Share

บทที่ 295

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เช่นเดียวกับการประกาศผลระดับอำเภอ เมื่อเฉินฝานมาถึงสถานที่ประกาศผล เขาก็ดึงดูดความสนใจของทุกคน

“เสี่ยวฝาน เสี่ยวฝาน!”

ปัญญาชนที่สอบระดับอำเภอไม่ผ่านแต่ยังไม่กลับเรือน พลันรุมล้อมเฉินฝานและดันเขาจนมาอยู่ใต้ป้ายประกาศ

“เสี่ยวฝาน อย่ายืนไกลนักสิ ใช่ ยืนอยู่ที่นี่แหละ ตำแหน่งนี้มองเห็นชัดดี”

“ใช่ ๆ พวกเราอยากเห็นเสี่ยวฝานอยู่ในรายชื่ออีกครั้ง”

ปัญญาชนเหล่านี้ต่างมีความคิดของตนอยู่ในใจ

มีคนส่วนน้อยที่หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเฉินฝานจะอยู่ในรายชื่ออีกครั้งและอยากได้รับโชคที่อยู่บนตัวเฉินฝานบ้าง

แต่คนส่วนมากมาดูเรื่องตลกของเฉินฝาน

พวกเขายังเชื่ออย่างยิ่งว่าเฉินฝานไม่มีทางโชคดีสองครั้ง!

“อำเภอผิงอัน ประกาศผล!”

เมื่อนายอำเภอประกาศลั่น นักการในศาลาว่าการก็นำม้วนรายชื่อผู้สอบผ่านระดับมณฑลแขวนไว้บนป้ายประกาศ

เมื่อม้วนรายชื่อถูกเปิดออก ผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็เบิกตากว้างที่สุดและอ่านชื่อทีละคน

บรรยากาศคล้ายกับการสอบระดับอำเภอ ผู้ที่อยู่ในรายชื่อส่งเสียงโฮ่ร้องดีใจ ในขณะที่ผู้ไม่มีรายชื่อร้องไห้น้ำตาไหลอย่างขมขื่น

แต่ก็แตกต่างจากการสอบระดับอำเภออย่างสิ้นเชิง ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่เข้าสอบมีเพียง
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter

Kaugnay na kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 296

    ม้วนหนังสือคลี่ออกช้า ๆ“ตุบ!”“ตุบ ตุบ!”มีคนล้มลงทีละคน“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ครั้งนี้ใต้เท้าดูผิดแน่ ๆ”“เฉินเจียงกับเฉินฝานเป็นลุงกับหลานชาย อายุใกล้เคียงกัน ใต้เท้าสลับเฉินเจียงกับเฉินฝานหรือเปล่า?”“ใช่ ต้องเป็นเช่นนั้นแน่”เมื่อต้องเผชิญกับความสงสัยของทุกคน เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว นายอำเภอสั่งให้คนนำกระดาษสอบของเฉินฝานออกมาติดอย่างรวดเร็วลายมือบนกระดาษ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้ คำตอบไม่ได้ถูกต้องเพียงเจ็ดแปดส่วน แต่ถูกต้องทั้งหมดครั้งนี้เหตุผลที่เฉินฝานทำด้วยความสามารถทั้งหมดที่ตนมี เพียงเพื่อต้องการให้เรื่องเศร้าอย่างเถียนเสี่ยวอวี่เกิดขึ้นน้อยลง“หากมองจากข้อสอบ เฉินฝานได้อันดับหนึ่งย่อมไม่ใช่ปัญหา เฉินฝานได้อันดับหนึ่ง เช่นนั้นเฉินเจียง……”“สอบตก?!”ทุกคนอุทานอย่างไม่เชื่อ!อันดับสามของการสอบในระดับอำเภอ ประกอบกับคะแนนพิเศษจากการมีบุตรชายสองคนเช่นนี้แล้วยังสอบตกอีก?เฉินเจียงที่ยังยืนรอให้ผู้คนเข้ามาแสดงความเคารพอย่างสุภาพ หน้าซีดเผือดในทันใดเขาพึมพำในปากและร่างกายของเขาสั่นเทา“เป็นไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไร”เขาสอบตกได้อย่างไร ไ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 297

    ฉินเย่ว์โหรวก้มหน้าลงอย่างเขินอาย นางยังเขินอายอยู่เล็กน้อย“พี่สะใภ้!”เฉินเอ้อร์ยาผลักฉินเย่ว์โหรวจากข้างหลังจนไปอยู่ตรงหน้าเฉินฝาน “อย่ามัวแต่อายอยู่เลย ช่วงนี้ เจ้าคิดถึงพี่ฝานถึงกระทั่งนอนฝันละเมอเรียกชื่อเขาออกมา”“ขะ ข้าเปล่านะ!”ฉินเย่ว์โหรวเป็นคนหน้าบาง เมื่อเฉินเอ้อร์ยากล่าวแบบนี้ ใบหน้าของนางก็แดงจนเลือดแทบซึม“เจ้าทำ เจ้าทำนั่นล่ะ ตอนกลางคืนข้าได้ยินชัดเจน”“ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน พี่สี่ พี่ไม่เพียงแต่เรียกนายท่าน แต่ยังละเมอพูดว่าคิดถึงนายท่านจวนจะตายแล้วด้วย” ฉินเย่ว์ฉู่ยิ้มและช่วยเฉินเอ้อร์ยาพูดไม่เพียงแต่เป็นพยาน แต่ยังช่วยใส่สีตีไข่“พวก พวกเจ้าพูดเพ้อเจ้อ”ฉินเย่ว์โหรวกระทืบเท้าอยากวิ่งหนี กลับถูกเฉินฝานคว้าไว้“ขอข้าดูหน่อย คิดถึงข้าจวนจะตายนั้นเป็นอย่างไร?”“นายท่าน!”ฉินเย่ว์โหรวที่ทนเขินไม่ไหวจึงมุดศีรษะเข้าไปในอ้อมแขนของเฉินฝาน และทุบตีเฉินฝานด้วยหมัดเล็กของนางไม่หยุด “หยุดพูดนะเจ้าคะ หยุดพูด!”“เอาล่ะ ๆ ข้าจะไม่พูดอีกแล้ว”เฉินฝานปล่อยฉินเย่ว์โหรวเพราะว่าหางตาของเขาเห็นเฉินผิงและภรรยาของเขาพวกเขายืนอยู่ด้านนอกของประตูและไม่กล้าเดินเข้ามาหลังจา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 298

    เพียงครู่เดียวชายชราในชุดขาวก็เดินมาถึงตรงหน้าเฉินฝานเฉินฝานมองชายชราที่ฉีกยิ้มและยืนอยู่ตรงหน้าเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าวันนี้ชายชราขาวทั้งตัวจริง ๆ เสื้อสีขาว เคราสีขาว ผมสีขาว ใบหน้าก็ล้างอย่างขาวสะอาดกับหลายครั้งก่อนหน้านี้ เสื้อผ้าลินินสีเทาทั้งตัว รูปลักษณ์เปรอะเปื้อนต่างกันอย่างสิ้นเชิงชายชราลูบเคราเบา ๆ และยืนตรงนั้นท่าทางได้ใจเล็กน้อยเขากำลังรอให้เฉินฝานกล่าวชื่นชมเพราะว่า ปกติถ้าเขาแต่งตัวแบบนี้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คน…...“ทำไม ฟ้ายังไม่มืดสนิท ท่านก็แต่งตัวเป็นผีมาหลอกคนแล้วรึ?”“นี่ข้า......”ชายชราเบิกตากว้างราวกับตาวัว สองมือขยับมือขึ้นลงบนตัวไม่หยุด “เห็นอยู่ว่ามีความลอยล่องดุจเทพเซียน!”“เทพเซียนมองไม่ออก แต่ลอยล่องนั้นคล้ายอยู่พอสมควร!”“พรวด!”คนใช้ที่อยู่ข้างชายชราอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงหัวเราะ“ตลกมากไหม?” ชายชราหันศีรษะและจ้องเขม่นคนใช้ส่ายหัวไม่หยุดและกล่าวน้ำเสียงคลุมเครือ “ไม่ตลกขอรับ”“แล้วเมื่อครู่เจ้าหัวเราะอะไร?”“เปล่าขอรับ ข้าคันปาก เลยส่งเสียงออกมาอย่างอดไม่ได้ขอรับ”“คันปาก? ข้าว่าเจ้าคันผิวหนังนะ”ทันใด ชายชราพลันก้มถอดรองเท้าของตนเองแล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 299

    “มีจดหมายจากบ้านเกิดขอให้ข้ากลับไป!”เมื่อพูดถึงบ้านเกิด ชายชราไม่ยิ้มทะเล้นอีกต่อไป สายตาอันแหลมคมแวบผ่านไปเฉินฝานจับได้พอดีคงมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นที่เมืองหลวงมีการรุกรานจากศัตรู? มีผู้ทรยศก่อความวุ่นวาย? มีภัยพิบัติเกิดขึ้น?เหอะ!เฉินฝานเยาะเย้ยตนเองตอนนี้เขาเป็นแค่ถงเซิงคนหนึ่ง สถานะสูงกว่าชาวบ้านทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้นเรื่องของบ้านเมือง เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเล่า“เกี่ยวอะไรกับข้าล่ะ? ข้าไม่ใช่พ่อท่านเสียหน่อย ท่านจะไปไหนไม่ต้องมารายงานข้าหรอก”คนใช้ที่ยืนข้าง ๆ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ของเฉินฝานก็รู้สึกมีเลือดพุ่งขึ้นศีรษะโธ่เอ๋ยสะใจจริง ๆเขาอยากพูดกับชายชราแบบนี้ถึงกระทั่งเก็บไปฝันเอ่อ......เขาก็พูดได้แต่ในฝันเท่านั้นแหละขนาดนี้แล้วชายชราคงทนไม่ไหวแล้วสิทนไม่ไหวก็มีประโยชน์ คนใช้แอบตัดสินใจช่วยเฉินฝานไปแล้วช้าก่อน คำพูดที่ชายชราสั่งให้เขาสั่งสอนเฉินฝาน เขาคงไม่สั่งสอนจริง ๆ หรอกกระมัง“ข้า......”ชายชราแสดงหน้าเศร้าโศกคนใช้ถูกโจมตีอย่างหนักอีกครั้ง คำพูดของเฉินฝาน ไร้ความปรานีมากถึงเพียงนั้น จนเขาคิดว่าชายชราจะโมโห ต่อให้ไม่โมโหอย่างรุนแรง แต่ก็น่าจะโมโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 300

    “เย่ว์โหรว”เฉินฝานเรียกฉินเย่ว์โหรวที่อยู่ไกลเขามากที่สุดให้ปูผ้าห่มให้เขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาดวงตาคู่งามของฉินเย่ว์โหรวมองขึ้นมาแล้วตกลงบนตัวเฉินฝานไม่ถึงหนึ่งวินาที นางก็ก้มศีรษะลงทันที “ข้าน้อยอยู่เจ้าค่ะ นายท่านมีอะไรจะรับสั่งหรือเจ้าคะ?”ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือกิริยาท่าทาง ก็ล้วนไม่มีที่ติเพียงแต่......เฉินฝานรู้สึกได้ถึงความผิดปกติสุภาพมากเกินไป ไม่เหมือนสามีภรรยา แต่เหมือนสาวใช้ที่คอยรับใช้เขามากกว่ายอมจำนน แต่ทำตัวห่างเหินฉินเย่ว์โหรวเคยปฏิบัติกับเขาเช่นนี้มาก่อน ตอนนั้นเขาเพิ่งข้ามมิติมาที่นี่และเจ้าของร่างเดิมขายนางให้กับหอนางโลมอี๋ชุนย่วนนางในเวลานั้น ทั้งไม่พอใจ เกลียดชังและกลัวเขา นางปฏิบัติเช่นนั้นย่อมเป็นเรื่องปกติแต่ตอนนี้......เฉินฝานพยายามทบทวนทุกสิ่งที่เขาทำและคำพูดที่กล่าวออกไป ก่อนที่เขาเดินทางออกไปสอบขุนนาง รวมถึงสิ่งที่ทำไปหลังจากกลับมาถึงยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนงุนงงเขาไม่เคยล่วงเกินฉินเย่ว์โหรวและไม่เคยพูดรุนแรงใด ๆ กับนาง“นายท่าน ท่านมีอะไรจะรับสั่งข้าน้อยหรือไม่เจ้าคะ?”เมื่อเห็นเฉินฝานไม่ส่งเสียง ฉินเย่ว์โหรวจึงถามอีกครั้ง“เอ่อ......”

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 301

    ฉินเย่ว์โหรวนับว่าเป็นคนที่หลับง่ายที่สุดในบรรดาสามพี่น้องตระกูลฉิน อีกทั้งท่าทางของนางก่อนหลับและหลังหลับก็ช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงนางเป็นคนที่สะดุ้งตื่นกลางดึกน้อยมาก แต่ท่านอนของนางกลับไม่เข้าท่าเอาเสียเลย นางมักจะชอบถีบผ้าห่ม หลังจากที่เฉินฝานข้ามมิติมา เขาต้องคอยหมั่นเข้ามาช่วยห่มผ้าให้นางอย่างน้อยหนึ่งถึงสองครั้งในทุกวันแต่ตอนนี้นางกลับไม่อยู่บนเตียงนางไปไหน? เกิดอะไรขึ้นเฉินฝานรีบกระโดดลงจากเตียงและวิ่งออกไปท้องฟ้ายามราตรีในคืนนี้ค่อนข้างมืดเป็นพิเศษ ไม่มีแม้แต่แสงดวงดาว ภายในลานกว้างก็มืดสนิท มองไม่เห็นอะไรเลยเฉินฝานวิ่งเข้าไปในครัวเป็นที่แรกแต่ภายในครัวกลับเงียบสงัด นอกจากหม้อและกระทะแล้วก็ไม่มีร่างเงาของฉินเย่ว์โหรวเลยสักนิดเฉินฝานวิ่งไปยังเล้าไก่นอกจากห้องครัวแล้ว สถานที่ที่ฉินเย่ว์โหรวมักจะชอบไปอยู่บ่อยครั้งก็คือเล้าไก่พี่น้องตระกูลฉินชอบกินไก่ที่สุด ในบ้านจะมีการฆ่าไก่เป็นประจำ แต่ในช่วงแรกที่เฉินฝานกลับมาจากการล่าสัตว์บนภูเขาหัวเสือพร้อมกับไก่ป่าที่เขาบอกว่าจะให้มันฟักไข่ออกมาไว้บำรุงร่างกายฉินเยว์โหรวตัวนั้น นางสั่งห้ามฉินเย่ว์เจียวฆ่ามันเด็ดขาดฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 302

    “อ่า?”เฉินฝานมองเด็กสาวที่กำลังเมามายตำหนิเรื่องที่เขาไม่อยากอยู่กับนางในอ้อมกอดของตัวเอง ในใจของเขาตอนนี้ทั้งโกรธทั้งจนปัญญา อีกทั้งความโกรธนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเรื่องเดียวที่แท้ ที่นางตีตัวออกห่างเขาเป็นเพราะความหึงหวงนี่เองก็ว่าอยู่ เพราะก่อนที่เขาจะส่งครอบครัวของเฉินผิง นางยังดี ๆ อยู่เลย พอเขาหันกลับมา นางก็เปลี่ยนไปทันทีคาดว่าในระหว่างที่เขาส่งครอบครัวของเฉินผิง ฉินเย่ว์เจียวและนางกันคุยเรื่องของเถียนเสี่ยวอวี่แต่...ความหึงหวงของเด็กสาวคนนี้ดูออกได้อย่างชัดเจน ราวกับคนขี้หึง หลังจากโดนกระทำจนตัวเองแตกเป็นเสี่ยง ๆนางจึงได้ลุกขึ้นมาดื่มเหล้ากลางดึกเช่นนี้“เหลวไหล!”เฉินฝานใช้นิ้วดีดหัวของฉินเย่ว์โหรวเสียงดัง “ทำไมข้าจะไม่ต้องการเจ้าเล่า สมองกลวง ๆ ของเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่?”เขาแค่คิดว่านางยังเด็กเกินไป อยากรอให้นางโตกว่านี้หน่อยก็เท่านั้นเขาไม่อยากให้นางตกอยู่ในอันตราย จึงพยายามข่มความคิดที่อยากได้ตัวนางเอาไว้เพราะยังเด็กนี่ไง ตอนนี้เฉินฝานจึงยังไม่อยากให้นางตั้งท้องเขาข้ามมิติมา ในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน มีหญิงสาวลาจากโลกนี้ไปในขณะคลอดลูกถึงสองคนแล้วเนื่อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 303

    “อื้อ....”ฉินเย่ว์โหรวที่ถูกโอบเอว ถือโอกาสตอนที่ถูกดึงตัวกลับมาใช้ปากประกบปากของเฉินฝานทันที“นายท่าน”เมื่อเห็นเฉินฝานนิ่งไม่ขยับ ความกล้าหาญของฉินเย่ว์โหรวก็ยิ่งทวีคูณริมฝีปากที่อ่อนนุ่มและหนุบหนับของนางขยับอยู่บนริมฝีปากของเฉินฝาน“นายท่านไม่ชอบโหรวเอ๋อร์จริง ๆหรือเจ้าคะ? แต่ตอนนี้โหรวเอ๋อร์ชอบนายท่านมากจริง ๆ นะเจ้าคะ”“นายท่าน ข้าไม่ได้แสนดีเหมือนกับพี่เถียน พี่เถียนเป็นบุตรสาวจากครอบครัวที่มั่งคั่ง มีการศึกษาและสุภาพ ส่วนข้าก็แค่หญิงสาวชาวไร่ ข้า....”เฉินฝานเชยคางของฉินเย่ว์โหรวขึ้น ให้นางและเขาได้สบตากัน “ต่อไปห้ามเจ้าพูดว่าตัวเองเช่นนี้อีก เข้าใจไหม? ในใจของข้า พวกเจ้าทุกคนเหมือนกัน ทุกคนเป็นภรรยาของข้า ไม่มีแบ่งแยกสูงหรือต่ำ”“เช่นนั้นทำไมนายท่านถึงไม่ต้องการข้า?”ภายใต้แสงไฟสีเหลืองเรืองรองจากตะเกียง ใบหน้าที่งดงามของฉินเย่ว์โหรวนั้นดูมัวหมอง ผิวพรรณที่ซีดขาวจู่ ๆ ก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อคล้ายดอกกุหลาบสีสันสดสวยแพรวพรายภายใต้การฉีดน้ำใครเห็นแล้วไม่อยากกัดบ้าง“ใครบอกว่าข้าไม่ต้องการเจ้า!” มือของเฉินฝานลูบไล้อยู่บนแผ่นหลังของฉินเย่ว์โหรว จากนั้นก็กล่าวด้วยน

Pinakabagong kabanata

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status