แชร์

บทที่ 822

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เยี่ยม!”

เสียงโหร้อง เรียกความสนใจของชายเสื้อเหลืองได้เป็นอย่างดี เขามองไปตามเสียง เห็นสองใบหน้าที่คุ้นเคยในทันที

คนที่โหร้อง คือสามีภรรยาคู่นั้น

ชายชราปรบมือร้องเยี่ยม หญิงชราก็เช่นเดียวกัน

“เยี่ยม!”

“เยี่ยมๆ!”

เสียงปรบมือ ดังก้องนอกเรือนเซียนผาสุก เมื่อสองสามีภรรยาเริ่มต้น ชาวบ้านๆ รอบก็ปรบมือร้องเยี่ยมเช่นเดียวกัน

ทุกครั้งที่แม่นางเมี่ยวอวี่ออกมาแสดง ขุนนางเหล่านี้ก็เริ่มใช้เงินไม่คิด

เฉินฝานเพิ่งถูกชายเสื้อเหลืองพามายังถนนเส้นรอง ไม่ทันสังเกตเห็นว่าบนถนนเส้นหลักมีด่านกั้น ทุกด่านมีคนคอยเรียกเก็บเงิน ยิ่งจ่ายเงินมากเท่าใด ประเดี๋ยวตอนแซงแถวจะยิ่งได้อยู่ด้านหน้า

กล่าวได้ว่า อยากเข้าเรือนเซียนผาสุก สุดท้ายเงินที่ต้องจ่าย คือสามเท่าของค่าเสพสุขสำหรับเข้างาน

เสื้อผ้าของเฉินฝานสกปรก เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไป

ความเป็นจริง แม้เสื้อผ้าของเขาไม่สกปรก หากไม่ได้จ่ายค่าเสพสุขเพิ่มหลายเท่าตัว เขาไม่อาจเข้าแถวได้

“ข้าชื่นชอบท่วงทำนองเช่นเดียวกัน เมืองเซียนตูไม่ไกลจากบ้านของข้านัก ใต้เท้า นับจากนี้ข้าจะมาบ่อยๆ หวังว่าทุกคราที่มาท่านจะอยู่”

เฉินฝานยิ้มอ่อนๆ ขณะพูดกับซื่อต้าเผิง

เฉินฝา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 823

    “นับจากนี้...” นัยน์ตาลุ่มลึกของเฉินฝาน ฉายความหนักแน่น “จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”ตามหลักมาก่อนได้ก่อนมาหลังได้ที่หลัง ชาวบ้านมากมายเริ่มทยอยกันเข้ามาเฉินฝานมองครู่หนึ่ง โถงดนตรีนี้สามารถบรรจุคนได้มากถึงสองพันกว่าคนในยุคสมัยที่ไม่มีการก่อสร้างด้วยคอนกรีต ใช้ไม้ในการสร้างโถงดนตรีขนาดใหญ่เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องยากนักหากเศรษฐกิจของต้าชิ่งไม่ได้ย่ำแย่เหมือนตอนนี้ แคว้นไม่ได้อ่อนแอเช่นนี้ เฉินฝานย่อมไม่คัดค้านการสร้างโถงดนตรีเช่นนี้หลังจากนั่งลง ฉินเย่ว์เจียวมองไปรอบๆ ไม่หยุดสตรีทุกคนในงาน นางล้วนมองอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะนักพิณที่กำลังบรรเลงอยู่บนเวทีมารดาของพวกนาง เชี่ยวชาญในการบรรเลงพิณผีพา พี่รองสืบทอดพรสวรรค์ข้อนี้ของท่านแม่ บรรเลงพิณผีพาได้ดีเช่นเดียวกันเพียงแต่ เมื่อก่อนชีวิตของพวกนางลำบากยิ่งนัก ก่อนออกเรือน ต้องทำงานหนักที่ทุ่งนาทุกวัน ไม่มีโอกาสได้สัมผัสพิณหลังออกเรือน ยิ่งไม่มีโอกาสได้สัมผัสพิณ เวลานั้นนายท่านยังไม่เปลี่ยนเป็นคนดี เห็นพี่รองกอดพิณ เขาโยนทิ้งทันทีตอนหลังพี่รองถูกไล่ออกไปทำงานหาเงิน ไม่มีอะไรติดตัวแม้แต่น้อย มีเพียงพิณที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 824

    “ใต้เท้าของพวกเราสบายดี เป็นลมแดดเมื่อใด?”“เป็นลมแดดท่ามกลางอากาศหนาวเย็นช่างตลกยิ่งนัก เจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดจึงมาเมืองเซียนตูแล้วรังแกพวกเราเช่นนี้”พวกคนในเรือนเซียนผาสุก แตกต่างกับบรรดาคนด้านนอกเมื่อครู่พวกเขาล้วนจ่ายเงินราคาแพง เพื่อแซงคิวเข้ามา ล้วนเป็นพวกชนชั้นสูงที่มีฐานะร่ำรวย ไม่อาจเพราะคืนเงิน แล้วรู้สึกขอบคุณเฉินฝานตอนนี้พวกเขาหงุดหงิดที่เฉินฝานทำให้พวกเขาไม่ได้ฟังเมี่ยวอวี่บรรเลงพิณผีพา“ดูแล้วอายุไม่มาก เมืองเซียนตูของเราอยู่ใกล้เมืองหลวง คาดว่าน่าจะเป็นคุณชายชนชั้นสูงตระกูลใดตระกูลหนึ่งในเมืองหลวงกระมัง”“คุณชายจากตระกูลชนชั้นสูงแล้วอย่างไร? วิ่งแจ้นมาถึงเมืองเซียนตูของเราเพื่อรังแกกันเนี่ยนะ?”“ตระกูลของข้าเป็นเจ้าของสำนักบัณฑิต แต่ไปด้วยบัณฑิต ข้าให้พวกเขาไปเมืองหลวง ตีกลองร้องทุกข์”“คุณชายท่านนี้ ท่านไม่ต้องให้บัณฑิตของท่านไปหรอก พวกข้าเอง พวกข้าไปเมืองหลวงเอง”ฟังหญิงงามแต่งกลอนกวีบรรเลงดนตรี คือความชอบของบัณฑิตเวลานี้คนที่โมโหที่สุดในเรือนเซียนผาสุกก็คือพวกบัณฑิตซื่อต้าเผิงมองอยู่ข้างๆ ยิ่งรู้สึกสบายใจเพียงบัณฑิตออกโรง เขาก็ชนะแน่นอนแล้วแคว้น

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 825

    ขณะพูดอยู่นั้น แม่เล้าหลี่ ให้คนเตรียมกระดาษกับหมึก วางไว้ตรงหน้าเฉินฝาน“ใต้เท้า หลังจากคุณชายท่านนี้เขียนเสร็จ แม่นางเมี่ยวอวี่หวังว่าท่านจะนำไปให้ที่กระท่อมหิมะด้วยตนเอง”กระท่อมหิมะของแม่นางเมี่ยวอวี่ อยู่ในเรือนเซียนผาสุกแสบยิ่งนัก แสบจริงๆเฉินฝานอดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชมในใจได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเมี่ยวอวี่ทำเช่นนี้ ทั้งช่วยซื่อต้าเผิงได้ แล้วยังช่วยเขาจากสถานการณ์ตึงเครียดได้ด้วยวิธีการของแม่นางคนนี้ เขาต้องคิดหาวิธีเจอหน้าสักครั้ง“เพลงดีควบคู่กับนักบรรเลงที่ดี ได้!” เฉินฝานนั่งลง จับพู่กัน“นายท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวรีบย่อตัวลงนั่ง “ให้ข้าช่วยท่านเขียนเองเจ้าค่ะ”ตอนเด็กๆ ท่านแม่เคยสอนนางดีดพิณผีพา นางไม่อยากเรียน จึงดีดไม่เป็น ทว่านางความจำดี มีเพลงพิณผีพาง่ายๆ หลายเพลง ที่กระทั่งตอนนี้นางยังจำได้ นางอยากใช้บทเพลงพวกนั้นรับมือกับพวกเขาแทนเฉินฝานขณะที่ฉินเย่ว์เจียวพยายามหวนนึกถึงเพลงพิณผีพาเหล่านั้นอยู่นั้น เฉินฝานเริ่มตวัดปลายพู่กันแล้ว“หึ”“ฮ่าๆ!”ในโถงดนตรี เริ่มมีคนอดขำไม่ได้ซื่อต้าเผิงที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ก็กลั้นขำไม่ได้เช่นเดียวกัน แม้กระทั่งแม่เล้าหลี่ที่ร

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 826

    “คุณชาย แม่นางเมี่ยวอวี่ของเราเชิญคุณชายไปที่กระท่อมหิมะ แม่นายอยากพูดคุยกับคุณชายเป็นการส่วนตัว แม่นางเมี่ยวอวี่บอกว่าเพลงพิณผีพาของคุณชายท่วงทำนองไพเราะยิ่งนัก มีหลายจุด ที่แม่นางอยากสอบถามคุณชายด้วยตนเอง”แม่เล้าหลี่นึกว่าเฉินฝานไม่เข้าใจในสิ่งที่สาวใช้พูด จึงอธิบายอีกรอบหนึ่งเมื่อแม่เล้าหลี่อธิบาย ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? แม่นางเมี่ยวอวี่บอกว่า อยากเจอเขาเป็นการส่วนตัว?”“ได้ยินแล้ว บอกว่าท่วงทำนองบทเพลงพิณผีพาไพเราะยิ่งนัก เมี่ยวอวี่อยากให้เขาสอน”“บทเพลงพิณผีพาที่เขียนราวกับยันต์กันผีนั้น ไพเราะด้วยหรือ?”“แม่นางเมี่ยวอวี่พูดแล้ว น่าจะไม่มีอะไรผิดเพี้ยน”ภายในโถงดนตรี แววตาเย้ยหยัน แปรเปลี่ยนเป็นอิจฉาทันทีแน่นอน ทั้งยังมีความริษยาและไม่สบอารมณ์มากมายดีดพิณผีพาไม่เป็น ลายมือก็น่าเกลียด ทั้งยังเป็นคนธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรโดดเด่น เหตุใดเขาจึงโชคดีเช่นนี้เฉินฝานหงุดหงิดเล็กน้อย “ท่านไม่ต้องธิบายแล้ว ข้าไม่ไป หากนางไม่เข้าใจตรงไหน ให้นางมาบรรเลงที่นี่ จังหวะใดผิดเพี้ยน ข้าจะบอกนาง”“ใช่ จริงด้วย!” เฉินฝานพูดอีก “ซื่อต้าเผิงนั่นด้วย ตอนท่านเข้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 827

    เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะหยุดเดิน เงี่ยหูฟังท่วงทำนองการดีดพิณนี้ ราวกับกล้วยไม้กลางหุบเขากว้างใหญ่ ดั่งหยดน้ำรินไหล เสมือนคลื่นน้ำใส ดังเข้าไปในหัวใจของผู้คนโดยไร้ซึ่งเสียง ฟังแล้ว ทำให้คนผ่อนคลายยิ่งนัก“นายท่าน พวกเรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวดึงตัวเฉินฝาน เฉินฝานจึงค่อยดึงสติกลับมาเดินหน้าสองสามก่อน เสียงพิณด้านหน้า ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ท่วงทำนองพิณค่อยๆ อบอุ่นการก้าวเดินของเฉินฝาน ช้าลงโดยไม่อาจควบคุมตนเองได้เสียงพิณผีพาแผ่วเบา ท่วงทำนองไพเราะ ผ่านหูเข้าไปในร่างกายค่อยๆ แผ่ซ่านไปยังแขนขาความรู้สึกอบอุ่นนี้ เคลื่อนตัวในสายเลือด ราวกับลมในฤดูวสันต์ ทำให้ผู้คนลืมความเหน็บหนาวเสียงพิณดังเป็นครั้งครา แผ่วเบาครั้งคราว ช้าเป็นครั้งครา เร็วเป็นครั้งคราว รีบร้อนเป็นครั้งครา เชื่องช้าเป็นครั้งคราวท่ามกลางเสียงพิณที่เปลี่ยนไปมานี้ ทำให้เฉินฝานรู้สึกว่าตนใช้ชีวิตก้าวผ่านสี่ฤดูประเดี๋ยวอบอุ่น ประเดี๋ยวร้อน ประเดี๋ยวสดชื่น ประเดี๋ยวหนาวเย็นหลังจากเสียงพิณให้ความรู้สึกของสี่ฤดูแล้วนั้น ก็เข้าสู่ดินแดนแห่งความรู้สึกราวกับบทเพลงเสมือนการบอกกล่าวช่วงเวลาที่งดงามที่ส

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 828

    จู่ๆ เสียงพิณก็หยุดลง“คุณชาย ท่านมาถึงแล้วหรือเจ้าคะ?”ราวกับเสียงน้ำรินไหลมาจากหุบเขา ไพเราะยิ่งนักเสียงของนางชวนฟังเหมือนท่วงทำนองพิณของนางมีสาวใช้สองคนเดินออกมา “คุณชาย ฮูหยิน เชิญเจ้าค่ะ!”เพิ่งก้าวเข้าไปในศาลา ความรู้สึกอุ่นๆ ก็แผ่ซ่านมาจากฝ่าเท้าของเฉินฝานที่แท้ศาลานี้มีพื้นอุ่นไม่แปลก ด้านนอกหิมะโปรยปราย ทว่านางยังคงนั่งบรรเลงพิณได้สบาย“จี้หยกเมื่อครู่ ท่านเอามาจากที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวที่เพิ่งเดินเข้าไปในศาลาก็ถามขึ้นในทันทีหญิงสาวไม่รีบร้อนที่จะตอบ ดวงตากลมโตราวเปล่งประกายดั่งดวงดาวที่อยู่นอกผ้าคลุมหน้า ชำเลืองมองมาที่เฉินฝานและฉินเย่ว์เจียว“อากาศแห้งยิ่งนัก คุณชายและฮูหยินคงจะกระหายแล้วกระมัง ดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ”ขณะหญิงสาวพูด สาวใช้สองคนยกเตาเข้ามา บนเตามีน้ำชา ถั่วลิสง ลำไยแห้งเป็นต้นเฉินฝานมองแล้วบ่นในใจ นี่เป็นการต้นน้ำชาในกาไม่ใช่หรือ หลายปีมานี้ในยุคปัจจุบันสตรีเมืองใหญ่ที่มีความสง่าผ่าเผยหลายคน มักจะถ่ายกิจกรรมนี้ลงโซเชี่ยลของตนเองคิดไม่ถึงว่ากิจกรรมที่สตรียุคปัจจุบันรู้สึกว่าเป็นเรื่องสง่างาม กลับเป็นสิ่งที่คนโบราณทิ้งไว้สาวใช้ต้มน้ำชาช้าๆ จาก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 829

    ทันใดนั้นเอง เฉินฝานก็มีความรู้สึกบางอย่างกับร่างนี้เขาเกลียด ชิงชัง“ฉึบ!”ฉินเย่ว์เจียวชักดาบสั้นที่เอวออกมาดาบสั้นเล่มนี้ฉินเย่ว์เหมยให้เฉินฝาน เฉินฝานให้ฉินเย่ว์เจียวอีกทีหนึ่ง“เย่ว์เจียว!”เฉินฝานคิดว่าฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดที่เมี่ยวอวี่ดีดพิณไม่หยุด จะฟันเมี่ยวอวี่ ทว่าคิดไม่ถึงเขาเพิ่งหมุนตัวหันหลัง ฉินเย่ว์เจียวก็ชูดาบจะแทงเขา“เย่ว์เจียว เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”ราวกับฉินเย่ว์เจียวไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น นางร้องตะโกนเสียงดัง “ข้าจะสังหารเจ้า เจ้าตบตีพี่สาวและน้องสาวของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า”“...!!!”เฉินฝานนึกถึงภาพเหตุการณ์เจ้าของร่างเดิมทำร้ายพี่น้องตระกูลฉินเมื่อครู่หรือว่า?ภาพเหตุการณ์นั้นก็ฉายในความคิดของฉินเย่ว์เจียวเช่นเดียวกันเสียงพิณ ต้องเป็นเพราะฤทธิ์ของเสียงพิณแน่นอนตอนเฉินฝานหันไปมองเมี่ยวอวี่ พบว่าดวงตางดงามครู่นั้น อบอวลไปด้วยไอสังหารนิ้วมือที่กำลังดีดพิณของเมี่ยวอวี่ เร็วขึ้นเรื่อยๆทางด้านฉินเย่ว์เจียวก็บ้าคลั่งไปพร้อมกับเสียงพิณที่เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของนางแดงก่ำ ชี้ไปทางเฉินฝานแล้วตะโกนเสียงดัง “ข้าจะสังหารเจ้า เจ้าสัตว์เดรัจฉาน ข้าจะฆ่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 830

    “เย่ว์เจียว อย่า!”“ดิ้ง”“ดิ้ง ดิ้ง ดิ้ง!”เสียงพิณผีพา วุ่นวายและเร่งรีบ ราวกับแมลงวันที่บินหึ่งๆ อยู่ข้างหูเฉินฝานรู้สึกคล้ายหน้าอกมีการกดทับที่ไม่อาจระบายออกไปได้ลำแสงสีเงินเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ เฉินฝานยกปืนในมือขึ้นอีกครั้ง เล็งไปที่ฉินเย่ว์เจียว“ปั้ง!”เสียงปืนดังก้องทะลุผ่านหิมะชั้นแล้วชั้นเล่าผู้ชมในโถงดนตรีที่ยังคงรอเมี่ยวอวี่อยู่นั้น ตกใจจนเด้งตัวทุกคนมองหน้ากัน ด้วยความฉงนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ณ กระท่อมหิมะ ในศาลาเสียงบรรเลงพิณหยุดลงกะทันหันปืนในมือของเฉินฝาน เล็งไปที่...เมี่ยวอวี่!วินาทีที่เหนี่ยวไกนั้น เฉินฝานเอนตัวไปทางเมี่ยวอวี่เวลานี้ เมี่ยวอวี่นั่งนิ่งด้วยความตกใจ มองพิณผีพาตรงหน้าที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจนับได้หากไม่ใช่เพราะนางอาจจะเป็นฉินเย่ว์ฉิน หรือนางรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินอยู่ที่ใด ตอนนี้สิ่งที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่พิณผีพาแล้ว แต่เป็นตัวนางเองฉินเย่ว์เจียวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สุดท้ายค่อยๆ ชูดาบในมือขึ้นฝักดาบ เต็มไปด้วยเลือด“กรี๊ด!”ฉินเย่ว์เจียวโยนดาบในมือทิ้ง วิ่งไปทางเฉินฝานด้วยความเร็วราวกับลม“นายท่าน นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวกอดคอ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status