Home / วาย / เขื่อนขุนเขา / เขื่อนขุนเขา 4

Share

เขื่อนขุนเขา 4

Author: Meithimm
last update Last Updated: 2025-04-26 11:46:10

ริมฝีปากเขื่อนสัมผัสกับของขุนเขาอีกครั้ง—อ่อนโยนเหมือนสายลมยามเช้า ละมุนละไมจนแทบทำให้ร่างบางละลายอยู่ตรงนั้น จูบนั้นเริ่มจากเพียงแค่แตะเบาๆ กลายเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ… เสียงจูบเปียกชื้น,ลิ้นร้อนตวัดหาความหวานของกันและกัน น้ำรักที่เปรอะออกมาจากริมฝีปากของขุนเขา สหัสวรรษดูดเม้มราวกับว่านี่คือน้ำผึ้งเดือนห้า สลับกับลมหายใจที่ถี่กระชั้นทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม

เสียงเบาๆ จากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะที่ไม่ควรได้ยิน… กลับยิ่งกระตุ้นให้ทุกการสัมผัสของเขื่อนทวีความรุนแรงในแบบทนุถนอม ร่างสูงคร่อมเหนือคนตัวเล็ก มือหนาที่เคยจับพวงมาลัยเรือ แกร่งแต่ก็แฝงด้วยความอ่อนโยน ลูบผ่านแผ่นหลังบางจนเจ้าของร่างสะดุ้งเล็กน้อย ลูบไล้ผ่านเอวบาง สหัสวรรษคิดว่าอีกคนว่าเอวเล็กแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเล็กถึงขนาดที่ตนรวบมือเดียวยังได้

“ตรงนี้…ได้ไหม” เขื่อนกระซิบเบา มือข้างหนึ่งลูบไล้ทั่วร่างขาวไปจนหยุดตรงตุ่มไตสีสวยบนอก ปากก็ว่ามือก็ลูบไล้ เสียงแหบพร่าข้างใบหู ทำเอาร่างใต้ร่างใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ขุนเขาพยักหน้าเบาๆ แม้อีกคนจะขออนุญาตเขาหลังจากที่มือนั้นไปหยุดอยู่ตรงเนินเล็กของขุนเขา ดวงตาฉ่ำเยิ้ม ทั้งคู่ยังไม่ถอนจูบออกจากกัน แม้แต่ตอนที่มือของพวกเขาเริ่มปลดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกช้าๆ ทีละชั้น… เหงื่อบางๆ เริ่มผุดบนแผ่นอกและลำคอ เสียงฝนตกลงมาเมื่อครู่หนักขึ้นอีกครั้งเหมือนบรรยากาศโลกภายนอกก็คล้อยตามหัวใจทั้งคู่

“เอวเล็กแค่นี้…” เขื่อนกระซิบพลางบีบเบาๆ ที่บั้นเอวขุนเขา “แทบจะรวบได้ด้วยมือเดียว…” สหัสวรรษผละออกจากรังน้ำหวานและซุกไซร้ไปยังซอกคอหอมกรุ่น

“เขื่อน…” เสียงเรียกชื่อเบาๆ จากริมฝีปากสีชมพูซีดในตอนนี้ราวกับเวทย์มนตร์ ร่างสูงโน้มลงแนบหน้าผากกับอีกฝ่าย

“จะไม่เจ็บแน่นอน ฉันสัญญา”

เขื่อนเบี่ยงตัวไปทางกางเกงที่ตนถอดทิ้งไว้ด้านข้างเตียง เขาควานหาถุงยางอนามัยและใช้มือแกะมันอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าสหัสวรรษหยุดทำกิจกรรมเมื่อครู่และหันมาสนใจคนใต้ร่าง ดวงตาฉ่ำวาวนอนมองตน ปากเล็กขบเข้าหากัน ไม่รู้ว่าตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกันแน่

ปลายขอบฟ้าอ้าขาเรียวเสลาออกจากกันเป็นรูปตัวเอ็ม เผยให้เห็นรูสวยที่แดงฉ่ำจากการบดเบียดเมื่อครู่ น้ำรักที่รอล้นออกมาอยู่ปลายทางทำเอาสหัสวรรษหยุดทำการแกะถุงยาง และเอ่ยขออีกคน หนูคะ พี่ขอชิมได้ไหม ปากว่าไปแต่มือที่ซุกซนกลับไปจ่ออยู่ทางปากอ่าวเสียอย่างนั้น นิ้วยาวแตะไปที่ปลายทางเข้า ทำเอาร่างบางสะดุ้งให้กับความเสียวนั้น

มือสองข้างที่ไม่รู้จะทำอย่างไรกับความเสียวซ่านนั้นก็นำไปนวดคลึงหน้าอกของตนเอง สหัสวรรษใช้นิ้วให้กับอีกคนเริ่มที่1นิ้ว 2นิ้ว จากนั้นก็3นิ้ว จากที่เป็นจังหวะนุ่มนวลก็โดนเร่งเครื่องจากเสียงครางหวานๆนั่น เขื่อนชักนิ้วออกและก้มไปฉกชิมความหวานและน้ำรัก ปลายลิ้นแหย่และวนอยู่ปากทางทำเอาร่างบางสั่นจนแทบจะเสร็จ มือข้างหนึ่งกุมและเค้นคลึงอกของตัวเองส่วนอีกข้างกดหัวอีกฝ่ายลง

“อ๊ะ…เร็ว..เร็วได้ไหม…ห…หนูจะเสร็จ” ปลายขอบฟ้าเอ่ยครางกระสัน เสียงครางหวานระงมทั่วห้องของสหัสวรรษ ทำเอาคนที่ใช้ลิ้นละเลงความหวานใต้รูเยิ้มนั้นอยากเอาชนะด้วยการพาอีกคนไปขึ้นสวรรค์

เพียงไม่นานร่างบางก็กระตุกเสร็จครั้งแรก สหัสวรรษเงยหน้าขึ้นมามองร่างสวยที่ตอนนี้แดงไปแทบทั้งร่างกาย เขื่อนยิ้มมุมปากกับผลงานของตน ก่อนจะสวมเครื่องป้องกัน

กายหนาก้มลงและมองแก่นกายของตนที่ตีอยู่ปากรูอีกคนให้เสียวซ่านเล่น

“อ..อย่าแกล้ง”ปลายขอบฟ้าเอ่ยขึ้น คนเสียวจะตายอยู่แล้วยังมาแกล้ง เขื่อนยิ้มกริ่มก่อนจะบอกอีกคนว่าจะเอาเข้าไปแล้วนะ ถ้าเสียวก็ครางเรียกผัวขาดังๆล่ะ แก่นกายขนาดมาตรฐานค่อยๆไสเข้าไปในทางปากรูสีแดงนั่น แต่เข้าไปไม่ทันไรก็แทบจะเสร็จเพราะร่างสวยเสลาคนนี้ตอดเขาไว้แน่นจนแอบซี๊ดเพราะความแน่นกว่าเก่า

เตียงสีเทาเข้มเริ่มส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ จากการขยับที่ไม่ได้รุนแรง แต่เต็มไปด้วยความรู้สึก ร่างสูงเคลื่อนไหวอย่างมีจังหวะ ไม่เร่งเร้า ไม่รีบร้อน เขาปรนเปรอร่างบางในอ้อมแขนเหมือนกำลังถนอมของรักที่เปราะบางที่สุด คอยถามไถ่ว่าเจ็บตรงไหนไหม อยากเอาแรงกว่านี้อีกหรือเปล่า คนใต้ร่างก็ได้แต่นอนครางและร้องขอบางอย่างเพียงเท่านั้น

“อ๊ะ…เ…เอาให้แรงกว่านี้ได้ไหม”

เสียงครางแผ่วเบาดังขึ้นปะปนกับเสียงฝนตกด้านนอก ริมฝีปากเขื่อนยังคงเวียนวนอยู่ที่ลำคอเรียวของอีกฝ่าย… ทะนุถนอมทุกสัมผัส ราวกับอยากให้ค่ำคืนนี้เป็นสิ่งที่ร่างบางจดจำไปตลอด

หลังจากร่วมกิจกรรมรักมาจนฟ้าสร่าง สหัสวรรษยิ้มให้กับผลงานร่วมรักของตนที่ตอนนี้พึ่งนอนหลับไปได้ เพียง30นาที เขื่อนลุกขึ้นและอุ้มร่างบางไปยังห้องน้ำในห้องนอน เขาทำการอาบน้ำและเช็ดคราบคาวรักออกจากตัวอีกคน แม้ขุนเขาจะร้องไห้งอแงเพราะถูกรบกวนเวลาการนอน แต่ก็ยอมนั่งให้อีกฝ่ายทำความสะอาดจนเสร็จเรียบร้อยอยู่ดี เขาพาก้อนนุ่มไปนอนที่โซฟาปลายเตียงก่อนจะทำการเปลี่ยนชุดผ้าปูที่นอนและอุ้มอีกฝ่ายมานอนที่เตียงเช่นเคย

หลังจากเก็บของเรียบร้อยและโยนเหล่าเสื้อผ้าไปที่ตะกร้าผ้าตนก็กลับมานอนกอดขุนเขาที่ตอนนี้หลับไปก่อนตนแล้ว เสื้อยืดสีดำที่พอดีตัวกับเขื่อน…แต่หลวมสำหรับขุนเขามันทำเขายิ้มและเอ็นดูเด็กตรงหน้ามากขึ้นกว่าเก่า ก่อนจะถือวิสาสะจูบและมอบรอยสีแดงไว้ที่ซอกคอหวาน และดึงเข้ามากอดจนจมอกและหลับตามกันไป….

แสงแดดยามเช้าส่องลอดผ่านผ้าม่านสีขาวนวล ร่างบางที่นอนแนบอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนค่อยๆ ขยับตัวเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ้วแล้วส่งเสียงอู้อี้ออกมาเบาๆ

“อื้อ… เจ็บ…”

เสียงอ้อนเล็กๆ ดังขึ้นพร้อมกับมือที่ดันอกคนตัวโตกว่าเบาๆ อย่างไม่จริงจังนัก เขื่อนที่ตื่นก่อนอยู่แล้ว ลืมตาขึ้นมามองคนในอ้อมแขนแล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะเอื้อมมือไปลูบเรือนผมนุ่มของขุนเขาอย่างแผ่วเบา

“รู้ว่าเจ็บ แต่เมื่อคืนใครกันนะที่บอกว่า ‘เอาแรงกว่านี้ได้ไหม’” เขาพูดกลั้วหัวเราะเบาๆ

“เขื่อน… ฮือออ อย่าพูดสิ” คนตัวเล็กงอแงเบาๆ หน้าขึ้นสี ก่อนจะซุกหน้าลงกับอกแกร่งเพื่อหลบซ่อนความอาย

“โอเคๆ ไม่แซวแล้ว” เขื่อนหัวเราะในลำคอ ลุกขึ้นนั่งแล้วอุ้มอีกฝ่ายไว้ในอ้อมแขน “ไปล้างหน้า แล้วไปกินข้าวกัน ฉันหาของโปรดไว้ให้”

“อีกแล้ว ‘ฉัน’…” ขุนเขาพึมพำเสียงเบา ทำหน้างอทันทีที่ได้ยินแทนตัวแบบเดิมจากเขื่อน

“อะไรอีกล่ะ”

“ไม่ชอบ… ทำไมต้องแทนตัวเองว่า ‘ฉัน’ ด้วย พี่อายุมากกว่าตั้งเยอะ แทนตัวว่า ‘พี่’ ไม่ได้เหรอ”

“มันไม่ถนัดอะ มันฟังดูแปลกๆ สำหรับฉัน—เอ๊ย… สำหรับ ‘พี่’” เขื่อนแกล้งเน้นเสียงก่อนจะหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นอีกคนเบะปากอย่างน่าเอ็นดู “โอเคๆ เดี๋ยวจะลองนะครับ”

“ไม่เอาแค่ลอง ต้องพูดจริง”

“ก็ได้ครับ…พี่จะพยายามนะครับคุณขุนเขา”

หลังจากนั้นเขื่อนพาขุนเขาลงมาทานอาหารเที่ยงที่ครัว —เขาสั่งมากินที่บ้านเพราะแม่ครัวที่นั่นทำรสชาติได้เหมือนกับอาหารจากบ้านเก่าของเขา ขุนเขายอมกินข้าวแต่โดยดี แม้จะเดินช้ากว่าปกติเพราะยังระบม ร่างสูงก็จัดแจงทั้งจานข้าว น้ำ และยาพร้อมสรรพ

“กินเสร็จแล้วก็กินยานะครับ เดี๋ยวคืนนี้จะได้…หายไวๆ” เขื่อนพูดยิ้มๆ ยื่นยาแก้ปวดให้

“อย่าพูดนะ เดี๋ยวตีเลย” ขุนเขาทำหน้ายู่ ยกมือขึ้นทำท่าจะตี แต่ก็ยอมกินยาแต่โดยดี

ช่วงบ่ายที่ทั้งสองคนทานอาหารเรียบร้อยแล้ว ความสงบเริ่มแปรเปลี่ยน เมื่อเสียงเคาะประตูหน้าบ้านดังขึ้น เขื่อนเปิดประตูออกไปแล้วพบกับชายหนุ่มใบหน้าสวย หุ่นดี สูงโปร่ง ที่ดูจะรู้จักเขาเป็นอย่างดี

“เขื่อน~ คิดถึงจังเลย” เสียงแหลมใสทักทายด้วยท่าทีสนิทสนม มือเรียวยกขึ้นแตะไหล่เขื่อนอย่างคุ้นเคย

ขุนเขามองภาพตรงหน้าอย่างพูดไม่ออก ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าคนคนนี้คือ “อดีต” ที่เขายังไม่เคยรู้จักดีนัก

“ข..ขึ้นห้องก่อนนะ” น้ำเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น ขุนเขาไม่รอฟังคำอธิบาย รีบก้าวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของเขื่อน—ที่ตอนนี้เหมือนเป็นเซฟโซนที่เดียวของเขา

เขื่อนหันไปมองแผ่นหลังของขุนเขาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปทางแขกไม่ได้รับเชิญด้วยสีหน้าเย็นเฉียบ

“มาทำไมอีก”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 5

    เสียงประตูห้องปิดลงเบาๆ แต่ภายในใจของขุนเขากลับดังก้องไปด้วยความรู้สึกมากมายจนแทบกลั้นไม่อยู่ เขาทรุดตัวลงบนเตียงกว้างที่ยังมีกลิ่นของเขื่อนอวลอยู่บนหมอน ดวงตากลมมองออกไปนอกหน้าต่าง ริมฝีปากเม้มแน่น รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรคิดมาก ไม่ควรรู้สึกอะไรแบบนี้ เพราะคนคนนั้นก็คงเป็นแค่ ‘อดีต’ แต่… ทำไมมันหน่วงไปหมดแบบนี้นะ “ก็แค่คนของเขาเอง” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พยายามไล่ความรู้สึกเจ็บออกไปจากอก แต่ภาพที่อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าบ้าน ยิ้มให้เขื่อนแบบนั้น มือที่แตะไหล่เขื่อนเหมือนเจ้าของ ไม่สิ…เหมือนคนที่เคยมีสิทธิ์ในตัวเขื่อนมาก่อน—มันทำให้ขุนเขาเจ็บจุกยังไงไม่รู้ เขาไม่อยากยอมรับหรอกว่ากำลังหึง กำลังน้อยใจ หรือกลัว… กลัวว่าจะมีใครบางคนที่เขื่อนเคยรัก มาก่อนเขา และอาจจะยังมีผลอยู่ เสียงประตูเปิดดังขึ้นเบาๆ ขุนเขาหันไปมอง เห็นร่างสูงของเขื่อนเดินเข้ามาช้าๆ มือถือแก้วน้ำกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว “นมอุ่น จะไ

    Last Updated : 2025-04-27
  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 6

    หลังจากวันนั้น ทุกๆ วันก็เหมือนมีภาพซ้ำที่ขุนเขาต้องทนเห็น — ปานวาดเข้ามาเล่น พูดคุย และนั่งทานข้าวกับเขื่อนแทบทุกมื้อ สหัสวรรษเพียงอธิบายสั้นๆ ว่า “คนนี้รู้จักกันมานานแล้ว พึ่งกลับจากเรียนต่อในเมืองหลวง” ขุนเขาไม่เคยปริปากถามอะไรอีก แค่ยิ้มรับเงียบๆ แม้ในใจจะเจ็บทุกครั้งที่เห็นภาพสองคนนั้นหัวเราะกันอย่างเป็นธรรมชาติ ปานวาดจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่เขื่อนอยู่บ้านเท่านั้น หากเขื่อนไม่อยู่ เธอก็จะไม่เข้ามา กระทั่งวันหนึ่ง — ขุนเขากำลังกวาดพื้นและทำความสะอาดอยู่ที่ห้องครัวอย่างเงียบเชียบ มือเล็กๆ กำลังจับไม้กวาด ปัดฝุ่นที่เกาะตามพื้นไม้อย่างตั้งอกตั้งใจ เสียงสั่งการก็ดังขึ้นจากโซฟา “นี่! เอาน้ำมานี่ที หิวจะแย่แล้ว!” ขุนเขาเงยหน้าขึ้น ก็พบปานวาดนั่งหันหลังให้ ก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์มือถืออย่างไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว “นี่!! ฉันบอกให้หยิบน้ำมา!!” เสียงตะคอกดังขึ้นอีกครั้ง ขุนเขาขบกรามแน่น ก่อนจะวางไม้กวาดกับที่ตักขยะลงแรงๆ จนมันล้มดัง กึก ร่างบางเดินอย่างเอื่อยเฉื่อยไปหยิบเหยือกน้ำและแก้ว ก่อนจะเดินกลับมาวางมันลงบนโต๊ะไม้หน้าสุดของโซฟา อย่างแรง จนน้ำในเหยือกกระเพื่อม ปานวาดกำมือแน่น สีหน้าเร

    Last Updated : 2025-04-29
  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 7

    เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังเบา ๆ อยู่ไกล ๆ เมื่อสหัสวรรษยืนพิงราวระเบียง มองออกไปยังห้องนอนผ่านกระจกบานใส มือหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู อีกมือวางแนบชายโครงอย่างเงียบงัน แสงจากหลอดไฟนวลตาในห้องนอนลอดผ้าม่านออกมาแผ่วเบา “กูก็บอกแล้วไงว่ากูรู้สึกผิดแล้ว มึงยังจะด่ากูอีก” เสียงเขาแหบพร่ากึ่งหงุดหงิด เมื่อเอ่ยกับปลายสาย “กูไม่รู้ว่ะ ปานวาดเขาเข้ามากระทันหันจนกูตั้งหลักไม่ทัน” เขื่อนตอบเสียงพูดของเขาแทรกด้วยเสียงจุดไฟแช็ก แล้วตามด้วยกลิ่นควันบุหรี่จาง ๆ ในลมหายใจของอีกฝ่าย ‘มันไม่ใช่ข้ออ้างสักนิดไอสัด’ เสียงของเจริญชัยพูดสวนขึ้นมาทางปลายสาย ‘มึงไปคิดเองเหอะ เว้นระยะห่างกับปานวาดเขาบ้าง มึงก็มีคนของมึงอยู่แล้วนะ’ ‘ดูแลเขาให้ดี ๆ เพราะฝั่งนั้นแม่งเริ่มไหวตัวแล้ว’ ‘สุดท้าย คนที่มึงควรไว้ใจไม่ใช่เธอแต่คือคนที่มึงยอมให้นอนห้องนอนเดียวกัน ไอ้ควาย’ สิ้นเสียงเพื่อนซี้ด่าเสร็จก็ได้ตัดสายไป… คำพูดของเพื่อนสนิทสะกิดแทงลึกเข้ากลางอก เขื่อนนิ่งเงียบ รู้ดีว่าเจริญชัยพูดถูก—เขาแคร์ปานวาดมากเกินไป จนลืมไปว่าขุนเขาก็เจ็บเหมือนกัน และที่ยิ่งน่าสงสัยคือการกลับมาของปานวาด ทั้งที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว แต

    Last Updated : 2025-04-29
  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 1

    ในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ ที่ซึ่งท้องทะเลเป็นสีครามลึกและเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังก้องสะท้อนกับผาหิน — นั่นคือที่ตั้งของอาณาจักร “สัมปทานรังนก” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และชายผู้ควบคุมทุกเกาะ ทุกนก และทุกเส้นทางการค้าคือ เขื่อน สหัสวรรษ บดินทร์ขุนทศ ชายหนุ่มวัยสามสิบกลางๆ เจ้าของสัมปทานรังนกทั้งหมดสามเกาะใหญ่ และยังเป็นเจ้าของรีสอร์ตบนเกาะเล็กเกาะน้อยที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เขื่อนสูงถึง 190 เซนติเมตร ผิวแทนเข้มจากการใช้ชีวิตกลางแดด ใบหน้าคมเข้มดุดันจนบางคนไม่กล้าสบตา กล้ามเนื้อแน่นตึงบ่งบอกถึงความแข็งแรงและวินัยในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เคยทอดทิ้งความผูกพันกับธรรมชาติ โดยเฉพาะ “แมว” ที่เขาเลี้ยงไว้ถึงสองตัวบนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า “เกาะปันรัก” แห่งนี้ เกาะซึ่งแม่ของเขาทิ้งไว้ก่อนจะเสียชีวิตจากโรคร้ายเมื่อหลายปีก่อน เมื่อครั้งยังวัยรุ่น เขื่อนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง เรียนหนังสือและทำงานในบริษัทของพ่อ ตนทำทุกวิธีเพื่อรักษาแม่ แต่สุดท้ายเมื่อแม่จากไป เขาก็เลือกกลับมายังบ้านเกิด สานต่อกิจการและดูแลเกาะที่แม่รักที่สุด

    Last Updated : 2025-04-25
  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 2

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านลงมาแตะต้องใบหน้าเรียวบาง ทำให้ร่างบนเตียงขยับตัวเล็กน้อย แต่เพียงขยับนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งร่าง เปลือกตาที่ปกคลุมด้วยแพขนตาหนาค่อย ๆ กระพริบ ก่อนที่ดวงตาสุกใสจะเปิดขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพดานสีขาวสะอาดตาไม่ใช่ภาพที่เจ้าตัวคุ้นเคย—นี่…ยังไม่ตายงั้นเหรอ? หัวกลม ๆ หันซ้ายหันขวาไปรอบห้องเพื่อมองหาใครบางคนแต่กลับไม่พบใครเลย “ขุนเขา ปลายขอบฟ้า”—ชื่อที่คนคนหนึ่งเคยตั้งให้ด้วยความรัก ชื่อนี้สะท้อนอยู่ในใจเมื่อเขานึกถึงเจ้าของเสียงหัวใจ ขุนเขานอนมองเพดานต่ออีกครู่ ก่อนจะได้ยินเสียงประตูระเบียงเปิดออก เขาหันไปตามเสียงแล้วต้องเบิกตากว้าง ชายแปลกหน้ารูปร่างสูงใหญ่ในเสื้อกล้ามสีขาวเดินเข้ามา ใบหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาคมกริบทำให้ขุนเขารู้สึกตื่นตะลึง ไหนจะกล้ามแขนและแผงอกที่เห็นชัดผ่านเนื้อผ้านั่นอีก ชายคนนั้นเดินมาตรงข้างเตียง พร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม “ชื่อ?” ขุนเขาเบิกตาเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้มพลางก้มหน้ามองมือตัวเอง “ข…ขุนเขา…” อีกฝ่ายพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตจากราวมาสวม ก่อนจะคว้าถุงเสื้อผ้าที่ดูเหมือนเตรียมไว้ให้เรียบร้อย แล้วยื่นให้

    Last Updated : 2025-04-25
  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 3

    หลายวันผ่านไป ความเคยชินค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเขื่อนกับขุนเขา ทั้งสองต่างไม่ได้มีบทสนทนาหวานซึ้งหรือใกล้ชิดแบบคู่รัก แต่กลับอยู่ร่วมบ้านกันได้อย่างแนบเนียนราวกับเป็นเรื่องปกติ เหมือนคนสองคนที่เคยมีชีวิตคู่มาก่อน แล้วกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้งอย่างเงียบงัน ทุกเช้าเขื่อนออกจากบ้านโดยไม่ลืมทิ้งคำสั่งหรือคำเตือนบางอย่างไว้ให้ขุนเขาเสมอ แล้วขึ้นสปีดโบ๊ทลำเดิมในเวลา 10 โมงตรง กลับมาอีกทีราวบ่ายสาม ขุนเขาที่เริ่มจำเวลาเหล่านี้ได้ขึ้นใจ เริ่มสังเกตและตั้งคำถาม—แบบที่ไม่เคยกล้าถามออกไปตรง ๆ ประมง? เขาไม่เคยเห็นตาข่าย ไม่เคยเห็นปลา ไม่เคยได้กลิ่นคาวทะเลสักครั้ง… หรือเขาแค่ไม่รู้ว่าประมงในที่แห่งนี้ มันไม่ใช่แค่การหาปลา บ่ายวันนี้ ขุนเขาออกมานั่งหน้าบ้าน อากาศเย็นสบาย ลมทะเลพัดอ่อน ๆ ผ่านผิวกาย เสื้อยืดสีขาวบางแนบเนื้อโชว์ไหล่ลาดและช่วงคอขาวเนียน กางเกงผ้าลื่นสีฟ้าอ่อนแนบเรียวขาอย่างไม่ตั้งใจ แต่เพียงพอจะดึงดูดสายตาคนงานละแวกนั้นให้เผลอเหลือบมองเป็นระยะ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มผ้าใบข้างบ้าน เปลถักใกล้กันแกว่งเบา ๆ ไปตามลม หน้าบ้านที่ปูด้วยหินกรวดสีขาวสะอาดยิ่งทำให้ร่างบางของเ

    Last Updated : 2025-04-25

Latest chapter

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 7

    เสียงคลื่นกระทบชายฝั่งดังเบา ๆ อยู่ไกล ๆ เมื่อสหัสวรรษยืนพิงราวระเบียง มองออกไปยังห้องนอนผ่านกระจกบานใส มือหนึ่งถือโทรศัพท์แนบหู อีกมือวางแนบชายโครงอย่างเงียบงัน แสงจากหลอดไฟนวลตาในห้องนอนลอดผ้าม่านออกมาแผ่วเบา “กูก็บอกแล้วไงว่ากูรู้สึกผิดแล้ว มึงยังจะด่ากูอีก” เสียงเขาแหบพร่ากึ่งหงุดหงิด เมื่อเอ่ยกับปลายสาย “กูไม่รู้ว่ะ ปานวาดเขาเข้ามากระทันหันจนกูตั้งหลักไม่ทัน” เขื่อนตอบเสียงพูดของเขาแทรกด้วยเสียงจุดไฟแช็ก แล้วตามด้วยกลิ่นควันบุหรี่จาง ๆ ในลมหายใจของอีกฝ่าย ‘มันไม่ใช่ข้ออ้างสักนิดไอสัด’ เสียงของเจริญชัยพูดสวนขึ้นมาทางปลายสาย ‘มึงไปคิดเองเหอะ เว้นระยะห่างกับปานวาดเขาบ้าง มึงก็มีคนของมึงอยู่แล้วนะ’ ‘ดูแลเขาให้ดี ๆ เพราะฝั่งนั้นแม่งเริ่มไหวตัวแล้ว’ ‘สุดท้าย คนที่มึงควรไว้ใจไม่ใช่เธอแต่คือคนที่มึงยอมให้นอนห้องนอนเดียวกัน ไอ้ควาย’ สิ้นเสียงเพื่อนซี้ด่าเสร็จก็ได้ตัดสายไป… คำพูดของเพื่อนสนิทสะกิดแทงลึกเข้ากลางอก เขื่อนนิ่งเงียบ รู้ดีว่าเจริญชัยพูดถูก—เขาแคร์ปานวาดมากเกินไป จนลืมไปว่าขุนเขาก็เจ็บเหมือนกัน และที่ยิ่งน่าสงสัยคือการกลับมาของปานวาด ทั้งที่พ่อแม่ของเธอเสียชีวิตไปแล้ว แต

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 6

    หลังจากวันนั้น ทุกๆ วันก็เหมือนมีภาพซ้ำที่ขุนเขาต้องทนเห็น — ปานวาดเข้ามาเล่น พูดคุย และนั่งทานข้าวกับเขื่อนแทบทุกมื้อ สหัสวรรษเพียงอธิบายสั้นๆ ว่า “คนนี้รู้จักกันมานานแล้ว พึ่งกลับจากเรียนต่อในเมืองหลวง” ขุนเขาไม่เคยปริปากถามอะไรอีก แค่ยิ้มรับเงียบๆ แม้ในใจจะเจ็บทุกครั้งที่เห็นภาพสองคนนั้นหัวเราะกันอย่างเป็นธรรมชาติ ปานวาดจะโผล่มาเฉพาะเวลาที่เขื่อนอยู่บ้านเท่านั้น หากเขื่อนไม่อยู่ เธอก็จะไม่เข้ามา กระทั่งวันหนึ่ง — ขุนเขากำลังกวาดพื้นและทำความสะอาดอยู่ที่ห้องครัวอย่างเงียบเชียบ มือเล็กๆ กำลังจับไม้กวาด ปัดฝุ่นที่เกาะตามพื้นไม้อย่างตั้งอกตั้งใจ เสียงสั่งการก็ดังขึ้นจากโซฟา “นี่! เอาน้ำมานี่ที หิวจะแย่แล้ว!” ขุนเขาเงยหน้าขึ้น ก็พบปานวาดนั่งหันหลังให้ ก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์มือถืออย่างไม่ใส่ใจสิ่งรอบตัว “นี่!! ฉันบอกให้หยิบน้ำมา!!” เสียงตะคอกดังขึ้นอีกครั้ง ขุนเขาขบกรามแน่น ก่อนจะวางไม้กวาดกับที่ตักขยะลงแรงๆ จนมันล้มดัง กึก ร่างบางเดินอย่างเอื่อยเฉื่อยไปหยิบเหยือกน้ำและแก้ว ก่อนจะเดินกลับมาวางมันลงบนโต๊ะไม้หน้าสุดของโซฟา อย่างแรง จนน้ำในเหยือกกระเพื่อม ปานวาดกำมือแน่น สีหน้าเร

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 5

    เสียงประตูห้องปิดลงเบาๆ แต่ภายในใจของขุนเขากลับดังก้องไปด้วยความรู้สึกมากมายจนแทบกลั้นไม่อยู่ เขาทรุดตัวลงบนเตียงกว้างที่ยังมีกลิ่นของเขื่อนอวลอยู่บนหมอน ดวงตากลมมองออกไปนอกหน้าต่าง ริมฝีปากเม้มแน่น รู้ทั้งรู้ว่าไม่ควรคิดมาก ไม่ควรรู้สึกอะไรแบบนี้ เพราะคนคนนั้นก็คงเป็นแค่ ‘อดีต’ แต่… ทำไมมันหน่วงไปหมดแบบนี้นะ “ก็แค่คนของเขาเอง” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ พยายามไล่ความรู้สึกเจ็บออกไปจากอก แต่ภาพที่อีกฝ่ายยืนอยู่หน้าบ้าน ยิ้มให้เขื่อนแบบนั้น มือที่แตะไหล่เขื่อนเหมือนเจ้าของ ไม่สิ…เหมือนคนที่เคยมีสิทธิ์ในตัวเขื่อนมาก่อน—มันทำให้ขุนเขาเจ็บจุกยังไงไม่รู้ เขาไม่อยากยอมรับหรอกว่ากำลังหึง กำลังน้อยใจ หรือกลัว… กลัวว่าจะมีใครบางคนที่เขื่อนเคยรัก มาก่อนเขา และอาจจะยังมีผลอยู่ เสียงประตูเปิดดังขึ้นเบาๆ ขุนเขาหันไปมอง เห็นร่างสูงของเขื่อนเดินเข้ามาช้าๆ มือถือแก้วน้ำกับนมอุ่นหนึ่งแก้ว “นมอุ่น จะไ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 4

    ริมฝีปากเขื่อนสัมผัสกับของขุนเขาอีกครั้ง—อ่อนโยนเหมือนสายลมยามเช้า ละมุนละไมจนแทบทำให้ร่างบางละลายอยู่ตรงนั้น จูบนั้นเริ่มจากเพียงแค่แตะเบาๆ กลายเป็นร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ… เสียงจูบเปียกชื้น,ลิ้นร้อนตวัดหาความหวานของกันและกัน น้ำรักที่เปรอะออกมาจากริมฝีปากของขุนเขา สหัสวรรษดูดเม้มราวกับว่านี่คือน้ำผึ้งเดือนห้า สลับกับลมหายใจที่ถี่กระชั้นทำให้บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความร้อนรุ่ม เสียงเบาๆ จากห้องข้างๆ ดังลอดมาเป็นจังหวะที่ไม่ควรได้ยิน… กลับยิ่งกระตุ้นให้ทุกการสัมผัสของเขื่อนทวีความรุนแรงในแบบทนุถนอม ร่างสูงคร่อมเหนือคนตัวเล็ก มือหนาที่เคยจับพวงมาลัยเรือ แกร่งแต่ก็แฝงด้วยความอ่อนโยน ลูบผ่านแผ่นหลังบางจนเจ้าของร่างสะดุ้งเล็กน้อย ลูบไล้ผ่านเอวบาง สหัสวรรษคิดว่าอีกคนว่าเอวเล็กแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเล็กถึงขนาดที่ตนรวบมือเดียวยังได้ “ตรงนี้…ได้ไหม” เขื่อนกระซิบเบา มือข้างหนึ่งลูบไล้ทั่วร่างขาวไปจนหยุดตรงตุ่มไตสีสวยบนอก ปากก็ว่ามือก็ลูบไล้ เสียงแหบพร่าข้างใบหู ทำเอาร่างใต้ร่างใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ขุนเขาพยักหน้าเบาๆ แม้อีกคนจะขออนุญาตเขาหลังจากที่มือนั้นไปหยุดอยู่ตรงเนินเล็กของขุนเขา ดวงตาฉ่

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 3

    หลายวันผ่านไป ความเคยชินค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างเขื่อนกับขุนเขา ทั้งสองต่างไม่ได้มีบทสนทนาหวานซึ้งหรือใกล้ชิดแบบคู่รัก แต่กลับอยู่ร่วมบ้านกันได้อย่างแนบเนียนราวกับเป็นเรื่องปกติ เหมือนคนสองคนที่เคยมีชีวิตคู่มาก่อน แล้วกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้งอย่างเงียบงัน ทุกเช้าเขื่อนออกจากบ้านโดยไม่ลืมทิ้งคำสั่งหรือคำเตือนบางอย่างไว้ให้ขุนเขาเสมอ แล้วขึ้นสปีดโบ๊ทลำเดิมในเวลา 10 โมงตรง กลับมาอีกทีราวบ่ายสาม ขุนเขาที่เริ่มจำเวลาเหล่านี้ได้ขึ้นใจ เริ่มสังเกตและตั้งคำถาม—แบบที่ไม่เคยกล้าถามออกไปตรง ๆ ประมง? เขาไม่เคยเห็นตาข่าย ไม่เคยเห็นปลา ไม่เคยได้กลิ่นคาวทะเลสักครั้ง… หรือเขาแค่ไม่รู้ว่าประมงในที่แห่งนี้ มันไม่ใช่แค่การหาปลา บ่ายวันนี้ ขุนเขาออกมานั่งหน้าบ้าน อากาศเย็นสบาย ลมทะเลพัดอ่อน ๆ ผ่านผิวกาย เสื้อยืดสีขาวบางแนบเนื้อโชว์ไหล่ลาดและช่วงคอขาวเนียน กางเกงผ้าลื่นสีฟ้าอ่อนแนบเรียวขาอย่างไม่ตั้งใจ แต่เพียงพอจะดึงดูดสายตาคนงานละแวกนั้นให้เผลอเหลือบมองเป็นระยะ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ใต้ร่มผ้าใบข้างบ้าน เปลถักใกล้กันแกว่งเบา ๆ ไปตามลม หน้าบ้านที่ปูด้วยหินกรวดสีขาวสะอาดยิ่งทำให้ร่างบางของเ

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 2

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องลอดผ้าม่านลงมาแตะต้องใบหน้าเรียวบาง ทำให้ร่างบนเตียงขยับตัวเล็กน้อย แต่เพียงขยับนิดเดียวก็รู้สึกเจ็บจี๊ดไปทั้งร่าง เปลือกตาที่ปกคลุมด้วยแพขนตาหนาค่อย ๆ กระพริบ ก่อนที่ดวงตาสุกใสจะเปิดขึ้นมาอย่างช้า ๆ เพดานสีขาวสะอาดตาไม่ใช่ภาพที่เจ้าตัวคุ้นเคย—นี่…ยังไม่ตายงั้นเหรอ? หัวกลม ๆ หันซ้ายหันขวาไปรอบห้องเพื่อมองหาใครบางคนแต่กลับไม่พบใครเลย “ขุนเขา ปลายขอบฟ้า”—ชื่อที่คนคนหนึ่งเคยตั้งให้ด้วยความรัก ชื่อนี้สะท้อนอยู่ในใจเมื่อเขานึกถึงเจ้าของเสียงหัวใจ ขุนเขานอนมองเพดานต่ออีกครู่ ก่อนจะได้ยินเสียงประตูระเบียงเปิดออก เขาหันไปตามเสียงแล้วต้องเบิกตากว้าง ชายแปลกหน้ารูปร่างสูงใหญ่ในเสื้อกล้ามสีขาวเดินเข้ามา ใบหน้าเรียบเฉยแต่ดวงตาคมกริบทำให้ขุนเขารู้สึกตื่นตะลึง ไหนจะกล้ามแขนและแผงอกที่เห็นชัดผ่านเนื้อผ้านั่นอีก ชายคนนั้นเดินมาตรงข้างเตียง พร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม “ชื่อ?” ขุนเขาเบิกตาเล็กน้อย ก่อนจะตอบเสียงอ้อมแอ้มพลางก้มหน้ามองมือตัวเอง “ข…ขุนเขา…” อีกฝ่ายพยักหน้าเบา ๆ แล้วเดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตจากราวมาสวม ก่อนจะคว้าถุงเสื้อผ้าที่ดูเหมือนเตรียมไว้ให้เรียบร้อย แล้วยื่นให้

  • เขื่อนขุนเขา    เขื่อนขุนเขา 1

    ในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ ที่ซึ่งท้องทะเลเป็นสีครามลึกและเสียงคลื่นกระทบฝั่งดังก้องสะท้อนกับผาหิน — นั่นคือที่ตั้งของอาณาจักร “สัมปทานรังนก” ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ และชายผู้ควบคุมทุกเกาะ ทุกนก และทุกเส้นทางการค้าคือ เขื่อน สหัสวรรษ บดินทร์ขุนทศ ชายหนุ่มวัยสามสิบกลางๆ เจ้าของสัมปทานรังนกทั้งหมดสามเกาะใหญ่ และยังเป็นเจ้าของรีสอร์ตบนเกาะเล็กเกาะน้อยที่ถูกเนรมิตให้กลายเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว เขื่อนสูงถึง 190 เซนติเมตร ผิวแทนเข้มจากการใช้ชีวิตกลางแดด ใบหน้าคมเข้มดุดันจนบางคนไม่กล้าสบตา กล้ามเนื้อแน่นตึงบ่งบอกถึงความแข็งแรงและวินัยในการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แต่เขาก็ไม่เคยทอดทิ้งความผูกพันกับธรรมชาติ โดยเฉพาะ “แมว” ที่เขาเลี้ยงไว้ถึงสองตัวบนเกาะเล็กๆ ที่ชื่อว่า “เกาะปันรัก” แห่งนี้ เกาะซึ่งแม่ของเขาทิ้งไว้ก่อนจะเสียชีวิตจากโรคร้ายเมื่อหลายปีก่อน เมื่อครั้งยังวัยรุ่น เขื่อนใช้ชีวิตอยู่ในเมืองหลวง เรียนหนังสือและทำงานในบริษัทของพ่อ ตนทำทุกวิธีเพื่อรักษาแม่ แต่สุดท้ายเมื่อแม่จากไป เขาก็เลือกกลับมายังบ้านเกิด สานต่อกิจการและดูแลเกาะที่แม่รักที่สุด

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status