Share

บทที่ 569

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
นี่ยังใช่ฮ่องเต้ผู้เชื่อฟังที่อยู่ในความทรงจำของพวกเขาหรือไม่?

เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาอันนับไม่ถ้วนที่พลันเพ่งมาที่เขา เสิ่นหมิงหยวนรู้สึกสุดที่จะทนอย่างยิ่ง

ในราชสำนักแห่งนี้ เขาเป็นบุคคลที่มีสัจจะทางวาจาคนหนึ่ง

เวลานี้ฉินเย่ว์เหมยตำหนิเขาอย่างโจ่งแจ้งและยังดุด่าด้วยคำพูดที่รุนแรง

เสิ่นหมิงหยวนหรี่ตาเล็กน้อยพร้อมกับสบตาฉินเย่ว์เหมย

โหดร้าย น่ากลัว

ลูกพันธุ์ผสม

จองหองนักใช่ไหม ทำให้ข้าอับอายใช่ไหม

ในอีกไม่กี่เดือน ข้าจะทำให้เจ้าตายอย่างอนาถ

“ฉลององค์ของฝ่าบาท ทรงมีสิ่งใด ฝ่าบาทย่อมรู้ดีกว่ากระหม่อมมิใช่หรือพ่ะย่ะค่ะ?”

ขณะที่พูด เสิ่นหมิงหยวนจงใจเหยียบเสื้อคลุมมังกร

เขาใช้เท้าเหยียบมังกรทองกลางท้องพระโรงราชสำนัก

แค่ลูกพันธุ์ผสม มังกรทอง? คางคกมากกว่ากระมัง

“ดูเหมือนว่า ฝ่าบาทยังไม่สร่างเมา!” เสิ่นหมิงหยวนพูดพร้อมกับหันไปราวกับไม่ได้ตั้งใจและสั่งเสิ่นหยวนฮวา “หยวนฮวา หยิบฉลององค์มังกรที่พื้นคืนให้กับฝ่าบาท ให้ฝ่าบาทเก็บรักษาให้ดีและอย่าโยนฉลององค์มังกรออกไปอีก ไม่อย่างนั้น มันจะหายไปจริง ๆ”

หายไป

เสิ่นหมิงหยวนกล่าวสองคำนี้อย่างหนักแน่น

ภัยคุกคามเต็มล้น

เสิ่นหยวนฮวาหยิบเสื
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Wijan Kaewvichien
เป็นวิธีหาเงิน เพิ่ท
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 570

    หลี่เต๋อฉวนก้าวไปข้างหน้าและตอบทันที “ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่พ่ะย่ะค่ะ!”“ข้าถามเจ้า ข้าดื่มจนเมาแล้วหลับนอนกับเสียนเฟยที่อุทยานหลวงใช่หรือไม่?”“พ่ะย่ะค่ะ ตอนนั้นกระหม่อมยังคิดว่าเป็นนางกำนัลคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง?”เมื่อคืน หลี่เต๋อฉวนพาขันที หมัวมัวและนางกำนัลทั้งวังหลังมายืนดู เขาไม่สามารถพูดเท็จได้แต่เขายังทิ้งคำสงสัยเอาไว้ตอนท้าย ด้วยการพูดว่าเหออวี่ถงจงใจล่อลวง เพื่อจะยกความผิดฐานยั่วยวนเจ้านายให้กับนาง“นางกำนัลอะไร นี่เจ้ากำลังสงสัยความงามของข้ารึ?” ฉินเย่ว์เหมยลุกขึ้นชักดาบขององครักษ์ที่อยู่ด้านข้างแล้วชี้หน้าหลี่เต๋อฉวน“ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะ! เสียนเฟยเหนียงเหนียงงดงามตามธรรมชาติ แม้จะใส่ชุดผ้าหยาบก็ไม่สามารถปกปิดความงามของเสียนเฟยเหนียงเหนียงได้พ่ะย่ะค่ะ”หลี่เต๋อฉวนเช็ดเหงื่อที่ซึมบนหน้าผากฮ่องเต้น้อยผู้นี้ ปกติเชื่อฟังทุกอย่าง วันนี้กลับแข็งทื่อขึ้นมากะทันหันหากฉินเย่ว์เหมยฆ่าเขาตอนนี้ ต่อให้เสิ่นหมิงหยวนจะโกรธเพียงใดหรือมีความแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถช่วยเขาไล่ฉินเย่ว์เหมยลงจากบัลลังก์ได้เพราะว่าเขาเป็นแค่คนถูกตอนคนหนึ่งฉินเย่ว์เหมยกวาดตามองแล้วหยุดที่เสิ่นหมิงห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 571

    “ฉินหย่งคังคิดว่าคืนตำแหน่งเฟยให้เหออวี่ถง ดึงตระกูลเหอเข้ามาเป็นพวก ก็สามารถต่อการกับพวกเราได้งั้นหรือ? ช่างไร้เดียงสาเสียจริง!”ระหว่างที่เดินทางกลับ เสิ่นหยวนฮวาเห็นสีหน้าของเสิ่นหมิงหยวนดูแย่ จึงพูดจาถากถางฉินเย่ว์เหมย ทำไปเพื่อเอาอกเอาใจพ่อตนเองเสิ่นหมิงหยวนที่หลับตาค่อยๆลืมตาขึ้น “เรื่องนี้จะประมาทไม่ได้ พ่อลูกตระกูลเหอไม่ใช่คนธรรมดา”เสิ่นหยวนเลี่ยงพยักหน้า “ท่านพ่อพูดถูก ฉินหย่งคังเกลียดท่านพ่อที่สุด ทว่าเขาต้องขอโทษต่อหน้าสาธารณชน ยอมรับความผิดของตัวเอง สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังจะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่”“ไอ้หยา!” เสิ่นหยวนฮวาส่ายหน้า “น้องรอง ท่านพ่อ ข้าว่าพวกเจ้าระแวงเกินไปแล้ว ต่อให้ฉินหย่งคังดึงตระกูลเหอเข้ามาเป็นพวกได้สำเร็จ แล้วมันอย่างไรต่อ”“ตระกูลเหอไร้ซึ้งอำนาจ และเหอกังและเหอจื่อหลินเป็นพวกชอบใช้กำลังแต่ไม่ใช้สมอง ฉินหย่งคังอยากจะอาศัยพวกเขาพลิกกลับมาชนะช่างน่าขันเสียจริง”“ที่พี่ใหญ่พูดก็มีเหตุผล....... ”เสิ่นหยวนเลี่ยงดำดิ่งสู่ห้วงความคิด “ไม่ว่าอย่างไรเหอกังและเหอจื่อหลินก็เป็นแค่สองแม่ทัพสมองกลวง ฝีมือจะเก่งกาจแค่เพียงใดก็ไม่มีประโยชน์”“ฝีมือ......แย่แล้ว!”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 572

    “นายท่าน!”กลุ่มเด็กสาวหน้าตาสละสลวย เดินเข้ามาหาเฉินฝานอย่างพร้อมเพรียง“สุ่ยเซียน เหมยกุ้ย โบตั๋น เย่ว์จี้......”สิบสองบุปผาล้ำค่าของจวนเฉินแห่งอำเภอผิงอัน มากันครบทุกคน“พวกเจ้าก็มาด้วย!”เฉินฝานคิดไม่ถึงว่าพวกนางก็จะมาด้วย ประหลาดใจเป็นอย่างมาก“พี่ใหญ่ไม่วางใจสาวใช้คนอื่น ดังนั้นจึงให้คนพาพวกนางมาด้วย” ฉินเย่ว์โหรวที่อยู่ด้านข้างพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล“อืม” เฉินฝานพยักหน้า การจัดแจงของฉินเย่ว์เหมยนี้สมเหตุสมผล สาวใช้เมืองหลวงจะรู้มือเหมือนกับสาวใช้อำเภอผิงอันได้อย่างไร“นายท่าน ท่านรีบมาดูเหล่านายน้อยเถอะ”สุ่ยเซียน เหมยกุ้ย โบตั๋น เย่ว์จี้แต่ละคนล้วนอุ้มเด็กเจ้าเนื้อไว้หนึ่งคนแต่ละคนผิวอมชมพู อ้วนตุ้ยนุ้ยเฉินฝานมองแล้วในใจรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมากเขาลูบหัวเบาๆ เผยให้รอยยิ้มที่ไร้เดียงสาฮี่ฮี่ไม่คิดเลยว่าเฉินฝานจะมีลูกชายแล้ว และยังมีทีเดียวสี่คนเลยด้วยวันนี้ เป็นวันที่สี่ฝาแฝดครบเดือนพอดีไม่สามารถเฉลิมฉลองใหญ่โตได้ ทว่าสิ่งที่ควรเฉลิมฉลองอย่างไรก็ต้องเฉลิมฉลองเฉินฝานลงมือทำครัวด้วยตัวเอง อาหารที่มีในยุคปัจจุบันเท่านั้นรายเรียงอยู่บนสองโต๊ะใหญ่เพิ่ง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 573

    “ให้อำนาจหงอิงคุมบังเหียนกองกำลังสืบราชการลับอีกครั้ง......”ผลลัพธ์เช่นนี้เฉินฝานไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไหร่นักให้เหอจื่อหลินทำเสียยังดีกว่า“ทำไมล่ะ แบบนี้ไม่ดีงั้นหรือ?”เห็นว่าเฉินไม่ได้ดีใจมากมาย ฉินเย่ว์เหมยฉงนสงสัย“ดี ดีสิ มีการคุ้มครองของหงอิงแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมาคุกคามชีวิตท่านแล้วล่ะ” เฉินฝานเกาหัวแกรกๆ ใบหน้าเผยให้เห็นฟันขาว ดูแล้วช่างไร้เดียงสาถ้าเสิ่นหมิงหยวนให้เหอจื่อหลินกลับ ความคิดออกง่ายแบบนั้นล่ะก็ ซูซิวฉีก็คงจะไม่ตาย เขาก็คงไม่เข้าวังแล้วล่ะ“เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี้? ไม่ใช่ว่ามารับข้าหรอกกระมัง?”ดูท่าทางแล้วฉินเย่ว์เหมยจะไม่เชื่อคำพูดของเขา เฉินฝานจึงรีบร้อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา“ใครมารับเจ้ากัน!” แววตาของฉินเย่ว์เหมยกะพริบพราย มองดูก็รู้เลยว่าประหม่า ข้าแค่ผ่านมาพอดี“โอ้ ก่อนที่ออกวังมา ข้าจำได้ว่าฝ่าบาทไปสักการะเทพเจ้าที่เขาเมฆาสวรรค์ เขาเมฆาสวรรค์อยู่ทางเหนือ ราชนิเวศน์นี้อยู่ทางใต้ การเดินทางของฝ่าบาทถือโอกาสเดินทางมาไกลพอควรเลยนะ”สีหน้าของเฉินฝานเคร่งขรึมอย่างมาก ไม่ยิ้มแม้แต่น้อย ทว่าทุกคำทุกตัวอักษรของเขากำลังยิ้มอยู่“เจ้า......อย่าคิดเข้าข้างต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 574

    “ฝ่าบาท ข้าไปค้นพบผู้ที่มีความสามารถเลิศล้ำเขย่าโลกมาคนหนึ่ง หากไม่ใช้งานคนผู้นี้ คงเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของต้าชิ่ง”ตอนที่เพิ่งจะเข้าท้องพระโรง เสิ่นหมิงหยวนพูดเสียงดังทันที“โอ้? ขุนนางเสิ่นเจอผู้มากความสามารถอะไรอีกงั้นหรือ?”ฉินเย่ว์เหมยถามพอให้เป็นพิธี เสิ่นหมิงหยวนต้องการจะเลื่อนตำแหน่งคนของตัวเองอีกแล้ว ฉินเย่ว์เหมยรู้สึกชินตาไปนานแล้วเสิ่นหมิงหยวนไม่ได้ตอบกลับทันควัน เขาหยิบม้วนกระดาษจากแขนเสื้อออกมาอ่าน“ผืนเมฆากว้างใหญ่ปกคลุมจันทราอยู่ทิศอุดร อีกาเฒ่าโศกเศร้าโศกาเกาะอยู่บนกิ่งพฤกษา บนพื้นพสุธามีม้าพันธุ์ดีไร้ซึ่งผู้ที่จะค้นพบม้าเหล่านั้น ดินแดนเหลืองบุษราคัมพันลี้ทำให้ผู้คนอาลัยอาวรณ์ร่างของฉินเย่ว์เหมยสะดุ้งโหยง แทบจะลุกขึ้นยืนเฉินฝานเองก็ตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งลำนำบทนี้เป็นสิ่งที่เฉินฝานเขียนความยากลำบากในใจหลังร่ำสุราเมื่อวานตอนเช้าที่ตื่นมาหาไม่เจอ คิดไปเองว่าเป็นขันทีหรือสาวใช้คนใดคนหนึ่งเก็บไป จึงไม่ได้ใส่ใจไม่คิดเลยว่า จะไปอยู่ในมือของเสิ่นหมิงหยวน“กลอนดี ช่างเป็นกลอนที่เลิศล้ำที่สุดแห่งยุคเลยล่ะ!”หลิวเกาจัวจอมประจบประแจงเป็นคนแรกที่ออกมาชื่นชม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 575

    “เสิ่นหมิงหยวน เจ้า......”“ขอบคุณการสนับสนุนของทุกท่าน ข้าน้อยจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังฉินเย่ว์เหมยโกรธจัด ตอนนี้วางแผนที่จะไม่สนใจอันใดทั้งสิ้นเปิดหน้าสู้กับเสิ่นหมิงหยวน เฉินฝานก็ยืนขึ้นขัดคำพูดของฉินเย่ว์เหมย-“ปึก!”เพิ่งจะถึงพระตำหนักไท่เหอ ฉินเย่ว์เหมยก็เอาหนังสือสาสน์กราบทูลในมือขว้างใส่เฉินฝาน ตามด้วยการบ่นอุบอิบ“ข้ากำลังช่วยเจ้า เจ้ากลับอวดดีเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะรับตำแหน่งนี้ ตกปากรับคำเสิ่นหมิงหยวนไปอำเภอหลี! เจ้าคิดหรือว่าสามารถพาหงอิงกลับมาได้สำเร็จ เจ้าก็สามารถสู้ชนะเสิ่นหมิงหยวนได้แล้ว?”“ลำนำเยอะแยะมากมายเจ้าไม่เขียน ดื้อดึงจะเขียนแบบนั้น เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป อย่าลืมสิ เจ้าก็เป็นแค่ชาวนาที่มาจากหมู่บ้านภูเขาเล็กๆเท่านั้น”รับตำแหน่งที่เสิ่นหมิงหยวนบีบบังคับในวัง เฉินฝานก็รู้อยู่แล้วว่าฉินเย่ว์เหมยจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้เผชิญกับความโกรธที่คุกรุ่นของฉินเย่ว์เหมย เฉินฝานทำเพียงแค่ยิ้มบางๆเขาไม่ได้ประเมินตัวสูงเกินไป ทว่าเขาเก่งกาจกว่าคนต้าชิ่งอยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้ทะลุมิติมาจากยุคปัจจุบัน ความรู้ยุคปัจจุบันในหัว หยิบยกมาใช้อย่างตามใจชอบก็สามารถเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 576

    “การเก็บเกี่ยวผลผลิตในประเทศย่ำแย่ร่วมสามปีแล้ว ท้องพระคลังของอาณาจักรขาดแคลนอย่างหนัก สามารถให้ห้าหมื่นตำลึงได้ ข้ายังต้องไปหักเงินรายเดือนจากขุนนางมาตั้งหลายคน”ฉินเย่ว์เหมยอยากจะพูดว่าเสิ่นหมิงหยวนพูดโกหก เฉินฝานชิงพูดก่อน “ตามความเข้าใจของข้าน้อย เนื้อที่ประสบภัยพิบัติมีถึงห้าสิบห้าหมู่ และยังประสบภัยพิบัติมาต่อเนื่องห้าปี เงินเล็กน้อยแค่ห้าหมื่นตำลึงไม่เพียงพอจริงๆ”เสิ่นหมิงหยวนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปทางเฉินฝานเจ้าหนุ่ม ให้เจ้าเป็นผู้ตรวจการ เจ้าก็คิดว่าตัวเองได้เป็นจริงๆแล้ว?ผู้ตรวจการกรมคลังอำนาจน้อยนิดเช่นเจ้า บังอาจมาต่อบทสนทนากับข้าโดยตรง?เอาสิก่อนที่จะสิ้นชีพ ก็ให้เจ้าดิ้นรนไปอีกสองสามแล้วกัน“โอ้? เช่นนั้นผู้ตรวจการเฉินคิดว่าเท่าใดจึงจะเหมาะสมกันล่ะ?”ไม่รอให้เฉินฝานตอบกลับ เสิ่นหมิงหยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “สิ่งที่ผู้ตรวจการเฉินพูดมาถูกต้อง เนื้อที่ประสบภัยพิบัติของอำเภอหลีเยอะเกินไป และประสบภัยพิบัติมานานห้าปี ห้าหมื่นตำลึงเกรงว่าจะไม่พอ หลินชาง”“ใต้เท้า ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”ผู้เฒ่าสวมชุดขุนนางสีฟ้าเดินรุดหน้าขึ้นมา เขาคือเลขาธิการกรมกรมคลัง หลินชางเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 577

    “ต้าชิ่งของพวกเรา? เจ้าไม่ใช่คนต้าชิ่งของพวกเรา?” ฉินเย่ว์เหมยมองเฉินฝานด้วยความระแวดระวัง“......” ล้วนเป็นพี่น้องตระกูลฉิน เฉินฝานสับสนไปครู่หนึ่ง เอาฉินเย่ว์เหมยไปรวมกับเหล่าฉินเย่ว์เจียวแล้ว เขาตีตัวเองเบาๆ“ถุยถุยถุย พลั้งปากไป สรุปแล้วท่านวางใจเถอะ เสิ่นหมิงหยวนอยากจะคร่าชีวิตข้า นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก”เป็นความมั่นใจแบบที่ฉลาดปราดเปรื่องนั้นอีกแล้วทุกครั้งที่เฉินฝานทำท่าทีเช่นนี้ ฉินเย่ว์เหมยมักจะเชื่อมั่นในเฉินฝานอย่างไม่รู้ตัว “พรุ่งนี้ก็จะถึงอำเภอหลีแล้ว เช่นนั้นเจ้าลองบอกมาสิ วางแผนจะใช้เงินเท่าไหร่บรรเทาทุกข์ภัยพิบัติ”“ไม่ใช้เงิน!”“.......” ฉินเย่ว์เหมยไม่ได้พูดอะไร นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เฉินฝานพูดกับนางว่าบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติไม่ต้องใช้เงิน ไม่เหมือนกับครั้งแรก ครั้งนี้นางไม่ได้เอามาใส่ใจ คิดว่าเฉินฝานเป็นผู้ชายที่ชอบคุยโวโอ้อวดเท่านั้นตั้งแต่โบร่ำโบราณมา มีบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติที่ไหนที่ไม่ใช่เงินกัน?-เฉินฝานเพิ่งจะเข้าพักโรงเตี๊ยมของอำเภอหลีได้ไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยก็เข้ามา ด้านหลังมีหงอิงติดตามมาด้วย“ชิ้ง!”หงอิงยกมือดาบขึ้นมาจ่อคอเฉินฝานอีกครั้ง ฉินเย่ว์เห

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status