“คุณคือผู้สืบทอดของเทพโอสถ ก็คือนายท่านของฉัน” เหยียนหรูอวี้กล่าวเมื่อหลินหยางได้ยินประโยคนี้ ก็สีหน้าแข็งทื่อ แต่เขารีบกล่าวปฏิเสธ “เทพโอสถคือใคร? ผมไม่รู้จักเขา”“ดูท่านายท่านจะไม่ไว้ใจฉัน จึงไม่ยอมรับตัวตน แต่ว่านี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันรู้ว่าคุณคือนายท่านก็พอแล้ว นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันเหยียนหรูอวี้ รวมทั้งตระกูลเหยียน จะเชื่อฟังคำสั่งของนายท่านโดยไม่มีข้อแม้”เหยียนหรูอวี้กล่าวอย่างหนักแน่นหลินหยางนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ถาม “คุณรู้ยังไงว่าผมคือผู้สืบทอดของเทพโอสถ?”หลินหยางไม่กล้ายอมรับตัวตนง่าย ๆ เทพโอสถมีศัตรูที่แข็งแกร่งมาก ถ้าหากถูกศัตรูรู้เข้าว่าเขาเป็นผู้สืบทอดของเทพโอสถ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องตายแน่นอน“ฉันให้คนสืบหาข้อมูลของคุณแล้ว รู้ว่าคุณรักษาผื่นพิษโลหิตของฉินอี๋หลิงให้หายดีได้ โรคนี้ถ้าไม่ใช่เทพโอสถก็ไม่สามารถรักษาได้ คุณไม่ใช่เทพโอสถ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องเป็นผู้สืบทอดของเทพโอสถแน่นอน”เหยียนหรูอวี้กล่าว“ในเมื่อคุณสืบข้อมูลของผมแล้ว ก็ต้องรู้ว่าผมคนที่เกิดและเติบโตที่เมืองลั่ว แล้วก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป อาศัยเพียงแค่ผมสามารถรักษาผื่นพิษโลหิตให้หายดีได้ ก็ยอมรับผมเป็นน
หลินหยางคิดไม่ถึงว่า ตระกูลเหยียนที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งหนานตู จะมีความเป็นมาแบบนี้กับอาจารย์ของเขา นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่เหนือความคาดหมาย แบบนี้หมายความว่าเขามีผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่เมืองหนานตูแล้ว“นายท่านต่อไปต้องการอะไรก็เชิญสั่งมาได้ตามสบายเลยค่ะ ตระกูลเหยียนทุกคนจะต้องปฏิบัติตามอย่างแน่นอน”เหยียนหรูอวี้แสดงความจงรักภักดีอีกครั้งหลินหยางพยักหน้ากล่าว “ได้ ตอนที่ผมมีความจำเป็น ผมจะไม่มีทางเกรงใจคุณแน่ครับ แต่ว่าเกี่ยวกับตัวตนของผม คุณจะต้องเก็บรักษาเป็นความลับ ห้ามให้คนนอกรู้เป็นอันขาด”“รับทราบ ใช่แล้ว นายท่าน จ้าวเจี้ยนชิงนั่นมีนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้น ครั้งนี้เสียเปรียบมาก ถึงแม้ว่าจะยับยั้งเอาไว้ได้ชั่วคราว แต่เขาต้องไม่มีทางเลิกราแน่ คุณจะต้องระวังให้มาก ๆนะคะ”เหยียนหรูอวี้กล่าว“ผมทราบ”“อีกอย่าง ฉันได้ยินมาว่าอีกสองวันคุณกับเจียงไห่เซิงจะต่อสู้ชี้ขาดที่ทะเลสาบเฉาอิน เจียงไห่เซิงนั่นความสามารถไม่ธรรมดา ต้องการให้ฉันออกหน้ากดดันเขา เพื่อให้เขายกเลิกการดวลไหมคะ?”หลินหยางโบกมือกล่าว “ไม่ต้องหรอก ผมเอาชนะจ้าวเจี้ยนชิงไม่ได้ จะยังเอาชนะเจียงไห่เซิงไม่ได้เหรอ? เขาอย
ขอเพียงแค่เป็นเรื่องส่วนตัว ก็ย่อมมีความคิดเป็นของตัวเอง อารมณ์แบบนี้อดกลั้นเอาไว้นานแล้ว ต้องการแค่เพียงตัวจุดชนวน ก็จะระเบิดออกมาทั้งหมด กลายเป็นการพยศไปโดยปริยายและเขา ก็คือตัวจุดชนวน เมื่อจุดความพยศและการต่อต้านของเฉาเยี่ยนหลิงที่มีต่อการบังคับและจัดแจงแบบนี้ขึ้นแล้วเฉาเยี่ยนหลิงกำลังเล่าถึง รายละเอียดความคับข้องใจที่อยู่ในใจของตนมานานหลายปีด้วยอารมณ์ตึงเครียดปกติเธอไม่มีโอกาสได้ระบายออกมา แล้วก็ไม่มีใครรับฟังเธอระบาย วันนี้ต่อหน้าหลินหยาง เฉาเยี่ยนหลิงก็ไม่อยากเสแสร้งอีกเช่นกันหลินหยางลูบแผ่นหลังของเฉาเยี่ยนหลิงเบา ๆเพื่อปลอบใจเธอ“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ คุณยังวิ่งมาหาผมอีก?”“ฉันเป็นห่วงคุณนี่นา ครั้งนี้คุณล่วงเกินนายพลจ้าว พ่อของฉันไม่มีทางช่วยคุณแน่นอน” เฉาเยี่ยนหลิงกล่าวอย่างร้อนใจ“วางใจ ผมไม่เป็นไร คุณรีบกลับไปเถอะ แต่ว่า ผมขอมอบให้คุณหนึ่งประโยค ชะตาชีวิตของตนเอง ต้องควบคุมด้วยมือของตนเอง อย่าใช้ชีวิตตามกฎที่คนอื่นตั้งไว้ให้คุณ ต้องทำลายกด ทำลายการบังคับ!”เดิมทีเฉาเยี่ยนหลิงก็อยู่ในอารมณ์ต่อต้านถึงขีดสุดอยู่แล้ว ทั้งหลินหยางก็ยังเป็นคนที่เธอเลื่อมใสและชื่นชอบอีก ทำ
หลินหยางรู้ว่าท่าทีของจางซูอวิ๋นที่มีต่อตนเองจากพยายามรักษาความสุภาพกลายเป็นการเตือนที่คุกคามอย่างไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยแบบนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะเขาได้จ้าวเจี้ยนชิง จางซูอวิ๋นคิดว่าเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน แน่นอนว่าก็ไม่จำเป็นต้องมีความเกรงใจใด ๆอีกต่อไป เผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมาทันทีและสิ่งที่หลินหยางถนัดที่สุด ก็คือการตบหน้า โดยเฉพาะการตบหน้าคนที่ปากเสียจริง ๆเขามีความสุขกับการทำเรื่องแบบนี้ ทำไปเรื่อยเปื่อยตามใจชอบการพูดอธิบายง่าย ๆ ทำให้จางซูอวิ๋นที่อยู่ในโทรศัพท์หมดความอดทนทันที!“แกพูดบ้าอะไร? ! ไอ้เดรัจฉาน แกพูดอีกรอบซิ!”จางซูอวิ๋นโกรธจัด ด่าหยาบคายอย่างไม่สนภาพลักษณ์ของตนเองหลินหยางนำมือถือออกจากข้างหู แล้วก็เปิดลำโพง วางไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็ยกมือขึ้น ตบลงไปบนก้นงามงอนของเฉาเยี่ยนหลิงที่กำลังหันใส่ตนเองจนเกิดเสียงดังเผียะเฉาเยี่ยนหลิงร้องออกมาอย่างอดไม่ได้จากนั้นก็วางสายจางซูอวิ๋นที่อยู่ปลายสายอีกด้านไม่รอคำพูดของหลินหยาง ก็มั่นใจแล้ว เนื่องจากเสียงของลูกสาวของตนเอง ทันทีที่เธอได้ยินก็แยกออกทันทีเป็นการตบหน้ากันอย่างโจ่งแจ้ง จะอวดดีเกินไปแล้ว“คนแซ่หลิน แกมั
เฉาเค่อหมิงฟังจบก็อึ้งไปทันที เขาคิดว่าเฉาเยี่ยนหลิงเป็นเพราะหลินหยางหน้าตาหล่อเหลา ทั้งยังมีความสามารถ ดังนั้นเลยเลื่อมใสเขา แต่ไม่คิดเลยว่าเฉาเยี่ยนหลิงได้หลับนอนกับหลินหยางเสียแล้วเขาสามารถอดทนที่เฉาเยี่ยนหลิงชอบหลินหยางได้ สาวน้อยชื่นชอบผู้ชายหล่อก็เป็นเรื่องปกติแต่เขาทนไม่ได้ที่หลินหยางหลอกลูกสาวสุดที่รักของตนขึ้นเตียง“คุณแน่ใจไหม?”เฉาเค่อหมิงกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง“เรื่องแบบนี้ ฉันจะพูดจาเหลวไหลไหม? นี่ก็คือลูกสาวสุดที่รักที่คุณสั่งสอนมา ทำให้พวกเราขายหน้าจนหมดสิ้นแล้ว!”ต่อให้จางซูอวิ๋นจะโมโหมากกว่านี้ ลูกสาวแท้ ๆยังไงก็คือลูกสาวแท้ ๆ เธอพูดต่อ “จะต้องเป็นเพราะไอ้เดรัจฉานแซ่หลินนั่นจะต้องเอายากล่อมประสาทให้เยี่ยนหลิงกินแน่ ฉันเข้าใจลูกสาวของฉันดี ตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยทำเรื่องที่ขัดกับความยินยอมของพวกเราเลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเด็กพยศแบบนี้ ถึงขนาดที่ทำเรื่องแบบนี้ออกมาได้ จะต้องเป็นเพราะหลินหยางทำอะไรบางอย่างแน่ ๆ ด้วยฝีมือทางการแพทย์ของเขา ให้เยี่ยนหลิงกินยากล่อมประสาทไม่ใช่เรื่องยาก”จางซูอวิ๋นยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นแบบนี้ เมื่อเฉาเค่อหมิงได้ยินดังนั้นก็โมโหมาก
เฉาเค่อหมิงกับจางซูอวิ๋นที่อยู่ด้านนอกทำได้เพียงยืนดูลูกสาวสุดที่รักกับหลินหยางแสดงความรักใคร่กันอยู่นอกรั้วเหล็ก“ไอ้ระยำ ฉันจะให้แกไม่ได้ตายดีแน่!”“หลินหยาง แกเปิดประตู ให้ฉันเข้าไปพาตัวเธอไป ฉันจะถือเสียว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้น”เฉาเค่อหมิงระงับความโกรธและความอาฆาตแค้นที่พลุ่งพล่านของตนเองเอาไว้ ตั้งใจว่าจะใช้แผนการถ่วงเวลา ปลอบให้เฉาเยี่ยนหลิงกลับมาแล้วค่อยว่ากัน“ผู้อำนวยการเฉา ฉันขอพูดเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าลูกสาวของคุณอยากกลับไป ก็สามารถกลับไปได้ทุกเมื่อ ผมไม่ขวางอย่างเด็ดขาด เธอมีอิสระ ใครก็ไม่สามารถจำกัดอิสระของเธอได้ทั้งนั้น ผมทำไม่ได้ พวกคุณก็ทำไม่ได้เช่นกัน ประเด็นสำคัญคือ เธอไม่ได้อยากกลับไปกับพวกคุณ”หลินหยางกล่าวอย่างไรเสียก็นับว่าเป็นกึ่งพ่อตาแล้ว หลินหยางเองก็ให้ความอดทนกับความเคารพต่อเฉาเค่อหมิงเป็นอย่างยิ่ง“จ้าวเจี้ยนชิงกำลังจะพาคนมาถึงแล้ว ตอนนี้แกอย่าว่าแต่จะปกป้องใครเลย เพราะตัวเองยังเอาตัวเองไม่รอด แกอยากจะให้ลูกสาวฉันตายไปกับด้วยใช่ไหม?”เฉาเค่อหมิงกล่าวข่มขู่“คุณไม่จำเป็นต้องข่มขู่ผม ผมกล้าพนันเลยว่า จ้าวเจี้ยนชิงไม่มีทางมา เชิญพวกคุณกลับไปเถอะ”เ
