ฌองลุกขึ้นจากพื้นด้วยความหวังอันริบหรี่ในดวงตาของเขา “จริงด้วย... แอเรียนยังมีเงินและบ้านอยู่ในมือ สิ่งเหล่านั้นรวมกันเป็นเงินประมาณสามล้านดอลลาร์ซึ่งจะเพียงพอเพื่อให้เราอยู่รอดได้ชั่วขณะ! ไปหาเธอกันเถอะ!”หลังจากทำการสอบสวนแอรี่จึงได้รู้ว่าแอเรียนได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เธอบุกไปที่โรงพยาบาลเพียงเพื่อถูกหยุดโดยบอดี้การ์ดที่หน้าประตู ขณะนี้เธอไม่สนใจที่จะรักษาภาพลักษณ์ของเธอในฐานะสุภาพสตรีที่มาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอีกต่อไป "ให้ฉันเข้าไป! ให้ฉันเข้าไปหาอินางเลวนั่น!”แมรี่ที่ได้ยินเสียงวุ่นวายนอกห้องพยาบาลจึงเดินออกมาดูพร้อมใบหน้าที่บึ้งทันทีที่เธอก้าวออกไป "คุณมาทำอะไรที่นี่?"แอรี่พยายามอย่างเต็มที่ที่จะยืนเขย่งเท้าเพื่อมองเข้าไปในห้องพยาบาล “แอเรียนอยู่ข้างในนั่นใช่ไหม? ให้ฉันเข้าไป! ฉันมีเรื่องด่วน!”แอรี่ดูเหมือนว่าเธอมาที่นี่เพื่อฆ่าแทนที่จะมาหาใครบางคน แน่นอนว่าแมรี่จะไม่ยอมให้เธอเข้าไป “คุณคินซีย์ นายหญิงของเรายังไม่หายดีพอที่จะรับแขกได้ โปรดกลับไปเถอะ ไม่เช่นนั้นฉันจะต้องดำเนินการกับคุณหากคุณยังคงสร้างความปั่นป่วนอยู่ที่นี่”แอรี่เหวี่ยงมือไปที
มาร์คขมวดคิ้วเมื่อได้ยินแอรี่ใช้คำหยาบคายเหล่านั้นก่อนที่จะเดินเข้ามาหาและจับคางของเธอ เขาพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มที่น่าฟังแต่ซ่อนความอันตราย “คุณกำลังท้าทายขีดจำกัดของผมนะ”แอรี่กลัวมากจนน้ำตาไหลและร่างกายสั่นสะท้านดั่งใบไม้ “ค-คุณ… จะทำอะไร?”เขาผลักเธอออกไปอย่างกะทันหัน “ผมไม่มีนิสัยชอบลงไม้ลงมือกับผู้หญิงหรอก แต่ถ้าคุณยังคงเพิกเฉยต่อไป ผมก็จะไม่รังเกียจที่จะปล่อยให้บอดี้การ์ดของผมทำมันแทน”แอรี่ล้มลงกับพื้นที่ก้นของเธอ รองเท้าส้นสูงที่เธอตั้งใจเลือกมาสำหรับการนัดเจอของพวกเขากลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญในตอนนี้ เธอลุกขึ้นด้วยความยากลำบากและเดินกะเผลกออกไปเพียง เพื่อต้องหยุดเพราะบอดี้การ์ดที่จู่ ๆ ก็โผล่มาจากไหนไม่รู้ ด้วยความตื่นตระหนกเธอไม่แม้แต่จะสามารถถ่มน้ำลายใส่เขาได้เหมือนที่เธอเคยทำก่อนหน้านี้ ในที่สุด เธอก็รู้แล้วว่าความอ่อนโยนของมาร์คเป็นเพียงส่วนหนึ่งของหน้ากากเขาเท่านั้น รอยยิ้มของเขาสามารถเปลี่ยนโลกให้กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งฤดูใบไม้ผลิได้ แต่ความโกรธของเขาสามารถทำให้เกิดพายุหิมะในฤดูหนาวได้“ฉันจะไม่ไปหาแอเรียนอีกแล้ว… ได้โปรดปล่อยฉันไป…” เธอประนีประนอมและซ่อนความเกล
