หวังซวี่ช็อคกับการที่เขาถูกตบ และกุมหน้าด้วยความงุนงงและพูดว่า "พ่อ ... ""ไปให้พ้น!"หวังฟู่กุ้ยคำรามเสียงดัง “ไอ้โง่ อย่ามาเรียกฉันว่าพ่ออีก นับจากแต่นี้เป็นต้นไป ฉันจะตัดความสัมพันธ์พ่อลูกกับแก”หลังจากพูดคำเหล่านี้แล้ว เขาก็กุมหน้าอกเอาไว้ ใบหน้าของเขาซีดขาวไร้เลือด และร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างรุนแรงไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโกรธหรือความกลัวมากเกินไป เขาแค่รู้สึกถึงความมืดมิดตรงหน้าและก็เป็นลมหมดสติไปตรงนั้นฉากที่ฉับพลันนี้ทำให้ทั้งสามคนตกใจเป็นอย่างมาก“คุณพ่อ เป็นอะไรไปครับ? อย่าทำให้ผมกลัวนะ”“เร็วเข้า โทรเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า”หลังจากความวุ่นวาย ในที่สุดหวังฟู่กุ้ยก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดเป็นไปได้ยังไง?ทั้งสามคนยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆหวังซวี่อดไม่ได้ที่จะมองนักธุรกิจผู้มั่งคั่งนามสกุลเฉินที่อยู่ข้างๆ เขาแล้วพูดว่า "ลุงเฉิน คุณพ่อของผม..."“อย่า อย่ามาเรียกฉันว่า 'ลุง' ฉันไม่อยากถูกพวกแกลากไปตายด้วย”นักธุรกิจผู้มั่งคั่งแซ่เฉินหน้าซีดและทิ้งประโยคไว้ จากนั้นก็หันหลังกลับและวิ่งหนีราวกับถูกสุนัขไล่ล่า เขาซื้อตั๋วรถไฟเพื่อกลับบ้านในคืนนั้นเลยในขณะนี้ ทั้ง
“ยิ่งไปกว่านั้น หนึ่งในพวกคุณก็เป็นหญิงสาวจากครอบครัวที่ร่ำรวยในเจียงหนาน และอีกคนก็เป็นเด็กยากจนจากชนบท นายไม่คู่ควรกับเธอเลย หากนายคอยรบกวนเธอ ไม่เพียงแต่มันจะทำร้ายเธอเท่านั้น แต่มันจะทำให้นายเดือดร้อนไปด้วยเช่นกัน”“คุณคิดว่าผมชอบคุณหนูฉินหรือเปล่าครับ?” ฉู่เฉินกล่าวอย่างไม่แสดงอารมณ์"ไม่ใช่เหรอ?"หนิงชิงเสว่ หึ อย่างเย็นชาและพูดว่า "ฉันรู้ความคิดของนาย ในตอนแรกนายเรียกร้องความสนใจจากฉัน แต่หลังจากเผชิญหน้ากับกำแพงในใจของฉัน นายก็ไม่เต็มใจที่จะเป็นคนธรรมดา ดังนั้นคุณจึงมีความคิดอื่นแฝงสำหรับปิงเยว่"“นายแค่อยากจะใช้ประโยชน์จากภูมิหลังของเธอ ได้บางอย่างโดยไม่เสียอะไรไปสักอย่าง แล้วได้ก้าวขึ้นไปบนฟากฟ้า”“สามีในอนาคตของปิงเยว่อย่างน้อยต้องเป็นคนหนุ่มสาวและมีความสามารถจากเจียงหนาน มากกว่าคนธรรมดาไม่แสวงหาการพัฒนาตนเองและความฝันที่จะประสบความสำเร็จอย่างนาย”เมื่อมองดูความจริงจังและชอบธรรมของเธอ ฉู่เฉินอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ“หัวเราะอะไร ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า” หนิงชิงเสว่พูดอย่างเย็นชาฉู่เฉินส่ายหัวเล็กน้อย และรอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่เย็นชา "ผมหัวเราะกับสายต
การที่ได้เห็นฉินปิงเยว่ประคองฉินเหวินเทียนขึ้นมานั้น, ทำให้หวังซวี่ และคนอื่นๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองนั้นเธอคนนั้นนี่!ผู้หญิงที่เคยถูกพวกเขาดูถูกมาก่อน!เธอ... เธอปรากฏตัวบนเวทีได้ยังไงกันและยังสนิทกับผู้เฒ่าฉินขนาดนี้อีกด้วย?เธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินใช่ไหม?ทันใดนั้น ความคิดที่ทำให้พวกเขาเหงื่อตกก็ปรากฏขึ้นในใจพวกเขาตามที่คาดไว้ ฉินปิงเยว่บนเวทีประครองฉินเหวินเทียนพร้อมทั้งเตือนเขาว่า "คุณปู่ ระวังเท้าด้วยนะคะ""ตู้ม!"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ในหัวของหวังซวี่และพรรคพวกของเขาก็เหมือนถูกยัดเข้าไปในระเบิด ส่งเสียงพึมพำไม่หยุดหย่อนเธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินจริงๆด้วย!ใบหน้าของหวังซวี่ซีดเผือกและร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ กลัวจนปัสสาวะแทบจะราดในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมพ่อของเขา หวังฟู่กุ้ย ถึงโกรธมากจนถูกนำตัวส่งตัวไปโรงพยาบาล เห็นได้ชัดว่าที่เขากลัวไม่ใช่เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยกัวรุ่ยและเฉินย่านั่งลงไปกองบนพื้น ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้คน... คนที่พวกเขาเพิ่งดูถูกคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินจริงๆ!และยังด่าเธอว่าเป็นดอกไม้ยั่วยวนมันจบแล้ว!ตอนนี้พวกเขาทั
“แกมันก็แค่คนบ้านนอกหนึ่ง มันจะมีดีอะไรไปกว่าฉัน? แกก็แค่กอดขาคุณหนูใหญ่ฉินก็แค่นั้น? ผีจะรู้ว่าพวกเขาก็แค่ล้อเล่นกับแกเท่านั้น?“นายน้อยหวังพูดถูก” เฉินย่ากล่าวอย่างเย็นชา “ฉู่เฉิน คุณหนูฉินเป็นบุคคลที่มีเกียรติมาก เธอจะสนใจไอ้ขี้แพ้แบบแกได้ยังไง ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่อย่าลงไปเล่นแบบเอาจริงเอาจังเกินไป ""อย่าลืมว่าพ่อของนายน้อยเป็นเจ้าของเทียนเซิงและยังเป็นผู้จัดหาเครื่องดื่มสำหรับงานเลี้ยงขอบคุณนี้ด้วย"“แม้ว่า นายน้อยหวังจะพูดคำที่ไม่เหมาะสม แต่ตระกูลฉินก็ไม่สามารถตำหนิเราไม่ได้เป็นที่ขี้แพ้เหม็นโฉ่เหมือนแกหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หัวใจที่ตื่นตระหนกของ หวังซวี่ ก็ฟื้นคืนสู่ความสงบในที่สุดในขณะนี้ ถังรั่วเวย หันหน้าไปมองฉู่เฉิน แล้วพูดว่า "ฉู่เฉิน ฉันอยากรู้ว่านายไปสร้างความดีความชอบอะไรให้คุณหนูฉินแค่ไหน?"“ฉันยกยอฉินปิงเยว่งั้นหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ"ไม่ใช่รึไง?"ถังรั่วเวย หึ อย่างเย็นชา "ไม่อย่างนั้นนายคงคิดว่าคนสำคัญอย่างคุณหนูฉินจะชอบนายในฐานะคนธรรมดาเหรอ? นายต้องใช้วิธีการลับๆล่อๆ เพื่อหลอกลวงคุณฉินอย่างแน่นอน"“ต้องบอกว่าพฤติกรรมของนายในการใช้ทุกวิถีทา
ขณะที่ฉู่เฉินยืนขึ้น สายตาของผู้ชมทั้งหมดก็มาบรรจบกันที่เขาโดยบังเอิญหวังซวี่ซึ่งมีปฏิกิริยาโต้ตอบ สะดุ้งทันทีและพูดว่า "ฉู่เฉิน แกกำลังทำอะไรอยู่น่ะ รีบนั่งลงเร็วๆ"เจ้าโง่ แกไม่เห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงเหรอ?บุคคลสำคัญหลายท่าน รวมถึงผู้เฒ่าฉิน กำลังรอคอยการปรากฏตัวของหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินอย่างใจจดใจจ่อแก ที่เป็นคนธรรมดา จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาในตอนนี้ และคนที่ไม่รู้ก็คิดว่าแกเป็นหมอรักกษผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินน่ะสิ“ไอ้ฉิบหาย ฉู่เฉิน ถ้านายอยากตายจริงๆ ก็อย่าลากพวกเราไปด้วยสิเว้ย”กัวรุ่ยกับเฉินย่าแทบจะน้ำตาไหล เมื่อมีคนใหญ่โต มากมายมองดูพวกเขา ความกดดันนั้นเกินจะจินตนาการได้ไม่สำคัญว่าฉู่เฉินจะฆ่าตัวตายหรือไม่ อย่าพาดพิงถึงพวกเขาถังรั่วเวย ก็โมโหเช่นกันและมองไปที่ ฉู่เฉิน อย่างเย็นชาและพูดว่า "ฉู่เฉิน นายเป็นอะไรไป? พวกเขาเชิญ คุณหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินขึ้นมาบนเวที ไม่ใช่นาย"เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองของคนสองสามคน ฉู่เฉินยิ้มบาง ๆ แล้วพูดว่า "ฉินเหวินทียนเชิญฉันขึ้นไปบนเวที ฉันจะขึ้นไปได้ยังไงล่ะถ้าฉันไม่ลุกขึ้น?"“ไอ้คนแซ่ฉู่ นายมีปัญหาเรื่องหูหร
“ฉันไม่ได้ก่อปัญหาอะไร พวกเขาเชิญฉันขึ้นมา” ฉู่เฉินพูดอย่างเงียบๆ“หมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินที่พวกเขาจ้าง ไม่ใช่นาย!” หนิงชิงเสว่เกือบตายด้วยความโกรธ“ฉันคือหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน” ฉู่เฉินพูดอย่างเคร่งขรึม"นาย..."หนิงชิงเสว่เกือบจะร้องไห้ด้วยความโกรธทำตัวเป็นหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินแซ่ฉู่ ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับนายเหรองั้นหรอ?เธอแค่คิดว่าผู้ชายคนนี้บ้าจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ที่นี่ได้อย่างไร?ฉู่เฉินหยุดพูดคุยกับเธอและเดินต่อไปที่เวทีพานอวิ๋นเริ่มกังวลและพูดว่า "ท่านประธานคะ เราควรทำยังไงดี ไอ้คนนี้ไม่ฟังคุณเลย และแถมยังเดินต่อไปบนเวทีอีก"“ฉันจะทำอะไรได้อีก ฉันวิ่งไปจับตัวเขาไม่ได้แล้ว ฉันทุบตีเขาได้ไหมล่ะ?”หนิงชิงเสว่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "สำหรับแผนของวันนี้ ฉันหวังได้เพียงว่าคุณปู่ฉินจะสามารถช่วยรักษาหน้าของฉันกับปิงเยว่ และให้อภัยการกระทำที่น่ารังเกียจของเขาได้"เธอเงยหน้าขึ้นมองฉากที่เงียบงันอีกครั้ง ด้วยสีหน้าขมขื่นบนใบหน้าของเธอฉันไม่รู้ว่าหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินจะโกรธไหม ถ้าฉู่เฉิ
ในเวลานี้ หนิงชิงเสว่รู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจตัวตนของฉู่เฉินกับแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมินกำลังชนกันพัลวันอยู่ในหัวของเธอไม่หยุด ทำให้เธอรู้สึกจะเป็นลมเธอไม่กล้าจะเชื่อเลยและก็ไม่อาจยอมรับได้ด้วยแต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า จะให้เธอไม่เชื่อก็คงไม่ได้เธอโซเซและถอยหลังไปสองสามก้าวจนเกือบจะสูญเสียการทรงตัวต่อให้เป็นในความฝัน เธอก็ไม่อาจคาดคิดเลยว่าแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมินที่เธอตามหาอยู่ก็คือฉู่เฉินภาพของตัวเองที่เยาะเย้ยฉู่เฉินนับครั้งไม่ถ้วนแวบขึ้นมาในหัวของเธอ ทำเอาสีหน้าของเธอซีดสุดขีดส่วนพานอวิ๋นที่อยู่ข้างเธอก็กำลังอ้าปากกว้างพอกับที่จะสามารถกลืนไข่ลงไปได้ทั้งใบคนอย่างอิตาขี้คอกนี่น่ะเหรอคือแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมิน? ! !โลกนี้มันจะบ้าเกินไปแล้วจริง ๆ! ! !ในขณะเดียวกัน ฉู่เฉินที่เดินขึ้นไปบนเวทีจับจ้องไปยังฉินเวิ่นเทียนพร้อมพูดกับฉินปิงเยว่ว่า “ท่านผู้เฒ่ากับคุณหนูฉินไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้นะครับ”หลังจากฉินเวิ่นเทียนลุกขึ้นยืน เขาก็หัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดกับทุกคนเบื้องล่างเวทีว่า “ทุกคน พวกคุณไม่ได้มองผิดไปหรอก ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง
เดิมทีผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ แต่เสียดายที่เธอผลักไสเขาเป็นให้คนอื่นไม่อย่างนั้น เธอถังรั่วเวยคนนี้เอง ก็จะได้มีส่วนร่วมในความรุ่งโรจน์ของวันนี้ได้เช่นกันเมื่อเธอหันไปมองหวังซวี่ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ เธอก็เห็นหวังซวี่นั่งหดตัวลีบอยู่ในฝูงชน ตัวสั่นราวกับหนูไม่กล้ามองเห็นแสงคนหนึ่งยืนหยัดอย่างภาคภูมิท่ามกลางผู้คน ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์ส่วนอีกคนก็ดูน่าสมเพช ราวกับตัวตลกไม่มีผิดช่างเป็นความแตกต่างนี่มากมายเสียจริงสุดท้าย ฉินเวิ่นเทียนก็พาฉู่เฉินไปหาหนิงชิงเสว่: “แพทย์เซียนฉู่นี่คือหนิงชิงเสว่หลานสาวของตระกูลหนิง”เขาไม่รู้ว่า ฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่รู้จักกัน ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำกันและกันไปตามระเบียบฉู่เฉินหยิบแก้วไวน์แดงแล้วทักทายหนิงชิงเสว่: “สวัสดีครับ คุณหนูหนิง”หนิงชิงเสว่หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยสีหน้าอันซับซ้อน เธอไม่พูดอะไรสักคำ และเธอกำลังมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ เธอไม่อาจเชื่อได้เลยจริง ๆ และที่มากไปกว่านั้นคือเธอรู้สึกเสียใจ“คุณหนูหนิง ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมเป็นแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมิน แต่คุณไม่เชื่อผม”ฉู่เฉินมองดูเธอแล้วยิ้มเล็กน้อย “ตอนนี้คุณเชื่อแล้วหรือยังครับ”ไ