แชร์

บทที่ 93

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“วันนี้มีพวกเจ้าทั้งหมดสิบเก้าคน จับปลาไนตัวเล็กคนละสามสิบตัวและปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่คนละหกตัว”

เช่นนี้ก็จะได้ปลาไนตัวเล็ก 570 ตัว และปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่114 ตัว

จำนวนปลาต้องได้มากกว่าที่ต้องการแน่นอน เพราะวันนี้เฉินฝานต้องส่งปลาเป็นและอาจมีปลาตายระหว่างทาง

ที่สำคัญหลี่ซานไม่ใช่พ่อค้าประเภทที่ไม่ยอมคิดเงินเมื่อจำนวนเพิ่มขึ้นเสียหน่อย

ทันทีที่เฉินฝานพูดจบ เฉียนลิ่วและคนอื่น ๆ ก็รวมตัวกันเริ่มนับทันที "ปลาไนตัวเล็กสามสิบตัว ห้าตัวหนึ่งเหวิน ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่หกตัว ตัวละหนึ่งเหวิน......"

คนที่มาที่นี่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนยากจนในหมู่บ้าน ไม่เคยเรียนการคำนวณ พวกเขาคิดคำนวณร่วมกันอยู่ครู่ใหญ่ก็คิดไม่ออก

“โอ้ย ทำไมเจ้าถึงใช้เวลาคิดนานขนาดนั้นล่ะ” ต้ายาอดไม่ได้จึงกล่าว

“ปลาไนตัวเล็กสามสิบตัว ได้เงินคนละหกเหวิน ปลาเฉาฮื้อตัวใหญ่หกตัว ได้เงินคนละหกเหวินเหมือนกัน เมื่อนำมารวมกันแล้ว จะได้เงินวันละสิบสองเหวินต่อคน”

“สิบสองเหวิน?!”

ชาวบ้านเงยหน้าขึ้นและมองดูต้ายาด้วยความไม่เชื่อ

จับปลาเพียงสิบกว่าตัวก็ได้เงินสิบสองเหวินแล้วรึ!

เมื่อก่อนไม่มีใครยอมกินปลา ตอนนี้เพียงแค่จับมันก็ได้เงินแล้ว ที่สำคัญย
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
sabading.dingda
ขอเตือนเรื่องเติมเงิน คนที่ยังไม่เติมเงินน่ะดีแล้วนะ มันอัพเดทวันละตอน นี่เลิกอ่านละ คุณเก็บเหรียญฟรีเอาดีกว่าเติมเงินไปก็ไม่ได้อ่าน ต้องรอมันอัพวันละตอน จะรำคาญหงุดหงิดเปล่าๆ เราเลิกอ่านละ รอเบื่อ จนลืมเรื่องราวเดิมละไม่ต่อเนื่อง ถ้าไม่พร้อมก็ไม่ควรเอามาขายนะ เสร็จซัก 80%ขึ้นไปค่อยเอามาข่ยดีกว่า
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 94

    “ข้า ข้าเปล่านะ!”ปกติม่อเกินเซิงเป็นเด็กฉลาด แต่เมื่อพูดถึงเฉินต้ายาเขาจะเริ่มพูดติดอ่าง“ข้า ข้าขี้เกียจพูดกับพวกท่านแล้ว ข้าจะเอาเงินนี้กลับไปให้แม่ของข้าและให้นางเอาไปซื้อข้าวสาร!”ม่อเกินเซิงพูดจบก็วิ่งออกไปขณะวิ่ง มือข้างหนึ่งจับกระเป๋าเสื้อแน่น ข้างในนั้นมีเงินสิบสองเหวินที่เขาเพิ่งได้รับ“ข้าก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เมียของข้ารออยู่”“พ่อของข้าก็รอเหมือนกัน ตอนเช้าที่ข้าออกไปข้างนอก เขายังตำหนิข้าอยู่เลย บอกว่าเสี่ยวฝานโกหกพวกเรา ข้าจะเอาเงินกลับไปแล้วดูว่าเขาจะพูดอะไรได้อีก”“ข้าก็เหมือนกัน ข้าไม่เพียงแต่จะกลับไปพูด แต่ข้ายังจะบอกพวกเขาด้วยว่าเสี่ยวฝานให้เงินพวกเราแล้ว และตอนนี้เสี่ยวฝานเป็นคนดีมาก!”“ใช่ ๆ ๆ!”ชาวบ้านที่ได้รับเงินกล่าวขอบคุณเฉินฝานเสร็จก็พากันกลับ“พี่ลิ่ว จื้ออัน!”เฉินฝานเรียกเฉียนลิ่วกับจูจื้ออันหลังจากเก็บปลาเสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการขนย้ายเพื่อลดการสูญเสียปลา เฉินฝานต้องการนำปลาใส่ลงถังเก็บน้ำหลายใบ จากนั้นนำขึ้นเกวียนและส่งไปยังตัวอำเภอแม้ว่าหัวใจของพวกเขากลับบ้านไปแล้ว แต่เฉียนลิ่วกับจูจื้ออันก็หันกลับมาทันทีที่เฉินฝานกล่าว“เสี่ยวฝาน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 95

    “ตกลงตามนี้แล้วกัน พวกเจ้าสองคนหยุดไร้สาระกับข้าได้แล้ว รีบกลับเรือนไปซะ คนที่ยกถังน้ำก็ไปยกถังน้ำ คนที่ลากเกวียนก็ไปลากเกวียน ข้าต้องรีบไปส่งปลาที่ตัวอำเภออีก!”“เอาล่ะ ๆ ทำตามที่เสี่ยวฝานพูด”“ฟังพี่ฝานขอรับ”ท่ามกลางสายตาอิจฉาของทุกคน เฉียนลิ่วกับจูจื้ออันวิ่งกลับเรือนอย่างรวดเร็วจูจื้ออันสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นสิบเหวินต่อวัน ส่วนเฉียนลิ่วได้เพิ่มอีกยี่สิบเหวินผู้ชายตัวใหญ่สองคนเป็นเสาหลักของครอบครัวมาตลอด สองวันที่ผ่านมาคงแอบเช็ดน้ำตากันไม่น้อยในที่สุดพวกเขาก็สามารถทำให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นชาวบ้านทุกคนที่ช่วยเฉินฝานจับปลาได้รับเงินจากเฉินฝานและกลับเรือนไปอย่างมีความสุขคนที่ยืนดูความคึกคักอยู่นอกบ้านเฉินฝานเมื่อเห็นชาวบ้านได้รับเงินและกลับเรือนก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก แต่ละคนก็กลับเรือนไปด้วยความหดหู่ใจบางคนกลับถึงเรือนก็ถูกภรรยาของตนเองตำหนิตำหนิว่าพวกเขาไม่ควรทำตามจู้ต้าอันที่ด่าทอเฉินฝาน ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็สามารถสร้างรายได้กับเฉินฝานแล้ววันนี้ หลายครอบครัวในหมู่บ้านมีความสุขเพราะเฉินฝาน และมีอีกหลายคนที่ทะเลาะกันเพราะเฉินฝาน-หลังจากทำการค้าขายมาหลา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 96

    ผู้ที่มาเยือนคือจูจื้ออัน วันนี้ได้เงินจากการช่วยเฉินฝานจับปลา เขาจึงอยากมาซื้อเนื้อขาหน้าเพื่อนำไปบำรุงร่างกายของภรรยาที่เพิ่งคลอดบุตรก่อนหน้านี้ จูจื้ออันเป็นคนยากจนที่รู้จักกันดีในหมู่บ้านซานเหอ ในฐานะคนขายเนื้อที่เร่ขายระหว่างหมู่บ้าน โจวเหล่าซื่อย่อมรู้จักภูมิหลังของครอบครัวจูจื้ออันดีและหมูสามชั้นน่ะ ถึงจะเป็นเนื้อหั่นที่ราคาถูกที่สุด ทว่าจูจื้ออันกลับซื้อมันไม่ไหวแม้แต่ชิ้นเดียว“เหล่าซื่อ มีเนื้อมันหมูบ้างไหม?”ผู้ที่มาเยือนถึงตรงหน้าโจวเหล่าซื่อคนที่สองคือเฉียนลิ่ว ที่บ้านเขากินอาหารไร้น้ำมันมาสามเดือนแล้ว และท้องก็โครกครากอย่างหนัก ครั้นมีน้ำมันแล้วไม่ว่าจะอาหารใดก็อร่อยหมดทุกอย่างโจวเหล่าซื่อมองจูจื้ออันและเฉียนลิ่วที่อยู่ประกบตนอยู่ตรงหน้าในใจรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่าน จ้องมองจูจื้ออันและเฉียนลิ่วด้วยความรังเกียจวันนี้เขาประสบโชคร้ายอะไรกันทันทีที่เข้ามาถึง ยังไม่ทันได้เปิดป้ายร้านค้าเลยก็ได้พบกับยาจกสองคนนี้จากหมู่บ้านซานเหอเสียแล้วแล้วยาจกสองคนนี้ต่างพูดว่าอย่างไรนะ?คนหนึ่งถามถึงเนื้อขาหน้าคนหนึ่งถามถึงมันหมูพวกเขาทั้งยากจนและฟั่นเฟือน และยังมีปัญหาทางจิ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 97

    “โจวเหล่าซื่อ เจ้าด่าใครน่ะ?”“ผัวะ!”หมัดของเฉียนลิ่วกระแทกบนใบหน้าของโจวเหล่าซื่ออย่างแรงเมื่อครู่โจวเหล่าซื่อไม่ไว้หน้าเขาเลย เสียดสีเขา เขาล้วนทนได้แต่โจวเหล่าซื่อกลับว่าใส่เฉินฝานเขาทนไม่ไหว!ถ้าไม่มีเฉินฝาน เขาจะมีเงินที่ใดไปซื้อมันหมูเล่า!“เฉียนลิ่ว เจ้า...”“ผัวะ!”อีกหนึ่งหมัดชกหน้าโจวเหล่าซื่ออย่างหนัก ครานี้คนที่ลงมือเป็นจูจื้ออัน“ผัวะ ๆ ๆ !”จูจื้ออันผู้เลือดร้อน ไม่ใช่แค่ชกหมัดเท่านั้น“โจวเหล่าซื่อด่าทอพี่ฝานจริง ๆ ข้าเห็นว่าเขาสมควรโดนต่อยแล้ว เหล่าสหายลุยเลย!”จูจื้ออันตะโกน ชาวบ้านที่ช่วยเฉินฝานจับปลาก็รุดไปข้างหน้าโจวเหล่าซื่อถูกทุบตีจนจมูกช้ำใบหน้าบวม หลังจากตะโกนขอให้ไว้ชีวิตซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทุกคนก็ปล่อยเขาไปอย่างไม่เต็มใจ“พลั่ก!”เฉียนลิ่วตบถุงผ้าใบเล็กลงบนแผงขายเนื้อของโจวเหล่าซื่อ “เจ้าคนที่ใช้ตาสุนัขดูแคลนผู้อื่น! เจ้าลองนับดูเอาเองว่ามีเงินอยู่เท่าใด จะซื้อมันหมูครึ่งจินของเจ้าไหวหรือไม่”“พลั่ก!”จูจื้ออันยังโยนถุงเงินของตนไปตรงหน้าโจวเหล่าซื่ออีกด้วย“เจ้าก็นับดูว่าข้าสามารถจ่ายเงินซื้อหมูสามชั้นครึ่งจินของเจ้าได้หรือไม่”พูดจบ จูจื้อ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 98

    ภายใต้แรงกดดันอันแรงกล้าจากทุกคน จูต้าอันทำได้เพียงก้มหน้าลงและขอโทษเฉินฝาน จากนั้น...“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!”“เลียนแบบได้เหมือนมาก”“ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าเดาว่าในชาติที่แล้ว จูต้าอันอาจจะเป็นสุนัขจริง ๆ ”ครั้นเฉินฝานหอบซี่โครงกลับไป ก็ได้ยินเสียงเห่าของ “สุนัข” และเสียงหัวเราะของเหล่าผู้คนที่อยู่ด้านหลังท่ามกลางฝูงชนที่หัวเราะคิกคัก ดวงตามาดร้ายของจูต้าอันไล่ตามหลังเฉินฝานเฉินฝาน ฝากไว้ก่อนเถอะ-ฉินเย่ว์โหรวปรุงซี่โครงหมูไม่เป็น อาหารเย็นของวันนี้ เฉินฝานจึงลงมือทำด้วยตัวเองกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลลอยโชยมาจากห้องครัวไม่ขาดตอนฉินเย่ว์โหรวสูดดมกลิ่นหอมและมองร่างที่ยุ่งวุ่นวายของเฉินฝานข้างเตา ความสุขที่รู้สึกได้ก็ผุดขึ้นมาจากใจ“พี่ฝาน!”วันนี้เฉินฝานชวนครอบครัวของเฉินผิงมาทานอาหารเย็นด้วยกัน ทันทีที่พวกเขามาถึงบ้านของเฉินฝาน ลูกคนรองก็รีบพุ่งตัวเข้าไปในครัวเพื่อสูดดมกลิ่น นางถามเฉินฝานว่าเขาทำอาหารอร่อยอะไรอยู่นางเจิ้งส่ายหัว “เจ้าเด็กคนนี้ไร้ธรรมเนียมประเพณีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว”“ท่านป้า” ฉินเย่ว์โหรวยิ้มเบา ๆ “เจ้ารองยังเด็กอยู่ เป็นเรื่องปกติน่ะเจ้าค่ะ”อย่างไรก็เคยอยู่ในชั้นเร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 99

    ยามที่เฉินฝานไม่ได้มาส่งอาหารให้ในวันแรก เขาคิดว่าจะส่งมาให้ในวันที่สองผลคือในวันที่สาม ที่สี่ ที่ห้า...ล้วนไม่เห็นเขามาส่งอาหารเลยก่อนหน้านี้ที่บ้านของเฉินเจียง เขาเคยบอกว่าเฉินฝานไร้ค่า ยามนี้ต่อให้หิวโหยเพียงใดก็ไม่มีหน้าจะไปหา“ข้าบ่น แล้วสั่งสอนหลานออกมาเช่นนี้ มันเป็นความผิดของข้าหรือ?”นางโจวยิ่งฮึดฮัดมากขึ้น“จะไม่ใช่ความผิดของเจ้าได้อย่างไรกัน ข้าไม่ได้ให้เจ้าไปใจจืดใจดำกับเขาปานนั้นเสียหน่อย”“ใจจืดใจดำ? ข้า?”และแล้วนางโจวกับเฉินฟู่ก็ทะเลาะกันไม่จบไม่สิ้น-กินข้าวเสร็จครอบครัวของเฉินผิงกลับไปแล้ว ฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวอยู่ในครัว พูดคุยกระซิบกระซาบกันอยู่นานไม่ออกมากันเสียทีผู้หญิงมีเรื่องให้พูดคุยกันเยอะซึ่งเฉินฝานก็ไม่สนใจ เขาพูดกับสองพี่น้องในครัวแล้วออกไปเฉียนลิ่วบอกว่าเขาได้ค้นพบหนองน้ำแห่งใหม่แล้ว และเรียกเฉินฝานไปดูว่าคุณภาพปลาในหนองน้ำนั้นดีหรือไม่ครั้นกลับมาบ้านก็เงียบสงบเสียแล้ว สองพี่น้องต่างไม่อยู่ที่บ้านเฉินฝานเดาว่าพวกนางไปบ้านของเฉินผิง เขาจึงนั่งบนเตียง ขณะที่รอก็อ่านหนังสือไปด้วยด้านนอกเย็นจนหนาวเหน็บ เปลือกตาของเฉินฝานปิดแน่นแล้วพ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 100

    “นายท่าน...”เสียงออดอ้อนปนเกียจคร้านเอ่อล้นออกมาจากริมฝีปากชมพูของฉินเย่ว์โหรว ทันใดนั้นมือหยกอันละเอียดอ่อนโอบรอบคอของเฉินฝานแทบไม่มีระยะห่างระหว่างคนทั้งคู่เฉินฝานสามารถรับรู้ถึงสัมผัสที่นุ่มนิ่มได้อย่างชัดเจนลูกกระเดือกขยับอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ดวงตาของเขามืดลงเขาหยุดมือที่เคลื่อนไหวสะเปะสะปะของฉินเย่ว์โหรว และอุ้มนางไปที่เตียง “อย่าขยับ ข้าจะอุ้มเจ้าขึ้นไป!”ขณะที่วางฉินเย่ว์โหรวลงบนเตียง มือของนางก็เกี่ยวรอบคอของเฉินฝานอีกครั้งด้วยการยื้อยุดนี้ ผ้าปิดหน้าอกมากกว่าครึ่งหนึ่งจึงเลิกขึ้นเฉินฝานรู้สึกถึงเลือดร้อนพุ่งขึ้นไปบนหัว เขาเชยคางของฉินเย่ว์โหรวขึ้นพลางพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เย่ว์โหรว เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ากำลังทำอะไรอยู่”ใบหน้าของฉินเย่ว์โหรวแดงก่ำ รอยยิ้มเขินอายในแววตาหยาดเยิ้มพร่ามัว “ข้ารู้ พี่สามบอกเอง ให้ข้าช่วยผลิดอกออกผลให้นายท่านเถอะ”“...” จริง ๆ แล้ววันนี้สองสาวกระซิบกระซาบและยังออกไปดื่มด้วยกัน ที่แท้ก็เพื่อสิ่งนี้เฉินฝานวางฉินเย่ว์โหรวลง จากนั้นก็เอนตัวนอนอยู่ข้างกายนาง ใช้มือประคองคางมน และมองฉินเย่ว์โหรวด้วยรอยยิ้ม “เพื่อผลิดอกออกผล?”ฉินเย่ว์

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 101

    คนพวกนั้นบอกให้เขารับอนุภรรยาก็ช่างเถอะ แต่ภรรยาทั้งสองคนของเขา ก็อยากให้เขามีอนุภรรยาเพิ่มด้วย“พวกเจ้าไม่หึงหวงหรือ?” เฉินฝานแกล้งทำเป็นถลึงตามองหญิงสาวสองคนด้านหลังที่ร่วมวงกับชาวบ้าน“หึงหวง?” ฉินเย่ว์เจียวกับฉินเย่ว์โหรวมองหน้ากัน แล้วยกมือขึ้นป้องหน้าพร้อมกับหัวเราะ “นายท่านถ้าไม่ใช่ความจำเสื่อม ก็แกล้งให้พวกเราดีใจ เรื่องเช่นนี้หญิงสาวคนใดจะหึงหวงกันเจ้าคะ ทุกคนล้วนอยากให้สามีของตนรับอนุภรรยาเพิ่ม”“...” เฉินฝานฉงนงุนงง หรือเขาลืมวัฒนธรรมสำคัญอะไรอีกแล้วหรือ?ในตอนหลัง เมื่อทำความเข้าใจแล้ว เฉินฝานเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดสองพี่น้องตระกูลฉินจึงอยากให้เขามีภรรยาหลายคนบุรุษต้าชิ่ง ยิ่งมีภรรยามากเท่าใด ก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเก่งมากเท่านั้น โดยเฉพาะในช่วงปีที่เศรษฐกิจไม่ดีด้วยเหตุนี้ ในต้าชิ่ง บุรุษคนหนึ่งมีภรรยากี่คน จึงกลายเป็นเครื่องวัดว่าชายคนนั้นมีความสามารถหรือไม่ยกตัวอย่างเช่นเวลานี้เฉินฝานมีภรรยาห้าหกคน หรือมากกว่านี้ ยามพวกฉินเย่ว์เจียวและฉินเย่ว์โหรวออกไปข้างนอก คนอื่นรู้ว่าพวกนางมีพี่น้องมากมายเช่นนั้น ต่างก็พากันอิจฉาแท้จริงแล้วราชสำนักคอยชี้นำเรื่องนี้อย่างลับๆ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status