ทิฟฟานี่อยู่เคียงข้างแอเรียนทั้งในช่วงเวลาที่ดีและช่วงเวลาที่เลวร้ายและตอนนี้เธอยังพูดถึงเรื่องที่จะไม่มีลูกอีก เธอได้ทำทุกอย่างที่เพื่อนคนนึงจะทำให้เพื่อนอีกคนได้หัวใจที่เย็นชาของแอเรียนกลับมาอบอุ่นอีกครั้ง “ทิฟฟ์…ขอบคุณ ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้ว ฉันแค่รู้สึกเศร้านิดหน่อย ฉันรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากได้คุยกับเธอ ฉันอยากหย่า แต่ฉันจะทำอย่างไรได้ถ้ามาร์คไม่ยินยอม”แอเรียนต้องการที่จะหย่าจริง ๆ ขณะที่เธออยู่ในโรงพยาบาลเธอได้คิดไตร่ตรองเรื่องนี้มาดีแล้ว เธอจึงได้ตระหนักว่าเธอไม่อาจลืมเรื่องราวในอดีตได้ นอกจากนี้ เธอไม่สามารถมีลูกเองได้อีกต่อไป นั่นหมายความว่าจะไม่มีเป็นผู้สืบทอดให้ตระกูลเทรมอนต์ ไม่มีทางที่มาร์คจะไม่คิดอยากมีลูกในช่วงหนึ่งของชีวิตเขา เนื่องจากพวกเขาดำเนินการธุรกิจขนาดใหญ่ การมีทายาทจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับตระกูลเทรมอนต์ แอเรียนอยากยุติเรื่องต่าง ๆ ในตอนนี้มากกว่าที่จะต้องมากังวลกับปัญหาเหล่านั้นในอนาคต นอกจากนี้ เธอไม่ได้วางแผนที่จะอยู่ในครอบครัวเทรมอนต์ไปตลอดชีวิตอยู่แล้ว สำหรับเธอ คฤหาสน์ เทรมอนต์ เป็นเพียงคุกที่หรูหราเท่านั้นทิฟฟานี่ไม่แปลกใจเลย เธอครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะพ
เธอจับชายเสื้อของเธอด้วยความกังวลใจและพยายามอย่างสงบสติอารมณ์บนใบหน้าของตนเองอย่างเต็มที่ “ไม่ ฉันยืนยันที่จะหย่า ครั้งหนึ่งฉันเคยพยายามโน้มน้าวตัวเองให้ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไป พอฉันตั้งครรภ์ในครั้งนี้ ฉันจึงตั้งตารอที่จะได้คลอดลูกและเชื่อว่าทุกอย่างคงจะดีขึ้น แต่โชคชะตาก็ยังเลือกที่จะบอกฉันว่าฉันควรจะจากไป ขอบคุณที่คุณบอกฉันว่าคุณรักฉัน แต่ขอโทษที่ฉันไม่มีวันรักคุณได้ เวลาที่ฉันอยู่กับคุณฉันมักจะตัวสั่นเสมอ ฉันต้องอยู่แบบระมัดระวังและรอบคอบเพื่อไม่ให้คุณอารมณ์เสีย และฉันก็อึดอัดที่จะต้องอยู่ด้วยความรู้สึกผิดแบบนี้ตลอด เราจะอยู่ร่วมกันโดยที่เราไม่ได้รักกันได้อย่างไร? คุณไม่เบื่อหรอ?”มาร์คลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหันและคลายเน็คไทของเขา เขารู้สึกอยากทำลายข้าวของแต่ก็กังวลว่ามันจะทำให้เธอตกใจ “เธอไม่จำเป็นต้องรักฉัน ยังไงฉันก็จะไม่ยอมหย่า เธออยากทำอะไรก็ทำไปเลย! ฉันจะออกไปข้างนอกแล้ว ฉันยังมีบางอย่างที่ต้องจัดการ ถ้าเธอต้องการอะไรก็ไปหาแมรี่เอา”เขาหยิบเสื้อคลุมและออกไปจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ ในรถ ไบรอันถามเขาว่า "นายท่านอยากไปไหนครับ?"มาร์คไม่อยากจะทำอะไรเลย จริง ๆ แล้ววันนี้เขาลาหยุดเพราะอยากใช
ณ บ้านของครอบครัวเวสต์ทิฟฟานี่กำลังคุยกับซัมเมอร์อย่างสนุกสนาน มองแวบแรกพวกเขาดูเหมือนแม่และลูกสาวคู่หนึ่ง ความสัมพันธ์ของพวกเขาดีมากจนแจ็คสันดูเหมือนจะไม่เข้าพวกทั้ง ๆ เขาเป็นลูกชายของซัมเมอร์ เขานั่งอยู่ตรงนั้นพร้อมกอดพุดเดิ้ลของซัมเมอร์ไว้ในอ้อมแขน ชายร่างสูงในชุดสูทอุ้มลูกสุนัขขนปุยเป็นภาพที่น่ารักทีเดียว แม้แต่ทิฟฟานี่เองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเขาอยู่สองสามครั้งดูเหมือนซัมเมอร์จะนึกอะไรบางอย่างได้เมื่อจู่ ๆ เธอก็พูดขึ้นมาว่า “ทิฟฟ์ นี่เป็นครั้งที่สองที่เธอมาที่นี่ใช่ไหม? คืนนี้ไม่ต้องกลับหรอก มันดึกมากแล้ว คืนนี้นอนค้างคืนที่นี้และอยู่เป็นเพื่อนฉันก่อน มันนานมาแล้วด้วยที่แจ็คสันได้มาพักที่นี่กับฉัน”สีหน้าของทิฟฟานี่ค่อย ๆ ตึงเครียด เธอกล่าวว่า “หนูคิดว่านั่นคงไม่เหมาะสมเท่าไหร่นะคะคุณเวสต์ แม่ต้องบ่นหนูแน่ ๆ ถ้าหากหนูอยู่ค้างคืน เขาไม่ให้หนูค้างคืนที่อื่นแม้แต่บ้านของแฟนก็ตาม เขาเข้มงวดกับเรื่องแบบนั้นมาก”ซัมเมอร์ผิดหวังเล็กน้อย “อย่างนั้นเหรอ? มันเป็นเรื่องดีนะที่ครอบครัวของเธอเป็นห่วงเรื่องแบบนี้ แต่ฉันอยากให้เธออยู่ต่อจริง ๆ เอาแบบนี้ไหม? ทำไมเธอไม่เอาเบอร์ติดต่อแม่มาใ
ทันทีที่แจ็คสันเข้าห้องน้ำ ทิฟฟานี่ก็ถอดผ้าขนหนูออกและขึ้นเตียงไป กลิ่นบนหมอนเหมือนกลิ่นเขาเลย มันเป็นกลิ่นที่หอมหวาน จู่ ๆ เธอก็นึกถึงครั้งแรกที่เจอเขา ตอนนั้นเธอรู้สึกตื่นตาเมื่อเห็นใบหน้าเขา ใคร ๆ ก็คงใจเต้นรัวเมื่อได้เห็นใบหน้านั้น แต่ไม่ใช่สำหรับทิฟฟานี่เพราะตอนนั้นเธอยังคบกับอีธานอยู่แม้ว่าในหัวของเธอจะเต็มไปด้วยความคิดที่ฟุ้งซ่าน แต่ในไม่ช้าเธอก็เข้าสู่ห้วงนิทราเรียบร้อย เตียงขนาดยักษ์แสนสบาย หมอนหนานุ่มและผ้าห่มที่นุ่มสบายช่วยให้เธอนอนหลับได้สบาย นานมาแล้วที่เธอไม่ได้รู้สึกสบายใจเช่นนี้ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ แต่เธอตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรู้สึกอึดอัด ดูเหมือนว่าเธอจะดื่มน้ำมากเกินไปตอนที่คุยกับซัมเมอร์หลังอาหารเย็น เธอยังคงอยู่ในสภาพที่ขมุกขมัวขณะที่เธอพลิกผ้าห่มออก ในขณะนี้ในหัวของเธอมีเพียงความคิดเดียว เธอต้องเข้าห้องน้ำ เพียงพริบตาเธอก็สะดุดทันทีที่ลุกจากเตียง เธอได้ยินเสียงแจ็คสันครวญครางด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ว่าท้องของเธอไปบดขยี้ใบหน้าของเขาเพียงชั่วพริบตาเธอก็ถูกเขาโยนออกไปด้วยความรุนแรง จนเธอกระแทกเตียงอย่างแรง เตียงไม้ทำให้เธอเจ็บหลังและเธอก็อ
ทิฟฟานี่ชะลอฝีเท้าทันที หัวใจของเธอเต้นแรงพร้อมกับหวังว่ามันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญเมื่อซัมเมอร์วางสายเธอก็เห็นทิฟฟานี่ยืนอยู่ที่ด้านล่างของบันไดด้วยความสับสนในตนเอง เธอเรียกทิฟฟานี่ “มาทานอาหารเช้ากันเถอะทิฟฟ์ ฉันเพิ่งคุยโทรศัพท์กับแม่ของเธอ เขาดีใจมากตอนได้ยินว่าเธอคบกับแจ็คสัน ฉันชวนเขามาดื่มชาตอนบ่ายด้วย”มันเป็นเรื่องจริง สิ่งที่เธอกังวลที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว..."คุณเวสต์ คุณได้เบอร์แม่หนูมาได้ยังไง?” ทิฟฟานี่ไม่แม้แต่จะฝืนยิ้มได้“เรื่องนั้นก็… ฉันมีวิธีของฉันในการเข้าถึงเบอร์ของแม่เธอ เธอไม่ต้องตกใจขนาดนั้น เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอดูไม่มีความสุขล่ะ? เธอกำลังโทษว่าฉันโทรหาแม่เธอโดยไม่แจ้งให้เธอทราบก่อนหรอ? ฉันไม่คิดว่ามันไม่เหมาะสมที่ฉันจะทำสิ่งนี้นะ” เมื่อซัมเมอร์สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของทิฟฟานี่บรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดขึ้นเล็กน้อยในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ทิฟฟานี่ก็ทำได้แค่ต้องยอมรับมัน "คุณเวสต์ หนูไม่ได้เสียใจ ก็แค่ว่า… ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เราควรทานอาหารเช้ากันได้แล้ว หนูยังต้องไปทำงานอีก” เธอไม่อยากบอกซัมเมอร์ว่าแม่ของเธอเป็นคนชั่วแค่ไหน มันมากเกินไปและ
การสูญเสียเครื่องเพชรเครื่องประดับบางอย่างก่อให้เกิดการล้มละลายของครอบครัวเลน แจ็คสันไม่สามารถจินตนาการได้ว่าทิฟฟานี่จะตอบสนองอย่างไรหากเธอพบว่าอีธานเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ครอบครัวของเธอต้องล้มละลาย ตอนนี้ อีธานมีความสุขกับชื่อเสียงของเขาที่เขาได้มาเพราะเคยพึ่งพาครอบครัวเลนโดยการซื้ออาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จและก่อตั้งบริษัทสองสามแห่งด้วยเงินสดที่เขาได้รับจากการขายเครื่องประดับ แม้ว่ามาร์คจะขาดทุนทางการเงินไปบ้าง แต่ครอบครัวเลนนั้นถึงกับพังพินาศไปอย่างสิ้นเชิงทันใดนั้น ทิฟฟานี่ก็พรวดพราดเข้าประตูห้องทำงานเขามา “แม่ ๆ ของเราดื่มน้ำชายามบ่ายด้วยกัน และเมื่อกี้แม่ของคุณก็ส่งข้อความมาบอกฉันว่าพวกเขากำลังจะไปช้อปปิ้งกัน!”แจ็คสันปิดสมุดบันทึกของเขาอย่างไร้ความรู้สึกและพูดด้วยท่าทางสงบ ๆ “คุณจะตื่นตระหนกทำไม? ปล่อยพวกเขาไปเถอะ”ทิฟฟานี่อธิบายด้วยความไม่พอใจว่า “พวกเราแค่เล่นการแสดงกันและฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะบอกแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ จะไม่ให้ฉันเป็นห่วงได้ยังไง? เราจะทำอย่างไรถ้าพวกเขารู้ความจริง? ฉันอยากให้คุณรู้ว่าแม่ของฉันจะไม่ยอมให้เราเลิกกันเด็ดขาดเมื่อเขารู้ว่าเราคบกัน พูดตรง ๆ เลยนะ เขา
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง