การที่ได้เห็นฉินปิงเยว่ประคองฉินเหวินเทียนขึ้นมานั้น, ทำให้หวังซวี่ และคนอื่นๆ แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองนั้นเธอคนนั้นนี่!ผู้หญิงที่เคยถูกพวกเขาดูถูกมาก่อน!เธอ... เธอปรากฏตัวบนเวทีได้ยังไงกันและยังสนิทกับผู้เฒ่าฉินขนาดนี้อีกด้วย?เธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินใช่ไหม?ทันใดนั้น ความคิดที่ทำให้พวกเขาเหงื่อตกก็ปรากฏขึ้นในใจพวกเขาตามที่คาดไว้ ฉินปิงเยว่บนเวทีประครองฉินเหวินเทียนพร้อมทั้งเตือนเขาว่า "คุณปู่ ระวังเท้าด้วยนะคะ""ตู้ม!"ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ในหัวของหวังซวี่และพรรคพวกของเขาก็เหมือนถูกยัดเข้าไปในระเบิด ส่งเสียงพึมพำไม่หยุดหย่อนเธอคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินจริงๆด้วย!ใบหน้าของหวังซวี่ซีดเผือกและร่างกายของเขาก็สั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ กลัวจนปัสสาวะแทบจะราดในที่สุดเขาก็รู้ว่าทำไมพ่อของเขา หวังฟู่กุ้ย ถึงโกรธมากจนถูกนำตัวส่งตัวไปโรงพยาบาล เห็นได้ชัดว่าที่เขากลัวไม่ใช่เป็นเพราะอาการเจ็บป่วยกัวรุ่ยและเฉินย่านั่งลงไปกองบนพื้น ตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้คน... คนที่พวกเขาเพิ่งดูถูกคือคุณหนูใหญ่ตระกูลฉินจริงๆ!และยังด่าเธอว่าเป็นดอกไม้ยั่วยวนมันจบแล้ว!ตอนนี้พวกเขาทั
“แกมันก็แค่คนบ้านนอกหนึ่ง มันจะมีดีอะไรไปกว่าฉัน? แกก็แค่กอดขาคุณหนูใหญ่ฉินก็แค่นั้น? ผีจะรู้ว่าพวกเขาก็แค่ล้อเล่นกับแกเท่านั้น?“นายน้อยหวังพูดถูก” เฉินย่ากล่าวอย่างเย็นชา “ฉู่เฉิน คุณหนูฉินเป็นบุคคลที่มีเกียรติมาก เธอจะสนใจไอ้ขี้แพ้แบบแกได้ยังไง ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่อย่าลงไปเล่นแบบเอาจริงเอาจังเกินไป ""อย่าลืมว่าพ่อของนายน้อยเป็นเจ้าของเทียนเซิงและยังเป็นผู้จัดหาเครื่องดื่มสำหรับงานเลี้ยงขอบคุณนี้ด้วย"“แม้ว่า นายน้อยหวังจะพูดคำที่ไม่เหมาะสม แต่ตระกูลฉินก็ไม่สามารถตำหนิเราไม่ได้เป็นที่ขี้แพ้เหม็นโฉ่เหมือนแกหรอก”เมื่อได้ยินคำพูดของเธอ หัวใจที่ตื่นตระหนกของ หวังซวี่ ก็ฟื้นคืนสู่ความสงบในที่สุดในขณะนี้ ถังรั่วเวย หันหน้าไปมองฉู่เฉิน แล้วพูดว่า "ฉู่เฉิน ฉันอยากรู้ว่านายไปสร้างความดีความชอบอะไรให้คุณหนูฉินแค่ไหน?"“ฉันยกยอฉินปิงเยว่งั้นหรอ?” ฉู่เฉินหัวเราะเบา ๆ"ไม่ใช่รึไง?"ถังรั่วเวย หึ อย่างเย็นชา "ไม่อย่างนั้นนายคงคิดว่าคนสำคัญอย่างคุณหนูฉินจะชอบนายในฐานะคนธรรมดาเหรอ? นายต้องใช้วิธีการลับๆล่อๆ เพื่อหลอกลวงคุณฉินอย่างแน่นอน"“ต้องบอกว่าพฤติกรรมของนายในการใช้ทุกวิถีทา
ขณะที่ฉู่เฉินยืนขึ้น สายตาของผู้ชมทั้งหมดก็มาบรรจบกันที่เขาโดยบังเอิญหวังซวี่ซึ่งมีปฏิกิริยาโต้ตอบ สะดุ้งทันทีและพูดว่า "ฉู่เฉิน แกกำลังทำอะไรอยู่น่ะ รีบนั่งลงเร็วๆ"เจ้าโง่ แกไม่เห็นว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงเหรอ?บุคคลสำคัญหลายท่าน รวมถึงผู้เฒ่าฉิน กำลังรอคอยการปรากฏตัวของหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินอย่างใจจดใจจ่อแก ที่เป็นคนธรรมดา จู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาในตอนนี้ และคนที่ไม่รู้ก็คิดว่าแกเป็นหมอรักกษผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินน่ะสิ“ไอ้ฉิบหาย ฉู่เฉิน ถ้านายอยากตายจริงๆ ก็อย่าลากพวกเราไปด้วยสิเว้ย”กัวรุ่ยกับเฉินย่าแทบจะน้ำตาไหล เมื่อมีคนใหญ่โต มากมายมองดูพวกเขา ความกดดันนั้นเกินจะจินตนาการได้ไม่สำคัญว่าฉู่เฉินจะฆ่าตัวตายหรือไม่ อย่าพาดพิงถึงพวกเขาถังรั่วเวย ก็โมโหเช่นกันและมองไปที่ ฉู่เฉิน อย่างเย็นชาและพูดว่า "ฉู่เฉิน นายเป็นอะไรไป? พวกเขาเชิญ คุณหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินขึ้นมาบนเวที ไม่ใช่นาย"เมื่อเผชิญหน้ากับการจ้องมองของคนสองสามคน ฉู่เฉินยิ้มบาง ๆ แล้วพูดว่า "ฉินเหวินทียนเชิญฉันขึ้นไปบนเวที ฉันจะขึ้นไปได้ยังไงล่ะถ้าฉันไม่ลุกขึ้น?"“ไอ้คนแซ่ฉู่ นายมีปัญหาเรื่องหูหร
“ฉันไม่ได้ก่อปัญหาอะไร พวกเขาเชิญฉันขึ้นมา” ฉู่เฉินพูดอย่างเงียบๆ“หมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินที่พวกเขาจ้าง ไม่ใช่นาย!” หนิงชิงเสว่เกือบตายด้วยความโกรธ“ฉันคือหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน” ฉู่เฉินพูดอย่างเคร่งขรึม"นาย..."หนิงชิงเสว่เกือบจะร้องไห้ด้วยความโกรธทำตัวเป็นหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินแซ่ฉู่ ซึ่งมีนามสกุลเดียวกับนายเหรองั้นหรอ?เธอแค่คิดว่าผู้ชายคนนี้บ้าจริงๆ ไม่อย่างนั้นเขาจะพูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ที่นี่ได้อย่างไร?ฉู่เฉินหยุดพูดคุยกับเธอและเดินต่อไปที่เวทีพานอวิ๋นเริ่มกังวลและพูดว่า "ท่านประธานคะ เราควรทำยังไงดี ไอ้คนนี้ไม่ฟังคุณเลย และแถมยังเดินต่อไปบนเวทีอีก"“ฉันจะทำอะไรได้อีก ฉันวิ่งไปจับตัวเขาไม่ได้แล้ว ฉันทุบตีเขาได้ไหมล่ะ?”หนิงชิงเสว่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า "สำหรับแผนของวันนี้ ฉันหวังได้เพียงว่าคุณปู่ฉินจะสามารถช่วยรักษาหน้าของฉันกับปิงเยว่ และให้อภัยการกระทำที่น่ารังเกียจของเขาได้"เธอเงยหน้าขึ้นมองฉากที่เงียบงันอีกครั้ง ด้วยสีหน้าขมขื่นบนใบหน้าของเธอฉันไม่รู้ว่าหมอรักษาผู้ศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินจะโกรธไหม ถ้าฉู่เฉิ
ในเวลานี้ หนิงชิงเสว่รู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจตัวตนของฉู่เฉินกับแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมินกำลังชนกันพัลวันอยู่ในหัวของเธอไม่หยุด ทำให้เธอรู้สึกจะเป็นลมเธอไม่กล้าจะเชื่อเลยและก็ไม่อาจยอมรับได้ด้วยแต่มันก็เป็นเรื่องจริงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า จะให้เธอไม่เชื่อก็คงไม่ได้เธอโซเซและถอยหลังไปสองสามก้าวจนเกือบจะสูญเสียการทรงตัวต่อให้เป็นในความฝัน เธอก็ไม่อาจคาดคิดเลยว่าแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมินที่เธอตามหาอยู่ก็คือฉู่เฉินภาพของตัวเองที่เยาะเย้ยฉู่เฉินนับครั้งไม่ถ้วนแวบขึ้นมาในหัวของเธอ ทำเอาสีหน้าของเธอซีดสุดขีดส่วนพานอวิ๋นที่อยู่ข้างเธอก็กำลังอ้าปากกว้างพอกับที่จะสามารถกลืนไข่ลงไปได้ทั้งใบคนอย่างอิตาขี้คอกนี่น่ะเหรอคือแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมิน? ! !โลกนี้มันจะบ้าเกินไปแล้วจริง ๆ! ! !ในขณะเดียวกัน ฉู่เฉินที่เดินขึ้นไปบนเวทีจับจ้องไปยังฉินเวิ่นเทียนพร้อมพูดกับฉินปิงเยว่ว่า “ท่านผู้เฒ่ากับคุณหนูฉินไม่จำเป็นต้องสุภาพก็ได้นะครับ”หลังจากฉินเวิ่นเทียนลุกขึ้นยืน เขาก็หัวเราะเยาะออกมาเล็กน้อยก่อนจะพูดกับทุกคนเบื้องล่างเวทีว่า “ทุกคน พวกคุณไม่ได้มองผิดไปหรอก ชายหนุ่มที่อยู่ข้าง
เดิมทีผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ แต่เสียดายที่เธอผลักไสเขาเป็นให้คนอื่นไม่อย่างนั้น เธอถังรั่วเวยคนนี้เอง ก็จะได้มีส่วนร่วมในความรุ่งโรจน์ของวันนี้ได้เช่นกันเมื่อเธอหันไปมองหวังซวี่ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ เธอก็เห็นหวังซวี่นั่งหดตัวลีบอยู่ในฝูงชน ตัวสั่นราวกับหนูไม่กล้ามองเห็นแสงคนหนึ่งยืนหยัดอย่างภาคภูมิท่ามกลางผู้คน ดื่มด่ำกับความรุ่งโรจน์ส่วนอีกคนก็ดูน่าสมเพช ราวกับตัวตลกไม่มีผิดช่างเป็นความแตกต่างนี่มากมายเสียจริงสุดท้าย ฉินเวิ่นเทียนก็พาฉู่เฉินไปหาหนิงชิงเสว่: “แพทย์เซียนฉู่นี่คือหนิงชิงเสว่หลานสาวของตระกูลหนิง”เขาไม่รู้ว่า ฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่รู้จักกัน ดังนั้นพวกเขาจึงแนะนำกันและกันไปตามระเบียบฉู่เฉินหยิบแก้วไวน์แดงแล้วทักทายหนิงชิงเสว่: “สวัสดีครับ คุณหนูหนิง”หนิงชิงเสว่หยิบแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยสีหน้าอันซับซ้อน เธอไม่พูดอะไรสักคำ และเธอกำลังมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ เธอไม่อาจเชื่อได้เลยจริง ๆ และที่มากไปกว่านั้นคือเธอรู้สึกเสียใจ“คุณหนูหนิง ผมเคยบอกคุณไปแล้วว่าผมเป็นแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมิน แต่คุณไม่เชื่อผม”ฉู่เฉินมองดูเธอแล้วยิ้มเล็กน้อย “ตอนนี้คุณเชื่อแล้วหรือยังครับ”ไ
หลังจากเสียงที่ดังขึ้นอย่างกะทันหันสิ้นสุดลง ผู้คนล้วนพากันหันหน้ากลับไปมองดวงสีหน้าตกตะลึงก่อนจะเห็นเพียงหนิงชิงเสว่ที่กำลังค่อย ๆ ย่างก้าวออกมาจากฝูงชนฉินปิงเยว่ไม่คาดคิดว่าเธอจะออกมาคัดค้าน ดังนั้นสีหน้าของเธอจึงเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า: “ชิงเสว่เธอ....”“ปิงเยว่ ฉันขอโทษนะ”หนิงชิงเสว่กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด: “ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำอยู่มันผิด แต่ฉันต้องคัดค้าน”“ทำไม?” ฉินปิงเยว่ถามด้วยสีหน้าที่ย่ำแย่สุดขีดหนิงชิงเสว่ไม่รู้ว่าเธอชอบฉู่เฉิน และก่อนหน้านั้น หนิงชิงเสว่ก็แสดงอย่างชัดเจนว่าเธอไม่ชอบฉู่เฉินมาวันนี้ เธอกลับลุกขึ้นต่อต้าน ทำให้เธอโกรธและเสียใจมากหนิงชิงเสว่ไม่ตอบเธอ แต่หันไปมองฉู่เฉิน: “ฉู่เฉิน ฉันขอคุยกับคุณตามลำพังหน่อยได้ไหมคะ?”เมื่อสบสายตาวิงวอนของเธอ ฉู่เฉินพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ได้ครับ”ฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่เดินออกไปนอกคฤหาสน์สองต่อสองภายใต้การจ้องมองของทุกคนเมื่อฉู่เฉินเห็นว่ารอบ ๆ ไม่มีใครอื่นอีก เขาก็พูดว่า “คุณต้องการพูดอะไรกับผมเหรอ?”หนิงชิงเสว่หันกลับไปมองเขาด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบาย เธอกัดฟันของเธอแล้วพูดว่า: “ฉู่เฉิน สิ่งที่เกิด
คนที่ตื่นเต้นที่สุดคือหวังซวี่ฮ่า ฮ่า ฮ่า!ฉู่เฉินบ้ามาก เขากล้าปฏิเสธแม้กระทั่งโอกาสที่จะขึ้นไปเซียนรู้หรือไม่ นั่นเป็นถึงคุณหนูคนโตของตระกูลฉินเชียวนะ นางเป็นเทพธิดาในฝันของใครหลายๆคนดังนั้นในความเห็นของเขา การเคลื่อนไหวของฉู่เฉินสร้างความขุ่นเคืองให้กับตระกูลฉิน และก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะอยู่รอดในหนานจียงในภายภาคหน้าต่อให้คุณจะเป็นแพทย์เซียนแห่งกุ่ยเหมินแล้วไงล่ะ? ยังไงซะก็เป็นแค่หมอ จะมาสู้กับครอบครัวที่ร่ำรวยได้อย่างไร?หนิงชิงเสว่เหลือบมองฉินปิงเยว่ด้วยท่าทางที่รู้สึกผิด และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฉู่เฉิน พวกเราไปกันได้หรือยัง? ”“ไปเถอะ”ฉู่เฉินพยักหน้าและเดินตามเธอเพื่อออกจากคฤหาสน์ตระกูลฉินในเวลาเดียวกัน ในรถบัสสีดำในเขตชานเมืองของหนานเจียง ผู้โดยสารจำนวนมากนั่งยองๆอยู่บนพื้น โดยเอามือกุมไว้บนศีรษะ มองดูชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคนตรงหน้าด้วยสีหน้าหวาดกลัวชายสามคนและผู้หญิงหนึ่งคน ได้ปล้นข้าวของของทุกคนทีละคน แม้แต่ฟันทองอันใหญ่ของคนขับรถบัสก็ไม่เว้นหัวหน้าของคนกลุ่มนั้นมองไปที่คนขับที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นแล้วพูดว่า “จำไว้นะ ว่าอย่าโทรหาตำรวจภายในครึ่งชั่