เธอเดินออกจากห้องน้ำหลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ จังหวะกำลังก้าวเท้าเดินกลับไปหากลุ่มเพื่อน สายตาได้เหลือบเห็นแผ่นหลังของบางคนผ่านหน้าโดยมีชายฉกรรจ์สี่คนเดินตามหลัง แม้มองแค่ข้างหลังเธอก็จำเขาได้...แม็กซ์เวลล์ เธอตัดสินใจเดินตามเขาไป เพราะอยากคุยเรื่องแต่งงานและยื่นข้อเสนอบางอย่างให้เขา เธอมองเส้นทางข
เธอเดินออกจากห้องนั้นมาพร้อมกับอาการหวาดกลัว ภาพแม็กซ์เวลล์บีบรัดคอและใช้มีดลูบไล้หน้าเธอยังติดตามาถึงตอนนี้ เหงื่อมากมายไม่รู้มาจากไหนผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าเธอ เนื้อตัวสั่นเทาจนแทบไม่มีแรงเดินต่อ เธอตัดสินใจนั่งเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเองก่อนกลับคอนโดมิเนียม ขืนกลับตอนที่สติยังไม่คงที่ เสี่ยงเกิดอุบัติเ
"นายจะทำอะไร" เธอถามเขาเสียงสั่น ภาพแม็กซ์เวลล์ยืนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวเองทำเธอหวั่นใจไม่น้อย กลัว...กลัวเขาจะทำเหมือนคืนแรกที่ทำกับเธอ แววตาเขาใช้มองเธอตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากนักล่าที่กำลังจะขย้ำเหยื่อ "ฉันพูดได้เหรอ" คิ้วดกดำเลิกขึ้นพร้อมเอ่ยถามคนตัวเล็ก ยิ่งเห็นแววตาเธอจุดประกายความกลัวมากเท่าไร
เธอยืนมองตัวเองในชุดเจ้าสาวขาวสะอาดตาสวยหรูหรา ความจริงแล้ว หากชีวิตเธอเปรียบดั่งนิยายเรื่องหนึ่ง วันนี้มันคงเดินทางมาถึงตอนจบของเรื่อง ทว่าในความเป็นจริง...มันเพิ่งเริ่มต้น การแต่งงานคือความฝันของใครหลายคน ใช่...ถ้าคู่ชีวิตของเราต่างเป็นคนที่เรารักและมีใจให้กัน ต่อให้คนผู้หญิงในชุดเจ้าสาวนี้เป็นพ
ณิชานั่งมองแม็กซ์เวลล์ซึ่งยืนสูบบุหรี่อยู่ระเบียงตรงห้องนอนด้วยอารมณ์คุกรุ่น เมื่อวานเขาเพิ่งทำเรื่องอย่างว่ากับเธอแล้วยังมีหน้ามาร่วมพิธีแต่งงาน หากทุกคนรู้ธาตุแท้ผู้ชายคนนี้ ไม่อยากคิดเลยว่าเขายังกล้าทำหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อนอีกไหม สิ่งหนึ่งที่เธอมั่นใจก็คือ...เธอเกลียดเขา เธอเดินเข้ามาในห้องน้
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆ สาดส่องผ่านระเบียงห้องนอนเข้ามาตกกระทบกับร่างเปลือยเปล่าที่นอนหลับบนเตียง ณิชาส่งเสียงในลำคอเบาๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาออก ความรู้สึกเมื่อตื่นนอนขึ้นมาแล้วสัมผัสได้ก็คือความเจ็บตรงช่วงล่างและอาการครั่นเนื้อครั่นตัว เธอฝืนความเจ็บปวดดึงศีรษะขึ้นจากหมอนใบใหญ่ นั่งพิงหัวเตียงด้วย
เธอเดินตามแม็กซ์เวลล์เข้ามาในบริษัทยักษ์ใหญ่ใจกลางเมือง โดยมีชายชุดดำจำนวนหนึ่งคอยประกบหลังเพื่อรักษาความปลอดภัย เคยได้ยินชื่อบริษัทเขา แต่ไม่เคยได้มาเยือนสักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ย่ำก้าวเข้ามา ภายในถูกตกแต่งสวยหรู พนักงานยิ้มแย้มดูเป็นมิตร ไม่แปลกใจเลยทำไมบริษัทเขาถึงเป็นที่รู้จักทั้งในและ
"นายหญิงซื้อไปเยอะขนาดนี้ กินหมดเหรอครับ" "แบ่งนายกับเจ้านายของนายกินด้วยไง" "อย่าดีกว่าครับ" วินซ์ปฏิเสธ เมื่อได้ยินณิชาบอกว่าจะแบ่งของกินให้ตน "แบ่งให้นายคนเดียวพอแล้ว" "นายไม่ชอบกินขนมเหรอ?" "ถ้านายรู้ นายคงไม่พอใจมาก" "เรื่องของเขาสิ" เธอตอบกลับอย่างไม่แคร์ สองเท้าเล็กชะลอลง เมื่อได้ยินผู้ห
"...." "ผมไม่เคยคิดจะทิ้งพี่เลยนะ พี่ก็รู้ว่าผมรักพี่มากขนาดไหน" "ก็นายไม่สนใจฉัน" "ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมขอโทษ หายงอนผมนะ" "...." "เงียบแบบนี้คือ? ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมพาไปกินอาหารญี่ปุ่นเอาไหม" เจเลอร์มองดรีมผ่านกระจกตรงหน้า เธอทำหน้าลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาพูดถึงอาหารญี่ปุ่นเพราะมันเป็นของโป
"เป็นยังไงบ้าง" "สวยมาก" "นายชอบไหม" "ชอบมาก ชุดนี้สวยเหมาะกับพี่" ดรีมยิ้มพลางเลื่อนมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความเขินอาย "เรามาถ่ายรูปคู่กันดีไหม" "พี่อยากถ่ายรูปคู่กับผมเหรอ?" "ใช่ เรายังไม่มีรูปคู่กันเลยนี่หน่า นะๆ พี่คะ รบกวนถ่ายรูปให้เราสองคนหน่อยได้ไหมคะ" "ได้ค่ะ" พนักงานสาวตอบรับด
หลายวันต่อมา "อื้อ...ทำอะไรของพี่เนี่ย" ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อโดนคนตัวเล็กเข้ามาปลุกโดยวิธีการจุ๊บแก้มซ้ำหลายๆ รอบ เธอมักเข้ามาปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้า "ตื่นเร็วเช้าแล้ว" "ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะ ผมเพลียมากเลย" คนฟังทำหน้านิ่ว ทุกครั้งที่เข้ามาปลุก เจเลอร์มักพูดแบ
"ไปกอดต่อบนห้อง" เขาจับมือดรีมให้เดินตามไปยังลิฟต์ สามวันที่ผ่านมาบอกตามตรงว่าคิดถึงเธอมาก แม้จะคุยกันผ่านแชตเป็นประจำแต่มันก็ไม่ทำให้หายคิดถึงเท่าเห็นหน้า ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย เจเลอร์จูงมือดรีมมายังห้องตัวเอง เมื่อเข้ามาข้างในเขาไม่รอช้าที่จะดึงคนตัวเล็กมากอดอีกครั้งด้วยความคิดถึง
สามวันต่อมา "รู้สึกยังไงบ้างที่มีผู้ชายโพสต์รูปลงไอจี" ณิชาที่กำลังเดินคล้องแขนดรีมเลือกซื้อของบนห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เดี๋ยวเขาก็ลบออกไปเองแหละ" "การที่ผู้ชายทำแบบนี้ฉันว่ามันชัดเจนแล้วนะว่าเจเลอร์อะ เขาคิดเหมือนกันกับแก" "แต่ว่าเขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน" เธอพูดตัดพ้อออกมา
"อะ" ชายหนุ่มรุ่นน้องปรายสายตามองสร้อยประจำตระกูลที่ดรีมคืนให้เพียงนิด ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองวิวตรงหน้าต่อพลางขยับปากพูดกับหญิงสาว "พี่เก็บไว้ใส่เถอะ" "แต่ว่านี่เป็นสร้อยประจำตระกูลของนายเลยนะ จะเอามาให้ฉันเก็บไว้ใส่เองได้ยังไง" "พี่เป็นเมียผมแล้วนะ ของๆ ผัว ก็เหมือนของๆ เมีย" "คะ...ใครเป็นเม
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสี่เหลี่ยมหรูกระทบเข้ากับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนเตียง เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะมีแสงแดดกำลังแยงตา เธอดึงตัวเองขึ้นจากหมอนใบใหญ่พลางมองไปรอบห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคอนโดของเจเลอร์ แล้วเธอก็นอนที่นี่
"เจเลอร์" เสียงนั้นทำให้เจเลอร์และดรีมพลันสายไปมอง พบว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่คือพิตต้า หล่อนเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม "เจอกันอีกแล้วนะ" "มีอะไร" "ทำไมต้องทำตัวห่างเหินกันด้วยล่ะ เมื่อก่อนเจเลอร์ไม่เป็นแบบนี้นี่หน่า" "เรื่องของเรามันจบไปแล้ว จะพูดถึงทำไมอีก" "เพราะพิตต้ายังรักเจเลอร์อยู่ เราจะไม่
เธอปลีกตัวจากเจเลอร์มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเขาก็เอาแต่เดินตามราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปไหน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก้าวออกมาล้างมือ ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงถังขยะ จังหวะกำลังเดินออกไปเป็นต้องชะงัก เมื่อพิตต้า อดีตแฟนเก่าของเจเลอร์ได้เดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี เธอและพิตต