แชร์

บทที่ 822

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-19 18:00:00
“เยี่ยม!”

เสียงโหร้อง เรียกความสนใจของชายเสื้อเหลืองได้เป็นอย่างดี เขามองไปตามเสียง เห็นสองใบหน้าที่คุ้นเคยในทันที

คนที่โหร้อง คือสามีภรรยาคู่นั้น

ชายชราปรบมือร้องเยี่ยม หญิงชราก็เช่นเดียวกัน

“เยี่ยม!”

“เยี่ยมๆ!”

เสียงปรบมือ ดังก้องนอกเรือนเซียนผาสุก เมื่อสองสามีภรรยาเริ่มต้น ชาวบ้านๆ รอบก็ปรบมือร้องเยี่ยมเช่นเดียวกัน

ทุกครั้งที่แม่นางเมี่ยวอวี่ออกมาแสดง ขุนนางเหล่านี้ก็เริ่มใช้เงินไม่คิด

เฉินฝานเพิ่งถูกชายเสื้อเหลืองพามายังถนนเส้นรอง ไม่ทันสังเกตเห็นว่าบนถนนเส้นหลักมีด่านกั้น ทุกด่านมีคนคอยเรียกเก็บเงิน ยิ่งจ่ายเงินมากเท่าใด ประเดี๋ยวตอนแซงแถวจะยิ่งได้อยู่ด้านหน้า

กล่าวได้ว่า อยากเข้าเรือนเซียนผาสุก สุดท้ายเงินที่ต้องจ่าย คือสามเท่าของค่าเสพสุขสำหรับเข้างาน

เสื้อผ้าของเฉินฝานสกปรก เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไป

ความเป็นจริง แม้เสื้อผ้าของเขาไม่สกปรก หากไม่ได้จ่ายค่าเสพสุขเพิ่มหลายเท่าตัว เขาไม่อาจเข้าแถวได้

“ข้าชื่นชอบท่วงทำนองเช่นเดียวกัน เมืองเซียนตูไม่ไกลจากบ้านของข้านัก ใต้เท้า นับจากนี้ข้าจะมาบ่อยๆ หวังว่าทุกคราที่มาท่านจะอยู่”

เฉินฝานยิ้มอ่อนๆ ขณะพูดกับซื่อต้าเผิง

เฉินฝา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 823

    “นับจากนี้...” นัยน์ตาลุ่มลึกของเฉินฝาน ฉายความหนักแน่น “จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก”ตามหลักมาก่อนได้ก่อนมาหลังได้ที่หลัง ชาวบ้านมากมายเริ่มทยอยกันเข้ามาเฉินฝานมองครู่หนึ่ง โถงดนตรีนี้สามารถบรรจุคนได้มากถึงสองพันกว่าคนในยุคสมัยที่ไม่มีการก่อสร้างด้วยคอนกรีต ใช้ไม้ในการสร้างโถงดนตรีขนาดใหญ่เช่นนี้ ถือเป็นเรื่องยากนักหากเศรษฐกิจของต้าชิ่งไม่ได้ย่ำแย่เหมือนตอนนี้ แคว้นไม่ได้อ่อนแอเช่นนี้ เฉินฝานย่อมไม่คัดค้านการสร้างโถงดนตรีเช่นนี้หลังจากนั่งลง ฉินเย่ว์เจียวมองไปรอบๆ ไม่หยุดสตรีทุกคนในงาน นางล้วนมองอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะนักพิณที่กำลังบรรเลงอยู่บนเวทีมารดาของพวกนาง เชี่ยวชาญในการบรรเลงพิณผีพา พี่รองสืบทอดพรสวรรค์ข้อนี้ของท่านแม่ บรรเลงพิณผีพาได้ดีเช่นเดียวกันเพียงแต่ เมื่อก่อนชีวิตของพวกนางลำบากยิ่งนัก ก่อนออกเรือน ต้องทำงานหนักที่ทุ่งนาทุกวัน ไม่มีโอกาสได้สัมผัสพิณหลังออกเรือน ยิ่งไม่มีโอกาสได้สัมผัสพิณ เวลานั้นนายท่านยังไม่เปลี่ยนเป็นคนดี เห็นพี่รองกอดพิณ เขาโยนทิ้งทันทีตอนหลังพี่รองถูกไล่ออกไปทำงานหาเงิน ไม่มีอะไรติดตัวแม้แต่น้อย มีเพียงพิณที่ท่านแม่ทิ้งไว้ให้ข

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 824

    “ใต้เท้าของพวกเราสบายดี เป็นลมแดดเมื่อใด?”“เป็นลมแดดท่ามกลางอากาศหนาวเย็นช่างตลกยิ่งนัก เจ้าเป็นใครกันแน่? เหตุใดจึงมาเมืองเซียนตูแล้วรังแกพวกเราเช่นนี้”พวกคนในเรือนเซียนผาสุก แตกต่างกับบรรดาคนด้านนอกเมื่อครู่พวกเขาล้วนจ่ายเงินราคาแพง เพื่อแซงคิวเข้ามา ล้วนเป็นพวกชนชั้นสูงที่มีฐานะร่ำรวย ไม่อาจเพราะคืนเงิน แล้วรู้สึกขอบคุณเฉินฝานตอนนี้พวกเขาหงุดหงิดที่เฉินฝานทำให้พวกเขาไม่ได้ฟังเมี่ยวอวี่บรรเลงพิณผีพา“ดูแล้วอายุไม่มาก เมืองเซียนตูของเราอยู่ใกล้เมืองหลวง คาดว่าน่าจะเป็นคุณชายชนชั้นสูงตระกูลใดตระกูลหนึ่งในเมืองหลวงกระมัง”“คุณชายจากตระกูลชนชั้นสูงแล้วอย่างไร? วิ่งแจ้นมาถึงเมืองเซียนตูของเราเพื่อรังแกกันเนี่ยนะ?”“ตระกูลของข้าเป็นเจ้าของสำนักบัณฑิต แต่ไปด้วยบัณฑิต ข้าให้พวกเขาไปเมืองหลวง ตีกลองร้องทุกข์”“คุณชายท่านนี้ ท่านไม่ต้องให้บัณฑิตของท่านไปหรอก พวกข้าเอง พวกข้าไปเมืองหลวงเอง”ฟังหญิงงามแต่งกลอนกวีบรรเลงดนตรี คือความชอบของบัณฑิตเวลานี้คนที่โมโหที่สุดในเรือนเซียนผาสุกก็คือพวกบัณฑิตซื่อต้าเผิงมองอยู่ข้างๆ ยิ่งรู้สึกสบายใจเพียงบัณฑิตออกโรง เขาก็ชนะแน่นอนแล้วแคว้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 825

    ขณะพูดอยู่นั้น แม่เล้าหลี่ ให้คนเตรียมกระดาษกับหมึก วางไว้ตรงหน้าเฉินฝาน“ใต้เท้า หลังจากคุณชายท่านนี้เขียนเสร็จ แม่นางเมี่ยวอวี่หวังว่าท่านจะนำไปให้ที่กระท่อมหิมะด้วยตนเอง”กระท่อมหิมะของแม่นางเมี่ยวอวี่ อยู่ในเรือนเซียนผาสุกแสบยิ่งนัก แสบจริงๆเฉินฝานอดไม่ได้ที่จะปรบมือชื่นชมในใจได้ทั้งขึ้นทั้งล่องเมี่ยวอวี่ทำเช่นนี้ ทั้งช่วยซื่อต้าเผิงได้ แล้วยังช่วยเขาจากสถานการณ์ตึงเครียดได้ด้วยวิธีการของแม่นางคนนี้ เขาต้องคิดหาวิธีเจอหน้าสักครั้ง“เพลงดีควบคู่กับนักบรรเลงที่ดี ได้!” เฉินฝานนั่งลง จับพู่กัน“นายท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวรีบย่อตัวลงนั่ง “ให้ข้าช่วยท่านเขียนเองเจ้าค่ะ”ตอนเด็กๆ ท่านแม่เคยสอนนางดีดพิณผีพา นางไม่อยากเรียน จึงดีดไม่เป็น ทว่านางความจำดี มีเพลงพิณผีพาง่ายๆ หลายเพลง ที่กระทั่งตอนนี้นางยังจำได้ นางอยากใช้บทเพลงพวกนั้นรับมือกับพวกเขาแทนเฉินฝานขณะที่ฉินเย่ว์เจียวพยายามหวนนึกถึงเพลงพิณผีพาเหล่านั้นอยู่นั้น เฉินฝานเริ่มตวัดปลายพู่กันแล้ว“หึ”“ฮ่าๆ!”ในโถงดนตรี เริ่มมีคนอดขำไม่ได้ซื่อต้าเผิงที่ยืนมองอยู่ข้างๆ ก็กลั้นขำไม่ได้เช่นเดียวกัน แม้กระทั่งแม่เล้าหลี่ที่ร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 826

    “คุณชาย แม่นางเมี่ยวอวี่ของเราเชิญคุณชายไปที่กระท่อมหิมะ แม่นายอยากพูดคุยกับคุณชายเป็นการส่วนตัว แม่นางเมี่ยวอวี่บอกว่าเพลงพิณผีพาของคุณชายท่วงทำนองไพเราะยิ่งนัก มีหลายจุด ที่แม่นางอยากสอบถามคุณชายด้วยตนเอง”แม่เล้าหลี่นึกว่าเฉินฝานไม่เข้าใจในสิ่งที่สาวใช้พูด จึงอธิบายอีกรอบหนึ่งเมื่อแม่เล้าหลี่อธิบาย ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที“พวกเจ้าได้ยินหรือไม่? แม่นางเมี่ยวอวี่บอกว่า อยากเจอเขาเป็นการส่วนตัว?”“ได้ยินแล้ว บอกว่าท่วงทำนองบทเพลงพิณผีพาไพเราะยิ่งนัก เมี่ยวอวี่อยากให้เขาสอน”“บทเพลงพิณผีพาที่เขียนราวกับยันต์กันผีนั้น ไพเราะด้วยหรือ?”“แม่นางเมี่ยวอวี่พูดแล้ว น่าจะไม่มีอะไรผิดเพี้ยน”ภายในโถงดนตรี แววตาเย้ยหยัน แปรเปลี่ยนเป็นอิจฉาทันทีแน่นอน ทั้งยังมีความริษยาและไม่สบอารมณ์มากมายดีดพิณผีพาไม่เป็น ลายมือก็น่าเกลียด ทั้งยังเป็นคนธรรมดาทั่วไปไม่มีอะไรโดดเด่น เหตุใดเขาจึงโชคดีเช่นนี้เฉินฝานหงุดหงิดเล็กน้อย “ท่านไม่ต้องธิบายแล้ว ข้าไม่ไป หากนางไม่เข้าใจตรงไหน ให้นางมาบรรเลงที่นี่ จังหวะใดผิดเพี้ยน ข้าจะบอกนาง”“ใช่ จริงด้วย!” เฉินฝานพูดอีก “ซื่อต้าเผิงนั่นด้วย ตอนท่านเข้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-20
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 827

    เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะหยุดเดิน เงี่ยหูฟังท่วงทำนองการดีดพิณนี้ ราวกับกล้วยไม้กลางหุบเขากว้างใหญ่ ดั่งหยดน้ำรินไหล เสมือนคลื่นน้ำใส ดังเข้าไปในหัวใจของผู้คนโดยไร้ซึ่งเสียง ฟังแล้ว ทำให้คนผ่อนคลายยิ่งนัก“นายท่าน พวกเรารีบไปกันเถอะเจ้าค่ะ!”ฉินเย่ว์เจียวดึงตัวเฉินฝาน เฉินฝานจึงค่อยดึงสติกลับมาเดินหน้าสองสามก่อน เสียงพิณด้านหน้า ให้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ท่วงทำนองพิณค่อยๆ อบอุ่นการก้าวเดินของเฉินฝาน ช้าลงโดยไม่อาจควบคุมตนเองได้เสียงพิณผีพาแผ่วเบา ท่วงทำนองไพเราะ ผ่านหูเข้าไปในร่างกายค่อยๆ แผ่ซ่านไปยังแขนขาความรู้สึกอบอุ่นนี้ เคลื่อนตัวในสายเลือด ราวกับลมในฤดูวสันต์ ทำให้ผู้คนลืมความเหน็บหนาวเสียงพิณดังเป็นครั้งครา แผ่วเบาครั้งคราว ช้าเป็นครั้งครา เร็วเป็นครั้งคราว รีบร้อนเป็นครั้งครา เชื่องช้าเป็นครั้งคราวท่ามกลางเสียงพิณที่เปลี่ยนไปมานี้ ทำให้เฉินฝานรู้สึกว่าตนใช้ชีวิตก้าวผ่านสี่ฤดูประเดี๋ยวอบอุ่น ประเดี๋ยวร้อน ประเดี๋ยวสดชื่น ประเดี๋ยวหนาวเย็นหลังจากเสียงพิณให้ความรู้สึกของสี่ฤดูแล้วนั้น ก็เข้าสู่ดินแดนแห่งความรู้สึกราวกับบทเพลงเสมือนการบอกกล่าวช่วงเวลาที่งดงามที่ส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 828

    จู่ๆ เสียงพิณก็หยุดลง“คุณชาย ท่านมาถึงแล้วหรือเจ้าคะ?”ราวกับเสียงน้ำรินไหลมาจากหุบเขา ไพเราะยิ่งนักเสียงของนางชวนฟังเหมือนท่วงทำนองพิณของนางมีสาวใช้สองคนเดินออกมา “คุณชาย ฮูหยิน เชิญเจ้าค่ะ!”เพิ่งก้าวเข้าไปในศาลา ความรู้สึกอุ่นๆ ก็แผ่ซ่านมาจากฝ่าเท้าของเฉินฝานที่แท้ศาลานี้มีพื้นอุ่นไม่แปลก ด้านนอกหิมะโปรยปราย ทว่านางยังคงนั่งบรรเลงพิณได้สบาย“จี้หยกเมื่อครู่ ท่านเอามาจากที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวที่เพิ่งเดินเข้าไปในศาลาก็ถามขึ้นในทันทีหญิงสาวไม่รีบร้อนที่จะตอบ ดวงตากลมโตราวเปล่งประกายดั่งดวงดาวที่อยู่นอกผ้าคลุมหน้า ชำเลืองมองมาที่เฉินฝานและฉินเย่ว์เจียว“อากาศแห้งยิ่งนัก คุณชายและฮูหยินคงจะกระหายแล้วกระมัง ดื่มน้ำชาก่อนเจ้าค่ะ”ขณะหญิงสาวพูด สาวใช้สองคนยกเตาเข้ามา บนเตามีน้ำชา ถั่วลิสง ลำไยแห้งเป็นต้นเฉินฝานมองแล้วบ่นในใจ นี่เป็นการต้นน้ำชาในกาไม่ใช่หรือ หลายปีมานี้ในยุคปัจจุบันสตรีเมืองใหญ่ที่มีความสง่าผ่าเผยหลายคน มักจะถ่ายกิจกรรมนี้ลงโซเชี่ยลของตนเองคิดไม่ถึงว่ากิจกรรมที่สตรียุคปัจจุบันรู้สึกว่าเป็นเรื่องสง่างาม กลับเป็นสิ่งที่คนโบราณทิ้งไว้สาวใช้ต้มน้ำชาช้าๆ จาก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 829

    ทันใดนั้นเอง เฉินฝานก็มีความรู้สึกบางอย่างกับร่างนี้เขาเกลียด ชิงชัง“ฉึบ!”ฉินเย่ว์เจียวชักดาบสั้นที่เอวออกมาดาบสั้นเล่มนี้ฉินเย่ว์เหมยให้เฉินฝาน เฉินฝานให้ฉินเย่ว์เจียวอีกทีหนึ่ง“เย่ว์เจียว!”เฉินฝานคิดว่าฉินเย่ว์เจียวหงุดหงิดที่เมี่ยวอวี่ดีดพิณไม่หยุด จะฟันเมี่ยวอวี่ ทว่าคิดไม่ถึงเขาเพิ่งหมุนตัวหันหลัง ฉินเย่ว์เจียวก็ชูดาบจะแทงเขา“เย่ว์เจียว เจ้าบ้าไปแล้วหรือ!”ราวกับฉินเย่ว์เจียวไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น นางร้องตะโกนเสียงดัง “ข้าจะสังหารเจ้า เจ้าตบตีพี่สาวและน้องสาวของข้า ข้าจะฆ่าเจ้า”“...!!!”เฉินฝานนึกถึงภาพเหตุการณ์เจ้าของร่างเดิมทำร้ายพี่น้องตระกูลฉินเมื่อครู่หรือว่า?ภาพเหตุการณ์นั้นก็ฉายในความคิดของฉินเย่ว์เจียวเช่นเดียวกันเสียงพิณ ต้องเป็นเพราะฤทธิ์ของเสียงพิณแน่นอนตอนเฉินฝานหันไปมองเมี่ยวอวี่ พบว่าดวงตางดงามครู่นั้น อบอวลไปด้วยไอสังหารนิ้วมือที่กำลังดีดพิณของเมี่ยวอวี่ เร็วขึ้นเรื่อยๆทางด้านฉินเย่ว์เจียวก็บ้าคลั่งไปพร้อมกับเสียงพิณที่เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาของนางแดงก่ำ ชี้ไปทางเฉินฝานแล้วตะโกนเสียงดัง “ข้าจะสังหารเจ้า เจ้าสัตว์เดรัจฉาน ข้าจะฆ่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21
  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 830

    “เย่ว์เจียว อย่า!”“ดิ้ง”“ดิ้ง ดิ้ง ดิ้ง!”เสียงพิณผีพา วุ่นวายและเร่งรีบ ราวกับแมลงวันที่บินหึ่งๆ อยู่ข้างหูเฉินฝานรู้สึกคล้ายหน้าอกมีการกดทับที่ไม่อาจระบายออกไปได้ลำแสงสีเงินเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ เฉินฝานยกปืนในมือขึ้นอีกครั้ง เล็งไปที่ฉินเย่ว์เจียว“ปั้ง!”เสียงปืนดังก้องทะลุผ่านหิมะชั้นแล้วชั้นเล่าผู้ชมในโถงดนตรีที่ยังคงรอเมี่ยวอวี่อยู่นั้น ตกใจจนเด้งตัวทุกคนมองหน้ากัน ด้วยความฉงนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?ณ กระท่อมหิมะ ในศาลาเสียงบรรเลงพิณหยุดลงกะทันหันปืนในมือของเฉินฝาน เล็งไปที่...เมี่ยวอวี่!วินาทีที่เหนี่ยวไกนั้น เฉินฝานเอนตัวไปทางเมี่ยวอวี่เวลานี้ เมี่ยวอวี่นั่งนิ่งด้วยความตกใจ มองพิณผีพาตรงหน้าที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่อาจนับได้หากไม่ใช่เพราะนางอาจจะเป็นฉินเย่ว์ฉิน หรือนางรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินอยู่ที่ใด ตอนนี้สิ่งที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ไม่ใช่พิณผีพาแล้ว แต่เป็นตัวนางเองฉินเย่ว์เจียวยืนนิ่งอยู่ที่เดิม สุดท้ายค่อยๆ ชูดาบในมือขึ้นฝักดาบ เต็มไปด้วยเลือด“กรี๊ด!”ฉินเย่ว์เจียวโยนดาบในมือทิ้ง วิ่งไปทางเฉินฝานด้วยความเร็วราวกับลม“นายท่าน นายท่าน!”ฉินเย่ว์เจียวกอดคอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-21

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 850

    “ผู้จัดสรร มิสามารถแบ่งให้คนนอกที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าเช่นนี้ได้เด็ดขาด!”“ถูกต้องแล้ว แบ่งให้คนที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้ามิได้!”คนรับใช้สองสามคนข้างกายเหลยหย่งอัน พูดเสริมทันที“เช่นนั้นนายน้อยเหลยคิดว่าผู้ใดเป็นผู้จัดสรรจึงจะเหมาะสม?”มีคนตะโกนถามท่ามกลางผู้เหลือรอดเหลยหย่งอันเลิกคิ้วขึ้นทันที ประโยคที่เขารอก็คือประโยคนี้ผู้นั้นเพิ่งจะกล่าวจบ เหลยหย่งอันก็ส่งสายตาไปที่คนรับใช้ข้างกายทันที“ร้านค้าตระกูลเหลยมากมายมหาศาล นายน้อยของพวกเราก็มีส่วนร่วมดูแล ไปตรวจสอบที่ร้านค้าทุกเดือน”ตรวจสอบแบบใดกัน ไปเกี้ยวพาราสีสตรีในร้านเสียมากกว่าเรื่องนี้ทุกคนในเมืองเซียนตูทราบดี เพียงแต่มิอยากให้เหลยหย่งอันมิพอใจ จึงมิมีผู้ใดกล้าพูดเปิดโปง“ดังนั้น...” คนใช้ผู้นั้นกล่าวต่อ “ผู้จัดสรรนี้ นายน้อยของข้าเป็นคนที่เหมาะสมที่สุด “ทุกคนลงเรือลำเดียวกันแล้ว พวกเจ้า...” เหลยหย่งอันยกมือขึ้นทำท่าทางแบกรับรับความผิดชอบไว้เพียงผู้เดียว “คนที่ร่วมทุกข์กับข้าทุกคน ขอเพียงแค่สามารถมีชีวิตรอดออกไปได้ ก็สามารถไปรับเงินหนึ่งร้อยตำลึงได้ที่ตระกูลเหลยของพวกเรา”เพื่อที่จะได้ตำแหน่งผู้จัดสรรนี้ เหลยห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 849

    “ต่อให้เสบียงอาหารทั้งหมดต้องถูกจัดสรรปันส่วนอย่างเท่าเทียม เช่นนั้นไฉนอำนาจในการจัดการจัดแบ่งต้องเป็นเจ้าคนเดียวงั้นหรือ? เจ้าเป็นใครกัน?”ชายหนุ่มที่สวมชุดผ้าไหมอย่างดี ศีรษะสวมหมวกสีทองประดับด้วยไข่มุกเดินเข้ามากล่าวถามเฉินฝานด้วยท่าทีโอหังบุคคลนี้คือลูกชายคนโตของตระกูลเหลยเก่าแก่อันดับหนึ่งของเมืองเซียนตู เหลยหย่งอันด้วยความที่ชาติตระกูลมีเงินและอำนาจ เหลยหย่งอันได้รับสมญานามให้เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในเมืองเซียนตู ปกติก็มักจะรังแกผู้ชายข่มเหงผู้หญิง กระทำชั่วทุกรูปแบบสำหรับวีรกรรมของเหลยหย่งอันแล้ว เจ้าเมืองซื่อต้าเผิงต้องยอมปล่อยผ่านไปเหลยหย่งอันรู้สึกว่ามิถูกชะตาเฉินฝานอยู่ก่อนแล้วเรือนเซียนผาสุกมีกฎว่านอกจากผู้ฟังโชคดี่ถูกเมี่ยวอวี่สุ่มเลือกมา บุคคลที่ให้เงินรางวัลจำนวนมากที่สุด เมี่ยวอวี่ก็จะบรรเลงพิณเป็นการส่วนตัวเช่นกันทว่า ทุกปีจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นต้นปีเหลยหย่งอันก็เริ่มให้เงินรางวัลจำนวนมหาศาล ในที่สุดเมื่อมาถึงเดือนท้ายปีก็ได้ลำดับที่หนึ่งมาครองเห็นว่าตนเองสามารถเข้าไปในกระท่อมหิมะพบกับเมี่ยวอวี่ ได้ฟังพิณที่นางบรรเลงให้ตนเองโดยเฉพาะ กลับคาดมิถึงว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 848

    เรือนเซียนผาสุกมีชื่อเสียงเงินทองมหาศาลดังคาด จำนวนเสบียงที่กักตุนไว้ตอนฤดูหนาว มากกว่าเสบียงครึ่งปีของครอบครัวสามัญชนเสียอีกตรงข้ามกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น เฉินฝานยิ่งฟัง คิ้วยิ่งขมวดหนักขึ้นเรื่อย ๆน้อยไป น้อยเกินไปแล้วคนสามร้อยกว่าคน ต่อให้กินอาหารวันละหนึ่งมื้อ เสบียงอาหารเหล่านี้ก็หมดเกลี้ยงเพียงในพริบตาเดียว“เสบียงอาหารของกระท่อมหิมะนำออกมาไว้ที่แห่งนี้ทั้งหมดแล้วใช่หรือไม่?” เฉินฝานหันหน้ากล่าวถามเมี่ยวอวี่“กระท่อมหิมะแห่งนี้ของข้ามิได้ใหญ่โตเสียหน่อย ตุนไว้จำนวนมากเพียงนั้น ยังมินับว่าเยอะอีกหรือ?” เมี่ยวอวี่ย้อนถามเฉินฝาน“ก็จริง” เฉินฝานหัวเราะสมเพชตนเองในส่วนลึกของหัวใจ หวังว่าจะมีเยอะกว่านี้“ตอนนี้นับเสบียงเรียบร้อยแล้ว รีบแบ่งให้ทุกคนเถอะ”มีคนเร่งเร้าหิวจนทนมิไหวแล้วจริง ๆ“แบ่งมิได้!” เฉินฝานกล่าว“มิแบ่งงั้นหรือ?”สายตาสามร้อยกว่าคนจับจ้องไปที่เฉินฝานอย่างพร้อมเพียงมิเข้าใจ มิเชื่อเสบียงอาหารทั้งหมดถูกขนย้ายออกมานับจำนวนแล้ว ไม่เพียงแต่จำนวนเสบียงเท่านั้น จำนวนคนก็นับแล้วเช่นกันทำถึงเพียงนี้แล้ว เฉินฝานกลับกล่าวว่ามิแบ่งแล้ว“เจ้าหมายความว่าอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 847

    เขายืนกรานไม่ยอมนำเสบียงออกมามิใช่หรือ ไฉนตอนนี้ต้องการเอาออกมา และยังต้องนำออกมาทั้งหมดอีกด้วยเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่กันแน่?“ทำไมล่ะ? แม่นางเมี่ยวอวี่มิเห็นด้วยงั้นหรือ?” เฉินฝานกล่าวถาม“โอ้ ไม่ใช่หรอก!” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างรีบร้อน “แน่นอนว่าข้าต้องเห็นด้วยอยู่แล้ว เจ้ารีบพาคนไปนำเสบียงอาหารในคลังออกมาทั้งหมด”“ช้าก่อน!” เฉินฝานเรียกยายจ้าวไว้ “เพื่อให้มั่นใจว่าเสบียงอาหารทั้งหมดจะถูกขนย้ายออกมา เย่ว์เจียวเจ้าไปตามยายจ้าวไปด้วย พวกเจ้า... ”เฉินฝานหันไปกล่าวกับผู้เหลือรอดเหล่านั้น “ก็ส่งหนึ่งคนตามไปด้วย”ผ่านไปครู่เดียว เสบียงอาหารทั้งหมดในกระท่อมหิมะถูกขนมาไว้ด้านหน้าฝูงชนเฉินฝานมองดูเสบียงอาหารที่กองเป็นพะเนินด้านหน้า กล่าวอย่างเนิบนาบ “โอ้ จำนวนมิน้อยเลยนะเนี่ย”“อากาศเย็น คร้านออกไปจับจ่าย ดังนั้นจึงซื้อจำนวนมากในคราวเดียว” เมี่ยวอวี่กล่าวอย่างมิใส่ใจมากนักเสบียงอาหารเหล่านั้นมีจำนวนมากก็จริงทว่าเป็นเรื่องยากที่จะทำให้คนจำนวนมากเพียงนี้อยู่รอด!ท้ายที่สุด ก็ยังคงต้องตายอยู่ดีเหล่าผู้เหลือรอด มิได้มองการณ์ไกลเช่นนั้น พวกเขาที่หิวมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว มองเสบียงอาห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 846

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นแล้วคนอื่นก็พากันทำตาม คนกลุ่มใหญ่จำนวนมหาศาลคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานเฉินฝานมิได้กล่าวอันใด เมี่ยวอวี่ที่อยู่ด้านข้างชิงพูดก่อน“เหอะ!” เมี่ยวอวี่เยาะเย้ยออกมาทันที กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ช่างเป็นชายที่ใจดำอำมหิตเสียจริง คิดว่าตนเองมีผู้มากฝีมือที่เก่งกาจอยู่ข้างกาย ก็สามารถมิสนใจชีวิตของผู้คนรอบตัว แม้กระทั่งเด็กและคนชราก็ยังมิยอมช่วย”เมี่ยวอวี่จงใจกล่าวเช่นนี้จงใจที่พัดความโมโหของฝูงชนให้ลุกฮือดังคาด...“เขาใจดำอำมหิตเพียงนั้น แม้กระทั่งเด็กน้อยคนแก่ก็ยังมิยอมให้อาหารกินแม้แต่น้อย เช่นนั้นเรายังต้องกลัวสิ่งใดอีก?”เมื่อมีคนเริ่มก็มีคนตาม“ถูกต้อง อย่างไรเสียก็ถูกขังจนตายอยู่ที่นี้อยู่ดี ก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ทุกคนต้องได้กินให้อิ่มท้อง!”“พวกเรามิต้องมาอ้อนวอนอยู่ตรงนี้และ ไปสืบเสาะ ไปค้นหา กระท่อมหิมะอาจจะใหญ่ไปเสียหน่อย แต่พวกเรามีจำนวนคนเยอะจะหาที่ซ่อนของเสบียงอาหารมิได้เชียวหรือ?”กลุ่มคนจำนวนมหาศาลในกระท่อมแต่เดิม รีบออกไปอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำลงของมหาสมุทร“เจี้ยนฮวง!” เฉินฝานกล่าวเกรงว่าเซียนเจี้ยนหวงจะเข้าใจผิด เฉินฝานจึงพูดเสริมอีกห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 845

    เซียนเจี้ยนหวงมิลงมือทำร้ายสามัญชน ชายรอยบาดแผลคิดว่าชื่อเสียงของเซียนเจี้ยนหวงเป็นสิ่งจอมปลอม และเขาคิดว่าตนเองมีจำนวนมากมาย ต่อให้เซียนเจี้ยนหวงจะเก่งกาจเพียงใดก็มิสามารถลุยเดี่ยวกับคนหนึ่งร้อยคนได้และเฉินฝานก็ดูจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ดังนั้นชายรอยบาดแผลมิได้รู้สึกเกรงกลัวอันใด ท่าทียโสโอหังยิ่งเขาต้องการเสบียงอาหารในกระท่อมหิมะทั้งหมด และประสงค์ที่จะคุมชะตาคนหลายคนไว้ในกำมือ ในขณะเดียวกันก็สามารถช่วยเมี่ยวอวี่ให้หลุดพ้นได้ด้วยอำนาจ สาวงาม เสบียงอาหารเขาต้องการทั้งหมดเฉินฝานเงยหน้าขึ้น เหลือบมองชายรอยบาดแผลอย่างเรียบนิ่ง “ดูเจ้าพูดเข้าสิ เจ้าเก่งกาจมากสินะ”“เยี่ยนหลิ่งผู้ยิ่งใหญ่!” ชายรอยบาดแผลวางท่าทีใหญ่โต“ว้าว!” เฉินฝานยกนิ้วโป้ง “ชื่อนี้ช่างน่าเกรงขามเสียจริง!”สุดยอด!เซียนเจี้ยนหวงต้องเก็บอาการอยู่ด้านข้างนี่คงจะเป็นความสนุกเพียงอย่างเดียวตอนที่ถูกกักขังอยู่ที่แห่งนี้ดูคนโง่ ที่จริงแล้วก็เป็นเรื่องที่น่าสนุก“เพียงแต่...” เฉินฝานเปลี่ยนเรื่องทันที “มิทราบว่าชื่อที่น่าเกรงขามเช่นนี้ จะชำนาญในการต่อสู้หรือไม่?”ระหว่างที่พูด เฉินฝานหันไปด้านข้างเล็กน้อย “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 844

    “ตุ้บ ๆ ๆ ๆ!”เสียงทุบประตูหน้าต่างด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ เซียนเจี้ยนหวงฝึกวรยุทธ์จนชำนาญแล้ว สถานการณ์ฝั่งเขานั้นค่อนข้างไปในทิศทางที่ดีฝั่งฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูนี้ค่อนข้างลำบาก“เย่ว์หนู เจ้ากันไว้ก่อน ข้าจะไปย้ายเตียงมากันไว้!”“มิจำเป็นหรอก!” เฉินฝานโบกมือเล็กน้อย เขาให้ฉินเย่ว์เจียวและเย่ว์หนูเปิดประตูออก“เปิดประตูงั้นหรือ?” ฉินเย่ว์เจียวส่ายหน้าทันที “ไม่ได้เจ้าค่ะ นายท่าน”คนด้านนอกทุกคนล้วนโกรธเฉินฝานจนกัดฟันกรอด ตะโกนอย่างดุเดือดเพื่อให้ต้องการพวกเขาผ่านเข้าไป เฉินฝานเสี่ยงอันตรายเกินไปแล้ว“พวกเจ้าสามารถกันไว้ได้หนึ่งชั่วยาม จะสามารถกันได้ถึงสองชั่วยามงั้นหรือ?”เมื่อคนตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงตาย มิว่าสิ่งใดก็สามารถทำได้ความเลวทรามของมนุษย์ เป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวที่สุดในโลกใบนี้“นายท่าน ขอเพียงข้ายังอยู่ ข้าก็จะยังคงกันต่อไปเรื่อย ๆ จะมิยอมให้คนด้านนอกเหล่านั้นทำร้ายท่านแม้แต่ปลายเล็บ”ฉินเย่ว์เจียวกำหมัดไว้แน่นขนัดเฉินฝานมองท่าทีที่เศร้าสลดทว่าเข้มแข็งของฉินเย่ว์เจียว รู้สึกซาบซึ้งและหงุดหงิด“นายท่าน บ่าวก็เช่นกันเจ้าค่ะ”เย่ว์หนูเพิ่มแรงในการกันประต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 843

    ฉินเย่ว์เจียวง้างมือขึ้นทันที เดิมทีต้องการจะตบหน้าเมี่ยวอวี่เป็นครั้งที่สองพลันยั้งมือกะทันหันกลั้นหายใจ รอฟังคำตอบของเมี่ยวอวี่ด้วยความกังวลเฉินฝานก็อดมิได้ที่จะเงี่ยหูฟังจะรู้ร่องรอยของเย่ว์ฉินแล้ว รู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย“หยกห้อยเอวชิ้นนี้...”“ตุ้บ!”อยู่ ๆ ก็มีก้อนหิมะลอยก้อนหนึ่งลอยทะลุหน้าต่างเข้ามา“โอ๊ย!”เมี่ยวอวี่อยู่ใกล้หน้าต่างอย่างมาก ก้อนหิมะขว้างโดนหัวหน้า ทำให้นางตกใจจึงร้องออกมาทันที“ตุ้บ”ครั้งนี้สิ่งที่ขว้างมาคือก้อนหิน“ระวัง!”เมี่ยวอวี่รู้สึกเพียงว่าร่างกายทรงตัวมิอยู่ ตัวไปชนกับอ้อมอกที่ล่ำสันหัวสมองว่างเปล่าราวกับถูกจี้จุด เมี่ยวอวี่มองเฉินฝานด้วยความมึนงงดวงตากลมโตที่เปล่งประกายแวววับดังดวงดารา สภาพอารมณ์แปรเปลี่ยนอย่างรวดเร็วหาคำตอบมิได้ มิเชื่อ มิเข้าใจ“เจ้า...” เมี่ยวอวี่กลอกตาไปมา “ไยเจ้าจึงช่วยข้า?”หากมิใช่เฉินฝานดึงนางหลบได้ทัน ตอนนี้นางก็คงหัวแตกเลือดไหลนองไปนานแล้วเฉินฝานผลักเมี่ยวอวี่ในอ้อมอกออก เขาที่พลังภายในยังฟื้นฟูมิสมบูรณ์เอนตัวล้มพิงเรือนร่างของฉินเย่ว์เจียว น้ำเสียงเยือกเย็น “อย่าคิดเข้าตัวเอง ข้าทำไปตามสัญชาตญาณเท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 842

    ถึงแม้ในทุกวันนางมักจะรับคำเยินยอจากบุรุษเพศอยู่แล้ว ทว่าท่าทางที่รักใคร่หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งราวภาพวาดนี้ นางมิเคยพบเห็นมาก่อนเมี่ยวอวี่ที่สงสัยว่าตัวเองมองผิดไป จึงตั้งใจหันกลับไปดูอีกครั้งภาพที่เฉินฝานช่วยปัดไรผมบนหน้าผากของฉินเย่ว์เจียวออก และฉินเย่ว์เจียวยิ้มตอบกลับให้เฉินฝานอย่างหวานหยาดเยิ้ม เมี่ยวอวี่เหลือบไปเห็นพอดีไม่จริงหรอก!เมี่ยวอวี่รีบหันหน้ากลับไปด้วยความรวดเร็ว ตีหน้าอกตนเองเบา ๆสองสามทีคาดมิถึงว่าจะเป็นเรื่องจริงใต้หล้านี้มีสามีภรรยาที่รักใคร่กันเช่นนี้จริงหรือ ? เป็นเรื่องจริงหรือว่าผู้ชายจะอ่อนโยนกับภรรยาตนเองได้เพียงนั้น?เฉินฝานเป็นชายที่เลวทรามต่ำช้ามิใช่หรือ?เย่ว์หนูชะเง้อมองมาจากทางเข้าเห็นว่าเฉินฝานตื่นแล้ว รีบวิ่งกลับไปที่ในห้อง ยกโจ๊กครึ่งชามที่วางไว้ในห้องไปอุ่นที่ห้องครัว หลังจากที่อุ่นจนร้อนแล้วก็วิ่งกลับมา“โจ๊กมาแล้วเจ้าค่ะ”“เอามาให้ข้า!” ฉินเย่ว์เจียวรับโจ๊กในมือเย่ว์หนูมาทันที“ลำบากเจ้าแล้ว” เฉินฝานหันไปพยักหน้ากับเย่ว์หนู“บ่าวมิลำบากเลยเจ้าค่ะ ขอเพียงนายท่านหายดีก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์หนูหน้าแดง ส่ายหน้าอย่างแรงกล่าวว่าตนเองมิลำ

DMCA.com Protection Status