เฉาเค่อหมิงกลับไปถึงบนรถ ก็ออกแรงทุบพวงมาลัยรถเพื่อระบายความโกรธ มองออกว่าเขาโมโหมาก อึดอัดมาก โกรธมาก!“ไอ้สารเลว เดรัจฉานระยำ!“คุณมาโมโหอยู่ตรงนี้มีประโยชน์อะไร? ยังไม่รีบคิดหาหนทางเอาลูกสาวกลับคืนมา หากถูกไอ้ทรามชั่วนั่นเล่นอีกสองวัน ลูกสาวของพวกเราได้ถูกทำลายจนป่นปี้แน่! คุณผู้เป็นพ่อ ก็ทำได้เพียงระบายอารมณ์อยู่ตรงนี้อย่างไร้ความสามารถ!”จางซูอวิ๋นเองก็โมโหมากเช่นกัน แต่คุณรู้ว่าตนไม่มีความสามารถช่วยลูกสาวกลับมาได้ ทำได้เพียงระบายอารมณ์ใส่เฉาเค่อหมิงเท่านั้นเช่นกันเฉาเค่อหมิงไม่ได้พูดจา สตาร์ทรถแล้วก็ขับออกจากหมู่บ้านตี้เหา“พ่อกับแม่ของฉันไปแล้วจริง ๆด้วย หลินหยางคุณยอดเยี่ยมเหลือเกิน”เมื่อเฉาเยี่ยนหลิงเห็นรถขับออกไป ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น นี่คือความสำเร็จที่คุณทำตัวพยศใส่พ่อกับแม่ เต็มไปด้วยความรู้สึกประสบความสำเร็จ“ผมเองก็คิดว่าตัวเองยอดเยี่ยมมากเช่นกัน” หลินหยางกล่าวอย่างไม่ถ่อมตัวเลยสักนิดเฉาเยี่ยนหลิงโอบลำคอของหลินหยาง มอบจูบอันแสนหอมหวานพร้อมกล่าว “ขอบคุณนะ ถ้าหากไม่ได้คุณ ฉันก็คงไม่มีความกล้าที่จะต่อต้านพ่อกับแม่ของฉัน คุณทำให้ฉันเติบโต แล้วก็ทำให้ฉันได
ตลอดคืนนี้ เป็นคืนที่นอนไม่หลับสำหรับใครหลาย ๆคนวันที่สอง หลินหยางตื่นแต่เช้าตรู่ เดินไปที่ระเบียงแล้วยืดเส้นยืดสาย เฉาเยี่ยนหลิงที่นอนอยู่บนเตียงกำลังนอนหลับอย่างสบายใจ ลมหายใจสม่ำเสมอถึงแม้ว่าเมื่อคืนจะเหนื่อยมาก ยากลำบากมาก แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการฝึกฝนวรยุทธ์อีกทั้งยังใกล้จะต้องดวลกับเจียงไห่เซิงแล้ว ยิ่งจะเกียจคร้านไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งจะดูถูกศัตรูไม่ได้ถึงแม้ว่าหลินหยางจะมีความมั่นใจมากว่าจะสามารถเอาชนะเจียงไห่เซิงได้ แต่เขาไม่มีทางประมาทคู่ต่อสู้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้ได้ล่วงเกินปรมาจารย์ระดับเก้าอย่างจ้าวเจี้ยนชิงอย่างสมบูรณ์แล้ว มีอันตรายแอบแฝงอยู่ไม่น้อยมีแรงกดดันสองฝั่งของตระกูลฉินกับเหยียนหรูอวี้ ภายนอกจ้าวเจี้ยนชิงทำอะไรเขาไม่ได้ แต่หลินหยางคาดการณ์อย่างมั่นใจว่าจ้าวเจี้ยนชิงไม่มีทางรามือแน่นอน จะต้องออกแผนการอุบายไม่ดีอย่างแน่นอน สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือเพิ่มพละกำลังให้เร็วที่สุดหลังจากปราณสีม่วงมลายหายไป หลินหยางฝึกฝนเนตรคู่เสร็จสิ้นแล้ว ไปขอคำแนะนำจากลั่วหงอวี๋เหมือนเช่นเคย“ปรมาจารย์ลั่ว คุณช่วยเลียนแบบพละกำลังของปรมาจารย์ระดับเก้ามาแลกเปลี่ยนความรู้
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย