หานลี่ฉินรู้สึกหมดคำพูด ทว่าเขาก็ปล่อยวางอย่างรวดเร็ว อย่าว่าแต่หานเซวี่ยอิ๋งไม่เชื่อ แม้แต่เขา หากไม่ได้พบเจอและเห็นด้วยตาตนเอง แต่ได้ยินคนอื่นพูดแทน ก็คงไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาดเช่นกันไม่โทษที่หานเซวี่ยอิ๋งไม่รู้เรื่องรู้ราว แต่เป็นหลินหยางที่เก่งกาจเกินไป!ในขณะที่หานลี่ฉินไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมหานเซวี่ยอิ๋งอย่างไรนั่นเอง ประตูของห้องทำงานก็ถูกผลักออกแล้วหลินหยางเดินตรงเข้ามา“คุณหลิน? อะไรพาคุณมาถึงที่นี่ครับ?” หานลี่ฉินคิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะเดินส่ายอาดๆ เข้ามาในโรงพยาบาลประจำเมืองอย่างเปิดเผย ต้องรู้ว่าในตอนนี้ จ้าวเจี้ยนชิงก็อยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ด้วย“ผมมาไม่ได้หรือ?” หลินหยางพูดพลางยิ้มบางๆ“ความหมายของผมคือ ที่นี่อันตรายมากนะครับ จ้าวเจี้ยนชิงก็อยู่ในโรงพยาบาลด้วยเหมือนกันครับ…” หลินหยางโบกมือพูดว่า “คุณไม่เคยได้ยินคำพูดที่ว่า ที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุดหรือ? ไม่ว่ายังไง จ้าวเจี้ยนชิงก็คงคิดไม่ถึงว่า ผมอยู่ใต้จมูกเขานี่เองใช่ไหมล่ะ?” หลินหยางดึงเก้าอี้มานั่ง หานลี่ฉินรีบส่งสายตาให้หานเซวี่ยอิ๋ง “เซวี่ยอิ๋ง ไปชงชามาให้คุณหลินแก้วหนึ่ง” ทันทีที่หล
“ก็แค่ล้อเล่นเท่านั้น คุณเป็นถึงปรมาจารย์ คงไม่ใจแคบขนาดล้อเล่นด้วยไม่ได้ใช่ไหมคะ?” หานเซวี่ยอิ๋งไม่มีท่าทีขอโทษ หรือรู้สึกผิดเพราะคำตำหนิของหานลี่ฉินแม้แต่น้อย แต่กลับใช้คำพูดโจมตีหลินหยางด้วยหลินหยางก็มองออกแล้ว หานเซวี่ยอิ๋งจัดอยู่ในประเภทดอกไม้เรือนกระจก ถูกปกป้องดีเกินไปจนไม่รู้จักความกาลเทศะ“เธอพูดถูกแล้ว ฉันเป็นคนใจแคบมาก แล้วอีกอย่าง เธอมันระดับไหนกัน มีคุณสมบัติอะไรมาล้อเล่นกับฉัน?” หลินหยางย่อมไม่ตามใจคุณหนูที่ได้รับการทะนุถนอมแบบหานเซวี่ยอิ๋ง สีหน้าของเขาเย็นชา แตกหักทันทีหานเซวี่ยอิ๋งก็คิดไม่ถึงว่า หลินหยางจะไม่ไว้หน้าสาวงามแบบเธอ ทันใดนั้นก็รู้สึกอับอายขึ้นมาแน่นอนว่าหานเซวี่ยอิ๋งย่อมไม่มีทางยอมแพ้แบบนี้ จึงพูดด้วยความอับอายระคนโมโหว่า “คุณช่างไร้มารยาทเหลือเกิน” “เธอจงใจเอาน้ำเดือดมาสาดใส่ฉัน แล้วเธอมาบอกว่าฉันไร้มารยาท?” หลินหยางพูดอย่างเย็นชา“ฉันแค่อยากรู้ว่าคุณเป็นปรมาจารย์จริงไหม ขอแค่คุณเป็นปรมาจารย์จริง ก็ทำร้ายคุณไม่ได้ซะหน่อย” หานเซวี่ยอิ๋งพูดอย่างมั่นใจในเหตุผลของตนมาก“แล้วถ้าฉันไม่ใช่ปรมาจารย์ล่ะ ก็สมควรโดนเธอลวกจนบาดเจ็บหรือ?” “ถ้าคุณไม่ใช
“อย่านะ! อย่านะ! พ่อคะ ช่วยหนูด้วย หนูกลัว!” ในที่สุดหานเซวี่ยอิ๋งก็ทนไม่ไหวแล้ว ด้านหนึ่งร้องไห้ อีกด้านก็โวยวาย น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก“คุณหลินครับ ได้โปรดออมมือด้วยเถิดครับ ผมมีลูกสาวคนนี้เพียงคนเดียว คุณโปรดเมตตาปล่อยเธอไปเถอะครับ ผมขอโทษแทนเธอด้วยครับ” หานลี่ฉินก็หวาดกลัวจนใบหน้าซีดขาว เขาไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่า หลินหยางจะกล้าโยนหานเซวี่ยอิ๋งลงไปจากตรงนี้จริงๆหลินหยางไม่สนใจการขอร้องของหานลี่ฉิน สะบัดมือทีหนึ่ง ก็ผลักหานเซวี่ยอิ๋งลงไปจากระเบียงทันทีหานเซวี่ยอิ๋งตกใจจนกรีดร้องออกมา หานลี่ฉินก็รีบพุ่งเข้าไปทันทีทว่า หานเซวี่ยอิ๋งไม่ได้ตกลงไปจริงๆ หลินหยางจับข้อมือของเธอไว้ แต่นี่ก็ทำให้หานเซวี่ยอิ๋งผวาจนเกือบเป็นลมไป“ช่วยด้วย! ช่วยหนูด้วยค่ะ!” ขาทั้งคู่ของหานเซวี่ยอิ๋งสะบัดไปมาอย่างไร้ทิศทาง ร้องไห้เสียงดังด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อครู่ ในเสี้ยววินาทีนั้น เธอตกใจและหวาดกลัวไปหมด จนเหลวสายหนึ่งไหลลงมาตามขาของเธอในยามที่คนเราหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ก็จะไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้!หานเซวี่ยอิ๋งถูกทำให้ตกใจกลัวจนฉี่ราดแล้ว!“คุณหลินครับ…โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดครับ
“ไป ลูกไปขอโทษคุณหลิงให้ดีๆ” หานลี่ฉินกล่าวหานเซวี่ยอิ๋งถูกหลินหยางทำให้หวาดกลัวจนหัวหด ทั้งเกลียดทั้งกลัวเขา แต่ก็เดินหนีบขาเข้ามาโค้งกายขอโทษหลินหยางโบกมือ ไม่ได้เอาความกับหานเซวี่ยอิ๋งอีก“พ่อคะ พ่อส่งคนไปเอากระเป๋าเดินทางในรถของหนูที หนูจะเปลี่ยนกางเกงค่ะ…” หานเซวี่ยอิ๋งกระซิบเสียงเบาหานลี่ฉินหยิบกุญแจรถของหานเซวี่อิ๋ง มอบให้เลขาไปหยิบกระเป๋าเดินทาง“คุณหลินครับ คุณมีความขัดแย้งอะไรกับคุณชายจ้าวหรือครับ?” หานลี่ฉินอดถามไม่ได้หลินหยางจึงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านพักข้าราชการเกษียณออกมารอบหนึ่ง หานเซวี่ยอิ๋งที่อยู่ด้านข้างก็ฟังตามไปด้วยเงียบๆ“คุณทำร้ายลูกชายของนายพลกองทหารรักษาการณ์จนเจ็บหนัก แค่เพื่อคนไม่รู้จักและไม่สลักสำคัญอะไรคนหนึ่ง?” หานเซวี่ยอิ๋งพูดอย่างประหลาดใจหลินหยางเหลือบมองเธอครั้งหนึ่ง พูดอย่างราบเรียบว่า “ฉันไม่ได้สูงส่งขนาดนั้น ที่ฉันตีมัน ก็ตอนอยู่ต่อหน้าฉันมันโอหังเกินไป” “อย่างนั้น ถ้าคุณรู้ก่อนว่าหมาตัวนั้นเป็นของคุณชายจ้าว คุณจะลงมือไหม” “เธอคิดว่ายังไงล่ะ?” หลินหยางถามกลับหานเซวี่ยอิ๋งเงียบงันไม่กล่าวสิ่งใด แม้สิ่งที่หลินหยางทำกับเธอ
คนหนึ่งคือเจ้าเมืองเหยียนหรูอวี้ อีกคนคือเว่ยจ้ง ผู้นำของสี่ปรมาจารย์แต่ต่อให้เว่ยจ้งมีความสามารถเช่นนั้น ก็ไม่มีความกล้าแบบนั้นแน่จ้าวเจี้ยนชิงพูดด้วยไอสังหารที่ลุกโชนว่า “ตั้งแต่ฉันดูแลกองทหารรักษาการณ์ของเมืองลั่วมา ก็ยังไม่มีหน้าไหนกล้าท้าทายฉันแบบนี้มาก่อน ดี ดีเหลือเกิน ฉันจะต้องให้มันตายอย่างไร้ที่กลบฝังแน่!”หานลี่ฉินรีบมาอย่างเร่งร้อนอีกครั้ง เหงื่อเต็มศีรษะไปหมด ทว่านี่ไม่ใช่เพราะเหนื่อย แต่เป็นเพราะหวาดกลัวต่างหากเขารู้สึกว่าหัวใจของตนใกล้จะรับไม่ไหวแล้ว จ้าวเจิ้งฮ่าวยังผ่าตัดอยู่เลย รองแม่ทัพของจ้าวเจิ้ยนชิงก็มาชีวิตร่อแร่อีก นี่ยังจะให้คนมีชีวิตอยู่อีกไหม?พี่น้องทั้งหลาย ใครจะรู้บ้างว่า!ตนไม่อยากเป็นแล้วไอ้ผอ.โรงพยาบาลนี่ เหนื่อยเหลือเกิน ถล่มแม่งไปเลยเถอะ!หานลี่ฉินไม่เคยรู้สึกกดดันมากเช่นนี้มาก่อนเลย“รีบไปช่วยชีวิตเดี๋ยวนี้ ห้ามให้เขาตายเด็ดขาด!”จ้าวเจี้ยนชิงคว้าคอเสื้อของหานลี่ฉิงขึ้นมา พลังกดดันและไอสังหารสุดเผด็จการทำให้หานลี่ฉินแทบจะฉี่ราดกางเกง“พวกเรา…จะพยายามสุดกำลังแน่นอนครับ”หานลี่ฉินกล่าวเพี๊ยะ!จ้าวเจี้ยนชิงตบหน้าหานลี่ฉินทีหนึ่ง หมอที่อย
ในไม่ช้า เลขาของเหยียนหรูอวี้ก็นำผลการตรวจสอบเดินเข้ามาในห้องทำงานอีกครั้ง และรายงานต่อเหยียนหรูอวี้“ที่แท้ก็ต้องการจะจับเขา” เมื่อเหยียนหรูอวี้ฟังรายงานจบ ก็ตกอยู่ในภวังค์แห่งความคิด"นอกจากนี้ยังมีอีกข่าวค่ะ เจียงไห่เซิงส่งหนังสือท้าประลองให้หลินหยาง อีกสองวันนัดตัดสินเป็นตายที่ทะเลสาบเฉาอินค่ะ” เลขากล่าวต่อ“เขาช่างก่อเรื่องเก่งจริงๆ ก่อนหน้าล่วงเกินเจียงไห่เซิง ตอนนี้ยังล่วงเกินจ้าวเจี้ยนชิงอีก คงเบื่อว่าตัวเองอายุยืนยาวจริงๆ” เหยียนหรูอวี้กล่าว“ท่านเจ้าเมืองคะ อย่างนั้นพวกเราจะให้ความร่วมมือกับนายพลจ้าวไหมคะ?” เลขาถามเวลานั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเหยียนหรูอวี้ก็ดังขึ้นมา สายเรียกเข้าแสดงชื่อของจ้าวเจี้ยนชิงเหยียนหรูอวี้โบกมือให้เลขาถอยออกไป ไม่ได้รีบแสดงออกว่าจะสนับสนุนจ้าวเจี้ยนชิงในการจับกุมตัวหลินหยางหรือไม่“เจ้าเมืองเหยียน ในเมืองลั่วมีคนร้ายที่เลวทรามต่ำช้ามากคนหนึ่ง มันทำร้ายลูกชายกับรองแม่ทัพของผมแล้วหนีไป ผมจะส่งทหารรักษาการณ์ไปตามจับมัน หวังว่าทางคุณจะประสานให้หน่วยตรวจสอบออกมาปิดเมือง และประกาศใช้เคอร์ฟิวเพื่อไล่ล่าคนคนนี้"เดิมจ้าวเจี้ยนชิงไม่คิดจะโทรหาเหย
“ผอ.หานต้องขอโทษด้วย สร้างปัญหาให้คุณแล้ว ผมทำร้ายคนจนบาดเจ็บ เลยทำให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้มพลางตบไหล่หานลี่ฉินหานลี่ฉินได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น ทว่า หานเซวี่ยอิ๋งที่อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นกระโปรงเรียบร้อยแล้วกล่าวแทรกว่า “เรื่องนี้จะโทษคุณได้ยังไง? คุณไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ ผดุงความยุติธรรมอย่างกล้าหาญ นี่ถือเป็นคุณธรรมอันดีงาม ตัวต้นเหตุคือนายพลจ้าวของกองทหารรักษาการณ์คนนั้นต่างหาก เขาถืออำนาจบาตรใหญ่รังแกคน เผด็จการไร้มารยาท อีกเดี๋ยวฉันจะไปสัมภาษณ์เหยื่อ แล้วเขียนรายงานฉบับหนึ่งเพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ออกไป และร้องเรียนเรื่องที่จ้าวเจี้ยนชิงใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้วย! นอกจากนี้ จะรณรงค์ให้ทุกคนเรียนรู้จากคุณหลิงด้วย”คำพูดพวกนี้ของหานเซวี่ยอิ๋ง ทำให้หลินหยางงุนงงไปหมด“เธอกินยาผิดเหรอ?” หลินหยางถามอย่างสงสัย“คุณหลินคะ เมื่อครู่ฉันไปทบทวนตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นฉันผิดเอง ฉันชื่นชมคนแบบคุณมาก สังคมในตอนนี้ ทุกคนต่างเมินเฉยไม่ให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอีก ยุคสมัยนี้ต้องการคนแบบคุณเพิ่มขึ้นจริงๆ ค่ะ …”หานเซวี่ยอิ๋งเผยความชื่นชมนับถือต่อหลินหยางออกมา ชมออ
หลินหยางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า จะได้แฟนคลับไร้สมองมาคนหนึ่ง“เฮ้อ…เดิมอยากจะทำตัวโลว์โปรไฟล์สักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเธอมองออกซะได้ ไม่ผิด ฉันก็คือตัวแทนของความยุติธรรม ตั้งแต่เด็กก็สาบานว่าจะกำจัดความอยุติธรรมทั้งมวลในโลกนี้”หลินหยางก็คร้านที่จะอธิบายแล้ว ในเมื่อหานเซวี่ยอิ๋งปรารถนาจะชื่นชมเขาแบบนี้ แล้วเขาจะทำใจทำลายจินตนาการของหานเซวี่ยอิ๋งลงได้ยังไง?อย่างไรก็ตาม มีแค่เขาที่รู้แก่ใจว่า ที่ลงมือในตอนนั้นก็เป็นเพราะบังเอิญเจอเข้าพอดี ถ้าเขารู้แต่แรกว่าหมาตัวนั้นเป็นของลูกชายของจ้าวเจี้ยนชิง เขาไม่มีทางเตะมันตายในเท้าเดียวแน่แน่นอนว่า ที่ต่อมาซ้อมจ้าวเจิ้งฮ่าวจนบาดเจ็บ ก็เป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวปากสวะ ผยองต่อหน้าเขาเกินไปส่วนที่เขากล้าทำแบบนั้น ก็เพราะตนเองมีคนหนุนหลังเช่นกันเนื่องจากตอนนี้เขามีตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางอยู่เบื้องหลัง จึงไม่กริ่งเกรงต่อจ้าวเจี้ยนชิงนักแม้จ้าวเจี้ยนชิงจะมีฐานะสูงส่งเป็นถึงนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์ ทว่าเมื่อเปรียบกับตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางแล้ว ก็ไม่นับเป็นอะไรได้ผยองก็ส่วนผยอง แต่ก็ต้องประเมินความสามารถกับไพ่ตายที่ตนมีอยู่ด้วยเช่นกัน“ดังนั้น คุณส
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย