Share

บทที่ 1259

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เฉินฝานกับหวงหวั่นเอ๋อร์มองหน้ากัน ที่แท้นักฆ่าหญิงสามคนนั้นฆ่าคนแล้วจู่ ๆ ย้อนกลับมาอีกครั้ง ก็เพื่อทำให้ทหารเหล่านี้เข้าใจผิดคิดว่าพวกเขาคือฆาตกร

เฉินฝานก้าวไปข้างหน้า กวาดตามองที่ขุนพลที่เป็นหัวหน้า

ขุนพลผู้นั้นสวมชุดเกราะสีเงิน องคาพยพทั้งห้าบนใบหน้าดูเคร่งขรึมจริงจัง อีกทั้งยังดูเยาว์วัยเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่าเขาเพิ่งเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นขุนพล

เฉินฟานเลื่อนสายตาไปที่เอวของเขา

เขาเป็นร้อยโทของกองทหารรักษาการณ์เมืองหลวง ไม่ใช่ทหารจากกองทัพลาดตระเวน ไม่น่าแปลกใจที่เขาจะไม่รู้จักเฉินฝาน

เมื่อเสิ่นหมิงหยวนล้ม หลี่ชิ่งย่อมรักษาชีวิตเอาไว้ไม่ได้เช่นกัน ฉินเย่ว์เหมนประหารหลี่ชิ่งแล้วก็ให้เหอจื่อหลินดูแลกองทหารรักษาการณ์เมืองหลวง

“มัดนักฆ่าสองคนนี้ไว้ แล้วส่งตัวไปที่กรมอาญา!”

ขุนพลน้อยเยาว์วัยผู้นี้ตื่นเต้นขึ้นมา เขาเพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นานก็จับอาชญากรสำคัญแบบนี้ได้แล้ว

ในใจคิดเช่นนี้ ขุนพลน้อยถึงขนาดภาคภูมิใจอยู่บ้าง

ดูเหมือนว่าเขาจะยอดเยี่ยมไม่เบาเลย

“แกร๊ก!”

เฉินฝานไม่พูดอะไรเช่นกัน เขาเพียงแต่ถอดลูกกระสุนออกมา แล้วบรรจุเข้าไปอีกครั้ง

“ทะ ท่านอัครเสนาบดี!”

“เขาคือท่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1260

    พวกทหารถอนกำลังออกไปแล้ว เฉินฝานก็ออกไปรอเช่นกันเฉินฝานเพิ่งออกมาจากคฤหาสน์ ร้อยโทน้อยผู้นั้นก็ยกเก้าอี้หนึ่งตัวเข้ามาทันทีเขาใช้แขนเสื้อปัดเก้าอี้หลายรอบ จากนั้นค่อยเอ่ยด้วยความเคารพว่า “ใต้เท้า เชิญนั่งขอรับ”พอเฉินฝานนั่งลงแล้ว เขาเหลือบมองปืนกลพกในมือเฉินฝานแวบหนึ่ง ถึงค่อยถอนตัวจากไปด้วยความเสียดาย การจะให้หวงหวั่นเอ๋อร์นั่งดี ๆ คงไม่มีทางเป็นไปได้แน่ หลังจากที่ออกมาจากคฤหาสน์ นางก็หาต้นไม้สักต้นเอาไว้แล้ว เวลานี้งีบหลับบนกิ่งไม้ไปนานแล้วผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป ไป่เผยหรานเดินออกจากในคฤหาสน์ เขารีบมาหาเฉินฝานแล้วคุกเข่าลงรายงานทันที“ใต้เท้า ที่นี่คือคฤหาสน์ส่วนตัวของจางกงเจวี๋ย จางกงผู่ขอรับ”เฉินฝานชะงักไป “จางกงเจวี๋ย ก็คือจางกงเจวี๋ยที่เพิ่งได้หลานชายสองคนเมื่อเดือนที่แล้ว ฝ่าบาทจึงตกรางวัลด้วยพระองค์เองผู้นั้นหรือ?”ไป่เผยหรานตอบกลับว่า “ใช่ขอรับ ผู้ตายมีจางจู้หยวนบุตรชายของจางกงเจวี๋ย นางหลิวลูกสะใภ้ของจางกงเจี๋ย หลานชายสองคนที่เพิ่งอายุครบเดือนไม่กี่วันของจางกงเจวี๋ย และยังมีข้ารับใช้ในคฤหาสน์ขอรับ”เฉินฝานถาม “ทรัพย์สินสูญหายหรือไม่”“ไม่เลยขอรับ”“ฆ่าล้างแค

