Share

บทที่ 318

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หลี่ชางหัวเราะด้วยความเย็นชา “พวกดื้อด้าน เจ้าคิดว่าถ่วงเวลาแล้ว ข้าจะไม่จับเจ้าเช่นนั้นหรือ?”

“ใต้เท้า~”

“เฉินฝานเมาจนยืนทรงตัวไม่อยู่ เขายืนพิงโต๊ะพร้อมกับกอดไหสุรา พวงแก้มแดงระเรื่อ “หากท่านมีหลักฐาน ท่านไม่ต้องจับข้า ข้ายินดีไปกับท่าน!”

“พูดจาเหลวไหล! คำสารภาพของหลี่ซานเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดแล้วไม่ใช่หรือ?”

“อย่าฟังคำพูดเหลวไหลของเขา เอาตัวเขาไป!”

เฉินฝานกระแทกไหสุราลงบนโต๊ะอย่างแรง ไหสุรากระแทกโต๊ะ ส่งเสียงตึง

ทหารที่พุ่งตัวมาทางเขา หลังจากได้ยินเสียง หยุดฝีเท้าลงอย่างไม่อาจควบคุมได้

แม้พวกเขาไม่เคยประจันหน้ากับเฉินฝานมาก่อน แต่เมื่อครู่ตอนเฉินฝานวิ่งผ่านพวกเขา พลังแข็งแกร่งในตัวเฉินฝาน พวกเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจน

ฝีมือของเฉินฝาน ไม่ธรรมดาแน่นอน

เฉินฝานที่สองมือวางบนไหสุรา มองหลี่ชางบนหลังม้าจากที่ไกลๆ เขาหัวเราะแล้วพูด “ดูเหมือนว่า หลายปีมานี้ชาวบ้านในหรงตูของเรามีชีวิตที่ดี แม้กระทั่งนักโทษก็น้อยลงแล้ว”

ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเฉินฝาน ต่างรู้สึกแปลกใจ

หลายปีมานี้เศรษฐกิจย่ำแย่ โจรและขโมยชุกชุมกว่าเมื่อก่อนมาก เฉินฝานพูดจาเหลวไหลที่นี่ เพื่อถ่วงเวลาจริงๆ

สีหน้าของนายอำเภ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (4)
goodnovel comment avatar
นายประสิทธิ์ สอนสุข
มันชักจะทุเรตขึ้นเรื่อยๆแล้วนะสารพัดที่ทำกับภูบริโพค สาธุๆๆๆๆๆ
goodnovel comment avatar
ธเนศ เนศ
มีเเต่น้ำไม่มีเนื้อ 555
goodnovel comment avatar
หนุ่ย ป่าติ้ว
เบื่อ...จะลบทิ้งแล้วล่ะ ปรับปรุงหน่อยนะ ถึงจะแปลมาแล้วอันไหนเยิ่นเย้อ ไม่มีสาระก็ตัดออกบ้าง เดี๋ยวคนอ่านจะหนีกันหมด
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 319

    กระดาษข้อสอบกองโต“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก!” หลี่ชางนับทีละแผ่นหลังจากเขานับเสร็จ เขายื่นกระดาษข้อสอบให้จางหย่งชุนจางหย่งชุนรับกระดาษข้อสอบเอาไว้ แสดงให้ทุกคนดูทีละแผ่น“นี่เป็นข้อสอบระดับอำเภอและระดับมณฑลไม่ใช่หรือ?”เมื่อปัญญาชนเห็นกระดาษข้อสอบเหล่านั้น ร้องเสียงดัง“แค่ว่าลายมือไม่ค่อยเหมือนกัน”“แน่นอนว่าย่อมไม่เหมือนกัน เมื่อครู่เจ้าไม่ได้ยินที่หลี่ซานพูดหรือ? ข้อสอบนี้เขาจ่ายเงินก้อนใหญ่จ้างยอดฝีมือในยุทธภพ ลักลอบเข้าไปในที่ทำการแล้วคัดลอกไม่ใช่หรือ?“เฉินฝานขโมยข้อสอบ แล้วยังคิดอยากจะปฏิเสธอีก!”“เขาเป็นคนชั่วช้าอยู่แล้ว หลายเดือนมานี้แกล้งทำตัวเป็นคนดี หลอกผู้คนมากมาย!”“เมื่อครู่เขายังกล้าสงสัยในตัวผู้ว่าราชการประจำมณฑล บอกว่าใต้เท้าทำคดีไม่เป็น? ช่างน่าขันเสียจริง ใต้เท้าขึ้นเป็นผู้ว่าราชการประจำมณฑลด้วยวัยเพียงแค่นี้ โง่เขลากว่าเขาที่เป็นแค่พ่อค้าขายปลาจอมขี้โกงเนี่ยนะ?”“เฉินฝาน มีครบทั้งพยานบุคคลและหลักฐานแล้ว เจ้ายังมีอะไรพูดอีก?”หลี่ชางไม่ต้องพูด พวกปัญญาชนเหล่านั้นก็ถามเฉินฝานแล้ว“กระดาษข้อสอบนี้ไม่ใช่ของพวกข้า มีคนป้ายสี คิดอยากจะทำร้ายนายท่านของข้า พ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 320

    ภายใต้คำสั่งของหลี่ชาง จางหย่งชุนเหยียบแผ่นหลังของเฉินฝาน ยิ่งเฉินฝานอยากลุกขึ้นมาเท่าไหร่ จางหย่งชุนก็ออกแรงเหยียบมากขึ้นเท่านั้น“สมน้ำหน้าจริงๆ!”“ขโมยข้อสอบควรมีจุดจบแบบนี้”“ครุ่นคิดดูแล้วหากไม่ใช่เพราะผู้ว่าราชการประจำมณฑลหลักแหลม ตอนนี้เขายังนั่งอยู่บนโต๊ะ ดื่มด่ำกับสายตาอิจฉาของผู้คนโดยไร้ยางอาย”“ถุย! อันดับหนึ่งเนี่ยนะ!”“ก็แค่โจรคนหนึ่ง! ถุย!”“ถุย!”นำโดยปัญญาชนเหล่านั้น มีคนเดินมาถ่มน้ำลายบนตัวเฉินฝานไม่หยุด“สารเลว! สารเลว!”ดวงตาของฉินเย่ว์เจียวเต็มไปด้วยเส้นเลือด กัดฟันแน่นหากตอนนี้นางไม่ถูกจับมัดเอาไว้ นางต้องคว้าธนูมายิงให้ตายทีละคนแน่นอน“อย่า! นายท่านของข้าไม่ได้ขโมยข้อสอบ เขาถูกใส่ร้าย!”ฉินเย่ว์โหรวกรีดร้องจนแทบขาดใจ“พวกขุนนางชั่ว นี่เป็นการใส่ร้ายป้ายสี ยังไม่ผ่านการตรวจสอบแน่ชัด จับคนสุ่มสี่สุ่มห้า ขุนนางชั่ว!”ฉินเย่ว์ฉู่ตัวเล็กนิดเดียว แต่เสียงกลับดังชัด ดึงดูดสายตาของหลี่ชางหลี่ชางไม่โมโหแต่กลับหัวเราะ เขาเชิดคางขึ้นเล็กน้อย บอกให้ทหารปล่อยตัวสามพี่น้องสามพี่น้องที่เพิ่งถูกปล่อยตัว ไม่สนใจเชือกที่มัดพวกนางเอาไว้ พุ่งตัวไปหาเฉินฝาน ใช้ร่างก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 321

    “ปกป้องนายท่าน!”หลี่ชางถอยกลับเพื่อป้องกันอย่างเร่งรีบกลุ่มทหารที่ยืนล้อมเฉินฝานถอยกลับไปพรวดพราดต่อหน้าเฉินฝาน โดยล้อมรถม้าไว้ข้างในสามชั้นข้างนอกสามชั้นเฉินฝานมองกลุ่มทหารพวกนั้นแล้วส่ายหัวอีกครั้งทหารแบบนี้ ถ้าลงสนามรบ ยอมจำนนโดยตรงเถอะทักษะไม่ดี จิตสำนึกก็ไม่ดีสมองของพวกเขาอยู่ในรถม้าคันนั่น แต่กลับล้อมเขาโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดหากว่า......ของชิ้นนั้นไม่ใช่หิน แต่เป็นลูกธนูคันหนึ่ง คนในรถม้ายังสามารถมีชีวิตรอดได้?ปกป้องสมองไม่ได้ ยังคิดไปสู้รบกับผีอะไร!เฉินฝานทำได้เพียงปลอบใจตนเองเงียบ ๆ ในใจ ทหารที่ต่อสู้จริงๆ ไม่เป็นแบบนี้“ใคร?”หลี่ชางมองดูรอบ ๆ มองหาเสียงที่ดังเมื่อครู่นี้“เป็นไปได้อย่างไร......”คนบนรถม้าทำหน้าตกใจและรีบเปิดม่านรถม้าชายชราสวมชุดสีดำ มีผมสีเงินปรากฏตัวต่อหน้าสายตาทุกคน“เขาเป็นใคร? ใช่ใต้เท้าเจ้าเมืองหรือไม่?”ผู้คนมองชายชราด้วยความสงสัย คนส่วนใหญ่ที่นี่เป็นชาวบ้านที่อยู่รอบ ๆ ต่อให้เป็นตระกูลที่ร่ำรวยในอำเภอผิงอันก็มีเพียงไม่กี่ตระกูลเคยพบท่านเจ้าเมือง“ไม่ได้สวมเครื่องแบบราชการ อาจไม่ใช่ท่านเจ้าเมือง”วินาทีที่ชายชราเปิดม่านรถม้า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 322

    “เมื่อดูปฏิกิริยาของบัณฑิตเริ่นที่มีต่ออาจารย์เฉียน ข้ารู้สึกว่าอาจารย์เฉียนก็คือบัณฑิตเฉียน!”“ดังนั้น......นี่เป็นพิสูจน์ทางอ้อมได้ว่าเฉินฝานไม่ได้ขโมยข้อสอบ อาจารย์ของเขาเป็นถึงบัณฑิตเฉียนเลยนะ”“เอ่อ จะพูดแบบนี้ไม่ได้กระมัง ถึงแม้บัณฑิตเฉียนเยี่ยมยอดมาก ก็ไม่สามารถทำให้คนที่เพิ่งเรียนคัมภีร์สามอักษรจบสอบได้คะแนนเต็มนี่”“หรือไม่ นี่คือความเก่งกาจของบัณฑิตล่ะ?”“โอ้แม่ข้า ถ้าเป็นเช่นนี้จริง ข้าจะย้ายไปสถานศึกษาของหมู่บ้านซานเหอทันที”“อย่าเพ้อฝันเลยน่า ข้าได้ยินมาว่า บัณฑิตเฉียนไม่รับนักเรียนง่าย ๆ หรือไม่เจ้าก็ดูสิ ในบรรดานักเรียนของหมู่บ้านซานเหอ หลายปีมานี้เหตุใดถึงมีเพียงเฉียนหย่งเหนียนคนเดียวที่สอบผ่านถงเซิงอย่างยากลำบาก”“แล้วเฉินฝานคนนี้มีอะไร? เมื่อก่อนเขาเป็นแค่อันธพาลไม่มีอนาคต แต่โชคกลับมาตกที่เขาจริง ๆ!”เช่นเดียวกับเหตุการณ์ประกาศรายชื่อในเวลานั้น ปัญญาชนเหล่านั้นแสดงความอิจฉาต่อเฉินฝานอีกครั้งพวกเขาพยายามอย่างหนัก ตั้งใจเรียนนานถึงเพียงนั้น แต่เหตุใดถึงไม่มีความโชคดีเลย?สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย“ข้าว่าพวกเจ้าด่วนสรุปเร็วเกินไป” มีปัญญาชนบางคนเห็นต่าง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 323

    “อะไรนะ?”คำพูดของเฉินฝานเป็นเหมือนระเบิดลูกใหญ่อีกลูก ทุกคนต่างมองเฉินฝานอ้าปากตาค้างการประลองระหว่างถงเซิงผู้หนึ่งกับบัณฑิตผู้มีคุณธรรมดีเด่น มีชื่อเสียงมีผลงานยิ่งใหญ่และเป็นที่นับถือ?“ข้าไม่ได้ฟังผิดใช่หรือไม่ เฉินฝานบอกว่าจะแข่งกับบัณฑิตเริ่น?”“เจ้าไม่ได้ฟังผิด”“ขโมยคำถามไปสองสามข้อและจำคำตอบได้สองสามข้อ ก็คิดว่าตนเองมีความรู้มากมายแล้วรึ?”“ที่แท้อาการเพ้อเจ้อฝันสูง ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ก็เป็นโรคชนิดหนึ่ง ดูท่าทางแล้วป่วยหนักไม่เบา ข้าว่าหมอส่วนใหญ่คงส่ายหัวเมื่อเห็นเขา”“ฮ่า ๆ ๆ ไม่อาจรักษาได้แล้ว!”ผู้คนเริ่มจากอาการตื่นตกใจจนถึงหัวเราะเยาะเยาะเย้ยและดูถูกเฉินฝานยิ้มเบา ๆ และทำเหมือนไม่ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะเหล่านั้น เขาสะบัดแขนเสื้ออย่างไม่สนใจ“เอาสุรามา!”“สุราที่ท่านขอ!”คนที่นำโถสุราให้เฉินฝานคือทหารล้อมรอบเขาและต้องการจับเขา“อืม!”จนกระทั่งจางหย่งชุนส่งเสียงให้สัญญาณ ทหารที่ยื่นโถสุราให้เฉินฝานถึงตรงหน้าถึงมีสติอีกครั้งพูดได้เพียงว่า พลานุภาพของเฉินฝานแข็งแกร่งเกินไป คำว่าเอาสุรามาของเขา เสียงตะโกนนั้นยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม ฟังแล้วสามารถยอมจำนนได้อย่างไม่รู้ต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 324

    “ข้าว่าเจ้ายังเหมือนตอนนั้นไม่เปลี่ยน ไม่มีอะไรในสมอง กลัวสู้ไม่ไหว เลยกลับไปใช้กลอุบายเก่า ๆ วิธีสกปรก ๆ แบบนี้อีก”“ข้าจะบอกอะไรเจ้านะ เจ้ามันคือขยะ”เริ่นรุ่ยฟ่านไม่พูด อาจารย์เฉียนก็ด่าไม่หยุดและไม่ไว้หน้าเริ่นรุ่ยฟ่านแม้แต่เล็กน้อย“ศิษย์พี่ ในฐานะผู้พ่ายแพ้ของข้า ถ้าไม่ยอมรับก็ทนเอา!”เริ่นรุ่ยฟ่านแสดงสีหน้าร้ายกาจ “ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หัวหน้าสำนัก ข้าก็คง……”“คงทำอะไร? เจ้ามันจอมปลอม ไม่เช่นนั้นเจ้าก็แข่งกับนักเรียนของข้าตอนนี้ ถ้าเจ้าไม่แข่ง เจ้าก็คือไอ้งั่ง!”“แปะ ๆ ๆ!”บางคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้นรู้สึกชอบใจในคำพูดอันเกรี้ยวโกรธของอาจารย์เฉียนและอดไม่ได้ที่จะปรบมือให้อาจารย์เฉียนหลังจากปรบมือเสร็จก็พบว่าไม่ควรทำเช่นนั้น พวกเขาจึงหยุดทันทีชาวบ้านที่มาร่วมงานเลี้ยง รวมถึงคนที่หลี่ชางกับหลูเฉิงกวงพามาด้วย ทางเข้าหมู่บ้านซานเหอ มีผู้คนเกือบพันคนยืนอยู่ วินาทีนี้ไม่มีแม้แต่เสียงร้องอีกา ทุกอย่างเงียบราวกับไม่มีคนสายตาของทุกคนจับจ้องไปที่เริ่นรุ่ยฟ่านเมื่อมาถึงขั้นนี้ ทุกคนต่างหวังว่าเริ่นรุ่ยฟ่านจะแข่งกับเฉินฝานแน่นอนว่า คนส่วนใหญ่ต้องการเห็นว่าเริ่นรุ่ยฟ่านสั่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 325

    เริ่มแล้ว เริ่มแล้วมีผู้คนนับพันคนในพื้นที่เปิดโล่งตรงทางเข้าหมู่บ้านซานเหอ เงี่ยหูฟังพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายนี่เป็นการแข่งขันระหว่างปัญญาชนทั่วไปกับบัณฑิตครั้งแรกนับตั้งแต่การสถาปนาราชวงศ์ต้าชิ่งผู้คนต่างสงสัยว่าเฉินฝานมีความสามารถแท้จริงหรืออวดดีจากน้ำเมาเวลานี้ พระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปทางทิศตะวันตก ภายใต้การหักเหของแสงตะวัน เห็นฝุ่นที่ฟุ้งกระจายและความสลัวที่ลึกซึ้ง ไม่มีสิ่งไหนไม่ชวนให้นึกถึงสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้นในสนามรบเริ่นรุ่ยฟ่านที่แต่งกายชุดดำ ยืนน้อมรับการประลองท่ามกลางสายลมราวกับท่านนายพลผู้สง่างามเฉินฝานที่อยู่ตรงข้ามเขา พิงโถสุราอย่างสบาย ใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาพร่ามัวจากฤทธิ์สุรา สภาพของเขากล่าวได้ว่าทุลักทุเลไม่เริ่มการแข่งขัน คนส่วนใหญ่มีคำตอบในใจแล้ว“ใช้คำถามของอาจารย์ น่าแข่งขันอย่างไร? ข้าขอเตือนเจ้าไว้ก่อน อย่าคิดถ่วงเวลา!” หลี่ชางอยู่ด้านข้างและกล่าวเสียงโมโห“ไม่มีมารยาท อาจารย์ของเจ้าสอนความรู้แก่เจ้า ให้เจ้ารู้จักท่องแต่จำหนังสือ แต่ไม่สอนเรื่องมารยาทและความละอายใจแก่เจ้ารึ?”ไม่สนใจหรอกว่าเป็นใต้เท้าเจ้าเมืองอะไร เวลาอาจารย์เฉียนเอ่ยปาก เขาไม่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 326

    เป็นไปได้อย่างไร นักเรียนในสถานศึกษาของหมู่บ้านยิ่งรู้สึกเหลือเชื่อพวกเขารู้จักเฉินฝานตั้งแต่เด็ก ก่อนเข้าเรียนในสถานศึกษา เขารู้จักตัวอักษรไม่กี่ตัวเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?หรือว่าอาจารย์เฉียนแอบสอนเขาลับหลังจริง ๆ?เฉินฝานเพิกเฉยต่อความประหลาดใจเหล่านั้นและท่องต่อ “《คัมภีร์จงยง》บทที่35 กล่าวว่า: ผู้ปราศจากกังวล เห็นจะมีแต่เหวินหวาง มีหวางจี้เป็นบิดา มีอู่หวางเป็นโอรส บิดาวางรากฐาน บุตรสานปณิธานอู่หวางสืบตำแหน่งจากไท่หวาง หวางจี้และเหวินหวาง รบพุ่งจนครองใต้ฟ้า มิไดเสียนามกระเดื่องในใต้ฟ้า สูงศักดิ์ถึงขั้นโอรสสวรรค์ มั่งคั่งด้วยมีสี่สมุทร มีศาลบูชา อนุชนเซ่นไหว้ต่อมา……”“......《หนังสือแห่งพิธีกรรม》บทที่221: ว่ากันว่าคนโบราณมารยาทในการเข้าพบ หากเป็นครั้งแรก ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจะรายงานชื่อให้ท่านทราบผ่านผู้แนะนำ’ ห้ามเข้าพบเจ้านายโดยข้ามผู้แนะนำ หากเข้าพบผู้มีสถานะเท่าเทียม ควรกล่าว: ‘ข้ามาเข้าพบท่านเป็นการเฉพาะ’ หากเข้าพบผู้ยากจะได้เจอ ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจะรายงานชื่อให้ท่านทราบ’ หากเข้าพบผู้พบกันบ่อยครั้ง ควรกล่าว: ‘ขอบคุณที่กล่าวแจ้งบ่อยครั้ง’ คนตาบอดขอเข้าพบ ควรกล่าว: ‘ข้าหวังจ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status