“ไม่ถึงชีวิต แค่ต้องพักผ่อนสองสามวันเท่านั้น” สีหน้าของเหยียนหรูอวี้เคร่งขรึมขึ้นมา “เข้าใจแล้วค่ะ!”จากนั้น เธอก็หันไปสั่งการเจ้าหน้าที่หน่วยตรวจการทั้งหมด “เปิดทาง! คุ้มกันคุณหลินกลับบ้าน!”คราวนี้เหล่าแฟนคลับก็ร้อนใจแล้ว พากันคัดค้าน มีคนเอาปากกาสำหรับเซ็นชื่อออกมาขอให้หลินหยางเซ็นชื่อให้“รอจนคุณหลินหายดีแล้ว ฉันจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้คุณหลินที่ที่ทำการเจ้าเมือง ถึงเวลานั้นทุกคนจะมีโอกาสได้พบคุณหลินอีก!”หลังจากการประกาศของเหยียนหรูอวี้ บรรดาแฟนคลับจึงได้ยอมล้มเลิก ต่างพากันมองส่งเฮลิคอปเตอร์บินจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์ส่วนบนเฮลิคอปเตอร์ หลินหยางกวาดตามองฝูงชนที่อยู่เบื้องล่างเพื่อค้นหาร่องรอยของลั่วหงอวี๋ แต่กลับพบว่าไม่รู้ว่าลั่วหงอวี๋หายไปตั้งแต่เมื่อใดแล้ว“เมื่อครู่ฉันยังคิดจะไปคารวะเถ้าแก่ลั่ว คิดไม่ถึงว่าเถ้าแก่ลั่วจะจากไปก่อนแล้ว เถ้าแก่ลั่วช่างเป็นมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหางจริงๆ ” เหยียนหรูอวี้กล่าวอย่างเปี่ยมอารมณ์ นับระยะเวลาที่เธอรู้จักลั่วหงอวี๋มาก็ไม่น้อยเลย คิดว่าเธอเป็นปรมาจารย์ของเมืองลั่วที่อ่อนแอที่สุดมาโดยตลอด จึงไม่ได้ให้ความสนใจมากนักทว่าวันนี้การแสดงออก
แต่พวกเขากลับไม่รู้ว่า หลินหยางที่แสนสูงส่งไม่อาจล่วงเกินในใจของพวกเขานั้น หลังจากเข้าไปในวิลล่า ท่าท่าทางสูงส่งดั่งขุนเขาลึกล้ำดั่งหุบเหวนั่นก็พังทลายลงทันที เขาเจ็บจนแยกเขี้ยวไม่หยุด“แม่มันเถอะ ทำเท่โคตรเหนื่อยเลย บิดาเกือบเก๊กไม่อยู่แล้ว!”ผลข้างเคียงของวิชาข้อห้ามสังหารเทพรุนแรงอย่างมาก เมื่อครู่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ผู้สูงส่งต่อหน้าบรรดาแฟนคลับ ถึงได้ทนไว้ตลอดเวลานี้เมื่อผ่อนคลายลง ความอ่อนแรงอันไร้ที่สิ้นสุดก็จู่โจมเข้ามาทันทีหลินหยางรู้สึกว่าร่างกายของตนราวกับเป็นกระสอบป่านที่เปื่อยขาด เป็นรูรั่วไปหมด เส้นเอ็นและจุดชีพในจุดต่างๆ เป็นรูพรุนนับไม่ถ้วน จำเป็นต้องรักษาอาการบาดเจ็บเดี๋ยวนี้เขารีบนำสมุนไพรที่ตระกูลฉินส่งมาก่อนหน้า มาจัดเป็นยาแช่ตัวทันที เมื่อแช่อยู่ในถังน้ำอันอบอุ่น เขาก็ขับเคลื่อนพลังมังกรคชสารสะเทือนฟ้าเพื่อดูดซับฤทธิ์ยาทว่าหลังจากดูดซับไปได้ครู่หนึ่ง เขาก็พลันเผยสีหน้าตื่นเต้นยินดีขึ้นมาอย่างกะทันหัน “นี่คือการทำลายแล้วสร้างใหม่?”เขาพบว่าความไวในการดูดซับตัวยาของตนเร็วกว่าเมื่อก่อนมากนัก หากบอกว่าความเร็วในการดูดซับฤทธิ์ยาเมื่อก่อนเปรียบเหมือนการไหลของก๊อ
และทักษะการโจมตีจิตใจนี้ มีพลังที่ไม่อาจคาดเดาได้ ด้วยการมองเหลือบมองเพียงครั้งเดียว ก็สามารถปลดปล่อยพลังสูงสุดที่สามารถสยบสัตว์ร้ายลงได้ส่วนทักษะการโจมตีจิตใจในตอนนี้ เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น แต่ก็มีทรงพลังในระดับหนึ่งแล้ว ในระดับเบิกฟ้าลงไป หลินหยางไม่จำเป็นต้องลงมือ เพียงแค่เหลือบมองก็สามารถสั่นสะท้านจิตใจของผู้ที่มีระดับมานะสร้างได้และนี่ก็เป็นสัญลักษณ์ของการใกล้บรรลุเนตรคู่ระดับสามแล้วเมื่อรวมกับสมุนไพรอายุห้าร้อยปีอีกยี่สิบต้น ร่างกายถูกทำลายลงแล้วก่อกำเนิดใหม่ การประลองของหลินหยางในครั้งนี้ พูดได้ว่า ได้รับประโยชน์ไปเต็มๆจริงๆ!นอกจากนี้ บางทีอาจนับรวมงานเลี้ยงฉลองที่จะโด่งดังไปทั่วเมืองลั่วในวันนี้ด้วยเขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา รักษาอาการบาดเจ็บอย่างเดียวมาสองวัน ในโทรศัพท์สะสมข้อความไว้ไม่น้อยมีข้อความจากเหยียนหรูอวี้เธอไม่กล้ารบกวนการรักษาอาการบาดเจ็บของหลินหยาง จึงกล่าวว่าได้ส่งรถมารอที่วิลล่าเลขที่สิบแปดในหมู่บ้านตี้เหาแล้ว เธอจะรอต้อนรับอยู่ที่ที่ทำการเจ้าเมืองตลอดเวลานอกจากนี้ ยังมีข้อความหลายข้อความและสายที่ไม่ได้รับอีกหลายสายแบ่งเป็นจากพวกมู่หรงยิ่นและมู
“ไอ้บอด แกรีบเก็บข้าวของ แล้วไสหัวออกไปจากบ้านฉัน”ในคฤหาสน์ตระกูลฉิน ฉินเยียนหรานเดินมายังห้องใต้ดินที่หลินหยางอาศัยอยู่ พูดจาอย่างหยิ่งผยองกับหลินหยางที่กำลังคุกเข่าถูพื้นอยู่หลินหยางไม่แม้แต่จะเงยหน้า ไม่แม้แต่จะส่งเสียงและถูพื้นต่อไปฉินเยียนหรานถีบหลินหยางจนล้มลงไปกองกับพื้น“ไอ้บอด! ฉันกำลังพูดกับแก แกหูตึงหรือไง?”หลินหยางค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ดวงตาทั้งสองข้างของเขามองไม่เห็น ด้านหน้ามีเพียงความมืดมิด“ผมไปก็ได้ แต่ผมต้องเอาของที่เป็นของผมกลับคืนมา” หลินหยางกล่าว“ของอะไรที่เป็นของแก? กระจกตา? หรือว่าหุ้นของซิงเย่า กรุ๊ป?”ฉินเยียนหรานหัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยาม “ไอ้บอดอย่างแก ช่างคิดเพ้อฝันจริง ๆ ตอนนี้ไม่มีของชิ้นไหนที่เป็นของแกเลยสักชิ้น ทั้งซิงเย่า กรุ๊ป เป็นของตระกูลพวกฉันหมดแล้ว”“แม้แต่ ชีวิตอันไร้ค่าของแก ก็เป็นของครอบครัวฉันเหมือนกัน ฉันไม่ฆ่าแกให้ตาย แค่จะให้แกไสหัวออกไปใช้ชีวิตตามยถากรรม ก็นับว่าเมตตากับแกแล้ว”เมื่อหลินหยางได้ยินดังนั้น ก็กำหมัดแน่นอย่างหมดความอดทน ใบหน้าตอนนี้เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ฉินโม่หนงพาลูกสาวฉินเยียนหรานหนีภัยมาที่เ
หลินหยางสลบไปนานมาก ทั้งยังฝันประหลาดอีกด้วย ทันทีที่เขาลืมตาขึ้น ก็เป็นเช้าวันถัดมาแล้วเขาเห็นตาแก่ผมสีดอกเลาคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างหน้า ก็รู้สึกตกใจมาก“เจ้าหนุ่ม ไม่ต้องตกใจ ฉันได้รักษาดวงตากับบาดแผลทั้งหมดของเธอเรียบร้อยแล้ว”ตาแก่กล่าวด้วยสีหน้าเมตตาหลินหยางแอบหยิกตัวเองหนึ่งที เจ็บมาก เขามั่นใจแล้วว่านี่ใช่ความฝันแน่ ๆ แต่ตอนนี้ภายในหัวสมองยังคงยุ่งเหยิงอยู่“ฉันมีชีวิตอยู่อีกไม่นานแล้ว เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้ว ก่อนตายได้คนสืบทอดแบบเธอ ก็นับว่าปลื้มใจแล้ว”ตาแก่โบกมือให้หลินหยางพร้อมกล่าวขึ้นว่า “เธอคุกเข่าลงก้มหัวคำนับอาจารย์ เดี๋ยวค่อยอธิบายรายละเอียดให้เธอฟัง”หลินหยางไม่ลังเล รีบก้มหัวคำนับอาจารย์ พร้อมทั้งเรียกท่านอาจารย์ตาแก่ยกมือขึ้นลูบศีรษะของหลินหยาง กล่าวด้วยใบหน้าปลื้มปีติ “เจ้าเด็กดี! เธอนั่งให้ดี ต่อไปเรื่องทุกอย่างที่อาจารย์จะเล่า เธอจะต้องตั้งใจฟัง จดจำเอาไว้ในใจ ห้ามบอกคนอื่นเด็ดขาด”หลินหยางเงี่ยหู นั่งลงที่ข้างกายของตาแก่ ตั้งใจฟังตาแก่พูด หลินหยางเป็นผู้มีเนตรคู่ที่หาได้ยากในรอบพันปี เป็นเพราะกระจกตาถูกทำลาย ทำให้ไม่สามารถปลุกพลังของเนตรคู่ได
“ไอ้ระยำ ปล่อยฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าแก!”ฉินโม่หนงยังดุด่าไม่ทันเสร็จดี ก็ถูกหลินหยางยกมือขึ้นตบหน้าฉาดหนึ่งการตบหน้าฉาดนี้ ทำให้ฉินโม่หนงงุนงงไปแล้ว!เธอคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่า หลินหยางที่อ่อนแอขี้ขลาด จะกล้าลงมือทำร้ายเธอ!“ไอ้เดรัจฉาน แกรนหาที่ตาย!”ตอนนี้ฉินโม่หนงมีสถานะระดับไหน จะทนการตบหน้าที่เป็นการดูถูกของหลินหยางได้อย่างไร จึงระเบิดอารมณ์ทันทีเธอพยายามออกแรงดิ้นรน คิดไม่ถึงว่าภายในเวลาชั่วพริบตาหลินหยางกลายเป็นคนหยาบคายแบบนี้ พละกำลังก็มากด้วยความพยายามของเธอ ไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง!สองปีมานี้ หลินหยางถูกพวกเธอสองแม่ลูกคุมขังและปฏิบัติอย่างโหดร้าย ไม่มีแรงต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ราวกับเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงแต่ในเวลานี้ บทบาทสับเปลี่ยนกัน ฉินโม่หนงได้กลายเป็นเนื้อปลาที่อยู่บนเขียงของหลินหยางไปแล้วเพี้ยะ!หลินหยางตบหน้าฉินโม่หนงอีกฉาดหนึ่ง“ฉินโม่หนง ดูท่าแกยังจะไม่เข้าใจชัดเจนนะ ตอนนี้ชีวิตของแกอยู่ในกำมือฉันแล้ว ฉันสามารถฆ่าแกได้ทุกเมื่อ แกยังกล้าข่มขู่ฉันอีกเหรอ? ทางที่ดีแกรีบสำรวมท่าทางเย่อหยิ่งอวดดีนั้นของแกไปซะ”หลินหยางบีบลำคอขาวสะอาดของฉินโม่หนง การตบหน้าส