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1261

    “ข้าเข้าใจความรู้สึกของฮูหยินดี จางกงพวกเจ้ารีบเข้าไปเถอะ” เฉินฝานปรามข้าหลวงจางที่กำลังจะตำหนิภรรยาสองสามีภรรยาข้าหลวงจางเข้าไปได้มินาน ด้านในก็มีเสียงร้องไห้โอดครวญดังลั่นเรื่องเหล่านี้ย่อมคะเนไว้ก่อนได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อสองสามีภรรยาข้าหลวงจางเพิ่งเข้าไปได้มินาน เฉินฝานก็ชิงรุดหน้าออกจากจวนพำนักไปเสียก่อน เขาอยากไปถึงเขตพระราชฐานในเมืองหลวงโดยเร็วไป่เผยหรานตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุแล้ว การแก้ไขปัญหาต่อจากนี้มิจำเป็นต้องให้เขาเป็นคนจัดการแล้ว ดังนั้นเฉินฝานจึงให้ไป่เผยหรานกลับวังหลวงพร้อมกับเขาคดีนี้มิใช่เรื่องธรรมดา เขาต้องเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยตนเองเฉินฝานกำลังจะลงจากรถม้า จู่ ๆ ฮูหยินกง ก็พุ่งตัววิ่งออกมาหาเฉินฝานราวกับคนเสียสติเฉินฝานคิดที่จะหลบหลีก ทว่าหวงหวั่นเอ๋อร์รวดเร็วกว่าเขา นางรีบลงจากต้นไม้ด้วยความรีบร้อน ใช้ร่างเงาสีครามเคลื่อนย้ายไปมาตรงหน้าเฉินฝานเพียงครู่เดียว ก็ทำให้ฮูหยินกงที่รูปร่างอ้วนท้วน ล้มลงไปเหมือนก้อนเนื้อกลิ้งได้หวงหวั่นเอ๋อร์มิทำได้รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ผนวกกับการที่ฮูหยินกงอ้วนท้วน นางจึงมิรู้สึกเจ็บ เมื่อลุกขึ้นมาอีกครั้งก็พุ่งตัวไปหาเฉ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1262

    กลุ่มนักฆ่าหญิงเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน พวกนางทุกคนล้วนมีวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม ไล่ล่าสังหารบุรุษเพียงอย่างเดียวตั้งเมืองลู่ตูจนมาถึงเมืองหลวง “กลุ่มหนึ่งงั้นรึ?” เฉินฝานรู้สึกตกใจเล็กน้อย เดิมทีเขาหลงคิดไปมีเพียงสองสามคนที่ต่อสู้กับหวงหวั่นเอ๋อร์เท่านั้น “ใช่ขอรับ ใต้เท้า”“สามารถประมาณออกได้หรือไม่ว่ามีกี่คน?”“ใต้เท้า ข้าน้อยวิเคราะห์เบื้องต้นแล้วอาจจะมีประมาณหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพันคนขอรับ”“เท่าใดนะ?” เฉินฝานมองไป่เผยหรานด้วยสายตามิสู้ดีอย่างมากระหว่างหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพัน ระยะห่างตัวเลขสองจำนวนห่างปานนั้น นี่เรียกว่าประมาณการ? เรียกว่าการวิเคราะห์งั้นรึ?“ใต้เท้า!” ไป่เผยหรานรีบโค้งตัวก้มหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความลำบากใจและโทษตนเอง “เสื้อผ้าและท่าทางของนักฆ่าหญิงเหล่านั้นแปลกประหลาดยิ่งนัก และมักเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ไร้หนทางที่จะนับจำนวนได้อย่างแม่นยำจริง ๆ ขอรับ”จำนวนหนึ่งร้อยถึงหนึ่งพัน เป็นจำนวนคนที่ลูกน้องเก่งกาจที่สุดภายใต้การบัญชากรมยุติธรรมของไป่เผยหราน วิเคราะห์ยาวนานมาหนึ่งเดือน จึงได้ตัวเลขนี้ออกมาอย่างยากลำบาก“ตกลงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่?”ตอนที่พูดอีกรอบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1263

    ทว่าก็มิสมเหตุสมผลอย่างมากเคลื่อนไหวเอิกเกริกปานนั้น และสร้างข่าวลือส่งผลกระทบตำแหน่งปกครองฉินเย่ว์เหมย นางย่อมพยายามที่จะล้อมปราบอย่างสุดกำลังเป็นแน่ต่อให้เป็นกลุ่มที่ลึกลับเพียงใด ก็ต้องมีสถานที่ให้พำนัก มิว่าอย่างไรก็สามารถหาเจอได้ เพียงแต่ต้องใช้เวลามากกว่าปกติเท่านั้นเฉินฝานคิดมาถึงตรงนี้ ส่ายหน้าปฏิเสธอย่างต่อเนื่องวิธีการสู้สุดตัวเช่นนี้ ช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก คงจะมิใช่กลุ่มที่เขาคิดไว้ในใจทว่า ก็เกิดคำถามขึ้นมาอีกหากมิใช่กลุ่มนั้น ในต้าชิ่งจะมีกลุ่มใดที่สามารถมีนักฆ่าหญิงจำนวนมหาศาลปานนั้นได้อีกมีแคว้นอื่นเข้ามาเกี่ยวพันงั้นรึ?ฉวยโอกาสตอนที่ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งขึ้นปกครองได้มินาน อำนาจรากฐานยังมิมั่งคง แคว้นอื่นใช้ประโยชน์จากแนวคิดที่ต้าชิ่งให้ความสำคัญบุรุษด้อยค่าสตรีทำให้ต้าชิ่งตกอยู่ในความโกลาหลงั้นรึ?ตอนนี้ปัญหาชายน้อยหญิงเยอะยังมิทันได้รับการแก้ไข จักรพรรดินีเพิ่งขึ้นปกครองมินาน พิธีราชาภิเษกก็ยังมิได้จัดเสียด้วยซ้ำ มิว่าจะเป็นในราชสำนักหรือในกลุ่มราษฎร ล้วนมีชายจำนวนมากที่ยังมิยอมรับบัดนี้ ให้นักฆ่าหญิงไล่ล่าสังหารบุรุษจำนวนมหาศาล สามารถสร้างความโกลาหลภาย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1264

    “ตำหนักเซียวเหยา คำเล่าขานที่กล่าวต่อกันมาล้วนเป็นสตรีของตำหนักเซียวเหยางั้นรึ?”“ถูกต้อง”“นายท่าน ท่านอยากให้ข้าไปค้นหาตำหนักเซียวเหยาใช่หรือไม่? ท่านพูดออกมาตรง ๆก็ได้ ไฉนต้องพูดถึงชายชราชาติชั่วผู้นั้นด้วย” หวงหวั่นเอ๋อร์พูดอย่างมิสบอารมณ์อย่างมาก ตั้งแต่ที่นางจำความได้ แม่มักจะก่นด่าพ่ออย่างรุนแรงเสมอ นางซึมซับเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก หวงหวั่นเอ๋อร์จึงเกลียดชังเจี้ยนหวงเป็นธรรมดาเฉินฝาน: “ตำหนักเซียวเหยาพิศวงคาดเดาได้ยาก มิมีที่อยู่ตายตัว หากเจ้าให้พ่อเจ้าช่วย โอกาสในการหาตำหนักเซียวเหยาเจอก็จะสูงขึ้น”“เพราะเหตุใดจึงกล่าวว่าหากหาชายชราชาติชั่วผู้นั้นเจอก็ทำให้โอกาสหาตำหนักเซียวเหยาพบมีสูงขึ้น”มิรอให้เฉินฝานตอบกลับ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “ข้ารู้แล้ว นายท่าน ท่านรอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน”รวมเรื่องราวที่เฉินฝานเพิ่งจะพูดว่าพ่อของตนเจ้าชู้จนเป็นนิสัยแล้ว หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เข้าใจได้ในทันที พ่อของตนและสตรีในตำหนักเซียวเหยาจะต้องมีเรื่องชู้สาวกันอย่างแน่นอน เช่นนั้นเขาอาจจะรู้ก็ได้ว่าตอนนี้องค์หญิงของตำหนักเซียวเหยาอยู่ที่ใดพูดจบ หวงหวั่นเอ๋อร์ก็เปิดผ้าม่าน ทะยานตัวพุ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1265

    ตอนที่รถม้าของเฉินฝานห่างจากประตูทางเข้าวังหลวงยี่สิบกว่าเมตร ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินก็รุดหน้าขึ้นต้อนรับทันที“ส่งคนไปกราบทูลฝ่าบาทแล้วใช่หรือไม่?”เฉินฝานลงรถม้าพลางกล่าวถามไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินยังมิทันได้ตอบกลับคำพูดของเฉินฝาน ก็มีขันทีคนหนึ่งก็วิ่งออกมาจากด้านในวังหลวงด้วยความรีบร้อนหลังจากที่ขันทีคนนั้นคารวะเฉินฝานแล้วจึงรีบกล่าว “ใต้เท้าเฉิน ฝ่าบาทกำลังรอท่านอยู่ขอรับ”กล่าวจบ ขันทีจึงรีบนำทางให้เฉินฝานทันที-ณ พระตำหนักไท่เหอ“ฝ่าบาท ท่านอัครเสนาบดีขอเข้าพบขอรับ!”“รีบให้เขาเข้ามา !”ฉินเย่ว์เหมยที่กำลังอ่านสานส์กราบทูล โยนสานส์กราบทูลทิ้งไปรีบลุกขึ้นเดินไปต้อนรับทันทีหงอิงเดินขนาบข้างตามไปเงียบ ๆ นางพบว่าฉินเย่ว์เหมยแตกต่างไปอย่างเดิมอย่างมาก มิเพียงแต่สาวเท้าด้วยความรวดเร็วเท่านั้น สีหน้าก็มีความลิงโลดและกังวลเช่นกันเหมือนกับ...หงอิงเอียงศีรษะคิดใคร่ครวญเหมือนกับสามีออกเดินทางไกล ภรรยาที่รอคอยอยู่บ้านด้วยความระทมทุกข์อย่างยาวนาน ในที่สุดสามีก็กลับมาแล้วตอนที่หงอิงกำลังลอบขำฉินเย่ว์เหมย จู่ ๆ ฉินเย่ว์เหมยก็หยุดฝีเท้าเสียอย่างนั้นฉินเย่ว์เหมยรู้ตัวว่า

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1266

    “ลงโทษเจ้างั้นรึ เจ้าเห็นข้าเป็นคนแบบนั้นงั้นรึ?”“อะไรนะขอรับ?” เฉินฝานที่ถูกถามรู้สึกงงงวยทันที “ฝ่าบาทท่านเป็นคนแบบใดขอรับ?”“อุ๊บ!”ไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินกลั้นขำไว้ได้ ทว่าหงอิงกลับกลั้นขำไว้มิอยู่“ฝ่าบาท วันนี้ข้าน้อยกินกระเทียมมากเกินไป มักจะชอบผายลมออกมาเสมอ ข้าน้อยขอตัวไปรอด้านนอกนะเจ้าคะ”หงอิงรีบหาข้ออ้างหนีไปทันทีไป่เผยหรานและเหอจื่อหลินลอบอิจฉาหงอิงในใจสุดขีด พวกเขาก็อยากออกไปเช่นกัน ทว่าพวกเขาหาข้ออ้างมิได้ และมิกล้าหาข้ออ้างเช่นกัน เพราะเฉินฝานเป็นคนให้พวกเขาเข้ามาในวังฉินเย่ว์เหมยก็สังเกตได้ว่าตนเองขาดสติ จึงปรับอารมณ์ของตนเองเล็กน้อย “ขุนนางเฉินที่รักเพิ่งจะได้ภรรยาใหม่มินาน หยุดพักไปสองสามเดือนก็เป็นเรื่องปกติ เมื่อครู่หลี่เต๋อฉวนมารายงานว่าพวกเจ้ามีเรื่องจะกราบทูลข้า”“พวกเจ้า จงจัดที่นั่ง!”ขันทีสองสามคนยกเก้าอี้สามตัวมาจากด้านนอก หลังจากที่วางไว้แล้วก็รีบออกไปทันทีเฉินฝาน: “ฝ่าบาท เรื่องที่กระหม่อมต้องการกราบทูลวันนี้ ค่อนข้างเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก”ฉินเย่ว์เหมยโบกมือไล่สาวใช้ขันทีในพระตำหนักออกไปทั้งหมดอย่างรู้ใจไป่เผยหรานเป็นเลขาธิการกรมยุติธ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1267

