แชร์

บทที่ 573

ผู้แต่ง: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
“ให้อำนาจหงอิงคุมบังเหียนกองกำลังสืบราชการลับอีกครั้ง......”

ผลลัพธ์เช่นนี้เฉินฝานไม่ค่อยพอใจเสียเท่าไหร่นัก

ให้เหอจื่อหลินทำเสียยังดีกว่า

“ทำไมล่ะ แบบนี้ไม่ดีงั้นหรือ?”

เห็นว่าเฉินไม่ได้ดีใจมากมาย ฉินเย่ว์เหมยฉงนสงสัย

“ดี ดีสิ มีการคุ้มครองของหงอิงแล้ว ก็ไม่มีใครสามารถมาคุกคามชีวิตท่านแล้วล่ะ” เฉินฝานเกาหัวแกรกๆ ใบหน้าเผยให้เห็นฟันขาว ดูแล้วช่างไร้เดียงสา

ถ้าเสิ่นหมิงหยวนให้เหอจื่อหลินกลับ ความคิดออกง่ายแบบนั้นล่ะก็ ซูซิวฉีก็คงจะไม่ตาย เขาก็คงไม่เข้าวังแล้วล่ะ

“เหตุใดท่านจึงมาอยู่ที่นี้? ไม่ใช่ว่ามารับข้าหรอกกระมัง?”

ดูท่าทางแล้วฉินเย่ว์เหมยจะไม่เชื่อคำพูดของเขา เฉินฝานจึงรีบร้อนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ใครมารับเจ้ากัน!” แววตาของฉินเย่ว์เหมยกะพริบพราย มองดูก็รู้เลยว่าประหม่า ข้าแค่ผ่านมาพอดี

“โอ้ ก่อนที่ออกวังมา ข้าจำได้ว่าฝ่าบาทไปสักการะเทพเจ้าที่เขาเมฆาสวรรค์ เขาเมฆาสวรรค์อยู่ทางเหนือ ราชนิเวศน์นี้อยู่ทางใต้ การเดินทางของฝ่าบาทถือโอกาสเดินทางมาไกลพอควรเลยนะ”

สีหน้าของเฉินฝานเคร่งขรึมอย่างมาก ไม่ยิ้มแม้แต่น้อย ทว่าทุกคำทุกตัวอักษรของเขากำลังยิ้มอยู่

“เจ้า......อย่าคิดเข้าข้างต
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 574

    “ฝ่าบาท ข้าไปค้นพบผู้ที่มีความสามารถเลิศล้ำเขย่าโลกมาคนหนึ่ง หากไม่ใช้งานคนผู้นี้ คงเป็นความเสียหายครั้งใหญ่ของต้าชิ่ง”ตอนที่เพิ่งจะเข้าท้องพระโรง เสิ่นหมิงหยวนพูดเสียงดังทันที“โอ้? ขุนนางเสิ่นเจอผู้มากความสามารถอะไรอีกงั้นหรือ?”ฉินเย่ว์เหมยถามพอให้เป็นพิธี เสิ่นหมิงหยวนต้องการจะเลื่อนตำแหน่งคนของตัวเองอีกแล้ว ฉินเย่ว์เหมยรู้สึกชินตาไปนานแล้วเสิ่นหมิงหยวนไม่ได้ตอบกลับทันควัน เขาหยิบม้วนกระดาษจากแขนเสื้อออกมาอ่าน“ผืนเมฆากว้างใหญ่ปกคลุมจันทราอยู่ทิศอุดร อีกาเฒ่าโศกเศร้าโศกาเกาะอยู่บนกิ่งพฤกษา บนพื้นพสุธามีม้าพันธุ์ดีไร้ซึ่งผู้ที่จะค้นพบม้าเหล่านั้น ดินแดนเหลืองบุษราคัมพันลี้ทำให้ผู้คนอาลัยอาวรณ์ร่างของฉินเย่ว์เหมยสะดุ้งโหยง แทบจะลุกขึ้นยืนเฉินฝานเองก็ตัวแข็งทื่อไปครู่หนึ่งลำนำบทนี้เป็นสิ่งที่เฉินฝานเขียนความยากลำบากในใจหลังร่ำสุราเมื่อวานตอนเช้าที่ตื่นมาหาไม่เจอ คิดไปเองว่าเป็นขันทีหรือสาวใช้คนใดคนหนึ่งเก็บไป จึงไม่ได้ใส่ใจไม่คิดเลยว่า จะไปอยู่ในมือของเสิ่นหมิงหยวน“กลอนดี ช่างเป็นกลอนที่เลิศล้ำที่สุดแห่งยุคเลยล่ะ!”หลิวเกาจัวจอมประจบประแจงเป็นคนแรกที่ออกมาชื่นชม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 575

    “เสิ่นหมิงหยวน เจ้า......”“ขอบคุณการสนับสนุนของทุกท่าน ข้าน้อยจะไม่ทำให้ทุกท่านผิดหวังฉินเย่ว์เหมยโกรธจัด ตอนนี้วางแผนที่จะไม่สนใจอันใดทั้งสิ้นเปิดหน้าสู้กับเสิ่นหมิงหยวน เฉินฝานก็ยืนขึ้นขัดคำพูดของฉินเย่ว์เหมย-“ปึก!”เพิ่งจะถึงพระตำหนักไท่เหอ ฉินเย่ว์เหมยก็เอาหนังสือสาสน์กราบทูลในมือขว้างใส่เฉินฝาน ตามด้วยการบ่นอุบอิบ“ข้ากำลังช่วยเจ้า เจ้ากลับอวดดีเช่นนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะรับตำแหน่งนี้ ตกปากรับคำเสิ่นหมิงหยวนไปอำเภอหลี! เจ้าคิดหรือว่าสามารถพาหงอิงกลับมาได้สำเร็จ เจ้าก็สามารถสู้ชนะเสิ่นหมิงหยวนได้แล้ว?”“ลำนำเยอะแยะมากมายเจ้าไม่เขียน ดื้อดึงจะเขียนแบบนั้น เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไป อย่าลืมสิ เจ้าก็เป็นแค่ชาวนาที่มาจากหมู่บ้านภูเขาเล็กๆเท่านั้น”รับตำแหน่งที่เสิ่นหมิงหยวนบีบบังคับในวัง เฉินฝานก็รู้อยู่แล้วว่าฉินเย่ว์เหมยจะต้องมีปฏิกิริยาแบบนี้เผชิญกับความโกรธที่คุกรุ่นของฉินเย่ว์เหมย เฉินฝานทำเพียงแค่ยิ้มบางๆเขาไม่ได้ประเมินตัวสูงเกินไป ทว่าเขาเก่งกาจกว่าคนต้าชิ่งอยู่แล้วในฐานะที่เป็นผู้ทะลุมิติมาจากยุคปัจจุบัน ความรู้ยุคปัจจุบันในหัว หยิบยกมาใช้อย่างตามใจชอบก็สามารถเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 576

    “การเก็บเกี่ยวผลผลิตในประเทศย่ำแย่ร่วมสามปีแล้ว ท้องพระคลังของอาณาจักรขาดแคลนอย่างหนัก สามารถให้ห้าหมื่นตำลึงได้ ข้ายังต้องไปหักเงินรายเดือนจากขุนนางมาตั้งหลายคน”ฉินเย่ว์เหมยอยากจะพูดว่าเสิ่นหมิงหยวนพูดโกหก เฉินฝานชิงพูดก่อน “ตามความเข้าใจของข้าน้อย เนื้อที่ประสบภัยพิบัติมีถึงห้าสิบห้าหมู่ และยังประสบภัยพิบัติมาต่อเนื่องห้าปี เงินเล็กน้อยแค่ห้าหมื่นตำลึงไม่เพียงพอจริงๆ”เสิ่นหมิงหยวนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมองไปทางเฉินฝานเจ้าหนุ่ม ให้เจ้าเป็นผู้ตรวจการ เจ้าก็คิดว่าตัวเองได้เป็นจริงๆแล้ว?ผู้ตรวจการกรมคลังอำนาจน้อยนิดเช่นเจ้า บังอาจมาต่อบทสนทนากับข้าโดยตรง?เอาสิก่อนที่จะสิ้นชีพ ก็ให้เจ้าดิ้นรนไปอีกสองสามแล้วกัน“โอ้? เช่นนั้นผู้ตรวจการเฉินคิดว่าเท่าใดจึงจะเหมาะสมกันล่ะ?”ไม่รอให้เฉินฝานตอบกลับ เสิ่นหมิงหยวนเปลี่ยนหัวข้อสนทนา “สิ่งที่ผู้ตรวจการเฉินพูดมาถูกต้อง เนื้อที่ประสบภัยพิบัติของอำเภอหลีเยอะเกินไป และประสบภัยพิบัติมานานห้าปี ห้าหมื่นตำลึงเกรงว่าจะไม่พอ หลินชาง”“ใต้เท้า ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”ผู้เฒ่าสวมชุดขุนนางสีฟ้าเดินรุดหน้าขึ้นมา เขาคือเลขาธิการกรมกรมคลัง หลินชางเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 577

