กระบวนท่าผนึกลิงเฒ่าเป็นหนึ่งในสุดยอดกระบวนท่าในฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์ พลังทำลายแข็งแกร่ง เติ้งจิงขุยถูกกระบวนนี้ ลอยกระเด็นออกไป เลือกพลุ่งพล่านเต็มลำคอ แต่ถูกเขาพยายามกลืนกลับลงไปเติ้งจิงขุยพุ่งทะยานตัว พลิกตัวกลับ จ้าวเหวยหมิงโจมตีเป้าหมายไม่หยุด ในทางกลับกันยังโจมตีกลับไปอีกครั้งเติ้งจิงขุยลุกขึ้นแต่ไม่ทันป้องกันตัว ทำได้เพียงเอามือทั้งสองข้างป้องกันที่บริเวณหน้าอกเอาไว้เท่านั้น ถูกจ้าวเหวยหมิงใช้ฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์โจมตีลอยกระเด็นออกไปอีกครั้ง กระแทกเข้าเสาหินที่ประตูเสียงดังกร๊อบ!กระดูกบนร่างกายของเติ้งจิงขุยหักหลายท่อน ครั้งนี้อดทนไม่ไหวอีกต่อไป พ่นเลือดคำโตออกมา ราวกับว่าสูญเสียกำลังรบไปแล้ว“ถึงแม้ว่าจะเป็นระดับแปดเหมือนกัน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉันอยู่ดี นี่ก็คือความแตกต่างของการวิชาการต่อสู้ของจีนกับวิชาการต่อสู้ของต่างประเทศ นี่ก็คืออานุภาพของฝ่ามือแปดอัฏลักษณ์สกุลเฉิงจ้าวเหวยหมิงเห็นว่าเติ้งจิงขุยได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่ได้ลงมืออีกต่อไปถึงอย่างไรเติ้งจิงขุยในเวลานี้ จะอยู่หรือตายได้ถูกเขาควบคุมเอาไว้ในกำมือแล้วแพ้เป็นพระ ชนะเป็นมาร ในเมื่อแพ้แล้ว เติ
“เว่ยต้ากัง ทำไมอาการบาดเจ็บของคุณหายเร็วจัง? จะรีบมาตายเหรอ?”หลินหยางชำเลืองมองเว่ยต้ากัง“ไปแม่มึงสิ! ไอ้เชี่ยเอ้ย! วันนี้คุณชายสามจ้าวยังอยู่ที่นี่ ไม่งั้นแกได้ตายแบบไม่มีที่ฝังศพอยู่ที่นี่แน่!”เว่ยต้ากังโกรธจนขึ้นหน้า กัดฟันพูด “ก็ขึ้นอยู่กับเขาเหรอ?” หลินหยางเบี่ยงเบนความสนใจไปที่ร่างของจ้าวเหวยหมิง “คุณคือหลินหยางใช่ไหม? ทำไม? คุณคิดว่าผมจะลงมือเอง แล้วยังฆ่าคุณอีกเหรอ?”จ้าวเหวยหมิงกล่าว“คุณไม่พอ ถ้าวันนี้เฉิงคั่วไม่มาเอง อาจจะไม่มีโอกาสก็ได้”หลินหยางกล่าวอย่างตรงไปตรงมาก่อนหน้านี้ปราณแท้ของเขาเคยสูญเปล่า หากว่าไม่มีเฉิงคั่วจริง ๆ เขาคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่เป็นคู่ต่อสู้ ทั้งยังหนีไม่รอดอีก แต่ในขณะนี้ แม้ว่าเฉิงคั่วจะมาเองแล้ว ก็พ่ายแพ้ราบคาบ!แม้ว่าระดับของเขาจะต่ำกว่าเฉิงคั่วถึงห้าระดับก็ตาม แต่สำหรับพลังด้านการต่อสู้ที่แท้จริง ก็ไม่ได้วัดกันที่ระดับเสมอไปหลินหยางมีความมั่นใจนี้ จนเขาสามารถโจมตีปรมาจารย์ระดับห้าจนพ่ายแพ้ได้! “ขี้โม้หน้าไม่อาย! คุณคิดว่าคุณเป็นใคร? แถมยังอยากให้ท่านปรมาจารย์ลงมือเองอีก? คุณมีสิทธิ์อะไรไปแตะต้องเขา”จ้าวเหวยหมิงหัวเราะเหน
“แก! นี่แกเป็นปรมาจารย์เหรอ!”หน้าของจ้าวเหวยหมิงสะท้านไปด้วยสีหน้าแห่งความตื่นเต้นและประหลาดใจ ดวงตาเบิกโพลงโต ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ เขาชัดเจนมากในพลังอำนาจของฝ่ามือม้าป่า แม้แต่รุ่นพี่ของเขาสื่อเหวยจวินซึ่งเป็นปรมาจารย์ระดับเก้ายังไม่อาจต้านทานได้อย่างง่ายดาย ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากการต่อต้านเช่นนี้แล้วไม่มีทางไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ เลย ไม่มีแม้แต่ร่องรอย ในทางกลับกันยังทำให้ตัวเองสะท้านถอยไปด้านหลังได้ เว้นแต่ว่าเป็นท่านปรมาจารย์!ปรมาจารย์จะมีปราณแท้ที่ปกป้องร่างกาย ตราบใดที่ปราณแท้ยังไม่เหี่ยวเฉา เพียงแค่ยืนขึ้นแล้วใช้มานะสร้างระดับสูงลงมือ ก็ไม่ได้รับการบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย แต่จ้าวเหวยหมิงก็ยากที่จะเชื่อว่า พ่อหนุ่มอายุน้อยที่อยู่ต่อหน้าเขาตรงนี้ หลินหยางที่เพียงยี่สิบต้น ๆ จะเป็นปรมาจารย์ฝึกยุทธได้ “นี่มันเป็นไปไม่ได้! ที่เมืองลั่วมีปรมาจารย์เพียงแค่สี่ท่านเท่านั้น นอกจากปรมาจารย์ทั้งสี่ท่านนี้แล้ว ก็มีเพียงแค่นายกรัฐมนตรีเมืองเหยียนและนายพลจ้าวแห่งกองทหารรักษาการณ์เท่านั้นที่เป็นปรมาจารย์ ”แม้ว่าความเป็นจริงจะปรากฏต่อหน้าต่อตาแล้ว แต่จ้าวเหวยหมิงก็ยังคงไม่เชื่อ ถ้า
เว่ยต้ากังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา ทำได้เพียงแค่มองเท้าของหลินหยาง จนตรอกราวกับสุนัข“ปรมาจารย์หลิน ท่านช่างใจกว้าง โปรดไว้ชีวิตข้าด้วยเถิด ถือซะว่าเห็นแก่หน้าคุณหนูหว่านฉิงเถอะขอรับ ให้อภัยชีวิตของหมาตัวผมยินดีสละทรัพย์สินทั้งหมดของผมเพื่อไถ่ชีวิตตัวเองไว้”เว่ยต้ากังคิดอย่างชัดเจนแล้ว ว่าจะอามารถออกไปได้เพียงแค่คำพูดนี้เท่านั้น เขาจะรีบเก็บเงินแล้วออกไปจากเมืองลั่วแห่งนี้ แล้วจะไม่กลับมาอีก “หน้าของตระกูลเฉิง ผมให้ได้ แต่หน้านี้ แลกได้เพียงแค่การตายของจ้าวเหมยหมิงเท่านั้น ไม่งั้นก็แลกกับชีวิตหมา ๆ ของคุณ ส่วนทรัพย์สินของคุณน่ะ ยังไม่ได้อยู่ในสายตาของผม”หลังจากที่หลินหยางพูดคำนี้ออกไป ก็ไม่ได้ให้อกาสเว่ยต้ากังพูดอีก ผ่ามือข้างหนึ่งตบเข้าที่หน้าผากของเว่ยต้ากัง จากนั้นเว่ยต้ากังก็สิ้นชีพทันที ร่างของเขาล้มลงบนพื้น ทั่วทั้งร่างไม่ได้มีบาดแผลใด ๆ ซุนเป้าและลูกสมุนทั้งสี่คนต่างก็ได้เห็นการตายอันน่าสลดของเว่ยต้ากังต่อหน้าต่อตา ก็พากันกลัวจนหมดสติไป นี่ก็คือสถานะและความน่าเกรงขามของปรมาจารย์ ครอบงำด้านหนึ่ง มีอธิพลต่อความเป็นความตายพวกเขาทั้งห้า ไม่สามารถทำตัวเองให้มั่นคงได้ เป
“ท่าน... ท่านถามาได้เลยครับ ผมจะพูดทุกอย่างที่ผมรู้อย่างแน่นอน”ซุนเป้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ทั้งยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามอง "ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง พ่อของเธอเป็นที่หมายหัวของเว่นต้ากัง ติดหนี้นอกระบบพวกคุณอยู่หลายสิบล้าน..."“เรื่องนี้ผม... ผมรู้ คือนายน้อยเว่ย.... ไม่ คือเว่ยต้ากังสั่งให้ผมเป็นคนจัดการ คนที่ถูกหมายหัวคือหลินหย่วนจื้อเถ้าแก่บริษัทฉางหยวน เว่ยต้ากังเล็งไปที่ลูกสาวของเขา แล้วก็ยังมีพื้นที่กว้างใหญ่ของโรงงานในบริษัทพวกเขาอีกด้วย”ซุนเป้าไม่กล้าปิดบังอะไร จึงได้แต่พูดความจริงออกมา “ผมไม่ฆ่าคุณหรอก คุณจัดการเรื่องในให้หมดจดซะ”หลินหยางที่เพิ่งฆ่าเว่ยต้ากังไป หนึ่งคือด้วยความสามารถของปรมาจารย์ อย่างที่สองก็เพื่อช่วยหลินหยี่โม่แก้ปัญหาเมื่อซุนเป้าได้ยินว่าเขามีโอกาสรอดชีวิต อย่างนั้นจะกล้าลังเลได้อย่างไร “เรื่องที่ดอกเบี้ยเกินอัตรา ผมแก้ไขไปได้แล้ว ดังนั้นพวกสัญญาผมก็ทำลายไปหมดแล้ว อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมรู้ แท้จริงแล้วคนนั้นที่ต้องการที่ดินของบริษัทฉางหยวน ไม่ใช่เว่ยต้ากัง แต่กลับเป็นเฉิงว่านฉิง”ซุนเป้าอธิบายทุกอย่างโดยละเอียด“แม่ม่ายดำแห่งอาณาเขตทั้งสี่เมื
ถ้าเปลี่ยนเป็นคนโง่เง่า คนที่มองโลกในแง่ดี แต่เขาอาจไม่เต็มใจที่จะแบ่งปันวิชาการต่อสู้ของจีนอันล้ำค่าของเขากับผู้อื่นแม้ว่าวิชาการต่อสู้นี้จะเป็นของขวัญจากหลินหยาง แต่ในตอนนี้เป็นของตระกูลมู่หรง นั่นคือสิ่งที่สามารถถ่ายทอดต่อกันได้ แล้วจะแบ่งปันสู่ผู้อื่นง่าย ๆ ได้อย่างไร ในใจคงไม่เป็นสุขอย่างแน่นอนแต่มู่หรงยิ่นก็ฉลาดเป็นกรด จึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป แต่กลับเข้าใจในเจตนาดีของหลินหยาง แม้ว่าตระกูลมู่หรงในเมืองลั่วแห่งนี้จะมีสถานะที่ใหญ่โต เป็นครอบครัวไฮโซ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังคงต้องพึ่งพาชื่อเสียงของตระกูลมู่หรงอยู่ดี ต้นสายปลายเหตุของตระกูลมู่หรงที่บางอย่างที่ขาดหายไป จะมีก็เพียงแต่ยอดฝีมือระดับหกอย่างเจียงจั่วเฟิง “คุณเต็มใจมอบตัวกับผมแล้ว ผมก็จะแสดงให้คุณเห็น ว่านี่คือค่าตอบแทนซึ่งกันและกัน”หลินหยางล้อเล่น“ถ้าฉันไม่อยากผูกมัดตัวเองกับคุณไว้ คุณก็จะไม่ช่วยเหลือตระกูลมู่หรงงั้นเหรอ?”มู่หรงยิ่นดูเหมือนไม่พอใจกับคำพูดของหลินหยาง“คุณหลิน ฉันเต็มใจแบบนี้ คือในใจฉันมีคุณ ชอบคุณ แต่จะไม่คบเด็ดขาด คุณคงไม่ได้เข้าใจผิดในความจริงใจของฉันหรอกนะ”หลินหยางคิดไม่ถึงเลยว่าการหยอกล้อของ
เมื่อได้ยินคำพูดของเสิ่นลี่หมินแล้วนั้น หลินหยางก็หัวเราะออกมายกใหญ่ ก่อนจะยกนิ้วให้เสิ่นลี่หมิน“ลุงเสิ่น ที่ลุงพูดมาก็มีเหตุผลนะ มันช่างลึกซึ้งจริงๆ ผมต้องเรียนรู้บ้างแล้ว”เสิ่นลี่หมินโบกมือปัดไปมาก่อนจะเอ่ยว่า " ผมเรียนหนังสือไม่เยอะ เป็นคนไม่มีความรู้ คำพูดก็จะมีติดหยาบนิดหน่อย อย่าหัวเราะเยาะผมเลยนายน้อย "“จะหัวเราะเยาะได้ยังไง อย่างที่สุภาษิตกล่าวไว้ว่า คำพูดที่แสนธรรมดา แต่คนฟังจะได้รับประโยชน์มากกว่าอ่านมาแล้วสิบปี! ก็เป็นเช่นนี้แหละ”หลินหยางยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วไปหยิบไวน์มาหนึ่งขวดจากตู้เก็บไวน์ ล้วนแล้วแต่เป็นคอลเลคชั่นไวน์ชั้นดีที่มู่หรงยิ่นมอบให้ “ลุงเสิ่น ให้ผมดื่มอวยพรให้คุณสักแก้วนะครับ”สองมือของเสิ่นลี่หมินถือแก้วไวน์ไว้แล้วพูดว่า " นายน้อยโตขึ้นแล้ว ในสถานะของนายน้อยตอนนี้ ก็ยังคงรับครอบครัวของเราไว้อยู่ ยังช่วยเหลือครอบครัวของเรา ยังคงนั่งคุยเล่นแถมยังดื่มไวน์กับคนพิการอย่างผมอีก คนอย่างผมน่ะ ถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ใกล้ชิดนายน้อย ช่างต่างกันนัก”“ลุงเสิ่น ไม่ต้องขี้โม้ผมได้แล้ว เดี๋ยวผมจะเหลิงเอานะ”หลังจากที่เสิ่นลี่หมินดื่มไวน์ไปสองสามแก้ว ทั่
“ลูกดูสิว่าพวกเรามาอยู่ที่นี่แค่สองวัน เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง? นายน้อยวันนี้ ฆ่าคนได้โดยไม่กะพริบตาด้วยซ้ำ โลกของเขากับโลกของเรามันห่างกันเหลือเกินลูก พวกเราเข้าไม่ถึงหรอก ถ้าพยายามเข้าหามัน เราจะมีแต่เจ็บตัวเปล่า ๆ” เสิ่นลี่หมินลูบหัวเสิ่นโย่วเวยเบา ๆ แล้วกล่าวขึ้นว่า “วันนี้ศัตรูก็มาถึงประตู อีกคนตายอีกคนบาดเจ็บ นายน้อยให้เราซื้อบ้านแล้วย้ายออกไป ถือเป็นเจตนาที่ดีนะ ที่เขาไม่อยากให้พวกเราเข้ามาพัวพัน ส่วนที่ลูกชอบนายน้อย ก็ให้เก็บไว้ในใจตลอดไปเถอะ” "บนโลกนี้มีรักที่ไร้วาสนาอยู่ถมเถไป และความเสียใจจะยังคงดำเนินไปตลอด!"“พ่อคะ แม่คะ สิ่งที่พ่อกับแม่พูดหนูเข้าใจ แต่เพียงแค่ตอนนี้ใจหนูยังเจ็บปวดอยู่ หนูอยากร้องไห้” เสิ่นโย่วเวยไม่เคยจะเข้าใจเหตุผลพวกนี้เลย “ร้องเถอะ ร้องไห้ออกมาแล้วจะดีขึ้น การชอบใครสักคนไม่ใช่เรื่องน่าอาย” หลิวจี๋หลันพูดปลอบใจเสิ่นโย่วเวยกอดแม่ของเธอแล้วร้องไห้อย่างขมขื่นหลินหยางที่กำลังขับรถอยู่นั้น จู่ๆ ก็จามออกมาเขาตรงมุ่งไปที่อาคารธุรการแห่งเมืองลั่ว จุดประสงค์ของการเดินทางคือตามหาเฉาเค่อหมิง หวังว่าจะขอให้เขาช่วยตรวจสอบไฟล์เกี่ยวกับอุบัติเหตุทางรถยน
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู