แม่ของเสิ่นโย่วเวยทำอาหารอร่อยมาก แต่ตัวเสิ่นโย่วเวยเองไม่ได้เรียนรู้เลย จึงทำอาหารไม่เป็น“อย่าดูถูกคนอื่นนะ! เราห่างกันตั้ง 3 วัน ควรเปลี่ยนมุมมองใหม่ได้แล้ว สองปีมานี้แม่ฉันไม่สบาย ถึงได้เรียนทำอาหารแล้ว ไว้คราวหน้าจะให้พี่ลองชิมอาหารฝีมือฉันนะ”“ฝีมือที่เธอพูดถึง คือฝีมือแบบจริงจังเลยใช่ไหม?” หลินหยางยิ้ม“แน่นอน ตอนนี้ฉันทำอาหารอร่อยมากจริง ๆ เลยแหละ”เสิ่นโย่วเวยพูดอย่างจริงจัง“เอาล่ะ! ดึกมากแล้ว เธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ”หลังจากผ่านคืนแห่งความเงียบงัน เช้าวันถัดมา หลินหยางตื่นแต่เช้าเพื่อไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ภูเขาจื่อ ไว้สำหรับประลองกับลั่วหงอวี๋หลังจากที่เขากลับมาจากการฝึกซ้อม ทางเสิ่นโย่วเวยนั้นก็เพิ่งตื่นนอน“ไปกันเถอะ ออกไปกินข้าวเช้ากัน จะได้แวะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าด้วย แล้วค่อยไปหาป้าหลิวที่โรงพยาบาล”เสิ่นโย่วเวยมองหลินหยางอย่างเชื่อฟัง เมื่อถึงศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง โหวกุ้ยเหวินมีร้านค้าแบรนด์หรูที่ศูนย์การค้าจิ๋วติ่งถึงสามร้านหนึ่งในนั้นคือร้านเสื้อผ้าแบรนด์สตรี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เสิ่นโย่วเวยเห็นหลินหยางเดินเข้าไปจึงรีบดึงเขาออกมาทันที“พี่หลินหยาง เราไปผ
หลินหยางมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีที่โหวกุ้ยเหวินให้ และกำลังจะมันหยิบมันออกมาทันใดนั้นก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก “เฮ้ เฮ้ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”หลิวเชี่ยนกล่าวอย่างดูถูก "เสื้อผ้าที่นี่ คุณซื้อได้เหรอ?"หลินหยางก็รู้จักหลิวเชี่ยนเช่นกัน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเสิ่นโย่วเวย ซึ่งเมื่อก่อนเคยคบกับเขา เธอมักจะเข้ามาออดอ้อนในอ้อมกอดเพื่อชนะใจเขา แต่ก็ถูกหลินหยางปฏิเสธ ถึงอย่างไรเธอก็ยังคงสวยอยู่เหมือนเดิม “โอ๊ะ นี่ไม่ใช่คุณชายหลินที่หายตัวไปมากกว่าสองปีเหรอ?”ในใจของหลิวเชี่ยนอิจฉาริษยาเสิ่นโย่วเวยอย่างมาก เธอเข้าไปอ้อนในอ้อมกอด ฝ่ายหลินหยางกลับไม่แม้แต่จะเหลียวมอง แต่ในทางกลับกันเธอก็ดีกับเสิ่นโหย่วเวยมาก ปฏิบัติกับนางอย่าลูกพี่ลูกน้องที่รัก “ฉันว่า คุณคงจะซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ไหวหรอกใช่ไหม? พ่อแม่คุณตายไปหมดแล้ว แล้วคุณจะเป็นเศรษฐีรุ่นสองได้งั้นเหรอ?”“ไม่ได้เจอกันสองปี คุณก็ยังคงเหน็บแนมเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”หลินหยางพูดเบา ๆ“หลินหยาง! อย่ามาทำอวดดีต่อหน้าฉันนะ ฉันน่ะ ไม่ใช่คนเดิมเมื่อสองปีที่แล้วแล้ว และคุณก็ไม่ใช่นายน้อยผู้โดดเดี่ยวแห่งตระกูลหลินอีกต่อไป ผ
“พูดจาไม่น่าฟังเลยนะ หลินหยาง okpนี่ขี้โม้จริง ๆ จะไม่ห่วงชีวิตตัวเองแล้วเหรอ? หน้านายใหญ่ขนาดไหนกัน ถึงจะให้พวกฉันคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยอย่างเชื่อฟัง?”หลิวเชี่ยนหัวเราะหลินหยางขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจหลิวเชี่ยน แล้วจึงหันไปพูดกับพนักงานว่า "ชุดที่เราเลือกเมื่อครู่นี้ แพ็คทั้งหมดเลยนะ แล้วก็ยังมีเดรสนี่อีก อันนี้ก็เอาเหมือนกันครับ"“คุณผู้ชายครับ นี่เป็นรุ่นลิมิเต็ดจริง ๆ ไม่มีจำหน่ายครับ หากคุณต้องการซื้อคุณต้องมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีครับ”ผู้จัดการร้านเห็นว่าลูกของเจ้านายมีเรื่องขัดแย้งกับคนสองคนนี้ แต่หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่หากไม่ใช่เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ผู้จัดการร้าน รวมถึงพนักงานประจำร้านทุกคนได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดจากโหวกุ้ยเหวิน คือจะต้องไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกขุ่นเคือง ทางผู้จัดการที่ต้องการเอาใจโหวเสี่ยวเฉียง จึงขี้เกียจเกินกว่าจะพูดกับหลินหยางและหลิวเชี่ยน ผู้จัดการร้านยังได้ยินมาอีกว่าเฝิงอวี้เจียวผู้จัดการอีกร้านเคยทำให้ลูกค้ารู้สึกขุ่นเคืองใจ ละเลยต่อหน้าที่ จึงถูกทำร้ายร่างกาย เหลืออีกนิดจะถูกเจ้าของร้านโยนลงน้ำให้ปลากินแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ
หลิวเชี่ยนเอ่ยถามอย่างเสียหน้า“บัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีเป็นบัตรที่ออกใหม่ มีเพียงแค่สิบใบเท่านั้น บัตรแต่ละใบเป็นของขวัญที่พ่อฉันมอบให้เอง ด้วยบัตรใบนี้ ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลดสูงสุดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในร้านค้าสุดหรูของเราทั้งหมด” โหวเสี่ยวเฉียงอธิบาย “ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์? นี่ไม่ใช่เท่ากับว่าขายขาดทุนเหรอ?”หลิวเชี่ยนไม่ได้โง่ เมื่อเธอได้ยินเกี่ยวกับส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก็รู้ว่าบัตรประเภทนี้เป็นของขวัญที่โหวกุ้ยเหวินมอบให้แก่ผู้อื่น ด้วยส่วนลดถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการซื้อขายที่ขาดทุนโดยสิ้นเชิง“บัตรวีไอพีระดับสูงแบบนี้ เขาจะมีได้อย่างไร? มันต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ !”หลิวเชี่ยนสาบานได้เลย“บัตรใบนี้เป็นของจริง! บัตรแต่ละใบจะมีหมายเลข มีลายเส้นที่แข็งเพื่อป้องกันการปลอมแปลง และบัตรปลอมจะถูกเปิดเผยทันทีที่รูด”โหวเสี่ยวเฉียงกล่าว“จริงเหรอ? แล้วเขาจะมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงว่าบ้านเขาตกต่ำแล้ว ถึงแม้ว่าพ่อแม่เขาจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม เขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีตามข้อกำหนดนี้อยู่ดีใช่ไหม?”หลิวเชี่ยนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
โหวกุ้ยเหวินตกใจมาก จนแทบจะถือโทรศัพท์ที่อยู่ในมือไม่ไหว“คุณหลิน ใจเย็น ๆ นะครับ คนเบื้องล่างเขามีตาหามีแววไม่ คุณอยู่ร้านไหน? ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ”โหวกุ้ยเหวินรีบขอโทษอย่างเร็ว ในใจแอบก่นด่าเหล่าพนักงานระจำร้านว่าสมองหมูหรือหรือเปล่า?“ศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง ความอดทนของผมมีจำกัด ผมให้เวลาคุณสิบนาที คงพอแล้วสินะ? ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ถึง ร้านทุกร้านในศูนย์การค้าจิ๋วติ่งก็ไม่ต้องเปิดอีกต่อไปแล้ว”หลังจากที่หลินหยางพูดไปอย่างนั้น เขาก็วางสายโทรศัพท์ไป“นายโทรหาใคร? ฟังจากเสียงนั่น โทรหาพ่อฉันเหรอ?”โหวเสี่ยวเฉียงถาม“ถูกตัอง”โหวเสี่ยวเฉียงหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า "นายคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย? แล้วยังมีหน้ามาสั่งพ่อฉันอีกเหรอ? คิดว่ากำลังขู่ใคร! นายคิดว่าโทรหาใครก็ได้ แล้วฉันจะเชื่องั้นหรือ?"“ดูเหมือหมอนี่สมองจะมีปัญหา อยู่ต่อหน้าคุณ แต่โทรหาพ่อของคุณ แถมยังพูดจาสามหาว ให้พ่อคุณรีบมาในสิบนาที”หลิวเชี่ยนไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าหลินหยางมีอำนาจถึงขนาดที่สามารถเรียกโหวกุ้ยเหวินให้มาและไปได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว“ถ้านายโทรเรียกพ่อของฉันมาที่นี่ไม่ได้ ต้องคุกเข่าโค้งคำนับยอมรับความผ
โหวเสี่ยวเฉียงไม่เคยเห็นพ่อโมโหเขาขนาดนี้มาก่อน ก็ถูกทำให้ตกใจเข้าแล้วเหมือนกัน รีบคุกเข่าลงขอโทษทันทีฉากนี้ ทำเอาผู้จัดการและพนักงานในร้านมากันมึนงงไปหมด ในใจคิดว่าที่แท้ชายหนุ่มที่อายุยังน้อยคนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ ถึงสามารถทำให้เถ้าแก่โหวลงมือกับลูกชายตัวเองอย่างไม่ลังเล แถมยังให้เขาคุกเข่าเสียด้วยหลิวเชี่ยนก็ตกใจจนไม่กล้าแม้จะหายใจแรงเช่นกัน ได้แต่ยืนหน้าตาแตกตื่นอยู่ด้านข้าง“คุณหลินครับ ต้องขอโทษอย่างมากจริงๆ ลูกของผมไม่พบคุณมาก่อน จึงได้ล่วงไปเช่นนี้ ขอคุณโปรดเมตตาละเว้นเขาสักครั้งเถิดครับ” โหวกุ้ยเหวินก็รีบขอร้องแทนลูกชายของตนเช่นกันหลินหยางลุกขึ้นพูดว่า “ได้ วันนี้ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่โหวสักครั้ง แต่คุณจำไว้ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว โอกาสมีเพียงสามครั้งเท่านั้น” “ผมรับรองว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกครับ ถ้ายังเกิดขึ้นอีก ผมจะฆ่าตัวตายเป็นการขอขมาคุณเองครับ"โหวกุ้ยเหวินแอบตัดสินใจว่า หลังจากวันนี้ จะต้องเรียกพนักงานและญาติทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับเขามารวมตัวกัน แล้วเอาภาพถ่ายของหลินหยางให้พวกเขาดูให้ชัด ให้จำใส่สมองไว้ให้ดีความผิดพลาดเรื่องเดียวกันเกิดขึ้นมาแ
แม้แต่เสิ่นโย่วเวยที่นั่งอยู่บนรถก็สงสัยมากเช่นกัน“พี่หลินหยางคะ โหวกุ้ยเหวินคนนั้นเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองลั่ว ทำไมเขาถึงกลัวพี่ขนาดนั้นคะ?” “เพราะเขากลัวพี่อัดเขาน่ะสิ!” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม“จริงด้วย พี่สู้เก่งขนาดนั้น แม้แต่พี่เป้าที่คลับเฟิ่งหวังก็ถูกหมัดเดียวของพี่ต่อยจนบาดเจ็บ พี่สอนฉันบ้างสิคะ” เสิ่นโย่วเวยพูดด้วยสีหน้าคาดหวัง“ฝึกยุทธ์เหนื่อยเหนื่อยมากนะ เธอน่ะ ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีก็พอ” “ฉันไม่กลัวเหนื่อยค่ะ” เสิ่นโย่วเวยกล่าว“ได้ อย่างนั้นวันหลังฉันจะสอนท่าป้องกันตัวสองสามท่าให้เธอ” หลินหยางลูบหัวของเสิ่นโย่วเวยหลินหยางและเสิ่นโย่วเวยมาถึงโรงพยาบาลประจำเมือง จนถึงตอนนี้ ในโรงพยาบาลแห่งนี้มีศัตรูตัวฉกาจของหลินหยางพักอยู่สามคน คนหนึ่งคือเฉินจื่อหลิง อีกคนคือเว่ยต้ากัง และยังมีอีกคนคือเหลียงควนทั้งสามคนนี้ ล้วนต้องการจะบดขยี้หลินหยางให้แหลกเป็นผุยผงทั้งสิ้นเมื่อเทียบกันแล้ว อาการบาดเจ็บของเหลียงควนเบาที่สุด ตอนนี้เตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาลแล้วส่วนเรื่องแรกที่เขาจะทำหลังออกจากโรงพยาบาล ก็คือการพาคนบุกไปที่หมู่บ้านตี้เหา ไปหาหลินหยางเพื่อแก้แค้นส่ว
หลิวจี๋หลันเกลี้ยกล่อม“น้าหลิว พวกเราไม่รีบครับ พวกเราไม่อาจทนรับไม่เป็นธรรมนี่ได้” หลินหยางก้าวออกมา ตั้งใจหนุนหลังให้หลิวจี๋หลันและเสิ่นโย่วเวยสองแม่ลูก“คุณบอกว่ามีกฎระเบียบ อย่างนั้นเอาออกมาให้ผมดู ถ้าโรงพยาบาลมีข้อกำหนดนี้จริง พวกเราก็จะยอมรับ แต่กฎระเบียบข้อบังคับต้องเป็นสิ่งที่ถูกเขียนไว้เป็นเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่ของที่แค่คุณพูดออกมาก็จะเรียกว่ากฎระเบียบข้อบังคับได้” หลินหยางกล่าว“ถ้าไม่ให้เธอดูแล้วเธอจะทำอะไรได้? ฉันจะบอกเธอตามตรงละกัน ที่จัดให้เข้าพักในโรงพยาบาลในตอนนี้ เป็นญาติของหัวหน้าซุนของแผนกเรา” พยาบาลเองก็ไม่คิดจะเสแสร้งแล้ว จึงพูดออกมาตามตรง“เป็นหัวหน้าแผนกแล้วยอดเยี่ยมนักหรือ? เป็นหัวหน้าแผนกแล้วก็สามารถทำตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ?” หลินหยางพูดอย่างเย็นชา“เธอมีปัญหาหรือไง?” ในเวลานี้เอง หมอที่สวมเสื้อกาวน์สีขาวคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องผู้ป่วย“เรื่องห้องพักคนป่วยเป็นฉันจัดการเอง เรื่องข้อกำหนดฉันก็เป็นคนตั้งเอง เมื่ออยู่ที่นี่ คำพูดของฉันก็คือกฎ” หัวหน้าแผนกซุนกล่าวด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง“หัวหน้าแผนกของโรงพยาบาลประจำเมืองใหญ่โตถึงขนาดนี้?
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