    “ต้าชิ่งของพวกเรา? เจ้าไม่ใช่คนต้าชิ่งของพวกเรา?” ฉินเย่ว์เหมยมองเฉินฝานด้วยความระแวดระวัง“......” ล้วนเป็นพี่น้องตระกูลฉิน เฉินฝานสับสนไปครู่หนึ่ง เอาฉินเย่ว์เหมยไปรวมกับเหล่าฉินเย่ว์เจียวแล้ว เขาตีตัวเองเบาๆ“ถุยถุยถุย พลั้งปากไป สรุปแล้วท่านวางใจเถอะ เสิ่นหมิงหยวนอยากจะคร่าชีวิตข้า นั้นเป็นไปไม่ได้หรอก”เป็นความมั่นใจแบบที่ฉลาดปราดเปรื่องนั้นอีกแล้วทุกครั้งที่เฉินฝานทำท่าทีเช่นนี้ ฉินเย่ว์เหมยมักจะเชื่อมั่นในเฉินฝานอย่างไม่รู้ตัว “พรุ่งนี้ก็จะถึงอำเภอหลีแล้ว เช่นนั้นเจ้าลองบอกมาสิ วางแผนจะใช้เงินเท่าไหร่บรรเทาทุกข์ภัยพิบัติ”“ไม่ใช้เงิน!”“.......” ฉินเย่ว์เหมยไม่ได้พูดอะไร นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เฉินฝานพูดกับนางว่าบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติไม่ต้องใช้เงิน ไม่เหมือนกับครั้งแรก ครั้งนี้นางไม่ได้เอามาใส่ใจ คิดว่าเฉินฝานเป็นผู้ชายที่ชอบคุยโวโอ้อวดเท่านั้นตั้งแต่โบร่ำโบราณมา มีบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติที่ไหนที่ไม่ใช่เงินกัน?-เฉินฝานเพิ่งจะเข้าพักโรงเตี๊ยมของอำเภอหลีได้ไม่นาน ฉินเย่ว์เหมยก็เข้ามา ด้านหลังมีหงอิงติดตามมาด้วย“ชิ้ง!”หงอิงยกมือดาบขึ้นมาจ่อคอเฉินฝานอีกครั้ง ฉินเย่ว์เห

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 578

    “เจ้าให้หลี่ซานเอาเงินห้าแสนตำลึงนั้นไปทำอะไร? ซื้อข้าวสารหรือ?”สำหรับเรื่องที่เฉินฝานบอกว่าบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติยังสามารถทำเงินได้ ในใจของฉินเย่ว์เหมยไม่เชื่อ ดังนั้นจึงถามเขาว่าเอาเงินไปทำอะไร“ฝ่าบาทพรุ่งนี้เดี๋ยวก็รู้เอง แต่ว่า......” เฉินฝานหยุดไปครู่หนึ่ง “ท่านต้องรับปากข้าไม่ว่าพรุ่งนี้ข้าซื้อสิ่งใดมา ท่านจะใจเย็น ขอเพียงเชื่อในตัวข้าว่าจะไม่เอาชะตาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นก็ใช้ได้แล้วฉินเย่ว์เหมยจ้องเฉินฝานอยู่นานสองนาน จึงฝืนใจตอบรับ “อืม”สายตาของนางมองบนโต๊ะ บนโต๊ะมีอาหารที่แปลกตาอยู่ชนิดหนึ่ง“ฝ่าบาท จวนจะต้านไว้ไม่อยู่แล้ว พวกเขาจะเข้ามาแล้ว”ฉินเย่ว์เหมยกำลังจะถามเฉินฝานว่าอาหารนี้คืออะไร หงอิงที่ออกไปแล้ววกกลับมา สีหน้ากังวลใจ“รู้แล้วล่ะ”ฉินเย่ว์เหมยก้าวเท้ารุดหน้าไปด้านนอก ตอนที่ถึงประตู หันหน้ากลับมาพูดกับเฉินฝานอย่างเรียบนิ่ง “กินข้าวของเจ้าไปเถอะ เรื่องด้านนอกเจ้าไม่ต้องก้าวก่าย ถึงจะอยากก้าวก่ายเจ้าก็ทำไม่ได้หรอก”ด้านนอกยังคงเสียงดังอึกทึกครึกโครมเฉินฝานไม่ฟังเรื่องด้านนอกหน้าต่าง ทำตามคำสั่งของฉินเย่ว์เหมย เขาก้มหน้าก้มตากินข้าวตลอดต้องกินอิ่มหนำสำราญ ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 579

    จำนวนที่หลี่ซานซื้อกลับมาได้ทำให้เฉินฝานประหลาดใจอย่างมากภัยพิบัติตั๊กแตนนี่คงจะเหนื่อยครั้งเดียวสบายไปทั้งชาติแล้วล่ะมุมปากหวังเคอคลับคล้ายคลับคลาว่าจะยิ้ม เขาเหลือบมองเสิ่นหมิงหยวนที่อยู่ด้านหลัง พูดต่อทันที “ถ้าเจ้าคำนวณเช่นนี้ ก็เป็นราคาที่ถูกมาก ข้ายังซื้อในราคาถูกไม่ได้ขนาดนี้ เช่นนั้นผู้ตรวจการเฉินซื้อเป็ดพวกนี้มาบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติงั้นหรือ?”เจ้าหนุ่ม ถ้าเจ้าตอบว่าใช้ เช่นนั้นก็รอโดนลงโทษห้าอาชาแหกร่างเถอะและฝ่าบาทที่โปรดปราน......“ใช่แล้ว!” เฉินฝานพยักหน้า“โอ้!” รอยยิ้มมุมปากของหวังเคอชัดเจนมากขึ้น “เจ้าวางแผนใช้เป็ดเหล่านี้มาบรรเทาทุกข์อย่างไร แจกจ่ายให้ผู้ประสบภัยกิน?”“ในท้ายที่สุดแล้วเป็ดต้องเอามากิน ก่อนที่จะกิน......”“เหลวไหล!”“น่าขันสิ้นดี!”“ให้เขามาบรรเทาทุกข์ภัยพิบัติ ไม่ใช่ให้เขามาถลุงท้องพระคลังอาณาจักร”ไม่มีใครใส่ใจว่าคำพูดที่เฉินฝานจะพูดต่อคืออะไร เมื่อพวกเขาได้ยินว่าซื้อเป็ดมากิน ก็พากันประณามเฉินฝานเสียงดัง“แต่ผู้ตรวจการเฉินเจ้ารู้หรือไม่ ชาวบ้านต้าชิ่งของข้าไม่ชอบกินเป็ด” หวังเคอซักถามต่อ“นั้นเป็นเพราะพวกเขาทำไม่เป็น”“โอ้!” หวังเคอพ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 580

    เหล่าชาวบ้านต่างพากันพูดกันเซ็งแซ่ “นี่มันวิธีอะไรกันเนี่ย? ข้าใช้ชีวิตมาเจ็ดสิบปี ยังไม่เคยเห็นเลย”“ก็แค่ปั่นหัวพวกเรา ข้าได้ยินมาว่า ราชสำนักใช้เงินสี่แสนแปดหมื่นตำลึงมาซื้อเป็ดเหล่านี้ บอกว่าจะจัดสรรปันส่วนให้พวกเรากิน นี่ก็เป็นวิธีที่ราชสำนักบอก”“เฮ้อ ซื้อข้าวมาให้พวกเราตรง ๆ เลยยังจะดีเสียกว่า เอาเป็ดมาพวกเรายังต้องใช้อาหารเลี้ยงอีก ถ้าไม่เลี้ยงก็ฆ่าทิ้งเถอะ พริบตาเดียวเนื้อเป็ดเยอะขนาดนั้นก็ไม่มีทางที่จะเก็บรักษาไว้ได้หรอกนะ”“และเนื้อเป็ดมันโคตรไม่อร่อยเลย”“คนเขาเป็นขุนนาง วิธีการมีตั้งมากมาย ทำเนื้อเป็ดให้พวกเราหลากหลายรูปแบบ ยังเอาเงินสองหมื่นตำลึงไปซื้อเครื่องเทศต่างๆ”“เงินสองหมื่นตำลึงไปซื้อเครื่องเทศต่างๆ?”ความเดือดดาลในใจของชาวบ้านก็ปะทุออกมาทันทีเงินสองหมื่นตำลึงสามารถซื้อข้าวสารได้มากมาย สามารถช่วยเหลือได้หลายชีวิต“คนสูงศักดิ์ของราชสำนักเหล่านั้น ล้วนได้ลิ้มลองอาหารเลิศรสทุกวัน จะมาเข้าใจความลำบากของชาวบ้านอย่างพวกเราได้อย่างไร?”“อย่าเหมารวมพวกขุนนางทั้งหมดสิ ขุนนางส่วนใหญ่ยังทำไปเพื่อประชาชน ข้าได้ยินว่ามาว่าผู้ตรวจการที่มาบรรเทาทุกข์ครั้งนี้ ชื่อเฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 581

    “ใต้เท้าเกา ท่านตาบอดหรือ? ไม่เห็นหรือว่าพวกเป็ดก้มหน้าก้มตากินตั๊กแตนบนพื้นอย่างบ้าคลั่ง? เหตุใดท่านจึงบอกว่าไม่เหมาะสม?”คนพูดคือเหอจื่อหลิน พ่อลูกตระกูลเหอค่อนข้างเป็นคนตรงไปตรงมา ให้ความสำคัญกับชาวบ้านชาวบ้านอำเภอหลี ได้รับภัยพิบัติมานานหลายปี ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก กินดินกวนอิมประทังชีวิต มีคนหิวตายนับไม่ถ้วนแม้ราชสำนักจะส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยบรรเทาภัยพิบัติ แต่ขุนนางเหล่านั้นไม่ทุจริต ก็เป็นพวกขุนนางไร้ความสามารถ ราชสำนักสูญเงินจำนวนไม่น้อย ทว่าภัยพิบัติกลับรุนแรงขึ้นก่อนหน้านี้เขาดูแคลนเฉินฝาน เป็นชายชาติทหารแต่กลับยอมเป็นบุรุษให้สตรียั่วเย้า ไร้ความสามารถ อ่อนแอเกินไปแล้วทว่าระหว่างเดินทางไปแคว้นฉู่กับหลี่ซาน เขาได้ฟังหลี่ซานเล่าเรื่องน่าอัศจรรย์ที่เฉินฝานทำเมื่อครั้นอยู่อำเภอผิงอันทำปลาที่ไร้ค่าให้มีค่า สอบได้อันดับหนึ่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าร่วมการสอบ แข่งขันกับพ่อค้าเจ้าเล่ห์ นำกองกำลังสตรีจับโจรทุกอย่างที่ฟังล้วนมหัศจรรย์ยิ่งนัก เขาคิดว่าหลี่ซานกำลังคุยโวตอนหลี่ซานผลาญเงินห้าแสนตำลึงในการซื้อเป็ดและเครื่องเทศ หากเหอกังไม่ห้ามไว้ เขาคงฟันคอหลี่ซานแล้วเป็ดและ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 730

    เหอกังนิ่งเงียบไปเพียงหนึ่งวินาที“ทหารทั้งหมดจงฟังคำสั่ง!” เหอกังยกป้ายสั่งการทหารขึ้นสูง “ถอยทัพกลับลำไปทางเดิม!”ระหว่างที่ถอยกลับทางเดิม เฉินฝานยังให้เหอกังออกคำสั่งอีกสองเรื่องคำสั่งแรก นายทหารทุกคนถอดชุดเกราะเครื่องหัวออก ก็คือให้ทุกคนถอดหมวกเหล็กบนหัวออก นำเสื้อผ้าห่อไว้ มัดไว้ที่เอวกองกำลังยุคโบราณ เพื่อที่แยกมิตรและศัตรู ชุดเกราะเครื่องหัวจะมีสัญลักษณ์สัญลักษณ์บนชุดเกราะเครื่องหัวของกองกำลังลาดตระเวนคือพู่ระย้าสีแดงสีแดงสะดุดตาเกินไป ไม่สะดวกในการหลบหลีกคำสั่งที่สอง ทุกคนต้องเก็บกิ่งที่มีใบไม้มาสองสามชิ้น มัดรวมให้เป็นวงกลม สวมไว้บนศีรษะตอนที่ออกคำสั่งทั้งสองนี้ เหอกังก็ตัดหัวนายทหารไปอีกหนึ่งคนเพราะสองคำสั่งนี้ ก็ไม่ต่างอันใดกับการล่าถอยกลับทางเดิม เหลวไหลสิ้นดีไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือลูกน้องในกองกำลังลาดตระเวนทั้งหมด คิดอย่างไรก็ไม่เข้าใจที่คาดหัวใบไม้หนึ่งชิ้น จะสามารถรักษาชีวิตได้กว่าชุดเกราะเครื่องหัวที่ทำจากเหล็กงั้นหรือ?เฉินฝานไม่ได้ผิดปกติจริงๆใช่หรือไม่?กลับไปถึงสถานที่กวาดล้างพลทหารม้าสามพันคนของเหยียนอิง เฉินฝานออกคำสั่งให้หยุดเคลื่อนทัพในขณ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 729

    เฉินฝานอมยิ้มพลางพยักหน้า “ถูกต้อง หากไม่ยั่วโมโหอ๋องเจิ้งหนาน หลี่เทียนจะออกมาได้อย่างไร”“ทว่า ทำเช่นนี้เป็นการทำให้พวกเราเข้าสู่สภาวะจนตรอกมิใช่หรือ?”“ท่านแม่ทัพ ทำเช่นนี้ สามารถทำให้พวกเรามีชีวิตต่อไปได้!”“เช่นนี้พวกเราจึงสามารถมีชีวิตต่อไปได้งั้นหรือ? ใต้เท้าเฉิน...”เหอกังที่อยู่ด้านข้างหยุดพูดไปครู่หนึ่ง “เจ้าต้องการล่อกองกำลังเมืองเตียนที่เมืองฝูตูให้ออกมา หลังจากนั้นพวกเราก็กลับลำไปยึดโจมตีเมืองฝูตูงั้นหรือ?”“ปิดบังท่านแม่ทัพไม่ได้จริงๆ ข้าน้อยก็มีความประสงค์เช่นนี้ มีเพียงการทำเช่นนี้ เมืองหรงตูและพวกเราจึงยังมีโอกาสที่จะมีชีวิตอยู่”“น้องฝาน วิธีนี้น่าอัศจรรย์ก็จริง ทว่า...” สีหน้าของเหอจื่อหลินเปลี่ยนจากสดใสเป็นหม่นหมอง “กองกำลังสามหมื่นคนของหลี่เทียนนั้น ห่างจากพวกเราไม่ถึงห้าสิบลี้แล้ว อิงจากความเร็วของกองกำลังเตียนตู ต้านทานไว้ครึ่งชั่วยาม ก็จะไล่ตามพวกเราทัน พวกเราต้องการโจมตีโต้กลับเมืองฝูตู ก็ต้องหลบหลีกพวกเขาก่อน”“กองกำลังลาดตระเวนมีสองหมื่นเจ็ดพันกว่าคน และมีม้าสงครามที่ไปยึดครองมาเมื่อครู่สามพันตัว เป้าหมายยิ่งใหญ่เช่นนี้ ความยากในหลบหลีกหลี่เทียนยากยิ่งนั

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 728

    “ข่าวที่ข้าได้รับมาเมื่อครู่ กองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งแสนคนที่เหยียนเชียงนำทัพไม่ได้ข้ามฝั่งมา”“ไม่ได้ข้ามฝั่งรึ?” เหอกังตกใจอย่างมาก กล่าวด้วยความโมโหทันที “เวลาครึ่งก้านธูปที่แล้วพลส่งข่าวมารายงานว่ากองกำลังหนึ่งแสนคนนั้นของเหยียนเชียงเริ่มข้ามฝั่งแล้วมิใช่หรือ? พลส่งข่าวของเจ้าเป็นอันใดไป จึงรายงานไม่แม่นยำเช่นนี้!”“ท่านพ่อ เมื่อครู่กองกำลังเมืองเตียนข้ามฝั่งจริงๆ ทว่าผ่านไปไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็กลับลำ ตอนนี้เดินทางมุ่งสู่เมืองหรงตูแล้ว”“กล่าวเช่นนี้...” สีหน้าของเหอกังเปลี่ยนเป็นเข้มงวด “กองกำลังเตียนตูไม่คิดที่จะสนใจพวกเรา ทว่ามุ่งตรงไปบุกโจมตีเมืองหรงตู หากสูญเสียเมืองหรงตูไป เช่นนั้นพวกเรา...”เช่นนั้นกองกำลังลาดตระเวนก็เหมือนกับเด็กกำพร้าไร้บ้านหากไปเยือนหรงตูมิได้ พวกเขาก็เป็นทหารเร่ร่อนกลุ่มหนึ่งที่ไม่กำลังสนับสนุนใดๆจากแนวหลัง“เร็วเข้า พวกเราต้องเร่งฝีเท้าในการเคลื่อนทัพ” เหอกังกล่าวเสียงดัง “แผนการเดียวในตอนนี้ พวกเราทำได้เพียงแข่งความเร็วกับเหยียนเชียง”“ข้าว่าวิธีนี้ก็ไร้ผล” เย่ว์หนูที่อยู่ด้านข้างเฉินฝานส่ายหน้ากล่าวเสียงเบา “พละกำลังของกองกำลังเมืองเตียนตูมีม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 727

    เฉินฝานเดินอยู่ด้านหน้า ฉินเย่ว์เจียวลากศพของเหยียนอิง สองคนเรียงรายเดินออกจากกระโจมไปสถานการณ์รบด้านนอกจวนจะเข้าใกล้จุดสิ้นสุดแล้วห่าธนูในคราเดียว กองกำลังเมืองเตียนตูสามพันกว่าคนนี้ ทุกคนล้วนถูกลูกธนูของกองกำลังลาดตระเวนปักราวกับเม่นเหอจื่อหลินพาคนไปตรวจสอบว่ามีกองกำลังเมืองเตียนตูที่ยังตายไม่สนิทหรือไม่ ดังนั้นจึงเกิดเสียงการแทงซ้ำและเสียงโอดครวญเป็นครั้งคราว“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”“ถวายบังคมใต้เท้าเฉิน!”เมื่อเห็นเฉินฝานแล้ว เหล่านายทหารพากันคุกเข่าเฉินฝานลนลานรีบทำท่าขอให้ลุกขึ้น “ทุกท่านไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถอะ”นายทหารเหล่านั้นโน้มศีรษะติดกับพื้นจึงยอมลุกขึ้นยืนนับตั้งแต่ที่เข้ากระโจมจนมาถึงตอนที่ออกจากกระโจมมา ห่างกันไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เหล่ากองกำลังลาดตระเวนด้านหน้าเฉินฝาน ทุกคนล้วนมีชีวิตชีวาพวกเขาทหารผู้ดีทหารไร้ประโยชน์ที่ถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ ในเวลาสั้นๆครึ่งชั่วโมง สามารถกำจัดพลทหารม้าของกองกำลังเมืองเตียนตูหนึ่งกลุ่มได้ทั้งหมดต่อจากนี้ จะคอยดูว่าผู้ใดจะกล้ากล่าวว่าพวกเขาไร้ประโยชน์ได้อีก!เหล่าทหารเพิ่งจะลุกขึ้นยืน เหอกังรีบรุดหน้าเข้ามาทันที สีหน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 726

    เหยียนอิงถูกฉินเย่ว์เจียวนำน้ำเย็นหนึ่งถังราดใส่จนตื่น“อ้าก!”“ใครกัน? ชาติชั่วผู้ใดรนหาที่ตาย บังอาจใช้น้ำราดใส่ข้า!”เหยียนอิงที่ถูกปลุกให้ตื่นด้วยความตกใจเด้งตัวกระโดดลงจากเตียง คว้าดาบใหญ่ข้างกายขึ้นมา ต้องการจะฟันออกไปตอนที่เขาเห็นชัดเจนว่าคนที่ยืนข้างเตียงเขาคือฉินแย่ว์เจียว วางดาบลงทันที พลันปรากฏรอยยิ้มสัปดน“เจ้าหนุ่มหน้าปลาเก๋านั้น สามารถจัดการเรื่องต่างๆ เพราะถวิลหาสาวน้อยที่งดงามเช่นนี้ ข้าก็แปลกใจหรอก”“แม่สาวน้อย เจ้าจะมาด้วยตนเองหรือต้องการให้ข้าช่วย!”“ข้าว่าข้าช่วยเจ้าดีกว่า เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”เหยียนอิงหัวเราะร่าลุกขึ้นยืน กำลังจะโถมตัวใส่ร่างของฉินเย่ว์เจียว“ปึก!”จอกสุราหนึ่ง ลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียว ชนเข้ากับใบหน้าของเหยียนอิงอย่างรุนแรง“อ้าก!”เหยียนอิงที่ได้รับบาดเจ็บตะโกนลั่น ยื่นมือออกไปคิดที่จะคว้าดาบใหญ่ของเขาอีกครั้ง“ปึก!”มีวัตถุหนึ่งชิ้นลอยมาจากด้านหลังฉินเย่ว์เจียวอีกครั้ง ครั้งนี้ไม่ใช่จอกสุรา ทว่าเป็นเกาทัณฑ์ดอกเหมยหนึ่งลูกนี่เป็นหนึ่งในอาวุธลับมากมายที่ฉินเย่ว์เหมยมอบให้เฉินฝาน เกาทัณฑ์ดอกเหมยใช้งานง่ายที่สุด วันที่สองข

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 725

    ฉกฉวยโอกาสยามราตรี กองกำลังลาดตระเวนสองหมื่นนาย สามารถข้ามแม่น้ำลวี่สุ่ยครั้งที่สองได้แล้วคนมากมายเพียงนี้ กล่าวไม่มีลาดเลาอันใดแม้แต่น้อย นั้นเป็นเรื่องโกหกตอนที่กองกำลังลาดตระเวนข้ามฝั่ง ทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูที่ลาดตระเวนผู้หนึ่งพบเห็น“คน มีคนจำนวนมากกำลังข้ามฝั่ง” กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นกล่าวกับสหายร่วมรบของตนคำพูดของกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้น ไม่เพียงไม่ได้รับความใส่ใจจากสหายร่วมรบเท่านั้น ยังถูกสหายร่วมเขกกะโหลกหนึ่งที“เป็นเพราะไม่นอน ตาพร่ามัวไปแล้วหรือ ข้ามฝั่งอันใดกัน?” สหายร่วมรบชี้ไปที่แม่น้ำ “ดูสิ ด้านบนมีเรือหรือไม่? ไม่มีเรือจะข้ามฝั่งมาได้เยี่ยงไร”“ทว่า...”กองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นหันกลับไปชำเลืองมองอีกครั้ง “ข้าเห็นจริงๆ เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้นั่งเรือข้ามมา ทว่าเดินบนผิวน้ำมา”สะพานลอยไม่โผล่ขึ้นมาผิวน้ำทั้งหมด ดูแล้วก็เหมือนกับคนกำลังเดินผิวน้ำจริงๆกองกำลังเมืองเตียนตูผู้นั้นถูกสหายร่วมรบของตนเขกกะโหลกอีกครั้ง “เดินบนผิวน้ำ? นับถือที่เจ้าพูดเช่นนี้ออกมาได้ ที่เจ้าเห็นมิใช่คน แต่เจ้าเห็นผีแล้วต่างหาก!”“ที่ข้าเห็นเป็นผีงั้นรึ?”“จะไม่ใช่ได้อย่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 724

    “สร้างสะพานลอยเช่นนี้ กองกำลังเมืองเตียนตูฝั่งตรงข้ามคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆหรอกกระมัง”“พวกเจ้าพูดถูก” เฉินฝานกล่าว “กองกำลังเมืองเตียนตูคงไม่ให้พวกเราสร้างได้อย่างสบายๆ ดังนั้นที่พวกเราสามารถสร้างได้เป็นสะพานลอยใต้น้ำ”เฉินฝานนำแผนที่ออกมา มือวางไว้ที่แม่น้ำลวี่สุ่ย “ตรงส่วนนี้ พื้นที่แม่น้ำค่อนข้างแคบ สายน้ำก็ค่อนข้างไหลเชี่ยวเช่นกัน กองกำลังเมืองเตียนตูจะต้องคาดไม่ถึงว่าพวกเราจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเป็นแน่ ดังนั้นช่วงนี้การลาดตระเวนของกองกำลังเตียนตูต้องไม่เข้มงวดเพียงนั้นเป็นแน่ ความสามารถทางน้ำของกองกำลังหญิงยอดเยี่ยม พวกนางสามารถฉกฉวยโอกาสยามราตรี ดำน้ำลงไปในแม่น้ำสร้างสะพาน”ในตอนแรกที่ฝึกกองกำลังหญิง ตามปกติแล้วก็ฝึกตามที่หน่วยรบพิเศษฝึกฝน ดังนั้นการดำน้ำสร้างสะพานประเภทนี้ชำนาญเป็นธรรมดาอยู่แล้ว“สหายกองกำลังลาดตระเวน เพียงแค่ตระเตรียมเถาวัลย์และกิ่งไม้ให้พร้อมก็ใช้ได้แล้ว”ขั้นตอนในการสร้างสะพาน เป็นดังที่เฉินฝานคาดการณ์ไว้ กองกำลังเมืองเตียนตูคาดไม่ถึงว่าพวกเฉินฝานจะกลับมาบุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัว และสิ่งที่คาดไม่ถึง คิดเหนือชั้นไปอีก คือพวกเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 723

    “ใต้เท้าเฉิน ไยเจ้ายังคิดที่จะล้อเล่นอีก!” เหอกังสีหน้าจริงจัง เขาออกคำสั่งกับเหอจื่อหลิน “จื่อหลิน เจ้าปกป้องใต้เท้าเฉินให้ออกจากป่าไปในคืนนี้ มุ่งหน้าสู่หรงตู”“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้า...”“ใต้เท้าเฉิน ข้ารู้ว่าเจ้าอยากอยู่ ทว่าพวกเราไม่สามารถเสี่ยงอันตรายเรื่องนี้ได้ หากสูญเสียเจ้าไป ต้าชิ่งของพวกเราก็ถึงจุดจบจริงๆแล้ว”เหอกังพูดขัดคำพูดเฉินฝานก่อนที่จะออกเดินทางครั้งนี้ ฉินเย่ว์เหมยลอบนัดพบพ่อลูกตระกูลเหอลับๆ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้นให้พ่อลูกตระกูลเหอต้องปกป้องชีวิตของเฉินฝานไว้กล่าวว่า หากไร้ซึ่งเฉินฝาน ต้าชิ่งก็สูญสลายเช่นกันคำพูดของฉินเย่ว์เหมย เหอกังเห็นด้วยทั้งหมดตอนนี้ต้าชิ่งมีทั้งศึกภายในและภายนอก ขุนนางทุจริตกุมอำนาจ หากไม่มีเฉินฝาน ก็มิมีใครสามารถต่อกรกับเสิ่นหมิงหยวนได้“ท่านแม่ทัพใหญ่!” เฉินฝานทำมือเคารพให้เหอกัง “ขอบคุณความไว้วางใจของท่านแม่ทัพใหญ่ที่มีต่อข้าน้อย ในเมื่อท่านแม่ทัพคิดว่าข้าน้อยสามารถช่วยต้าชิ่งให้รอดพ้นได้ เช่นนั้นไยไม่เชื่อมั่นให้ข้าน้อยทำให้กองกำลังเมืองเตียนตูพ่ายแพ้กันล่ะ?”“ใต้เท้าเฉิน ข้าเชื่อมั่นว่าท่านมีความสามารถเช่นนั้นอยู่แล้ว ทว่าการจะหล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 722

    ระเบิดดินที่ฝังไว้ จวนจะได้แผลงฤทธิ์แล้ว ม้าและพลทหารที่ถูกระเบิดจนลอยขึ้นจะบรรเทาการปิดล้อมของกองกำลังเมืองเตียนตูได้ชั่วคราวผ่านไปไม่นานนัก ท้องฟ้าก็มืดสนิทเมื่อท้องฟ้ามืดแล้ว เหล่าทหารลาดตระเวนล้วนถอนหายใจอย่างโล่งอกพวกเขาปลอดภัยชั่วคราวแล้วต่อให้กองกำลังเมืองเตียนตูจะเก่งกาจเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาญกล้าบุกโจมตีเข้ามาในป่าตอนกลางคืนเหยียนเชียงที่เป็นผู้นำกองกำลังหนึ่งแสนคนของเมืองเตียนอันก็ไม่ได้รีบร้อน ตอนที่ฟ้ายังไม่ทันมืด เขาก็ออกคำสั่งให้คนไปตั้งค่ายทหารแล้ว“ท่านเจ้านครฝ่ายขวา เส้นทางที่จะระเบิด จวนจะไม่มีแล้ว กองทัพของข้าสามารถโจมตีตามไปได้ จัดการพวกเขาให้หมด เพื่อขจัดอุปสรรคในการเข้าเมืองหลวงของท่านอ๋อง”แม่ทัพสองสามคนเป็นฝ่ายขอออกทัพกับเหยียนเชียงก่อนปัญญาชนหน้าใสเฉินฝานอยู่ในป่า จับเป็นเขาได้สามารถได้เงินห้าหมื่นตำลึงทองการบุกเข้าป่ายามราตรีเรื่องต้องห้ามเช่นนี้ กองทัพเมืองเตียนตูมิได้หวาดกลัวอย่างไรเสียก็เป็นเงินห้าหมื่นตำลึงทองเชียวนะใครจะไม่อยากได้กันเหยียนเชียงจ้องแม่ทัพที่มาขอออกรบก่อนเหล่านั้น “เรื่องที่ว่าจะขจัดอุปสรรคทางไปเมืองหลวงให้ท่านอ๋องอะไ

DMCA.com Protection Status