อีกฝ่ายเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษ หลินหยางก็ไม่ได้คิดหยุมหยิมอีกต่อไป คุกเข่าต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่ต่อไปมู่หรงจางพาบอดี้การ์ดกับมู่หรงหว่านเอ๋อร์เดินไปด้านข้าง“พ่อคะ ไอ้หมอนี่หน้าไม่อายเกินไปแล้วนะคะ พ่อไม่รู้อะไร เขาเป็นผีพนัน ติดหนี้พนันก้อนโต ยังเสพยาจนถูกจับ เพราะฉะนั้นเลยถูกตระกูลหลิ่วยกเลิกงานหมั้น ถ้าหากไม่ใช่ว่ามีผู้หญิงที่มีความสามารถโดดเด่นอย่างฉินโม่หนง ทรัพย์สินเพียงเล็กน้อยนั้นของพ่อแม่เขา ก็คงถูกเขาเอาไปเล่นพนันจนเกลี้ยงแล้ว“อีกทั้งถ้าหากไม่มีฉินโม่หนงคอยปกป้องเขา เขาคงจะถูกเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหดฟันตายไปตั้งนานแล้ว!”“หนูเดาว่าจะต้องเป็นเพราะฉินโม่หนงไม่ยอมให้เงินเขาไปเล่นพนันกับเสพยาแน่นอน ดังนั้นเขาเลยด่าชาวบ้านว่าจิตใจโหดเหี้ยม อันที่จริง เขานั่นแหละที่เป็นคนจิตใจโหดเหี้ยมที่แท้จริง”“ลูกรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกัน?” มู่หรงจางกล่าวถาม“ฉินโม่หนงกับตระกูลพวกเรามีความร่วมมือทางธุรกิจกัน หนูเคยเจอหน้าเธออยู่หลายครั้ง ค่อนข้างนับถือเธอเลยทีเดียว เลยได้ยินเรื่องนินทาเกี่ยวกับตระกูลหลินมานิดหน่อยค่ะ”“ฉินโม่หนง...พ่อเองก็ได้ยินมาบ้างเหมือนกัน เป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีฝีมือแล
ถึงแม้ว่ามู่หรงหว่านเอ๋อร์จะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่เนื่องด้วยการบังคับอันน่าเกรงขามของมู่หรงจาง ยังคงต้องกล่าวขอโทษอย่างขอไปทีหลินหยางเองก็คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยกับเธอ“สิ่งที่เธอได้ยินมา อาจจะไม่ใช่ความจริง ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ เธอควรจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่ฟังข่าวลือไม่มีมูล แล้วมาตัดสินคนคนหนึ่งเอาง่ายๆ”หลินหยางเอ่ยกล่าวเสียงเรียบ“นายเก่งมาจากไหน? มีสิทธิ์อะไรมาสั่งสอนฉัน?”มู่หรงหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างโกรธเคืองมู่หรงจางจ้องเธอด้วยสายตาดุร้ายทีหนึ่ง กล่าวกับหลินหยาง “น้องชายได้โปรดให้อภัย”หลินหยางโบกมือกล่าว “ไม่จำเป็นต้องพูดจาสุภาพ เพียงเพราะผมช่วยชีวิตคุณเอาไว้ครั้งหนึ่ง คุณควรจะจ่ายค่ารักษา”“ใช่ๆ นี่เป็นเรื่องที่สมควร ไม่ทราบว่าน้องชายจะเก็บค่ารักษาเท่าไหร่?”มู่หรงจางกล่าวที่หลินหยางยอมยื่นมือช่วยมู่หรงจาง ทั้งหมดก็เพื่อเงินออกมาจากตระกูลฉิน เขาไม่มีเงินติดตัวเลยสักบาท ยากจนข้นแค้น จำเป็นต้องหาเงินเล็กน้อยมาไว้ในมือ“คุณคิดว่าชีวิตของคุณมีค่ามากแค่ไหน?”“คำถามนี้ ถามได้ดี แต่ว่าฉันไม่มีนิสัยพกเงินติดตัวตอนออกจากบ้าน เอาแบบนี้แล้วกัน เธอท