    “เฮ้อ!”ฉินเย่ว์เหมยถอนหายใจออกมา “ข้าก็มิได้อยากกระวนกระวายใจหรอก หลังจากที่รู้ว่าเย่ว์ฉินอยู่ที่ตำหนักเซียวเหยาแล้ว ข้าก็พยายามให้คนป่าวประกาศชีวิตความเป็นอยู่ของเจ้ากับน้องสาวสามคนอย่างสุดความสามารถ และปล่อยข่าวไปอีกว่า ขอเพียงตำหนักเซียวเหยาปล่อยวางความแค้นที่มีต่อบุรุษได้ จะมิเอาผิดเรื่องที่เคยทำก่อนหน้านี้ เพื่อรอให้เย่ว์ฉินหนีเอาตัวรอดออกมาจากตำหนักเซียวเหยา ทว่ารอมาเนิ่นนานแล้ว ก็ยังมิเห็นวี่แววของนางอยู่ดี”เฉินฝานพูดด้วยสีหน้าเหยเก “นางอาจจะมิอยากปักใจเชื่อ อย่างไรเสียเมื่อก่อนกระหม่อมเป็นคนสารเลวปานนั้น ข่าวลือที่ฝ่าบาทปล่อยออกไป นางอาจจะคิดว่าเป็นสิ่งที่ฝ่าบาททำให้นางหลงกล ล่อให้นางออกมา จากนั้นก็จะถอนรากถอนโคนตำหนักเซียวเหยาให้สิ้นซาก”ฉินเย่ว์เหมยส่ายหน้า “เมื่อก่อนข้ายังมิได้ครองตำแหน่งปกครองโดยสมบูรณ์ นางจะมิเชื่อข้าก็เข้าใจได้ ทว่าตอนนี้ข้าเป็นจักพรรดินีเต็มตัวแล้ว เย่ว์เจียวเย่ว์โหรวเย่ว์ฉู่น้องสาวทั้งสามคนล้วนได้เลื่อนตำแหน่งเป็นองค์หยิง คำสั่งที่เลื่อนขั้นน้องสาวเป็นองค์หญิง ข้าก็ป่าวประกาศไปทั่วแคว้น เป็นไปมิได้ที่เย่ว์ฉินจะมิรู้ ขอเพียงนางกลับมา ข้าจะมอบตำแห

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1293

    “นายท่าน ที่แห่งนี้คือโรงมหรสพเซียนยิน แขกที่มาล้วนมาดื่มชาฟังมโหรี ปกติแล้วล้วนมิ...”“เจ้าพูดพล่ามมากมายไปทำไมกัน?” อ๋องตวนพูดตัดบทสาวใช้อย่างรุนแรง “เปิ่นหวังจะดื่มสุรา รีบเอาสุรามาให้เปิ่นหวัง หากเจ้ามัวชักช้า เปิ่นหวังจะทำลายโรงมหรสพเซียนยินของเจ้า”เสียงของอ๋องตวนมิเข้ากับโรงมหรสพเซียนยินที่เงียบสงบและหรูหราแม้แต่น้อยผู้ฟังทั่วบริเวณพากันตำหนิอ๋องตวน“คนผู้นี้รู้จักกาลเทศะหรือไม่? หากต้องการร่ำสุราก็ไปสถานที่แบบหอนางโลมสิ ไฉนจึงมาที่นี่”“มิรู้จักกาลเทศะเสียจริง คงจะมิมีผู้ใดอบรมสั่งสอน”“ชู่ว พูดเบาหน่อยๆจะดีกว่า เมื่อครู่เขาแทนตัวเองว่าเปิ่นหวัง”“อ๋องอันใดกัน คนที่มาที่นี่ล้วนเป็นขุนนางหรือไม่ก็ผู้สูงศักดิ์มิใช่รึ อ๋องอันเล่อก็มาฟังมโหรีที่นี้เป็นประจำ อ๋องอันเล่อยังต้องเคารพกฎเกณฑ์ เขาตำแหน่งใหญ่กว่าอ๋องอันเล่องั้นรึ?”“เจ้าพูดถูก!” อ๋องตวนจ้องเขม็งไปที่คนที่กล่าวถึงอ๋องอันเล่อ “เปิ่นหวังตำแหน่งใหญ่กว่าอ๋องอันเล่อ อ๋องอันเล่อมิคู่ควรมารับใช้ข้าเสียด้วยซ้ำ”อ๋องอันเล่อและอ๋องตวนเป็นพี่น้องกัน ทว่าพวกเขาอยู่ตำแหน่งคนละลำดับชั้นจริง ๆอ๋องอันเล่อเป็นเพียงอ๋องธรรมดา อ๋

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1292

    “โรงมหรสพเซียนยินรึ?”โรงมหรสพเซียนยินเป็นที่ของคนมีการศึกษา ร่ำสุราย่อมมิสามารถส่งเสียงดังได้ หากไปแล้วคงจะเล่นเป่ายิ้งฉุบมิได้อย่างแน่นอน เป็นธรรมดาที่อ๋องตวนจะมิอยากไป หากร่ำสุราแล้วมิเล่นเป่ายิ้งฉุบจะร่ำสุราไปทำไมกัน“ลูกเขยที่แสนดีของข้า พวกเราไปที่หอนางโลมกันดีกว่า” อ๋องตวนขอร้องเฉินฝานด้วยเสียงแผ่วเบาอีกหนึ่งสาเหตุที่อ๋องตวนมิอยากไปโรงมหรสพเซียนยินคืออ๋องอันเล่ออ๋องตวนจะมิไปสถานที่อ๋องอันเล่อชอบไปเด็ดขาดเขากับอ๋องอันเล่อมิลงรอยกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว อ๋องอันเลอคิดว่าอ๋องตวนเป็นคนโง่ที่ดีแต่ใช้กำลัง อ๋องตวนคิดว่าอ๋องอันเล่อเป็นคนที่ชอบร้องรำทำเพลงไปวัน ๆเฉินฝานเหลือบมองอ๋องตวนเล็กน้อย “ท่านไม่ไปรึ เช่นนั้นข้าไปเองก็ได้”พูดจบก็หันกายออกไปทันที“นี้ ๆ ลูกเขยแสนดีรอข้าด้วยสิ” อ๋องตวนรีบตามทันที“เสี่ยวฝาน ลูกเขยที่แสนดีของข้า พวกเราไปหอนางโลม ดีกว่า ไปโรงมหรสพเซียนยินเล่นเป่ายิ้งฉุบมิได้” แม้ขึ้นรถม้ามาแล้ว อ๋องตวนก็ยังอ้อนวอนเฉินฝานด้วยความทุกข์ใจ“ที่โรงมหรสพเซียนยินมีกฎมิให้แขกเล่นเป่ายิ้งฉุบงั้นรึ?” เฉินฝานกล่าวถามอ๋องตวนครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง จึงส่ายหน้า “เหมือนว่าจะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1291

