“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย มันน่ากลัวมาก!”“ใต้เท้า ช่วยฉันด้วย!”"ช่วยด้วย!"บางคนที่แขนและขาขาด ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากสามใต้เท้าแห่งตระกูลเทะอิจิโร“ฉันไม่ใช่คนของตระกูลเทะอิจิโร ฉันเป็นเพียงแขกเท่านั้น หากคุณไว้ชีวิตฉัน ฉันจะรีบออกกไปจากตระกูลเทะอิจิโรให้เร็วที่สุด ไว้ชีวิตฉันเถอะ!”“ฉันไม่ใช่แขก ฉันแค่เดินผ่านมา ไว้ชีวิตฉันเถอะ!”มีคนเหลือเพียงครึ่งร่างร้องขอความเมตตา“แกมันสัตว์ประหลาดกระหายเลือด ฉันขอสาปแช่งแกให้ตายอย่างอนาถา”“ในญี่ปุ่น จะมีคนบาปหนาอย่างแกได้อย่างไร จักรพรรดิจะไม่ยอมให้แกมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ และแกจะต้องตายอย่างแน่นอน”มีคนทั้งสาปแช่งและขู่ฉู่เฉินทำหูทวนลมและยังคงปลดปล่อยอาณาเขตเพชฌฆาตต่อไปในขณะนี้นั้นเองอาณาเขตสามอาณาเขตก็ปรากฏขึ้นในที่สุดใต้เท้าทั้งสามแห่งตระกูลเทะอิจิโร ก็อดใจไม่ไหวที่จะลงมือทั้งสามคนลงมือพร้อมกัน จึงสามารถหยุดการแพร่กระจายของอาณาเขตฉู่เฉินได้ชั่วคราว“ทุกท่าน รีบมาร่วมกับพวกเราสามคนเร็วๆเข้า”เทะอิจิโร อุบาซะเห็นว่าทั้งสามปล่อยอาณาเขตของตนและสกัดกั้นการโจมตีของฉู่เฉินรีบพูดออกมา..ฝูงชนรู้สึกเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม จ
“ใช่ เด็กคนนี้เป็นจอมยุทธจริงๆ เขาซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้ และหลอกลวงพวกเราไปสู่ความตาย พฤติกรรมนี้ไม่ได้แสดงถึงการเป็นจอมยุทธที่แท้จริง ใต้เท้า หลังจากที่คุณจัดการเขาจนพิการแล้ว ช่วยให้พวกเราได้ระบายความโกรธแค้นบ้าง"ใต้เท้าทั้งสามคนไม่มีแรงเหลือที่ จะสนใจผู้คนที่อยู่ข้างหลังหากไม่ได้เผชิญหน้ากับฉู่เฉินโดยตรง พวกเขาไม่สามารถเข้าใจความกดดันอันใหญ่หลวงนี้ได้แม้ว่าทั้งสามคนจะทุ่มเทพลังออกไปอย่างเต็มที่ แต่พวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้าได้เพียงครึ่งก้าวเท่านั้นเพียงครึ่งก้าวนี้ ก็ทำให้ทั้งสามคนเหงื่อโชกแล้วสภาพเช่นนี้ถือว่าผิดปกติอย่างมากสำหรับจอมยุทธ!เทะอิจิโร ดาไซยิ่งยากมากขึ้นที่จะก้าวลงมาจากหลังเสือ ในฐานะผู้นำ เขาเป็นคนที่ได้รับความกดดันของฉู่เฉินมากที่สุด ใบหน้าของเขาปูดโปนไปด้วยเส้นเลือดดำ และร่างกายก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้จะให้ก้าวหน้านั้นเป็นไปไม่ได้ และการล่าถอยก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้มากกว่าแต่ฝ่ายตรงข้ามมีคนเดียว พวกเขามีกันต้องสามคน ดังนั้นเด็กคนนั้นคงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกว่านี้แน่!จากความคิดนี้ เทะอิจิโร ดาไซจึงยืนหยัดอดทนอย่างยากลําบากไม่กี่นาทีผ่านไปพวกเขาทั้งสามด
โลกในดินแดนเร้นลับเดิมและดินแดนเร้นลับใหม่นั้น ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ และในช่วงเวลาที่โลกในดินแดนเร้นลับปรากฏขึ้นมานั่นเองเทะอิจิโร ดาไซรู้สึกได้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทันใดนั้น โดยไม่มีเวลาเตือนทั้งสองคนที่อยู่ข้างๆ เขา เขาก็แยกตัวออกไปจึงทำให้เทะอิจิโร นานะและเทะอิจิโร อุบาซะก็ได้รับแรงกดดันอย่างมหาศาล"ไม่ ไม่นะ..."ทั้งสองคนอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าฉู่เฉิน ซึ่งมีแต่เทะอิจิโร ดาไซที่แข็งแกร่งที่สุดได้หลบออกมาก่อน จึงทำให้พวกเขามีเวลาเพียงร้องอุทานก่อนที่จะถูกบดขยี้โดยโลกเร้นลับขนาดมหึมา พร้อมด้วยผู้รอดชีวิตอีกกว่าสิบคนที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังพวกเขาในการเผชิญหน้าเพียงครั้งเดียว นอกจากฉู่เฉินแล้ว มีเพียงเทะอิจิโร ดาไซที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ที่สามารถเอาชีวิตรอดออกมาได้ทั่วทั้งบริเวณมีแขนขาขาดและมีเลือดกระเซ็นในขณะนี้ เทะอิจิโร ดาไซไม่มีความเย่อหยิ่งอย่างก่อนหน้านี้อีกต่อไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และตัวสั่นเทา เมื่อชี้ไปที่ฉู่เฉิน“แก... แกเป็นปีศาจประเภทไหน? แกเป็นใครกันแน่?”เขามองเทะอิจิโร ดาไซอย่างเย็นชา ซึ่งสูญเสียความกล้าที่จะต่อต้านอีก และถู
ในท้ายที่สุด เทะอิจิโร ดาไซก็ไม่สามารถต้านทานความรู้สึกอันกดดันและจึงตอบคำถาม“เพราะว่าตระกูลเทะอิจิโรครอบครองภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่น และพวกเราที่ต้องการเลื่อนระดับ จึงไม่มีทางเลือกนอกจากต้องปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีต่อตระกูลเทะอิจิโร”“ว่ากันว่าภูเขาไฟฟูจิ ถูกครอบครองโดยคนที่เรียกว่าจักรพรรดิไม่ใช่เหรอ?” ฉู่เฉินถามอย่างสงสัย“จักรพรรดิเป็นคนจากตระกูลเทะอิจิโร! อย่างไรก็ตาม ข้อมูลนี้ไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป”คำพูดเหล่านี้ราวกับระเบิด ทำให้ฉู่เฉินตื่นตัวแน่นอนว่าจักรพรรดิญี่ปุ่นจะต้องมีตระกูล และโดยปกติแล้ว ตระกูลของจักรพรรดิจะเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น เขาจะมองข้ามข้อเท็จจริงเช่นนี้ ไปโดยไม่รู้ตัวได้อย่างไรฉู่เฉินส่ายหัวราวกับพยายามจะสลัดอะไรบางอย่างออกตั้งแต่เข้ามาญี่ปุ่น ตัวเองไม่เคยรู้เรื่องนี้เลย เป็นไปได้ไหมว่ามีพลังลึกลับที่มีอิทธิพลต่อเขามาโดยตลอด?หลังจากการตรวจสอบตัวเองสักพักและพบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ฉู่เฉินจึงตัดสินใจจำเรื่องนี้ไว้จักรพรรดิก็มาจากตระกูลเทะอิจิโรเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจเลยที่ผู้คนจำนวนมากยินดีรับใช้ตระกูลเ
