ต้องบอกว่าคำพูดของจ้าวหมิงฮุยทำให้หนิงชิงเสว่รู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อยท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลหนิงก็เป็นความพยายามตลอดชีวิตของคุณปู่ และความปรารถนาสุดท้ายของคุณปู่คือการให้เธอนำตระกูลหนิงไปสู่ความรุ่งโรจน์แต่เธอได้ให้คำมั่นไว้แล้วว่าจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากน้องเสี่ยวสือโถวหากเธอประนีประนอมกับจ้าวหมิงฮุยเพื่อตระกูลหนิง อนาคตเธอจะเผชิญหน้ากับเสี่ยวสือโถวของเธออย่างไรเมื่อคิดถึงตรงนี้ หนิงชิงเสว่ก็อดไม่ได้ที่จะหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า: “ฉันขอโทษค่ะ มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะแต่งงานกับคุณ เลิกคิดเรื่องนี้ซะเพราะฉันมีคู่หมั้นแล้ว”ทันทีที่คำพูดสิ้นสุด หนิงเหรินสงและคนทั้งสามที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นทุกคนก็ดูปลาบปลื้มใจมากฮ่าฮ่าฮ่า ผู้หญิงคนนี้ปฏิเสธจ้าวหมิงฮุ่ยจริง ๆ ด้วย!ในที่สุด สีหน้าของจ้าวหมิงฮุยก็เริ่มขุ่นมัว: “คุณมีคู่หมั้นแล้วเหรอ? จริงเหรอ? ผมอยากรู้ว่าใครกล้าขโมยผู้หญิงของจ้าวหมิงฮุย”ในเวลานี้ ฉู่เฉินลุกขึ้นยืนและพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมเป็นคนขโมยผู้หญิงของคุณไปเอง”หนิงชิงเสว่พูดอย่างเปิดเผยว่า “ใช่ ฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักเขา เขาเป็นคู่หมั้นของฉันเอง
เมื่อปะทะกับการจับจ้องของฉู่เฉิน จ้าวหมิงฮุยซึ่งแต่เดิมกลับไม่พอใจอย่างยิ่งก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งใจ เขาอยากจะพูดคำที่รุนแรงหลายครั้ง แต่เขากลับกลืนมันกลับทันทีที่มาถึงริมฝีปากของเขาเพราะเขารู้สึกว่าฉู่เฉินอาจฆ่าเขาจริง ๆหัวใจของทุกคนเต้นแรงไอ้หนุ่มนี่ ขนาดนายน้อยหนุ่มผู้มั่งคั่งจากตระกูลที่มีอำนาจที่สุดในหนานเจียงถูกตบต่อหน้าทุกคนยังไม่พูดอะไรสักคำ แถมเขายังถูกทำเอสตกใจมากจนไม่กล้าพูดอะไรเลยด้วยซ้ำในที่สุดหนิงเหรินสงก็โต้ตอบและกระโจนออกไปทันที เขาชี้หน้าฉู่เฉินก่อนจะสาปแช่ง: “แกรู้ไหมว่านายน้อยจ้าวคือใคร แกกล้าดียังไงต่อยเขา? แกไม่อยากมีชีวิตอยู่เหรอ?”ภายนอกเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมจริงจัง แต่ภายในเขายิ้มจนหน้าบานไปหมดกล้าล่วงเกินตระกูลจ้าว? ไอ้โง่นี่มันจับเห่แน่ ไม่เพียงแต่มันจะจบแต่ชิงเสว่ก็ด้วยเหมือนกัน“จริงเหรอครับ?” ฉู่เฉินเลิกคิ้วแล้วพูดอย่างใจเย็น: “ถ้าตระกูลจ้าวต้องการแก้แค้นผมก็มาเลย และผมฉู่เฉินคนนี้จะรับไว้คนเดียว!”ทุกคนอ้าปากค้างเมื่อได้ยินแบบนี้ เด็กคนนี้ ยั่วยุทั้งตระกูลจ้าวด้วยตัวคนเดียวเหรอ?คนบ้าชัด ๆ!ผู้ชายคนนี้ต้องเป็นคนบ้าแน่ ๆ!หนิงชิงเสว่ก็
“เพราะคุณแท้ ๆ ครั้งนี้ตระกูลหนิงทำให้ตระกูลจ้าวขุ่นเคืองแล้วจริง ๆ!”“เพราะคุณ ฉันถึงได้ทำลายความพยายามตลอดชีวิตของปู่ของฉัน!”“เพราะคุณ ฉันจึงกลายเป็นคนบาปของตระกูลหนิง!”หนิงชิงเสว่มองไปที่ฉากงานศพที่ไม่มีคนเหลืออยู่และร้องไห้อย่างเจ็บปวดหัวใจเมื่อเห็นหนิงชิงเสว่ที่สีหน้าโศกศร้า แววตาตำหนิตัวเองก็ปรากฏอยู่ในดวงตาของฉู่เฉินเขาไม่คาดคิดว่าพฤติกรรมของเขาในตอนนี้จะนำส่งผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ไปหาเธอถึงยังไงแล้วเธอก็เป็นผู้หญิงอ่อนแอที่เพิ่งประสบกับการจากไปของผู้เป็นที่รักฉู่เฉินก้าวไปข้างหน้าและอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาไม่ว่าเธอจะต่อต้านอย่างไร และปลอบใจเธอ: “ผมขอโทษนะ แต่ผมจะช่วยคุณ เชื่อผมเถอะ ผมไม่ปล่อยให้ตระกูลจ้าวทำอะไรกับตระกูลหนิงหรอก”“คุณจะช่วยฉันได้ยังไง?”หนิงชิงเสว่ผลักเขาออกไปอย่างแรงและตะโกนเสียงดัง: “ฉู่เฉินคุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”“นายเป็นแค่เด็กบ้านนอกยากไร้ ถ้าตระกูลจ้าวอยากจะฆ่านาย มันก็ง่ายเหมือนกับการฆ่ามด”“ช่างมันเถอะ มาพูดตอนนี้มันจะได้อะไร?”เธอเช็ดน้ำตาและแสร้งทำเป็นเข้มแข็งแล้วพูดว่า “นายมากับฉันเดี๋ยวนี้”“จะไปไหนครับ?” ฉู่เฉินถาม“ถึงตอนนั้นนายจะรู
ใบหน้าอันงดงามของเธอแดงก่ำ ก่อนจะพูดตะกุกตะกัก: “ฉัน...ฉันไม่กล้าขัดแล้ว คุณ...คุณยังไม่ปล่อยฉันอีก?”“ต้องแบบนี้สิครับ” ฉู่เฉินปล่อยมือของเขา“อิตาบ้า!” หนิงชิงเสว่กำลังจะตบเขาทันทีที่เธอหลุดออกจากเขาทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เลขาพานอวิ๋นโทรมา: “ประธาน ย...แย่แล้ว คณะกรรมการกำลังประชุมอยู่ พวกเขาวางแผนที่จะปลดคุณและเลือกกรรมการคนอื่น”“อะไรนะ?”ท่าทางของหนิงชิงเสว่เปลี่ยนไป หลังจากวางสายแล้วเธอก็รีบไปที่บริษัทพร้อมกับฉู่เฉินในทันทีในห้องประชุมของเฟยเสวี่ยกรุ๊ป ผู้ถือหุ้นของบริษัททุกคนรวมตัวกันเพื่อหารือว่าจะถอดหนิงชิงเสว่ออกจากตำแหน่งประธานหรือไม่หญิงคนหนึ่งที่แต่งตัวเย้ายวนกับแต่งหน้าหนา ๆ ยิ้มเยาะ: “ทุกคน ยังมีอะไรต้องกังวลอีก? หนิงชิงเสว่ได้นำความสูญเสียครั้งใหญ่มาให้บริษัท เธอต้องถูกถอดออก และเราจะเลือกบุคคลที่มีความสามารถอีกคนอื่น”ชื่อของเธอคือ สวีลี่ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหญิงเพียงคนเดียวของเฟยเสวี่ยกรุ๊ปก่อนหน้านี้เธออยากได้ตำแหน่งประธาน แต่ผู้ถือหุ้นคนอื่น ๆ ถือว่า หนิงชิงเสว่เป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลหนิงและแต่งตั้งหนิงชิงเสว่เป็นประธานดังนั้นที่ผ่านมา
การตบครั้งนี้ของฉู่เฉิน ไม่เพียงแต่ทำให้สวีลี่ถึงกับตะลึงเท่านั้น แต่ผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ ก็ตกตะลึงไปด้วย“ไอ้เวรนี่ แกเป็นใคร ถึงกล้าตบประธานสวี?”ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับสวีลี่มาโดยตลอดยืนขึ้นก่นด่าผู้ถือหุ้นรายอื่นก็จ้องมองไปที่ฉู่เฉินเช่นกันฉู่เฉินพูดเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “หนิงชิงเสวี่ยเป็นภรรยาของผม แต่พวกคุณกำลังหารือกันเรื่องการปลดเธอ ที่ผมตบไปครั้งเดียวมันยังน้อยไป”สวีลี่คำรามและพุ่งตรงเข้าใส่หนิงชิงเสว่พร้อมแยกเขี้ยวกางเล็บ“หนิงชิงเสว่นังสารเลว กล้าดียังไงปล่อยให้คนสวะแบบนั้นมาทำร้ายฉัน ฉันจะฆ่าแก!”“เพียะ!”ฉู่เฉินตบเธออีกครั้ง หญิงสาวถูกตบลงไปนอนกองกับพื้นอีกครั้ง และใบหน้าอีกครึ่งก็เริ่มบวมตามฉู่เฉินตบเธอสองครั้งติดต่อกัน เธอรู้สึกอัปยศอดสูมากจนแทบจะเป็นลม“ยังมีใครอยากถอดตำแหน่งของภรรยาผมอีกไหม?” ฉู่เฉินกวาดสายตามองทุกคนทุกคนตกใจมากจนลุกขึ้นยืนและถอยหลังไปสองสามก้าว ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเลยปกติแล้วพวกเขามักชอบทำตัวหยิ่งยโส จะเคยเจอสถานการณ์ที่พอไม่เห็นด้วยก็ตบแบบนี้ได้ยังไง?“พอแล้ว ฉู่เฉิน”หนิงชิงเสว่ห้ามปามฉู่เฉิน ก่อนจะมอ
“ภายในสามวัน ขอแค่คุณสามารถหาทางร่วมมือกับแจฟฟรีย์กรุ๊ปและทำให้บริษัทเอาชนะความยากลำบากครั้งนี้ไปได้ คุณจะยังคงได้เป็นประธานบริษัทต่อไป เราไม่มีอะไรจะคัดค้านอีก”“ในทางกลับกัน ถ้าคุณทำไม่ได้ ก็อย่าโทษทุกคนที่ไร้เยื่อใยเลยนะ”“แค่นั้นไม่พอหรอก” จู่ ๆ ฉู่เฉินก็พูดขึ้น เขาชี้ไปที่สวีลี่แล้วพูดว่า: “ถ้าชิงเสว่หารือและได้รับการลงทุน ผมจะเพิ่มเดิมพันอีกข้อ นั่นก็คือ ผมจะลบหุ้นของผู้หญิงชั่วคนนั้นและให้เธอออกจากบริษัทของชิงเสว่!”สวีลี่ยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “เอาล่ะ หากคุณได้รับเงินลงทุน ฉันจะไม่สละหุ้นในมือและโอนให้คุณโดยไม่มีเงื่อนไข ทุกคนสามารถเป็นพยานได้”“ได้ ตัดสินใจตามนนั้น”เมื่อมาถึงจุดนี้ หนิงชิงเสว่รู้ตัวดีว่าเธอไม่มีทางออกแล้ว เธอทำได้เพียงออกไปพร้อมกับฉู่เฉินหลังจากรอให้ทั้งสองจากไป สวีลี่ก็แสดงรอยยิ้มแสดงความสำเร็จของเธอ: “นังสารเลวนั่น ในที่สุดเธอก็ตกหลุมพรางของฉัน”“ที่รักของฉันน่ะเป็นถึงผู้จัดการของแจฟฟรีย์กรุ๊ป ขอแค่ฉันทักทายเขาสักหน่อย เกรงว่าแค่ประตูแจฟฟรีย์กรุ๊ปพวกเธอคงยังเข้าไปไม่ได้เลยล่ะมั้ง”“ฮ่า ๆ ๆ ที่ฉันจงใจพูดถึงแจฟฟรีย์กรุ๊ป ก็เพราะว่านายน้อยจ้าวขอให้ฉั
