“คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นเซียนวรยุทธ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ผมพ่ายแพ้ในทันที และมองไม่เห็นเขาลงมือเลยด้วยซ้ำ”“ฮึ่ม ด้วยพลังในปัจจุบันของนาย ถ้าฉันต้องการฆ่านายจริงๆ แล้วจุดจบก็เหมือนกัน นายคิดว่าเพราะฉันลดระดับวรยุทธเพื่อมาเป็นคู่ต่อสู้ให้ เลยคิดว่าสามารถเทียบกระดูกกับฉันได้?” จวินหวู่หมิงเยาะเย้ย"ก็ใช่" ฉู่เฉินลูบหัวอย่างเขินอายและพูดต่อ “แต่ในเมื่อเป็นเซียนวรยุทธ ทำไมเขาถึงเพิ่งมาคลายผนึกเอาในเวลานี้ด้วย?”จวินหวู่หมิงครุ่นคิดอยู่ก่อน ที่จะตอบ: “นี่อาจจะเกี่ยวข้องกับเซียนวรยุทธ นายเพิ่งเจอไปเมื่อกี้ก็ได้ บางทีการปรากฏตัวของเซียนวรยุทธคนอื่นนั้น ไปกระตุ้นมันเข้า”คำอธิบายนั้นดูสมเหตุสมผลฉู่เฉินกำลังคิดเช่นนั้น จู่ๆ น้ำเสียงของจวินหวู่หมิงก็เปลี่ยนไป"อย่างไรก็ตาม ยังมีข่าวลืออีกว่าเซียนวรยุทธ เหยาหลิงเฉินมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับนิกายแพทย์ซวนเทียน"“คุณหมายถึงว่าที่คลายผนึกพลังนั่น อาจเพราะเขาสัมผัสได้ถึงตัวตนที่คุ้นเคย?” ฉู่เฉินถาม“ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นสักหน่อย เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น”“ไม่ว่าจะจริงหรือไม่ คงจะได้รู้กันเร็วๆ นี้”ฉู่เฉินพูดจบ ร่างก็วิบวับ จากนั้นก็ปราก
เหยาหลิงเฉินไม่สนใจฉู่เฉินอีกต่อไปฉู่เฉินเองก็ไม่ได้สนใจมากนัก จึงนั่งขัดสมาธิเพื่อบำเพ็ญเพียรทันทีพลังจิตวิญญาณหนาแน่นกว่ามิติของจวินหวู่หมิงเล็กน้อยหลังจากผ่านไปหนึ่งคืน การบำเพ็ญเพียรของฉู่เฉินก็ดีขึ้นขณะที่กำลังจะออกจากเมืองลับแลมังกร เห็นผู้เฒ่าเหยามาที่ศาลาของเขาพร้อมกับฮวาหลางเยว่ฉู่เฉินจึงเดินออกจากศาลาเพื่อต้อนรับแต่ผู้เฒ่าเหยาดูเหมือนจะมีบางอย่างอยู่ในใจ เมื่อเขาเห็นฉู่เฉินก็แสดงสีหน้าละอายใจ“ฉู่เฉิน สิ่งที่ฉันสัญญากับคุณก่อนหน้านี้ ตอนนี้คุณอาจต้องต่อสู้เพื่อมันด้วยตัวเอง” “ผู้เฒ่าเหยา เกิดอะไรขึ้น?”“เมื่อวานนี้ ฉันได้เข้าไปพบกับผู้เฒ่านิกาย หลังจากหารือกันแล้ว ทางนิกายก็ตัดสินใจจัดการประลองปรุงยาในสามวันข้างหน้า และอนุญาตให้ลูกศิษย์และผู้เฒ่าทุกคนเข้าร่วมได้”ฉู่เฉินเข้าใจทันทีว่า ที่สองคนก่อนหน้านั้นมาปรากฏตัวเมื่อคืนนี้ เป็นเพราะเรื่องนี้เอง เขายิ้มแล้วพูดว่า “นี่เป็นเรื่องที่ดีนะผู้เฒ่าเหยา ทำไมถึงดูหมดอะไรตายอยากแบบนั้น?”“ฉู่เฉิน แม้ว่าจะไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุคนอื่นในนิกายแพทย์นับตั้งแต่นักเล่นแร่แปรธาตุคนสุดท้ายเสียชีวิตไป แต่ก็ก็ยังมีคนในนิกายที