ในต้าเซี่ย ณ เมืองหลวง ผู้อาวุโสเฉินกำลังจัดการกับเรื่องน่าเบื่อหน่ายที่โต๊ะทำงานประตูถูกเคาะ“เข้ามาได้”มีคนผลักเปิดประตูแล้วเข้ามา นั่นคือชิงหลงเมื่อเห็นว่าชิงหลงที่เห็นได้ชัดว่ามีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดแต่ก็ลังเล ผู้อาวุโสเฉินจึงพูดอย่างสงบ“พูดมาสิ มีเรื่องอะไรเล่า?”ชิงหลงไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่วางโทรศัพท์ไว้ข้างหน้าผู้อาวุโสเฉิน"หมายความว่าอะไร?"ผู้อาวุโสเฉินไม่เข้าใจ“ผู้อาวุโสเฉิน นี่คือวิดีโอที่เผยแพร่ในญี่ปุ่น แค่ดูแล้วจะรู้เอง”ผู้อาวุโสเฉินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างสงสัย แล้วคลิกเล่นวิดีโอในวิดีโอ เป็นภาพที่ฉู่เฉินสังหารทุกคนที่ทางเข้าตระกูลโกเบแม้ว่าคนที่ถ่ายจะอยู่ไกล แต่ผู้อาวุโสเฉินก็จำตัวเอกในวิดีโอได้ทันทีฉู่เฉิน!ขณะที่วิดีโอเล่น สีหน้าของผู้อาวุโสเฉินก็ค่อยๆ จริงจังขึ้นเมื่อวิดีโอจบลง เผยให้เห็นว่าฉู่เฉินจากไปอย่างปลอดภัย ผู้อาวุโสเฉินก็ถามอย่างใจเย็น"เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?""เมื่อวาน"ผู้อาวุโสเฉินยิ้มอ่อน“นั่นหมายความว่าฉู่ซวนหวู่ได้สังหารคน และปลอดภัย”“แต่ผู้อาวุโสเฉิน มันไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ ที่ฉู่เฉินกำลังสร้างปัญหาในโตเกียว”เม
……ณ เหมียวเจียง ภายในชนเผ่าขนาดใหญ่ หนึ่งในไม่กี่แห่งในหนานเจียงที่มีสัญญาณ ผู้หญิงสองคนนั่งอยู่บนสนามหญ้า คนหนึ่งแก่และอีกคนหนึ่งเป็นเด็ก“ชิงเสว่ พวกเรานั่งอยู่ที่นี่มาสามชั่วโมงแล้ว กลับกันเถอะ ยังมีอีกหลายสิ่งที่รอให้เธอจัดการในลัทธิ”“คุณยาย ไม่ต้องห่วง มีอะไรให้ทำบ้างในลัทธิ ก็แค่เรื่องเดิมๆ ทุกวัน ไม่สำคัญว่าฉันจะอยู่ที่นั่นหรือไม่”“นั่นก็จริง นับตั้งแต่เธอกลับมาเป็นผู้พิทักษ์ลัทธิ หนานเจียงก็มั่นคง คนนอกเหล่านั้นไม่กล้าก่อปัญหาอีกต่อไป”ทั้งสองคนคือหนิงชิงเสว่และคุณยายอสรพิษตั้งแต่กลับมาที่หนานเจียง หนิงชิงเสว่จะพาคุณยายอสรพิษมาที่นี่เพื่อนั่งสองสามชั่วโมงทุกวัน“ท่านผู้นำ ฉันพบข้อมูลที่คุณขอแล้ว โปรดตรวจสอบว่าถูกต้องหรือไม่”หญิงสาวคนหนึ่งวิ่งออกจากอาคารและรีบไปหาหนิงชิงเสว่“เสี่ยวโหรว ไม่ต้องรีบร้อน ทำไมถึงตื่นตระหนักขนาดนี้ หากทำตัวแบบั้น เธอจะเป็นสาวใช้ของผู้นำไม่ได้”เมื่อเห็นแบบนี้ คุณยายอสรพิษยิ้มและเริ่มหยอกล้อเสี่ยวโหรวคนนี้ได้รับการคัดเลือกเป็นพิเศษจากคุณยายอสรพิษ ให้มาเป็นสาวใช้ของหนิงชิงเสว่ทุกวันนี้ สถานะของหนิงชิงเสว่นั้นแตกต่างออกไป แม้ว่าหนิงชิ
ณ เมืองหลวง ทันทีที่ชิงหลงกลับมาที่ฐานจากฝั่งผู้อาวุโสเฉิน แขกที่ไม่คาดคิดก็ปรากฏตัวขึ้นภายในฐาน“น้องสะใภ้ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้”ชิงหลงพูดด้วยความอยากรู้อยากเห็นบนใบหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของชิงหลง ใบหน้าของหนิงชิงเสว่ก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อย“ฉันจะไปญี่ปุ่นเพื่อตามหาฉู่เฉิน คุณช่วยฉันได้ไหม”หนิงชิงเสว่ระบุจุดประสงค์ในการมาที่นี่แม้ว่าเธอจะบินไปที่นั่นได้โดยตรง แต่ก็คิดว่าด้วยความช่วยเหลือของชิงหลง เธอสามารถช่วยประหยัดแรงได้มาก ดังนั้นจึงมาตามหาเขา“ไปญี่ปุ่นเหรอ? เป็นไปไม่ได้ "ชิงหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพูดอย่างเด็ดขาด“ทำไมล่ะ?”“ถ้าฉู่เฉินรู้ว่า ฉันช่วยเธอไปญี่ปุ่น เขาจะทุบตีฉันอย่างแน่นอน เมื่อเขากลับมา ฉันเองก็ไม่อยากส่งเธอไปที่นั่นและทำให้เขากังวลด้วย”ชิงหลงให้เหตุผลที่ฟังขึ้น“ฉันไม่ได้ขอความยินยอมจากคุณ ไม่ว่าคุณจะช่วยฉันหรือไม่ก็ตาม ฉันก็จะไปอยู่ดี "ใบหน้าของหนิงชิงเสว่ กลับมาเป็นปกติและก็พูดอย่างใจเย็นเมื่อได้ยินแบบนี้ ใบหน้าของชิงหลงก็แดงขึ้น“ต้องไปจริงๆ เหรอ?”"แน่นอน!"“เอาล่ะ ฉันจะจัดเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้เธอทีหลัง แต่ก่อนหน้านั้นมีคนตามหาเ
“ฉันไม่คิดเลยว่าฉู่เฉินจะเป็นเสี่ยวฉือโถว ที่แท้เป็นอย่างนี้นี่เอง” เฉียวหานอวี้อุทานออกมา“พี่สาม ฉันจะไปญี่ปุ่นเพื่อตามหาเสี่ยวฉือโถว คุณอยากจะไปเซอร์ไพรส์เขากับฉันไหม?” หนิงชิงเสว่เชิญเธออย่างอบอุ่นเฉียวหานอวี้กำลังจะตกลงด้วยความยินดี แต่ราวกับว่าเธอกำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง เธอก็รีบเปลี่ยนคำพูด“ไม่เป็นไร เธอไปก่อนเถอะ ฉันมีเรื่องที่ต้องทำในเมืองหลวงก่อน รอฉันจะไปหาพวกเธอ เมื่อฉันทำธุระเสร็จแล้วนะ”เฉียวหานอวี้ก็ปฏิเสธข้อเสนอที่จะไปด้วยกันหนิงชิงเสว่จึงไม่พยายามชักชวนเธออีกต่อไป สองพี่น้องเพิ่งพบกันไม่นาน จากนั้นต้องแยกย้ายกันอีก ทั้งสองจับมือกันแน่นไม่ยอมปล่อยในตอนกลางคืน เครื่องบินส่วนตัวลำหนึ่งบินขึ้นอย่างเงียบๆ จากฐานในเมืองหลวงและบินไปยังญี่ปุ่น……ภูเขาฟูจิที่ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกมายาวนาน และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องที่ตีนเขา มีชายสองคน คนหนึ่งสูงอายุและชายหนุ่มหนึ่งคนเดินพร้อมกัน ไม่เหมือนกับนักปีนเขาคนอื่นๆ ไม่ว่าพวกเขาจะสูงวัยหรือเยาว์วัย ทั้งสองคนไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าขณะเดินเท้ามาที่นี่เพียงอย่างเดียวผู้คนท