ครึ่งชั่วโมงต่อมา หนิงชิงเสว่พาพานอวิ๋นออกการเดินทางและมุ่งหน้าไปยังแจฟฟรีย์กรุ๊ปคนขับรถคือฉู่เฉินทันทีที่หนิงชิงเสว่ขึ้นมานั่งในรถก็พูดว่า "พี่อวิ๋น ฉันให้พี่ช่วยเรียบเรียงข้อมูลที่เกี่ยวกับผู้บริหารระดับสูงของแจฟฟรีย์กรุ๊ป พี่หาเสร็จหรือยัง"พานอวิ๋นรีบเปิดโน๊ตบุ๊คพลางดันกรอบแว่นตาแล้วก็พูดว่า "ท่านประธาน หามาเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ประธานกรรมการของแจฟฟรีย์กรุ๊ปในปัจจุบันชื่อว่าฉู่เฉินค่ะ"พอพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่เหลือบมองฉู่เฉินที่กำลังขับรถ และกล่าวว่า "เป็นชื่อเดียวกันกับไอ้นี่ค่ะ"เป็นชื่อเดียวกันกับฉู่เฉินงั้นเหรอพอหนิงชิงเสว่ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงไปแต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะในโลกนี้นั้นมีคนที่ชื่อซ้ำกันเยอะแยะมากมายพานอวิ๋นพูดอีกต่อไปว่า "แต่คุณฉู่คนนี้ลึกลับมาก ไม่ชอบปรากฎตัวในวงสังคมเลย ดังนั้นก็เลยไม่คอยมีคนเคยหน้าเขา""ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบริษัทนั้น ต่างก็ยกให้เป็นหลินชวงอู่ รองประธานเป็นคนตัดสินใจค่ะ""แต่ฉันไม่รู้จักรองประธานแซ่หลินคนนี้เลย" หนิงชิงเสว่สีหน้าลำบากใจมากฉู่เฉินที่กำลังขับรถอยู่นั้นอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมา
ไม่แปลกที่ทำให้นายน้อยนายใหญ่แห่งตระกูลจ้าวหลงไหลคลั่งไคล้ในตัวเธอและไม่แปลกใจเลยที่ผู้หญิงชั้นต่ำอย่างซู้ลี่จะไม่ถูกชะตากับหนิงชิงเสว่ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นความอิจฉาริษยาฉันจะต้องดีกว่าให้ได้ในขณะนี้ จ้าวเหวินหยวนแอบมีความคิดอยู่ในใจเขาอดไม่ได้ที่จะมองไปที่พานอวิ๋นและฉู่เฉินที่อยู่ข้าง ๆ หนิงชิงเสว่และพูดว่า "ฉันมีธุระที่จะต้องคุยกับประธานหนิงของพวกคุณ คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปข้างนอกเถอะ"พานอวิ๋นดึงฉู่เฉินออกไปแต่ฉู่เฉินกลับพูดอย่างไม่หวั่นเกร็ง "ประธานจ้าวใช่ไหม ไม่รู้ว่าคุณจะคุยธุระอะไรกับภรรยาของผม แม้แต่ผมก็ฟังไม่ได้หรือ?""ใช่แล้วประธานจ้าว ฉู่เฉินเป็นสามีของฉัน เขาจะไม่พูดว่าออกไปหรอก" หนิงชิงเสว่ไปพยักหน้าไปต่อหน้าคนนอก เธอยังคงไว้หน้าฉู่เฉินมากสีหน้าจ้าวเหวินหยวนอึมครึม แสร้งทําเป็นไม่พอใจ "ดูเหมือนว่าประธานหนิงจะไม่ได้อยากเจอผู้อำนวยการหลินอย่างใจจริง ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้ว งั้นก็ช่างมันเถอะ""เสี่ยวหยวน ส่งแขก!"เขาถอนหายใจหยวนหยารีบพูดทันทีว่า "ประธานหนิง ไปเถอะ อย่าขวางหูขวางตาอยู่ที่นี่เลย"หนิงชิงเสว่อดไม่ได้ที่จะลังเลเล็กน้อย"ไปก็ไป ยังไงเราก็ได้เจอรองผู้อำนวยการ