หลินหยางกล่าวสั่งสอนเสิ่นโย่วเวยถูกทำให้ตกใจจริง ๆ กล่าวอย่างเสียใจ “ฉันเองก็หมดหนทาง มีเพื่อนร่วมชั้นแนะนำให้ฉันไป บอกว่าที่นี่สามารถหาเงินได้มากมาย”“ต่อไปไม่มีเงินก็บอกฉัน”“ฉันเคยตามหาคุณ แต่ว่าหาไม่เจอ ก่อนเคยแอบไปที่บ้านของพวกคุณก่อนหน้านี้ แต่ไม่มีใครอยู่แล้ว ฉันได้ยินมาว่าคุณติดยาเสพติด เล่นพนันจนล้มละลาย หายตัวไปแล้ว”ตอนแรกที่เสิ่นโย่วเวยเจอกับหลินหยางในห้องส่วนตัว รู้สึกหวาดกลัวอยู่เล็กน้อยจริง ๆคนทั่วไป ใครก็ไม่อยากที่จะคบค้าสมาคมกับพวกขี้ยาและผีพนัน“ยัยเด็กบ้า ฉันเห็นเธอเป็นน้องสาว ฉันเป็นคนยังไง เธอไม่เข้าใจเหรอ? ทำไมถึงได้เชื่อข่าวลือพวกนั้นง่าย ๆขนาดนี้?”หลินหยางหยิกแก้มของเสิ่นโย่วเวย จงใจกล่าวตำหนิ“ฉันผิดไปแล้ว พี่หลินหยาง เจ็บ ๆ ๆ”เสิ่นโย่วเวยรีบกล่าวอย่างอ้อนวอนเมื่อหลินหยางคลายมือออก เสิ่นโย่วเวยถึงได้กล่าว “ใครใช้ให้พี่หายตัวไปตั้งสองปีกว่า ไร้ข่าวคราว ทำให้คนอดสงสัยไม่ได้กันล่ะ”ในเวลานี้ หลินหยางมองเห็นบริเวณลิฟต์ขนส่งสินค้า บอดี้การ์ดของสถานบันเทิงเฟิ่งหวงแบกกระสอบออกมา เห็นได้ชัดว่าใส่คนไว้ในกระสอบ“เธอรอฉันอยู่บนรถ”หลินหยางลงจากรถ ค่อย ๆ
แม่ของเสิ่นโย่วเวยทำอาหารอร่อยมาก แต่ตัวเสิ่นโย่วเวยเองไม่ได้เรียนรู้เลย จึงทำอาหารไม่เป็น“อย่าดูถูกคนอื่นนะ! เราห่างกันตั้ง 3 วัน ควรเปลี่ยนมุมมองใหม่ได้แล้ว สองปีมานี้แม่ฉันไม่สบาย ถึงได้เรียนทำอาหารแล้ว ไว้คราวหน้าจะให้พี่ลองชิมอาหารฝีมือฉันนะ”“ฝีมือที่เธอพูดถึง คือฝีมือแบบจริงจังเลยใช่ไหม?” หลินหยางยิ้ม“แน่นอน ตอนนี้ฉันทำอาหารอร่อยมากจริง ๆ เลยแหละ”เสิ่นโย่วเวยพูดอย่างจริงจัง“เอาล่ะ! ดึกมากแล้ว เธอไปพักผ่อนก่อนเถอะ”หลังจากผ่านคืนแห่งความเงียบงัน เช้าวันถัดมา หลินหยางตื่นแต่เช้าเพื่อไปฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ที่ภูเขาจื่อ ไว้สำหรับประลองกับลั่วหงอวี๋หลังจากที่เขากลับมาจากการฝึกซ้อม ทางเสิ่นโย่วเวยนั้นก็เพิ่งตื่นนอน“ไปกันเถอะ ออกไปกินข้าวเช้ากัน จะได้แวะพาเธอไปซื้อเสื้อผ้าด้วย แล้วค่อยไปหาป้าหลิวที่โรงพยาบาล”เสิ่นโย่วเวยมองหลินหยางอย่างเชื่อฟัง เมื่อถึงศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง โหวกุ้ยเหวินมีร้านค้าแบรนด์หรูที่ศูนย์การค้าจิ๋วติ่งถึงสามร้านหนึ่งในนั้นคือร้านเสื้อผ้าแบรนด์สตรี ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เสิ่นโย่วเวยเห็นหลินหยางเดินเข้าไปจึงรีบดึงเขาออกมาทันที“พี่หลินหยาง เราไปผ
หลินหยางมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีที่โหวกุ้ยเหวินให้ และกำลังจะมันหยิบมันออกมาทันใดนั้นก็มีชายหญิงคู่หนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอก “เฮ้ เฮ้ ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”หลิวเชี่ยนกล่าวอย่างดูถูก "เสื้อผ้าที่นี่ คุณซื้อได้เหรอ?"หลินหยางก็รู้จักหลิวเชี่ยนเช่นกัน เธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของเสิ่นโย่วเวย ซึ่งเมื่อก่อนเคยคบกับเขา เธอมักจะเข้ามาออดอ้อนในอ้อมกอดเพื่อชนะใจเขา แต่ก็ถูกหลินหยางปฏิเสธ ถึงอย่างไรเธอก็ยังคงสวยอยู่เหมือนเดิม “โอ๊ะ นี่ไม่ใช่คุณชายหลินที่หายตัวไปมากกว่าสองปีเหรอ?”ในใจของหลิวเชี่ยนอิจฉาริษยาเสิ่นโย่วเวยอย่างมาก เธอเข้าไปอ้อนในอ้อมกอด ฝ่ายหลินหยางกลับไม่แม้แต่จะเหลียวมอง แต่ในทางกลับกันเธอก็ดีกับเสิ่นโหย่วเวยมาก ปฏิบัติกับนางอย่าลูกพี่ลูกน้องที่รัก “ฉันว่า คุณคงจะซื้อเสื้อผ้าพวกนี้ไม่ไหวหรอกใช่ไหม? พ่อแม่คุณตายไปหมดแล้ว แล้วคุณจะเป็นเศรษฐีรุ่นสองได้งั้นเหรอ?”“ไม่ได้เจอกันสองปี คุณก็ยังคงเหน็บแนมเก่งเหมือนเดิมเลยนะ”หลินหยางพูดเบา ๆ“หลินหยาง! อย่ามาทำอวดดีต่อหน้าฉันนะ ฉันน่ะ ไม่ใช่คนเดิมเมื่อสองปีที่แล้วแล้ว และคุณก็ไม่ใช่นายน้อยผู้โดดเดี่ยวแห่งตระกูลหลินอีกต่อไป ผ
“พูดจาไม่น่าฟังเลยนะ หลินหยาง okpนี่ขี้โม้จริง ๆ จะไม่ห่วงชีวิตตัวเองแล้วเหรอ? หน้านายใหญ่ขนาดไหนกัน ถึงจะให้พวกฉันคืนเงินพร้อมดอกเบี้ยอย่างเชื่อฟัง?”หลิวเชี่ยนหัวเราะหลินหยางขี้เกียจเกินกว่าจะสนใจหลิวเชี่ยน แล้วจึงหันไปพูดกับพนักงานว่า "ชุดที่เราเลือกเมื่อครู่นี้ แพ็คทั้งหมดเลยนะ แล้วก็ยังมีเดรสนี่อีก อันนี้ก็เอาเหมือนกันครับ"“คุณผู้ชายครับ นี่เป็นรุ่นลิมิเต็ดจริง ๆ ไม่มีจำหน่ายครับ หากคุณต้องการซื้อคุณต้องมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีครับ”ผู้จัดการร้านเห็นว่าลูกของเจ้านายมีเรื่องขัดแย้งกับคนสองคนนี้ แต่หน้าที่ก็ต้องเป็นหน้าที่หากไม่ใช่เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ผู้จัดการร้าน รวมถึงพนักงานประจำร้านทุกคนได้รับการอบรมอย่างเข้มงวดจากโหวกุ้ยเหวิน คือจะต้องไม่ทำให้ลูกค้ารู้สึกขุ่นเคือง ทางผู้จัดการที่ต้องการเอาใจโหวเสี่ยวเฉียง จึงขี้เกียจเกินกว่าจะพูดกับหลินหยางและหลิวเชี่ยน ผู้จัดการร้านยังได้ยินมาอีกว่าเฝิงอวี้เจียวผู้จัดการอีกร้านเคยทำให้ลูกค้ารู้สึกขุ่นเคืองใจ ละเลยต่อหน้าที่ จึงถูกทำร้ายร่างกาย เหลืออีกนิดจะถูกเจ้าของร้านโยนลงน้ำให้ปลากินแล้ว แน่นอนว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือ
หลิวเชี่ยนเอ่ยถามอย่างเสียหน้า“บัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีเป็นบัตรที่ออกใหม่ มีเพียงแค่สิบใบเท่านั้น บัตรแต่ละใบเป็นของขวัญที่พ่อฉันมอบให้เอง ด้วยบัตรใบนี้ ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับส่วนลดสูงสุดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในร้านค้าสุดหรูของเราทั้งหมด” โหวเสี่ยวเฉียงอธิบาย “ลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์? นี่ไม่ใช่เท่ากับว่าขายขาดทุนเหรอ?”หลิวเชี่ยนไม่ได้โง่ เมื่อเธอได้ยินเกี่ยวกับส่วนลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ก็รู้ว่าบัตรประเภทนี้เป็นของขวัญที่โหวกุ้ยเหวินมอบให้แก่ผู้อื่น ด้วยส่วนลดถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นการซื้อขายที่ขาดทุนโดยสิ้นเชิง“บัตรวีไอพีระดับสูงแบบนี้ เขาจะมีได้อย่างไร? มันต้องเป็นของปลอมแน่ ๆ !”หลิวเชี่ยนสาบานได้เลย“บัตรใบนี้เป็นของจริง! บัตรแต่ละใบจะมีหมายเลข มีลายเส้นที่แข็งเพื่อป้องกันการปลอมแปลง และบัตรปลอมจะถูกเปิดเผยทันทีที่รูด”โหวเสี่ยวเฉียงกล่าว“จริงเหรอ? แล้วเขาจะมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีได้อย่างไร? ไม่ต้องพูดถึงว่าบ้านเขาตกต่ำแล้ว ถึงแม้ว่าพ่อแม่เขาจะยังมีชีวิตอยู่ก็ตาม เขาก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะมีบัตรแบลคไดมอนด์ วีไอพีตามข้อกำหนดนี้อยู่ดีใช่ไหม?”หลิวเชี่ยนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
โหวกุ้ยเหวินตกใจมาก จนแทบจะถือโทรศัพท์ที่อยู่ในมือไม่ไหว“คุณหลิน ใจเย็น ๆ นะครับ คนเบื้องล่างเขามีตาหามีแววไม่ คุณอยู่ร้านไหน? ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ”โหวกุ้ยเหวินรีบขอโทษอย่างเร็ว ในใจแอบก่นด่าเหล่าพนักงานระจำร้านว่าสมองหมูหรือหรือเปล่า?“ศูนย์การค้าจิ๋วติ่ง ความอดทนของผมมีจำกัด ผมให้เวลาคุณสิบนาที คงพอแล้วสินะ? ถ้าภายในสิบนาทียังไม่ถึง ร้านทุกร้านในศูนย์การค้าจิ๋วติ่งก็ไม่ต้องเปิดอีกต่อไปแล้ว”หลังจากที่หลินหยางพูดไปอย่างนั้น เขาก็วางสายโทรศัพท์ไป“นายโทรหาใคร? ฟังจากเสียงนั่น โทรหาพ่อฉันเหรอ?”โหวเสี่ยวเฉียงถาม“ถูกตัอง”โหวเสี่ยวเฉียงหัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า "นายคิดบ้าอะไรอยู่เนี่ย? แล้วยังมีหน้ามาสั่งพ่อฉันอีกเหรอ? คิดว่ากำลังขู่ใคร! นายคิดว่าโทรหาใครก็ได้ แล้วฉันจะเชื่องั้นหรือ?"“ดูเหมือหมอนี่สมองจะมีปัญหา อยู่ต่อหน้าคุณ แต่โทรหาพ่อของคุณ แถมยังพูดจาสามหาว ให้พ่อคุณรีบมาในสิบนาที”หลิวเชี่ยนไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าหลินหยางมีอำนาจถึงขนาดที่สามารถเรียกโหวกุ้ยเหวินให้มาและไปได้ด้วยการโทรเพียงครั้งเดียว“ถ้านายโทรเรียกพ่อของฉันมาที่นี่ไม่ได้ ต้องคุกเข่าโค้งคำนับยอมรับความผ
โหวเสี่ยวเฉียงไม่เคยเห็นพ่อโมโหเขาขนาดนี้มาก่อน ก็ถูกทำให้ตกใจเข้าแล้วเหมือนกัน รีบคุกเข่าลงขอโทษทันทีฉากนี้ ทำเอาผู้จัดการและพนักงานในร้านมากันมึนงงไปหมด ในใจคิดว่าที่แท้ชายหนุ่มที่อายุยังน้อยคนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกันแน่ ถึงสามารถทำให้เถ้าแก่โหวลงมือกับลูกชายตัวเองอย่างไม่ลังเล แถมยังให้เขาคุกเข่าเสียด้วยหลิวเชี่ยนก็ตกใจจนไม่กล้าแม้จะหายใจแรงเช่นกัน ได้แต่ยืนหน้าตาแตกตื่นอยู่ด้านข้าง“คุณหลินครับ ต้องขอโทษอย่างมากจริงๆ ลูกของผมไม่พบคุณมาก่อน จึงได้ล่วงไปเช่นนี้ ขอคุณโปรดเมตตาละเว้นเขาสักครั้งเถิดครับ” โหวกุ้ยเหวินก็รีบขอร้องแทนลูกชายของตนเช่นกันหลินหยางลุกขึ้นพูดว่า “ได้ วันนี้ผมจะเห็นแก่หน้าเถ้าแก่โหวสักครั้ง แต่คุณจำไว้ นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว โอกาสมีเพียงสามครั้งเท่านั้น” “ผมรับรองว่าจะไม่มีครั้งหน้าอีกครับ ถ้ายังเกิดขึ้นอีก ผมจะฆ่าตัวตายเป็นการขอขมาคุณเองครับ"โหวกุ้ยเหวินแอบตัดสินใจว่า หลังจากวันนี้ จะต้องเรียกพนักงานและญาติทั้งหมดที่มีความเกี่ยวข้องกับเขามารวมตัวกัน แล้วเอาภาพถ่ายของหลินหยางให้พวกเขาดูให้ชัด ให้จำใส่สมองไว้ให้ดีความผิดพลาดเรื่องเดียวกันเกิดขึ้นมาแ
แม้แต่เสิ่นโย่วเวยที่นั่งอยู่บนรถก็สงสัยมากเช่นกัน“พี่หลินหยางคะ โหวกุ้ยเหวินคนนั้นเป็นคนที่มีหน้ามีตาในเมืองลั่ว ทำไมเขาถึงกลัวพี่ขนาดนั้นคะ?” “เพราะเขากลัวพี่อัดเขาน่ะสิ!” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม“จริงด้วย พี่สู้เก่งขนาดนั้น แม้แต่พี่เป้าที่คลับเฟิ่งหวังก็ถูกหมัดเดียวของพี่ต่อยจนบาดเจ็บ พี่สอนฉันบ้างสิคะ” เสิ่นโย่วเวยพูดด้วยสีหน้าคาดหวัง“ฝึกยุทธ์เหนื่อยเหนื่อยมากนะ เธอน่ะ ตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีก็พอ” “ฉันไม่กลัวเหนื่อยค่ะ” เสิ่นโย่วเวยกล่าว“ได้ อย่างนั้นวันหลังฉันจะสอนท่าป้องกันตัวสองสามท่าให้เธอ” หลินหยางลูบหัวของเสิ่นโย่วเวยหลินหยางและเสิ่นโย่วเวยมาถึงโรงพยาบาลประจำเมือง จนถึงตอนนี้ ในโรงพยาบาลแห่งนี้มีศัตรูตัวฉกาจของหลินหยางพักอยู่สามคน คนหนึ่งคือเฉินจื่อหลิง อีกคนคือเว่ยต้ากัง และยังมีอีกคนคือเหลียงควนทั้งสามคนนี้ ล้วนต้องการจะบดขยี้หลินหยางให้แหลกเป็นผุยผงทั้งสิ้นเมื่อเทียบกันแล้ว อาการบาดเจ็บของเหลียงควนเบาที่สุด ตอนนี้เตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาลแล้วส่วนเรื่องแรกที่เขาจะทำหลังออกจากโรงพยาบาล ก็คือการพาคนบุกไปที่หมู่บ้านตี้เหา ไปหาหลินหยางเพื่อแก้แค้นส่ว
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต