน้าตอนนี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ฉินโม่หนงพาลูกสาวฉินเยียนหรานหนีภัยมาที่เ
หลินหยางสลบไปนานมาก ทั้งยังฝันประหลาดอีกด้วย ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เป็นเช้าวันถัดมาแล้วเขาเห็นตาแก่ผมสีดอกเลาคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า ก็รู้สึกตกใจมาก“เจ้าหนุ่ม ไม่ต้องตกใจ ฉันได้รักษาดวงตากับบาดแผลทั้งหมดของเธอเรียบร้อยแล้ว”ตาแก่กล่าวด้วยสีหน้าเมตตาหลินหยางแอบหยิกตัวเองหนึ่งที เจ็บมาก เขามั่นใจแล้วว่านี่ใช่ความฝันแน่ ๆ แต่ตอนนี้ภายในหัวสมองยังคงยุ่งเหยิงอยู่“ฉันมีชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้ว เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว ก่อนตายได้คนสืบทอดแบบเธอ ก็นับว่าปลื้มใจแล้ว”ตาแก่โบกมือให้หลินหยางพร้อมกล่าวขึ้นว่า “เธอคุกเข่าลงก้มหัวคำนับอาจารย์ เดี๋ยวค่อยอธิบายรายละเอียดให้เธอฟัง”หลินหยางไม่ลังเล รีบก้มหัวคำนับอาจารย์ พร้อมทั้งเรียกท่านอาจารย์ตาแก่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหลินหยาง กล่าวด้วยใบหน้าปลื้มปีติ “เจ้าเด็กดี! เธอนั่งให้ดี ต่อไปเรื่องทุกอย่างที่อาจารย์จะเล่า เธอจะต้องตั้งใจฟัง จดจำเอาไว้ในใจ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด”หลินหยางเงี่ยหู นั่งลงที่ข้างกายของตาแก่ ตั้งใจฟังตาแก่พูด หลินหยางเป็นผู้มีเนตรคู่ที่หาได้ยากในรอบพันปี เป็นเพราะกระจกตาถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถปลุกพลังของเนตรคู่ได
“ไอ้ระยำ ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉินโม่หนงยังดุด่าไม่ทันเสร็จดี ก็ถูกหลินหยางยกมือขึ้นตบหน้าฉาดหนึ่งการตบหน้าฉาดนี้ ทำให้ฉินโม่หนงงุนงงไปแล้ว!เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่า หลินหยางที่อ่อนแอขี้ขลาด จะกล้าลงมือทำร้ายเธอ!“ไอ้เดรัจฉาน แกรนหาที่ตาย!”ตอนนี้ฉินโม่หนงมีสถานะระดับไหน จะทนการตบหน้าที่เป็นการดูถูกของหลินหยางได้อย่างไร จึงระเบิดอารมณ์ทันทีเธอพยายามออกแรงดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาชั่วพริบตาหลินหยางกลายเป็นคนหยาบคายแบบนี้ พละกำลังก็มากด้วยความพยายามของเธอ ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!สองปีมานี้ หลินหยางถูกพวกเธอสองแม่ลูกคุมขังและปฏิบัติอย่างโหดร้าย ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ราวกับเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงแต่ในเวลานี้ บทบาทสับเปลี่ยนกัน ฉินโม่หนงได้กลายเป็นเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงของหลินหยางไปแล้วเพี้ยะ!หลินหยางตบหน้าฉินโม่หนงอีกฉาดหนึ่ง“ฉินโม่หนง ดูท่าแกยังจะไม่เข้าใจชัดเจนนะ ตอนนี้ชีวิตของแกอยู่ในกำมือฉันแล้ว ฉันสามารถฆ่าแกได้ทุกเมื่อ แกยังกล้าข่มขู่ฉันอีกเหรอ? ทางที่ดีแกรีบสำรวมท่าทางเย่อหยิ่งอวดดีนั้นของแกไปซะ”หลินหยางบีบลำคอขาวสะอาดของฉินโม่หนง การตบหน้าส
อีกฝ่ายเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษ หลินหยางก็ไม่ได้คิดหยุมหยิมอีกต่อไป คุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ต่อไปมู่หรงจางพาบอดี้การ์ดกับมู่หรงหว่านเอ๋อร์เดินไปด้านข้าง“พ่อคะ ไอ้หมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้วนะคะ พ่อไม่รู้อะไร เขาเป็นผีพนัน ติดหนี้พนันก้อนโต ยังเสพยาจนถูกจับ เพราะฉะนั้นเลยถูกตระกูลหลิ่วยกเลิกงานหมั้น ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีผู้หญิงที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างฉินโม่หนง ทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยนั้นของพ่อแม่เขา ก็คงถูกเขาเอาไปเล่นพนันจนเกลี้ยงแล้ว“อีกทั้งถ้าหากไม่มีฉินโม่หนงคอยปกป้องเขา เขาคงจะถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดฟันตายไปตั้งนานแล้ว!”“หนูเดาว่าจะต้องเป็นเพราะฉินโม่หนงไม่ยอมให้เงินเขาไปเล่นพนันกับเสพยาแน่นอน ดังนั้นเขาเลยด่าชาวบ้านว่าจิตใจโหดเหี้ยม อันที่จริง เขานั่นแหละที่เป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมที่แท้จริง”“ลูกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?” มู่หรงจางกล่าวถาม“ฉินโม่หนงกับตระกูลพวกเรามีความร่วมมือทางธุรกิจกัน หนูเคยเจอหน้าเธออยู่หลายครั้ง ค่อนข้างนับถือเธอเลยทีเดียว เลยได้ยินเรื่องนินทาเกี่ยวกับตระกูลหลินมานิดหน่อยค่ะ”“ฉินโม่หนง...พ่อเองก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีฝีมือแล
ถึงแม้ว่ามู่หรงหว่านเอ๋อร์จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยการบังคับอันน่าเกรงขามของมู่หรงจาง ยังคงต้องกล่าวขอโทษอย่างขอไปทีหลินหยางเองก็คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ“สิ่งที่เธอได้ยินมา อาจจะไม่ใช่ความจริง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เธอควรจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ฟังข่าวลือไม่มีมูล แล้วมาตัดสินคนคนหนึ่งเอาง่ายๆ”หลินหยางเอ่ยกล่าวเสียงเรียบ“นายเก่งมาจากไหน? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเคืองมู่หรงจางจ้องเธอด้วยสายตาดุร้ายทีหนึ่ง กล่าวกับหลินหยาง “น้องชายได้โปรดให้อภัย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ไม่จำเป็นต้องพูดจาสุภาพ เพียงเพราะผมช่วยชีวิตคุณเอาไว้ครั้งหนึ่ง คุณควรจะจ่ายค่ารักษา”“ใช่ๆ นี่เป็นเรื่องที่สมควร ไม่ทราบว่าน้องชายจะเก็บค่ารักษาเท่าไหร่?”มู่หรงจางกล่าวที่หลินหยางยอมยื่นมือช่วยมู่หรงจาง ทั้งหมดก็เพื่อเงินออกมาจากตระกูลฉิน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ยากจนข้นแค้น จำเป็นต้องหาเงินเล็กน้อยมาไว้ในมือ“คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่ามากแค่ไหน?”“คำถามนี้ ถามได้ดี แต่ว่าฉันไม่มีนิสัยพกเงินติดตัวตอนออกจากบ้าน เอาแบบนี้แล้วกัน เธอท