ไม่นานนัก ก็มาถึงขอบเหวลึก“ไอ้หนู กระโดดลงไป!”เหยาหลิงเฉินเร่งเร้ามองลึกลงไปที่หุบเหวที่ไร้ก้นบึ้ง ฉู่เฉินแผ่จิตสัมผัสและค้นพบทันทีว่าอากาศบริเวณนี้ถูกจำกัดร่ายคาถาข้อห้ามไว้ เช่นข้อห้ามใช้พลังทะบานบิน ห้ามใช้ลมปราณที่แท้จริง สกัดกั้นจิตรับรู้และอื่นๆฉู่เฉินพูดอย่างหน้างุนงงว่า “ผู้อาวุโส ผมเป็นเพียงปรมาจารย์ระดับมหากาฬตัวเล็กๆ ถ้าผมกระโดดลงไป แม้ว่าผมจะไม่ตาย ก็เลี้ยงไม่โตแน่”“นายจะกลัวอะไร? สมัยนั้นฉันเป็นคนร่ายคาถาข้อจำกัดเหล่านี้ไว้เอง เพื่อเอาไว้ทำให้คนอย่างนายหวาดกลัว อันที่จริงถ้านายกล้ากระโดดก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก แค่กระโดดลงไปเถอะ นายคิดว่าตาแก่คนนี้จะทำร้ายนายงั้นเรอะ?" เสียงโกรธของเหยาหลิงเฉินดังก้องอยู่ในใจของฉู่เฉิน“ผู้อาวุโส ท่านไม่ได้หลอกผมใช่ไหม? ก่อนหน้านี้ ท่านก็ฆ่าผมตั้งหลายครั้ง” ฉู่เฉินนึกถึงภาพที่ถูกเหยาหลิงเฉินทุบตีตอนนั้นเองก็นึกได้ว่า ชายชราคนนี้คิดว่ายังไงก็ฆ่าเขาไม่ตายในเมืองลับแล ดังนั้นจึงทำแผนล่อให้เขากระโดดลงแทนหรอกมั้ง“ไอ้โง่เอย! แกกล้าดียังไงมาสงสัยคนอย่างข้า! แค่ความกล้าแค่นิดเดียวก็ไม่มี แกคิดว่าแกสมควรได้รับการยอมรับจากเมืองลับแลมังก
“สมุนไพรอมตะ!”เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉู่เฉินแทบไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองในโลกนี้ยังมีสมุนไพรอมตะอยู่เหรอ?ขณะที่กำลังสงสัย แสงสีเขียวก็มาบรรจบกันและรวมกันของร่างของชายชราต่อหน้าฉู่เฉิน และสิ่งนี้เหมือนกับสิ่งที่เขาเห็นในเมืองลับแลมังกร ฉู่เฉินรู้สึกสั่นสะท้านในใจตัวเขาอยู่ที่ไหน? หรืออาจจะเป็น...?เมื่อเผชิญหน้ากับการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของคนคนนั้น ฉู่เฉินก็อดไม่ได้ที่จะต่อต้าน แต่แม้ว่าจะต้องการต่อต้านแต่ใจกลับทำไม่ได้ เขามองไปที่ชายชราที่ค่อยๆ มาปรากฏตัวขึ้นอย่างระมัดระวังโชคดีที่คนคนนั้นเหมือนจะไม่มีเจตนาแฝง ซึ่งหมายความว่าเหยาหลิงเฉินไม่ได้หลอกลวงเขา“สหายน้อย อย่าเพิ่งตกใจไป ฉันสัมผัสได้ถึงตัวตนของสหายอีกคนที่พัดออกมามาจากร่างของคุณ คุณช่วยบอกฉันได้ไหมว่าใครส่งคุณมาที่นี่” ชายชราถามอย่างเป็นมิตรเมื่อมองดูชายชราตรงหน้า เขาไม่สามารถสัมผัสได้มีพลังงานใดๆ ราวกับว่าสิ่งที่กำลังมองอยู่นั้นเป็นภาพลวงตา แต่ฉู่เฉินก็รู้ว่านี่ไม่ใช่ภาพลวงตา แต่เป็นผลมากจากพลังวรยุทธของเขาในตอนนี้“ผู้อาวุโส ผู้นำนิกายแพทย์ที่ส่งผมมาที่นี่” ฉู่เฉินตอบอย่างตรงไปตรงมา“ผู้นำนิกาย? เจ้าคนนั้นหายตั
“เจ้าหนู นายโชคดีมาก ตอนนี้นายตกลงไปในหุบเหวและในขณะที่หมดสติไป ใต้เท้าของเซียนเถิงได้ประเมินจิตใจแบบที่ไม่รู้ตัว หากนายเป็นคนจิตใจชั่วร้าย นายคงไม่ได้มาอยู่ที่นี่ได้ นั่นเป็นเพราะนายผ่านการทดสอบแล้ว จึงปรากฏตัวในเซียนเถิงได้ ซึ่งมันยากที่จะเชื่อว่าจริงๆ แล้วนายเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์เช่นนี้” ใบหน้าของเหยาหลิงเฉินฉายแววอิจฉาและโล่งใจเล็กน้อย และก็ค่อยๆ อธิบายเหตุผล“นี่คือด้านในของเซียนเถิงที่คุณกำลังพูดถึงหรือเปล่า?” ฉู่เฉินมองไปรอบๆ อย่างสงสัย“ถูกต้อง นี่คือสถานที่ที่เฉพาะผู้ที่ได้รับการยอมรับจากใต้เท้าเซียนเถิงเท่านั้น ถึงจะสามารถมาที่นี่ได้ เจ้าหนู ควรใช้เวลาส่วนใหญ่ที่นี่เพื่อบำเบ็ญเพียร แล้วฉันจะอธิบายเพิ่มเติมตอนที่ออกไปแล้ว” เหยาหลิงเฉินเร่งฉู่เฉินฉู่เฉินก็หยุดพูดเรื่องไร้สาระและนั่งลงกับพื้น เพื่อทำสมาธิ และเข้าสู่การบำเพ็ญเพียรบางทีสิ่งที่เรียกว่าเซียนเถิงอาจยกเลิกข้อจำกัดของเขาแล้ว ในระหว่างบำเพ็ญเพียร วรยุทธของฉู่เฉินก็ได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ในขณะที่กำลังบำเพ็ญเพียรพลังงานสีเขียวบริสุทธิ์ก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขา ทำให้ร่างกายของเขารู้สึกอบอุ่นตั้งแต่หัวจรดเท้
ฉู่เฉินคิดถึงสิ่งนี้และกระโดดลงไปในอากาศอีกครั้ง มุ่งหน้าสู่หุบเหวลึกขณะที่ฉู่เฉินกระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือเหว ข้อห้ามก่อนหน้านี้เพิ่งมีผลบังคับใช้ และร่างกายของฉู่เฉินก็ดิ่งลงไปทันใดนั้นร่างของฉู่เฉินก็ได้เปล่งแสงออกมาและกลับมาที่ขอบเหวอีกครั้งนี่?หรือคาถาต้องห้ามมีปัญหา?ฉู่เฉินกระโจนอีกครั้ง ทะยานขึ้นไปในอากาศเกิดแสงสว่างจ้าฉู่เฉินปรากฏตัวอีกครั้งที่ตำแหน่งเดิมด้านบนครั้งนี้ ฉู่เฉินเข้าใจว่าไม่ใช่เพราะคาถาต้องห้ามผิดพลาดร่างของฉู่เฉินหายไป และไปปรากฏในเมืองลับแลมังกร ซึ่งสังเกตเห็นทันทีว่ามังกรเงาในความว่างเปล่าดูเหมือนจะแข็งตัวขึ้นเล็กน้อยฉู่เฉินไม่สนใจ และปรากฏตัวในมิติพิศวงของเหยาหลิงเฉิน“ผู้อาวุโส เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ฉู่เฉินเปิดปากถามเหยาหลิงเฉินต้องรู้อะไรอย่างแน่นอน ในขณะที่เขามองที่ฉู่เฉินด้วยสีหน้าแปลกๆ“นายเป็นคนแรกที่ทำให้ใต้เท้าเซียนเถิงหลบหน้านาย ไอ้หนู นายน่าประทับใจมาก”เหยาหลิงเฉินจ้องไปที่ฉู่เฉินสักพักใหญ่ ก่อนที่จะพูดออกมาเมื่อได้ยินเหยาหลิงเฉิน เอ่ยคำสี่คำว่าใต้เท้าเซียนเถิงอีกครั้งในที่สุด ฉู่เฉินก็ได้สติกลับมา "ผู้อาวุโส... ท่านกำ
กลิ่นหอมของยาฟุ้งไปทั่วทั้งศาลาหากมีใครอยู่ที่นี่ จะตกใจอย่างแน่นอนการปรุงยาของฉู่เฉินไม่จำเป็นต้องใช้เตาหลอมยา แต่ถูกสร้างขึ้นจากอากาศวิธีการนี้ แม้แต่ในโลกยุทธภพเองก็ไม่เคยพบเคยเจอมาก่อนโชคดีที่ศาลานี้ปลีกวิเวกจากศาลาอื่น จึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ มีเพียงคนที่อยู่ในใจของฉู่เฉินคนสองคนเท่านั้นที่ทั้งรับรู้เรื่องนี้ จากพลังจิตวิญญาณของพวกเขาโชคดีที่ทั้งสองคนรู้ด้วยว่า ตอนนี้เป็นช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานและไม่ได้พูดอะไรเพื่อเป็นการรบกวนจนกระทั่งเม็ดยาควบแน่นสมุนไพรทั้งหมดสลายไปกลางอากาศ เหลือเพียงยาอายุวัฒนะเพียงสิบเม็ดที่ลอยอยู่ในอากาศในที่สุดเหยาหลิงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะอุทานด้วยความตกใจ“เจ้าหนู นายไปเรียนรู้เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุนี้จากผู้ใดกัน?”“แน่นอนว่าเป็นอาจารย์ของผม” ฉู่เฉินตอบ“ใครคืออาจารย์ของนายกัน?” เหยาหลิงเฉินถามอีกครั้ง“ผมไม่รู้ชื่อของอาจารย์ ปกติผมจะเรียกเขาว่าตาแก่'” ฉู่เฉินพูดตามความจริง หลังจากใช้เวลาอยู่กับอาจารย์ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนมากว่าสิบปี ทั้งคู่เลยก็เลยสนิทกันมากและพวกเขาเรียกแทนกันก็ค่อนข้างเป็นกันเอง"นายรู้ไหมว่า แม้แต่ในโลกยุทธภพ วิธ
“จะเป็นไปได้ยังไง!”"เกิดอะไรขึ้น?"“แกมีวรยุทธระดับไหนกัน?”ลูกศิษย์หลายคนของนิกายแพทย์สัมผัสรัศมีที่น่าสะพรึงกลัวและอุทานด้วยความตกใจศิษย์พี่หลิวขาแข็งทันที และมองไปที่แผ่นหลังของฉู่เฉินด้วยความตื่นตระหนก ถึงแม้จะยืนอยู่ด้านหลังฉู่เฉิน ก็ยังคงรู้สึกถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว“พวกนายมาที่นี่เพราะคนที่ชื่อเฟยไป๋บอกใช่ไหม?” ฉู่เฉินมองดูพวกเขาอย่างเฉยเมยและค่อยๆ พูดอย่างช้าๆ“ไม่... ไม่ พวกเราแค่อยากมาเจอกับศิษย์ใหม่ของนิกายเท่านั้น” ศิษย์พี่หลิวพูดตะกุกตะกัก และตอบคำถามของฉู่เฉิน“ยังมีหน้ามาโกหกอีก!” เสียงของฉู่เฉินตะหวาดศิษย์พี่หลิวสะดุ้งโหยงทันที"นาย..."“นายยังอยู่ในนิกาย นายจะกล้าฆ่าพวกเราเหรอ? กฎของนิกายระบุว่าศิษย์ไม่สามารถฆ่าแกงกันเองได้ ดังนั้นนายไม่ควรทำอะไรอย่างไม่คิดทบทวน หากมีใครสักคนตายไป ทั้งนิกายแพทย์ซวนเทียนจะไม่ยอมปล่อยนายไปแน่นอน!”แม้ว่าน้ำเสียงจะเต็มไปด้วยความกลัว แต่ก็ยังต้องการข่มขู่ฉู่เฉินได้ยิน ก็หัวเราะอย่างเย็นชาและพูดกับศิษย์พี่หลิว: "กฎของนิกาย แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน ฉู่เฉิน? ฉันไม่ใช่ศิษย์ในนิกายของพวกนาย งั้นนายมาลองเดาไหมว่าฉันกล้าฆ่านาย