    เฉินฝานมึนงงทันที “งูงั้นรึ?”“ถูกต้อง และยังมีหลายตัวอีกด้วย” อ๋องอันเล่อหยุดบรรเลงพิณโบราณ เอียงศีรษะครุ่นคิดครู่หนึ่งจึงกล่าวต่อว่า “ข้าเห็นงูหลายตัว ช่างงดงามยิ่งนัก เหล่าองครักษ์กลับบอกว่างูเหล่านั้นคืองูทองเงิน มิยอมให้ข้าเข้าไปใกล้”“งูทองเงินมีพิษแรงร้ายจริง ๆ ต่อจากนี้ท่านอ๋องอย่าได้เข้าใกล้” เฉินฝานกล่าว“แม้กระทั่งอัครเสนาบดียังกล่าวเช่นนี้ เช่นนั้นต่อจากนี้หากข้าเจออีก ข้าจะอยู่ให้ห่างไว้”หลังจากที่เฉินฝานกราบลาอ๋องอันเล่อแล้ว ก็กลับไปส่งลู่ซืออี๋ที่สวนหม่อนทันที ยังมิทันได้รับประทานอาหารค่ำก็เดินทางออกไปเสียแล้ว“นายท่าน รับประทานค่ำแล้วค่อยเดินทางเถอะ มีไก่ฝูงหนึ่งในสวนหม่อนที่เติบโตเต็มวัยแล้ว เมื่อก่อนท่านเคยบอกว่าชอบรับประทานไก่ของสวนหม่อนที่สุดมิใช่หรือ?”ลู่ซืออี๋มองเฉินฝานด้วยสีหน้าสงสารจับใจเฉินฝานยังมิทันได้ตอบกลับ ลู่ชุนเยี่ยนกลับชิงพูดออกมาเสียก่อน “วันนี้หลี่หมัวหมัวในสวนหม่อมขอลาหยุด บัดนี้มิมีผู้เชือดไก่เป็น รออีกสองสาม รอให้หลี่หมัวมัวกลับมาเสียก่อน นายท่านค่อยกลับมาแล้วกัน”“ท่านแม่!” ลู่ซืออี๋ถลึงตาโตมองไปที่ลู่ชุนเยี่ยน “หลี่หมัวมัว...”ลู่ชุนเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1290

    ขณะที่เฉินฝานอุ้มลู่ซืออี๋ออกจากรถม้า ก็มีเสียงโต้เถียงกันดังมาจากด้านนอก“ใครกัน ไม่เห็นพวกเราหรือไร? ถึงได้ชนเข้ามา?”“นี่เจ้าพูดอะไรกัน พวกเราแล่นตรงมาตลอด พวกเจ้าหักเลี้ยวเข้ามา ผู้ที่หักเลี้ยวต้องหลีกทางให้คนที่เดินทางตรง เจ้าขับรถม้ามาหลายปี ไม่เข้าใจเรื่องนี้หรือไร? เจ้าชนเข้ามาเองยังจะโทษพวกเราอีกหรือ?”“เหตุใดผู้หักเลี้ยวต้องหลีกทางให้ผู้ที่เดินทางตรง? พวกเจ้าไม่เห็นหรือว่ารถม้าของพวกเราเป็นม้าหกตัว? รู้หรือไม่ว่าคนบนรถม้าคือผู้ใด?” “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่าคนบนรถม้าของเราเป็นผู้ใด?” “อ้อ คนบนรถม้าของพวกเจ้าคือฝ่าบาทหรือไร?”“พวกเรา...” “คนที่อยู่บนรถม้าของพวกเราคืออ๋องอันเล่อ พวกเจ้าให้ท่านอ๋องของเราตกใจ ยังไม่ให้เจ้านายของพวกเจ้ารีบคลานออกมาจากในรถม้าแล้วคุกเข่าขอขมาอ๋องอันเล่ออีก!” เฉินฝานที่กำลังอุ้มลู่ซืออี๋มุดออกมาจากรถม้าได้ครึ่งตัวก็ชะงักไปครู่หนึ่งอ๋องอันเล่อ?อ๋องอันเล่อเป็นพระอนุชาแท้ ๆ ของอดีตฮ่องเต้ รองจากอ๋องตวนอ๋องอันเล่อไม่ได้โด่งดังเหมือนอ๋องตวน เขาค่อนข้างทำตัวไม่เป็นจุดสนใจ และไม่ชอบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในราชสำนัก เขาชอบดนตรีมาตั้งแต่

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status