“ผอ.หานต้องขอโทษด้วย สร้างปัญหาให้คุณแล้ว ผมทำร้ายคนจนบาดเจ็บ เลยทำให้คุณพลอยเดือดร้อนไปด้วย”หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้มพลางตบไหล่หานลี่ฉินหานลี่ฉินได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่น ทว่า หานเซวี่ยอิ๋งที่อาบน้ำและเปลี่ยนเป็นกระโปรงเรียบร้อยแล้วกล่าวแทรกว่า “เรื่องนี้จะโทษคุณได้ยังไง? คุณไม่เกรงกลัวต่ออำนาจ ผดุงความยุติธรรมอย่างกล้าหาญ นี่ถือเป็นคุณธรรมอันดีงาม ตัวต้นเหตุคือนายพลจ้าวของกองทหารรักษาการณ์คนนั้นต่างหาก เขาถืออำนาจบาตรใหญ่รังแกคน เผด็จการไร้มารยาท อีกเดี๋ยวฉันจะไปสัมภาษณ์เหยื่อ แล้วเขียนรายงานฉบับหนึ่งเพื่อเปิดโปงเรื่องนี้ออกไป และร้องเรียนเรื่องที่จ้าวเจี้ยนชิงใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวด้วย! นอกจากนี้ จะรณรงค์ให้ทุกคนเรียนรู้จากคุณหลิงด้วย”คำพูดพวกนี้ของหานเซวี่ยอิ๋ง ทำให้หลินหยางงุนงงไปหมด“เธอกินยาผิดเหรอ?” หลินหยางถามอย่างสงสัย“คุณหลินคะ เมื่อครู่ฉันไปทบทวนตัวเองแล้ว ก่อนหน้านี้เป็นฉันผิดเอง ฉันชื่นชมคนแบบคุณมาก สังคมในตอนนี้ ทุกคนต่างเมินเฉยไม่ให้ความสำคัญกับความยุติธรรมอีก ยุคสมัยนี้ต้องการคนแบบคุณเพิ่มขึ้นจริงๆ ค่ะ …”หานเซวี่ยอิ๋งเผยความชื่นชมนับถือต่อหลินหยางออกมา ชมออ
หลินหยางคิดไม่ถึงจริงๆ ว่า จะได้แฟนคลับไร้สมองมาคนหนึ่ง“เฮ้อ…เดิมอยากจะทำตัวโลว์โปรไฟล์สักหน่อย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเธอมองออกซะได้ ไม่ผิด ฉันก็คือตัวแทนของความยุติธรรม ตั้งแต่เด็กก็สาบานว่าจะกำจัดความอยุติธรรมทั้งมวลในโลกนี้”หลินหยางก็คร้านที่จะอธิบายแล้ว ในเมื่อหานเซวี่ยอิ๋งปรารถนาจะชื่นชมเขาแบบนี้ แล้วเขาจะทำใจทำลายจินตนาการของหานเซวี่ยอิ๋งลงได้ยังไง?อย่างไรก็ตาม มีแค่เขาที่รู้แก่ใจว่า ที่ลงมือในตอนนั้นก็เป็นเพราะบังเอิญเจอเข้าพอดี ถ้าเขารู้แต่แรกว่าหมาตัวนั้นเป็นของลูกชายของจ้าวเจี้ยนชิง เขาไม่มีทางเตะมันตายในเท้าเดียวแน่แน่นอนว่า ที่ต่อมาซ้อมจ้าวเจิ้งฮ่าวจนบาดเจ็บ ก็เป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวปากสวะ ผยองต่อหน้าเขาเกินไปส่วนที่เขากล้าทำแบบนั้น ก็เพราะตนเองมีคนหนุนหลังเช่นกันเนื่องจากตอนนี้เขามีตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางอยู่เบื้องหลัง จึงไม่กริ่งเกรงต่อจ้าวเจี้ยนชิงนักแม้จ้าวเจี้ยนชิงจะมีฐานะสูงส่งเป็นถึงนายพลแห่งกองทหารรักษาการณ์ ทว่าเมื่อเปรียบกับตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยางแล้ว ก็ไม่นับเป็นอะไรได้ผยองก็ส่วนผยอง แต่ก็ต้องประเมินความสามารถกับไพ่ตายที่ตนมีอยู่ด้วยเช่นกัน“ดังนั้น คุณส
ทว่า เรื่องนี่ไม่สำคัญแล้ว แค่หยุดไม่ให้ลูกสาวของเขาทำอะไรโง่ๆ ได้ก็พอ“ฟังพ่อของเธอ เรื่องทั้งหมดนี้มอบให้ฉันเป็นคนแบกรับไว้เอง” “ได้ค่ะ ฉันจะเชื่อฟังคุณทุกอย่าง ฉันจะค่อยๆ เก็บรวบรวมกำลัง ขยายขบวนการของเรา ให้โลกนี้มีความยุติธรรมไปทั่วทุกหนทุกแห่ง กลายเป็นสถานที่ที่ดีกว่าเดิมค่ะ” หานเซวี่ยอิ๋งกำหมัดสีชมพูของเธอ กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจหลินหยางพยักหน้าอย่างพอใจ พูดกับหานลี่ฉินว่า “พาผมไปที่ห้องผู้ป่วย ไปเจอแม่ของเด็กสาวตัวน้อยซะหน่อย” หานลี่ฉินส่งสายตาขอบคุณให้หลินหยาง แล้วพาหลินหยางไปที่ห้องผู้ป่วย หานเซวี่ยอิ๋งก็ตามติดก้นของหลินหยางไปอย่างไม่ยอมคลาดแม้แต่ก้าวเดียวเมื่อก่อน ความฝันของเธอคือการเป็นพิธีกรชั้นแนวหน้า เป็นพิธีกรที่ดีที่สุด แต่ตอนนี้ความฝันของเธอเปลี่ยนไปแล้ว ในชีวิตนี้ เธอหวังเพียงได้มีโอกาสติดตามข้างกายทูตแห่งความยุติธรรม ต่อให้ไม่ได้ทำสิ่งใดเลย หรือปล่อยทุกเรื่องให้หลินหยางเป็นคนจัดการ ขอเพียงทุกวันได้มองเขาทำงานและพูดคุย แค่นั้นก็ถือเป็นความสุขอย่างยิ่งแล้วและตอนนี้ เธอก็ได้พบคนเช่นนี้แล้วหานเซวี่ยอิ๋งรู้สึกว่าตนโชคดีมาก ที่ได้พบกับแนวทางและความหมายของชีว
“ใช่แล้ว ผมเห็นว่าคุณก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน โดยเฉพาะใบหน้า อาจจะทิ้งรอยแผลเป็นเอาไว้ กลับไปผมจะปรุงยาทาแบบหนึ่งให้คุณ สามารถกำจัดรอยแผลเป็นได้”หลินหยางรู้ว่าบนร่างกายของหลี่หรุ่นจูก็ถูกสุนัขกัดจนเหวอะเช่นกัน รอยแผลบนใบหน้าเห็นชัดเจนเป็นอย่างยิ่งผู้หญิงที่หน้าสะสวยคนหนึ่ง ไม่ควรถูกสุนัขกัดทำลาย นั่นถือเป็นความน่าละอายใจอย่างหนึ่งหลินหยางเองก็คิดไม่ถึงว่า พนักงานภายในบ้านพักทหารคนหนึ่ง จะมีโฉมหน้าที่สุดยอดขนาดนี้หลี่หรุ่นจูคลำผ้าพันแผลบนใบหน้า กล่าวอย่างประหลาดใจ “สามารถกำจัดรอยแผลเป็นได้หมดจริงเหรอคะ?”ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่รักสวยรักงาม ไม่ใส่ใจใบหน้าของตนเอง ผู้หญิงหน้าตายิ่งสวย ก็ยิ่งใส่ใจเดิมทีเธอตั้งใจว่าหลังจากนี้จะสวมหน้ากากไปตลอด ตอนนี้ได้ยินว่าหลินหยางสามารถกำจัดรอยแผลเป็นได้ ก็ยิ่งดีใจจนออกนอกหน้าหลินหยางพยักหน้ากล่าว “แน่นอนครับ”“ขอบคุณค่ะ!”หลี่หรุ่นจูกล่าวขอบคุณอีกครั้งในเวลานี้โทรศัพท์มือถือของหานลี่ฉินดังขึ้น หลังจากที่เขารับโทรศัพท์ ก็กล่าวด้วยสีหน้าที่ดูแย่ “คุณหลิน ตอนที่สาวน้อยถูกเข็นออกมาจากห้องผ่าตัด ได้ถูกนายพลจ้าวจับกุมตัวเอาไว้”หลี่หรุ่นจูกล่าว
ถึงแม้ว่าจะเป็นหัวหน้าตระกูลของวงศ์ตระกูลมู่หรงออกหน้า ยังไม่แน่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะยอมรามือ“ผมไม่มีทางทำให้ตระกูลมู่หรงลำบากใจ คุณโทรศัพท์หาฉินอี๋หลิง ถึงเวลาที่เธอจะคืนน้ำใจของผมแล้ว” หลินหยางกล่าวมู่หรงยิ่นเข้าใจความหมายของหลินหยางทันที“ไม่คิดเลยว่าฉันจะลืมฉินอี๋หลิงไปเสียได้ หน้าของตระกูลมู่หรง จ้าวเจี้ยนชิงไม่ให้ได้ แต่หน้าของตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยาง ยังไงจ้าวเจี้ยนชิงก็ต้องลองชั่งน้ำหนักบ้างละ”มู่หรงยิ่นกล่าว“ให้เธอรีบมา ถ้าหากผมต้องตาย ต่อไปเธอได้รับผื่นพิษโลหิตอีก บนโลกนี้ก็ไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตเธอได้อีกแล้ว”หลินหยางถืออโอกาสให้ความกดดันฉินอี๋หลิงเพิ่มเล็กน้อย“ตัวคุณเองก็ต้องระวังหน่อยละ เรื่องนี้ฉันไม่สะดวกออกหน้าจริง คุณโปรดเข้าใจฉันด้วย”มู่หรงยิ่นอธิบายเพิ่มอีกหน่อย แล้วถึงได้วางสายไปการเผชิญหน้ากับจ้าวเจี้ยนชิง หลินหยางเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าตระกูลมู่หรงจะช่วยเหลือได้หลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว หลินหยางถึงได้กดปุ่มประตูลิฟต์ เดินเข้าไปในลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นห้องผ่าตัดด้านนอกห้องผ่าตัด หลี่เสี่ยวเชวี่ยลูกสาวของหลี่หรุ่นจูนอนอยู่บนรถเข็น ด้านข้างมีพลทหารกองทหารร
เห็นได้ชัดมากว่าจ้าวเจี้ยนชิงก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่า หลินหยางจะเป็นฝ่ายมาหาถึงที่หลินหยางเดินเข้ามาอย่างอกผายไหล่ผึ่ง “คารวะนายพลจ้าว”“ไอ้เดรัจฉาน แกกล้ามากเลยนี่ ที่กล้ามาปรากฏตัวต่อหน้าของฉัน”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยอารมณ์อาฆาต“พูดเกินไปแล้ว ผมก็แค่มาดูเท่านั้น ว่าลูกชายของท่านตายหรือยัง”หลินหยางพูดเสียงเรียบสีหน้าของจ้าวเจี้ยนชิงอึมครึมทันที “แกรนหาที่ตาย!”จ้าวเจี้ยนชิงพูดจบ กำหมัดแน่นพุ่งโจมตี หลินหยางใช้วิชาอสนีบาตสามสหัสสะทันที หลบเลี่ยงการโจมตีของจ้าวเจี้ยนชิง“เจี้ยนชิง อย่ากระทืบมันตายละ”จ้าวสือม่าวกล่าวเตือนสติจ้าวเจี้ยนชิงลงมืออีกครั้ง การเคลื่อนไหวว่องไว พลังหมัดรุนแรง แสดงถึงความแข็งแกร่งของปรมาจารย์ระดับเก้าหลินหยางรู้ว่าการเผชิญหน้ากับศัตรูตรง ๆไม่สามารถเอาชนะได้ ทำได้แค่เพียงใช้วิชาอสนีบาตสามสหัสสะหลบเลี่ยงแต่จ้าวเจี้ยนชิงเคลื่อนไหวเร็วมาก ราวกับพายุ หลินหยางเองก็ไม่สามารถอาศัยแค่เพียงวิชาอสนีบาตสามสหัสสะที่เอาชนะมาโดยตลอด โดนฝ่ามือของจ้าวเจี้ยนชิง ก็ถอยไปด้านหลังทันทีปรมาจารย์ระดับเก้า พละกำลังมากมายมหาศาล กำลังของหมัดเดียวก็เกินหมื่นกิโลกรัมแล้ว
อายุยี่สิบต้น ๆ พละกำลังระดับปรมาจารย์ แบบนี้ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง“ฝ่ามือกลางหาว!”หลินหยางขยับร่างกาย ใช้ฝ่ามือกลางหาว จ้าวเจี้ยนชิงกำหมัดเหล็กทันที แล้วโจมตีพลังของฝ่ามือกลางหาวแหลกละเอียดจ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “พลังหมัดระยะไกล?! วรยุทธ์ขั้นเสวียน!”ขนาดเฉิงคั่วยังจำได้ว่าฝ่ามือกลางหาวคือวรยุทธ์ขั้นเสวียน จ้าวเจี้ยนชิงดูแวบเดียวก็ย่อมจำได้“อยากเรียนเหรอ? คุกเข่าลงไปโคกหัวคำนับอาจารย์ ผมจะสอนคุณเอง!”หลินหยางพูดจาอย่างดูถูกต่อไป กวนให้อารมณ์ของจ้าวเจี้ยนชิงมัวหมองจ้าวเจี้ยนชิงแสยะยิ้ม “จับตัวแกได้แล้ว วรยุทธ์ขั้นเสวียนย่อมเป็นของฉันแน่นอนอยู่แล้ว! วรยุทธ์ขั้นเสวียนอยู่ในมือแก เป็นการสิ้นเปลืองจริง ๆ!”จ้าวเจี้ยนชิงมีความปรารถนาต่อวรยุทธ์ขั้นเสวียนเป็นอย่างยิ่ง ตอนนี้เขาเป็นปรมาจารย์ขั้นเก้าแล้ว อีกขั้นเดียวก็ก้าวเข้าสู่ขั้นเสวียนแล้ว กลายเป็นปรมาจารย์เสวียนแต่เขาไม่มีวรยุทธ์ขั้นเสวียน ดังนั้นจึงติดอยู่ที่ขั้นสัจจะระดับเบิกฟ้า ไม่สามารถก้าวออกจากขั้นนี้ไปได้และตอนนี้ การปรากฏตัวของหลินหยาง ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงมองเห็นความหวัง“ดูท่า แกจะเป็นขอ
“เหยียนหรูอวี้ คุณคิดว่าผมกลัวคุณใช่ไหม? กองทหารรักษาการณ์ของผมต้องการจับตัวใคร ยังไม่ใช่หน้าที่ที่คุณต้องมายุ่ง การเป็นศัตรูกับผม คุณยังไม่มีความสามารถมากพอ!”จ้าวเจี้ยนชิงโมโหทันที ฉีกหน้าเหยียนหรูอวี้ทันที“เรื่องนี้ ฉันไม่ยุ่งไม่ได้”ท่าทีของเหยียนหรูอวี้แข็งกร้าวมาก ปกป้องหลินหยางอย่างแน่นหนาจ้าวเจี้ยนชิงกล่าวพร้อมรอยยิ้มโมโห “ดี! ดีมาก! ผมจะดูว่าคุณจะปกป้องเขาเอาไว้ได้อย่างไร!”พูดจบ ก็พูดกับลูกน้อง “ถ่ายทอดคำสั่งลงไป เรียกระดมกองทหารรักษาการณ์ ล้อมโรงพยาบาลเอาไว้ จับตัวหลินหยาง ใครที่ขัดขวาง ฆ่าไม่เว้น!”ว่าตามพละกำลัง เขากับเหยียนหรูอวี้ล้วนเป็นปรมาจารย์ระดับเก้า สูสีกันแต่จ้าวเจี้ยนชิงควบคุมกองทหารรักษาการณ์ แม้ว่าเหยียนหรูอวี้จะเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่หน่วยรักษาความปลอดภัยเมือง ก็สกัดกั้นเอาไว้ไม่อยู่”“นายกเทศมนตรีเหยียน แล้วถ้ารวมกับฉันล่ะ?”ในเวลานี้ ฉินอี๋หลิงมาถึงแล้วเช่นกัน“คุณเป็นใครอีก?”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวเสียงเย็นชา“ฉินอี๋หลิง ตระกูลฉินแห่งเฟิ่งหยาง”ฉินอี๋หลิงเอ่ยถึงตระกูลของตัวเองทันทีเมื่อจ้าวเจี้ยนชิงได้ยินฉินอี๋หลิงเอ่ยตัวตนออกมา ใบหน้าถอดสีจริง
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย