ญาติผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในห้อง เมื่อได้ยินเสียงก็ออกมาล้อมดู แล้วพากันพูดจายกยอเอาใจซุนเหวินกวัง“วิชาแพทย์ของหัวหน้าแผนกซุนเป็นที่เลื่องลือไปทั่ว เอ็งนับเป็นตัวอะไร ยังกล้ามาสงสัยในวิชาแพทย์ของหัวหน้าซุนอีก” “ไอ้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พูดจาปากไม่มีหูรูดจริงๆ” “ทุกคนอย่าไปสนใจเลย พวกเขาก็แค่จงใจหาเรื่องเท่านั้น” ทุกคนทางหนึ่งพากันประจบประแจงซุนเหวินกวัง อีกทางก็ตำหนิติเตียนพวกหลินหยางทั้งสามคนเพราะไม่ว่าอย่างไร คนในครอบครัวของพวกเขาก็เป็นคนไข้ของซุนเหวินกวัง ปกติแล้วไม่ว่าจะเป็นการตรวจรักษาหรือเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ก็ล้วนต้องส่งของกำนัลมาเอาอกเอาใจ ดังนั้น ไม่ว่าใครก็ไม่กล้าล่วงเกินเขาซุนเหวินกวังพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกระหยิ่มใจว่า “ได้ยินแล้วใช่ไหม หากกล้าไม่เคารพฉัน แค่คนไข้ของฉันถ่มน้ำลายคนละทีก็ท่วมพวกนายได้แล้ว” “หัวหน้าซุนคะ กับพวกจงใจมาหาเรื่องแบบนี้ จะเสียเวลากับพวกเขาไปทำไม โทรแจ้งตำรวจเลยค่ะ” “ไม่อาจปล่อยตามใจคนประเภทนี้เด็ดขาด ไม่มีเงินจ่ายค่าโรงพยาบาล ยังจะหน้าด้านไม่ยอมออกไปอีก เธอคิดว่าที่นี่เป็นบ้านอนาถาหรือยังไง?่ ช่างหน้าไม่อายจริงๆ”
หานลี่ฉินมีฐานะเป็นผู้ควบคุมโรงพยาบาลทั้งแห่ง ย่อมมีบารมีของตนนางพยาบาลถูกทำให้ตกใจไม่น้อย ย่อมไม่กล้าโป้ปด จึงได้สารภาพเรื่องราวทั้งหมดออกไปอย่างละเอียดที่จริงเรื่องทั้งหมดก็คือ ตอนที่หลินจี๋หลันแอดมิทเข้ามา ไม่ได้มอบของขวัญให้ซุนเหวินกวังเป็นการส่วนตัว และคนที่เพิ่งจัดให้เข้าพักในโรงพยาบาลเมื่อครู่ก็ไม่ใช่ญาติแท้ๆของซุนเหวินกวัง แต่เพียงแค่มอบเงินสินบนและของกำนัลให้เป็นการส่วนตัว ซุนเหวินกวงจึงได้จัดการให้เป็นพิเศษดังนั้นซุนเหวินกวังจึงไล่หลิวจี๋หลันที่ยังไม่ถึงเวลาออกจากโรงพยาบาลออกจากห้องพักผู้ป่วย“พยาบาลเฉิน คุณพูดจาเหลวไหลอะไรกัน? ใครมอบความกล้าให้คุณ ถึงได้กล้ามาใส่ร้ายผมแบบนี้!”ซุนเหวินกวังตะโกนเสียงดัง“ท่านผ.อ. คำพูดของหล่อนท่านเชื่อไม่ได้นะครับ ผมไม่มีทางรับเงินสินบนเด็ดขาด หากไม่เชื่อท่านสามารถตรวจสอบได้ และสามารถสอบถามญาติผู้ป่วยทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่อหน้าได้ด้วยครับ”ซุนเหวินกวังพูดแก้ตัว“หุบปาก!”หานลี่ฉินตะคอกเสียงเย็นทีหนึ่ง ตัดบทการแก้ตัวของซุนเหวินกวัง“ซุนเหวินกวัง เรื่องเกี่ยวกับการรับสินบนของนายนั้น พวกเราได้รับการร้องเรียนและได้ทำการตรวจสอบนายแล้ว เ
ชื่อเสียงของหมอเทวดาหลิน ที่สำแดงฝีมือสุดอัศจรรย์ในการรักษาเฉาเค่อหมิงนั้น ได้แพร่ไปในหมู่แพทย์ในโรงพยาบาลประจำจังหวัดนานแล้วเพียงแต่ผู้ที่ได้เห็นหลินหยางในวันนั้น มีเพียงผู้อำนวยการโรงพยาบาลและแพทย์เฉพาะทางเพียงไม่กี่คนเท่านั้น คนอื่นก็เคยแต่ได้ยินชื่อเสียงทว่าไม่เคยได้พบตัวจริงกันทั้งสิ้นเมื่อซุนเหวินกวังได้รู้ว่าหลินหยางก็คือหมอเทวดาหลิน ก็ไม่หลงเหลือความหวังใดอีกต่อไป เขารู้ว่าครั้งนี้ตนซวยแน่แล้ว ไม่ว่าใครก็ช่วยเขาไม่ได้หานลี่ฉินก็ไม่เสียเวลาต่อไปอีก เรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงพยาบาลมาทันที ให้นำตัวซุนเหวินกวังไปมอบให้กระทรวงสาธารณสุขจัดการโดยตรง“ท่านผอ. คุณพักงานหัวหน้าซูไปแล้ว แล้วคนป่วยของพวกเราจะทำอย่างไรล่ะ? พวกเราทุกคนจ่ายเงินให้เขาไปแล้วนะ!” ญาติผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่อยู่ในบริเวณทางเดินพากันโวยวายขึ้นมา“ที่โรงพยาบาลเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นเป็นความรับผิดชอบของผม อันดับแรก ผมต้องขอโทษทุกท่านด้วย” หลังจากหานลี่ฉินค้อมกายขอโทษ ก็กล่าวต่อไปว่า “ทุกท่านไม่ต้องกังวล เงินที่พวกคุณมอบไปจะได้รับการคืนทุกคน นอกจากนี้ที่โรงพยาบาลของพวกเราก็ไม่ได้มีซุนเหวินกวังเป็น
อย่างไรก็ตาม เพราะญาติผู้ป่วยมีเจตนาจะทำให้เป็นเรื่องขึ้นมา หรืออาจต้องการใช้โอกาสนี้ให้หลินหยางซึ่งเป็นหมอเทวดารักษาโรคให้ แล้วพวกเขาจะยอมเลิกราได้อย่างไร บริเวณทางเดินจึงเต็มไปด้วยความวุ่นวายในช่วงเวลาสั้นๆ สถานการณ์ก็มาอยู่ในจุดที่ยากจะหยุดยั้งได้เสิ่นโย่วเวยเห็นหานลี่ฉินรับมือกับบรรดาญาติผู้ป่วยอย่างยากลำบาก จึงกล่าวว่า “พี่หลินหยาง ไม่อย่างนั้นพี่ก็ช่วยผู้อำนวยการหานเถอะค่ะ ไม่อย่างงั้นเรื่องนี้คงจบลงไม่ได้ง่ายๆ แน่” หลินหยางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงกล่าวว่า “พอแล้ว! ทุกคนหยุดสักครู่” เหล่าญาติผู้ป่วยค่อยๆ สงบลง“ที่พวกคุณโวยวายอย่างไร้เหตุผลแบบนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย ส่วนตัวแล้ว ผมเกลียดพฤติกรรมแบบนี้มาก หากผมไม่เต็มใจช่วย ต่อให้พวกคุณก่อเรื่องจนฟ้าถล่มลงมาก็ไร้ประโยชน์ ไม่มีใครสั่งให้ผมทำอะไรได้” ในเวลานั้นเอง มีญาติผู้ป่วยก้าวออกมากล่าวว่า “หมอเทวดาหลินคะ ไม่ใช่เพราะพวกเราอยากก่อเรื่อง แต่เป็นเพราะคุณพ่อของฉันป่วยหนักจริงๆ นี่เป็นเพราะพวกเราร้อนใจมากน่ะค่ะ” “คุณมีวิชาแพทย์ล้ำเลิศ ขอร้องคุณได้โปรดช่วยพวกเราด้วยเถิดนะคะ ก่อนหน้าที่พวกเราช่วยหัวหน้าซุนตำหนิคุณ ก็เป็
ครอบครัวสกุลเสิ่นขายบ้านไปแล้ว เวลานี้อาศัยอยู่ในเขตเมืองเก่า ที่อาคารล้วนเก่า เตี้ย และทรุดโทรมอย่างมาก ทางเดินคับแคบมีกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว แม้แต่รถก็ไม่สามารถขับเข้าไปได้“คุณชายใหญ่ ต้องขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาในสถานที่แบบนี้นะคะ แม้แต่รองเท้าของคุณก็พลอยเลอะไปด้วยเลย” หลิวจี๋หลันเห็นหลินหยางขมวดคิ้ว จึงรีบกล่าวขอโทษ“น้าหลิวอย่าได้เข้าใจผิด ผมเพียงแต่สงสารพวกน้าที่เดิมมีบ้านหลังใหญ่ให้อยู่ แต่กลับถูกญาติตัวเองทำร้ายจนต้องมาอยู่ในสถานที่แบบนี้เท่านั้นเองครับ” หลินหยางกล่าวเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลิวจี๋หลันก็กล่าวด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความรู้สึกผิดว่า “เรื่องนี้ต้องโทษที่ฉันดูคนไม่เป็นและหูเบาค่ะ เลยตกหลุมพรางไป ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าน้องชายแท้ๆ ของตัวเองจะวางแผนการหลอกลวงพวกเราแบบนั้น” “น้าหลิวอย่าโทษตัวเองเลยครับ เรื่องนี้ไม่โทษน้า เรายากจะมองทะลุจิตใจคนอื่นได้ เงินก้อนนี้ผมจะช่วยน้าเอากลับมาเองครับ” “คุณชายใหญ่ ขอบคุณในความหวังดีของคุณมากค่ะ แต่พวกเขาเป็นพวกยืมแล้วไม่คืน ถ้าจะคืนก็คงคืนมานานแล้วค่ะ” หลิวจี๋หลันพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความจนใจ“แม่คะ แม่วางใจเถอะค่ะ พ
ภายใต้การโน้มน้าวของหลินหยาง สองสามีภรรยาจึงได้ยอมตกลงจัดเก็บสัมภาระง่ายๆ ย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านตี้เหากับหลินหยางทว่า พวกเขาพึ่งถือสัมภาระออกจากประตูบ้าน ก็ถูกคนขวางไว้“พวกแกถึงกับคิดจะหนี? คิดว่าหนีพ้นหรือไง?” ผู้พูดเป็นชายหัวโล้นตัวอ้วนใหญ่ บนใบหน้ามีรอยแผลรอยหนึ่ง มีกลิ่นอายของอันธพาล บนคอสวมสร้อยทองเส้นหนาไว้“นี่ใครหรือครับ?” หลินหยางถาม“น้องชายของเจ้าของบ้านค่ะ เป็นอันธพาลเจ้าถิ่นแถวนี้ ทุกคนเรียกเขาว่าเฝยหลงค่ะ” เสิ่นโย่วเวยอธิบายเดิมเสิ่นโย่วเวยหวาดกลัวเจ้าเฝยหลงคนนี้เป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มีหลินหยางอยู่ข้างกาย เธอจึงมีความมั่นใจขึ้นมา“พี่หลง พวกเราไม่ได้จะหนีครับ เพียงแต่ย้ายบ้านชั่วคราวเท่านั้น” เสิ่นลี่หมินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นอธิบาย“ย้ายบ้านน่ะได้ แต่ต้องจ่ายค่าเช่าที่ค้างไว้มาก่อน ถ้ายังจ่ายไม่ไหวอีก ก็ทำตามที่บอกไว้ก่อนหน้า เอาลูกของแกมาใช้หนี้แทนซะ” ในระหว่างที่เฝยหลงพูด ก็จ้องไปที่เสิ่นโย่วเวยด้วยสีหน้าหื่นกระหาย“ค่าเช่าห้องสามเดือนเท่าไหร่ ฉันจะจ่ายเอง” หลินหยางไม่อยากเปลืองน้ำลายกับคนประเภทนี้อีก จึงก้าวออกมาแสดงท่าทีว่าจะจ่ายเงินเสียเลย“แล้ว
“เด็กคนนี้ ลูกจะไปรู้อะไร พวกเราไม่อาจเพิ่มปัญหาให้คุณชายใหญ่ได้” เสิ่นลี่หมินตำหนิเสิ่นโย่วเวยทันที“ลุงเสิ่นครับ ลุงเกรงใจเกินไปแล้ว อีกอย่าง ตัวละครเล็กๆ แบบเฝยหลงนี่ก็ไม่นับว่าเป็นปัญหาอะไรเลยครับ” หลินหยางในตอนนี้เป็นถึงปรมาจารย์คนที่ห้าของเมืองลั่ว ตัวละครเล็กๆแบบเฝยหลงไม่มีความจำเป็นต้องเอามาใส่ใจแม้แต่น้อย คนทั้งสี่เดินมุ่งหน้าออกไปนอกตรอก ในเวลานี้เฝยหลงก็พาคนล้อมเข้ามาแล้ว สกัดพวกเขาไว้ในตรอกเมื่อกวาดตามองไป ในตรอกมีคนอย่างน้อยสามสิบกว่าคน ในมือหากไม่ถือมีดหั่นแตงโมก็ถือท่อนไม้ ไอสังหารคุกรุ่น แลดูดุร้ายอย่างมาก“คนเยอะขนาดนี้?” เมื่อเสิ่นโย่วเว่ยเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ก็อดที่จะหวาดกลัวอยู่บ้างไม่ได้เสิ่นลี่หมินและหลิวจี๋หลันย่อมไม่เคยเห็นสถานการณ์แบบนี้มาก่อนเช่นกันนายน้อย คุณพาเวยเวยหนีไปอีกทาง คนแก่แบบเราสองคนอย่างไรก็อยู่ได้อีกไม่นานแล้วเสิ่นลี่หมินกล่าว“ลุงเสิ่น ไม่ต้องร้อนใจครับ ไม่เป็นไรหรอก” หลินหยางยืนอยู่หลังเก้าอี้รถเข็น ตบไหล่ของเสิ่นลี่หมินเบาๆ เป็นการปลอบประโลม จากนั้นเดินมาที่ด้านหน้าในเวลานี้ เฝยหลงก็เดินออกมาจากกลุ่มคนเช่นกัน ในมือถือมีด
หลินหยางแค่นหัวเราะ แต่ไม่ได้หยุดชะงักฝีเท้า เดินมุ่งหน้าเข้าไปหาเฟยหลง“แกมันรนหาที่ตาย!”เฟยหลงถูกกดดันจนร้อนใจ เหนี่ยวไกปืนทันทีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทำให้ครอบครัวของเสิ่นโย่วเวยตกใจขวัญเสียครู่ต่อมา เฟยหลงส่งเสียงร้องน่าเวทนาออกมา หลินหยางไปถึงตรงหน้าของเขาแล้ว จับข้อมือของเขาเอาไว้ แล้วบีบแตกละเอียดมันที ปืนตกลงไปบนพื้น“ฉันคือคนของท่านเว่ยเว่ยต้ากัง แกกล้าทำร้ายฉัน ท่านเว่ยไม่มีทางปล่อยแกไปแน่!”เฟยหลงเผยผู้อยู่เบื้องหลังของตนเองออกมา เพื่อข่มขู่หลินหยาง“เป็นสุนัขรับใช้ของเว่ยต้ากังอีกแล้ว งั้นแกก็ไม่ได้ถูกใส่ร้ายเลยสักนิดนี่ ฉันจะส่งแกไปอยู่เป็นเพื่อนเว่ยต้ากัง!”หลินหยางพูดจบ บีบกระดูกข้อต่อหัวไหล่ของเฟยหลงจนแตกละเอียด จากนั้นเตะหัวเข่าทั้งสองข้างของเฟยหลงจนแตกละเอียด เฟยหลงเจ็บจนส่งเสียงร้องน่าเวทนาที่เหมือนกับหมูถูกเชือดออกมา ร่างกายที่อ้วนท้วนอ่อนยวบกลิ้งไปบนพื้น เหมือนกับลูกบอลจัดการกับเฟยหลงแล้ว หลินหยางเดินกลับมา เข็นวีลแชร์ของเสิ่นลี่หมิน“อาเสิ่น น้าหลิว ไม่มีอะไรแล้ว พวกเราไปกันเถอะ”เสิ่นลี่หมินสองสามีภรรยาเดินผ่านข้างกายของเฟยหลงไป รู้สึกเหมือนกับกำล
“ผม ผมยินดีเป็นพยานที่มีความผิด ประณามและฟ้องร้องจ้าวเจี้ยนชิง! ในมือของผมมีข้อมูลอยู่ร้อยชุด สามารถเป็นหลักฐานที่แสดงว่าจ้าวเจี้ยนชิงได้กระทำความผิด!”เขารู้ดีแก่ใจว่า ชีวิตของตนในตอนนี้ถูกกุมอยู่ในกำมือของหลินหยาง ดังนั้นจึงรีบเคลียร์ความสัมพันธ์ให้ชัดเจน หวังว่าหลินหยางจะไว้ชีวิตตนเองสักครั้งแต่ทว่าในเวลานี้ ยังไม่ทันที่หลินหยางจะพูด เฉิงหว่านฉิงกลับพูดขึ้นมาทันทีว่า “ปรมาจารย์หลินอย่าเชื่อพ่อของฉัน! เขาแค้นคุณมานานมากแล้ว! เขายังจับตาดูคุณ ภายใต้คำสั่งของหลูอ้าวตง!”“อีกทั้งข้อมูลในมือของเขา ไม่ใช่เพียงแค่หนึ่งร้อยชุด อย่างน้อยต้องมีถึงสามร้อยชุด! เขาไม่ซื่อสัตย์กับคุณเลยแม้แต่นิดเดียว!”“อย่างนั้นเหรอ?” หลินหยางหันหน้าไปมองเธอด้วยสีหน้าประหลาดใจเมื่อเฉิงคั่วได้ยินดังนั้น กลับโมโหจนแทบกระอักเลือด “แม่งเอ๊ย ทำไมฉันถึงได้มีลูกสาวอกตัญญูอย่างแก่! ไม่นึกเลยว่าแม้แต่พ่อของตัวยังทรยศได้! ตอนนั้นฉันควรจะยิงแกให้ติดกำแพง!”แต่ทว่าเฉิงหว่านฉิงกลับไม่สะทกสะท้าน ในทางกลับกันดวงตาคู่งามนั้น จ้องมองหลินหยางด้วยสีหน้ากังวลใจพร้อมกล่าววิงวอน “ขอเพียงแค่ปรมาจารย์หลินไว้ชีวิตฉันสักครั้ง ฉัน
เปรี้ยง!ตอนที่ยาเสพติดมากมายปรากฏขึ้น ทุกคนต่างพากันอ้าปากค้างตกตะลึง?!“ไม่นึกเลยว่าจ้าวเจี้ยนชิงยังสมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด!”“ยาเสพติดเหล่านี้ มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลตายหลายพันรอบ!”แต่ท่ามกลางเสียงร้องตกใจเหล่านั้นจ้าวเจี้ยนชิงก็จ้องมองยาเสพติดเหล่านั้นด้วยความตกตะลึง กล่าวด้วยใบหน้าที่ยากจะเหลือเชื่อ “เป็น เป็นไปได้ยังไง?”ยาเสพติดพวกนี้ตนเก็บเอาไว้ในสถานที่ที่เป็นความลับ จะถูกตรวจเจอได้ยังไง?เขาหันหน้าไปมองหลินหยางทันทีกล่าว “แกซื้อตัวคนของฉัน?!”“อย่าพูดจามั่วซั่วสิ ฉันไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียว”หลินหยางมองบน ตนไม่ได้จ่ายแม้แต่สตางค์แดงเดียวจริง ๆเห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าฉันใช้แรงกายบนเตียงเพื่อให้ได้มาต่างหาก!“พ่อครับ ตอนนี้เราจะทำยังไงกันดี?”จ้าวเจิ้งฮ่าวตกใจจนเสียงสั่นเครือ สีหน้าตกใจและหวาดกลัวทำยังไงดี?จ้าวเจี้ยนชิงกลับหัวเราะด้วยความเจ็บปวด เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ยังจะทำอะไรได้อีก?!เขาคุกเข่าลงให้หลินหยางเสียงดังตึ้งอย่างรวดเร็ว กล่าวอย่างสิ้นหวัง “ปรมาจารย์หลิน ผมขอโทษคุณ ผมไม่ควรหาเรื่องคุณ ผมไม่ขอร้องให้คุณไว้ชีวิตผม แต่ปล่อยคนในครอบครัวข
“ปรมาจารย์หลินปิดบังเก่งนี่นา! แม้แต่กรมอัยการสูงสุดแห่งหนานตูยังเชื่อฟังคำสั่งของปรมาจารย์หลิน?!”“น่าตลก จ้าวเจี้ยนชิงนั่นยังใช้อำนาจและอิทธิพลข่มเหงผู้คน! อำนาจและอิทธิพลของปรมาจารย์หลินมากกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!”“ไอดอล...เก่งมาก!”หานเซวี่ยอิ๋งอ้าริมฝีปากแดงเล็กน้อย จ้องมองหลินหยางที่สีหน้าเรียบเฉยด้วยความตื่นตะลึง ในใจไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดีจ้าวเจี้ยนชิงที่อวดดีจนถึงขนาดไม่มีใครเทียบได้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกจับกุมแบบนี้?“นายพลจ้าว ช่วยพวกเราด้วย! ฉันไม่อยากตาย!”และในเวลานี้ เฉิงหว่านฉิงกลับถูกเจ้าหน้าที่ผู้บังคับใช้กฎหมายจับกุม ใส่กุญแจมือ เธอหันหน้าไปมองจ้าวเจี้ยนชิงอย่างขอร้องด้วยสีหน้าตื่นตระหนกและหวาดกลัวถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแม่ม่ายดำ แต่สถานการณ์ในตอนนี้ใหญ่เกินไป เกือบจะทำให้เธอฉี่ราด ตอนนี้ทำได้เพียงฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่จ้าวเจี้ยนชิง?จ้าวเจี้ยนชิงในเวลานี้กลับหันไปมองเหยียนฮ่าวด้วยสีหน้าไม่ดีพร้อมกล่าวเสียงเย็นยะเยือก “คุณชายเหยียน! คุณไม่ได้รับสายโทรศัพท์ของคุณพ่อคุณเหรอ นายท่านตงกับคุณพ่อของคุณสัญญากันเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ว่าจะเก็บหลินหยาง!”หลังจากเกิดเรื่องต
“แกพูดจาเหลวไหล! พวกเราทุกคนเห็นกันหมดแล้ว เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแกสมคบคิดกับชาวตงอิ๋ง รังแกคนประเทศหลงของพวกเรา!”“ชาวตงอิ๋งนั่นบอกว่าพวกเราเป็นไอ้ขี้ยาแห่งเอเชียตะวันออก ทำไมแกถึงยังปกป้องเขาอยู่อีก! เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าแกควรจะปกป้องเมืองลั่ว!”“ทำแต่เรื่องชั่วช้าสามานย์!”ทันใดนั้น บรรดาฝูงชนที่มุงดูเกิดอารมณ์ขุ่นเคืองขึ้นมา พยายามปกป้องหลินหยาง การกระทำที่กลับดำเป็นขาวของจ้าวเจี้ยนชิงทำให้พวกเขาโมโหจนสำลัก พากันหยิบมือถือขึ้นมาอัดวิดีโอเอาไว้เป็นหลักฐานแต่ทว่าเสียงปังดังขึ้นทันที!บรรดาคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงลงมือทันที ราวกับเสือกระโจนเข้าฝูงแกะ ทำให้ฝูงชนที่มามุงดูพวกนั้นถูกเตะล้มลงไปบนพื้น โทรศัพท์มือถือของบรรดาแฟนคลับถูกเหยียบแตกละเอียด!ทั้งหมดเต็มไปด้วยความวุ่นวาย!“หลินหยาง ฉันยอมรับว่าฉันเอาชนะแกไม่ได้ แต่นั่นแล้วยังไง ฉันจะจัดการกับคนเจ้าเล่ห์อย่างแก ก็ยังคงง่ายเหมือนกับปอกกล้วยเข้าปาก!”ถึงแม้ว่าจ้าวเจี้ยนชิงจะถูกหลินหยางบีบคอเอาไว้ แต่สีหน้ากลับไม่แสดงความกลัวเลยแม้แต่น้อย ในทางกลับกันยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยันและเหยียดหยาม!“ข่มขู่ฉัน?” หลินหยางกลับยิ้มออกมา“ฉันจะข่
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา